แชร์

ตอนที่ 2 แยกบ้าน

ผู้เขียน: เยว่หลง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-15 16:19:37

“มาแล้วหรือ”

“ลูกมาแล้ว”

“เช่นนั้นก็ทำเรื่องแยกบ้าน”

“ดูท่านพ่อจะรีบร้อนอยากให้ข้าออกจากจวนหลังนี้เสียเหลือเกิน” ประโยคคำพูดประชดประชันทว่าน้ำเสียงกับไม่อินังขังขอบใด ๆ สายตาหานลั่วอี้มองตรงไปยังผู้ที่ได้ชื่อว่า บิดา เมื่อก่อนสายตาคู่นี้มักจะมองมาด้วยความภาคภูมิใจ มาตอนนี้แม้จะสบตาหรือมองหน้าท่านยังไม่ต้องการจะมอง

แถมในสายตาคู่นี้ยังเต็มไปด้วยความหงุดหงิดไม่ชอบใจ

“เลิกพูดมากได้แล้ว เจ้าต้องการอันใด” หานฉิงอี้ไม่ถือสาหาความ เขาไม่อยากจะถือความยาวสาวความยืด ให้ต้องยืดระยะเวลาอยู่ร่วมชายคาเดียวกันกับบุตรชาย เพราะหวาดกลัวคำพยากรณ์จากท่านหมอดู

“มีเพียงสิ่งเดียว”

“...” หานฉิงอี้เลิกคิ้วเป็นเชิงบอกให้พูดต่อ

“ข้าจะพาหานลั่วซานออกไปด้วย”

“เหลวไหลอันใด ลั่วซานคือบุตรชายข้า เจ้าจะพาไปไม่ได้!!” คนที่กล่าวคือ มู่ฉิงเย่ มารดาเลี้ยงแสนประเสริฐ นางเบิกตากว้างจ้องหน้าหานลั่วอี้เขม็ง ความรู้สึกไม่ชอบใจฉายชัดในดวงตา

“เช่นนั้นข้าก็จะไม่แยกบ้าน ปล่อยให้พินาศกันไปทั้งครอบครัวตามคำทำนายไปเสีย” นางเม้มปาก อ้ำอึ้งพูดอะไรไม่ออก ได้แต่จ้องหานลั่วอี้เขม็ง สายตาเผยความเคียดแค้น

หานลั่วอี้ยกยิ้มมุมปาก มองสายตาเกลียดชังไม่ปิดบังของมารดาเลี้ยง คิดว่าเขาไม่ตะขิดตะขวงใจอันใดเกี่ยวกับนางงั้นหรือ? ในเมื่อหลังจากเขาป่วยได้ไม่นาน หานลั่วซานก็เกิดล้มป่วยกะทันหัน ทั้งยังหลับไม่ได้สติ สตรีผู้นี้ต้องทำอันใดบางอย่างกับหานลั่วซาน

หานลั่วซานคือบุตรชายคนเล็กของ หานฉิงอี้กับมู่ฉิงเย่ ภรรยาหลวงของหานฉิงอี้ ทั้งยังเป็นแม่ใหญ่ของหานลั่วอี้ ส่วนมารดาเขานั้นเสียชีวิตหลังจากชายหนุ่มเกิดได้เพียงสิบปี

ทั้งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกันเพียงแค่สายเลือดทางฝั่งบิดาแล้วเหตุใดหานลั่วอี้ถึงต้องการนำเด็กน้อยวัยหกขวบไปด้วย เรื่องนี้ต้องเล่าย้อนไปอีกหลายหน้า เพราะฉะนั้นแล้วจะละเว้นเอาไว้เสียก่อน

“แม่ใหญ่ท่านจะยอมให้ ลั่วเซียง ลั่วเหมยพังพินาศเพราะข้าจริงหรือ? ข้าเพียงต้องการลั่วซาน หากท่านยินยอมต่อจากนี้ก็ให้ถือว่าข้ามิใช่คนตระกูลหานอีกต่อไป” สองคนที่หานลั่วอี้กล่าวถึงคือ บุตรชายคนโตและบุตรสาวคนรองของนาง ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องชายและน้องสาวของเขา

ส่วนหานลั่วซานคือน้องคนสุดท้อง

มู่ฉิงเย่มีบุตรด้วยกันสามคน คนโตหานลั่วเซียงอายุสิบแปด เป็นฝึกปราณขั้นสาม คนรองหานลั่วเหมยบุตรสาวคนรองอายุสิบสี่เป็นฝึกปราณขั้นสอง คนเล็กหานลั่วซาน ไม่สามารถฝึกปราณได้

