Home / รักโบราณ / ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ / ตอนที่ 4 ได้รับของวิเศษที่ก้นถัง

Share

ตอนที่ 4 ได้รับของวิเศษที่ก้นถัง

last update Last Updated: 2025-08-15 21:46:28

เช้าแล้ว

เมื่อวานกว่าเยว่ฉีจะทำความสะอาดบ้านเสร็จเรียบร้อยพอให้นอนได้ก็ใช้เวลาไปไม่น้อย พอเสร็จจากการทำความสะอาดสิ่งที่นางทำต่อจากนั้นคือการหุงหาอาหาร และสิ่งที่ตามมาคือความหนักใจ เยว่ฉีก่อไฟไม่เป็นร้อนให้หานลั่วอี้มาช่วยก่อ

เขาช่วยยังไงนะหรือ? ก็ใช้พลังปราณทำให้ฟืนลุกไหม้ยังไงละ ตอนเห็นใบหน้านิ่ง ๆ ใช้พลังวิเศษจุดไฟให้ เยว่ฉียอมรับเลยว่าไม่อยากจะเชื่อสายตา แต่เมื่อความจริงปรากฏอยู่ตรงหน้าสุดท้ายก็ต้องพยายามทำใจยอมรับว่าโลกที่หลุดเข้ามาอยู่เป็นโลกของพลังวิเศษ

ว่าแต่นางมีพลังพิเศษหรือเปล่า ถ้ามีเหมือนคนในโลกนี้บ้างก็คงจะดี ทว่าจากความทรงจำของเจ้าของร่างดูเหมือนว่าเยว่ฉีจะไม่มีความสามารถดังกล่าว

แต่เยว่ฉีคนก่อนกับเยว่ฉีคนปัจจุบันก็หาใช่คนเดียวกันบางทีคนก่อนไม่มีนางอาจจะมีก็ได้

เยว่ฉีส่ายหัวให้กับความคิดตัวเอง เดินไปยังเพิงข้างบ้าน เริ่มต้นจัดการทำอาหารเช้า

ข้าวในบ้านคือข้าวที่ได้แวะซื้อก่อนจะมาถึงหมู่บ้านชวีซาน ซึ่งเพียงพอสำหรับครึ่งเดือน หลังจากนี้ต้องเข้าเมืองไปซื้อมาอีกรอบ เมื่อวานเยว่ฉีเห็นว่าในหมู่บ้านมีรถเทียมลาวิ่งเข้าออก คิดว่าน่าจะเป็นรถสำหรับรับคนเข้าไปในเมือง

วันนี้เยว่ฉีไม่มีปัญหาเรื่องก่อไฟเหมือนเมื่อวานเพราะนางจุดไฟเอาไว้ทั้งคืน เช้าวันนี้จึงมีไฟพอเป็นเชื้อเพลิงสำหรับทำอาหาร

เยว่ฉีเริ่มจากซาวข้าวหุงข้าวก่อนเป็นอันดับแรก จากนั้นหันไปหยิบเนื้อชิ้นหนึ่งในถังใบเล็กขึ้นมาวางบนเขียงใช้มีดสไลด์เป็นแผ่นบาง ๆ เตรียมทำผัดผักอย่างง่าย

พอเตรียมของสำหรับทำอาหารเรียบร้อยข้าวก็สุกพอดี เยว่ฉียกหม้อข้าวออกจากเตา แล้วเริ่มทำอาหาร ระหว่างที่ง่วนอยู่กับการทำอาหาร หานลั่วอี้ที่ตื่นแล้วไม่เห็นภรรยาอยู่ในห้อง แต่ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวจากด้านนอกจึงเข็นรถเข็นออกมาหา

แผ่นหลังบอบบางขยับเคลื่อนไหวคล่องแคล่วไม่นานก็ได้กลิ่นหอมลอยโชยมาจากจุดที่นางยืนอยู่

หานลั่วอี้ไม่ได้เคลื่อนตัวเข้าไปรบกวนทำเพียงมองอยู่ห่าง ๆ ทว่าดูเหมือนอีกฝ่ายจะสัมผัสสายตาเขาได้ ดวงหน้างดงามติดซูบผอมถึงได้หันมายิ้มให้

“ท่านตื่นแล้ว?” หานลั่วอี้พยักหน้า ผลักรถเข็นเข้าไปใกล้

“ตื่นแล้ว”

“ดียิ่ง ท่านรอข้าไม่นานอาหารจะเสร็จแล้ว หรือท่านจะไปเตรียมโต๊ะรอ?”

