Share

บทที่ 244

Author: ลิ่วเยว่
จ่านเหยียนถามฟางจี้จื่อ “ตอนนี้เจ้าจะไปตายอย่างกล้าหาญชาญชัย หรือจะเผชิญหน้ากับเรื่องต่อจากนี้ที่โหดร้ายยิ่งกว่า?”

ฟางจี้จื่อนิ่งงันครู่ใหญ่จึงเงยหน้ามองจ่านเหยียน “ทุกอย่าง สุดแล้วแต่ท่านเซียนจะบัญชา”

เขาต้องการตามหาดวงวิญญาณทั้งสามสิบแปดดวงกลับคืนมา พวกเขาตายเพราะเขา เขามิอาจปัดความรับผิดชอบได้

จ่านเหยียนพยักหน้า เอ่ย “พวกเจ้าสี่คนช่วยคุ้มกันให้ข้า ข้าต้องใช้มหาเวทสวัสติกะสะกดพวกเขาอีกครั้ง ระหว่างนี้ห้ามถูกรบกวนแม้แต่น้อย มิเช่นนั้นมหาเวทสิ้นฤทธิ์ และข้าก็จะบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน”

หนีเข้าเมืองหลวงแล้ว นางจึงได้แต่ปล่อยวางลงก่อน จัดการความโกลาหลตรงหน้าแล้วค่อยว่ากัน

“รับทราบ!”

ลมพายุหมุนหอบสิ่งของนอกโรงน้ำชาขึ้นบนฟ้า จากนั้นก็ทุ่มลงมากระจัดกระจายส่งเสียงดังเปรียะ ๆ ไปทั่ว ต้นหรงร้อยปีต้นหนึ่งถูกถอนรากถอนโคนพัดไปไกลหลายจั้ง ก่อนจะตกทับรถม้าของคณะพ่อค้าที่ผ่านมาคันหนึ่ง

คณะพ่อค้าเหล่านั้นตายอนาถอยู่ในโรงน้ำชาแล้ว

จ่านเหยียนร่ายเวทส่งคนไปบนเขาน้ำแข็ง ใช้น้ำแข็งกลบผนึกเอาไว้ รอนางหาดวงวิญญาณกลับมาได้แล้วค่อยร่ายเวทให้พวกเขากลับมามีชีวิต

ลมพายุพาฝนกระหน่ำมาถึง ปรากฏการณ์ท้องฟ้ามีช่อ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 376

    จ่านเหยียนยิ้มลับลมคมใน “เรื่องนี้ท่านไม่ต้องรู้หรอก”ราชครูถงไม่ถือว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจ หากจะถอนรากถอนโคนเขาก็ใช่เรื่องที่จะทำได้ในวันสองวัน นางค่อย ๆ จัดการได้ ที่นางห่วงในยามนี้คือมังกรร้ายต่างหาก“เจ้าเป็นใครกันแน่?” ในที่สุดมู่หรงฉิงเทียนก็ถามออกมาตอนนี้เขาย่อมไม่คิดว่านางคือคุณหนูใหญ่ในอนุภรรยาจวนสกุลหลงนั่น แต่นางมาจากที่ใดกัน? ใครให้นางมา? แล้วจุดประสงค์ที่นางมาคืออะไร?“พี่สะใภ้ของท่าน!” จ่านเหยียนยิ้มซุกซน “ความจริงไยต้องอยากรู้ว่าข้าคือใคร? ท่านรู้แก่ใจดีว่าข้าไม่มีประสงค์ร้ายกับท่าน”“อย่างนั้นหรือ?” มู่หรงฉิงเทียนจับจ้องดวงตานาง หมายเห็นความผิดแผกจากดวงตาของนาง ทว่าหลงจ่านเหยียนในปัจจุบัน นอกจากติดค้างเสื้อผ้าชุดหนึ่งของเขาแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่ผิดต่อเขา ดังนั้นเขาจึงมองอะไรไม่ออกจ่านเหยียนให้เขามองอย่างเปิดเผย เอ่ย “จะใช่หรือไม่ ท่านอ๋องรู้แก่ใจดี”มู่หรงฉิงเทียนถาม “ตกลงเจ้าใช่ปีศาจจิ้งจอกหรือไม่”นี่คือคำถามที่สองที่มู่หรงฉิงเทียนถามนางแล้ว นางไม่อยากตอบแต่ต้องตอบ “ข้าไม่ใช่ปีศาจจิ้งจอก ข้าไม่ใช่ปีศาจ ข้าคือมนุษย์”“ปีนี้เจ้าอายุเท่าไรแล้ว?” หากนางไม่ใช่ปีศาจ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 375

