แชร์

บทที่ 145

ผู้เขียน: ลิ่วเยว่
“ได้รับการสอนแล้ว!” ฟางจี้จื่อเอ่ยด้วยแววตามืดมน

เสวี้ยนจื่อจ้องจ่านเหยียนด้วยสายตารุนแรง และสายตานั้นทำให้จ่านเหยียนรู้สึกไม่สบายมาก

เขาหมุนตัวตามฟางจี้จื่อออกไป

คนจวนตระกูลหลงต่างกรูเข้ามามุงล้อมฟางจี้จื่อ

หลงฉางเทียนถาม “ท่านนักพรต เป็นอย่างไรบ้าง? ปราบปีศาจจิ้งจอกแล้วหรือไม่?”

ฟางจี้จื่อมองหลงฉางเทียน ขณะกำลังจะพูดก็หยุดอีก

เสวี้ยนจื่อจึงเดินมาเอ่ย “ท่านแม่ทัพ ท่านอาจารย์ได้ปราบปีศาจจิ้งจอกแล้ว ไทเฮาปลอดภัยแล้วขอรับ”

“ปลอดภัย?” หลงฉางเทียนอึ้ง สีหน้าปั้นยากเล็กน้อยฉับพลัน “ปีศาจจิ้งจอกมิได้ทำร้ายพระองค์จนถึงรากฐานหรือ?”

“สวรรค์คุ้มครอง ไม่เป็นไร” ฟางจี้จื่อกล่าวด้วยสีหน้าอ่อนล้า

ฮูหยินผู้เฒ่าแลกสายตากับหลงฉางเทียนทีหนึ่ง จากนั้นก็นิ่งงันไปครู่หนึ่ง แล้วฮูหยินผู้เฒ่าก็ถามขึ้นอย่างห่วงใย “ท่านนักพรต ท่านคงเสียพลังไปมากกระมัง? ดูสีหน้าท่านสิ ซีดไปหมดแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”

“อื่ม ข้าขอตัวก่อน!” ฟางจี้จื่อพูดกับเสวี้ยนจื่อ “เจ้าอธิบายกับทุกคนสักหน่อย”

เขายังต้องไปอีกแห่งหนึ่ง นั่นก็คือจวนเซ่อเจิ้งอ๋อง

วิญญาณมังกรไม่มีแล้ว อย่างไรเขาก็ต้องอธิบาย

เสวี้ยนจื่อเล่าเรื่องโดยส
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 146

    ม่านรัตติกาลยังไม่ทันปกคลุมลงมา ชายชุดดำสิบกว่าคนก็ลงมาจากฟากฟ้าอาเสอกับเสี่ยวฮวาบริหารเอ็นกระดูกกันเล็กน้อย จากนั้นก็พุ่งตัวออกไปนักฆ่าใช่คู่ต่อสู้ของปีศาจจิ้งจอกและปีศาจงูเสียที่ไหน? อาถงกับอาเถี่ยยังไม่ทันลงมือ ชายชุดดำสิบกว่าคนก็กองอยู่กับพื้นแล้วอาเสอเดินไปกระชากผ้าดำที่ปิดหน้าพวกเขาออก แล้วมอบฝ่ามือให้กับทุกคน ตบจนกระทั่งนักฆ่าเลือดกบปากจิ้นหรูเดินออกมาจากในห้อง ตามด้วยเอ่ยเสียงเย็นชา “จับตัวส่งไปคุกทักษิณ ถ้าถามไม่ได้ความก็อย่าคิดจะรอดไปได้!”จี๋เสียงประคองจ่านเหยียนเดินออกมายืนอยู่ตรงหน้าชายชุดดำ นางกวาดสายตามองชายชุดดำสิบกว่าคนด้วยสายตาแหลมคมเย็นเยียบ ก่อนจะเอ่ยอย่างเฉยเมย “ไยต้องยุ่งยาก? ไปเชิญผู้ว่าการเมืองหลวงกับเสนาบดีกรมอาญามา ข้าจะสอบสวนด้วยตัวเอง”ชายชุดดำผู้เป็นหัวหน้าเอ่ยเสียงเย็นว่า “จะไม่ให้เจ้าได้สมใจหรอก!”กล่าวจบ เขาก็เม้มริมฝีปากแล้วกัดลิ้นหมายจะฆ่าตัวตายอาเสอแวบตัวไปอยู่ตรงหน้านักฆ่าสิบกว่าคนด้วยความเร็วดุจสายลม พริบตาเดียวก็จี้จุดพวกเขาจนขยับเขยื้อนไม่ได้แล้วจ่านเหยียนหัวเราะเบา ๆ “อยากตายก็ไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก” นางเอ่ยกับอาถงและอาเถี่ย “มัดตัวพ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 147