“ข้าไปจัดโต๊ะรอ” เยว่ฉีพยักหน้าขึ้นลงปล่อยให้หานลั่วอี้กลับเข้าบ้านไป

นางไม่ได้ปฏิบัติกับอีกฝ่ายเช่นผู้ป่วยคนหนึ่งแต่ปฏิบัติกับเขาเหมือนคนปกติผู้หนึ่งแทน ถึงยังไงหานลั่วอี้ก็คงต้องการเช่นนี้มากกว่า

ดูจากท่าทางแล้วบุรุษผู้นี้ไม่ได้ต้องการให้ผู้อื่นมองตนเช่นคนพิการ

คนไปแล้วเยว่ฉีก็หันมาให้ความสนใจกับอาหารตรงหน้าต่อ ก่อนอื่นนำกระเทียมลงไปเจียวกับน้ำมันให้เหลืองส่งกลิ่นหอม พอกระเทียมได้แล้วก็ใส่หมูลงไปผัด ใช้ตะหลิวคนในกระทะจนหมูเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเล็กน้อยจึงปรุงรสด้วยเกลือ เพราะไม่มีเงินพอซื้อเครื่องปรุงรสอื่น ๆ นางจึงต้องใช้เกลืออย่างเดียวไปก่อน

ผัดหมูกับเครื่องปรุงเข้าด้วยกันจากนั้นใส่ผักลงไปผัดจนผักสุกกำลังพอดีก็ตักใส่จาน

อาหารมีไม่มากเพราะสภาพการเงินไม่ดี ตระกูลหานให้เงินหานลั่วอี้มาเพียงหนึ่งตำลึง ถึงนางจะไม่รู้ว่าหนึ่งตำลึงมากน้อยแค่ไหนในโลกนี้ เพราะความทรงจำของร่างเดิมแทบจะไม่ได้หยิบจับสิ่งที่เรียกว่าเงินเลยสักครั้ง จึงต้องประหยัดเอาไว้ก่อนจะหาเงินเข้าบ้านได้

เยว่ฉีทำผัดผักอย่างเดียวก็ถือเป็นอันเสร็จ ชาติก่อนใช้ชีวิตอยู่หอช่วงเรียนมหาลัยจึงทำอาหารเป็นหลายอย่าง แม้จะไม่ถึงกับเลิศรสเทียบเชฟระดับภัตตาคาร แต่ก็ถือได้ว่าอร่อย

หานลั่วอี้มองอาหารหน้าตาหน้าทานตรงหน้าก็ยิ่งสงสัยในตัวภรรยา เพราะเขารู้ว่าแม่ใหญ่ไม่มีทางหาภรรยาที่เพียบพร้อมด้วยนิสัยและเรื่องในบ้านให้มาแต่งกับเขาเป็นแน่ ทำให้เขาอดคิดไม่ได้ว่าในระหว่างที่นางหลับไม่ได้สติและฟื้นขึ้นมานั้นเกิดเรื่องอันใดหรือไม่

“ท่านทานสิ” หานลั่วอี้พยักหน้า เริ่มทานอาหาร

เขาไม่รังเกียจที่อาหารมีเพียงอย่างเดียว เพราะอาหารจานเดียวตรงหน้ารสชาติอร่อยยิ่งกว่าอาหารมากมายที่เคยทานมาตั้งแต่อดีต อีกทั้งอาหารที่ไม่ได้มีความพิเศษมากมายจานนี้ ก็มาจากภรรยาผู้หนักแน่นที่ยอมมาใช้ชีวิตลำบากไปด้วยกันด้วยความเต็มใจ

เขาไม่คิดว่าเยว่ฉีกำลังเล่นละครตบตา เพราะไม่ว่าจะเป็นคนปั้นหน้าเก่งมากมาจากที่ใด ยามต้องมาใช้ชีวิตเช่นนี้ก็ต้องแสดงสีหน้าออกมาบ้าง ทว่านางกลับมีเพียงรอยยิ้มประดับมุมปากอยู่เสมอ

รสชาติอาหารยังคงอร่อยเหมือนเช่นเมื่อวาน ทั้งสองคนพูดคุยกันพร้อมกับขยับตะเกียบคีบข้าวเข้าปากบรรยากาศกลมเกลียว อบอุ่น