    ทว่านี่มิใช่ประเด็นสำคัญ ประเด็นสำคัญคือชินอ๋องมากมายล้วนมีชุดนี้กันหมด?เซ่อเจิ้งอ๋องมี ฉีชินอ๋องก็ต้องมีแน่ หากขอจากเขา เสื้อผ้านานขนาดนี้แล้วเขาคงไม่ต้องการแล้วกระมัง? นางซื้อในราคาสูงได้เมื่อคิดถึงตรงนี้ก็เอ่ยกับกัวอวี้ “พรุ่งนี้เจ้าออกวังไปขอชุดนี้กับฉีชินอ๋อง เจ้าบอกว่าข้าต้องการ หากเขาไม่ยินดีให้ก็ดูว่าเขาจะขายเท่าไร ข้าจะซื้อ เท่าไรก็ซื้อ”กัวอวี้เอ่ย “กลัวแต่เงินเท่าไรท่านอ๋องก็ไม่ขายเพคะ เพราะนี่คือความคิดถึงที่เสด็จย่าของเขาหลงเหลือไว้ให้ ไม่แน่ว่าเขาจะยอมขาย?”“ลองดูก่อนเถอะ มิเช่นนั้นข้าจะอธิบายกับทางมู่หรงฉิงเทียนไม่ได้” จ่านเหยียนเอ่ยอย่างอัดอั้นตันใจมากนี่ต้องใช้เงินก้อนโตแน่ หากเป็นนาง มีคนมาซื้อของที่แม้นางไม่ต้องการ แต่อีกฝ่ายต้องการให้ได้เช่นนี้ นางต้องเพิ่มราคาแน่จี๋เสียงออกไปอย่างหวาดกลัว แม้เรื่องนี้จะไม่โทษนาง แต่นางก็ยังรู้สึกผิดค่ำคืนนี้จ่านเหยียนหลับไม่สนิทตลอดทั้งคืน มักฝันร้าย ในความฝันเห็นมู่หรงฉิงเทียนทวงเสื้อผ้ากับนางอย่างดุดัน นางสะดุ้งตื่นจากความฝันหลายต่อหลายครั้ง เฮ้อ ชาตินี้มิเคยติดค้างผู้ใดมาก่อน คิดไม่ถึงว่ามาถึงที่นี่จะติดค้างเสื้อผ้าช

