LOGINในขนาดที่ทุกคนกำลังสลับกันเฝ้ายาม ก็มีเสียงเอะอะโวยวายมาจากที่ไกลๆ ชิงอี่ที่ระวังตัวอยู่แล้วเลยลุกไปใช้กล้องอินฟาเรดสำหรับส่องกลางคืนดูเหตุการณ์
"ช่วยด้วยมีโจร"เสียงชาวบ้านร้องกระโกนขอความช่วยเหลือ มีคนร้านประมาณ40คนกรูเข้ามาปล้นชาวบ้านที่ลี้ภัย เมื่อเห็นดังนั้นชิงอี่เลยรีบบอกครอบครัวเธอที่เป็นผู้หญิงและเด็กหลบกันอยู่เงียบๆ "พวกท่านอยู่ในเกวียนอย่าส่งเสียงหรือออกมาเป็นอันขาดนะเจ้าค่ะ"บอกคนในเกวียนแล้วก็ใช้ผ้าคุ้มนาโนที่มีคุณสมบัติพลางตาคนได้ "พวกแกอย่าส่งเสียงนะอยู่เฉยๆแล้วจะปลอดภัย"หญิงสาวไม่ลืมสั่งสัตว์เลี้ยงด้วย ส่วนคนหนุ่มเธอก็ให้ใส่ชุดเกาะนาโนอย่างน้อยก็ป้องกันลำตัวได้ ครอบครัวหลีและครอบครัวหวองแยกย้ายกันไปช่วยต่อสู้กับโจรป่า ส่วนเธอก็ใช้ปืนไรเฟิลส่องยิงอยู่บนต้นไม้ เธอสอยคนร้ายเหมือนใบไม้ร่วง "เฮ้ยยย ใครมันลอบทำร้ายพวกเราว่ะ"โจรป่าคนหนึ่งตะโกนบอกเพื่อน "มันมีอาวุธลับ พวกเราระวัง"เสียงโจรอีกคนบอกเพื่อน "ฆ่าพวกมันทุกคนอย่าให้เหลือ"พอได้ยินแบบนั้นชิงอี่ก็เล็งไปที่คนพูดแล้วรั้นไกทันที ส่วนสมาชิกบ้านหลีกับบ้านหวองต่อสู้จนโจรพากันบาดเจ็บล้มตาย "ว้ายยยย..ช่วยด้วยมันมากันแล้ว"เสียงเมียหัวหน้าหมู่บ้านร้องขึ้น เฟยเทียนที่ได้ยินก็เข้าไปช่วยเหลือโดยเอากระบองลูกตุ้มฟาดใส่คนร้าย ที่ละสองคนจนพวกโจรไม่กล้าเข้าใกล้ "พวกเราถอยก่อน"แล้วเหล่าโจรก็ช่วยกันแบกพักพวกที่บาดเจ็บกลับไป ชิงอี่ยิงตัวสะกดรอยไปที่หนึ่งในคนร้าย เธอไม่คิดจะปล่อยให้พวกมันสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนต่อไปแน แต่ก่อนอื่นต้องดูชาวบ้านก่อน "มีใครได้รับบาดเจ็บมั้ยเจ้าค่ะ"พูดไปก็มองชาวบ้านไปด้วย "ส่วนใหญ่จะตกใจกันนะ แต่ไม่ถึงกับได้รับบาดเจ็บมาก"เสียงแม่เฒ่าฟางเอ่ยขึ้น "ต้องขอบคุณครอบครัวหลีและบ้านหวองที่ช่วยไล่พวกโจรกลับไป"หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยขอบคุณบ้านหลีและบ้านหวอง "เราช่วยกันเข็นศพไปทิ้งไกลๆจากกลุ่มเราดีกว่าขอรับ พวกสัตว์ได้ไม่ตามกลิ่นมาหาพวกเรา "เสียงชาวบ้านคนหนึ่งเสนอขึ้น แล้วชาวบ้านก็ช่วยกันขนศพพวกโจรไปทิ้งไกลๆ "คืนนี้คงไม่มีใครหลับสนิทแนนอน งั้นก็สลับกันเฝ้ายามแล้วกันนะ"หัวหน้าหมู่บ้านสั่งการกับลูกบ้านทันที เมื่อจบเรื่องชิงอี่ก็มาเอาผ้าคุมนาโนออก แล้วให้ทุกคนดื่มยาบำรุงกันคนละขวด "พวกท่านเฝ้าระวังกันไปก่อนนะเจ้าค่ะ ข้าจะตามไปถล่มรังโจร พวกมันได้ไม่สร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านอีก " "ข้าไปด้วย..