มู่ฉิงเย่อึกอักไม่ตอบนัยน์ตาฉายแววดีใจอยู่หลานส่วนผสมปนเปไปกับความกังวลใจ หวาดหวั่น นางไม่ต้องการมอบลั่วซานให้บุรุษตรงหน้า ถึงอย่างนั้นก็ยังน้อยกว่าความรู้สึกอยากขับไล่ลูกเลี้ยงออกไป

เมื่อไม่อาจแสดงเป็นมารดาผู้ร้ายกาจได้ มู่ฉิงเย่จึงใช้น้ำตาเข้าสู้

“ท่านพี่ น้องควรทำเช่นไรดี ลั่วซานคือบุตรคนเล็กของข้า ตอนนี้ก็นอนหลับไม่ได้สติ จะปล่อยให้ลั่วอี้พาไปด้วยเช่นนี้...” ประโยคหลังนางไม่ได้พูดออกมา หันหน้าไปซบไหล่หานฉิงอี้ท่าทางน่าสงสาร มือเรียวสวยยกขึ้นปิดหน้าทำทีเป็นร้องไห้

เยว่ฉีที่ยืนอยู่หลังรถเข็นตั้งแต่ต้นไม่พูดอะไรสักคำ เอาแต่ลอบมองคนนั้นที คนนี้ที พวกคนทั้งหลายที่นั่งมองคนเล่นละครพ่อแม่ลูกด้วยสายตาสนุกสนาน

คนครอบครัวนี้ยังไงกัน!?

ในความทรงจำของนาง โลกนี้คือโลกแห่งการฝึกปราณบำเพ็ญเพียร อีกทั้งยังมีการแบ่งแยกออกเป็นหลายระดับ ที่นางรู้มีเพียงข้อมูลคร่าว ๆ เท่านั้น ในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมคล้ายมีเมฆหมอกบดบังความทรงจำส่วนใหญ่เอาไว้ ทำให้รู้เรื่องเกี่ยวกับการฝึกปราณไม่แน่ชัดนัก

ทว่าเยว่ฉีก็หาได้รีบร้อนถึงแม้ร่างนี้จะไม่รู้ หานลั่วอี้จะต้องรู้ ไว้ถามหลังออกจากบ้านหลังนี้แล้วก็ไม่สาย สองมือเรียวผอมแห้งจับที่เข็นรถไว้แน่น ในใจมีความรู้สึกมากมายไหลเวียนอยู่

หานลั่วอี้มองสองสามีภรรยาเล่นบทรักใคร่เอ็นดู บิดายกมือตบ ๆ ไหล่ภรรยาจ้องมาที่เขาเขม็งราวกับจะกล่าวหาว่าเป็นต้นเหตุทำให้สตรีของตนร้องไห้

สวรรค์!! เขายังมิได้ทำอันใดให้นางเจ็บปวด ลั่วซานแท้จริงก็ใช่ว่านางจะให้ความสนใจสมกับเป็นมารดา ความรักของนางล้วนมอบให้บุตรชายบุตรสาวทั้งสองไปหมดแล้ว

“ท่านพ่อข้าต้องการเพียงหนึ่งแลกกับคนทั้งหมด ท่านควรรีบตัดสินใจ” บ้านแบบนี้เขาเองก็ไม่อยากจะอยู่แล้วเช่นกัน

หานฉิงอี้ใช้เวลาคิดไม่นาน ระหว่างคนทั้งตระกูล บุตรชายบุตรสาวอนาคตไกลกับบุตรคนเล็กที่นอนเป็นผัก เขาย่อมเลือกสิ่งที่ดีที่สุด

หานฉิงอี้ถอนหายใจคล้ายกับไม่ต้องการให้เรื่องราวเช่นนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ย่อมต้องจัดการให้ดี

“เอาละข้ายอมให้เจ้านำตัวลั่วซานไปด้วย ในเมื่อเจ้าเลือกแล้วข้าก็ไม่คิดจะขัดขวางคำขอสุดท้ายของเจ้า และข้าเห็นว่าเจ้าออกไปเพียงตัวเปล่าก็ใช่ว่าจะดี คนเขาจะมองว่าตระกูลหานใจไม้ไส้ระกำ เช่นนั้นข้าจะมอบที่ดินพร้อมบ้านให้พวกเจ้า ส่วนที่นา...” หยุดคำพูดเล็กน้อยจ้องมองขาทั้งสองของบุตร กล่าวต่อ