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 374

    “ก็จริงเพคะ หากเป็นอาภรณ์ของคุณหนูใหญ่จะไม่ทิ้ง บ่าวเห็นพระองค์สวมกลับมาจากนอกวัง ยังเป็นของที่คนอื่นเคยสวมใส่ ก็ไม่รู้ว่าสะอาดหรือไม่ จึงทิ้งเป็นขยะไปเพคะ” จี๋เสียงเริ่มหน้าซีด รู้สึกว่าครั้งนี้ตัวเองก่อเรื่องใหญ่แล้วจ่านเหยียนพึมพำ “ให้ตายเถอะ ครั้งนี้จะเอาเสด็จย่าที่ไหนไปชดใช้เขาเล่า?”จะให้เสด็จย่าของเขาคลานออกมาจากโลงตัดเย็บให้เขาใหม่ชุดหนึ่งก็ไม่ได้กระมัง?กัวอวี้เห็นจ่านเหยียนหน้าตาตึงเครียด จึงเดินเข้ามาถาม “ทรงเป็นอันใดไปหรือเพคะ?”จี๋เสียงเอ่ยอย่างประหวั่นพรั่นพรึง “กัวกูกู บ่าวทำผิด ทำให้คุณหนูใหญ่กริ้วแล้วเจ้าค่ะ”แต่ไหนแต่ไรมาจี๋เสียงเป็นคนบุ่มบ่าม ทำงานสะเพร่าเสมอ กัวอวี้จึงพูดอย่างหงุดหงิด “เจ้าทำอันใดผิดอีก? ทำปิ่นปักผมของคุณหนูใหญ่หายหรือ? หรือจะเป็นต่างหู? หรืออันใด?”“บ่าวทิ้งอาภรณ์ที่คุณหนูใหญ่สวมกลับมาวันนั้นเจ้าค่ะ” จี๋เสียงเอ่ยอ้อมแอ้มน้ำตาคลอ“อาภรณ์บุรุษนั้นหรือ? คุณหนูใหญ่ตรัสว่าไม่ต้องการแล้วมิใช่หรือ?” วันนั้นกัวอวี้ก็ได้ยินจ่านเหยียนพูดเหมือนกันว่าไม่ต้องการแล้วจ่านเหยียนเท้าหน้าผาก มองกัวอวี้อย่างเศร้าหมอง “เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าชุดนั้นเป็นอย่างไ

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 373

    ทั้งสองโต้กันสองสามคำก็เริ่มสงบจิตใจสนทนา“นี่ พูดจริง ๆ นะ ท่านคิดเห็นอย่างไรกับมู่หรงเจี้ยน” จ่านเหยียนใช้ศอกกระทุ้งเขาแล้วถามมู่หรงฉิงเทียนชายตา “เกี่ยวอันใดกับเจ้าด้วย?”“ก็คุยกันหน่อย”“ดูเหมือนว่าเจ้าจะใส่ใจเขามากนะ” มู่หรงฉิงเทียนไม่ตอบแต่ถามกลับจ่านเหยียนยิ้มเอ่ย “ข้าเคยบอกแล้ว เพราะเขาคือฮ่องเต้ ดังนั้นข้าจำเป็นต้องประคับประคองเขา นี่คือเรื่องที่ข้าเคยรับปากกับอดีตฮ่องเต้”“เจ้ากับเขามิได้มีสายใยสามีภรรยา” น้ำเสียงของมู่หรงฉิงเทียนพิลึกเล็กน้อย“แต่ก็มีสถานะสามีภรรยา ตำแหน่งไทเฮายังเป็นพระองค์ที่ประทานให้ หากไม่มีพระองค์ ข้าก็ไม่มีลาภยศสรรเสริญมีอำนาจเรียกลมเรียกฝนในปัจจุบัน ”จ่านเหยียนยิ้มกล่าว“ไสหัวไป!” เขาเตะนางทีหนึ่งจ่านเหยียนเอื้อมมือตีตำแหน่งที่เขาเตะมา “กระโปรงตัวใหม่ ระวังจะทำเปื้อน ท่านที่เป็นอ๋องยากไร้จะชดใช้ไม่ไหว”“ทุเรศสิ้นดี” มู่หรงฉิงเทียนปราดตามองนางด้วยความดูถูก“ท่านสิทุเรศ ท่านดูเสื้อผ้าของท่าน เอาของอาซานมาชัด ๆ สั้นขนาดไหน เท้าเบ้อเร่อโผล่ออกมาแล้ว!” จ่านเหยียนหัวเราะคิก ๆ พลางเตะน่องของเขามู่หรงฉิงเทียนดึงชุดลงมา แต่มันสั้นจริง ๆ จึงคลุม

