Home / รักโบราณ / ข้าเป็นแค่สาวใช้ / ตอนที่ 5 ยาอายุวัฒนะ

Share

ตอนที่ 5 ยาอายุวัฒนะ

last update Last Updated: 2025-10-21 12:32:47

สำหรับ หลี่จงหยาง ผู้มีพลังลมปราณอยู่ระดับ ทอง—ไม่แน่ว่าอาจก้าวถึง เพชร ได้ พลังและบารมีเช่นนี้ ในเมืองฟูฟงจะมีผู้ใดเทียบเคียง

เมื่อกล่าวถึงความล้ำค่าของเม็ดยา มือของเสนาบดีสั่นเล็กน้อย พอกล่องถูกเปิด กลิ่นหอมเย็นก็อบอวล ชวนให้ผู้คนสดชื่น เป็นบุญตาที่ได้เห็น ยาอายุวัฒนะ ซึ่งเลือนเป็นตำนาน—เนิ่นนานแล้วที่ไม่มีผู้ใดปรุงได้

ความยากของยามิใช่เพียงวัตถุดิบ แต่หมายถึง ผู้ปรุง ต้องเชี่ยวชาญระดับปรมาจารย์ คุมไฟและส่วนผสมได้พอเหมาะ ยาจึงออกฤทธิ์เต็มกำลัง

เพราะความพิเศษนี้เอง หลายคนเริ่มกระซิบ—เม็ดยาตรงหน้าจะเป็น “ยาอายุวัฒนะ” จริงหรือไม่ เสนาบดีหลี่จงหยางย่อมได้ยินทั้งหมด จึงหันมอง หลี่จือหยา อยู่หลายครา เขารู้ดีว่าบุตรีเริ่มสนใจการปรุงยามาหลายปี กระนั้นการจะ ปรุงยาอายุวัฒนะ ได้—เกินคาดไปมาก ทว่าเมื่อเห็นส่วนผสมมี เห็ดหิมะ (ที่ผู้คนบางส่วนเรียก “บัวหิมะ”) ก็แน่ใจได้อย่างหนึ่งว่า มิใช่ยาชุ่ย แน่นอน เพียงแต่…จะถึงขั้น “อายุวัฒนะ” หรือไม่ ยังยากตัดสิน

ฮูหยินหลี่ แม้มิได้โง่เขลาถึงขั้นปรามาสต่อหน้าผู้คน แต่ก็พูดด้วยรอยเมตตา

“นายท่าน—ถ้าให้คุณหนูลองทานเม็ดนี้ ไม่แน่อาจจะ…”

ไม่ทันจบ เสนาบดีหันมา ขมวดคิ้ว นางจึงรีบก้มศีรษะ “เป็นข้าน้อย…ที่ปากมากเอง”

เท่านี้ก็พอให้แขกคิดต่อ—หากยานี้ดีจริง ให้หลี่จือหยาทาน อาจทำให้นาง ฝึกปราณได้ แต่ถ้าไม่ได้ผล มิยิ่งตอกย้ำ “ความไร้ค่า” ของบุตรีหรือ? รอยสงสารเจือเยาะเริ่มคุกรุ่นในหลายสายตา ส่วนฮูหยินหลี่ ภายในกลับ สะใจอยากอวดเก่งดีหนัก คงยกหินทุ่มเท้าตัวเองในที่สุด นางคิดจะค่อย ๆ ทำให้เสียหน้า จนวันหนึ่งถูกถอนหมั้นเอง

เมื่อความคิดหลากหลายในโถงกำลังก่อตัว และ หลี่เจิ้น ใกล้จะเอ่ยคำ หลี่จือหยา—whichเงียบรอจังหวะ—จึงยกเสียงใส

“เป็นลูกอกตัญญูที่ทำให้ท่านพ่อกังวลใจ ลูกได้ เห็ดหิมะ มา 4 ดอก จึงทดลองปรุงยาอายุวัฒนะ 4 เม็ด เพื่อความมั่นใจ ลูกได้ทานด้วยตนเองหนึ่งเม็ด… ลูกทราบตัวดีว่าไร้ค่า จึงไม่กังวลอันใด และความพยายามก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ท่านพ่อดูเถิดเจ้าคะ—รูปลักษณ์ของลูก เปลี่ยนไป หรือไม่”

