แชร์

บทที่ 4 มื้อค่ำ

ผู้เขียน: ปังจัง
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-05-31 00:25:32

อาหารมื้อใหญ่ถูกรังสรรค์ด้วยฝีมือของลู่ชิงอย่างสุดความสามารถ ความรู้ด้านการทำอาหารที่นางสั่งสมไว้ ถูกงัดออกมาใช้จนหมดสิ้น กับข้าวหลายอย่างบนโต๊ะอาหารทำให้รู้ว่าแม่ครัวเฉพาะกิจวันนี้พอมีฝีมืออยู่บ้าง ทั้งข้าวอบจักรพรรดิกลิ่นหอมยั่วน้ำลาย ขาหมูตุ๋นยาจีนเปื่อยนุ่ม ปีกไก่เหล้าแดงสีสันจัดจ้าน และขนมกุ้ยฮัวรสชาติหอมหวาน องค์ประกอบทุกจานทำให้อาหารมื้อนี้สุดแสนยั่วน้ำลาย

“ท่านพี่เจ้าคะ ข้าทำอาหารเย็นให้ท่านสุดฝีมือเลย ลองชิมข้าวอบจักรพรรดิดูสิ ทั้งชื่อทั้งรสชาติเหมาะสมกับท่านนัก” ลู่ชิงตักอาหารใส่จานให้คนตัวโต ที่เอาแต่ทำหน้าบูดบึ้งราวกับว่าจะกินเลือดกินเนื้อนาง

“ไม่มีใครบอกเจ้าให้ทราบหรือ ว่าข้าไม่กินมื้อค่ำ” น้ำเสียงกวนโทสะและใบหน้าอันหล่อเหลาของจื่อหานยักคิ้วท้าทายจนคนตัวเล็กเผลอแผดเสียงต่อว่าดังลั่น

“ท่าน ท่านแกล้งข้าหรือ ข้าลงมือทำอาหารแทบตาย ในครัวทั้งร้อนทั้งเหม็นควันไฟ แต่ท่านกลับเปล่งวาจาน่ารังเกียจออกมาได้ว่าไม่กิน เลือดเย็นนัก”

“ข้าเลือดเย็นกับผู้หญิงเช่นเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้นลู่ชิง เจ้ากล้าโกหกข้าเยี่ยงคนไร้ยางอายว่าออกไปซื้อของทำอาหาร คำโกหกแสนโง่งมเช่นนั้น ใครเชื่อก็จนปัญญาเต็มที”

ฝ่ามือหนาคว้าแขนลู่ชิงมาบีบไว้แน่น เขาเพิ่มแรงกดลงไปบนต้นแขนเรียวยาวอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่าจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในใจได้

“โอ๊ยยย ข้าเจ็บนะ ถ้ารู้อยู่แล้วทำไมไม่ปล่อยข้าไปหล่ะ ข้าไม่เต็มใจแต่งงานกับท่านสักนิด”

“หืมมมม คิดว่าข้าเป็นคนใจดี ยอมปล่อยเจ้าไปมีความสุขกับชู้รักอย่างง่ายดายเช่นนั้นเชียวหรือ ฝันไปเถอะ ตราบใดที่ข้ายังมีชีวิตอยู่ และมู่เฉินยังไม่ได้รับโทษทัณฑ์ ข้าไม่มีวันปล่อยเจ้าไป หนทางเดียวที่เจ้าจะหลุดพ้นจากข้าได้ มีเพียงความตายเท่านั้น จำใส่หัวเอาไว้”

พูดจบมือหนาก็เหวี่ยงร่างบางลงบนพื้นสุดแรง ก้นกบน้อยๆ ของนางกระแทกพื้นจนลุกไม่ไหว ความเจ็บปวดทางด้านร่างกายและจิตใจ ส่งผลให้ดวงตากลมโตของลู่ชิงเกิดอาการร้อนผ่าวขึ้นมา น้ำตาเม็ดโตจวนเจียนจะไหลอยู่รอมร่อ แต่ร่างบางกลับฝืนทนเอาไว้

