Home / รักโบราณ / ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์ / บทที่ 5 ฮูหยินผู้มีใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ (1/2)

Share

บทที่ 5 ฮูหยินผู้มีใบหน้าที่แสนอัปลักษณ์ (1/2)

last update Last Updated: 2025-03-11 12:00:30

รถม้าขับเคลื่อนไปเบื้องหน้าอย่างเรียบเรื่อย เสียงจ้อกแจ้กจอแจบ่งบอกว่าพวกนางเดินทางมาถึงตลาดกลางเมืองแล้ว หลิวจือหลินดูตื่นเต้นจนเก็บอาการไม่มิด สาวใช้ทั้งสองเห็นท่าทีประดุจเด็กสามขวบของนายหญิงก็อดยิ้มเป็นมิได้

มือเรียวเลิกผ้าคลุมหน้าต่างขึ้นพลางสอดส่ายสายตาเมียงมองร้านรวงสองข้างทาง นางจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร บรรยากาศครึกครื้นเช่นนี้หลิวจือหลินเคยสัมผัสเพียงในซีรีส์เท่านั้น คาดไม่ถึงว่านางได้เข้ามาเยือนดินแดนยุคโบราณอย่างแท้จริง อันเป็นเหตุให้สามารถหลงลืมความทุกข์ระทมที่ตนถูกหักอกไปเสียสนิทใจ

เกิดใหม่ในร่างโฉมสะคราญ ถึงแม้มีสามีก็เพียงสามีในนามมิใช่หรือ เช่นนั้นหลิวจือหลินควรใช้เรือนร่างสะโอดสะองให้เป็นประโยชน์สูงสุด อย่างเช่น สวมใส่เสื้อผ้างดงามที่ตัดเย็บด้วยตนเอง ผสานกลิ่นอายการออกแบบในยุคสมัยที่จากมาลงไปด้วย ต้องดูแปลกใหม่ไม่ซ้ำใครแน่นอน ตรึกตรองดูแล้วเรื่องวาดฝันเพื่อทำการค้าของหลิวจือหลินก็ดูไม่เลวทีเดียว

หากนางสามารถออกมาจากเรือนโอ่อ่าทว่าชวนอึดอัดนั้นได้จริง ต่อให้ต้องถูกตราหน้าว่าเป็นหญิงหม้ายก็ช่างปะไร ในเมื่อหลิวจือหลินมิสนใจธรรมเนียมคร่ำครึนั่นเสียอย่าง ซ้ำเจียงโหวยังรังเกียจนางเข้ากระดูกดำจนไม่โผล่หน้ามาให้เห็นสักกระผีกริ้น ยามที่นางเจ็บป่วยก็ไม่เหลียวแล ชะตาน่าอดสูเช่นนี้คงมิมีสตรีใดอยากอยู่กับสามีไร้ใจตลอดชีวิตกระมัง

อีกอย่างหลิวจือหลินก็เคยลั่นวาจาหวังครองตัวเป็นโสดก่อนจิตวิญญาณจะล่องลอยมาติดแหง็กที่แห่งนี้ ดูเหมือนภารกิจอีกอย่างที่พึงกระทำ คือ...คิดหาวิธีหย่ากับสามีในนามให้จงได้

"อ๊ะ!...ร้านนั้น ๆ ข้าอยากไปร้านนั้น"

สารถีดึงเชือกซึ่งใช้บังคับบังเหียนเบา ๆ เพื่อให้รถม้าหยุดลง ร่างระหงเร่งร้อนลงบันไดเสียจนแทบล้มหน้าคะมำ

"ตายจริง ฮูหยินใจเย็น ๆ เจ้าค่ะ ร้านไม่หนีไปไหน"

ปี้อี๋ถึงขั้นอุทานเสียงหลงเมื่อนายหญิงกายเอียงกระเท่เร่แทบดึงพวกนางทั้งสองลงไปกองบนพื้นพร้อมกันทั้งสามคน หลิวจือหลินเงยหน้าขึ้นแช่มช้า พลางส่งยิ้มฝืดเฝื่อนผ่านผ้าโปร่งสีขาว