จริงดังว่า—ผิวพรรณและโฉมหน้า งดงามแพรวพราวขึ้น อย่างเห็นได้ชัด

“และสิ่งที่ทำให้ลูกยินดียิ่งกว่า—หลายวันมานี้ลูกพยายามฝึกลมปราณ และบัดนี้สามารถไต่ถึง ระดับเงิน แล้วเจ้าค่ะ ทั้งหมดล้วนเพราะพระบารมีท่านพ่อ ท่านย่า ท่านปู่ และบรรพบุรุษที่คุ้มครองลูกหลาน”

กล่าวจบ นางคำนับผู้อาวุโสเต็มพิธี

ฮูหยินหลี่ ตะลึง—เป็นไปได้อย่างไร ส่วน หลี่เจินเจิน เล็บที่กุมในแขนเสื้อ จิกจนเลือดซึม ราวไม่รู้สึกเจ็บ ด้านเสนาบดี ปลื้มปิติที่สุด

“นี่เจ้าฝึกเพียงไม่กี่วันก็ขึ้นขั้นจริงหรือ ลูกพ่อเลื่อนระดับรวดเร็วปานนี้—อัจฉริยะ โดยแท้!”

“เพราะพวกเราเป็นลูกท่านพ่อ ความสามารถย่อมถ่ายทอดจากท่านพ่อมา” หลี่เจิ้น ผสานคำอย่างรู้กาลเทศะ

แขกเริ่มเอ่ยเสริม “ในเมื่อเป็นยาอายุวัฒนะจริง—หากท่านเสนาบดีทานในวันเกิด ย่อมเป็น สิริมงคล ยิ่ง!”

เสียงสนับสนุนหนาหู ทุกคนอยากเห็นผล หากมีผู้ปรุงยาอายุวัฒนะได้—พวกเขาอาจ เพิ่มระดับปราณ และ ยืดอายุขัย ได้หลายสิบปี

เมื่อเสียงยกยอถาโถม หลี่จงหยางเลี่ยงไม่ออก จึงหยิบเม็ดยาขึ้น กลืนลงไป

แรกกลืน—ความเบาสบายแล่นทั่วกาย เขานั่งขัดสมาธิ ปรับลมปราณ ไม่นาน หมอกขาวจาง ๆ ก่อรอบตัว ทุกคนรู้ทันทีว่าท่านกำลัง ทะลวงขั้น สีทองที่โอบล้อมค่อย ๆ แปรเป็น เพชรสุกใส แสงเจิดจ้าจนผู้คนต้องหรี่ตา

ตระกูลหลี่สืบเชื้อสาย หงส์ เมื่อล่วงถึงระดับเพชร—หงส์ทอง ย่อมปรากฏ ฝูงหงส์โผขึ้นจากหุบเขาตระกูล บินวนเวียนเหนือคฤหาสน์นับสิบตัว แซ่ซ้องยินดี แก่ผู้นำคนใหม่

เป็นสิริมงคลยิ่ง!” เสียงอุทานระคนปีติลั่นลาน หลายคนเคยคิดว่าเรื่องนี้เป็นเพียงนิทานเล่าลูกหลาน—บัดนี้ได้ประจักษ์ด้วยตา เหตุการณ์วันนี้จะถูกเล่าขานไปอีกหลายสิบปี

เมื่อแสงจางลง—หลี่จงหยางลืมตา รูปกายราว หนุ่มเมื่อสิบกว่าปีก่อน มือที่เคยหยาบกลับเรียบเนียน เขายังไม่ทันเปล่งคำ ก็เห็น หงส์ทองผู้นำฝูง ยืนกลางลาน—และได้ยินเสียงที่มีเพียงตนรับรู้

“เมื่อเจ้าฝึกถึงระดับเพชร ข้าจึงนำหงส์มาให้เลือกทำ สัญญาคู่กาย มันจะอยู่ข้างเจ้า จนสิ้นอายุขัย—แล้วดับตาม”

หลี่จงหยางสบตาหงส์ทีละตน จนพบตัวที่ ถูกชะตา หงส์นั้นย่อส่วนเป็นนกน้อยโผลงมาเกาะข้างกาย ที่เหลือก็บินกลับหุบเขา