“จื่อหาน ไอ้ผัวเฮงซวย ข้าไม่ใช่จำเลยรัก ไม่ใช่แรงงานทาส ท่านไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายร่างกายข้าเช่นนี้ ข้าจะไปฟ้องผู้ตรวจการ จับท่านเข้าคุก”

“ลุกขึ้นเดินไหวเมื่อไหร่ ก็เชิญไปฟ้องเลยฮูหยิน” ถ้อยคำเยาะเย้ยถากถาง ถูกพ่นออกมาจากปากผู้ชายใจดำอย่างอารมณ์ดี

“มีความสุขมากไหมที่ได้รังแกข้า ไอ้ผู้ชายโรคจิต ข้าทำอะไรให้ท่านนักหนา ถึงได้รังแกข้าเช่นนี้ ข้าเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา อยากมีชีวิตแต่งงานที่ดี อยากมีคนรัก อยากมีความสุข เหตุใดต้องกลายเป็นเครื่องมือแก้แค้นโดยปราศจากความยุติธรรม อย่าเอาความเคียดแค้นที่มีต่อมู่เฉินมาลงกับข้า” ลู่ชิงพรั่งพรูความในใจออกมาพร้อมกับน้ำตาเม็ดโตที่หลั่งริน นางเกลียดตัวเองเหลือเกินที่ไม่อาจตอบโต้จื่อหานได้ การถูกเขารังแกเพียงฝ่ายเดียวช่างน่าอนาจนัก

“หยุดร้องไห้เดี๋ยวนี้นะ ข้าเกลียดน้ำตาผู้หญิง” เมื่อเห็นน้ำตาเม็ดโตของนางหลั่งริน จื่อหานก็เกิดอาการร้อนรนขึ้นมา เขาแพ้น้ำตาผู้หญิงแต่ไหนแต่ไร สิ่งนี้เป็นจุดอ่อนเพียงอย่างเดียว ที่เขาไม่กล้าเอ่ยปากบอกใครเพราะกลัวเสียหน้า

“ไม่ ข้าไม่หยุด ท่านรังแกข้า เห็นว่าข้าไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีพ่อแม่ให้เกรงใจ จะรังแกข้าอย่างไรก็ได้เช่นนั้นหรือ ฮือๆๆๆๆ เจ้าข้าเอ๊ยยยย มาดูสามีรังแกภรรยา ออกมาดูจื่อหานทำร้ายร่างกายข้าเร็วเข้า ชาวบะ บ้าน” ลู่ชิงแหกปากเสียงดังลั่นยิ่งกว่าเดิมเพื่อขัดคำสั่งเขาด้วยความเหลืออด คนตัวโตหันรีหันขวางประเมินสถานการณ์ตรงหน้า ก่อนรีบยกฝ่ามือใหญ่ขึ้นมาปิดปากนางเอาไว้

“หยุด ข้าบอกให้หยุด เจ้าหูหนวกหรือไง”

“อั้ยยยย อ่อยอ๊าาาา อ่อย ไอ้อนเอว”

“ดิ้นรนเก่งเหลือเกินนะ พวกกลับเรือนกันเถอะเมียจ๋า”

จื่อหานก้มลงกระซิบข้างหูลู่ชิงด้วยน้ำเสียงทรงพลัง เขาแบกนางขึ้นพาดบ่าท่ามกลางสายตาบ่าวไพร่นับสิบคนไร้ความเขินอาย บ่าวไพร่บริเวณนั้น ต่างได้ยินการโต้เถียงของเจ้านายกันถ้วนหน้า แต่พวกเขากลับทำได้เพียงนิ่งเฉยไม่ยอมปริปากพูดอันใด

ประตูเรือนขนาดกลางของลู่ชิงถูกเปิดออก พร้อมกับร่างบางที่ถูกโยนเข้าไป จื่อหานย่ำเท้าเข้ามาในห้องด้วยความเชื่องช้า แต่ทว่ากลับทำให้หัวใจดวงน้อยเกิดอาการสั่นไหวขึ้นมากะทันหัน นางตื่นเต้นกับความหล่อเหลาของเขาได้ยังไง นางกลายเป็นผู้หญิงชื่นชอบความรุนแรงไปแล้วหรือนี่ ให้ตายเถอะ เหลือเชื่อจริงๆ