“ในเมื่อเจ้าเดินเหินไม่สะดวก อีกทั้งภรรยาก็ร่างกายซูบผอมคงไม่มีกำลังพอในการดูแล ข้าเห็นสมควรว่าไม่จำเป็นต้องมอบให้” แม้จะชักแม่น้ำทั้งห้ามากล่าวอ้างแต่ใจความจริง ๆ เพียงไม่ต้องการกลายเป็นที่ครหาของผู้คน

ดวงตาบุรุษหนุ่มเข้มขึ้นมองบิดาด้วยสายตาผิดหวังไม่นานก็สลายหายไป

ตนยังจะคาดหวังอันใดได้อีก ในดินแดนที่การฝึกปราณถือเป็นที่สุดกับคนที่ถูกตัดสิน ให้ไม่อาจฝึกปราณต่อได้ ไม่ต่างอันใดกับคนธรรมดา ไม่มีค่าให้เอ่ยถึง

“แต่ท่านพี่...” มู่ฉิงเย่ยังคงทำทีเป็นไม่ต้องการ แต่เวลาที่มองมากับเผยแววตาเยาะเย้ยดูแคลน

เยว่ฉีไม่เข้าใจว่าเหตุใดหานลั่วอี้ถึงต้องการนำตัวผู้ป่วยติดเตียงไปด้วย แค่พวกเขาสองคนก็แทบจะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ทำไมต้องนำภาระไปเพิ่ม ทว่าในเมื่อหานลั่วอี้ตัดสินใจเช่นนั้นนางก็น้อมรับ เพราะมีความเชื่อว่าบุรุษผู้นี้มิใช่คนทำอะไรไม่รู้จักคิด

“เอาละน้องหญิงที่พี่ทำเช่นนี้ก็เพื่อลูก ๆ ของเรา” นางอึกอักไม่ยินยอม ซบหน้าลงกับอกสามีอีกครั้ง

หานฉิงอี้ปวดใจยิ่งนักเมื่อเห็นน้ำตาภรรยา เขาหันไปหาบุตรชายคนรองบอกกล่าวให้พามารดาไปพักเสียก่อน ทั้งยังบอกให้หานลั่วเหมยตามไปด้วย

ภายในห้องจึงเหลือเพียงท่านลุง ป้าสะใภ้ใหญ่ ป้าสะใภ้รอง ท่านอา และอาสะใภ้ ส่วนลูก ๆ ของพวกท่านล้วนถูกกันไม่ให้เข้ามา

“หานลั่วอี้ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้วข้าจะเขียนหนังสือสัญญาแยกบ้าน นอกจากข้อเรียกร้องเรื่องลั่วซานเจ้าไม่มีสิ่งใดต้องการอีกใช่หรือไม่” หานลั่วอี้กำลังจะตอบตกลงทว่ากลับถูกมือคู่หนึ่งยื่นมาสัมผัสหลังฝ่ามือเข้าเสียก่อน

เขาเงยหน้าขึ้นมอง เป็นภรรยาที่เงียบอยู่ตลอด

เขามองนางเป็นเชิงถาม น้ำเสียงสดใสไพเราะทว่ายังคงติดแหบแห้งเล็กน้อยเอ่ยขึ้น

“ท่านพี่ในเมื่อแยกบ้านแล้วเช่นนั้นก็ควรทำให้เด็ดขาด ต่อจากนี้ทั้งสองครอบครัวไปมาหาสู่กันให้น้อยหน่อย หากไม่ใช่เรื่องใหญ่ก็ไม่ต้องไปมาหาสู่กัน รวมไปถึงเรื่องภายในบ้านห้ามมิให้ยุ่งเกี่ยว แทรกแซงกันเป็นอันขาด ท่านคิดเห็นเช่นไร” หานลั่วอี้มองภรรยาด้วยสีหน้าประหลาดใจ ไม่คิดว่านางจะมีความคิดรอบคอบถึงเพียงนี้ หลังเขาไตร่ตรองดูแล้วก็เห็นว่าสมควรจึงพยักหน้าตกลง

