Home / วาย / ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg) / ตอนที่ 3 สัญญาจ้าง

Share

ตอนที่ 3 สัญญาจ้าง

last update Last Updated: 2025-06-28 20:26:36

“ว่ายังไงลูกตกลงรับน้องไปทำงานด้วยพรุ่งนี้เลยใช่ไหมแม่จะได้ไปส่งด้วยที่ไร่ด้วย”

แม่เลี้ยงกานดาถามพ่อเลี้ยงกิตติภูมิทันทีที่เจ้านายหนุ่มและลูกจ้างคนใหม่มาเจอกัน เมื่อวานนางโทรไปหาลูกชายให้ลงมาจากดอยให้มาดูตัวว่าที่เลขาและผู้ช่วยส่วนตัว และให้มาตกลงเรื่องเงินเดือนกับสัญญาจ้างเข้าทำงานกับลูกจ้างที่แสนจะน่ารักถูกใจคนเป็นแม่

“ก็ครับ เดินทางพรุ่งนี้เช้าเลย ว่าแต่แม่ก็จะไปด้วยเหรอครับ”

ชายหนุ่มสงสัยทันทีที่แม่เลี้ยงกานดาออกปากจะไปส่งคนงานใหม่ที่ไร่ชาด้วยตัวเอง ไหนจะเรื่องเงินเดือนค่าจ้างที่เขาอุตส่าห์ให้มากกว่าที่อื่นถึงเดือนละสี่หมื่นเพราะเห็นว่าห่างไกลความเจริญซึ่งเด็กจบใหม่ไม่มีประสบการณ์บางที่เค้าไม่รับด้วยซ้ำยังไม่พอใจผู้เป็นแม่ยังจะมาต่อรองเงินเดือนให้ลูกจ้างกิตติมศักดิ์เป็นเดือนละห้าหมื่นอีก แทนที่จะช่วยลูกชายประหยัดยังจะมาขอให้ลูกชายจ่ายแพงกว่าเดิม เขาจะทำอะไรได้นอกจากยอมจ่ายตามที่แม่เลี้ยงผู้ซึ่งเป็นใหญ่ที่สุดในบ้านสั่งอย่างไม่กล้าหือสร้างความพอดีให้คุณนายแม่เป็นอย่างมาก

“ก็ต้องไปซิลูก หนูข้าวโพดจะได้ไม่รู้สึกเหมือนโดนทิ้งโดนปล่อยเข้าป่าไปเพียงคนเดียว เดี๋ยวแม่จะได้พาน้องบูมไปเที่ยวด้วย”

“หนูข้าวโพดมีอะไรที่ยังอยากได้อีกไหมลูก อ่านสัญญาดีๆ นะถ้าอ่านแล้วอันไหนที่เรารู้สึกว่าเสียเปรียบรู้ว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับหนูอยากให้แก้ตรงไหนหนูข้าวโพดบอกพี่บลูเค้าเลยลูกไม่ต้องเกรงใจ ถ้าพี่บลูมีปัญหาเดี๋ยวป้าจัดการเอง”

แม่เลี้ยงบอกว่าที่ลูกสะใภ้ในใจของเธอ ซึ่งลูกชายได้แต่งงไม่คิดว่าเด็กผู้ชายตัวบางผิวขาวแก้มแดง ขนตายาวงอนดกดำอย่างกับใช้ที่ดัดขนตาส่งให้นัยน์ตาสีดำกลมโตหน้าตาผู้ชายอะไรยังกับตุ๊กตา ถึงจะหน้าตาดีแต่ก็ไม่ได้มีความหล่อสมชายแม้สักเสี้ยวของเขาเลย นอกจากแค่ดูน่ารักเท่านั้น ดูแล้วไม่เห็นว่าจะมีตรงไหนให้แม่เขาเอ็นดูถึงขนาดให้คนตัวเล็กหน้ามัธยมเรียกป้าได้เลยแทนที่จะให้เรียกแม่เลี้ยงอย่างคนงานคนอื่น หรือว่าเป็นเพราะอีกคนพูดจาออดอ้อนจนน่าหมั่นไส้

“ไม่แล้วครับคุณป้า แค่นี้ก็ดีมากๆ สำหรับข้าวโพดแล้วครับ ขอบพระคุณมากครับ”