“สามี ทะ ท่านนั่งลงก่อน พวกเราคุยกันดีๆ ก็ได้ ไม่เห็นต้องเปลืองแรงเลย” เมื่อใช้ไม้แข็งแล้วจื่อหานต่อต้าน ลู่ชิงจึงยอมกลับมาใช้ไม้อ่อนเกลี้ยกล่อมเขาตามเคย

“เมียข้าช่างปากหวานก้นเปรี้ยวเสียจริง”

“ทะ ท่าน ฮึ่ยยยย ข้าจะถือว่าเป็นคำชมแล้วกัน ข้าพยายามทำดีกับท่านแล้วนะ ทำไมไม่เห็นใจกันบ้าง” เมื่อคนตัวโตยังเมินเฉยราวกับว่าไม่ได้ยินคำพูดนาง ลู่ชิงจึงขยับบั้นท้ายงอนงามไปนั่งบนตักเขา

เมื่อจื่อหานไม่มีอาการปัดป้องหรือรังเกียจ นางจึงเลื่อนฝ่ามือเล็กเข้าไปสำรวจด้านในสาบเสื้อตัวยาว ปลายนิ้วเรียวสัมผัสกล้ามเนื้ออันแข็งแกร่งบนหน้าท้องของเขาด้วยความพึงพอใจ

“เจ้าเคยทำตัวน่าสงสารให้ข้าเห็นด้วยหรือ แต่งงานได้เพียงไม่กี่วัน ก็วิ่งแจ้นไปหาผู้ชายถึงตลาด แถมยังโกหกหน้าซื่อตาใส ไม่ยอมรับความผิดที่ตนเองก่อขึ้น”

“อะ เอ่อ ท่านพี่ข้าผิดไปแล้ว ท่านรังแกข้าก่อนนี่เจ้าคะ ข้าเลยคิดว่ามู่เฉินอาจพอช่วยได้”

ลู่ชิงเสแสร้งรู้สึกผิดเต็มประดา ดวงหน้าหวานใสบิดเบี้ยวไปมาเพื่อให้ดูน่าสงสารมากขึ้น นางเอียงแก้มเข้าไปซุกซบออดอ้อนบริเวณหน้าอกแกร่งของจื่อหานด้วยความเจ้าเล่ห์มารยา

“ละ เลิก ถูไถหน้าอกข้าได้แล้ว”

“ทำไมเล่าเจ้าคะ ท่านพี่รังเกียจข้าหรือ มู่เฉินกับข้าไม่มีความสัมพันธ์ต่อกันอีกแล้ว ตอนนี้ข้ามีเพียงท่าน ได้โปรดเมตตาฮูหยินผู้น่าสงสารคนนี้ด้วย”

น้ำเสียงติดขัดแกมกระเส่าเล็กน้อยของจื่อหานทำให้ลู่ชิงมีความหวังขึ้นมา อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าเขาไม่รู้สึกตายด้านกับนาง เมื่อไม่สามารถหลบหนีจากเขาได้ นางควรลองพิชิตใจเขาดูสักตั้ง ไหนๆ ก็ถูกพระเอกเทอย่างไร้เยื่อใยแล้ว

“หึ พอไร้ที่พึ่งก็รีบออดอ้อนขึ้นมาเชียว ผู้หญิงเช่นเจ้าต้องเรียกว่าอะไรดี”

“ให้ตายเถอะจื่อหาน ท่านต้องการอะไรกันแน่ พอข้าหนีท่านก็ดุด่า พอข้าโอนอ่อนผ่อนตามท่านก็ประชดประชัน ข้าเอาใจท่านไม่ถูกแล้ว” ลู่ชิงพึมพำเสียงเบาให้ลอยไปถึงหูเขาแบบจงใจ แม้ว่าอยากตอบโต้ให้สาสม แต่นางกลับต้องข่มใจไว้ ลู่ชิงรู้แล้วว่าหากนางตีฝีปากกับเขาด้วยอารมณ์ ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมหนีไม่พ้นการถูกรังแกจนเจ็บตัว