"ขอโทษที ข้าตื่นเต้นเกินไปหน่อย"

เจียวเจียวและปี้อี๋จึงช่วยกันประคองร่างระหงให้ยืนอย่างมั่นคง จากนั้นจัดแจงเสื้อผ้าอาภรณ์ของอีกฝ่ายให้เข้าที่ "เรียบร้อยเจ้าค่ะ"

"ขอบคุณนะ" หลิวจือหลินพยักหน้าหงึกหงักพร้อมรอยยิ้ม จากนั้นจูงมือสาวใช้คนละฝั่งเยื้องย่างเข้าไปในร้านขายผ้าเฉกเช่นเด็กกลัวหลงทาง

หลงจู๊ร้านขายผ้าเห็นลูกค้าเข้ามาก็แย้มยิ้มต้อนรับอย่างเป็นมิตร "คุณหนูต้องการผ้าแบบใดหรือขอรับ ร้านฟ่านอินของเราเพิ่งมีผ้านำเข้าใหม่จากทางตอนใต้เชียว วันนี้ท่านเข้ามาถูกจังหวะพอดีเลยขอรับ"

หลิวจือหลินยังไม่สันทัดเรื่องธรรมเนียมของสตรีออกเรือนเสียเท่าไหร่ ยามที่เจียวเจียวจะเกล้าผมขึ้นให้ นางรู้สึกว่าดูมีอายุเกินไปนิด ดีไซเนอร์ตัวแม่เช่นนางไฉนต้องทำตัวเฉิ่มเชยด้วยเล่า คาดไม่ถึงหากมิเกล้าผมออกจากจวน นางก็กลายเป็นสตรียังไม่ออกเรือนจริงเสียได้

หลิวจือหลินลอบมองใบหน้าบอกบุญไม่รับของสาวใช้ตน พลางคลี่ยิ้มซุกซน มือเรียวยกนิ้วชี้ขึ้นจรดริมฝีปาก วันนี้หลิวจือหลินหมายใช้ชีวิตสาวโสดดูสักวัน

ปี้อี๋เจียวเจียวมองกันตาละห้อยพลางทอดถอนใจอย่างนึกปลดปลง ในเมื่อนายหญิงหัวรั้นคงต้องปล่อยเรือตามน้ำเสียแล้ว

"เช่นนั้นข้าขอดูสักครู่ก่อนนะ"

"เชิญคุณหนูตามสบายขอรับ"

นัยน์ตากลมโตเปล่งประกายวาวระยับยามกวาดมองแพรพรรณหลากสี นางชื่นชอบการเดินเลือกซื้อผ้าผืนงามเป็นที่สุด ทว่ายามนี้หลิวจือหลินมีเงินติดกายไม่กี่ตำลึง เพราะตั้งแต่นางตื่นขึ้น หลิวจือหลินก็ปฏิเสธเงินเดือนจากเจียงโหวตลอด

บางครารับไว้เล็กน้อยและยังคงเก็บในหีบ เพราะนางไม่อยากให้บานปลายเป็นหนี้บุญคุณในภายภาคหน้า สิ่งใดประหยัดได้ควรต้องประหยัด สินเดิมที่มี หลงเหลือน้อยมาก หลิวจือหลินคนก่อนมือเติบเสียจริง

เอ๊ะ! นั่นมันรถม้าจวนโหวมิใช่หรือ

อ่า...ใช่แล้ว จริงด้วย แต่สตรีผู้นั้น

หญิงสาวหน้าร้านเขม้นมองโฉมสะคราญที่ลงจากรถม้า ก็คาดเดาได้ทันทีว่าเป็นผู้ใด

ใบหน้าอ่อนหวานสะสวย คงเป็นอนุของท่านโหว ส่วนฮูหยินผู้ใดก็ว่านางเสียโฉม ขี้ริ้วขี้เหร่อัปลักษณ์ไปแล้ว ขนาดตอนที่นางงดงาม ท่านโหวยังมิชายตาแลนางเลย เพราะนิสัยฮูหยินก็สุดจะทน