    นี่... มาทีก็สิบกว่าคน พวกเขาช่างให้ความสำคัญกับไทเฮานัก!“ข้าเอง!” อาเสอเดินออกมา“ข้าก็ด้วย!” เสี่ยวฮวาก็เอ่ยเสียงหนาวอาซานไม่เคยเห็นอาเสอและเสี่ยวฮวามาก่อน เพียงแต่แม้เคยเห็น เขาก็ไม่เชื่อว่าแม่นางดุจบุปผาประหนึ่งหยกทั้งสองจะสามารถควบคุมนักฆ่าจากหอเงาจันทร์สิบกว่าคนได้เขามองไปทางจ่านเหยียน จ่านเหยียนแย้มยิ้ม “พวกนางสองคนคือองครักษ์ข้างตัวของข้า ปกติจะไม่ปรากฏตัว!”“มิน่า! ไม่ทราบแม่นางทั้งสองมาจากสำนักใดหรือ?”“พวกเราคือศิษย์จากหลงเหมิน!” อาเสอตอบออกไปแบบหน้าด้าน ๆ พูดจบก็หน้านิ่งเหลือบไปมองจ่านเหยียนแวบหนึ่ง“หลงเหมิน? สำนักคุ้มภัยหลงเหมิน?” อาซานมึนแล้ว สำนักมังกรเป็นแค่สำนักคุ้มภัยระดับกลางของยุทธภพเท่านั้น จะมียอดฝีมือเยี่ยมยอดเช่นนี้ได้อย่างไร? “มิใช่ ภูเขาหลงเหมิน อาจารย์ของเรามีนามว่า ‘หลงอู่’” อาเสอขยิบตา“หลงอู่?” อาซานอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาพลันนึกถึงว่าตอนนี้ก็มีคุณชายหลงอู่ท่านหนึ่งที่มาเมืองหลวงเหมือนกัน ไม่รู้ว่าใช่หลงอู่ที่พวกนางพูดหรือไม่?เพียงแต่... แม้เขาไม่เคยเจอกับคุณชายท่านนั้น แต่ก็รู้ว่ามิใช่คนเก่งกาจอันใด ก็แค่คุณชายครอบครัวคหบดีที่รู้เรื่องการแพทย์

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 148

    อาเถี่ยพูดกลั้วหัวเราะ “จำเป็นต้องเชิญหมอที่ไหน? ขนาดฉลองพระองค์ของไทเฮานักฆ่าพวกนั้นก็ยังไม่ได้แตะเลย”“เจ้าว่าอะไรนะ? นักฆ่าหอเงา...” หลงฉางอี้หุบปากหยุดพูดทันที มองหลงฉางเทียนด้วยสายตาว้าวุ่น“เมื่อครู่ท่านรองว่าอะไรนะ? นักฆ่าหอเงาอันใด?” อาถงสายตาจับจ้องหลงฉางอี้พลางเอ่ย“ไม่ได้พูดอันใด ในเมื่อไทเฮาทรงปลอดภัยดี เช่นนั้นพวกเราก็วางใจแล้ว” หลงฉางอี้พรูลมทีหนึ่งแบบเสแสร้งแกล้งทำฮูหยินผู้เฒ่าหน้านิ่ง แค่ยกเปลือกตามองอาถง “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าไปเชิญผู้ใด?”“เรียนฮูหยินผู้เฒ่า ไทเฮารับสั่งให้พวกข้าไปเชิญผู้ว่าการเมืองหลวงกับใต้เท้าเสนาบดีมาขอรับ บอกว่าประสงค์จะสอบสวนนักฆ่าที่จวนตระกูลหลงด้วยพระองค์เอง” อาถงตอบอย่างดีฮูหยินผู้เฒ่าแย้มยิ้ม “ไทเฮาถูกลอบปลงพระชนม์ เรื่องเกี่ยวพันถึงส่วนรวม ข้าคิดว่าสมควรเข้าวังทูลไทฮองไทเฮาจึงจะเป็นเรื่องด่วน สำหรับการสอบสวน ทางราชสำนักต้องจัดการอยู่แล้ว มิจำเป็นต้องให้ไทเฮาวังกลพระทัยไป”อาถงตอบ “เรียนฮูหยินผู้เฒ่า ไทเฮาตรัสแล้ว ไม่จำเป็นต้องรบกวนถึงในวัง ไทฮองไทเฮาพระชนมายุสูง อย่าทำให้พระองค์ต้องกังวลพระทัย เรื่องนี้เกิดที่นี่ก็จะให้มันจบลงที่นี่”