ข้าวโพดบอกแม่เลี้ยงด้วยท่าทีเกรงใจจนแม่เลี้ยงอดเอ็นดูไม่ไปไหวยิ้มออกนอกหน้า ต่างจากอีกคนที่นั่งใกล้กันกับแม่เลี้ยงทั้งที่มีสายเลือดเดียวกันแท้ๆ กลับดูยิ้มยาก แรกทีเดียวข้าวโพดคิดว่าพ่อเลี้ยงกิตติภูมิจะมีอายุมากกว่านี้เสียอีก แต่ที่ตัวเองเห็นแว๊บแรกคือ เป็นชายหนุ่มที่หล่อมากคนอะไรหล่อออร่าได้ขนาดนี้ ไหนจะหุ่นที่แสนจะเพอร์เฟคที่เค้าบอกสูงยาวเข่าดีแบบไหนแบบนั้นเลย ผิวก็ดูขาวสะอาดตาไหนจะรอยยิ้มที่มีลักยิ้ม ยิ้มทีหยุดโลกที่เขาได้มีโอกาสเห็นแค่ครั้งเดียวคือตอนแรกที่ชายหนุ่มยิ้มให้มารดาตัวเองแค่นั้น หลังจากนั้นตั้งแต่หันมาคุยกับเขาก็ไม่ได้เห็นอีกเลย คงได้เห็นแต่หน้าตาอันเคร่งขรึม ดูน่าเกรงขาม เสียงพูดที่ทุ้มแต่ทว่าดูมีอำนาจ สายตาอันดุดันดูน่ายำเกรงถ้าขืนหายใจผิดจังหวะนี่อาจโดนฆ่าตายได้ คนบ้าอะไรมีสองบุคลิกภายในเวลาเพียงชั่วประเดี๋ยวคุยกับคนเป็นแม่อีกแบบพอหันมาคุยกับเขาซึ่งก็มีแต่รายละเอียดเรื่องงานก็อีกแบบ คนแบบนี้สำหรับข้าวโพดไม่น่าจะมีใครอยากอยู่ด้วยเลย

“งั้นเอาเป็นว่าพรุ่งนี้เดี๋ยวสักเก้าโมงค่อยกลับนะลูก แม่กับหนูข้าวโพดจะไปรถตู้ของที่บ้านเองและลูกต้องเป็นคนขับ ส่วนรถของลูกให้คนขับรถที่บ้านขับไป” แม่เลี้ยงกานดาจัดแจงเสร็จสรรพ

“แต่…”

“ไม่มีแต่ครับลูกชาย คำสั่งแม่ถือว่าเด็ดขาด โอเคนะ” คนเป็นลูกยังไม่ทันได้พูดโต้แย้งอะไร โดนแม่ผู้มีอำนาจสูงสุดปัดตกหมดข้อโต้แย้งทันที

“ยายจ๋า ข้าวโพดไม่อยู่ยายดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะจ๊ะ มีอะไรให้โทรหาข้าวโพดได้เลยนะ ถ้าไม่มีอะไรแค่คิดถึงข้าวโพดก็โทรได้เลยนะข้าวโพดจะรับทันทีถ้าข้าวโพดรับได้ แต่เดี๋ยวข้าวโพดจะโทรมาบ่อยๆ และมีโอกาสจะลงมาหายายบ่อยๆ นะจ๊ะ”

หลานชายสั่งเสียคนเป็นยายยาวเฟื้อยจนยายบุปผาอดขำหลานชายตัวเองไม่ได้ สั่งเสียยังกับจะจากกันไปนาน เพราะก็อยู่กันแค่คนละอำเภอปกติพ่อเลี้ยงกิตติภูมิหรือคุณบลูก็ลงมาหาพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงบ่อยๆ อยู่แล้ว เค้าคงเมตตาพาข้าวโพดลงมาด้วยอยู่หรอกคงไม่ใจร้ายใจดำปล่อยไว้ให้ทำงานบนดอยคนเดียว

“จ้า ข้าวโพดไม่ต้องห่วงยายหรอกลูก ยายอยู่กับพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยงถ้ามีอะไรยายให้ท่านโทรหาข้าวโพดอยู่แล้ว ไปอยู่กับพ่อเลี้ยงที่โน่นก็อย่าดื้อกับท่านนะลูก ตั้งใจช่วยพ่อเลี้ยงเขาทำงาน พ่อเลี้ยงบอกอะไรให้เชื่อฟัง ช่วยงานอะไรได้ก็หยิบจับช่วยกันนะลูก อย่าอยู่เฉยๆ ให้คนอื่นเขาว่าเอาได้ มีอะไรให้อดทนใช้เหตุผลอย่าเอาแต่ใจอย่าใช้อารมณ์นะลูกนะ พ่อเลี้ยงเขาจะได้เอ็นดู ไปเถอะลูกสายแล้วเดี๋ยวคุณๆ เขารอ ดูแลตัวเองด้วยนะลูกหยูกยาเอาไปบ้างไหมเผื่อเป็นอะไรจะได้มีกิน ลืมของอะไรอีกไหมลูกเช็คดูดีๆ นะ กว่าจะได้ลงมาอีกก็อาจจะหลายวัน”

