LOGINซูกุ้ยฟางดึงตนกลับคืนสู่โลกโบราณที่นางรู้เรื่องราวไม่ถึงแปดบรรทัด เป็นแปดบรรทัดที่ชีวิตของสตรีนางหนึ่งต้องสยิวเสียวซ่านกับบุรุษขาเตียงหักหยางอี้คัง!
ความสับสนประดังประเดเข้ามาในหัว นางก็รับมือไปตามสภาพ แน่นอนใครต่อใครต่างมองหญิงสาวแปลกๆ บ้างกล่าวหาว่าซูกุ้ยฟางเป็นหญิงงามวิปลาสล่มเมือง
หญิงสาวถอนหายใจพรูใหญ่อย่างเบื่อหน่าย กระทั่งฝูปรากฏตัวทางด้านหลัง
“โอ้ คุณหนู”
“อื้อ เมื่อไหร่เจ้าจะหยุดร้องโวยวายเสียที” ซูกุ้ยฟางตำหนิอีกฝ่าย ฝู คือผู้ติดตามและเป็นแม่นมหญิงสาวมาตั้งแต่มารดาเสียชีวิต ซึ่งจะว่าไปหน้าตาก็คุ้นตั้งแต่ซูกุ้ยฟางพบครั้งแรก
“บ่าวผิดไปแล้ว บ่าวจะโขกศีรษะกับพื้นเดี๋ยวนี้”
“หยุดเลย” มุกนี้ใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่ซูกุ้ยฟางโผล่มาอยู่ในร่างนี้
ฝูมองคุณหนูของตน ทั้งคู่เดินทางมาจากเมืองหลวงด้วยกัน กระทั่งถูกส่งตัวไปขายในตลาด และแม่ทัพหยางยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
“เมื่อคืน ทุกอย่างสำเร็จหรือไม่คุณหนู”
หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆ รู้สึกรังเกียจตนเองที่ต้องพยายามทำตัวเยี่ยงนางคณิกา ซึ่งฝูบอกให้ซูกุ้ยฟางเดินหมากเช่นนี้ ด้วยหยางอี้คังมีสตรีที่อยู่ในใจ ฝ่ายนั้นเป็นลูกสาวเจ้าสำนักคุ้มภัยจากเมืองหลวงมีชื่อว่าม่านลั่วลั่ว
“คุณหนูต้องทำให้ท่านแม่ทัพหลงใหลในตัว มิเช่นนั้นหากปล่อยเวลาเนิ่นนาน คงเป็นท่านที่ต้องลำบาก ตระกูลม่านขึ้นชื่อว่าโหดเหี้ยมอำมหิต และอย่าคิดว่าหลังบ้านจะมีนางเสืออยู่ร่วมกันได้สองตัว คุณหนูอาจถูกนางทำร้าย หากไม่วางยาพิษ ก็ทำให้เสื่อมเสียเกียรติด้วยการส่งคนบุกเข้ามาข่มเหงน้ำใจ!”
ซูกุ้ยฟางกลัวมาก กลัวจนตัวสั่นทีเดียว
“แล้วเจ้าจะให้ข้าทำเยี่ยงไร ในเมื่อแม่ทัพหยางไม่ได้พึงใจต่อข้า”
นางรับใช้ตบอกตนเองผาง เกิดเหตุเช่นนี้ได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งที่นางสืบรู้มาจากคนในเรือน หยางอี้คังคือชายที่ชอบอุ่นเตียง จับกดสตรีไปทั่วหล้า และขาเตียงยังหักเป็นว่าเล่น แต่เกือบสามคืนแล้วที่คุณหนูของตนนอนร่วมเตียงกับท่านแม่ทัพ ทว่าแม้แต่เสียงเตียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดนางยังไม่ได้ยิน!
