Beranda / รักโบราณ / ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ / ตอนที่ 3 บ้านหลังน้อยกับสามชีวิต

Share

ตอนที่ 3 บ้านหลังน้อยกับสามชีวิต

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-15 16:19:40

รถม้าแล่นไปตามทาง สองข้างถนนจากเดิมได้ยินเสียงพูดคุยจอแจของผู้คนหลังผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วยามความวุ่นวายของบ้านเมืองก็ค่อย ๆ จางหายเหลือไว้เพียงความเงียบสงบและท่วงทำนองจากธรรมชาติ

เยว่ฉีเลิกผ้าม่านกั้นหน้าต่างขึ้นมองออกไปยังทิวทัศน์ซึ่งประดับประดาไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ป่าไม้เขียวชอุ่ม มองดูธรรมชาติที่ห่างไกลจากความเจริญ

ปลายทางของรถม้าคือหมู่บ้านชวีซาน หมู่บ้านชนบทตั้งห่างออกไปจากเมืองโม่ฉีหนึ่งชั่วยาม ซึ่งแต่เดิมคือที่ตั้งของจวนตระกูลหาน

“ธรรมชาติก็ไม่เลว มีคำกล่าวว่าธรรมชาติช่วยบำบัดผู้ป่วย”

“บำบัด?” คำพูดไม่คุ้นหูชวนให้บุรุษตรงหน้าสงสัย จึงเอ่ยถาม

“บำบัด คือ การรักษา ว่ากันว่าธรรมชาติช่วยรักษาผู้คนได้” เยว่ฉีไม่คิดปิดบังคำพูดไม่คุ้นชิน เอ่ยอธิบายอย่างใจเย็น รอยยิ้มประดับดวงหน้า น้ำเสียงอ่อนโยน

“มีเรื่องเช่นนี้ด้วย”

“ในความทรงจำของข้าล้วนมีเรื่องเช่นนี้ ถึงจะไม่สามารถรักษาได้ทุกอาการเจ็บป่วย แต่สภาพจิตใจกลับสามารถ” ยามเอ่ยประโยคนี้นัยน์ตาเยว่ฉีมีประกายความคิดถึงเคลื่อนผ่านบางเบา ทำให้หานลั่วฉีไม่อาจสัมผัสถึง

ด้านหลังรถม้าของทั้งคู่มีรถม้าแล่นตามมาด้วยสองคัน หนึ่งคันคือรถม้าของหานลั่วซาน อีกคันคือรถม้าขนสัมภาระซึ่งมีเพียงน้อยนิดของผู้เคยเป็นถึงคุณชายใหญ่

ใช้เวลาร่วมหนึ่งชั่วยามกับอีกสองเค่อทั้งสามคนก็เดินทางมาถึงหมู่บ้านชวีซาน เพราะต้องคอยระวังไม่ให้กระทบกระเทือนร่างกายผู้ป่วยรถม้าจึงเดินทางช้ากว่าปกติเล็กน้อย

โลกที่เยว่ฉีคนใหม่มาอยู่เรียกว่า ทวีปหลงเหริน แบ่งออกเป็นสามดินแดนใหญ่ คือดินแดนระดับล่างเฟยฮ่าว ดินแดนระดับกลางเทียนหลง และสุดท้ายดินแดนระดับสูงหลินหลง

จวนตระกูลหานที่เยว่ฉีเคยอยู่ตั้งอยู่บนดินแดนระดับล่างเฟยฮ่าว เมืองโม่ฉี ซึ่งห่างจากหมู่บ้านชวีซานหนึ่งชั่วยาม

ยิ่งระดับการอยู่อาศัยสูงเท่าใด ระดับการฝึกปราณจะยิ่งสูงมากเท่านั้น ทั้งจำนวนผู้ฝึกปราณก็จะมีมากขึ้น ด้วยทรัพยากรที่มีมากกว่าทั้งยังมีระดับสูงกว่า