เดิมทีหลิวจือหลินไม่คิดใส่ใจเสียงนกเสียงกาแม้เพียงเสี้ยว ทว่ากลับได้ยินบทสนทนาพาดพิงมาถึงตน นางก็เลยอยากสอดรู้สอดเห็นดูเสียหน่อย

นั่นน่ะสิ นิสัยก็แย่อย่างกับพวกนางละครที่เล่นเป็นตัวร้าย ข้าล่ะเห็นใจท่านโหวจริง ๆ ยามตบแต่งฮูหยินก็ต้องจำใจแต่งเพราะราชโองการ

ชู่ว...เสียงดัง พอได้แล้ว เข้าไปเลือกผ้ากันดีกว่า

จากนั้นสตรีสองนางจึงมุ่งตรงเข้ามาในร้านที่หลิวจือหลินกำลังเลือกผ้าอยู่ ดูเหมือนเจียวเจียวและปี้อี๋พยายามกดข่มอารมณ์ไม่ให้ระเบิดออกมา

หลิวจือหลินสัมผัสได้ถึงไอสังหารอันพวยพุ่งจากสาวใช้คู่ใจ นางคว้ามืออีกฝ่ายไว้คนละฝั่ง พลางส่ายหน้าเป็นเชิงห้ามปราม

หากใช้กำลังสั่งสอนสตรีปากเปาะ มิใช่เป็นการยอมรับสิ่งที่พวกนางกล่าวหาหรือ แต่นั่นก็ถือเป็นเรื่องจริงบางส่วน หลิวจือหลินคนเดิมใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ หากนางยังอยู่ คงวิ่งรี่เข้าฟาดปากสตรีสองนางเป็นแน่แท้

"ผู้มีปัญญาย่อมไม่ใช้กำลังตัดสินปัญหา" หลิวจือหลินกล่าวกระซิบ

หลิวจือหลินไม่ใส่ใจเรื่องไร้สาระนั้นอีก และไม่คิดอยากรู้ด้วยว่าอนุเจียงโหวจะมาทำไม ร่างระหงลากกายสาวใช้ผ่านมุมนั้นเข้ามุมนี้ไปเรื่อยเปื่อยด้วยความเพลิดเพลิน

ทว่าเมื่อหลิวจือหลินตั้งใจหยิบผ้าสีครามเหลือบมุกเพื่อชมรายละเอียด กลับมีมือเรียวขาวอีกหนึ่งยื่นมาขวางเสียก่อน หลิวจือหลินแหงนหน้าขึ้นแช่มช้า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 38 กลั่นแกล้ง (ตอนพิเศษ 2)

    หลังได้รับตำแหน่ง หลิวจือหลินจึงมาเยือนเรือนของตนเป็นครั้งแรก นางพบปะบิดาล่าสุดก็ตอนฟื้นจากเพลิงไหม้หนนั้นเพียงคราเดียว"หลินเอ๋อร์ลูกพ่อ" ใต้เท้าหลิวโผกอดบุตรสาวน้ำตานองหน้าเขาทั้งปลื้มใจและตกใจในเวลาเดียวกัน ผู้ใดจะทันคาดคิดนอกจากบุตรสาวนั้นใจกล้าฝ่าคมดาบดงอัคนี นางยังได้รับตำแหน่งเป็นถึงฮูหยินตราตั้ง ชายแก่ผมขาวที่ฮูหยินตายจากไปนานโขเลี้ยงลูกสาวไม่เป็นก็ได้แต่ตามใจนางจนเสียคน ในที่สุดลูกสาวของเขาก็เป็นผู้เป็นคนเสียที"ท่านพ่อ เป็นถึงเสนาบดี ร้องไห้ขี้แยเป็นเด็ก ๆ" หลิวจือหลินเอ่ยยิ้ม ๆ จากนั้นเอื้อมมือปาดน้ำตาให้ผู้เป็นบิดาด้วยความรักใคร่แม้นางคือจิตวิญญาณจากโลกอีกด้าน แต่หลิวตงนับเป็นบุรุษอีกคนที่รักและห่วงใยนางที่สุด หลิวจือหลินรักเขาเฉกเช่นพ่อแท้ ๆ กระทั่งพูดคุยกันไปเรื่อยเปื่อยบิดาของเขาจึงพาหลิวจือหลินและเจียงซื่อจวินไปกราบป้ายวิญญาณของมารดาทว่าหางตาของหลิวจือหลินเหลือบเห็นภาพวาดหญิงชราผู้หนึ่ง ซึ่งแขวนติดผนังเอาไว้"ท่านพ่อ คุณยายท่านนี้คือใครเจ้าคะ" นางรู้สึกคุ้นตาพิกล แต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ตกว่าเคยเห็นที่ใด&nbs