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 149

    ครั้นกล่าวออกมา ทุกคนก็ตะลึงงัน!“ท่านแม่ ไม่ได้นะเจ้าคะ ของรางวัลพวกนั้นยังอยู่ในห้องของนางอยู่เลย” เย่เต๋อโหรวพูดอย่างร้อนรน“เจ้าจะเอาเงินหรือจะเอาชีวิต?” ฮูหยินผู้เฒ่าถลึงตาทั้งสองข้างพร้อมกับเอ่ยเสียงดุ“นี่... เอาชีวิตขอรับ แต่เงินก็ต้องเอาด้วยเหมือนกัน มิเช่นนั้นคนของหอเงาจันทร์มารับเงิน จะเอาอะไรให้พวกเขาเล่า?” หลงฉางเทียนเอ่ย“ขอแค่หลงจ่านเหยียนตาย ทางไทฮองไทเฮาก็จะตกรางวัลมาเองนั่นแหละ และต่อให้ไม่ตกรางวัลมา ยายแก่อย่างข้าก็จะเข้าวังยืมเงินก้อนนี้มาด้วยตัวเอง!” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยเสียงเย็นชาด้วยฐานะฮูหยินเก้ามิ่งขั้นสองของนาง หากขอไมตรีจากไทฮองไทเฮา อีกฝ่ายคงต้องให้กระมัง? อีกอย่าง ไทฮองไทเฮารู้ดีอยู่แก่ใจว่าสกุลหลงกำลังทำงานให้ใครอยู่“เช่นนั้น...” เย่เต๋อโหรวก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร นางไม่ได้ใสซื่ออย่างฮูหยินผู้เฒ่า หากท่านนั้นในวังไม่ยอมรับเรื่องนี้เล่า? คนของหอเงาจันทร์ไม่ใช่จะล่วงเกินได้ง่าย ๆ นะ!“ยังจะอืดอาดยืดยาดอะไร? ถ้ายังไม่ลงมืออีกก็จะสายแล้ว หรือพวกเจ้าอยากให้คนของกรมอาญามา? ทันทีที่ตรวจสอบเรื่องนี้ ไทฮองไทเฮาต้องไม่ออกหน้าช่วยพวกเราแน่” ฮูหยินผู้เฒ่าพูดด้วย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 150

    “คุณหนูใหญ่ ทรงหยั่งรู้จริง ๆ เพคะ”จ่านเหยียนหัวเราะเหอะ ๆ นี่นับเป็นการหยั่งรู้อันใด? ก็แค่พายุฝนเท่านั้น“สวรรค์ ฝนตกลงมาจริง ๆ ด้วย?” จิ้นหรูรีบเดินกลับ แล้วยิ้มกับจ่านเหยียน “คุณหนูใหญ่พระปรีชายิ่งแล้วเพคะ ทรงทราบได้อย่างไรว่าฝนจะตก?”“เมื่อคืนข้าดูดาว จึงรู้ว่าวันนี้จะมีฝน”“จริงด้วย เกือบลืมไปเสียสนิทว่าคุณหนูใหญ่เชี่ยวชาญการเสี่ยงทาย” จิ้นหรูนึกถึงก่อนที่อดีตฮ่องเต้จะสวรรคต นางเคยเสี่ยงทายให้แคว้นต้าโจว ขณะนั้นอดีตฮ่องเต้เชื่อสนิทใจหลงจ่านเหยียนยิ้มแต่มิได้พูด นางก็เก่งอย่างนี้นี่แหละ“คุณหนูใหญ่อยากพระกระยาหารหรือไม่เพคะ? มิเช่นนั้นบ่าวจะหยิบชุดกันฝนแล้วไปยกขนมจากห้องครัวมาให้พระองค์รองท้องก่อน?” จิ้นหรูรู้ว่านางหิวบ่อย และไม่รู้ว่าฝนห่านี้จะตกอีกนานแค่ไหน หากทำให้นางหิวไส้กิ่วจะไม่ดีเอา“ไม่จำเป็น อีกประมาณหนึ่งเค่อ ฝนก็จะหยุดแล้ว!” จ่านเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่จี๋เสียงยกออกมา ชื่นชมทิวทัศน์ยามค่ำคืนที่มีฝนโปรยปรายด้วยท่าทางผ่อนคลายสบายอารมณ์“เกรงว่าจะไม่หยุดง่าย ๆ นะสิเพคะ” จิ้นหรูดูแนวโน้มของฝนห่านี้ ประสานกันจนเป็นแห และไม่รู้ว่าเป็นเมื่อใด บนท้องฟ้ามีเมฆดำรวมตั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 151

    หลงฉางเทียนออกคำสั่งฆ่าไม่เว้น หรืออาจกล่าวได้อีกอย่างหนึ่งว่า หากคนที่อยู่ข้างในไม่ตาย ค่ายศรเทพก็ห้ามถอนตัวค่ายศรเทพสามสิบหกคนแขวนบ่าธนูปีนขึ้นกำแพงอย่างว่องไว เมื่อนั้นก็ย่อตัวลง น้าวคันธนูทดสอบสายภายใต้แสงจันทร์มืดสลัว เห็นเพียงแสงสีเขียวที่สะท้อนจากหัวลูกศรอาบยาพิษ ต้องเลือดคือสิ้นลม “ปิดประตูหน้าต่างให้หมดเถอะ ดูท่าทางลมหมุนจะมาแล้ว!” จ่านเหยียนยืนมองอยู่ตรงหน้าต่าง จากนั้นจึงเอื้อมมือปิดหน้าต่าง“ลมหมุนหรือเพคะ? จะมีลมหมุนในเมืองหลวงได้อย่างไร มิได้อยู่แถบที่ติดทะเลสักหน่อย!” จิ้นหรูเอ่ยกลั้วหัวเราะ“ใครบอกว่าต้องเป็นแถบที่ติดทะเลจึงจะมีลมหมุนเล่า?” จ่านเหยียนแสดงออกว่าดูถูกทัศนคติของจิ้นหรูมาก หลาย ๆ แห่งในอเมริกาที่ลมพายุทำความเสียหาย ส่วนมากแล้วก็มิใช่ลมหมุนหรอกหรือ? อีกอย่าง ทะเลทรายก็มีลมหมุนเหมือนกันนี่? “มิใช่หรือเพคะ อดีตฮ่องเต้เคยตรัส มีแต่พื้นที่แถบชายฝั่งเท่านั้นจึงจะเกิดลมหมุนได้” จิ้นหรูเอ่ย“ใช่ว่าดำรัสของอดีตฮ่องเต้จะถูกต้องเสมอไป” จ่านเหยียนพยายามทำลายความงมงายในความรักของนาง จากนั้นจึงหันมาสั่งกับจี๋เสียง เรียกทุกคนเข้าห้องโถงด้านข้างให้หมด ชายชุดดำก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 152

