บ้านทรงทันสมัยหลังใหญ่ ที่ซ้อนตัวอยู่ในร่มไม้ ต้นไม้หลากหลายชนิด ทั้งที่ปลูกมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า ก็ยังคงอยู่ และมีบางส่วนที่ปลูกขึ้นมาใหม่ ไหนจะไม้ดอก ต่างๆอีก ทำให้รอบบริเวณบ้านร่มรื่น บ้านหลังนี้อาศัยอยู่ 4 คน นายเก่งกาจ ผู้เป็นพ่อ นางอรพิณ แม่ การันต์ และพุดกรอง และมีพ่อบ้าน แม่บ้าน เป็นสามีภรรยากัน อยู่บ้านหลังเล็กๆ อยู่เลยเข้าไปในสวน
ครอบครัว กัมปนารถนรากร มีธุรกิจสวนปาล์ม สวนยาง บริษัทรับเหมาก่อสร้าง ขนาดใหญ่ที่สุดในอำเภอนี้ เมื่อมี บริษัท รับเหมาก่อสร้าง แน่นอนก็ต้องมีร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างด้วย
การันต์เป็นลูกชายคนโต นิสัยเขาอาจจะเหมือนปู่ และลุง ที่บวชเป็นะพระที่เขาเรียกหลวงพ่อ อดีตปู่เขาเป็นนักเลง ไม่ยอมคน กว้างขวาง เกเรสุดๆ ซึ่งหลวงลุงเหมือนก็เหมือนปู่มาก นักเลง ไม่ยอมคน เกเร ใจร้อน เอาแต่ใจ ไม่ชอบคนขัดใจ พวกญาติๆ บอกว่าเขาได้ปู่ ได้ลุง เขาไม่สนใจหรอก แต่งานที่เขาดูแล เขาก็ไม่เคยทำให้เสีย เรื่องนิสัยนักเลง เขาเลิกไปนานแล้ว แต่เรื่องไม่ยอมคน เขาก็เหมือนเดิม อย่าได้มาเอาเปรียบ และรังแกเขาล่ะกัน เขาไม่เก็บไว้ดูเล่นหรอก การันต์จบวิศวะ มหาวิทยาลัยชื่อดัง ที่กรงุเทพฯ
การัตน์เนื้อหอมมาก หน้าตาเขาหล่อเข้ม เหมือนคนใต้ทั่วไป ทั้งฐานะ และหน้าตา ทำให้มีทั้งสาวใหญ่ สาวน้อย มาชอบเขามากมาย แต่เขาก็ยังไม่ถูกใจ เขาคิดว่ามันยังไม่ถึงเวลา และที่สำคัญ ยังไม่เจอคนที่ถูกใจเลย และผู้หญิงที่เคยคบกับเขา บางคนก็ทนเขาไม่ได้ พวกที่มานอนกับเขา แล้วจะให้เขาส่งเสีย ไม่มีทาง เขาต้องตกลงก่อน ไม่ผูกพัน จบแล้วก็จบ ไม่วุ่นวายกับบ้านเขา
เพราะนิสัยเขาเป็นแบบนี้ ทำให้พวกผู้ชายที่จะเข้ามาจีบพุดกรองน้องสาว ต้องคิดหนัก ถ้าจะมาเล่นๆ ไม่ทาง และไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้เวลาแบบนั้น ใครที่จะเข้ามาหาน้องเขา ถ้าผ่านเขาไปได้ถือว่าโอเค แต่ยังไม่มีใครสักคน พุดกรองเองก็ไม่รีบ ทำให้ไม่มีปัญหา
"แม่คะ พุดไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวเจอกันที่โต๊ะอาหารนะคะแม่" พุดกรองเดินเข้าห้องไปแล้ว แต่นางอรพิณยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ในห้องรับแขก ทำไมใจนางคิดถึงแต่หน้าหนูน้ำอบนั่น ไม่รู้ผูกพันกันมาตั้งแต่เมื่อไหร่ เมื่อเช้าเจอที่วัด นางก็รู้สึกเอ็นดูอยู่แล้ว ยิ่งมาเห็นว่าเจ็บแบบนี้ ยิ่งห่วง สุดท้ายนางก็เข้าห้อง อาบน้ำแต่งตัวใหม่ เพื่อเตรียมตัวกินข้าวเย็น
การัตน์ เลี้ยวรถเข้าบ้าน เขาจอดรถต่อท้ายรถกระบะ จักรยานเด็กนั่นนี่นา สงสัยพุดกรองลืมเอาลงแน่ๆ เลย เขาเดินเลยเข้าประตูบ้านไปอย่างไม่สนใจ