“ข้าต้องการให้เจ้าอยู่ในจวนเฉยๆ โดยไม่ก่อเรื่องอันใด คงไม่เหนือบ่ากว่าแรงใช่หรือไม่”

“ทำแบบนี้แตกต่างจากการกักขังข้าเช่นไรเจ้าค่ะ”

“เจ้าบอกข้าเองไม่ใช่หรือ ว่าสิ้นสุดความสัมพันธ์กับมู่เฉินแล้ว คิดอยากออกไปเที่ยวข้างนอกอีกทำไม เจ้ามีญาติฝั่งไหนหลงเหลืออยู่อีกงั้นรึ”

มือหนาเชยคางลู่ชิงขึ้นมาสบตาไร้วี่แววความทุกข์ร้อนของเขาอย่างจงใจ ร่างบางนึกอยากเข้าไปจิ้มตาคนตัวโตข้างกายให้มืดบอดเสียเดี๋ยวนั้น นางเอกหัวเดียวกระเทียมลีบเช่นนางจะสู้ไปใครเขาได้ แค่เอาชีวิตรอดไปวันๆ ยังแทบหืดขึ้นคอเลย

“ทะ ท่านพี่ ข้าเป็นหญิงสาว มีของใช้ส่วนตัวหลายอย่าง ทั้งน้ำหอม เสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องประทินผิว ล้วนหาซื้อได้จากภายนอกทั้งนั้น”

“เจ้าไม่ต้องกังวลใจไป สินค้าทุกอย่างที่วางขาย จะถูกนำมาให้เจ้าเลือกซื้อทุกเจ็ดวัน เจ้ามีข้ออ้างเพิ่มเติมอีกหรือไม่”

“ไม่เจ้าค่ะ ท่านพี่เสียสละมากมายเช่นนี้แล้ว ข้าจะกล้าต่อรองได้อย่างไร” ลู่ชิงกัดฟันชื่นชมชายหนุ่มออกมา เขากล้าทำถึงขนาดนี้ นางเองก็กล้าใช้ชีวิตอยู่แต่ในจวนเช่นกัน

“เห็นเจ้ายอมเชื่อฟังง่ายดายเยี่ยงนี้ ทำให้ข้าอารมณ์ดีขึ้นมาไม่น้อยเลย ฮ่าๆๆๆๆ”

เสียงหัวเราะของคนตรงหน้าบ่งบอกได้ว่าเขาพึงพอใจมาก ลู่ชิงแอบถอนหายใจเล็กน้อยด้วยความเบื่อหน่าย นางต้องเอาอกเอาใจเขาไปถึงเมื่อไหร่ จึงจะมีอิสรภาพเป็นของตนเองสักที

“ท่านพี่ เวลานี้ดึกมาแล้ว ท่านอยากกลับไปนอนที่เรือน หรืออยากนอนค้างคืนกับข้าเจ้าคะ”

ลู่ชิงส่งสายตายั่วยวนให้อีกฝ่าย ฝ่ามือเรียวยาวเริ่มลูบไล้หน้าท้องแข็งตึงที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้ออีกครา แค่ได้สัมผัสยังรู้สึกว่าตึงแน่นขนาดนี้ หากได้เห็นด้วยตาคงมีน้ำลายหกกันบ้าง

“ข้ายอมลดตัวมานอนกับเจ้าก็ได้ แต่เจ้าต้องถ่ายทอดสูตรลับของตระกูลเจ้า ให้พ่อครัวข้า"

“สะ สูตรลับหรือเจ้าคะ”

“ใช่แล้วทูนหัว หากเจ้ายอมบอกข้า ข้าสัญญาว่าจะไม่รังแกเจ้าอีก”

ระหว่างพูดคุยกันจื่อหานก็ไม่ยอมปล่อยให้เสียเวลา ฝ่ามือใหญ่เคลื่อนเข้าหาดอกบัวคู่งามแล้วขยี้ขยำจนพอใจ ร่างบางปัดป่ายมือเขาออกเป็นพัลวัน จากที่เคยรุกรานบุรุษตัวโตอย่างมั่นอกมั่นใจ ตอนนี้กลับกลายเป็นนางถูกรุกรานเสียเอง