เจ้าไปคนเดียวจะเป็นอันตราย"เสียวหมิงไม่ยอมปล่อยให้น้องสาวไปคนเดียวแน เธอจะปฏิเสธแต่เมื่อเห็นสายตาที่แน่วแนของพี่ชายเลยพยักหน้า "งั้นพวกท่านค่อยเดินดูรอบๆกลุ่มนะเจ้าค่ะ ปลอดภัยไว้ก่อน เผื่อมีพวกมันตามแอบดูอยู่" พูดจบก็เปิดเครื่องติดตามตัวตามไปทันที "เจ้าสิ่งนี้มันคืออะไรเหรอ"เสียวหมิงเห็นน้องสาวมองที่มีไฟสีแดงกระพริกแล้วก็เดินตามมัน "เจ้านี้เขาเรียกเครื่องติดตามตัว ตามได้ถึง10ลี้เลยนะเจ้าค่ะ"เมื่อแสงสีแดงกระพริบถี่ๆแปลว่าพวกเขาไกล้ถึงรังโจรแล้ว "เดี๋ยวข้าจะขึ้นไปดูราดราวก่อนนะเจ้าค่ะ ท่านรอตรงนี้ เมื่อได้ยินเสียงข้าท่านก็กดตรงแล้วพูดได้เลยเจ้าค่ะ"เธอติดเครื่องสัญญาณเอาไว้ติดต่อกัน แล้วก็ปีนข้ามกำแพงด้วยความชำนาน 'น้องสาวเธอเก่งขึ้นมากจริงๆจากสาวขี้โรค' ชิงอี่ที่พอปีนเข้าไปในรังโจรแล้วก็ค่อยๆแฝงตัวไปตามมุมมืด "พวกเจ้าว่าอะไรนะ"หัวหน้าโจรที่นั้งอยู่บนเก้าอี้สูงก็ถามลูกน้องด้วยความไม่เชื่อ "พวกมันมียอดฝีมืออยู่ในขบวนด้วยนะลูกพี่ แถมมีอาวุธลับอีกด้วย พวกเราล้มตายเพราะอาวุธลับหลายสิบคนมาก ลูกพี่จะเอาไงดี" "มันจะเก่งไปกว่าพวกเราได้ไงว่ะ เอาแบบนี้ พวกเจ้าลอบบุกเข้าไปแล้วฆ่าพวกมันให้หมดไปตอนยามอิ๋มหรือยามเหมาพวกมันกำลังหลับสบายได้ไม่ระวังตัว" เขาคิดว่าต้องเชือดไก่ให้ลิงดู คนได้รำลือความน่ากลัวของซุ้มโจรของพวกเขา ชิงอี่ที่แอบฟังก็หรี่ตามองพวกมันด้วยสายตาเย็นชา ในเมื่ออยากตายเธอจะสงเคราะห์ให้เอง หญิงสาวค่อยๆเดินเข้าไปในครัว แล้วค่อยๆเทยาพิษลงไปในเหล้าเหลือไว้แต่อาหารที่ใส่ยานอนหลับอย่างแรงเพราะชิงอี่เห็นมีผู้หญิงที่ถูกจับตัวมาด้วย งานนี้ใครจะรอดก็แล้วแต่เวรกรรมแล้วกัน เธอมีความปราณีให้ได้เท่านี้ แล้วเธอก็ไปหลบเพื่อรอเวลา สักพักก็ได้ยินเสียงร้องทุรนทุราย เลยเดินออกมาดูก็เห็นฝุงโจรนอนกระอักเลือดสินใจตาย แล้วก็ค่อยไล่เก็บที่ละคนที่แค่นอนหลับไปเว้นไว้แต่ผู้หญิง "พี่เสียวหมิง เข้ามาได้แล้ว"เธอเรียกให้พี่ชายเข้ามาช่วยจัดการอีกแรง