ว่าแต่หลานสั่งเสียตัวเองนาน ยายบุปผาก็ลืมตัวสั่งเสียยาวไม่แพ้หลาน เพราะมีหลานคนเดียวยังไม่มีโอกาสที่จะได้อยู่ด้วยกันนานๆ เลย เลยอดห่วงไม่ได้

“ข้าวโพดไปแล้วนะจ๊ะยายจ๋า เดี๋ยวถ้าตอนเย็นข้าวโพดว่างข้าวโพดโทรหานะจ๊ะ มาขอข้าวโพดหอมหน่อยจะไม่ได้กอดไม่ได้หอมอีกหลายวันต้องตุนไว้ ฟอดดด ฟอดดดด”

ร่างบางโผเข้าไปกอดผู้เป็นยายที่เป็นผู้ใหญ่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวของตัวเอง ก่อนจะทั้งกอดทั้งหอมแก้มเหี่ยวๆ นุ่มๆ ของยาย ส่วนยายบุปผาก็หอมศีรษะหลานชายอย่างแสนรักก่อนที่ทั้งยายและหลานจะพากันเดินไปขึ้นรถที่บ้านใหญ่ ที่มีรถตู้จอดรออยู่แล้วหนึ่งคัน

ไปถึงเพียงครู่เดียวแม่เลี้ยงกานดา พ่อเลี้ยงธนา พ่อเลี้ยงกิตติภูมิ และหลานน้อยอย่างน้องบูมก็เดินออกมาจากบ้านมาขึ้นรถตู้ ซึ่งแม่เลี้ยงเปลี่ยนใจเอาคนขับรถไปอีกคนเพื่อที่จะให้ลูกชายได้นั่งไปเฉยๆ สบายๆ ส่วนรถของที่ไร่ก็ให้คนขับขับออกไปก่อนหน้าแล้ว

“ป้าบุปผา ไปด้วยกันนะ” แม่เลี้ยงกานดาเอ่ยชวน

” ไม่เป็นไรค่ะแม่เลี้ยงเดี๋ยวป้าอยู่ดูแลที่บ้านเองค่ะ” ป้าบุปผาบอกปฏิเสธถึงแม้จะอยากตามไปส่งหลานชายด้วยก็ตามทีเพราะรู้ว่ามันไม่เหมาะ

“ไม่เป็นไรหรอกครับป้าผา มาด้วยกันเถอะครับ เดี๋ยวคนงานใหม่ของผมจะได้ไม่หาเรื่องเหงาคิดถึงยาย” เจ้าของไร่เอ่ยปากชวนเองด้วยรู้ว่าป้าบุปผาแกคงอยากไปส่งหลานชายคนเดียว แต่คงเกรงใจเลยปฏิเสธไม่กล้าไปด้วย

“ก็ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะคุณบลูที่เข้าใจคนแก่”

ป้าบุปผาตกลงด้วยความดีใจ ส่วนคนเป็นหลานถึงกับดีใจยิ้มกว้างที่อย่างน้อยก็ได้อยู่กับยายนานขึ้น เพิ่งรู้ว่าพ่อเลี้ยงผู้เคร่งขรึมก็มีมุมอ่อนโยนเห็นใจคนอื่นก็เป็น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)   ตอนพิเศษ 11 ความรักที่ไม่อาจหักห้ามและความสุขที่แท้จริง (พันธกร VS ภาณุพงศ์)