เขาคำนับศาลบรรพบุรุษ แล้วหันมาคำนับฮูหยินและท่านผู้เฒ่า

ยินดีกับท่านเสนาบดีหลี่!” เสียงยินดีดังกระหึ่ม

หลี่จงหยางหันมายังหลี่จือหยา ยิ้มระคนปลื้ม “ยังเหลือยาอีกสองเม็ด หรือไม่”

นางค้อมศีรษะ “เจ้าค่ะ ลูกขอมอบให้ ท่านปู่ กับ ท่านย่า ตามที่ลูกเรียน—เพราะบารมีท่านทั้งสองและบรรพชนไม่ทอดทิ้ง จึงมีวันนี้”

ผู้คนหูผึ่ง—สองเม็ดนั้นจะตกแก่ผู้ใด บ้างคิดว่าควร ทูลฮ่องเต้ เพื่อเอาใจ แต่หลี่จงหยางเพียงยิ้ม—ตระกูลหลี่ยิ่งใหญ่พอ ไม่จำเป็น ต้องประจบผู้ใด

หลายฝ่ายอิจฉาจนควันกรุ่น เว้นแต่ ตระกูลเซียว ที่กลับยินดี—หลี่จือหยาหมั้นกับ เซียวหลีหยวน หากหาเห็ดหิมะได้อีก ย่อมปรุงได้อีกในภายหน้า อายุของทั้งคู่ยังน้อย ทางข้างหน้ายังยาว ฮูหยินเซียว แอบชำเลืองแผน—คราวนาง “ไร้ค่า” ก็ไม่เคยขอถอนหมั้น บัดนี้ใกล้ถึงวันปักปิ่น ย่อมเหมาะจะเร่งฤกษ์

ตงซิงหยวน ก็ได้รับเทียบเชิญ เขาอดอิจฉาหลี่จงหยางมิได้—หากข้าได้เม็ดนั้น รูปโฉมคงยิ่งสะกดเมือง องครักษ์เงา อู่เป่า โน้มตัวกระซิบ

“คุณชายขอรับ…”

ตงซิงหยวนเหลือบตา “ว่ามา”

“คืนที่หอชิงหยวน ข้าพบ คุณหนูหลี่จือหยา—แต่งกายเป็นสาวใช้…เหมือน แม่นางผู้นั้น ขอรับ”

แววตาตงซิงหยวน ไหววาบ—รอยยิ้มมุมปากผุดช้า ๆ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ข้าเป็นแค่สาวใช้   ตอนที่ 35 ตราบชั่วนิรันดร์ 2

    หลังจากที่นางบาดเจ็บเพราะทำสงครามร่วมกับเผาปีศาจเป็นช่วงที่นางผ่านบ่วงกรรมรักและด่านเคราะห์ไปให้ได้ นางส่งจิตส่วนหนึ่งไปกำเนิดเป็นมนุษย์ที่อีกมิติ ความทรงจำปะปนจนเกิดเป็นนิยาย เมื่อกลับเข้ามาในร่างยังไม่สามารถฟื้นฟูจิตใจได้ โชคดีที่สวรรค์ยังเมตตาให้นางได้บำเพ็ญเพียรสร้างบุญกุศล จึงผ่านเคราะห์กรรมนี้อย่างไม่ยากลำบากนักเหมยหลิงเดินออกมาจากตำหนักสัจธรรมนางไม่ได้เข้าไปเอ่ยลาและกล่าวขอบคุณเทพอันเจียงหลง เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนต่างตอบแทนกัน นางรีบเดินทางไปยังป่าศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่ของเผ่าพันธุ์จิ้งจอกของนางระหว่างทางสัตว์อสูรน้อยใหญ่ต่างออกมาต้อนรับการกลับมาของนางเหมยหลิงมายืนนิ่งอยู่หน้าเรือนของตนเอง มีเสียงบรรเลงพิณเบาๆ ออกมาจากในนั้น นางค่อยๆ เยื้องกายเข้าไป แม้นางจะห่างเขาเพียง 3 วัน แต่ความรู้สึกกลับยาวนาน แผ่นหลังบุรุษสั่นเทาเล็กน้อยเมื่อรับรู้การมาของใครบางคน ตงซิงหยวน รีบหันกายล่องลอยมาโอบกอดหญิงสาวแน่นทันที“ท่านสำเร็จเป็นเซียนแล้ว” เหมยหลิงเอ่ยยิ้มละมุนเช่นเดิม“เซียนน้อยเช่นข้า จะเทียบเท่าพลังราชาจิ้งจอกอย่างเจ้าได้อย่างไร น่าอายนัก”ระยะทางของตงซิงหยวนยังอีกยาวไกลเซียนจะมีอายุเร