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 37 สหาย (ตอนพิเศษ 1)

    เจียงซื่อจวินได้รับตำแหน่งโหวติดตัวนับตั้งแต่บิดาของเขาลาโลกเมื่อตนเยาว์วัย ยามนี้ฮ่องเต้เปรียบดั่งบิดาแท้ ๆ ของเขา แม้บิดาผู้ให้กำเนิดเจียงโหวเป็นสหายร่วมสาบานของฝ่าบาทแต่เขาก็มิใช่ขุนนางยศหนาศักดิ์ใหญ่ใด ซ้ำฮองเฮาและไท่จื่อก็คอยดูแลประคบประหงมเขาอย่างไม่รังเกียจ เช่นนั้นเมื่อภัยมาสู่ราชวงศ์ บัลลังก์มังกรนี้เจียงซื่อจวินย่อมยินดีช่วยกอบกู้ด้วยความเต็มใจเมื่อทุกอย่างเข้าร่องเข้ารอย ราชวังกลับสู่ความผาสุกอีกครั้ง ผ่านไปไม่นานก็มีราชโองการเรียกเจียงโหวและฮูหยินเข้าเฝ้า รถม้าจากจวนโหวแล่นมาจอดเทียบเบื้องหน้าธรณีทางเข้าราชวังหลวงแล้ว เจียงซื่อจวินลงมาก่อน จากนั้นยื่นมือให้ฮูหยินอันเป็นที่รักด้วยรอยยิ้มร่างระหงเยื้องย่างตามลงมา ภาพจำครั้งก่อนที่นางเมินเขายังติดตามิลืมเลือน หนนี้ทั้งสองปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อย หลิวจือหลินยื่นมือส่งให้เขาพร้อมรอยยิ้ม กระทั่งลงยืนเคียงกันเบื้องล่างก็มีรถม้าอีกคันเคลื่อนมาหยุดต่อท้ายเข้าพอดี"คุณชายฟ่าน" หลิวจือหลินโบกไม้โบกมือเพื่อทักทายสหายเจ้าของใบหน้าหล่อเหล่าผลิยิ้มตอบกลับ "ฮูหยิน และท่านโหวก็ถูก

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 36 เพียงผู้เดียว (จบ)