ไม่นานอาหารจานนี้ก็หมดเกลี้ยงทั้งสองคนทานอาหารอิ่มพอดี

หลังทานข้าวทั้งสองก็แยกย้ายกันไป หานลั่วอี้เข้ามาในห้องน้องชายต่างมารดา เด็กชายตัวน้อยยังคงหลับไม่ได้สติทั้งยังไม่รู้ว่าจะฟื้นขึ้นมาเมื่อใด เมื่อวานเขาได้ลองตรวจอาการดูแล้วแต่ไม่พบความผิดปกติ มีเพียงความทรงจำบางส่วนที่มีใครบางคนร่ายคาถาเอาไว้ไม่ให้เขาเข้าไปดูความทรงจำของเด็กน้อย อีกทั้งยังเป็นคาถาที่ทำให้หานลั่วซานนอนหลับสนิทไม่ยอมฟื้น

คิดมาถึงตรงนี้ดวงตาคมเข้มพลันมีประกาย เคียดแค้นวาบผ่าน มือทั้งสองข้างกำเข้าหากันแน่น

สตรีร้ายกาจผู้นั้นเพื่อผลประโยชน์แล้วถึงกับกล้ากระทำเรื่องบางอย่างกับบุตรตัวเอง เขาเชื่อว่าสาเหตุอาการป่วยของหานลั่วซานมาจากมู่ฉิงเย่

คาถาที่ใช้กับหานลั่วซานแข็งแกร่งกว่าพลังที่เขามีทำให้ไม่สามารถใช้พลังคลายคาถาได้ หากเขาไม่กลายเป็นเช่นนี้คงช่วยน้องชายตัวน้อยผู้น่าสงสารได้แล้ว

หานลั่วอี้มองใบหน้าจิ้มลิ้มน่ารักของน้องชาย มือแกร่งยกขึ้นลูบผมเบา ๆ ดวงตาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ก่อนจะถอดถอนใจออกมา

“ลั่วซานเจ้าช่างเป็นเด็กที่เกิดผิดที่ผิดทางเสียจริง”

ในระหว่างที่หานลั่วอี้กำลังนั่งมองและคอยดูแลน้องชายอยู่ทางด้านเยว่ฉีก็กำลังทำความสะอาดเครื่องครัวและถังเก็บน้ำ เมื่อวานมีเวลาไม่พอ หลังทำความสะอาดบ้านนางก็เหนื่อยเกินกว่าจะออกมาทำความสะอาดเพิงทำอาหาร จึงทำความสะอาดเพียงคร่าว ๆ มาวันนี้จึงต้องลงมือทำอย่างจริงจัง

เริ่มจากจัดการเพื่อนบ้านผู้ชอบชักใยไปทั่วบ้านคนอื่นออกไปทั้งหมด จากนั้นตักน้ำในบ่อขึ้นมาสาด สาดเข้าไปและขัด ๆ จนสะอาดที่สุดในความคิด

หลังทำความสะอาดส่วนอื่น ๆ ของเพิงเรียบร้อยแล้วก็มาถึงคิวถังน้ำซึ่งมีน้ำขังอยู่ในถังจนมีพืชสีเขียวขึ้นเต็มด้านในไปหมด

มองถังเต็มไปด้วยตะไคร้น้ำสีหน้างดงามพลันบิดเบี้ยว คิดว่าจะเก็บไว้หรือทิ้งไปดี

ถ้าเก็บก็ต้องขัดทำความสะอาดนานแต่หากทิ้งไปก็อาจจะต้องเสียเวลาทำขึ้นมาใหม่ จะจ้างคนหรือซื้อก็อาจจะแพงเกินไปสำหรับตอนนี้ ไม่รู้ว่าจะขอให้หานลั่วอี้ทำขึ้นมาใหม่ได้หรือไม่

พอคิดทบทวนเรียบร้อยแล้วสุดท้ายก็ตัดสินใจที่จะทิ้ง!!! ถังเป็นอย่างนี้แล้วคงไม่เหมาะจะนำมาใส่น้ำ หานลั่วซานมีพลังพิเศษที่สามารถจุดไฟได้ อาจจะสามารถขุดถังให้นางสักถังได้