เมื่อก่อนรักคนในครอบครัวมากแค่ไหน มาตอนนี้เขาได้เห็นน้ำใสใจจริงจากคนที่เรียกว่าครอบครัวแล้ว ถึงจะยังรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง แต่ขีดเส้นแบ่งแยกให้ชัดเจนเสียแต่เนิ่น ๆ ย่อมดีกว่า

เขาก็ไม่อยากสนิทสนมกับครอบครัวที่ละทิ้งเขาทันทีที่ไร้ประโยชน์

หานลั่วอี้พยักหน้าเห็นด้วย มองสายตาแน่วแน่จริงจัง หลังตอบตกลงดวงตาทรงเสน่ห์คู่นั้นพลันถูกเคลือบด้วยรอยยิ้มจาง ๆ

“ท่านพ่อเขียนลงไปตามที่นางกล่าว”

หานฉิงอี้ไม่เอ่ยแย้ง สิ่งที่นางกล่าวมาล้วนเป็นสิ่งที่เขาต้องการ ไม่ต้องพูดออกไปเองย่อมดีที่สุด ผู้คนจะได้ไม่ติฉินนินทาว่าเขาทำตัวร้ายกาจต่อบุตรพิการ

หานฉิงอี้จรดปลายพู่กันเขียนตามสะใภ้กล่าว หลังสัญญาถูกเขียนขึ้นมาเรียบร้อยก็คัดลอกเป็นสองฉบับ

หานลั่วอี้อ่านทวนเนื้อหาในสัญญาอีกครั้งก่อนพยักหน้า จากนั้นคนทั้งสองก็กรีดนิ้วหยดเลือดลงบนสัญญา จากนั้นประทับลายนิ้วมือลงไป

สัญญาตรงหน้าพลันเปล่งประกายสีทองลอยขึ้นกลางอากาศไม่นานก็หล่นลงบนโต๊ะเช่นเดิม

เป็นอันเสร็จสิ้นการทำสัญญา

สัญญาถูกแยกเก็บที่หานลั่วอี้ฉบับหนึ่ง หานฉิงอี้ฉบับหนึ่ง เมื่อสัญญาที่เขาไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธเสร็จสบูรณ์ ต่อจากนี้ก็ถึงเวลาย้ายออกเสียที

แม้ไม่รู้ว่าภายภาคหน้าชีวิตจะเป็นเช่นไร ก็ได้แต่ภาวนาให้ดีกว่ายามอยู่ในจวนหลังนี้ อย่างน้อยก็ไม่ต้องทนกับการเลือกปฏิบัติและสายตาดูถูกดูแคลนจากผู้ที่ได้ชื่อว่า ครอบครัว

เยว่ฉีมองท่าทางเด็ดเดี่ยวของสามีก็ได้แต่รู้สึกปวดใจ ถึงจะไม่ใช่เรื่องของนาง แต่การถูกครอบครัวหันหลังให้ไม่ว่าใครก็คงเจ็บปวด แม้จะไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ ทว่าความรู้สึกเจ็บปวดซึ่งเคลือบอยู่จาง ๆ รอบดวงตาโศกเศร้าคู่นั้นนางกลับเข้าใจได้เป็นอย่างดี

ชาติก่อนเยว่ฉีก็มีครอบครัวถึงจะอยู่ด้วยกันได้ไม่นานทั้งสองก็จากกันไปเพราะอุบัติเหตุ แต่การจากไปของนางยังดีกว่าการแยกจากแบบที่หานลั่วอี้เผชิญ

มือเรียวสวยพารถเข็นไม้เคลื่อนตัวออกมาด้านนอกห้องโถง ตั้งใจแน่วแน่ว่าต่อให้ต้องลำบากจนตายก็ไม่คิดจะให้หานลั่วอี้กลับมายังบ้านหลังนี้ ทั้งนางยังเชื่อว่าเขาไม่คิดจะหวนกลับมาเช่นเดียวกัน

แผ่นหลังเด็ดเดี่ยวของนางบดบังแผ่นหลังงองุ้มเล็กน้อยของหานลั่วอี้ ทำให้คนในห้องมองเห็นเพียงแผ่นหลังตั้งตรงเกินกว่าที่สตรีนางหนึ่งจะมี

ไม่มีใครคาดคิดว่า คนที่พวกเขาผลักออกไปด้วยสองมือคู่นี้จะมีชีวิตที่ดีเกินกว่าพวกเขาจะยื่นมือออกไปหาได้