ดินแดนระดับต่ำมักจะหาทรัพยากรที่ใช้ในการฝึกปราณได้อย่างจำกัด อีกทั้งของระดับสูงยังหายากในดินแดนระดับล่าง สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้ผู้ฝึกปราณก้าวขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นได้ยาก ผู้ฝึกปราณส่วนใหญ่จึงต้องพยายามอย่างหนักเพื่อจะขึ้นไปยังดินแดนที่สูงกว่า

แต่ไม่ว่าจะเป็นดินแดนระดับใดก็ล้วนแล้วแต่มีการแข่งขันสูงไม่ต่างกัน

นอกจากพรสวรรค์ความสามารถแล้วสิ่งที่ผู้คนที่นี่คิดว่าควรจะมีมากที่สุดคือ โชค โชควาสนาในการพบพานเครื่องมือซึ่งช่วยในการฝึกปราณ รวมไปถึงทรัพย์สินพอให้ใช้จ่ายออกไปได้อย่างไม่จำกัด

รถม้าหยุดแล้ว เยว่ฉีมองกำแพงเก่าโทรมตรงหน้าพลันขมวดคิ้ว

คงไม่ใช่บ้านหลังนี้ใช่ไหม?

ไม่ต้องให้นางรอคำตอบนานเกินไป เมื่อคนขับรถม้าพูดขึ้นมาว่าถึงบ้านพวกเขาแล้ว

เยว่ฉีพลันขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน คนตระกูลหานแสนประเสริฐอวดอ้างว่าตนเป็นผู้ฝึกปราณมีคุณธรรม หวาดกลัวชื่อเสียงจะเป็นที่กล่าวถึง ดูการกระทำแต่ละอย่าง สมควรโดนด่าสามวันแปดวัน

เยว่ฉีถอนหายใจยาว หันไปมองสามี

คนผู้นี้ต่างหากที่ควรจะรู้สึกมากกว่านาง ทว่าพอได้สบสายตาหนักแน่นตรงหน้า ความหงุดหงิดในใจพลันสลายลงไปมาก เอ่ยเสียงอบอุ่นเป็นกันเอง

“ก็ดีกว่าบ้านหลังนั้น ถึงจะทรุดโทรมไปบ้างแต่ยังดีที่มีที่ซุกหัวนอน” ยามกล่าวประโยคนี้ใบหน้าเยว่ฉีประดับรอยยิ้มเล็กน้อยอยู่ตลอด

หานลั่วอี้พยักหน้าเห็นด้วย ธรรมชาติของชนบทก็ไม่แย่อย่างที่คิด ทั้งเงียบสงบและเป็นส่วนตัว อาจจะไม่สะดวกสบายเท่าตระกูลใหญ่ที่อยู่อาศัยมาตลอดยี่สิบปี แต่กลับให้ความรู้สึกสบายใจมากกว่าความกดดันเหล่านั้นหลายเท่า

ทั้งคู่ลงมาจากรถม้าแล้ว แม้หานลั่วอี้จะถูกผู้คนกำหนดให้ไม่สามารถฝึกปราณได้ แต่ก็ยังเป็นถึงผู้ฝึกปราณขั้นสาม ในหมู่บ้านนี้ถือได้ว่าอยู่ระดับสูงสุด ก่อนจะป่วยหานลั่วอี้เป็นถึงผู้ฝึกปราณขั้นหก ซึ่งถือได้ว่ามีความสามารถโดดเด่นแต่หลังจากต้องพิษจนเส้นลมปราณเสียหายไปจนถึงขาทั้งสองข้างความสามารถก็ลดลงอย่างมาก และการที่เส้นลมปราณเสียหายยากจะรักษา หมอมีชื่อมากมายจึงพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่อาจรักษาได้ 

เยว่ฉีผลักรถเข็นชายหนุ่มผ่านประตูกำแพงบ้านที่เปิดอ้าไว้ครึ่งหนึ่งเข้าไป นางเข็นรถเข็นไปหยุดไว้ใต้ต้นไม้ข้างกำแพง ก่อนจะพาร่างเดินไปสำรวจดูว่าบ้านพอจะอยู่อาศัยได้หรือไม่