“นับว่าเป็นเรื่องชวนให้วิตก คุณหนูทั้งเลอโฉม รูปร่างจัดว่าหาผู้ใดเทียบได้ยาก เหมาะเป็นมารดาของบุตรถึงเพียงนี้ แต่แม่ทัพหยางหาได้พึงใจ”
เมื่อกล่าวถึงความงาม ซูกุ้ยฟางก็ส่องกระจกทองเหลืองพิศดูตัวเอง หญิงสาวผู้นี้นับว่าเป็นที่ต้องตาต้องใจผู้คน ถึงขั้นยอมสยบแทบเท้า แต่นางฉงนที่แท่งหยกของแม่ทัพหยางกลับไม่แข็งขันเมื่ออยู่ต่อหน้านาง หรือเขาไม่พิศวาสเรือนร่างนี้ เรื่องนี้นางก็สุดคาดเดา
“ข้าคิดว่าต้องมีเหตุผิดพลาด ทั้งที่พยายามทำตามเจ้าบอก แต่ยิ่งกระทำท่านแม่ทัพกลับยิ่งถอยห่าง เมื่อคืนเขายังออกไปนอกห้อง ไม่กลับเรือนจนถึงรุ่งเช้า”
ฝูทำตาโต ก่อนรีบกล่าวเสริม
“บ่าวมิอาจปล่อยให้เรื่องเหลวไหลเช่นนี้เกิดขึ้นได้ เราต้องวางยาปลุกมังกรของท่านแม่ทัพให้ชูชัน และคุณหนูต้องพลีกายเพื่อให้แผนนี้เสร็จลุล่วง อย่าลืมว่าอย่างไรก็ตาม คุณหนูต้องยืมมือเขาทวงศักดิ์ศรีของตนคืน”
“เหตุใดข้าต้องลงแรงถึงเพียงนั้น” ซูกุ้ยฟางเอ่ยแล้วก็นึกท้อแท้ในชะตาชีวิตตน
ฝูมองหน้าผู้เป็นนาย หลายวันที่ผ่านมาหญิงวัยกลางคนเห็นความปกติของซูกุ้ยฟาง และตอนนี้ทุกอย่างแจ่มชัด คุณหนูดูเหมือนถูกปีศาจสิงร่าง ซึ่งคำพูดของแม่ทัพหยางเมื่อพบหน้าหญิงสาวดูเหมือนจะเป็นความจริง
“ที่เราลำบากลำบนเช่นนี้ เพราะเจ้าบ้านเอี้ยวางแผนไว้ตั้งแต่แรก ทั้งทำให้บิดาท่านถูกโยนความผิดเรื่องการค้าขายสินค้าไม่ได้คุณภาพแก่กองทัพ และยังแพ้พนันจนต้องสูญเสียทรัพย์สินมหาศาล และไม่พอ เขายังต้องการเอาตัวคุณชายใหญ่ไปเป็นชายบำเรอด้วย เมื่อรู้ว่าส่งคุณหนูมาแทนก็คิดขายทิ้งในตลาด ดังนั้นหากท่านไม่พยายามมัดใจแม่ทัพหยางให้ได้ บ่าวเกรงว่านับจากนี้ชีวิตคุณหนูจะลำบาก อย่างไรเราก็ต้องมีเกราะป้องกันภัย ด้วยดูท่าแล้วองค์ชายเกาน่าจะเอาใจออกหากคุณหนู ไม่อย่างนั้นคงยื่นมือมาช่วยเหลือแล้ว”
เรื่องราวในโลกโบราณนี้ประดังประเดเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่เพื่อความอยู่รอด ซูกุ้ยฟางต้องเรียนรู้ให้เร็ว ซึ่งต้องขอบใจบ่าวคนนี้ที่คอยอยู่เคียงข้าง ฝูช่วยเหลือทุกอย่าง อาจมีสิ่งเกินเลยไปบ้าง แต่นางรู้ว่าที่ฝูทำไปทั้งหมดก็เพื่อตัวคุณหนูโฉมงาม
“ข้าไม่ได้ลืม เพียงแต่...ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก ตอนนี้บางสิ่งจึงเลอะเลือนไปบ้าง”