    หลิวจือหลินตะลึงงันเมื่อทราบว่าเจียงซื่อจวินได้ปลดหม่าลี่เจี่ยจากการเป็นอนุไปเสียตั้งนานแล้ว แต่ทว่าวิธีการที่มากกว่าการปลด และเรื่องตามเอาคืนสตรีทั้งสองที่บังอาจแส่มาหาเรื่องนางเขามิได้เอ่ยถึง เกรงว่าหลิวจือหลินอาจตกใจ และหวาดกลัวบุรุษเหี้ยมโหดเช่นเขาไปเลยตลอดกาล ต่อให้เขาจะโหดร้ายเพียงใด บุรุษเช่นเขาทำไปเพราะมีเหตุผล สิ่งที่กระทำล้วนได้รับการตรึกตรองอย่างดียิ่ง และไม่มีทางทำร้ายสตรีที่ตนรักเป็นอันขาด"ท่านโหว ท่านไม่เสียดายหรือ เดิมการเป็นบุรุษในยุคนี้สามารถมีภรรยาได้มากกว่าหนึ่งอยู่แล้ว" หลิวจือหลินอยากลองเชิงเขาเสียหน่อยนัยน์ตาคมหรี่ลงเล็กน้อย "เจ้าอยากให้ข้ามีอนุอีกงั้นหรือ""หากท่านอยากมีอนุคนใหม่ข้าหรือจะห้ามได้ อีกอย่างองค์หญิงเจ็ดก็พึงใจท่านมิใช่หรือ"เจียงซื่อจวินแค่นหัวเราะในลำคอ นางจะทราบหรือไม่ว่าองค์หญิงเจ็ดถูกเขาจัดการเช่นไร "องค์หญิงเจ็ด ร่วมกบฏกับพี่ชาย ถูกลงทัณฑ์ไปแล้ว หรือต่อให้นางไม่ถูกลงทัณฑ์ ชาตินี้ข้าก็จะไม่มีใครอีกนอกจากเจ้า"จู่ ๆ จมูกโด่งเป็นสันก็จรดลงบนปรางแก้มเนียนนุ่ม หลิวจือหลินตัวแข็งทื่อ "...ทำอะไรของท่าน""จ

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 35 คืนสนอง

    ค่ำคืนหนึ่งก่อนเกิดจลาจลก่อกบฏในวังหลวงเจียงซื่อจวินมิได้กลับจวน เขาต้องการสะสางทุกอย่างให้แล้วเสร็จ เขาได้ล่วงรู้ว่าจิตวิญญาณของหลิวจือหลินผู้นี้เป็นสตรีจิตใจงดงามมิใช่หลิวจือหลินคนก่อน นางปล่อยวางและสามารถอภัยได้ทุกสิ่ง กระนั้นคนเช่นเขา เจียงซื่อจวิน มิอาจละเว้นคนผิดให้อยู่ลอยหน้าได้อีกต่อไป ผู้ใดดีกับเขา เขาย่อมดีตอบ แต่ทว่าผู้ใดที่คิดอาฆาตมาดร้ายต่อคนที่เขารัก เขาจะสนองกลับมันไปร้อยเท่าพันทวีเสียงฝีเท้าดังแผ่วใกล้เข้ามาทุกขณะ สตรีร่างบอบบางหลับใหลอยู่บนแท่นบรรทมพลันลืมตาตื่นท่ามกลางความสลัวแห่งราตรีกาล"ท่านพี่ซื่อจวิน มาได้อย่างไรเจ้าคะ""องค์หญิงหลับสบายหรือไม่" น้ำเสียงของเขาแข็งกระด้างเย็นยะเยือกถานจาวหรงนึกดีใจที่อยู่ ๆ เขาก็มาหานาง แต่ทว่าพบเขาเวลานี้นับเป็นเรื่องผิดวิสัย โดยปกติเจียงซื่อจวินไม่เคยคิดเข้าหาสตรียามค่ำคืน เขาเป็นสุภาพบุรุษและคำนึงถึงความต่างระหว่างหญิงชายเสมอ"เหตุใดท่านจึงมายามวิกาลได้เจ้าคะ ทหารเวรยามก็ให้ท่านเข้ามาได้หรือ""แน่นอน ข้าคิดถึงองค์หญิงจึงหมายมาเยือนเสียหน่อย"ถานจาวหรงแย้มยิ้มลิงโลด ใ