เยว่ฉีตัดสินใจได้แล้วก็ล้มถังเทน้ำทิ้ง พอน้ำไหลออกไปจนหมดก็ดึงถังกลับขั้นมาตั้งเหมือนเดิม ในจังหวะที่ดึงถังขึ้นมาแสงแดดได้สาดส่องลงไปถึงก้นถัง หลังจากนั้นก็มีประกายแสงสีเงินสะท้อนเข้าสู่ดวงตาจนนางต้องหยีตาลง เกิดความสงสัยขึ้นในหัวเยว่ฉี ก่อนหน้านี้ในถังมีน้ำเต็มไปหมดทำให้แสงแดดส่องลงไปก้นถังได้ยาก มาตอนนี้น้ำไม่มีเหลือแล้วผลึกสีเงินรูปสามเหลี่ยมดูแหลมคมจึงได้สะท้อนประกายงดงามเข้าสู่ดวงตา

เยว่ฉียื่นมือลงไปหวังจะหยิบขึ้นมาดู ทว่าถูกยอดแหลมของสิ่งที่อยู่ในถังแทงทะลุนิ้วมือ

“โอ๊ย!!” นางดึงมือขึ้นมาโดยเร็วสะบัด ๆ มือหลายครั้งเพื่อคลายความเจ็บก่อนจะนำนิ้วเข้าปากดูดห้ามเลือด

เลือดหยดหนึ่งอาบชโลมผลึกสีเงินก้นถัง ตัวผลึกจากที่เคยเงียบสงบก็คล้ายกับมีชีวิตขึ้นมา ใจกลางของสิ่งของรูปสามเหลี่ยมสีเงินทอแสงสีเงินออกมาก่อนจะหายไป คล้ายกับอาการหัวใจเต้น จากนั้นร่างกายของเยว่ฉีก็หายไป

หานลั่วอี้พลันขมวดคิ้วขึ้นมา แม้จะเป็นเพียงผู้ฝึกปราณขึ้นสามทว่าก็สามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของผู้ที่อยู่ใกล้ ๆ ตอนนี้กลิ่นอายภรรยาหายไปแล้วทั้งยังเป็นการหายไปทันที เขาจึงอดสงสัยไม่ได้

ฝ่ามือแกร่งนำพารถเข็นออกมายังส่วนหน้าบ้าน แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า

ในใจบุรุษหนุ่มพลันปวดหนึบขึ้นมาอย่างไม่ทราบสาเหตุ กังวลใจถึงสาเหตุที่นางหายตัวไป ภายใต้ความกังวลนี้ยังมีความเคลือบแคลงใจและความเชื่อใจขัดแย้งกันอยู่

เขาไม่อยากพบว่าสุดท้ายแล้ว เยว่ฉีก็ไม่ต่างจากคนบ้านนั้นที่ไม่อยากจะใช้ชีวิตร่วมกับคนพิการไม่มีอนาคตเช่นเขา เช่นเดียวกับที่เชื่อว่านางไม่เหมือนคนบ้านเดิม เป็นสตรีที่พร้อมจะใช้ชีวิตร่วมกันไปตลอดกาล อีกทั้งสาเหตุการหายตัวไปยังน่าสงสัย ไม่มีผู้ใดเข้ามาใกล้บริเวณบ้านแล้วเหตุใดนางถึงได้หายตัวไป

ทั้งยังเป็นการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยราวกับว่าถูกลบออกไปทันที

หานลั่วอี้เป็นกังวลใจกับการหายตัวไปของภรรยา ส่วนคนที่เป็นสาเหตุของความกังวลใจกับกำลังตื่นเต้นตื่นตาตื่นใจในสิ่งที่เห็น

“สุดยอดนี่มันอะไรกันเนี้ย!!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 14 พืชวิญญาณราคาสูง