    หลังจากบทสนทนานั้น บรรยากาศในบ้านกลับมาผ่อนคลาย พ่อแม่ของพันธกรเริ่มพูดคุยกับภาณุพงศ์อย่างเปิดใจมากขึ้น ความตึงเครียดและความไม่ไว้วางใจที่เคยมีก็เริ่มหายไป พวกท่านเริ่มเห็นถึงความเป็นคนดีและความจริงใจของภาณุพงศ์ ในช่วงเย็น พ่อของพันธกรยิ้มออกมาเป็นครั้งแรก ขณะที่พูดคุยกับภาณุพงศ์เกี่ยวกับอนาคต “ลูกเขยแบบเธอก็ดูไม่เลวเลยนะ ถ้าทำได้อย่างที่พูดไว้ พ่อก็คงไม่มีอะไรต้องห่วง” พ่อของพันธกรพูดพร้อมกับหัวเราะเบาๆ “ขอบคุณครับพ่อ ผมจะทำให้ดีที่สุด” ภาณุพงศ์ยิ้มรับ พันธกรยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ เขาไม่เคยคิดเลยว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นได้ แต่เมื่อได้เห็นพ่อแม่ยอมรับตัวตนของเขาและภาณุพงศ์ เขาก็รู้สึกว่าทางเดินที่เคยยากลำบากนั้นได้เปิดกว้างขึ้นแล้ว แสงแดดยามเช้าสาดส่องลงบนทุ่งดอกดาวเรืองที่บานสะพรั่ง ทุ่งดอกไม้สีเหลืองทองสว่างสดใสทำให้บรรยากาศรอบๆ เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสงบ พันธกรยืนมองดอกไม้ที่เขาใช้เวลาหลายปีในการดูแลด้วยความรักและภาคภูมิใจ แต่ครั้งนี้เขาไม่ได้ยืนอยู่คนเดียว ข้างๆ เขาคือภาณุพงศ์ คนที่เขารัก ซึ่งตอนนี้นายตำรวจหนุ่มจับมือพันธกรไว้แน่น ทั้งคู่ยืนเคียงข้างกัน มองดูทุ่งดอกดาวเรือ

  • ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)   ตอนพิเศษ 10 ความทุกข์ท่ามกลางการกีดกัน (พันธกร VS ภาณุพงศ์)

    พันธกรยืนอยู่กลางทุ่งดาวเรืองที่เคยเป็นความภาคภูมิใจของเขา แต่ทุกอย่างรอบตัวกลับดูไร้สีสันและไม่มีชีวิตชีวาเหมือนเมื่อก่อน หลังจากที่พ่อแม่พยายามกีดกันความสัมพันธ์ของเขากับภาณุพงศ์ และบังคับให้เขาอยู่ในกรอบของครอบครัว ชีวิตของพันธกรก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปเขาไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยออกไปพบปะใคร และไม่สนใจสิ่งที่เคยทำให้เขามีความสุขอีกต่อไป ทุกวันเขาแค่ทำงานตามหน้าที่ ร่างกายทำงานไปตามปกติ แต่หัวใจกลับแห้งแล้งเหมือนถูกกักขังในกรงแห่งความทุกข์แม่ของพันธกรมองดูลูกชายด้วยความเจ็บปวดใจ ในสายตาของเธอ เขากลายเป็นคนเงียบขรึมและหม่นหมองไปอย่างเห็นได้ชัด เธอไม่เคยเห็นเขาเป็นแบบนี้มาก่อน ตั้งแต่วันที่เธอและสามีกีดกันความรักของเขา เขาก็ไม่เคยยิ้มอย่างจริงใจอีกเลย"พ่อ พ่อลองมองดูลูกของเราซิ ตั้งแต่วันนั้นที่เราห้ามเขา เขาก็ไม่เหมือนเดิมอีกเลย" คนเป็นแม่พูดกับพ่อด้วยน้ำเสียงกังวลและทุกข์ใจพ่อของพันธกรซึ่งแม้จะภายนอกยังดูแข็งกร้าว แต่ภายในใจกลับรู้สึกถึงความเจ็บปวดไม่ต่างกัน เขาเองก็รู้ว่าลูกชายของเขาไม่ได้มีความสุขเหมือนที่เคยเป็น เขาได้แต่ถอนหายใจยาวออกมาก่อนจะเอ่ยกับภรรยาคู่ชีวิต"พ่อแค่ไม่อยากให้ลู

  • ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)   ตอนพิเศษ 9 การเผชิญหน้ากับความคาดหวังของครอบครัว (พันธกร VS ภาณุพงศ์)

