หลานซิ่วเอ๋อร์มองหน้าเขา มือบางค่อยล้วงไปในอกเสื้อก่อนจะสัมผัสหน้าอกแกร่ง จูเหวินครางเสียงกระเส่าแล้วยึดมือนางเอาไว้ก่อนจะข่มขู่ไม่จริงจัง"เด็กดื้อ หากเจ้าไม่หยุดลูบไล้ข้าคนต้องรักเจ้าในอารามเสียแล้ว""ใครอยากจะให้ท่านรักกัน ข้าแค่อยากถามว่าแผลเป็นที่หน้าอกนี่ท่านมีมาตั้งแต่เมื่อไหร่""ตั้งแต่ห้าขวบ ข้าถูกเยี่ยหรานสตรีแสนชั่วนั่นโบยด้วยแส้""ท่านเคยช่วยเด็กผู้หญิงจมน้ำในสำนักศึกษาเอาไว้หรือไม่""เหมือนจะเคยเมื่อตอนที่ข้าอายุสิบสี่ วันนั้นข้าต้องตามจ้าวเฉิงไปรับใช้บังเอิญเดินผ่านสระน้ำทำไมหรือ"หลานซิ่วเอ๋อร์มองหน้าเขาก่อนจะยิ้มให้ จูเหวินมองหน้านางอย่างสงสัยหลานซิ่วเอ๋อร์เอ่ยออกมา"เด็กคนนั้นคือข้า""หืม..เช่นนั้นเจ้ายังจำเด็กผู้ชายที่เดินเท้าเปล่าย่ำหิมะและนางผ่านมาได้ยื่นซาลาเปาให้เขาสองลูกได้หรือไม่""เหมือนจะจำได้ ตอนนั้นข้าห้าขวบได้กระมัง เด็กผู้ชายแต่งตัวโทรมๆ คนนั้นคือท่านหรือ"จูเหวินลุกขึ้นนั่งรั้งนางมานั่งบนตักของตนก่อนจะเอ่ย"ขอโทษที่ข่มเหงเจ้า แต่ข้าคิดไม่ออกจริงๆ ว่าจะใช้วิธีไหนให้เจ้ามาเป็นของข้า""ท่าน...จูเหวินท่านเก่งกาจเพียงนี้ เก็บซ่อนเก่งเพียงนี้เหตุใดใช้วิธีเช่นน
หยางเทียนหลงนอนลงให้เซียวอี้เซียนนอนหนุนแขนของเขา ไม่นานนางก็หลับไป หยางเทียนหลงจุมพิตหน้าผากเล็กก่อนจะกระชับอ้อมกอด นางคือคนที่เบื้องบนส่งมาให้เขา โลกกว้างใหญ่มีเรื่องประหลาดมากมาย หยางเทียนหลงนอนกอดร่างบางเอาไว้ เขารู้สึกอยากปกป้องนางไม่ให้นางต้องเดียวดาย หากเรื่องที่นางเอ่ยมาเป็นเรื่องจริงเช่นนั้นก็นับว่านางตัวคนเดียว นางคือคนที่มาจากที่อื่น และแน่นอนนางคือวาสนาของเขา จากนั้นก็หลับตามเซียวอี้เซียนไปในที่สุดวิญญาณของเซียวอี้เซียนยืนมองทั้งสองคนที่นอนหลับอยู่ด้วยกัน ใบหน้าของนางมีรอยยิ้มให้คนทั้งคู่ แม้ว่านางจะไม่รู้จักหนิงอ๋องผู้นี้ แต่นางเชื่อว่าเขาจะรักและปกป้องครอบครัวของนางได้ นางค่อยๆเลือนหายไปจากตรงนั้นกระทั่งมาโผล่ยังหลังเขาที่จะให้เป็นที่ตั้งป้ายวิญญาณของนางในวันพรุ่งนี้ที่เซียวอี้เซียนผู้มาเยือนจะเป็นคนทำให้นาง ด้านหลังใต้ซือคงลั่วยืนมองร่างวิญญาณนั้นอย่างพิจารณาก่อนจะเอ่ย"สีกา..เจ้ามาแล้วหรือ"เซียวอี้เซียนคนเดิมหันไปหาพร้อมกับคารวะเขาจากนั้นจึงเอ่ยขึ้น"ใต้ซือ ท่านมองเห็นข้าน้อยด้วยหรือเจ้าคะ""อยากเห็นย่อมได้เห็น ทุกอย่างนั้นแล้วแต่โชคชะตานับว่าเจ้ากับ