“บ่าวเข้าใจดี ดังนั้นเพื่อไม่ให้มีสิ่งเลวร้ายเกิดขึ้นอีก คุณหนูจำต้องรีบลงมือเสีย อย่างไรก็นอนร่วมเตียงกับแม่ทัพหยางแล้ว องค์ชายเกาคงมิอาจยกคุณหนูเป็นภรรยาเอก เช่นนี้ทางรอดเดียวของเราก็คือ คุณหนูต้องตกเป็นของแม่ทัพหยางให้เร็วที่สุด”
“เจ้าพูดจาน่าเกลียดเช่นนี้ได้อย่างไร”
“บ่าวเอ่ยตามจริง เรื่องนี่ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ อีกอย่างไม่ว่าจะเป็นบนเตียงหรือที่ใด เมื่อผู้ชายต้องการความอภิรมย์ คุณหนู...ย่อมต้องโอนอ่อนผ่อนตาม”
หญิงสาวได้ยินแล้วก็นึกแค้นใจ นางพลัดหลงเข้ามาในโลกนี้เพื่อเป็นของเล่นสำหรับผู้ชายหรอกหรือ ถึงชายผู้นี้จะเป็นถึงแม่ทัพหยาง รูปงาม เก่งกาจ ทว่าความรักมันไม่ได้เกิดขึ้นง่ายๆ สตรีอย่างซูกุ้ยฟางพ่ายแพ้ต่อคนหล่อเหลาก็จริง แต่นางก็เลือก ไม่ได้พิศวาสอยากคว้าหยางอี้คังมาเป็นพ่อของลูกสักนิด ถึงเรื่องราวจะเขียนไว้อย่างนั้นก็เถอะ!
ซูกุ้ยฟางนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง แล้วหันไปมองใบหน้าตนในกระจกทองเหลือง
“ข้างามเยี่ยงนี้ ย่อมทำให้ท่านแม่ทัพหลงเสน่ห์ได้ไม่อยาก”
“แค่หลงใหลไม่พอเจ้าค่ะ คุณหนูต้องทำให้ท่านแม่ทัพหยางคลั่งรักอย่างที่สุด สิ่งสำคัญคือเป็นแม่ให้แก่ลูกชายของเขาให้จงได้”
“ละ แล้วข้าจะทำได้หรือ”
“สตรีสกุลซูไม่ได้มีเพียงความงามนะเจ้าคะ ถึงอย่างไรคำทำนายที่หมอดูตาบอดกล่าวไว้ก็แม่นยำ ตอนนี้ทุกอย่างกำลังบ่ายหน้าเข้าใกล้ความจริง ขึ้นอยู่กับว่าคุณหนูจะกล้าลงมือทำให้สำเร็จหรือไม่”
ซูกุ้ยฟางฟังคำของฝูแล้วใจก็ไพล่คิดถึงถุงกระดาษที่ใส่บ๊ะจ่าง พลางทบทวนเรื่องราวที่นางอ่านผ่านตา
ห้องหนังสือชั้นสองของจวนแม่ทัพ หยางอี้คังนั่งอยู่ในนั้น สีหน้าเคร่งขรึมอยู่สักหน่อย หลายคืนแล้วที่ไม่ได้ออกไปโรงสุราหรือเที่ยวหาความสำราญยังสำนักโคมเขียว ทั้งหมดเป็นเพราะจิตใจกระวนกระวายอยู่กับสาวงามของที่ชื่อซูกุ้ยฟาง!!มันเป็นเวรกรรมโดยแท้ เขาไม่น่ายื่นมือเข้าไปช่วยสตรีผู้นี้ นางอาจนำภัยใหญ่หลวงมาให้ กระนั้นเมื่อมองโฉมสะคราญ ใจก็อยู่เหนือเหตุผลทั้งหมดแต่แรกเขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับนาง กระนั้นภาพสาวงามถูกเร่ขายในตลาดทำให้สงสารและเห็นใจ ทว่าหลังจากที่รับนางมาไว้ที่เรือน