    “จิ้นหรู เจ้าฟังข้าพูดนะ เจ้าเข้าใจผิดแล้วแน่ ๆ” จ่านเหยียนอธิบายด้วยเหตุผลหนักแน่น “ข้าจะชอบน้องชายของสามีได้อย่างไร? อีกอย่าง ข้าคือหญิงม่ายนะ”“ได้ ไม่ชอบ พวกเราไม่ชอบเพคะ!” จิ้นหรูใช้สายตาโอนอ่อนมองนาง แต่รู้สึกว่าไม่เชื่อคำพูดนางสักเท่าไร โดยเฉพาะคำว่า ‘น้องชายของสามี’อีกอย่าง นางไม่เหมาะจะใช้คำว่า ‘หญิงม่าย’ เพราะนางไม่มีท่าทางของการครองตัวเป็นม่ายสักนิดนางไม่เคยเห็นอดีตฮ่องเต้เป็นสามีของนางเลยด้วยซ้ำจ่านเหยียนมองนางนิ่ง ๆ ความคิดสับสนอลหม่านครู่หนึ่งนางไม่เคยคิดปัญหานี้มาก่อน และไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นด้วยแต่เพราะคำพูดของจิ้นหรูทำให้นางเกิดความรู้สึกแปลกใจขึ้นมาอย่างหนึ่ง เป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกอย่างหนึ่ง หรือว่าเซ่อเจิ้งอ๋องรูปงานเกินไป จึงทำให้ยายแก่อย่างนางหวั่นไหวแต่ไม่รู้ตัว?เมื่อนั้นของแหลมคมก็แหวกอากาศมาดัง “ฟิ่ว” จิ้นหรูตกใจรีบบังอยู่หน้าจ่านเหยียนนี่มันอะไรกัน เกือบทำเสียงานใหญ่แล้ว!จ่านเหยียนผลักจิ้นหรูไปด้านหลัง ตามด้วยโบกแขนเสื้อปากกว้างที่ปักลายไผ่เขียวและมัจฉา นางท่องคาถาประโยคหนึ่ง ก่อนจะดึงจิ้นหรูถอยไปด้านหลังคนจากค่ายศรเทพเริ่มยิงธนู ดอกแรก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 153

    ในตอนที่บ่าวรับใช้รายงาน หลงฉางเทียนส่ายหน้าพึมพำว่า “เป็นไปไม่ได้ ข้าลงดาลประตูหน้าแล้ว อาถง อาเถี่ยก็จับตัวเอาไว้แล้ว เป็นไปไม่ได้...”“แต่... ประตูหลังไม่ได้ลงดาลนี่ขอรับ” พ่อบ้านเตือน“แต่นางไม่รู้ว่าข้าจับตัวอาถงกับอาเถี่ยไว้ แล้วจะส่งคนไปอีกได้อย่างไร?” หลงฉางเทียนตื่นตระหนก หากสอบสวนนักฆ่าต่อหน้าใต้เท้าเหล่านี้จริง มันจะไม่เป็นผลดีต่อเขาอย่างยิ่ง“เจ้ากลัวอันใด? คนของหอเงาจันทร์ให้ความสำคัญกับความน่าเชื่อถือ พวกเขายอมตายแต่ก็ไม่ยอมเปิดเผยผู้จ้างวาน” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สุขุมมาก“แต่วิธีการของคุกทักษิณไม่ธรรมดานะขอรับ” หลงฉางเทียนเอ่ย“ข้าได้ยินมาว่า คนของหอเงาจันทร์จะเตรียมยาพิษเอาไว้ทุกคน อีกอย่าง หลายปีอย่างนี้แล้ว เจ้าเคยได้ยินหรือว่าคนของหอเงาจันทร์ทรยศนายที่อยู่เบื้องหลังเพราะทนกับการทรมาน บีบบังคับให้สารภาพอย่างหนักไม่ได้?” ฮูหยินผู้เฒ่ากวาดตามองเขาอย่างไม่สบอารมณ์ทีหนึ่ง “เก็บความลนลานของเจ้าเอาไว้ เรื่องขี้ปะติ๋วก็ลนลานแล้ว ต่อไปยังจะหวังให้เจ้าทำงานใหญ่ได้อย่างไร?” หลงฉางเทียนพิจารณาแล้วก็เห็นว่าจริง หอเงาจันทร์ไม่เคยทรยศผู้จ้างวานที่เบื้องหลังม