พอเสียวหมิงเข้ามาเห็นสภาพโจรที่นอนตายเกลื่อนก็อึ้งไป "พวกผู้ชายฆ่าให้หมดเจ้าค่ะ"บอกกับพี่ชายทันทีแล้วช่วยกันตามเก็บงาน ชิ่งอี่เดินขึ้นไปที่ห้องหัวหน้าโจร ภายในห้องมีเอกสารสำคัญหลายอย่างที่หญิงสาวมองแล้วหรี่ตาทันที มันมีพวกขุนนางกังฉิงที่มีผลประโยชน์ด้วย "อะไรเหรออาอี่"เสียวหมิงเห็นน้องสาวมองสมุดบัญชีก็ถามด้วยความสงสัย "หลังฐานฉ้อโกงของพวกขุนนางนะ..เก็บไวก่อนเผื่ออนาคตได้ใช้"พูดแล้วก็เอาสมุดเอกสารต่างๆเอาไปเก็บในมิติปลอดภัยสุด ชิงอี่เดินไปที่ห้องด้านหลังที่มีกลไกอยู่ กลไกแค่นี่เธอเปิดมันได้อยู่แล้วแค่ใช้ระเบิด 'ตู๊มมม'แล้วประตูก็เปิดออก ทันที่ที่ประตู้เปิดออกข้างในที่เต็มไปด้วยทองตำลึงก็ปรากฏต่อหน้าสองพี่น้องทันที "โฮ...ทองเต็มไปหมดเลย"เสียวหมิงเห็นแล้วตาโต "ออกแรงจนเหนื่อย เห็นแบบนี้ค่อยดีขึ้นมาหน่อย"ทองพวกนี้เธอไม่เหลือไว้ให้พวกขุนนางมันมาเจอแน "แล้วเราจะเอามันกลับไปยังไงละของตั้งมาก"เสียวหมิงไม่คิดว่าแค่สองคนจะขนไปกันหมดแนนอน เต็มที่ก็ทองไม่กี่สิบตำลึงเท่านั้น แต่ก่อนที่เขาจะคิดอะไรออก น้องสาวเขาก็แตะไปที่ข้าวของเหล่านั้นและพวกมันก็อันตรธานหายไปในพริบตา "ข้าจะไม่เหลือไว้ให้ไอ้พวกขุนนางโกงกินพวกนั้นแนเจ้าค่ะ" แล้วสองพี่น้องก็ช่วยกันเก็บหลังฐานต่างๆเข้าไปในมิติ ก่อนจะออกจากรังโจรชิงอี่ก็รู้สึกอะไรบ้างอย่างจึงเดินไปตามทางแล้วไปเจอคุกใต้ดินที่มีทั้งผู้หญิงและเด็กถูกขังเอาไว้ พอพวกเขาเห็นชิงอี่ก็ร้องขอให้ช่วยปล่อยพวกนางด้วย ชิงอี่กับเสียวหมิงจึงพังกงขังแล้วปล่อยให้พวกเขาออกมา พอออกมาได้เหล่านักโทษก็โขกศีรษะขอบคุณเป็นการใหญ่ "พวกเจ้ามาจากไหน"เสียวหมิงถามเหล่านักโทษ "พวกข้าโดนจับมาเจ้าค่ะ พวกมันจะสลับกันปลอยให้พวกข้าไปปรนนิบัติ" "แล้วเด็กๆละ"ดูยังไงเด็กๆก็อายุไม่น่าเกิน6,7หนาวเล็กสุดก็ไม่น่าจะเกิน4หนาว "พวกมันจะเอาไปขายให้พ่อค้าทาสเจ้าค่ะ"หญิงคนหนึ่งอธิบาย "แล้วพวกเจ้ามีบ้านให้กลับมั้ย" "พวกเรามีบ้านให้กลับเจ้าค่ะแต่สองพี่น้องนี้เป็นลูกกำพร้าเพราะครอบครัวถูกโจรฆ่าตายหมด" ชิงอี่ก้มลงไปมองเด็กผู้หญิงสองคนที่กอดกันกลม ชิงอี่มองแล้วก็ถอนหายใจ หันไปมองหน้าพี่ชายก็เห็นแววตาไม่ต่างกัน "ข้ามีค่าเดินทางให้พวกเจ้าไว้เดินทางกลับบ้านเกิด