    หลังรถเทียมลาจอดเทียบบนลานจอด คนทั้งหมดต่างทยอยลงจากรถ ครอบครัวเฟิงและเยว่ฉีก้าวลงมาหลังใครเขา รถจนคนก่อนหน้าออกไปหมดแล้วถึงได้ก้าวลงมาสองข้างถนนของเมืองโม่ฉียังคงครึกครื้นเต็มไปด้วยผู้คนไม่ต่างจากไม่กี่วันก่อนหน้า ทว่าช่างแปลกตาในความคิดนางคงคุ้นเคยกับธรรมชาติในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเข้าเสียแล้ว“อยากไปที่ใดก่อนหรือไม่?” หลัวหรูเอ่ยถาม ตอนที่เห็นสายตาเป็นประกายตื่นเต้นของเด็กสาวเยว่ฉีหันหน้าไปหายิ้มบางพลางตอบ“พี่หลัวข้าต้องการไปขายพืชวิญญาณก่อน จากนั้นจะไปซื้อของเข้าบ้าน บ้านข้าตอนนี้ก็อย่างที่พวกท่านทราบ” เยว่ฉีพูดอย่างไม่ใส่ใจ ทว่าคำพูดของนางกลับทำให้ครอบครัวเฟิงเผยสีหน้าซับซ้อนครอบครัวสามีเยว่ฉีชั่งใจร้ายเสียจริง ถึงแม้พวกเขาจะไม่รู้เรื่องราวตื้นลึกหนาบาง ทว่าการปล่อยให้สตรีร่างกายซูบผอมอยู่กินกับบุรุษขาพิการเพียงลำพัง แค่คิดก็พาให้รู้สึกขมเฝื่อนขึ้นมาในใจ“ข้าจะดูแลเจ้าให้ดี” เยว่ฉีมองหลัวหรู กะพริบตาปริบ ๆ ไม่เข้าใจว่าที่นางเอ่ยออกมาหมายถึงอะไร แต่ก็พยักหน้าตกลงยิ้ม ๆ“ไปกันพี่หลัวข้าอยากจะเห็นร้านรับซื้อพืชวิญญาณแล้ว” และคนทั้งสามก็เดินทางไปยังร้านขายและรับซื้อพืชวิญญาณระ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 13 เข้าเมือง

    หานลั่วอี้บอกเยว่ฉีนำหยกวิญญาณไปขาย ทั้งยังแนะนำร้านที่ไว้ใจได้ให้ด้วยวันนี้เยว่ฉีมีแผนจะเดินทางไปขายพืชวิญญาณในเมืองพร้อมกับเพื่อนบ้านทั้งสอง นางจึงตื่นแต่เช้าตรู่ขึ้นมาเตรียมอาหารรวมไปถึงยาสำหรับหานลั่วซานเช่นเดียวกับเมื่อวานก่อนจะออกจากบ้านนางเตรียมน้ำแห่งชีวิตให้หานลั่วอี้หนึ่งขวด ดูจากที่อีกฝ่ายมีทีท่าคล้ายรอคอย ยามขวดหยกปรากฏตรงหน้าก็สามารถคาดเดาได้ว่า น้ำแห่งชีวิตมีประโยชน์ต่อสามีจริงเท่านี้ก็ยืนยันคำพูดของผู้อาวุโสได้แล้วผู้อาวุโสหมิงยังบอกกับนางอีกว่าหลังผ่านไปประมาณหนึ่งเดือนให้เพิ่มปริมาณน้ำแห่งชีวิตในตอนที่เจือจาง จากเดิมหนึ่งหยดต่อหนึ่งถ้วยก็เพิ่มเป็นสองหยดต่อหนึ่งถ้วย ทำเช่นนี้จะช่วยให้ร่างกายหานลั่วอี้ปรับตัวเข้ากับความพิเศษของน้ำแห่งชีวิตอย่างช้า ๆเยว่ฉีย้ำกับสามีเรื่องลั่วซานอีกครั้งก่อนจะเดินออกจากประตูบ้าน อีกฝ่ายเข็นรถมาส่งจนถึงหน้าประตูมองส่งนางขึ้นรถเทียมลาของหมู่บ้านจนลับตาถึงได้ถอนสายตากลับ ปิดประตูลงเข็นรถกลับเข้าบ้านทุกการกระทำของเขาตกอยู่ในสายตาของใครบางคน คนคนนั้นแอบมองจนเป้าหมายลับสายตาถึงได้ถอยออกมาทำไมพืชวิญญาณที่เก็บได้เมื่อวานจึงต้องมาขายในวันต่