บทล่าสุด

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 280

    ไม่นานเรื่องที่จ่านเหยียนพังตำหนักชิงหนิงก็ดังกระฉ่อนไปทั่ววังหลวงจงเสี้ยนไทฮองไทเฮากริ้วหนัก แต่นางไม่ได้ทำอะไร การที่หลงจ่านเหยียนกล้าพังตำหนักชิงหนิง เป็นการพิสูจน์แล้วว่าวันนี้มิอาจเทียบวันวานนึกถึงตอนที่นางเข้าวังใหม่ ๆ แล้วมาคารวะ ใจเสาะขี้กลัวปานนั้น แม้แต่คุกเข่าก็ยังถลาลงไปกับพื้น ชวนให้คนตลกขบขันใครจะคิด วันนี้นางกลับกล้าพังตำหนักชิงหนิง?ดูท่านางคงบรรลุข้อตกลงบางอย่างกับเซ่อเจิ้งอ๋องแล้ว มิเช่นนั้น ด้วยเบื้องหลังของฐานะนาง นางจะไม่กล้าทำเช่นนี้เด็ดขาดหากเป็นเช่นนี้ เช่นนั้นที่พังตำหนักชิงหนิงในวันนี้ก็คงเป็นแผนการของเซ่อเจิ้งอ๋องเหมือนกันเขาจะทำอะไร?ฉวยโอกาสที่ตอนนี้ถงจื่อหยาเกิดเรื่อง โจมตีสกุลถงต่อ?“หย่าจู้ เจ้าเห็นว่าอย่างไร?” ไทฮองไทเฮาถามหมัวมัวด้านข้างหย่าจู้คิดแล้วจึงเอ่ย “หลงจ่านเหยียนผู้นี้เหนือความคาดหมายอยู่บ้างจริง ๆ ก่อนหน้านี้แทรกแซงเรื่องของหยวนผินยังพอพูดได้ว่าอยากได้หน้า แต่การพังตำหนักชิงหนิงนี้ เรื่องนี้ไม่เหมือนเรื่องที่สตรีผู้หนึ่งจะทำได้ โดยเฉพาะนางที่เป็นสตรีเช่นนี้เพคะ”“พูดอีกอย่างหนึ่ง เจ้าคิดว่าเซ่อเจิ้งอ๋องคือผู้บงการหรือ?”“ยาก

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 279

    นางทิ้งมือทั้งสองลง จากนั้นก็ค่อย ๆ หลับตาอาเสอตกใจ ยื่นมือออกไปทดสอบลมหายใจของนางฉับพลัน จากนั้นก็เงยหน้ามองจ่านเหยียนอย่างตกตะลึงจ่านเหยียนเอ่ยเสียงหนัก “ปกป้องหัวใจของนางก่อน”ถงไทเฮาหัวเราะเสียงเย็น ในดวงตามีความกระหยิ่มยิ้มย่องและสาแก่ใจ “นางตายแน่”อาเสออุ้มจิ้นหรูเข้าไปในตำหนัก แต่ช้าไป นางมิอาจช่วยไว้ได้จ่านเหยียนลุกขึ้นยืนแล้วกล่าวกับอาหู “รอพวกเราออกไปแล้วก็พังตำหนักชิงหนิงเสีย”อาหูฉายรอยยิ้มหนาวเหน็บ “เพคะ!”“หลงจ่านเหยียน เจ้าน่าจะรู้นะ ภัยเกิดจากปาก ต่อให้วันนี้เจ้าพังตำหนักชิงหนิงของข้าไม่ได้ ข้าก็บันทึกแค้นนี้เอาไว้แล้ว” ถงไทเฮาเอ่ยข่มขู่จ่านเหยียนยิ้มระรื่น “วางใจ ไม่ว่าเรื่องใดที่ลงมือได้ ข้าจะไม่เปลืองน้ำลายเด็ดขาด”ผ่านไปพักหนึ่ง อาเสออุ้มจิ้นหรูออกมาแล้วพยักหน้ากับจ่านเหยียน “กลับไปเถอะ!”จ่านเหยียนเดินตามอาเสอออกไป จากนั้นก็หันมาสั่งกับอาหู “พังตำหนักชิงหนิงแล้วไปพาอาถงกับอาเถี่ยออกมาจากห้องมืดเถอะ”“รับบัญชา!” อาหูขานรับอย่างเริงร่าสวรรค์รู้ นางเห็นจิ้นหรูมีเลือดเต็มตัวแล้วอยากฆ่านางอัปลักษณ์ผู้นี้แค่ไหน หากติดตามนายที่เอาแต่พูดเรื่องคุณธรรมจริยธ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 278