ทันทีที่ผลักบานประตูเข้าไปฝุ่นมากมายก็กระโดดออกมาต้อนรับจนต้องหลบหน้าหนี สำลักไอออกมาอยู่นาน เยว่ฉีเหลือบสายตาเข้าไปสำรวจด้านในอีกครั้ง ไม่มีแสงลอดผ่านลงมาจากหลังคา พยักหน้าพึงพอใจ อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าหลังคาไม่รั่ว ก่อนจะเดินเข้าไปเปิดหน้าต่างออกเป็นอย่างแรก

บ้านหลังน้อยนี้มีห้องอยู่ทั้งหมดสองห้องเพียงพอสำหรับพวกเขาสามคน ถึงจะยังตะขิดตะขวงใจที่ต้องนอนร่วมห้องกับหานลั่วอี้ แต่ยังไงก็ได้ชื่อว่า เป็นสามีภรรยา นอนห้องเดียวกันก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องไม่สมควร

สำรวจบ้านคร่าว ๆ แล้ว เยว่ฉีก็เดินออกมาด้านนอก ข้างบ้านหลังน้อยมีเพิงสำหรับหุงหาอาหารตั้งอยู่ มีเตาสำหรับใช้ทำอาหารและฟืนซึ่งโดนแมลงกัดเจาะจนเป็นรูไปหมดแล้ว ข้างเพิงหญ้ามีบ่อน้ำบ่อหนึ่ง มีฝาไม้ผุ ๆ ปิดเอาไว้ พอเปิดดูน้ำในบ่อยังมีพอให้ใช้ ไม่ต้องลำบากออกไปตักน้ำที่ไหนไกล

ในลานบ้านขนาดเล็กเต็มไปด้วยเถาวัลย์ หญ้า และต้นไม้ ไม่จำเป็นต้องมีคนบอกแค่ดูก็รู้แล้วว่าบ้านหลังนี้ถูกทิ้งร้างมานานแค่ไหน

“ยังดีที่หลังคาไม่เป็นอะไร ทำความสะอาดสักหน่อยก็นอนได้แล้ว มีห้องอยู่สองห้องพอดี พอให้หานลั่วซานได้นอนอย่างสบาย ๆ” ท่าทีไม่ทุกข์ร้อนและคำพูดสบาย ๆ ของเยว่ฉี ไม่น่าเชื่อว่าจะช่วยคลายความอยุติธรรมในใจหานลั่วอี้ได้หลายส่วน

เขามองหน้าภรรยานิ่ง ก่อนจะกล่าวเสียงเนิบช้าหนักแน่น

“เช่นนั้นก็ถือว่าเป็นบ้านที่ดีของเรา” ไม่รู้ว่าเพราะสายตาที่มองมา หรือประโยคคำว่า บ้านของเรากันแน่ ถึงทำให้หัวใจเยว่ฉีอบอุ่นขึ้นมาอย่างน่าประหลาด

ระหว่างที่เยว่ฉีเดินสำรวจบ้าน คนขับรถม้าของตระกูลก็ขนสัมภาระมาไว้ข้างตัวหานลั่วอี้หมดแล้ว มองหีบของที่มีเพียงไม่กี่ใบเยว่ฉีอดทอดถอนใจไม่ได้

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่รถม้ามาจอดหน้ากำแพงบ้านเกือบท้ายหมู่บ้าน ชาวบ้านโดยรอบผ่านไปผ่านมาต่างมองมาด้วยความสงสัยใคร่อยู่ ถึงกับมีบางคนเดินเข้ามาใกล้สอบถามกับคนขับรถม้า ยังดีที่บ่าวเหล่านั้นไม่ได้ปากมาก พูดเพียงว่ามาส่งคนเท่านั้น

ชาวบ้านหลายคนต่างอยากรู้อยากเห็น เพราะพวกเขาบางคนทันได้เห็นว่าในบรรดาคนที่ลงจากรถม้ามา มีคนนั่งรถเข็นคนหนึ่ง และเด็กนอนหลับไม่ได้สติคนหนึ่ง แถมทั้งคู่ยังเป็นบุรุษ ส่วนสตรีที่มีสติดีกับร่างกายผอมแห้ง