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 14 พืชวิญญาณราคาสูง

    หลังรถเทียมลาจอดเทียบบนลานจอด คนทั้งหมดต่างทยอยลงจากรถ ครอบครัวเฟิงและเยว่ฉีก้าวลงมาหลังใครเขา รถจนคนก่อนหน้าออกไปหมดแล้วถึงได้ก้าวลงมาสองข้างถนนของเมืองโม่ฉียังคงครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คนไม่ต่างจากไม่กี่วันก่อนหน้า ทว่าช่างแปลกตาในความคิดนางคงคุ้นเคยกับธรรมชาติในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเข้าเสียแล้ว“อยากไปที่ใดก่อนหรือไม่?” หลัวหรูเอ่ยถาม ตอนที่เห็นสายตาเป็นประกายตื่นเต้นของเด็กสาวเยว่ฉีหันหน้าไปหายิ้มบางพลางตอบ“พี่หลัวข้าต้องการไปขายพืชวิญญาณก่อน จากนั้นจะไปซื้อของเข้าบ้าน บ้านข้าตอนนี้ก็อย่างที่พวกท่านทราบ” เยว่ฉีพูดอย่างไม่ใส่ใจ ทว่าคำพูดของนางกลับทำให้ครอบครัวเฟิงเผยสีหน้าซับซ้อนครอบครัวสามีเยว่ฉีชั่งใจร้ายเสียจริง ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้เรื่องราวตื้นลึกหนาบาง ทว่าการปล่อยให้สตรีร่างกายซูบผอมอยู่กินกับบุรุษขาพิการเพียงลำพัง แค่คิดก็พาให้รู้สึกขมเฝื่อนขึ้นมาในใจ“ข้าจะดูแลเจ้าให้ดี” เยว่ฉีมองหลัวหรู กะพริบตาปริบ ๆ ไม่เข้าใจว่าที่นางเอ่ยออกมาหมายถึงอะไร แต่ก็พยักหน้าตกลงยิ้ม ๆ“ไปกันพี่หลัวข้าอยากจะเห็นร้านรับซื้อพืชวิญญาณแล้ว” และคนทั้งสามก็เดินทางไปยังร้านขายและรับซื้อพืชวิญญาณระ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 13 เข้าเมือง

    หานลั่วอี้บอกเยว่ฉีนำหยกวิญญาณไปขาย ทั้งยังแนะนำร้านที่ไว้ใจได้ให้ด้วยวันนี้เยว่ฉีมีแผนจะเดินทางไปขายพืชวิญญาณในเมืองพร้อมกับเพื่อนบ้านทั้งสอง นางจึงตื่นแต่เช้าตรู่ขึ้นมาเตรียมอาหารรวมไปถึงยาสำหรับหานลั่วซานเช่นเดียวกับเมื่อวานก่อนจะออกจากบ้านนางเตรียมน้ำแห่งชีวิตให้หานลั่วอี้หนึ่งขวด ดูจากที่อีกฝ่ายมีทีท่าคล้ายรอคอย ยามขวดหยกปรากฏตรงหน้าก็สามารถคาดเดาได้ว่า น้ำแห่งชีวิตมีประโยชน์ต่อสามีจริงเท่านี้ก็ยืนยันคำพูดของผู้อาวุโสได้แล้วผู้อาวุโสหมิงยังบอกกับนางอีกว่าหลังผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนให้เพิ่มปริมาณน้ำแห่งชีวิตในตอนที่เจือจาง จากเดิมหนึ่งหยดต่อหนึ่งถ้วยก็เพิ่มเป็นสองหยดต่อหนึ่งถ้วย ทำเช่นนี้จะช่วยให้ร่างกายหานลั่วอี้ปรับตัวเข้ากับความพิเศษของน้ำแห่งชีวิตอย่างช้า ๆเยว่ฉีย้ำกับสามีเรื่องลั่วซานอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากประตูบ้าน อีกฝ่ายเข็นรถมาส่งจนถึงหน้าประตูมองส่งนางขึ้นรถเทียมลาของหมู่บ้านจนลับตาถึงได้ถอนสายตากลับ ปิดประตูลงเข็นรถกลับเข้าบ้านทุกการกระทำของเขาตกอยู่ในสายตาของใครบางคน คนคนนั้นแอบมองจนเป้าหมายลับสายตาถึงได้ถอยออกมาทำไมพืชวิญญาณที่เก็บได้เมื่อวานจึงต้องมาขายในวันต่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 12 ท่านลองผ่าดู