    จ่านเหยียนนั่งอยู่บนเก้าอี้ไท่ซือด้วยท่าทางผ่อนคลาย นั่นคือตำแหน่งที่ถงไทเฮานั่งยามมีนางสนมมาเข้าเฝ้านางเอ่ยกับอาเสอและอาหู “ค้นตำหนักชิงหนิงให้ทั่ว ข้าต้องพบจิ้นหรู”“ช้าก่อน!” ถงไทเฮามองจ่านเหยียนแบบคล้ายยิ้มแต่มิได้ยิ้ม “น้องหญิงตั้งใจจะมาอาละวาดที่นี่หรือ? คิดถึงผลที่จะตามมาหรือไม่?”จ่านเหยียนโบกมือ “เรื่องอาละวาดต้องอาละวาดแน่แล้ว สำหรับผลที่จะตามมา ยังไม่มีเวลาคิดจริง ๆ และไม่คิดจะคิดด้วย”อาเสอและอาหูได้ยินคำนี้ของจ่านเหยียนก็ยิ้มร้ายกับถงไทเฮา จากนั้นก็จะเข้าไปค้นทันทีทันใดนั้นก็มีองครักษ์สิบกว่าคนออกมาขวางอาหูกับอาเสอปีศาจสองตนนี้เอาไว้มีหรือเหล่าองครักษ์จะเห็นพวกนางอยู่ในสายตา ผู้ที่อยู่ข้างหน้าคือหัวหน้าองครักษ์ของตำหนักชิงหนิง เขาตวาดกับอาเสอและอาหู “พวกเจ้ากล้าเหิมเกริมในตำหนักชิงหนิงหรือ?! อย่าหาว่าข้าลงมือไม่ยั้งไมตรีก็แล้วกัน!”กระบี่ยาวชี้มาทางอาเสอด้วยความเร็วยิ่ง ปลายกระบี่มาพร้อมกับคมกระบี่ อาเสอเคยเห็นอาซานแสดงฝีมือมาก่อน แม้เขาจะมีฝีมือด้อยกว่าอาซาน แต่ก็นับว่าเป็นยอดฝีมือชั้นนำแล้วกระบี่ของเขาเร็วนั้นไม่ผิด กลับไม่ส่งผลกระทบซึ่งเป็นการไม่เกรงใจอาเสอใ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 277

    ส่วนกัวอวี้นึกว่าจ่านเหยียนซื้อตัวองครักษ์ในวัง ดังนั้นองครักษ์จึงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับการเดินออกไปของพวกนาง“เข้าไปเถอะ!” อาเสอไม่อยากพูดมาก เดินฉับเข้าไปอย่างเร่งรีบจี๋เสียงกับหรูอี้เพิ่งเรียกกับพู่หยกไปสองสามที เห็นพู่หยกไม่มีปฏิกิริยายังนึกว่าไม่ได้ผล ใครจะรู้พอหันกลับไปก็เห็นจ่านเหยียนกับพวกอาเสอยืนอยู่หน้าห้องแล้ว“คุณหนูใหญ่! ทรงเสด็จกลับมาก็ดีแล้วเพคะ!” จี๋เสียงกับหรูอี้ปรี่ไปหา พูดน้ำเสียงสะอื้น “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ?” กัวอวี้รีบถามจี๋เสียงสะอึกสะอื้น “เป็นเช่นนี้ วันนี้ตอนกลางวันมีคนมาจากตำหนักถงไทเฮาเชิญจิ้นหรูกูกูไป แต่ไม่กลับมาสักที อาถงจึงให้พวกบ่าวสองคนไปถาม แต่พอไปถึงนอกตำหนักชิงหนิง หรูหัวกูกูก็ไม่ให้เข้า ซ้ำยังไล่พวกบ่าวออกมา เพียงแต่... เพียงแต่บ่าวได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากในตำหนัก ถึงไม่ยืนยันว่าใช่เสียงร้องของจิ้นหรูกูกูจริงหรือไม่ แต่ฟังแล้วเหมือนมาก ตอนหลังอาถงกับอาเถี่ยก็ไปหา แต่ก็ไม่กลับมา...”จี๋เสียงเหม่อลอย แม้พูดไม่ปะติดปะต่อ แต่ก็ยังอธิบายเรื่องราวชัดเจน“คุณหนูใหญ่ ถงไทเฮาให้จิ้นหรูไป จะเกิดอะไรหรือไม่เพคะ?” กัวอวี้ถามจ่านเหยียนนึกถึงเรื่องข

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 276

    ทั้งสองจะยอมหรือ? จึงบอกจะเข้าไปพูดกับจิ้นหรูกูกู หรูหัวกลับหน้าขรึม “พวกเจ้าเห็นตำหนักชิงหนิงคือสถานที่ใด? พวกเจ้าอยากเข้าก็เข้าได้ตามใจชอบหรือ?”อาถงข่มอารมณ์โกรธ กล่าวขอร้อง “กูกูอย่าทำให้พวกเราลำบากใจเลย พวกเราก็ทำงานตามคำสั่ง หากเชิญจิ้นหรูกูกูกลับไปไม่ได้ หมู่โฮ่วฮองไทเฮาต้องพาลมาถึงเราแน่ กูกูคงไม่อยากเห็นพวกเราถูกลงโทษกระมัง?”“พวกเจ้าถูกลงโทษหรือไม่ เกี่ยวอันใดกับข้า? ข้าแค่ฟังคำสั่งของเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาเท่า...”อาถงกับอาเถี่ยรีบฉวยโอกาสตอนที่หรูหัวพูดบุกเข้าไปเพียงแต่ทั้งสองเพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าวก็ถูกองครักษ์สองสามคนขวางเอาไว้“บุกรุกตำหนักของไทเฮา พวกเจ้ามีกี่ชีวิต? เอาตัวไป!” หรูหัวเอ่ยเสียงกร้าวกระบี่หลายเล่มพาดอยู่ตรงลำคอของอาถงกับอาเถี่ย ทั้งสองไม่กล้าต่อต้าน จึงได้แต่หันไปมองหรูหัวและเอ่ย “กูกู พวกเรามิได้จงใจบุกรุก กูกูโปรดเมตตา อนุญาตให้เราไปพบจิ้นหรูกูกูหน่อยเถอะ”หรูหัวหัวเราะเสียงเย็น ส่งสายตากับองครักษ์ “เอาตัวไป ขังอยู่ในห้องมืดก่อน”ห้องมืดใช้กักขังคนในตำหนักที่กระทำความผิดโดยเฉพาะ บ้างเข้าห้องมืดไม่กี่วันก็ออกมา แต่ทั่วไปแล้วมักมอบให้หัวหน้าขันทีในวั