พวกเขาไม่กลัวคนเข้ามาใหม่แต่กลัวคนมาสร้างความลำบากให้มากกว่า ชาวบ้านที่บ้านใกล้เคียงบางคนถึงขั้นออกมานั่งหน้าประตูบ้านเพื่อมองสำรวจอย่างจริงจัง

“คุณชายใหญ่ พวกข้าขนของเสร็จแล้วเช่นนั้นขอตัวลา” หานลั่วอี้มองท่าทีเชิงเคารพระคนดูแคลนก็ไม่พูดอะไรพยักหน้าน้อย ๆ ให้คนทั้งสาม

เมื่อคนไปแล้วตอนนี้ก็เหลือเพียงหานลั่วอี้ เยว่ฉี และหานลั่วซานนอนหลับอยู่บนฝูกข้างกายพี่ชาย บุรุษหนุ่มหันหน้าไปมองน้องชายต่างมารดาด้วยสีหน้าหลากหลาย ทว่าในความหมายของสายตากับไม่มีความเคียดแค้นชิงชังปรากฏอยู่

เยว่ฉีสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งสองคน เห็นได้ชัดว่า มารดาเด็กน้อยคนนี้ไม่ได้มีความรู้สึกดีต่อหานลั่วอี้แต่ทำไมเขาถึงได้ดูเป็นห่วงเด็กน้อยคนนี้เสียเหลือเกิน

คนก็ไปแล้ว ตอนนี้ไม่ใช่เวลามามัวสงสัยความสัมพันธ์คนทั้งคู่ ยังมีเวลาอีกมากให้นางได้ถามไถ่เรื่องราวหลายอย่าง ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำเป็นอย่างแรก คือการทำความสะอาดบ้านหลังน้อยนี้ให้พอซุกหัวนอนได้

เยว่ฉีบอกกับหานลั่วอี้ว่าจะไปทำความสะอาดบ้าน ชายหนุ่มต้องการช่วยเหลือ ถึงขาจะใช้การไม่ได้แต่ส่วนอื่น ๆ ยังสามารถใช้งานได้ปกติ แต่เยว่ฉีปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่า หานลั่วซานต้องมีคนคอยดูแล

พอคิดถึงความปลอดภัยของน้องชาย หานลั่วอี้จึงไม่ดึงดันช่วยเหลืออีก ยอมกลับไปอยู่ข้าง ๆ น้องชายแต่โดยดี ส่วนเยว่ฉีก็หันหลังเดินเข้าบ้านไป

หานลั่วอี้ได้แต่มองตามแผ่นหลังภรรยาหายลับเข้าไปในบ้าน นัยน์ตาชายหนุ่มพลันปรากฏคลื่นอารมณ์

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 172 ศึกจัดอันดับรอบสอง [2]

    หญิงสาวตรงหน้ายังคงแย้มยิ้ม ทว่าบรรยากาศกดดันกลับทำให้คนทั้งสามไม่กล้าแม้จะขยับตัว พลังจิตแผ่กระจายออกไป ปกคลุมทั่วทั้งร่าง ก่อนจะควบคุมให้เข้าไปโจมตีจิตของอีกฝ่ายยังไม่ทันจะได้เข้าใกล้กว่าหนึ่งจั้ง คนทั้งสามก็หมดสติล้มลงไปนอนบนพื้นเสียแล้วรอยยิ้มงดงามหดหาย ใบหน้าเผยความรู้สึกเสียดาย หลุบตาลงมองคนทั้งสาม พร้อมเอ่ยออกมาว่า“จบแล้วหรือ?”น้ำเสียงเสียดายถูกเอ่ยออกมา หญิงสาวเอียงคอเล็กน้อยด้วยความสงสัย ก่อนจะหันหลังเดินห่างออกมาตัดสินผู้ชนะบนลานประลอง พร้อมม่านพลังที่จางหายไปทั้งที่เป็นคำพูดและน้ำเสียงเรียบเฉย ไร้ซึ่งความกดดัน แต่กลับสามารถกระตุ้นความรู้สึกของคนที่มองอยู่ด้านบนได้เป็นอย่างดี“สตรีผู้นั้นเป็นใครกัน จัดการได้ยอดเยี่ยมมาก รอยยิ้มของนางทำเอาข้าขนลุกซู่ไปทั้งตัว” อู๋หนิงอันที่มองการแข่งขันอยู่ถึงกับตาแข็งค้าง ไม่คิดว่าสตรีที่ดูไม่มีพิษภัย พอเผยยิ้มร้ายจะทำให้คนตัวแข็งค้าง“ข้าชอบนาง ข้าจะเลือกนางมาเป็นคนของตระกูลข้า !!” อู๋หนิงอันเอ่ยเสียงหนักแน่น ไม่ได้พบเจอสตรีที่มีท่าทีถูกใจนางเช่นนี้มานานแล้ว นางตื่นเต้นจนอยากจะลงไปทักทายเสียตอนนี้“เหอะ คนเช่นนี้ต้องมาที่ตระกูลไท่เท่า