เซียวอี้เซียนเดินจูงมือหยางเทียนหลงเข้าที่พัก นางให้เสี่ยวฮวาออกไปข้างนอกนางมีเรื่องอยากจะคุยกับเขา ก็ยางเทียนหลงเดินไปนั่งลงบนเตียงก่อนจะเอ่ยถาม"เด็กดี เจ้าทำป้ายวิญญาณตนเองเพื่ออะไร เรื่องอดีตก็ช่างเถอะพี่ไม่เคยใส่ใจมันสักนิด เจ้าก็เลิกคิดเถอะ"เซียวอี้เซียนนั่งลงที่เก้าอี้กลมตรงข้ามกับเขา นางมองหน้าบุรุษตรงหน้าก่อนจะถอนหายใจเบาๆจากนั้นก็รวบรวมความกล้าเอ่ยออกมา"พี่เทียนหลง หากท่านมิได้แต่งงานกับเซียวอี้เซียนจริงๆเล่าเพคะ" "เซี่ยนเซี่ยน...วาจาเจ้าแปลกนัก อันใดคือไม่ได้แต่งงานกับเจ้าจริงๆกัน""พี่เทียนหลง หากหม่อมฉันมิใช่นาง มิใช่เซียวอี้เซียนแห่งสกุลเซียวยังจะทรงอยากใช้ชีวิตกับหม่อมฉันหรือไม่เพคะ"หยางเทียนหลงลุกขึ้นก่อนจะเดินไปช้อนอุ้มร่างบางขึ้นมาแล้วพามานั่งตักเขาบนเตียงก่อนจะเอ่ยถาม"เหตุใดกล่าววาจาเช่นนั้น หรือว่าวันนี้ได้เจอใต้ซือคงลั่วแล้วทำให้เจ้าคิดมากกันเด็กดี""พี่เทียนหลง เซียวอี้เซียนนางจากไปแล้ว นางตายไปตั้งแต่วันที่ถูกหยามเกียรติในวันแต่งงานแล้วเพคะ ตอนนี้คนที่อยู่ตรงหน้าท่านคือเซียวอี้เซียนที่อาศัยร่างคนอื่นเท่านั้น"หยางเทียนหลงมองหน้าคนบนตัก เ
เซียวอี้เซียนสั่งให้คนเตรียมเครื่องเซ่นจริงจังราวกับไหว้สักการะหลุมศพและส่งก็ดวงวิญญาณที่แท้จริง เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยนางก็รอเพียงจังหวะสนทนากับเจ้าอาวาส หากขอพบเพื่อสนทนาส่วนตัวนั้นยากยิ่งนักสนมคนโปรดของฝ่าบาทที่ติดตามไทเฮามาอยากจะสนทนาธรรมกับใต้ซือคงลั่ว แต่ทุกคนต้องตอบคำถามของเขาได้จึงจะได้พบ ส่วนไทเฮาเป็นกรณีพิเศษ นางคือผู้อุปถัมภ์วัดแห่งนี้ ลูกศิษย์เดินออกมาถามคำถามทีละคน"ท่านอาจารย์ถามว่าพวกท่านมาจากที่ใดและจะไปที่ใด""ข้ามาจากวังหลวง ส่วนจะไปที่ใดนั้นข้ามาไหว้พระเสร็จก้กลับวังแล้วนี่""ขออภัยสีกาท่านนี้ คำตอบของท่านมิถูกต้อง""ส่วนข้ามาจากหลินตูจะไปเมืองหลวง""ขออภัยคำตอบของท่านก็มิถูกต้อง""ทำไมกันพวกเรามาจากที่ไหนก็ตอบตามตรงเหตุใดยังไม่ให้เข้าพบอีก"เมื่อมาถึงฉีฮุ่ยหมิ่นพระลูกวัดก็ถามเช่นเดียวกัน"ท่านมาจากไหนแล้วจะไปที่ใด""ข้าน้อยโง่เขลามิอาจเข้าใจรอเพียงใต้ซื้อชี้แนะเจ้าค่ะ"ลูกศิษย์ตัวน้อยพยักหน้าก่อนจะบอกให้นางยืนรอ"ท่านรอที่นี่ก่อน สีกาท่านนี้เหลือเพียงท่านแล้วต้องการพบท่านอาจารย์หรือไม่"เซียวอี้เซียนพยักหน้า นางมีเรื่องส่วนตัวบางเรื่องที่ต้องพูดคุย