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 34 โทษทัณฑ์

    คืนที่หยกมณีเพลิงหายไป เฉิงซือหานและช่ายจินซินรู้สึกถึงความผิดปกติ เขาพบบุรุษร่างกำยำลอบเข้ามาในเรือนตะวันออก จากนั้นรอจังหวะที่เจียวเจียวและปี้อี๋ไม่ทันระวังสับเปลี่ยนหยกเป็นของปลอม เดิมทีเจียงซื่อจวินสัมผัสได้เสียตั้งนานแล้วว่ามีสายตาของใครบางคนกำลังจับจ้อง อีกอย่างใช่เขาไม่รู้ว่าในจวนโหวมีหนอนบ่อนไส้มากมายเท่าใดกระนั้นเขากลับแสร้งหูหนวกเป็นใบ้ [1] มาตลอดเมื่ออีกฝ่ายลงมือ องครักษ์ทั้งสองก็จัดการโค่นกล้วยอย่าไว้หน่อ [2] เสียเลย ชายผู้นั้นถูกนำตัวไปคุมขังยังคุกใต้ดิน เจียงซื่อจวินทรมานเขาอย่างหนัก กระทั่งอีกฝ่ายยินยอมปริปาก เขาจึงล่วงรู้ว่าเป็นแผนการของหม่าลี่เจี่ยทั้งหมดหลายวันผ่านไปเจียงซื่อจวินก็ยังแสร้งมิรู้เห็นโดยตลอดกระทั่งถึงงานพิธีเฉลิมฉลองวันคล้ายวันประสูติของฮองเฮา หลิวจือหลินได้รับบาดเจ็บสาหัส เจียงซื่อจวินบังเกิดโทสะจึงส่งเฉิงซือหาน และช่ายจินซินตามสืบจนรู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังอย่างแท้จริง และมีผู้ใดสมรู้ร่วมคิดบ้า

  • ข้านี่หรือขึ้นชื่อว่าสตรีตัวร้ายแสนอัปลักษณ์   บทที่ 33 บุรุษผู้กุมความลับแห่งสวรรค์ (2/2)

    จากดวงตาที่เบิกกว้างอยู่แล้ว ม่านตาของนางก็ยิ่งขยายใหญ่ขึ้น หรือว่าเขาทั้งสองจะเป็นแฝดคนละมิติเช่นที่นางคิดไว้กันเล่าคืนที่เจียงซื่อจวินเฝ้าไข้หลิวจือหลิน เขาเผลอสัมผัสถูกสร้อยลูกปัดปะการังเพลิงของนางโดยบังเอิญ อยู่ ๆ ความทรงจำของชายผู้นั้นก็หลั่งไหลเข้ามาในมโนสำนึกของเขาอี้เหลียงคือตัวตนของเขาในโลกคู่ขนาน ยามนี้จิตวิญญาณอีกฝ่ายก็ติดตามหลิวจือหลินมาถึงที่นี่ ทว่าอี้เหลียงมิได้เข้ามาควบคุมจิตใจและจิตวิญญาณของเขาเฉกเช่นหลิวจือหลินหลิวจือหลินเข้ามามิติแห่งนี้พร้อมจิตวิญญาณของโลกอีกด้าน ส่วนหลิวจือหลินคนเดิม เกรงว่าก็ยังคงอยู่ พวกนางคือคนคนเดียวกัน ทว่าหลิวจือหลินผู้นั้นเปรียบดั่งจิตวิญญาณด้านมืดของนาง ยามนี้หลิวจือหลินได้กดข่มและทำลายจิตวิญญาณอันชั่วร้ายออกจากใจจนหมดสิ้น นางตื่นรู้จากโลกใบก่อนกล่าวโดยง่าย เจียงซื่อจวินและหลิวจือหลินคือคนเดียวกันกับโลกอีกมิติ บางครั้งสวรรค์ก็มีความลับมากมายที่เขาไม่ทันล่วงรู้ แต่ดูเหมือนเงื่อนไขของหนึ่งร่างสองวิญญาณจะต่างกันออกไป เพราะอี้เหลียงไม่สามารถควบคุมเขาได้มีเพียงจิตสำนึกเท่านั้น"ทะ...ท่าน นี่ท่านเป็นเขางั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status