  • ข้าเป็นแค่สาวใช้   ตอนที่ 35 ตราบชั่วนิรันดร์ 1

    ตอนที่ 35 ตราบชั่วนิรันดร์“ในที่สุดท่านก็กลับมา” เหมยหลิงเอ่ยด้วยน้ำเสียงดีใจ เมื่อกลับมายังเรือนแล้วเห็นพี่สาวเหมยฮว่า“น่าจะหมื่นปีมาแล้วที่เจ้าไม่ดีเคยแสดงอาการดีใจที่ได้เจอข้า” เหมยฮว่าเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม“ท่านอย่าล้อข้าเล่นเลย ท่านบอกให้ข้ารอท่าน ข้าก็รออย่างตั้งใจนะเจ้าคะ”เหมยหลิงเอ่ยออดอ้อน ที่พึ่งของเธอตอนนี้มีเพียงพี่สาวคนงามเท่านั้น“ข้าไปที่สวรรค์ชั้น 9 มา แม้จะรีบเพียงใดเมื่อเทียบกับโลกมนุษย์ก็ผ่านไปหลายเดือน ข้ากลับมาคราวนี้เจ้าตัดสินใจได้แล้วกระมังว่าจะทำเยี่ยงไร”“ท่านพี่…ก่อนหน้าข้าได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับด่านกรรมของท่านเทพอันเจียงหลง แต่โชคดีที่ท่านไม่เอาความและท่านยังบอกว่าจะช่วยข้าฟื้นฟู่พลังจิต ให้ข้าติดตามกลับไปสวรรคชั้น 9”เหมยหลิงเอ่ยเล่าเรื่องราวบางส่วนก่อน“เจ้าคิดว่ากลับมาจะไม่ได้พบตงซิงหยวนใช่หรือไม่” แม้ไม่เล่าจนหมดเหมยฮว่าสามารถเดาเหตุการณ์ได้ไม่ยากเหมยหลิงพยักหน้ารับสีหน้าคล้ายคนสำนึกผิด“เจ้าจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย ข้าจะพาตงซิงหยวนกลับเผ่าจิ้งจอกเก้าหางให้ท่านพ่อช่วยรับตงซิงหยวนเป็นศิษย์ เจ้าเป็นลูกรักอยู่แล้วเรื่องนี้น่าจะไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเจ้าก็ตา