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 372

    ดวงวิญญาณแตกสลายคืออภิมหาสังหารในโลกาเพราะมันหมายถึงทุกสิ่งคืนสู่ความว่างเปล่าและที่นางทำได้เพียงหนึ่งเดียวก็คือตามหาเขาให้เจอโดยด่วน จากนั้นก็ปราบเขา ช่วยดวงวิญญาณที่เขากลืนกินออกมายามนี้พลังเจ็ดวันของนางสูญไปแล้วกว่าครึ่ง หากตามหาเขาไม่พบในสามวันนี้ นั่นจะต้องดึงเวลาไปหลังสี่สิบวันแล้วมีคทามังกรอยู่ นางกลับไม่กลัวว่าเขาจะโจมตีกลับ ต่อให้เขาโจมตีกลับมาก็ทำร้ายนางมิได้ คทามังกรคือประมุขแห่งมังกร มังกรทุกตนในสี่สมุทรต้องฟังคำสั่งของคทามังกรทั้งสิ้นแน่นอน นอกจากเทพมังกรที่ช่วยผานกู่เบิกฟ้าดินท่านนั้นเพียงแต่นางชอบควบคุมทุกอย่างอยู่ในมือ นางรู้สึกว่าเช่นนี้จึงจะอุ่นใจที่สุด ก็อย่าง... อย่างมู่หรงฉิงเทียนในเวลานี้“ท่านเซียนยังมีเรื่องอื่นในใจหรือ?” พระอาจารย์เป่ากวงถามจ่านเหยียนเงยหน้ามองเขา ตามด้วยปฏิเสธ “ไม่มี”พระอาจารย์เป่ากวงคลี่ยิ้ม “ไม่มีจะดีที่สุด”จ่านเหยียนเห็นดวงตาที่ราวกับมองทุกอย่างทะลุปรุโปร่งก็รู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์ “ข้าจะกลับแล้ว”พระอาจารย์เป่ากวงค้อมตัวเล็กน้อย “ส่งท่านเซียน”จ่านเหยียนเดินเร็วมาก พริบตาเดียวชายเสื้อก็หายวับไปนางเพิ่งเดินบนระเบียงทาง

  • ข้ามเวลามาเป็นไทเฮาสุดแกร่ง   บทที่ 371

    จ่านเหยียนยืนอยู่ในลานตำหนักดูทุกคนเก็บกวาดครู่หนึ่ง กัวอวี้จึงเดินมาเอ่ย “ดึกแล้ว คุณหนูใหญ่รีบบรรทมเถอะเพคะ”จ่านเหยียนบิดขี้เกียจพลางแหงนหน้ามองม่านรัตติกาล จันทราทอแสงสุกใสผลุบ ๆ โผล่ ๆ หลังชั้นเมฆ จ่านเหยียนถามกัวอวี้ “พระอาจารย์เป่ากวงอยู่ที่ไหน?”“ยามนี้เกรงแต่จะจำวัดแล้วเพคะ” กัวอวี้ตอบ“มิเป็นไร ข้าจะไปพบเขาหน่อย” จ่านเหยียนเก็บเรื่องเอาไว้ในใจ อยากหาคนระบายสักหน่อยกัวอวี้เอ่ย “เช่นนั้นก็ได้ บ่าวจะไปกับคุณหนูใหญ่ พระอาจารย์กับท่านนักพรตอยู่ที่เรือนรับรองเพคะ” (เรือนสำหรับรับรองราชทูตหรือแขกพิเศษ อยู่ห่างจากวังหลวงมาก จำเป็นต้องเดินเท้าระยะเวลาหนึ่ง)“ไม่ละ เจ้าพักผ่อนเร็วหน่อยเถอะ ข้าอยากเดินคนเดียว เมื่อครู่กินแน่นเกินไป เดินสักหน่อยจะได้ย่อยอาหารด้วย” จ่านเหยียนกล่าวจบก็เดินออกไปข้างนอกกัวอวี้มองเงาหลังของจ่านเหยียน จากหว่างคิ้วของนาง เห็นได้ว่านางมีเรื่องในใจ เพียงแต่ด้วยสถานะของนางไม่สะดวกจะถามพระอาจารย์เป่ากวงยังไม่จำวัด เขาราวกับรู้ล่วงหน้าว่าจ่านเหยียนจะมา ดังนั้นจ่านเหยียนเพิ่งเข้าประตูเรือนรับรอง เขาก็ผลักประตูออกมา“หลวงจีน เจ้ารู้ว่าข้าจะมาหรือ” จ่านเหย

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status