เผื่อครอบครัวไม่ยอมรับก็ได้มีเงินไว้ตั้งตัว" เมื่อเดินออกมาถึงห้องโถงชิงอี่ก็หยิบตำลึงทองให้คนละ1000ตำลึงทองและให้ช่วยพาเด็กๆไปส่งถึงบ้านด้วย ส่วนสองพี่น้องซานซาวัย10หนาวกับหลิงหลงวัย3หนาวครึ่งคงต้องพากลับไปด้วย พอกลับไปถึงที่พักทุกคนก็รอสองพี่น้องกลับมา ครั้งพอเห็นเด็กน้อยที่เดินตัวสั่นมาด้วยก็ให้นึกสงสัย "พวกลูกไปพาเด็กมาจากไหนนะ" "ข้าสอบถามแล้ว ครอบครัวพวกเขาถูกโจรฆ่าทิ้งหมดเจ้าค่ะ เพราะเดินทางอพยพมาทั้งตระกูลเหมือนกันแต่กลับถูกโจรดักปล้นแล้วฆ่า เด็กๆทั้งสองกำลังรอพ่อค้าทาสมารับซื่อไปเจ้าค่ะ แต่ข้ากับพี่เสี่ยวหมิงไปเจอสะก่อน" แม่เฒ่าหวองฟังแล้วก็นึกสงสาร เลยก้มลงไปบอกกับเด็กทั้งสอง "บ้านเราไม่ได้ร่ำรวยอะไรแต่แค่เพิ่มตะเกียบอีกสองคู่จะเป็นไรไปเนอะ มาอยู่กับข้านี้แหละ " เด็กหญิงสองพี่น้องพอได้ยินก็คุกเข่าโขกศีรษะ "ขอบคุณนายหญิงเจ้าค่ะ"ซานซา "ขอบคุณเจ้าค่ะ"หลิงหลง "ไม่ต้องเรียกข้าว่านายทงนายท่านหลอก ข้ามันก็ชาวบ้านธรรดานี้แหละ เรียกข้าว่าท่านยายก็ได้" "เจ้าค่ะท่านยาย"สองพี่น้องพูดพร้อมกัน "แล้วกินอะไรกันมาหรือยังละพวกเจ้า"เนื้อตัวมอมแมมคงได้อาบน้ำสระผมแนพรุ่งนี้แต่ตอนนี้ให้เช็ดตัวไปก่อน ไห่เม้ยเลยจัดการจับเด็กๆทั้ง2คนเช็ดตัวแล้วเปลี่ยนชุดใหม่ของซูซูใส่ให้แล้วจึงหาของกินให้เด็กๆทั้งสองรองท้อง ตอนนอนซานซากับหลิงหลงเลยตกลงได้นอนกับแม่เฒ่าหวอง ถึงเวลาเช้าขบวนก็เริ่มออกเดินทาง โดยทิ้งความเสียหายไว้มากมายให้ขุนนางที่มาเจอว่าใครมันช่างกล้าถล่มรังโจรที่น่าเกรงขามที่สุดและที่ทำให้ขุนนางที่มาเก็บกวาดตกใจคือสมุดบัญชีที่เป็นรายรับรายจ่ายต่างๆได้หายไปพร้อมกับสมบัติเต็มห้องไม่เหลือแม่แต่เศษทองให้เห็นทางด้านสามพี่น้องก็ขายผักอย่างอารมณ์ดีเพราะพอตั้งแผงปุบก็ขายหมดภายในไม่เกินหนึ่งหนึ่งก้านธูป(30นาที) ขากลับนางแวะซื้อไก่ไป5ตัวเพื่อเอาไปทำไก่รมควันตากแห้งไว้เป็นเสบียงหน้าหนาว และไม่ลืมซื้อรำข้าวเอาไว้ให้ผสมใส่ในผักให้หมูป่ากินตามที่มารดาสั่ง เพราะรอบที่แล้วนางไม่ได้ซื้อ ก็นางไม่รู้ว่ามันกินอะไรนอกจากผัก.กลับมาถึงบ้านก็เอาของไปเก็บปล่อยให้น้องๆได้นั้งพัก มารดาก็อุ้มน้องชายออกมารอตอนรับ . "วันนี้บ้านใหญ่มาอีกแล้ว..