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 171 ศึกจัดอันดับรอบสอง [1]

    เวลาหนึ่งวันไม่ถือว่านาน แต่สำหรับคนที่เข้าร่วมศึกจัดอันดับนั้น เวลาหนึ่งวันคือช่วงเวลาบีบเคล้นพวกเขาให้หายใจลำบากเมื่อการทดสอบรอบแรกสิ้นสุดลง ในที่สุดพวกเขาก็โห่ร้องออกมาได้เสียที ไม่ใช่โห่ร้องออกมาจากความดีใจเพียงอย่างเดียว แต่โห่ร้องออกมาเพราะความโล่งใจ ที่ในที่สุดก็ผ่านรอบแรกมาได้การแข่งขันรอบสองจะถูกจัดขึ้นวันพรุ่งนี้ ยังพอมีเวลาให้เตรียมตัวศิษย์ทั้งหลายเดินทางออกจากลานประลองแล้ว ศิษย์หลายคนมีสีน่าเศร้าสร้อยเพราะไม่ผ่านการแข่งขันรอบแรก หลายคนเอ่ยปลอบเพื่อนที่รู้จักกันพร้อมบอกว่ายังมีการแข่งขันอีกครั้ง สามารถเข้าร่วมได้เสมอ หรือไม่หากมั่นใจในความสามารถตนเองก็สามารถขอท้าสู้คนที่อยู่ในรายชื่อผู้แข็งแกร่งได้ซึ่งถือเป็นสิ่งที่เยว่ฉีเพิ่งได้รู้ตั้งแต่เข้ามาในสำนัก นางไม่เคยได้ใช้เวลาอย่างจริง ๆ จัง ๆ ในสำนักเลย หากไม่เข้าไปฝึกฝนในมิติ ก็เข้าไปฝึกฝนในหุบเขา ขนาดสวนสมุนไพร หรือห้องแรงโน้มถ่วงก็ยังไม่เคยเข้าไปเหยียบเลยสักครั้งหอสมุดยิ่งแล้วใหญ่ อาจารย์บอกว่าในมิติมีหนังสือเพียงพอแล้วไม่จำเป็นต้องไปเสียแต้มกับของแบบนั้นนางผู้ได้ชื่อว่าศิษย์ผู้เชื่อฟังจึงไม่เคยเข้าไปในหอสมุดวันที่สอ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 170 ศึกจัดอันดับรอบแรก [4]