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 12 ท่านลองผ่าดู

    บ่ายวันเดียวกันเยว่ฉีกำลังง่วนอยู่กับก้อนหินที่ได้รับมา นางกำลังใช้ความคิดว่าจะทำเช่นไรถึงจะผ่าหินออกเป็นสองส่วนได้ เยว่ฉีรู้สึกว่าต้องมีความพิเศษบางอย่างซ่อนอยู่ในหินก้อนนี้แล้วเหตุใดนางถึงไม่ขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสหมิง? เรื่องนี้ต้องย้อนกลับไปตอนที่ยังอยู่บนเขา หลังผู้อาวุโสใช้พลังจิตขุดพืชวิญญาณออกมาทั้งหมดและช่วยเปิดประตูให้เยว่ฉีออกมาจากถ้ำ เขาก็หลับไปไม่พูดอันใดอีก ก่อนจะไปได้บอกกับนางว่าจะไม่อยู่สองสามวันเพราะใช้พลังไปมากรู้สึกเหนื่อยไม่น้อยสรุปคือ ใช้พลังเกินขีดจำกัดจนหลับไปเยว่ฉีวางก้อนหินขนาดประมาณหัวเด็กลงบนพื้น ก่อนจะมองหาของที่พอจะใช้ทุบก้อนหินให้แตกได้ ในระหว่างที่กำลังมองหาตัวช่วยปลายสายตาพลันเหลือบไปเห็นปังตอขึ้นสนิมด้ามหนึ่งวางพิงอยู่ข้างเตาเย่วฉีลุกขึ้นยืนจากท่านั่งขัดสมาธิ ก้าวฉับ ๆ ไม่กี่ก้าวก็ถึงเป้าหมายก้มลงหยิบปังตอที่ว่าขึ้นมา เดินกลับมานั่งที่เดิม“ไม่คิดว่าจะหนักขนาดนี้!!” หญิงสาวบ่นพึมพำใช้สองมือประคองปังตอเดินกลับมานั่งคุกเข่าลงตรงหน้าก้อนหินสองมือจับปลายด้ามจับของปังตอเอาไว้แน่น ยกขึ้นเหนือศีรษะใช้แรงทั้งหมดที่มีลงไปกับการฟันในครั้งนี้เพล้ง!!!ปั

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 11 สะดุดก้อนหิน

    ดินแดนเฟยฮ่าว มีผู้ฝึกปราณที่เก่งกาจที่สุดอยู่ที่ฝึกปราณขั้นเก้า ไม่ใช่ว่าเขาไม่ต้องการพัฒนาตนเองให้เก่งกาจไปมากกว่านี้ ทว่าด้วยทรัพยากรที่มีจำกัดทำให้ความเร็วในการฝึกปราณช้าลงยิ่งระดับสูงความต้องการในทรัพยากรจะยิ่งมากขึ้นและยังหมายถึงเงินที่ต้องใช้จ่ายออกไปหากต้องการไปให้สูงกว่าต้องเดินทางไปยังดินแดนที่สูงกว่า ทว่าจะสามารถผ่านเข้าไปได้หรือไม่ ก็ต้องดูที่ความสามารถของคนคนนั้นที่เยว่ฉีไม่ทราบเพราะในหนังสือที่ผู้อาวุโสให้มามีเพียงภาพและคำอธิบายลักษณะ รวมไปถึงระดับของพืชวิญญาณ ไม่ได้กล่าวถึงการนำไปใช้สองสามีภรรยามึนงงอยู่บ้างว่าเหตุใดเยว่ฉีถึงได้ไม่มีความรู้เกี่ยวกับพืชวิญญาณมากถึงเพียงนี้ แต่ไม่นานก็สลัดความคิดนั้นไป โลกนี้ช่างกว้างใหญ่นักบางทีคนบางคนก็ใช่จะต้องรู้ไปเสียทุกเรื่อง“พี่หลัวพืชวิญญาณต้นนี้ขายได้เท่าใด”“ราคาเริ่มต้นอยู่ที่สองตำลึงสูงสุดที่สี่ตำลึงขึ้นอยู่กับคุณภาพว่าสูงหรือต่ำ”สี่ตำลึง !!!นางสามารถหาเงินได้ถึงสี่ตำลึงในเวลาเพียงสองเค่อไม่มีสิ่งใดดีไปกว่านี้อีกแล้ว“พี่หลัวพวกท่านหาพืชวิญญาณได้หรือไม่” ทั้งสองมองหน้ากันก่อนจะส่ายหน้า“โชคร้ายที่ข้ากับพี่เฟิงไม่พบพืชวิ