แต่แม่ก็เก็บของเข้ามิติจนหมด เหลือแต่พวกสัตว์เพราะแม่ลืม"ตอนนั้นนางลืมจริงๆเพราะมัวแต่สนใจข้าวของภายในบ้านและห้องเก็บของ มารู้ตัวตอนที่พี่สะใภ้โดนฝูงไก่ทำร้ายถึงนึกออกว่าตัวเองไม่ได้เก็บสัตว์เลี้ยง "แล้วบ้านใหญ่ได้อะไรไปมั้ยเจ้าค่ะ?"หญิงสาวก็เห็นสัตว์ของนางอยู่ในคอดสัตว์นอนกันเงียบทุกตัวไม่มีหายไป แต่ก็เห็นแปลงผักดูเละเทะเหมือนมีคนเข้าไปเหยียบย่ำ!"ไม่ได้อะไรไปเลยแถมยังโดนทั้งแม่ไก่จิกและเสี่ยวมาวกัดจนได้แผลเต็มตัวกลับไปกันทั้งสองคน ดีว่าท่านย่าไม่โดนทำร้ายด้วยไม่งั้นบ้านเราต้องเดือดร้อนแนๆ"ตอนนั้นนางตกใจคิดอะไรไม่ออก แต่ลองมาคิดดูแล้ว ดีว่าแม่สามีไม่บาดเจ็บไม่งั้นเรื่องต้
เมื่อกลับมาถึงที่พักท่านผู้เฒ่าทั้งหลายมานั้งล้อมวงดื่มน้ำแกงที่ไห่เม้ยต้มให้ "อาอี่มาดื่มน้ำแกงบำรุงรางกายเร็ว ในป่านี้อากาศชื้นเดี๋ยวจะล้มป่วยเอา"แม่เฒ่าฉีเอยเรียกชินอี่ให้มาร่วมวง"เจ้าค่ะ"หญิงสาวรับคำจึงนั้งลงรับน้ำแกงจากซูซู "เหมือนฝนทำท่าจะตกอีกแล้วแบบนี้เราจะได้ออกจากป่ามั้ยนะ"หัวหน้าหมู่บ้านกลัวสัตว์จะย้อนกลับมา"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะท่านลุงตู่ สัตว์ป่าไม่น่ากลัวเท่าคน ถ้าพวกมันมาข้ามีวิธีไล่มันไปเจ้าค่ะอยู่กับพวกข้าพวกท่านปลอดภัยแนนอน"เธอมีรั้วไฟฟ้าพวกสัตว์ไม่กล้าเข้าใกล้แต่คนนี้สิ เธอคิดว่าอาจยังไม่จบเท่านี้ ตอนออกจากป่าเธออาจต้องแวะไปจวนท่านเจ้าเมืองเสียหน่อยแล้ว ถ้ายังไม่ยอมจบเธอจะเป็นคนจบเรื่องให้เอง แล้วพวกเขาก็เร่งเดินทางจนออกมาใกล้ถึงป่าชั้นนอกถึงจะยังไม่ออกจากป่าแต่ก็นับว่าปลอดภัยกว่าป่าชั้นในเธอตรวจดูแล้วสามวันนี้ฝนจะตกตลอดเธอเลยให้ผู้ชายช่วยกันทำเพิงชั่วคราวทั้งคนและสัตว์ทั้ง7ซึ้งพวกมันก็ฉลาดอยู่กันเงียบๆไม่ส่งเสียง บ่ายวันหนึ่งฝนก็ตกจริงดีว่าเตรียมตัวกันแล้วเลยรับมือได้ เมื่อไม่สามารถทำอะไรได้เธอเลยเข้าไปในห้องวิจัยสร้างอาวุธชนิดใหม่ขึ้นมาเผื่อจะมีชิ้นไหนเอาไปฝากเจ
เมื่อสองผัวเมียรู้ว่าโสมที่ได้มาจากชิงอี่ทั้งสองเลยยิ่งนับถือเด็กสาวแล้วตั้งมั่นว่าจะติดตามครอบครัวนางเพื่อรับใช้ไปตลอด ระหว่างเดินทางเสียวไป๋กับเสียวหงชอบให้ซูซูแปรงขนให้ เจ้าสองเผือกคิดว่าพวกมันคิดถูกที่มาขออาศัยกับฝูงนี้สมาชิกในฝูงไม่มีใครรังแกพวกมันเลยแถมยังคอยกอดพวกมันด้วยความรัก