    หลังจากการเผชิญหน้ากับภาณุพงศ์ พันธกรยังคงใช้เวลาส่วนใหญ่ในไร่ดอกดาวเรือง ความสงบของธรรมชาติที่ล้อมรอบเขาเป็นเหมือนเครื่องปลอบประโลมความคิดที่ยังคงยุ่งเหยิงอยู่ในใจ แม้ว่าเขาจะปฏิเสธภาณุพงศ์ไปและไล่ภาณุพงศ์กลับไปเชียงใหม่ในตอนแรก แต่ความจริงคือคำพูดของภาณุพงศ์ยังคงก้องอยู่ในหัวใจของเขา ความจริงใจที่เห็นในสายตา และน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรู้สึกเสียใจและรัก ทำให้พันธกรเริ่มรู้สึกถึงความหวั่นไหวในใจ เขานั่งลงใต้ร่มไม้ มองดูดอกดาวเรืองที่เริ่มเปลี่ยนสีเมื่อแสงแดดตกกระทบ มันทำให้เขานึกถึงช่วงเวลาที่ดีระหว่างเขากับภาณุพงศ์ก่อนที่ทุกอย่างจะเริ่มซับซ้อน ความทรงจำเหล่านั้นทำให้พันธกรอดคิดไม่ได้ว่า บางทีเขาอาจไม่สามารถตัดใจจากภาณุพงศ์ได้อย่างที่เขาตั้งใจ ขณะที่กำลังจมอยู่กับความคิด โทรศัพท์ของพันธกรดังขึ้น ชื่อของภาณุพงศ์ปรากฏบนหน้าจอ เขามองมันอยู่นานก่อนจะตัดสินใจรับสาย ด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง "ว่าไง" ถึงแม้พันธกรจะข่มเสียงให้นิ่ง แต่ในใจตอนนี้เขากลับเต้นรัว เพราะเสียงที่ภาณุพงศ์ตอบกลับมากลับเป็นเสียงที่อ่อนโยน "พี่แค่อยากถามว่าพันสบายดีไหม พี่รู้ว่าพันคงกำลังเครียดกับหลายๆ เรื่อง" "ก็ดี

  • ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)   ตอนพิเศษ 8 การเผชิญหน้าท่ามกลางความเจ็บปวด (พันธกร VS ภาณุพงศ์)

    วันนี้เป็นวันที่ฟ้าครึ้มเล็กน้อย ลมพัดเบาๆ ภาณุพงศ์กำลังนั่งดื่มกาแฟอยู่ในคาเฟ่ประจำ เขาตั้งใจใช้เวลาว่างจากงานเพื่อลองจัดการความรู้สึกที่ยังคงค้างคาใจเกี่ยวกับพันธกร แม้จะพยายามลืมแต่ในใจลึกๆ เขายังคงนึกถึงอยู่เสมอทุกครั้งที่เขาว่างในขณะที่เขากำลังจะลุกขึ้นไปจ่ายเงิน เขาก็เห็นข้าวโพดเดินเข้ามาในร้าน ภาณุพงศ์จึงเดินเข้าไปทักทาย“น้องข้าวโพด มาทำอะไรแถวนี้ครับ”“อ้าว พี่พงศ์ ไม่คิดว่าจะเจอกันที่นี่ ข้าวโพดอยากมาทานเค้กร้านนี้ครับก็เลยบังคับให้เฮียบลูพามา แล้วพี่พงศ์ล่ะครับ”“ก็เหมือนเดิม พักนี้ยุ่งๆ เลยหาที่นั่งสงบๆ คิดอะไรนิดหน่อย แล้วนี่ไอ้บลูล่ะ”“เฮียบลูคุยโทรศัพท์กับลูกค้าอยู่ครับ ข้าวโพดเลยเดินเข้ามาก่อน” ข้าวโพดบอกเพื่อนสามีและมองภาณุพงศ์เหมือนกำลังชั่งใจว่าจะพูดดีหรือไม่“เอ่อ พี่พงศ์รู้ไหมครับ ว่าพี่พันเพิ่งมาหาที่เชียงใหม่เมื่อวาน”ภาณุพงศ์ตกใจที่ได้ยิน หัวใจเต้นตึกตักที่ได้ยินเพียงแค่ชื่อของคนที่อยู่ในความคิดของเขาตลอด“พะ พันมาที่นี่ เขามาที่นี่เหรอ”“ใช่ครับ พี่พันมาหาข้าวโพดเมื่อวาน และเขาบอกอยากเจอพี่มาก และมีอะไรจะบอกพี่พงศ์ แต่…” ข้าวโพดหยุดพูดเหมือนกลืนไม่เข้าคายไม่อ

  • ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)   ตอนพิเศษ 7 การตัดสินใจกลับไปเจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด (พันธกร VS ภาณุพงศ์)

    ในบรรยากาศของบ้านไม้สักเก่าแก่หลังใหญ่ที่เชียงคาน พันธกรนั่งฟังพ่อและแม่พูดคุยเรื่องการเตรียมงานแต่งงานที่พ่อเขาได้ตกลงกันไว้กับทางครอบครัวของอิงอรไปแล้วโดยไม่ถามความเห็นของเขา วันที่ถูกกำหนดไว้แน่นอนแล้ว เป็นการตกลงที่รวดเร็วเกินไป ทำให้พันธกรรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าสู่เส้นทางที่เขาไม่ได้ต้องการ “พ่อกับแม่คุยกับครอบครัวหนูอิงเรียบร้อยแล้ว งานแต่งจะจัดเดือนหน้า” พ่อของพันธกรพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับครอบครัวเรา อีกไม่นานแม่ก็จะได้เห็นหลานเต็มบ้านเต็มเมือง” แม่ของเขาพูดเสริมขึ้นพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ส่งมาให้เขาอย่างอบอุ่นและคาดหวัง พันธกรได้แต่พยักหน้ารับคำ แม้ภายนอกจะดูสงบนิ่ง แต่ในใจกลับเต็มไปด้วยความสับสนและความทุกข์ใจ เขายังคงคิดถึงภาณุพงศ์อย่างห้ามไม่ได้ ความรู้สึกที่เคยคิดว่าจะจางหายไปกลับทวีความรุนแรงขึ้น เมื่อเขาต้องเผชิญกับการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ไม่กี่วันต่อมา พันธกรตัดสินใจเดินทางไปเชียงใหม่เพื่อหาโอกาสระบายความอึดอัดใจให้กับข้าวโพด ซึ่งเป็นญาติผู้น้องที่เขาสนิทและไว้ใจ เขารู้ว่าข้าวโพดเป็นคนเดียวที่เขาจะพูดคุยด้วยได้โดยไม่ต้องกลัวว่าจะถูกตัดสิน

  • ข้าวโพดในไร่ชา (Mpreg)   ตอนพิเศษ 6 ความคาดหวังของครอบครัวกับความในใจที่สับสน(พันธกร VS ภาณุพงศ์)

    บรรยากาศในบ้านของพันธกรดูสดใสขึ้นตั้งแต่เขากลับมาอยู่ที่เชียงคาน แต่ในใจของเขากลับรู้สึกอึดอัดมากขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอกับแรงกดดันจากพ่อของเขา วันนี้พ่อเขาโทรมาหาให้เขาไปทานข้าวและนอนที่บ้านมีเรื่องจะคุยด้วย เขาซึ่งปกตินอนที่บ้านที่ไร่ดอกดาวเรืองเลยต้องเข้ามาหาพ่อกับแม่ผู้ให้กำเนิด “พ่อคิดว่าอิงอรเป็นผู้หญิงที่เหมาะสมกับลูก” พ่อพูดขณะนั่งจิบชาหลังอาหารเย็น “เธอเป็นคนดี เรียนเก่ง แถมยังช่วยงานพ่อแม่ของเธอได้เยอะ พ่อว่าถ้าลูกได้ใช้เวลากับเธอมากกว่านี้ อาจจะเห็นอะไรดีๆ มากขึ้นก็ได้” พันธกรรู้ดีว่าพ่อของเขาตั้งใจจะให้เขาแต่งงานและตั้งหลักปักฐานตามแบบที่ครอบครัวคาดหวังไว้ เขาไม่ได้อยากทำให้พ่อผิดหวัง เขาจึงพยักหน้ารับด้วยความจำใจ “ได้ครับพ่อ ผมจะลองออกไปเจอเธอดู” วันเสาร์เช้าตรู่ อิงอรกับครอบครัวของเธอปรากฏตัวที่บ้านพ่อกับแม่ของพันธกรในชุดเดรสเรียบๆ แต่ดูน่ารัก เธอมาพร้อมกับรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความตั้งใจจะทำให้วันนี้เป็นวันที่น่าจดจำสำหรับพวกเขาทั้งคู่ “สวัสดีค่ะ พี่พัน” อิงอรยิ้มอย่างเป็นกันเอง “วันนี้เราจะไปไหนกันดีคะ” พันธกรพยายามฝืนยิ้มกลับ “เดี๋ยวผมพาไปเดินเล่นริมโขงนะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status