“ขะ ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ” น้ำเสียงแหบพร่าของลู่ชิงสารภาพความจริงออกไปอย่างไร้เดียงสา

“โกหก ทุกคนในเมืองรู้ว่าเจ้าเป็นผู้สืบทอดของตระกูล” จื่อหานเพิ่มแรงบีบลงบนฝ่ามือจนดอกบัวคู่งามเกิดรอยแดง เขากระแทกกระทั้นบีบรัดมัน ราวกับว่าต้องการให้ปริแตกอย่างโหดร้าย

“ทะ ท่านพี่ข้าไม่รู้จริงๆ ข้าจำไม่ได้ ” แววตาใสซื่อสบตาเขาด้วยความจริงใจ นางไม่รู้จริงๆ ว่าสูตรลับของตระกูลคืออะไร ผู้เขียนนิยายไม่เคยกล่าวถึงรายละเอียดสูตรลับนั้น มีเพียงการกล่าวว่าลู่ชิงเป็นเจ้าของสูตรลับโดยปริยาย

น้ำตาเม็ดโตร่วงเผาะลงบนฝ่ามือหยาบ บ่งบอกว่าร่างบางเจ็บปวดเกินทนไหว จื่อหานสะบัดมือออกจากร่างกายนางทันที ราวกับถูกไฟลนก็มิปาน เขาเริ่มลนลานขึ้นมาอีกครั้งด้วยสาเหตุเดิม น้ำตาของลู่ชิงมีผลกระทบต่อจิตใจเขามาก ทุกครั้งที่ได้เห็นหัวใจของเขาจะเกิดอาการเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา

“ข้า ข้าขอโทษ”

ภายในห้องเกิดความเงียบงันขึ้นมาชั่วขณะ ลู่ชิงไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำขอโทษจากปากเขา ส่วนจื่อนหานเองก็ตกใจแทบสิ้นสติเช่นกัน เขาไม่เคยขอโทษใครเลยตั้งแต่เกิดมา ทั้งสองคนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ทำตัวไม่ถูกอยู่สักพัก ก่อนจะแยกย้ายไปคนละทิศละทาง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ข้าไม่อยากเป็นนางเอกผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 20 ครอบครัว ตอนจบ NC

    เมื่ออายุครรภ์ของลู่ชิงครบห้าเดือน อาการแพ้ต่างๆ จึงเลือนหายไป จื่อหานสามารถเข้าใกล้นางได้แล้ว แถมอารมณ์ฉุนเฉียวก่อนหน้านี้ก็จืดจางลงไปมาก หลังจากอดทนอดกลั้นมานาน ช่วงเวลานาทีทองของจื่อหานก็กำลังจะกลับมาอีกครั้ง ร่างสูงวางแผนจับฮูหยินสุดที่รักกินไว้เสียดิบดี ก่อนหน้านี้ทำได้เพียงแอบลูบ แอบคลำ มีโอกาสแล้วจะสำเร็จโทษให้สาสมใจภายในห้องน้อนอันกว้างใหญ่ แมวน้อยลู่ชิงกำลังเพลินเพลินใจกับฝีมือบีบนวดของสามี จื่อหาน ทุ่มเทปรนิตินางอย่างดีตั้งแต่รู้ว่าตั้งครรภ์“ท่านพี่ ข้าไม่ปวดแล้วเจ้าค่ะ” ร่างบางก้มหน้าบอกสามีที่กำลังนวดฝ่าเท้า นางแตะหลังมือเขาแผ่วเบาเป็นเชิงบอกว่าเลิกบีบนวดได้“ฝ่าเท้าเจ้าบวมขึ้นหรือไม่” จื่อหานพิจารณาอยู่พักใหญ่ก่อนเอ่ยถาม นอกจากอาการปวดที่นางชอบบ่นให้ฟังยังมีเนื้อหนังที่เต่งตึงขึ้นมา“นิดหน่อยเจ้าค่ะ ช่วงนี้ข้าขยันเดินจนลืมระมัดระวัง”“อ๊ะ ท่านพี่ ตีก้นข้าทำไม” ลู่ชิงโอดครวญเสียงใสเมื่อฝ่ามือใหญ่ฟาดลงบั้นท้ายงอนงามเต็มแรง“สั่งสอนเด็กดื้อให้หลาบจำ” จื่อหานย้ำเตือนความผิดนาง“เหอะ ท่านหลอกกินเต้าหู้ข้าต่างหาก เอามือข้างขวาออกจากหน้าอกข้าเดี๋ยวนี้” ร่างบางจ้องมองชายหนุ่มตา