หาผลไม้ให้ ตอนนอนก็มีที่อุ่นๆให้นอนไม่ต้องกลัวใครจะมารังแก พวกมันชอบกระโดดเล่นไปมาระหว่างเกวียนวัว มันสองตัวรู้แหล่งสมบัติหลายที่เพื่อเป็นการตอบแทนที่ให้มันสองตัวอยู่ในฝูงมันจะพาเจ้ามนุษย์นี้ไปล่าสมบัติเองณ เมืองเฉียงเจ้าเมืองฟ้านอ่านรายงานจากลูกน้อง "ผ่านไปเป็นเดือนทำไมยังหาไม่เจอ""ที่ค้ายโจรไม่มีใครรอดเลยขอรับ และไม่ทิ้งร่องรอยให้ตามสืบได้เลย"ลูกน้องเขาที่ไปถึงเจอแต่ศพเกลื่อนไปหมดแถมทรัพย์สินที่เขาเอาไปซ้อนเก็บไว้จากการปล้นและการโกงงบเสบียงภัยแล้งมาจากชาวบ้านก็ยังมาหายแบบไม่มีรองรอย สมบัติมากมายมันจะหายแบบไม่มีรองรอยได้ไงผ่านไปเป็นเดือนเขาก็ตามหาเบาะแสไม่เจอ"แล้วช่วงนี้มีครอบครัวไหนดูมีฐานะบ้างหรือแม้แต่ขบวนอพยพก็ด้วยตรวจให้หมด ข้าต้องเอาสมบัติกลับคืนมาให้ได้"เขาสั่งปิดด้านเพราะจะได้คอยสังเกตุว่า
ดวงตาแดงเหมือนเลือดกับตัวสีขาวเหมือนหิมะ 'กระรอกเผือก'น่ารักจังชิงอี่มองเจ้าลูกกระรอกน้อยด้วยความเอ็นดู แต่เธอไม่รู้กระรอกกินอะไรเลยนั้งมองมันเฉยๆ เจ้ากระรอกเผือกทำท่าทางเหมือนจะข้ามาหาแต่อยู่ๆก็ตกใจแล้วหนีไป ชิงอี่ก็หันซ้ายหันขวาว่าเจ้าจิ๋วมันตกใจอะไร ก็เจอพี่ชายตัวเองกำลังปีนไปเด็ดดอกไม้ที่เลือยขึ้นมาบนยอด พี่ชายเธอเด็ดดอกไม้ไปให้ใคร เรื่องนี้มันต้องตามไปส่อง เสียวหมิงเด็ดดอกไม้ลงมาให้...ซานซา!! ดูๆแล้วพี่ชายเธอคงอีกหลายปีถึงจะได้แต่งงาน ซานซาเพิ่งจะ10ขวบเองพอหมดความสนใจเรื่องพี่ชายหญิงสาวก็ไปสำรวจรอบๆป่า เผื่อเธอจะเจอสัตว์น่ารักน่ารักอีก ภพที่แล้วเธอไม่มีญาติไม่มีเพื่อนแม้แต่สัตว์เลี้ยงยังไม่มีเพราะไม่่ต้องการมีภาระตอนไปทำภารกิจ แต่มาภพนี้ถึงเพิ่งรู้ว่าเธอเป็นคนรักสัตว์เอามากๆดูได้จากเจ้าสี่สหายที่เธอเลี้ยงดูพวกมันอย่างดี ต้องป้อนยาบำรุงให้กินทุกวัน เพื่อให้พวกมันสุขภาพแข็งแรงขนจะได้สวยๆ ว่าไปป่านี้ก็อุดมสมบูรณ์ดีนะสัตว์ป่ามีมากด้วย พอสำรวจจนพอใจก็กลับไปที่กระโจม พอมาถึงกระโจมก็เดินไปหาแก๊งสี่สหายก่อนเลย "เหนื่อยกันมากมั้ยพวกแก ข้าอยากเห็นลูกวัวตัวน้อยๆแล้วพวกแกเมื่อไรจะมี