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 275

    ทั้งสองคิดไปก็มิใช่วิธี จึงให้จี๋เสียงกับหรูอี้ไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์หมู่โฮ่วฮองไทเฮา ตามจิ้นหรูกลับมาปรนนิบัติที่ตำหนักครั้นจี๋เสียง หรูอี้ไปถึงตำหนักชิงหนิงกลับเข้าไปไม่ได้ ได้แต่ให้ขันทีในตำหนักไปถ่ายทอดพระเสาวนีย์ของหมู่โฮ่วฮองไทเฮาผ่านไปพักหนึ่ง หรูหัวก็ยิ้มตาหยีเดินออกมา “เซิ่งหมู่ฮองไทเฮากำลังเดินหมากกับจิ้นหรูกูกู นี่กำลังสนุกเลย จะอย่างไรเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาก็ไม่ยอมให้กูกูไป พวกเจ้าสองคนกลับไปทูลรายงานหมู่โฮ่วฮองไทเฮาว่าจะส่งคนกลับไปดึกหน่อยแล้วกัน”“อ๊าาา”เสียงร้องดังมาจากข้างในอีก จี๋เสียง หรูอี้สบตากันทีหนึ่ง สีหน้าเริ่มกังวลเล็กน้อยหรูหัวเอ่ยเรียบ “มีนางกำนัลคนหนึ่งไม่ทันระวังทำน้ำชาหกใส่หลังมือของจิ้นหรูกูกู นี่อย่างไร กำลังถูกโบยอยู่เลย”“แต่... เหตุใดเสียงนี้ฟังดูแล้วจึงเหมือนเสียงของจิ้นหรูกูกูล่ะ?” จี๋เสียงเอ่ยอย่างขลาด ๆ“เหลวไหลอันใด?” หรูหัวเปลี่ยนสีหน้าฉับพลัน “เจ้าจะบอกว่าเซิ่งหมู่ฮองไทเฮาทรมาทรกรรมจิ้นหรูกูกูหรือ? ยังมิได้กล่าวถึงจิ้นหรูกูกูเป็นคนข้างพระวรกายของหมู่โฮ่วฮองไทเฮา แค่อดีตนางคือนางกำนัลคนสนิทของอดีตฮ่องเต้ ทั้งยังมีไมตรีกับเซิ่งหมู่ฮองไทเฮามาต

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 274

    จิ้นหรูหัวใจรัดแน่น สุดท้ายดวงตาก็ฉายความแตกตื่นออกมา “พระองค์คิดจะทำอันใดกันแน่เพคะ?”“ถามได้ดี!” ถงไทเฮาลุกขึ้นยืนช้า ๆ แล้วเดินก้าวหนึ่ง เหยียบหลังมือของจิ้นหรู ออกแรงขยี้ มองดูความทรมานบนใบหน้าของจิ้นหรู ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ “เจ็บหรือ?”จิ้นหรูกัดฟัน “ไทเฮาจะลงโทษบ่าวอย่างไรก็ได้เพคะ”อย่างมากก็แค่ตาย ตายแล้วก็คือหลุดพ้น แต่... นางรู้ ถงไทเฮาแค้นนางที่สุด จะไม่ให้นางตายง่าย ๆ เด็ดขาด“ข้าได้ยินว่าคุกทักษิณมีทัณฑ์ทรมานมากมาย เพียงแต่ไม่รู้ว่าหากเทียบกับข้าที่นี่แล้ว จะเหนือกว่าหรือไม่? มิสู้จิ้นหรูกูกูช่วยข้าเปรียบเทียบสักหน่อย” ถงไทเฮาโน้มตัวลงเชยคางของจิ้นหรู มุมปากแย้มยิ้มชั่วร้ายเหี้ยมเกรียมเดิมรูปลักษณ์ก็มิได้งามวิไล ยามนี้ใบหน้าเต็มไปด้วยความดุดัน ยิ่งทำให้ดุร้ายอัปลักษณ์มากกว่าเดิมจิ้นหรูขวัญผวา ไม่กล้ามองดวงตากระหายเลือดของนาง จึงก้มหน้ากัดริมฝีปาก อดทนต่อความเจ็บที่ส่งมาถึงแต่... นี่ยังห่างไกลกับจุดสิ้นสุดหรูหัวยกตะปูมากะละมังหนึ่ง พวกมันมิใช่ตะปูเหล็ก แต่เป็นตะปูไม้ท้อทุกเล่มทำจากไม้ท้อ ส่วนปลายแหลมคมเงาวับ“ถ้าเจ้าร้องสักแอะ ข้าจะเพิ่มตะปูอีกเล่ม” ถงไทเฮาเอ่ย