    บ่ายวันเดียวกันเยว่ฉีกำลังง่วนอยู่กับก้อนหินที่ได้รับมา นางกำลังใช้ความคิดว่าจะทำเช่นไรถึงจะผ่าหินออกเป็นสองส่วนได้ เยว่ฉีรู้สึกว่าต้องมีความพิเศษบางอย่างซ่อนอยู่ในหินก้อนนี้แล้วเหตุใดนางถึงไม่ขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสหมิง? เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตอนที่ยังอยู่บนเขา หลังผู้อาวุโสใช้พลังจิตขุดพืชวิญญาณออกมาทั้งหมดและช่วยเปิดประตูให้เยว่ฉีออกมาจากถ้ำ เขาก็หลับไปไม่พูดอันใดอีก ก่อนจะไปได้บอกกับนางว่าจะไม่อยู่สองสามวันเพราะใช้พลังไปมากรู้สึกเหนื่อยไม่น้อยสรุปคือ ใช้พลังเกินขีดจำกัดจนหลับไปเยว่ฉีวางก้อนหินขนาดประมาณหัวเด็กลงบนพื้น ก่อนจะมองหาของที่พอจะใช้ทุบก้อนหินให้แตกได้ ในระหว่างที่กำลังมองหาตัวช่วยปลายสายตาพลันเหลือบไปเห็นปังตอขึ้นสนิมด้ามหนึ่งวางพิงอยู่ข้างเตาเย่วฉีลุกขึ้นยืนจากท่านั่งขัดสมาธิ ก้าวฉับ ๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงเป้าหมายก้มลงหยิบปังตอที่ว่าขึ้นมา เดินกลับมานั่งที่เดิม“ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้!!” หญิงสาวบ่นพึมพำใช้สองมือประคองปังตอเดินกลับมานั่งคุกเข่าลงตรงหน้าก้อนหินสองมือจับปลายด้ามจับของปังตอเอาไว้แน่น ยกขึ้นเหนือศีรษะใช้แรงทั้งหมดที่มีลงไปกับการฟันในครั้งนี้เพล้ง!!!ปั

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 11 สะดุดก้อนหิน

    ดินแดนเฟยฮ่าว มีผู้ฝึกปราณที่เก่งกาจที่สุดอยู่ที่ฝึกปราณขั้นเก้า ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการพัฒนาตนเองให้เก่งกาจไปมากกว่านี้ ทว่าด้วยทรัพยากรที่มีจำกัดทำให้ความเร็วในการฝึกปราณช้าลงยิ่งระดับสูงความต้องการในทรัพยากรจะยิ่งมากขึ้นและยังหมายถึงเงินที่ต้องใช้จ่ายออกไปหากต้องการไปให้สูงกว่าต้องเดินทางไปยังดินแดนที่สูงกว่า ทว่าจะสามารถผ่านเข้าไปได้หรือไม่ ก็ต้องดูที่ความสามารถของคนคนนั้นที่เยว่ฉีไม่ทราบเพราะในหนังสือที่ผู้อาวุโสให้มามีเพียงภาพและคำอธิบายลักษณะ รวมไปถึงระดับของพืชวิญญาณ ไม่ได้กล่าวถึงการนำไปใช้สองสามีภรรยามึนงงอยู่บ้างว่าเหตุใดเยว่ฉีถึงได้ไม่มีความรู้เกี่ยวกับพืชวิญญาณมากถึงเพียงนี้ แต่ไม่นานก็สลัดความคิดนั้นไป โลกนี้ช่างกว้างใหญ่นักบางทีคนบางคนก็ใช่จะต้องรู้ไปเสียทุกเรื่อง“พี่หลัวพืชวิญญาณต้นนี้ขายได้เท่าใด”“ราคาเริ่มต้นอยู่ที่สองตำลึงสูงสุดที่สี่ตำลึงขึ้นอยู่กับคุณภาพว่าสูงหรือต่ำ”สี่ตำลึง !!!นางสามารถหาเงินได้ถึงสี่ตำลึงในเวลาเพียงสองเค่อไม่มีสิ่งใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว“พี่หลัวพวกท่านหาพืชวิญญาณได้หรือไม่” ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้า“โชคร้ายที่ข้ากับพี่เฟิงไม่พบพืชวิ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 10 ลงเขา