  • ข้าเป็นแค่สาวใช้   ตอนที่ 34 เตรียมกล่าวลา

    ตอนที่ 34 เตรียมกล่าวลาเหมยหลิงตั้งใจจะกลับตระกูลหลี่และไปเยี่ยมจือหยาการกลับมาตระกูลหลี่ในครั้งนี้นายท่านเสนาบดีหลี่สั่งให้ทุกคนออกไปต้อนรับอย่างพร้อมเพียงกัน เมื่อมาถึงเหมยหลิงจึงได้เจอผู้คนจำนวนมากเกือบหมดทั้งตระกูลเว้นเพียงแต่นายและฮูหญิงผู้เฒ่าเท่านั้น นางซึ้งใจร้องให้แบบไม่มีน้ำตาเมื่อรถม้าเคลื่อนมาจอดหน้าประตูจวน ทุกคนต่างคุกเข่าคำนับโดยมีเสนาบดีหลี่อยู่ด้านหน้ามีเพียงจือหยาที่ยืนเด่นเป็นสง่ายื่นข้างกัน เหมยหลิงจึงรีบสะบัดมือให้ทุกคนลุกขึ้น“เหมยหลิงคารวะท่านพ่อ” นางคารวะนายท่านเสนาบดีอย่างนอบน้อมไม่ได้ทำตัวหย่อหยิ่งองค์หญิงเหมยหลิงกลับมาคราวนี้ยิ่งงดงามหมดจดไร้ที่ติ งามล้ำเหนือหญิงงามใดใด ความงามนั้นทำให้หลายคนโดนสะกดไร้ปฏิกริยา เสนาบดีได้ยินเสียงใสของเหมยหลิงทำให้ตื่นจากพะวง รีบเอ่ย“ขอบพระทัยองค์หญิงที่ทรงให้เกียรติกระหม่อม” เสนบดีหลี่ทำความเคารพ เอ่ยยิ้มอย่างปรีดา มีบุตรบุญธรรมเช่นนี้ประเสริฐยิ่งนัก“น้องคารวะพี่หญิง” จือหย่ายิ้มแย้มดวงตาประกาย“จือหยากลายเป็นหญิงงามแล้ว” เหมยหลิงหันมายิ้มละมุมละไม นางไปไม่กี่เดือนทุกอย่างต่างเปลี่ยนแปลงไปมาก“เชิญองค์หญิงเข้าไ

  • ข้าเป็นแค่สาวใช้   ตอนที่ 33 จะไม่มีผู้ใดได้ปรนนิบัติท่านพี่อีก

    ตอนที่ 33 จะไม่มีผู้ใดได้ปรนนิบัติท่านพี่อีกภายในโถงเรือนกลาง เหล่าอนุและบุตรของตงซิงหยวนต่างมานั่งรอพร้อมเพียง นับคราวๆ อนุจะมีประมาณ 20 คน บุตรชาย 6 คนและบุตรสาว 3 คน แต่ละคนงดงามดั่งบุบผาแรกแย้ม เด็กๆ น่ารักน่าชังเมื่อเหมยหลิงเดินเข้ามา ทุกคนต่างลุกขึ้นคุกเข่าทำความเคารพนาง“ลุกขึ้นๆ ต่างเป็นคนในครอบครัวพิธีรีตอง เว้นได้ก็เว้นเถิด” เมื่อได้รับอนุญาตทุกคนต่างเดินนั่งลงประจำที่เหมยหลิงนั่งเด่นเป็นสง่า แม้จะมีท่าทีสบายแต่ยังคงงดงามสูงส่ง“หลังพิธีแต่งงาน ข้ารีบไปจัดการสวนเรียนรู้ที่ป่าศักดิ์สิทธิ์ ไม่ทันได้ทักทายทำความรู้จักต้องขออภัยทุกท่านด้วย”เอ่ยเสร็จ เหมยหลิงก็หันไปพยักหน้าให้บ่าวใช้คนสนิท ไม่นานบ่าวชายก็หาบหีบเข้ามา 10 กว่าหีบได้เมื่อเปิดออกก็มีเครื่องประดับและผ้าแพรเนื้อดีเต็มไปหมด และยังมีหีบเล็กๆ แยกมาต่างหากวางบนตั่งหน้าเหมยหลิง“อาจจะล่าช้าไปบ้าง วันนี้ข้าจึงอยากจะทำความรู้จักพี่สาวน้องสาวทุกท่าน” เหมยหลิงเอ่ยเสร็จก็ส่งยิ้มให้กับทุกคนแม้แต่ละคนจะมีท่าทีสงบเสงี่ยมแต่ยังคงระมัดระวังหรือจะกล่าวว่าหวาดระแวงแทนก็เหมาะสมเพราะหากฮูหยินเอกมีท่าทีกดขี่ข่มเหงหรือไล่พวกนางออกไ