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 10 ลงเขา

    “ผู้อาวุโส ท่านพอจะมีทางช่วยข้าหรือไม่?”‘…’“ผู้อาวุโส?”‘…’ ยังคงไม่ตอบผู้อาวุโสหมิงคงไม่ได้หมายความว่าให้นางขุดพืชวิญญาณทั้งหมดขึ้นมาด้วยตนเองใช่ไหม? ดูจากพืชวิญญาณสองต้นก่อนหน้านางยังใช้เวลาไปถึงครึ่งชั่วยาม !! หากต้องใช้มือขุดพืชวิญญาณทั้งหมดออกมา มิใช่ว่าต้องใช้เวลาเป็นเดือนเลยหรือ? นางมีเวลาว่างขนาดนั้นที่ไหนกันผู้อาวุโสหมิงคงไม่ใจร้ายกับนางมากเกินใช่ไหม?‘บ่นข้าพอหรือยัง?’รู้ได้ยังไงว่านางกำลังบ่นให้ จะเฉียบแหลมเกินไปแล้ว !!ถึงในใจเยว่ฉีจะบ่นไปร้อยแปดพันเก้า ทว่ายามเอ่ยออกมากับมีนัยประจบอยู่หลายส่วน “ผู้อาวุโสข้าหาได้คิดเช่นนั้น ท่านอย่าเข้าใจข้าผิด”ท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยประจบประแจงของเยว่ฉีทำผู้อาวุโส หมิงหมั่นไส้ เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ก่อนจะยืมร่างหญิงสาวเป็นสื่อกลางอีกครั้งมือเรียวสวยยกขึ้นตรงหน้า เป็นจังหวะเดียวกับที่พืชวิญญาณทั้งหมดบนพื้นที่กว่าหนึ่งหมู่มีประกายแสงสีทองห้อมล้อมเอาไว้ทั้งต้นผู้อาวุโสหมิงใช้พลังจิตของตนในการโอบอุ้มและขุดพืชวิญญาณทั้งหมดออกมาในครั้งเดียว พืชวิญญาณที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลังจิตปรากฏขึ้นบนอากาศไม่มีส่วนใดเสียหาย กระทั่งดินซึ่งติดอยู่ตามรากยั

  • ข้ามเวลามาเป็นภรรยาสามีขาพิการ   ตอนที่ 9 โชคบนภูเขา

    เยว่ฉีอาศัยความทรงจำที่ได้จากการอ่านหนังสือเมื่อคืนมองหาไปเรื่อย ๆ พืชวิญญาณไม่ใช่ว่าจะหาได้ง่ายหรือมีอยู่เกลื่อนกลาด เพราะฉะนั้นหลังผ่านมาสองเค่อแล้วเยว่ฉีจึงยังหาไม่พบแม้สักต้นทว่าในระหว่างที่นางกำลังจะเดินไปยังทิศทางอื่น พลันได้ยินเสียงผู้อาวุโสดังขึ้นในความคิด‘ตรงไปด้านหน้าครึ่งเค่อฝั่งขวามือ’“ผู้อาวุโสตรงนั้นมีอันใดหรือ” นางคล้ายได้ยินเสียงถอนหายใจเบา ๆ ดังลอดออกมา ก่อนจะได้ยินเสียงผู้อาวุโสเอ่ย‘เดินไปตามที่ข้าบอกเจ้าจะพบสิ่งที่ต้องการ’ ดวงตางดงามเป็นประกาย จากคำพูดของผู้อาวุโสสามารถคาดเดาได้ว่าต้องเป็นพืชวิญญาณวิญญาณอย่างแน่นอนเยว่ฉีเดินไปตามทางที่ผู้อาวุโสบอกก่อนจะพบก้อนหินขนาดใหญ่ก้อนหนึ่ง กวาดตามองโดยรอบ ก่อนจะเดินวนรอบก้อนหินก็ไม่พบพืชวิญญาณแม้สักต้น หัวคิ้วพลันขมวดเข้าหากันคล้ายผู้อาวุโสอ่านความคิดนางออก จึงเปรยขึ้นมาว่า‘วางมือลงบนก้อนหิน ข้าจะใช้เจ้าเป็นตัวกลางในการเปิดม่านพลัง’เยว่ฉีทำตามอย่างว่าง่ายไม่นานก็เห็นว่าก้อนหินซึ่งดูไม่มีอะไรเกิดช่องว่างขนาดเท่าคนขึ้นตรงหน้าพลังพิเศษสุดยอดจริง ๆ“ผู้อาวุโสหมิงท่านรู้ได้เช่นไรว่าตรงหน้ามีการร่ายคาถาอำพรางเอาไว้” แม้เยว่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status