  • ข้าไม่อยากเป็นนางเอกผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 19 คำสั่งข้าคือสิทธิ์ขาด

    ความสงบสุขในชีวิตจื่อหานผ่านไปรวดเร็วมากหลังจากภรรยาผู้แสนดีเริ่มมีปากมีเสียง ทุกอย่างในจวนแปรเปลี่ยนฉับพลัน หากจะบอกว่าหน้ามือกลายเป็นฝ่าเท้าคงไม่แปลกนัก ลู่ชิงอาละวาดด่าทอสามีไม่เว้นวัน นางหาเรื่องมากลั่นแกล้งจื่อหานสารพัดจนเขาแทบร้องไห้ ทำอะไรไม่พอใจนิดหน่อยก็ชี้หน้าด่ากราด ชายหนุ่มไม่อาจปริปากโต้เถียงได้เลยนอกจากนี้ร่างบางยังเกียจคร้านขึ้นมาก นางจิกหัวใช้สามีก่อนนอนทุกคืน จื่อหานจึงต้องรับหน้าที่เป็นหมอนวดไปโดยปริยาย ลู่ชิงเอาแต่ใจเหลือเกิน ไม่รู้ว่านางเกิดความผิดปกติอันใด“ท่านพี่ ข้าอยากกินถังหูลู่เจ้าค่ะ” ลู่ชิงขมวดคิ้วออกคำสั่ง นางกำลังรู้สึกเคร่งเครียดมากๆ ใบหน้าคมของจื่อหานรกหูรกตาชะมัด“เดี๋ยวข้าใช้เจียวเหมยไปซื้อให้”“ข้าอยากกินลูกท้อด้วยเจ้าค่ะ”“องครักษ์เว่ยไปซื้อลูกท้อมาให้ฮูหยิน”“ข้าอยากกินหม้อไฟจากเหลาอาหารหย่งเหอ”“เจ้าอยากกินอะไรนักหนาลู่ชิง” จื่อหานนิ่วหน้าถามอีกครั้ง น้ำเสียงห้วนๆ กระตุ้นต่อมเกรี้ยวกราดของร่างบางได้เป็นอย่างดี นางต่อว่าสามีเสียงดังลั่น“ท่านพี่เสียงดังใส่ข้าทำไม!! ไม่พอใจหรือเจ้าคะ”“เฮ้อ ข้าหมายถึงเจ้ากินเยอะเกินไป” ชายหนุ่มแก้ตัวด้วยความเหน็ดเ

  • ข้าไม่อยากเป็นนางเอกผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 18 สูตรลับถูกเปิดเผย

    การทำซิ่วท้อของลู่ชิงเป็นไปด้วยความยากลำบาก นางเสาะหาวัตถุดิบหลักอย่างมันม่วงไม่ได้เลย แม้ว่าอยากลองใช้วัตถุดิบอื่นเช่น มันเทศ ถั่วแดง หรืองาดำ ทำไส้มากแค่ไหน แต่นางต้องทำซิ่วท้อไส้มันม่วงให้สำเร็จเสียก่อน เนื่องจากขนมชนิดนี้ล่ำลือกันว่าเป็นสูตรลับ หากทำสำเร็จอาจเพิ่มฐานลูกค้าได้ จากนั้นจึงค่อยประยุกต์ใส่ไส้อื่นเข้าไป เหลาอาหารหย่งเหอต้องขายดีอีกเท่าตัว“เฮ้อ ข้าจะทำยังไงดี ทำไมมันม่วงหายากหาเย็นนัก” ลู่ชิงโอดครวญออกมาขณะเกลือกกลิ้งอยู่บนศาลาริมน้ำ“ฮูหยินกลุ้มใจมากหรือเจ้าค่ะ” สาวใช้ร่างท้วมเอ่ยถาม พักนี้ฮูหยินชอบขมวดคิ้วทุกวัน นางจึงเกิดอาการเป็นห่วงเจ้านายขึ้นมา“ใช่ ข้ากลุ้มใจจะตายอยู่แล้ว อยากได้มันสีม่วงมาทำอาหาร”“หากตลาดในเมืองไม่มี พวกเราออกไปดูตลาดชานเมืองกันไหมเจ้าคะ แถวนั้นชาวบ้านมักเก็บของป่ามาขาย” ซูเจียวเสนอแนะหนทางแก้ไขปัญหา“จริงหรือซูเจียว ทำไมเจ้าไม่บอกข้าให้เร็วกว่านี้” ลู่ชิงตื่นเต้นมาก นางไม่เคยออกไปรอบชานเมือง มาก่อน จึงไม่รู้ว่ามีตลาดขายของป่า“อะ เอ่อ พอดีระยะทางค่อนข้างไกลนิดหน่อยเจ้าค่ะ ฮูหยินต้องขออนุญาตนายท่านก่อน” สาวใช้ร่างท้วมติดอ่างกะทันหัน เหตุใดนางจึ