  • ข้าเป็นแค่สาวใช้   ตอนที่ 32 เพราะใจหวาดระแวง

    ตอนที่ 32 เพราะใจหวาดระแวงเหมยหลิงกลับมาใช้ชีวิตปกติ ไร้กังวลไม่ได้สนใจท่านเทพสงครามที่กำลังรอเธอบนสวรรค์ชั้น 9 แม้แต่น้อย สิ่งเดียวที่เธอปรับเปลี่ยนคือ การช่วยเหลือคนส่งเดชทุกอย่างจะยืนอยู่บนความเป็นจริง ไม่ให้เกินความสามารถของมนุษย์บนโลกนี้นางสร้างสวนเรียนรู้การปลูกสมุนไพร่แถบภูเขาใกล้ป่าศักดิ์สิทธิ์ มีชาวบ้านมากมายเข้ามาสมัครเข้าฝึกเมื่อจบการฝึกตอนนี้มีชื่อเรียกหลังฝึกเสร็จว่าบัณฑิตเกษตรกรแม้จะผลิตบัณฑิตเกษตรออกไปแล้วจำนวนมาก ก็ยังมีผู้คนมากมายเข้ามาสมัคร เพราะใบประกาศจบการศึกษาจากแหล่งการเรียนรู้ของ องค์หญิงเหมยหลิง กลายเป็นใบเบิกทางให้ผู้คนได้รับการยอมรับจากสังคมเป็นจุดเล็กๆ ที่ดินแดนแห่งนี้เริ่มให้ความสำคัญกับความสามารถแทนชาติกำเนิด ทำให้ชาวบ้านมนุษย์ธรรมดาสามารถทำมาหากินเลี้ยงชีพ และไม่ต้องอยู่อย่างอดสู่และลำบากเช่นเคย“เจ้ากำลังจะทำอะไรต่อหรือ” ตงซิงหยวนโอบกอดเหมยหลิงจากด้านหลัง ชะโงกมองรายละเอียดสิ่งที่เหมยหลิงกำลังเขียนไว้เป็นข้อๆ“ข้าอยากจะสร้างแอ่งเก็บน้ำขนาดใหญ่ แต่มีเพียงแนวคิดเท่านั้น ตอนนี้ข้าว่างจึงลองร่างออกมาเป็นข้อๆ กลับเมืองฟูฟงไปแล้วจะเอาไปพูดคุยกับจือห

  • ข้าเป็นแค่สาวใช้   ตอนที่ 31 ไม่อาจจะบีบบังคับ

    ตอนที่ 31 ไม่อาจจะบีบบังคับเหมยหลิงและตงซิงหยวนใช้เวลาอยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลาทั้งวันและคืน แม้ช่วงเวลาที่หญิงสาวปรุงยา ตงซิงหยวนก็ไปเป็นลูกมือช่วยบดและผสม“ใครเป็นอาจารย์ผู้สอนเจ้าปรุงยาหรือ” ตงซิงหยวนเอ่ยถามขึ้นเพราะเรื่องนี้ค่อนข้างเกิดข้อกังขาในใจ เหมยหลิงมีความสามารถเป็นผู้ปรุงโอสถขั้นสูง ในเมื่อนางความจำขาดหายอาจจะเป็นได้ว่า จะได้รับการฝึกฝนใหม่ เขาเองก็อยากรู้จักอาจารย์ของนาง“ข้าอ่านจากตำราที่จือหยาหามาให้ อ่านและทำตามนั้นการปรุงและปรับเปลี่ยบเทียบยาข้าอ่านรอบเดียวก็เข้าใจอย่างถ่องแท้”เหมยหลิงตอบตามความจริงแต่ไม่เอ่ยบอกเรื่องเลือดของนางตงซิงหยวนพยักหน้าเข้าใจเหมยหลิงของเขาเป็นอัจฉริยะโดยแท้วันเวลาไม่เคยหยุดนิ่งมันยังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสม่ำเสมอเช่นเคยและความเร็วยังคงเท่าเดิม เมื่อเข้าสู่ค่ำคืนวันที่ 3 ตงซิงหยวนจัดโต๊ะอาหารริมสระน้ำพุร้อน ทุกอย่างยังคงพิถีพิถันและสวยสดงดงาม โคมไฟประดับประดา กลิ่นหอมของดอกไม้อบอวนละมุนละไม ครั้งนี้กลับบรรยากาศกลับหมองเศร้ากว่าที่เคย“ข้าคงต้องไปแล้ว ขอให้ท่านพี่ดูแลรักษาตัว”เหมยหลิงก็ตัดสินใจกล่าวคำเอ่ยลา ลุกขึ้นคำนับตงซิงหยวนเพียงแต่

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status