ซูกุ้ยฟางก็เริ่มแผลงฤทธิ์ ทั้งหมดนี้เขาล่วงรู้ว่านางกำลังเล่นละครตบตา หวังให้เขาข่มเหง ซึ่งจะเพื่อการใดหากไม่ใช่นางอยากตกเป็นของเขา จากนั้นคงใช้เรื่องนี้ยกฐานะตนกลับคืน เปลี่ยนหนังสือซื้อขายตัวเป็นหนังสือตบแต่งฮูหยินเข้าสกุลหยาง ความฉลาดของนางนั้นนับว่าไม่เบาทีเดียว“ซูกุ้ยฟาง ข้าหายินดีหากต้องถูกเจ้าหยามหมิ่นความเป็นชาย!”เมื่อเขากล่าวจบประตูด้านหน้าจึงถูกเคาะ อึดใจต่อมาเขาได้ยินเสียงหวานหยดที่พยายามปั้นแต่งของซูกุ้ยฟาง“ได้เวลาน้ำชาและของว่างแล้วเจ้าค่ะ ท่านแม่ทัพ!”“ข้าอยากอยู่แบบสงบๆ ไม่ได้รึอย่างไร” หนุ่มห
ซูกุ้ยฟางดึงตนกลับคืนสู่โลกโบราณที่นางรู้เรื่องราวไม่ถึงแปดบรรทัด เป็นแปดบรรทัดที่ชีวิตของสตรีนางหนึ่งต้องสยิวเสียวซ่านกับบุรุษขาเตียงหักหยางอี้คัง!ความสับสนประดังประเดเข้ามาในหัว นางก็รับมือไปตามสภาพ แน่นอนใครต่อใครต่างมองหญิงสาวแปลกๆ บ้างกล่าวหาว่าซูกุ้ยฟางเป็นหญิงงามวิปลาสล่มเมืองหญิงสาวถอนหายใจพรูใหญ่อย่างเบื่อหน่าย กระทั่งฝูปรากฏตัวทางด้านหลัง“โอ้ คุณหนู”“อื้อ เมื่อไหร่เจ้าจะหยุดร้องโวยวายเสียที” ซูกุ้ยฟางตำหนิอีกฝ่าย ฝู คือผู้ติดตามและเป็นแม่นมหญิงสาวมาตั้งแต่มารดาเสียชีวิต ซึ่งจะว่าไปหน้าตาก็คุ้นตั้งแต่ซูกุ้ยฟางพบครั้งแรก“บ่าวผิดไปแล้ว บ่าวจะโขกศีรษะกับพื้นเดี๋ยวนี้”“หยุดเลย” มุกนี้ใช้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่ซูกุ้ยฟางโผล่มาอยู่ในร่างนี้ฝูมองคุณหนูของตน ทั้งคู่เดินทางมาจากเมืองหลวงด้วยกัน กระทั่งถูกส่งตัวไปขายในตลาด และแม่ทัพหยางยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ“เมื่อคืน ทุกอย่างสำเร็จหรือไม่คุณหนู”หญิงสาวส่ายหน้าช้าๆ รู้สึกรังเกียจตนเองที่ต้องพยายามทำตัวเยี่ยงนางคณิกา ซึ่งฝูบอกให้ซูกุ้ยฟางเดินหมากเช่นนี้ ด้วยหยางอี้คังมีสตรีที่อยู่ในใจ ฝ่ายนั้นเป็นลูกสาวเจ้าสำนักคุ้มภัยจากเม
เมื่อไปถึงบ้านของมาติน ซึ่งสถานที่แห่งนั้นควรถูกเรียกว่าคฤหาสน์ถึงจะเหมาะสม แสนเสน่ห์ก็นั่งรอเอกสารอยู่นานเกือบสามสิบนาที กระทั่งลายสิงห์เดินเข้ามาและบอกว่ามีบ๊ะจ่างมาฝาก แต่ลืมเอาให้หล่อนตอนอยู่ออฟฟิศ“ขอบคุณค่ะ แต่แสนยังไม่หิว”ลายสิงห์ไม่ได้เซ้าซี้อะไร ก่อนขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ เพราะมีสายเรียกเข้ามาพอดี ระหว่างนั่งรอเอกสารจากมาติน สายตาของหญิงสาวก็หันไปมองถุงกระดาษที่ด้านในมีบ๊ะจ่างจากร้านดังแสนเสน่ห์สะดุดรูปวาดผู้หญิงในชุดจีน ดูแล้วเหมือนถูกดึงดูดด้วยมนตร์สะกดลึกลับ กระทั่งหล่อนได้สติจึงเกิดความครั่นคร้ามใจ แวบหนึ่งเกิดภาพประหลาดในหัว ประหนึ่งว่าหญิงสาวเป็นแม่นางซูกุ้ยฟาง เจ้าของเรื่องราวที่อยู่ข้างถุงกระดาษ“บ้าบอ สงสัยหมู่นี้จะอ่านนิยายท่านแม่ทัพและจิ้นการอุ่นเตียงหนักเกินไป” แสนเสน่ห์เอ่ยแล้วจึงยิ้มน้อยๆ พร้อมเปิดถุงกระดาษ หล่อนเห็นว่ามีบ๊ะจ่างที่ส่งกลิ่นหอมยั่วใจหลายชิ้น“อร่อยนะครับ ผมซื้อฝากคุณแม่ประจำเลย” เสียงลายสิงห์ลอยมาเข้าหูในตอนที่อารมณ์แสนเสน่ห์เบื่อหน่ายกับการรอคอยอย่างที่สุด“แต่มันดูไม่คลีนเลยนะคะ แสนไม่อยากอ้วน”ชายหนุ่มมองหน้าหล่อน แววตาคมๆ มีประกายวิบว
แสนเสน่ห์คอยติดตามข่าวบอสหนุ่มอยู่เสมอ หลายครั้งพยายามสื่อสารด้วย ซึ่งเจ้านายรูปหล่อฟังภาษาไทยได้ดีมาก แถมยังพ่นภาษาอังกฤษและจีนได้ไฟแลบไม่แพ้กัน หญิงสาวจึงทำได้แค่ยิ้มหวานๆ กลายเป็นคนบื้อใบ้เกือบทุกครั้งที่พบหน้ากัน ภาษาอังกฤษนั้นยังพอลื่นไหลเอาตัวรอดได้สบาย แต่เมื่อใดที่เขาใช้ภาษาจีนหรือไต้หวัน แสนเสน่ห์จึงได้แต่ทำหน้าเหวอพร้อมยิ้มกว้างเป็นตุ๊กตาไร้สมองอย่างไรก็ตามหญิงสาวล่วงรู้ถึงรสนิยมของมาติน อีกฝ่ายชอบผู้หญิง สวย สุภาพ อ่อนหวานแสนเสน่ห์จึงปรับเปลี่ยนตัวเองครั้งมโหฬาร ทว่าสุดท้ายอกกลับหักดังเป๊าะ เมื่อบอสหนุ่มหล่อมีคู่หมั้นอยู่แล้ว เธอเป็นหญิงไทยแท้แต่ย้ายไปอยู่ไต้หวันกับบิดาและมารดา และครอบครัวของทั้งคู่หมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่แรกเกิด เธอมีชื่อว่านาตาลี หรือลีน่า สวย เก่ง ฉลาด และรูปร่างดีมาก แถมหน้าอกหน้าใจบิ๊กไซซ์ จนแสนเสน่ห์อยากหาเงินสักก้อนไปเสริมสองเต้าของตนให้เทียบเท่าเธอ“อูย คู่นี้เขาเหมาะสมกันอย่างกับกิ่งทองใบหยก” เสียงของป้าศรีทำให้แสนเสน่ห์ต้องช้ำใจหนักเข้าไปอีก“ป้าทำให้อารมณ์หนูบูดแต่เช้าเลยรู้ไหม” แสนเสน่ห์ถอนหายใจเป็นครั้งที่สิบหลังจากได้ข่าวว่าบอสมีเจ้าสาวตัวจริง