  • ข้าไม่อยากเป็นนางเอกผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 17 ปัญหาคาใจ

    เหลาอาหารหย่งเหอขายดิบขายดีมาก ลู่ชิงจึงต้องรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลไปโดยปริยาย เนื่องจากพักนี้จื่อหานทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ไปดูแลเหลาสุรา ยาดองเหล้าสูตรใหม่ของลู่ชิงขายดีมาก ทั้งสูตรม้ากระทืบโรง นารีรำพึง โด่ไม่รู้ล้ม หรือกำลังช้างสาร ต่างมีสรรพคุณบำรุงร่างกายบุรุษ ไม่ว่าจะเป็นขุนนางหรือชาวบ้านทั่วไป ล้วนเดินทางมาใช้บริการจำนวนมาก จื่อหานพึ่งตระหนักได้ว่าปัญหานี้ใหญ่หลวงนัก เกินกว่าจะคาดเดาได้กิจการทุกอย่างดำเนินไปได้ด้วยดี แต่ลู่ชิงยังมีปัญหาคาใจเรื่องสูตรลับของตระกูลอยู่บ้าง นางคิดยังไงก็คิดไม่ออกเสียที ผู้คนรอบตัวต่างบอกว่าขนมที่นางทำยากจะลอกเลียนแบบได้ แต่กลับไม่มีผู้ใดอธิบายวิธีการทำหรือรูปลักษณ์ออกมาอย่างชัดเจน ในหัวนางเองก็ไม่มีความทรงจำของร่างเดิมหลงเหลืออยู่สักนิด คิดไม่ออกเลยว่าสูตรลับที่ผู้คนต้องการนักหนาคืออะไร รู้เพียงว่ามันคือขนมชนิดหนึ่งเท่านั้น“ซูเจียว วันนี้ท่านพี่ไปเหลาสุราใช่หรือไม่” ลู่ชิงเอ่ยถามสาวใช้ขณะนั่งเล่นในสวน นางมีเรื่องราวคับข้องใจหลายอย่างอยากสอบถามเขา“เจ้าค่ะฮูหยิน”“อืม เตรียมรถม้าให้ข้าหน่อยสิ ข้าจะไปเหลาสุรา”“ตะ แต่ นายท่านไม่ต้องการให้ฮูหยินไปที่นั่นน

  • ข้าไม่อยากเป็นนางเอกผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 16 ตบสนั่น