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 273

    ด้วยประการละฉะนี้ ทุกคนจึงนึกว่าฮ่องเต้โปรดปรานแต่ฮองเฮา ทอดทิ้งวังหลังแม้นางสนมจะตำหนิไม่พอใจ แต่เพราะฮองเฮาคือคนสกุลถง จึงไม่มีใครกล้าพูดฮองเฮารูปโฉมไม่โดดเด่น กลับได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้เพียงนี้ เห็นได้ว่าฮ่องเต้รักนางจริง ๆชั่วขณะ ฮองเฮาบารมีไร้ที่สิ้นสุด รั้งตำแหน่งฮองเฮา ทั้งยังมีความโปรดปรานของฮ่องเต้มั่นคงดั่งขุนเขา ทำให้สกุลถงเหิมเกริมมากขึ้นทุกวันเขาใช้การกระทำบอกนาง ในใจของเขามีแต่นางเท่านั้นสามสิบกว่าปีแล้ว นางเข้าวังในวัยสิบสอง บัดนี้สี่สิบสาม อดีตฮ่องเต้คือแผ่นฟ้าของนาง คือสามีของนาง คือนายของนางเขาจากไปก่อนนาง แม้นางจะเสียใจ แต่ก็มิได้แสดงออกว่าเสียใจมาก เพราะนางรู้ว่าเขากำลังรอนางอยู่ตรงนั้น สุดท้ายนางจะได้ไปพบกับเขานางรู้ ยามนี้ได้เวลาแล้ว“พูด!” หรูหัวดุดันขึ้นมา ตบหน้านางฉาดหนึ่งจิ้นหรูหน้าเอียงไปข้างหนึ่ง แก้มบวมขึ้นรอยประทับนิ้วมือทันทีจิ้นหรูคุกเข่าตัวตรง “บ่าวไม่มีอะไรจะพูดเพคะ”“เจ้ามอบความบริสุทธิ์ของเจ้าให้ผู้ใด?” ถงไทเฮาไม่แสดงออกว่าโกรธมาก ในทางกลับกัน นางพรูลมยาว ข้อกังขาที่เก็บอยู่ในใจนางยี่สิบกว่าปี กระจ่างแจ้งในที่สุด“บ่าวไม่ทร

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 272

    หรูหัวลากนางเข้าตำหนักชั้นในไปอย่างไม่ให้ปฏิเสธจิ้นหรูมองเสื้อผ้าบนฉากบังลมด้วยความประหลาดใจ เหตุใดหรูหัวจึงมีเสื้อผ้าวางอยู่ในตำหนักบรรทมของไทเฮาได้แต่นางมิได้ถาม เพราะถามแล้วก็คงไม่บอก นางมองเสื้อผ้านางกำนัลชุดนี้ มิได้สงสัยเรื่องอื่นก็เข้าไปเปลี่ยนชุดด้านหลังฉากบังลมนางเพิ่งถอดเสื้อผ้า หรูหัวก็เข้ามา “อุ๊ย ข้าลืมบอกเจ้าไป ชุดนี้เคยใส่แล้ว เปลี่ยนอีกชุดเถอะ!”นางยื่นชุดสีเหลืองอ่อนในมือให้จิ้นหรู พร้อมกับกวาดสายตามองบริเวณแขนของจิ้นหรูอย่างรวดเร็ว เมื่อนั้นก็เปลี่ยนสีหน้าเล็กน้อย ก่อนจะออกไปจิ้นหรูเพิ่งแต่งตัวเสร็จก็มีหญิงสูงวัยดุดันเข้ามาสองคน ลากแขนจิ้นหรูคนละข้างออกไปข้างนอกจิ้นหรูตกตะลึงพรึงเพริดถามขึ้นว่า “นี่พวกเจ้าจะทำอะไรน่ะ?”หญิงสูงวัยสองคนนั้นลากนางไปแล้วผลักจนนางสะดุดล้มลงพื้น ถงไทเฮามองนางจากมุมสูง ดวงหน้าอ่อนโยนเมื่อครู่แปรเปลี่ยนเป็นโหดเหี้ยมอำมหิต“เซิ่งหมู่ฮองไทเฮา บ่าวทำอะไรผิดไปเพคะ?” จิ้นหรูหัวใจหนักอึ้ง แต่ยังสงบสติอารมณ์แล้วถาม“ทำอะไรผิด?” เสียงของถงไทเฮาราวกับส่งมาจากขุมนรก พกพากลิ่นอายเย็นยะเยือกชุ่มชื้น “แต้มพรหมจรรย์ของเจ้าเล่า?”จิ้นหรูหัวใจ

สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status