เมื่อเขาเอ่ยเชิญชวน ซูกุ้ยฟางก็สูดลมหายใจเข้าลึก พร้อมตั้งสติก่อนถามถึงเรื่องสำคัญ“ตะ แต่แท่งหยกของท่านมันตายด้าน...” นางกล่าวตรงไปนิด พอนึกขึ้นได้ว่าไม่สมควรจึงรีบแสร้งทำท่าสะเทิ้นอายกระนั้นยังมิวายมองร่างกายของชายหนุ่ม กล้ามท้องเขาเป็นลอนแกร่ง ขนในที่ลับเรียงตัวเป็นแพสวย ผู้ชายในยุคโบราณคงชอบอวดเรือนร่างตนเช่นนี้ และมันตอบสนองอารมณ์ซูกุ้ยฟางได้ดีเหลือเกิน เพราะหยางอี้คังคืออาหารตาเลิศรส“ของที่มันนอนอยู่ในฝัก ไฉนเจ้าถึงเร่งเร้าอยากปลุกให้ตื่นตัว การรุกเร้าบุรุษเยี่ยงนี้ สตรีที่ถูกอบรมสั่งสอนมาอย่างดีพึงกระทำหรือ!” คนหล่อเหลาชักสีหน้าตึง แทนที่จะดูน่ากลัว หยางอี้คังกลับพกเสน่ห์เหลือร้ายแบบชายที่มีความกราดเกรี้ยวอยู่ตลอดเวลา ทั้งดุดัน น่ากลัว หากชวนให้หวามใจในคราเดียวกัน“ผะ ผู้น้อย มิกล้า เพียงแค่พลั้งปากพูดไป”นางตอบเขาเสียงสั่น ใจเต้นตึกตัก จากนั้นมือใหญ่จึงคว้ามือเล็กไปยึดไว้ ก่อนจับไปวางบนกล่องดวงใจที่ซูกุ้ยฟางหวังใจอยากสัมผัสเหลือเกิน“อ๊ะ...อุ๊ย ทะ ท่าน มะ แม่ทัพหยาง!”ซูกุ้ยฟางร้องอย่างตื่นตกใจ แต่ความจริงนางกำลังเป็นสุข ภาพในหัวกำลังฉายชัด นี่คือประสบการณ์ครั้งแรกที
กลางดึกคืนนั้นพระจันทร์ส่องแสงนวลตา หญิงสาวที่ยามนี้เข้าใจทุกอย่างทีละน้อย และนางมั่นใจว่าตนทะลุมิติมาอยู่ในโลกโบราณนี้อย่างเต็มตัว ซึ่งยังไม่รู้ชะตากรรมของตนว่าจะมีโอกาสหวนกลับคืนสู่โลกเดิมหรือไม่ถึงหลายสิ่งหลายอย่างแตกต่างไม่คุ้นชิน แต่การใช้ชีวิตที่นี่ก็หาได้ลำบากจนเกินไป กระนั้นนางต้องพยายามทำให้ทุกอย่างเดินไปตามเรื่องราวแปดบรรทัดที่เคยอ่านผ่านตาหลังผล็อยหลับไปได้สักพัก ร่างทรงเสน่ห์ก็สะดุ้งตื่น และสาเหตุมิใช่เกิดจากการเห็นภาพฝันร้ายที่วิ่งวนเพียงแค่ในหัว แต่ประเด็นสำคัญคือมือเรียวสวยไปสัมผัสเข้ากับบางสิ่งทั้งที่มันควรอยู่ในร่มผ้า ทว่าปลายนิ้วกลับแตะเข้ากับความนุ่มหยุ่นแทน!!คราแรกเพียงสัมผัสใจเต้นระรัวแรง แน่ละ ถึงบริสุทธิ์ผุดผ่องไร้ราคี แต่นางที่จากโลกแห่งความจริงมาใช่ว่าจะไม่เคยเห็น ในเมื่อยุคสมัยของนาง หากอยากรู้อยากเห็นสิ่งใดเพียงเลื่อนหน้าจอมือถือลื่นปรื้ดๆ เลือดกำเดาก็แทบพุ่ง!“เอ ไฉนมันถึงได้นุ่มนิ่ม...และอุ่นพิลึกดีแท้!”นางว่า และยังมิวายขยับมือเลื่อนขึ้นไปเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจอีกนิด เมื่อสองสามคืนก่อนก็นอนร่วมเตียงกับหยางอี้คัง ดูเหมือนเขาจะหวงเนื้อหวงตัวยิ่งกว่านี้ เห