    “ผู้อาวุโส ท่านพอจะมีทางช่วยข้าหรือไม่?”‘…’“ผู้อาวุโส?”‘…’ ยังคงไม่ตอบผู้อาวุโสหมิงคงไม่ได้หมายความว่าให้นางขุดพืชวิญญาณทั้งหมดขึ้นมาด้วยตนเองใช่ไหม? ดูจากพืชวิญญาณสองต้นก่อนหน้านางยังใช้เวลาไปถึงครึ่งชั่วยาม !! หากต้องใช้มือขุดพืชวิญญาณทั้งหมดออกมา มิใช่ว่าต้องใช้เวลาเป็นเดือนเลยหรือ? นางมีเวลาว่างขนาดนั้นที่ไหนกันผู้อาวุโสหมิงคงไม่ใจร้ายกับนางมากเกินใช่ไหม?‘บ่นข้าพอหรือยัง?’รู้ได้ยังไงว่านางกำลังบ่นให้ จะเฉียบแหลมเกินไปแล้ว !!ถึงในใจเยว่ฉีจะบ่นไปร้อยแปดพันเก้า ทว่ายามเอ่ยออกมากับมีนัยประจบอยู่หลายส่วน “ผู้อาวุโสข้าหาได้คิดเช่นนั้น ท่านอย่าเข้าใจข้าผิด”ท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยประจบประแจงของเยว่ฉีทำผู้อาวุโส หมิงหมั่นไส้ เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะยืมร่างหญิงสาวเป็นสื่อกลางอีกครั้งมือเรียวสวยยกขึ้นตรงหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่พืชวิญญาณทั้งหมดบนพื้นที่กว่าหนึ่งหมู่มีประกายแสงสีทองห้อมล้อมเอาไว้ทั้งต้นผู้อาวุโสหมิงใช้พลังจิตของตนในการโอบอุ้มและขุดพืชวิญญาณทั้งหมดออกมาในครั้งเดียว พืชวิญญาณที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลังจิตปรากฏขึ้นบนอากาศไม่มีส่วนใดเสียหาย กระทั่งดินซึ่งติดอยู่ตามรากยั

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 9 โชคบนภูเขา

    เยว่ฉีอาศัยความทรงจำที่ได้จากการอ่านหนังสือเมื่อคืนมองหาไปเรื่อย ๆ พืชวิญญาณไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายหรือมีอยู่เกลื่อนกลาด เพราะฉะนั้นหลังผ่านมาสองเค่อแล้วเยว่ฉีจึงยังหาไม่พบแม้สักต้นทว่าในระหว่างที่นางกำลังจะเดินไปยังทิศทางอื่น พลันได้ยินเสียงผู้อาวุโสดังขึ้นในความคิด‘ตรงไปด้านหน้าครึ่งเค่อฝั่งขวามือ’“ผู้อาวุโสตรงนั้นมีอันใดหรือ” นางคล้ายได้ยินเสียงถอนหายใจเบา ๆ ดังลอดออกมา ก่อนจะได้ยินเสียงผู้อาวุโสเอ่ย‘เดินไปตามที่ข้าบอกเจ้าจะพบสิ่งที่ต้องการ’ ดวงตางดงามเป็นประกาย จากคำพูดของผู้อาวุโสสามารถคาดเดาได้ว่าต้องเป็นพืชวิญญาณวิญญาณอย่างแน่นอนเยว่ฉีเดินไปตามทางที่ผู้อาวุโสบอกก่อนจะพบก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง กวาดตามองโดยรอบ ก่อนจะเดินวนรอบก้อนหินก็ไม่พบพืชวิญญาณแม้สักต้น หัวคิ้วพลันขมวดเข้าหากันคล้ายผู้อาวุโสอ่านความคิดนางออก จึงเปรยขึ้นมาว่า‘วางมือลงบนก้อนหิน ข้าจะใช้เจ้าเป็นตัวกลางในการเปิดม่านพลัง’เยว่ฉีทำตามอย่างว่าง่ายไม่นานก็เห็นว่าก้อนหินซึ่งดูไม่มีอะไรเกิดช่องว่างขนาดเท่าคนขึ้นตรงหน้าพลังพิเศษสุดยอดจริง ๆ“ผู้อาวุโสหมิงท่านรู้ได้เช่นไรว่าตรงหน้ามีการร่ายคาถาอำพรางเอาไว้” แม้เยว่

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status