    ความสงบสุขกลับมาเยือนลู่ชิงอีกครั้ง ชีวิตประจำวันของนางวุ่นวายอยู่กับการดูแลเหลาอาหารหย่งเหอเป็นหลัก ทุกอย่างรอบตัวกำลังดำเนินไปด้วยความราบรื่น จื่อหานเองก็ทำตัวดีขึ้นไม่น้อยเช่นกัน เขาเชื่อใจนางมากกว่าเดิมหลายเท่า ส่วนลู่เองชิงก็เอาอกเอาใจสามีไม่ขาด ความสัมพันธ์ของทั้งคู่หวานหยดย้อยราวกับน้ำผึ้งเดือนห้า ไม่ว่าจะไปทำงานที่ไหน จื่อหานต้องคอยรายงานลู่ชิงเพื่อให้นางสบายใจทุกครั้ง“ฮูหยินเจ้าคะ รถม้าเตรียมพร้อมแล้ว” ซูเจียวเอ่ยเตือนพลางขบขัน พักนี้ฮูหยินของนางชอบเหม่อลอยคิดถึงนายท่านอยู่เสมอ“อืม รีบไปกันเถอะ เย็นนี้ข้าอยากลองทำอาหารหลายอย่าง” ลู่ชิงตอบรับสาวใช้ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม นางชื่นชอบการทำอาหารเป็นชีวิตจิตใจ พอได้ออกไปซื้อวัตถุดิบทีไรเป็นต้องมีความสุขจนหน้าบานทุกที“เจ้าค่ะ”“อ้อ ท่านพี่จะกลับจากเหลาสุราเมื่อไหร่” ร่างบางสอบถามอีกครั้งเมื่อนึกขึ้นได้ จื่อหานเร่งรีบออกไปก่อนนางตื่นเสียอีก คาดว่าคงมีปัญหาใหญ่โตที่ต้องแก้ไข“ประมาณยามเว่ยเจ้าค่ะ นายท่านอยากกลับมารอกินอาหารเย็นพร้อมฮูหยิน”“เยี่ยมเลย ท่านพี่จะได้ลองชิมอาหารชนิดใหม่ด้วยกัน” ลู่ชิงอุทานออกมาอย่างมีความสุข ในหัวเล็กๆ เต็มไ

  • ข้าไม่อยากเป็นนางเอกผู้ถูกทอดทิ้ง   บทที่ 15 สารภาพ

    สถานการณ์ระหว่างลู่ชิงกับมู่เฉินตึงเครียดขึ้นมาก ร่างบางตกเป็นเป้าสายตาของผู้คนนับร้อย สาวน้อยฝืนยิ้มจืดเจื่อนออกมา คาดหวังว่าสถานการณ์ตรงหน้าจะผ่อนคลายลงบ้าง แต่นางกลับคิดผิดถนัด ความเงียบงันเริ่มปกคลุมทั่วบริเวณอีกครั้ง“อะ เอ่อ ข้าขอตัวกลับก่อนนะ” ลู่ชิงเอ่ยลาไม่ปิดบัง นางต้องการหลีกหนีความอึดอัดที่กำลังเผชิญอยู่โดยไว“เดี๋ยวสิ ข้ามีเรื่องอยากปรับความเข้าใจกับเจ้า” มู่เฉินรั้งแขนนางไว้ สายตาวิงวอนถูกส่งมาให้ลู่ชิงเป็นระยะ หากร่างบางปฏิเสธขึ้นมา เรื่องนี้อาจไม่จบลงอย่างง่ายดาย“งะ งั้นหรือ คุยกันตรงนี้ไม่เหมาะสมเท่าไหร่ เจ้าอยากดื่มชาสักถ้วยไหม” ลู่ชิงหาวิธีหลบเลี่ยงสายตาผู้คนทั้งหลาย“ได้สิ เจ้านำทางไป”“ข้าต้องการใช้ห้องรับรองส่วนตัว” เมื่อเดินทางมาถึงร้านขายน้ำชา มู่เฉินก็แจ้งความประสงค์ต่อเสี่ยวเอ้อก่อนเดินขึ้นบันไดไป“ห๊าาา มะ ไม่ได้ๆ ข้าแต่งงานแล้ว ส่วนเจ้าเองก็มีคู่หมั้น พวกเราไม่ควรทำตัวเกินงาม” ลู่ชิงคัดค้านเสียงหลง นางโบกไม้โบกมือไม่เห็นด้วยยกใหญ่ การกระทำเช่นนี้สมควรตายนัก มู่เฉินกำลังคิดอะไรอยู่กันแน่“ข้ามีเรื่องสำคัญต้องพูดคุยกับเจ้า” ชายหนุ่มเบาเสียงลงเมื่อเห็นนางลำบา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status