    ฝั่งหวานเว่ยก็มีสภาพไม่ต่างกัน นางกระโดดมายืนข้างเสินเทียน ทั้งสองคนหันหลังเข้าหากัน สายตาแน่วแน่ไม่คิดยอมแพ้ ทั้งที่ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเยว่ฉีผู้นั่งมองเหตุการณ์ยกยิ้มยื่นมือเข้าช่วยเล็กน้อยคงไม่เป็นไรกระมัง ว่าแล้วก็ขยายพลังจิตลงไปด้านล่าง โอบล้อมคนทั้งสิบเอาไว้ อาศัยช่วงที่อีกฝ่ายกำลังได้ใจ โจมตีเข้าไปในจิตให้เสียหลักสองคนที่เหลือมองเห็นความผิดปกติเล็กน้อย อาศัยโอกาสที่เยว่ฉีสร้างให้ โจมตีอีกฝ่ายจนหมดสติ จากนั้นก้มลงเก็บป้ายหยกออกมา“สนุกพอแล้วก็ออกมา” เป็นเสินเทียนที่เอ่ยขึ้น การโจมตีเมื่อสักครู่มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นเยว่ฉี เพราะคงไม่มีคนใจดีที่ไหนยื่นมือเข้าช่วยคนที่ตนไม่รู้จักเขากวาดตามองบริเวณโดยรอบ ก่อนจะมองเห็นเยว่ฉีนั่งแกว่งขาไปมาท่าทางสบายใจอยู่บนกิ่งไม้ ข้างกายนางมีหานลั่วอี้ยืนมองอยู่“สนุกมากไหม? ที่เห็นพวกข้ากำลังเสียเปรียบ”“สนุกมาก ได้เห็นสีหน้าลำบากใจของเจ้าข้ายิ่งมีความสุข” นางเอ่ยยิ้ม ๆ กระโดดลงมาจากต้นไม้ แต่ก่อนร่างกายจะถึงพื้นลมสายหนึ่งก็มารองใต้เท้านางรู้ว่าเป็นฝีมือใคร จึงหันไปเอ่ยขอบคุณเสินเทียนมองทั้งสองคนที่สภาพยังดีอยู่ จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย“พว

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 169 ศึกจัดอันดับรอบแรก [3]

    การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปศิษย์หลายคนถูกคัดออกในเวลาไม่นาน ในขณะที่ศิษย์อีกหลายคนสามารถสะสมแต้มได้ครบ และผ่านเข้ารอบถัดไปสองสามีภรรยาเยว่หานผู้โชคดีได้พบศิษย์เข้ามามอบแต้มให้ถึงมือ ไม่อยากจะเชื่อว่าหลังจากนั้นมาทั้งสองคนจะไม่พบใครอีกเลย“ลั่วอี้พวกเราดวงซวยเกินไปหรือไม่?” หญิงสาวเอ่ยถามด้วยความสงสัยผ่านมาสองชั่วยามแล้วนับตั้งแต่เข้ามาในป่า นอกจากสัตว์อสูรที่เข้ามาหาเรื่องเป็นครั้งคราวแล้ว พวกเขาก็ไม่พบศิษย์คนใดอีกเลย ราวกับว่าไม่มีใครอยู่ในหุบเขาแห่งนี้แล้วบุรุษถูกถามผินหน้ามองภรรยา มุมปากหยักขึ้นเล็กน้อย“ภรรยายังมีเวลาอีกมาก”“ข้ารู้ แต่บางทีก็อดคิดไม่ได้ ท่านไม่คิดว่ามันแปลกหรือ? ผ่านมาสองชั่วยามแล้วนับตั้งแต่เข้ามาในหุบเขา นอกจากสองคู่แรกที่เข้ามาหาเรื่องเอง พวกเรายังไม่พบใครอีกเลย”“บางทีจุดที่พวกเราปรากฏตัวอาจจะห่างไกลจากศิษย์คนอื่น”เยว่ฉีคิดตามแล้วพยักหน้า ถึงอย่างนั้นนางก็ยังสงสัยศิษย์เข้ามาในหุบเขาตั้งมากมาย เหตุใดถึงหาไม่เจอ!!นางอาจจะคิดมากไปเองก็ได้ ยังเหลือเวลาอีกมากกว่าเวลาการแข่งขันจะสิ้นสุดลง ไม่แน่บางทีเดินหน้าต่อไปอีกไม่กี่ก้าวพวกเขาอาจจะพบศิษย์คนอื่น ๆคิดได้ด

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 168 ศึกจัดอันดับรอบแรก [2]