หลังจากที่จ้าวอันป๋อถูกคนของกรมวังคุมตัวไปทางด้านคนสกุลจ้าวก็กลับเมืองหลวงไปด้วย ซูจินถือห่อผ้าห่อหนึ่งมาหาเซียวอี้เซียนก่อนจะส่งให้ เซียวอี้เซียนรับเอามาก่อนจะหมุนตัวเพื่อกลับไปยังห้องพัก ระหว่างทางนางเจอกับเจ้าอาวาสที่กำลังเดินสนทนากับไทเฮาโดยมีฉีฮุ่ยหมิ่นเดินประคอง และบรรดาฮูหยินทั้งหลายรวมถึงท่านย่าและมารดาของนางด้วย เซียวอี้เซียนคำนับไทเฮาแล้วเจ้าอาวาสก่อนที่ท่านจะเอ่ยกับนาง"สีกา....ท่านสบายดีหรือไม่""สบายดีเจ้าค่ะ ขอบคุณที่ท่านห่วงใย ว่าแต่ใต้ซือเราเคยพบกันหรือเจ้าคะ"พระชราลูบหนวดสีขาวที่ยาวของตนก่อนจะเอ่ยกับนาง"อืม..สีกาในเมื่อมาแล้วก็จงใช้ชีวิตต่อไปให้ดี ที่นี่คือที่ของท่านแล้ว"ไทเฮาและฮูหยินทั้งหลายรวมถึงท่านย่าและมารดาของนางต่างก็มองหน้ากันไม่รู้ว่าเจ้าอาวาสหมายถึงอะไร เซียวอี้เซียนมิได้ตกใจที่ท่านรู้ความลับนี้ คงบวชมานานจึงมีวิชาหยั่งรู้ ในเมื่อเป็นผู้มีบุญมาชี้แนะเหตุใดนางจะไม่ฟังกันเล่าก่อนจะเปิดห่อผ้าออก ทันทีที่มารดาและท่านย่าของนางเห็นก็แทบเป็นลมก่อนจะเอ่ย"เซี่ยนเซี่ยน หลานทำป้ายวิญญาณของตนเองทำไม นี่มันเป็นลางร้ายนะรู้หรือไม่""นั่นน่ะสิท่
เมื่อเดินมาถึงหลังอารามก็เก็บดอกท้อใส่ตะกร้า นางเดินแยกออกไปก่อนจะพยักหน้าให้กับคนของนาง หลานซิ่วเอ๋อร์ที่ตอนนี้ยังอยู่ในอารมณ์ที่ไม่มั่นคงนักเพราะเรื่องของนางกับบุรุษน่าตายจูเหวินคนนั้น เซียวอี้เซียนพยักหน้าให้กับจูซินและซูหว่านทั้งสองพยักหน้ารับไป่จินหวนที่ตอนนี้นั่งเล่นที่โขดหิน อากาศร่มรื่นเย็นสบาย ชุ่ยเหยียนเดินไปเก็บสาลี่เพื่อจะเอามาให้นาง สายตาเหลือบไปเห็นบางอย่างเคลื่อนไหวแล้วนางจึงยิ้มก่อนจะทำทีเดินไปไกลๆไป่จินหวนนั่งนวดขาตนเองอยู่แต่กลับรู้สึกว่ามีเงาทอดลงมาและเงานั้นสูงใหญ่ไม่น่าใช่ชุ่ยเหยียนจึงเงยหน้าขึ้นมอง จ้าวอันป๋อยืนอยู่ตรงหน้าก่อนที่เขาจะยื่นมือมาจับมือนางเอาไว้"จินหวน..เจ้าอยู่คนเดียวหรือ""ใต้เท้าจ้าว ท่านจะทำอะไรปล่อยข้านะ""จินหวนที่นี่ไม่มีใคร ข้าชอบเจ้ามานานแล้วขอให้ข้าได้รักเข้าสักครั้งได้หรือไม่"จ้าวอันป๋อรั้งนางมากอดก่อนจะพยายามจูบนางแต่ไป๋จินหวนข่วนใบหน้าของเขาจนเลือดออก จ้าวอันป๋อเจ็บแสบก่อนจะตบหน้านางทันทีและตวาด"นางแพศยา ข้าชอบเจ้าถือเป็นบุญคุณของเจ้าแล้ว หึอีกไม่นานหงเซียวสามีของเจ้าก็จะตายแล้ว เมื่อนั้นข้าจะเอาเจ้ามาเป็นเมียบ่าวเสีย