"ฝนจะตกจริงใช้มั้ยอาอี่"แม่เฒ่าถามด้วยความตื่นเต้น ถ้าฝนตกชาวบ้านก็จะได้คลายร้อนได้บ้างและยังมีน้ำไว้ใช้ แถมแหล่งน้ำธรรมชาติได้มีน้ำไว้ให้สัตว์อีกด้วย "ข้าไม่แนใจเจ้าค่ะ เจ้านี้มันบอกแค่ว่าอาจมีปริมาณน้ำฝนหนาแน่น""ดีๆ อย่างน้อยยังมีความหวัง ถือเป็นข่าวดี""ฝนตก"เสี่ยวเปา"ฝนตก"หลิงหลง"จ้าฝนจะตกแล้ว"ไห่เม้ยรับคำเด็กทั้งสอง เธอเหมือนมีลูกแฝดเพราะอายุของเด็กใกล้เคียงกัน "ข้าว่าอย่าเพิ่งบอกใครเผื่อมันอาจไม่ตกคนจะผิดหวังเสียเปล่าๆ "หลีฟูกลัวว่าคนจะคาดหวังว่าฝนจะต้องตก ถ้ามันไม่ตกอาจทำให้ชาวบ้านผิดหวังก็ได้ การเดินทางเป็นไปด้วยความเงียบเพราะทุกคนเริ่มสิ้นหวังว่าเดินหนีภัยแล้งครั้งนี้อาจไม่ใช้ความคิดที่ดีก็ได้ตอนตั้งกระโจมพักค้างแรมจากที่เคยมีเสียงพูดคุยก็เริ่มเงียบไม่มีการพูดคุยกันแบบในอดีตเพราะทุกคนท้อแท้เกินกว่าจะมีอารมณ์เสวนา ชิงอี่เป็นห่วงสัตว์เลี้ยงของเธอที่เฝ้าบำรุงมาอย่างดีกลัวจะโดนคนคิดเอาไปเป็นของตัวเองหรือคนใจบาปเอาไปทำอาหารเพราะพวกมันอ้วนดูน่ากินมากเธอเลยอยู่เฝ้าสี่สหายไม่ห่าง เธอถือว่านี้คือของรักของข้าเชียวแหละและเช้ามืดของเช้าวันหนึ่งก็มีลมแรงจนกระโจมปลิวชิงอี่คิดว่าฝ
ขบวนหนีภัยแล้งเดินทางต่อโดยมีหัวหน้าหมู่บ้านนำขบวนและครอบครัวหลีปิดท้ายขบวน ชิงอี่ค่อยใช้กล้องส่องทางไกลดูรอบๆว่าปลอดภัยมั้ย "ชิงอี่เห็นอะไรบ้าง"พ่อหลีถามบุตรสาวด้วยกลัวพวกโจรจะตามมา "ไม่มีอะไรเจ้าค่ะท่านพ่อ ไม่มีใครตามขบวนเรามา "ที่เธอกังวลไม่ใช้โจร แต่เป็นพวกเจ้าหน้าที่ต่างหากละ จากที่เธออ่านในสมุดบัญชี มีเจ้าเมืองเฉียงมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยแล้วพวกเธอกำลังเดินทางผ่านเมืองนี้พอดี พวกเธอจะเจออะไรบ้างยากที่จะเดาจริงๆ ช่วงหยุดพักกลางวันหลายๆครอบครัวเลือกที่จะนอนพักเอาแรงเพราะเมื่อคืนทุกคนเกือบจะไม่ได้นอนกันเลย หัวหน้าหมู่บ้านก็เหมือนจะเข้าใจเลยพักให้นานอีกหน่อย เฟยหลงไปดูรอบๆพอรู้มีแหล่งน้ำ ไห่เม้ยกับฮวาหลิวเลยพาเสี่ยวซากับเสี่ยวหลิงไปอาบน้ำสระผมให้สะอาดตาขึ้น เพราะเมื่อคืนแค่เช็ดตัวแต่ยังไม่สะอาดหมดและผมที่เกาะกันเป็นก้อนๆต้องค่อยๆสางกว่าจะอาบน้ำสระผมเสร็จก็หมดเวลาพักพอดี "พออาบน้ำแล้วค่อยน่ารักขึ้นมาหน่อย"ชิงอี่พูดด้วยความเอ็นดู "ข้าว่าแหล่งน้ำเริ่มลดลงแล้วนะ"เฟยหลงเห็นปริมาณน้ำที่ลดลงมากจากรอยเดิม"หมายความว่าภัยแล้งเริ่มขยายพื้นที่แล้วเหรอ"แม่เฒ่าหวองเป็นกังกล กว่าพวกนางจะเดินไป