    “ลั่วอี้พวกเราเรียกได้ว่าเป็นที่ชื่นชอบหรือไม่?” เยว่ฉียืนนิ่งอยู่ด้านหลังหานลั่วอี้ ใช้พลังจิตตรวจสอบพื้นที่โดยรอบ ชายหนุ่มสกัดการโจมตีที่พุ่งมาจากทุกทิศทาง สีหน้าเรียบเฉย“ภรรยาพวกเขาคงหมายตาเจ้ากระมัง”“ระหว่างการแข่งขันเนี่ยนะ?! เสียสติไปแล้วหรือ” หญิงสาวส่ายหัว เอ่ยเสียงเรียบ“ท่านจัดการได้หรือไม่? ข้ายังไม่อยากเผยความสามารถเท่าใดนัก”“ภรรยาเจ้าสามารถยืนนิ่งปล่อยให้สามีปกป้อง” เยว่ฉีถึงกับหลุดขำให้ประโยคหวานพูดออกมาด้วยหน้านิ่ง ๆ ได้ยังไงกันนะ เป็นบุรุษที่มีความสามารถเสียจริง“เชิญสามีปกป้องข้า” ว่าจบก็หย่อนตัวลงนั่งบนโขดหินที่ยืนเมื่อสักครู่ คนมาล้อมจู่โจมถึงกับงงงวย ทว่าไม่นานพวกเขาก็เข้าใจแม้จะบอกว่านั่งนิ่งให้ปกป้อง แต่ความจริงแล้วเยว่ฉีกำลังนั่งตรวจสอบว่าพวกเขาทั้งหมดซ่อนตัวอยู่ที่ใด จากนั้นส่งที่อยู่ทั้งหมดเข้าไปในหัวหานลั่วอี้เพื่อยืนยันว่าจุดที่ชายหนุ่มสัมผัสได้กับจุดที่นางเห็นตรงกันจากนั้นลมสายหนึ่งก็พุ่งเข้าจู่โจมคนทั้งสี่จนหมดสติในการโจมตีเดียว“ง่ายกว่าที่คิดเสียอีก” หญิงสาวลุกขึ้นนั่ง ปัด ๆ เศษดินออกจากมือ ยื่นมือออกไปรับป้ายหยกที่หานลั่วอี้ใช้พลังยึดมาทั้งสองคนแ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 167 ศึกจัดอันดับรอบแรก [1]

    หลังผ่านการฝึกฝนอย่างหนักใช้ชีวิตอยู่ในหุบเขาหลังสำนักมานานในที่สุดวันที่พวกเขารอคอยก็มาถึงศึกจัดอันดับเพื่อกลายเป็นหนึ่งในร้อยอันดับผู้แข็งแกร่งได้เริ่มต้นขึ้นแล้วบนลานกว้างเต็มไปด้วยเหล่าศิษย์ที่เข้าร่วมศึกจัดอันดับ ชายหนุ่ม หญิงสาวเลือดร้อนที่ต้องการเข้าชิงหนึ่งในที่นั่งร้อยอันดับแรก ต่างรวมตัวกันอยู่บนลานประลองเหนือพวกเขาขึ้นไปด้านบน อาจารย์อาวุโสพร้อมอาจารย์ท่านอื่น ๆ ต่างยืนเรียงรายด้วยสีหน้ายิ้มแย้มบนที่นั่งพิเศษเช่นเดียวกับตอนแรกนอกจากนั้นยังมีคนจากดินแดนระดับสูงที่กำลังกวาดตามองพวกเขาอยู่สายตาเสาะหาและพิจารณาเหล่านั้นกำลังจับจ้องทุกคนบนลานประลอง“สวัสดีเหล่าเด็กผู้กระหายความแข็งแกร่งในที่สุดศึกจัดอันดับระหว่างศิษย์ด้วยกันเองก็มาถึงแล้ว ครั้งนี้พิเศษกว่าทุกครั้ง เพราะมีศิษย์เข้าร่วมจำนวนมากจึงต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการแข่งขันเล็กน้อย”อาจารย์อาวุโสลอยออกมากลางลานประลองเหนือศิษย์ทั้งหลาย เขาวาดมือบนอากาศครั้งหนึ่ง ป้ายหยกขนาดเท่ากับป้ายชื่อก็ลอยมาตรงหน้าพวกเขา“สิ่งนี้เรียกว่าป้ายหยกประจำตัว บนนั้นจะมีแต้มอยู่สองแต้ม สิ่งที่พวกเจ้าต้องทำมีเพียงอย่างเดียว คือเปลี่ยนแต้มบ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status