“การันต์ มากินข้าวเย็นด้วยกันนะลูก แม่จะรอ" นางอรพิณร้องลูกชาย เมื่อเห็นเขาก้าวเข้ามาในบ้าน”
“ครับแม่ เดี๋ยวผมขอไปอาบน้ำก่อนนะครับ เปียกฝนมา”
“พ่อไปไหนคะแม่ “
“ไปงานลูก ลูกค้าเก่าของพ่อ เห็นว่ามีงานทำบุญหรืออะไรสักอย่างแม่ก็จำไม่ได้ คงกลับดึก เรากินกันก่อนเถอะลูก แม่เริ่มหิวแล้ว เมื่อกลางวันได้แค่ขนมปังกับนมที่ร้านเอง"
“เห็นกับข้าวแล้วคิดถึงน้ำอบนะคะแม่ พรุ่งนี้แม่จำทำอะไรไปส่งบ้านโน้นบ้างเหรอคะ”
“แม่ว่าจะทำสักสองสามอย่างนะลูก เห็นหนูน้ำอบแล้วก็สงสาร ไม่รู้เป็นไรแม่ถูกชะตากับหนูอบจังเลย เหมือนเคยรู้จัก เหมือนเคยเห็นที่ไหน แม่ก็ไม่รู้นะ มันรู้สึกผูกพันยังไงก็ไม่รู้ แม่บอกไม่ถูกเลย” นางอรกพิณคิดแบบนั้นจริงๆ
“พุดก็เหมือนกันค่ะแม่ วันที่เจอน้ำอบครั้งแรก ก็รู้สึกถูกชะตามาก เหมือนเคยรู้จักกันมาก่อน เป็นคนแรกที่พุดอยากพูดคุยด้วย และพอได้พูดคุย น้ำอบก็นิสัยน่ารักนะคะแม่ พุดถูกชะตามาก”
“นี่บ้านโน้นต้องลำบากมากเลยนะคะ ปู่กับย่า ก็แก่มากแล้ว ย่าก็ยังเดินไม่แข็งแรง แถมน้ำอบมาเจ็บอีก เป็นแผลที่ต้นแขน กับต้นขา อาบน้ำลำบากมากเลยค่ะ นี่ดีนะคะ ที่พุดช่วยสระผมให้ ถ้าปล่อยให้อบทำเอง ไม่รอดแน่ค่ะ นี่พุดคิดว่าพรุ่งนี้ จะหาซื้อพลาสติกที่เขาใช้รัดเฉพาะตรงที่เป็นแผลไปให้น้ำอบใช้นะคะแม่ พุดกลัวแผลถูกน้ำ เดี๋ยวหายช้าอีก"
“งั้นพรุ่งนี้จะใช้อะไรบ้างก็จดๆไว้นะลูก เผื่อได้ออกไปซื้อ แล้วนี่หนูน้ำอบมีโทรศัพท์ไหม แม่ก็ลืมขอเบอร์ ปู่กับย่า จะโทรถามข่าวสักหน่อย"
“โทรศัพท์น้ำอบ กับนาฬิกาหล่นหายตอนลื่นล้มค่ะแม่ เดี๋ยวพรุ่งนี้ พุดจะแวะไปดูค่ะ”
“เออเนาะ เลยติดต่ออะไรไม่ได้เลย คืนนี้น้ำอบคงปวดแผลน่าดู เย็บไปตั้งหลายเข็ม กี่เข็มนะลูกพุดกรอง”
“ที่ต้นขา 8 เข็ม ต้นแขน 5 เข็มค่ะแม่ เป็นข้างเดียวกันซะด้วย แย่จังเลย นี่ไม่รวม รอยฟกช้ำดำเขียวอีกนะคะ พรุ่งนี้คงช้ำระบบไปทั้งตัวแน่ๆเลย พุดว่า “
“เฮ้อ...เวรกรรม ทำไมเคราะห์ร้ายจัง นี่โชคดีนะที่เราไปเจอ ไม่งั้นลูกเขาคงเลือดไหลหมดตัวแน่ๆแม่ว่า มาต่างบ้านต่างเมือง ยังมาเจอเรื่องแบบนี้อีก ดีที่หัวไม่กระแทก แม่ไม่อยากคิดเลยว่า ถ้าน้ำอบล้มหัวกระแทก แล้วสลบไป มันจะเป็นยังไง ” นางอรพิณ พูดบ่นไป ด้วยความสงสาร
“น้ำอบเข้มแข็งอดทนมากเลยนะคะแม่ ตอนหมอเย็บแผล หมอไม่ฉีดยาชาเลยอ่ะ เย็บสดๆ ถ้าเป็นพุด คงร้องลั่นอนามัยไปแล้ว น้ำอบเก่งมากเลย แม่คะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ลองดูสักวันไหมคะ ว่าน้ำอบอาการจะเป็นยังไงบ้าง ถ้าไม่ไหวจริง พุดขอไปนอนเป็นเพื่อนน้ำอบได้ไหมคะแม่ เผื่อจะได้ช่วย หยิบจับอย่างอื่นได้บ้าง หรือเราจะพาน้ำอบไปนอนที่โรงพยาบาลดี”
“งั้นรอดูพรุ่งนี้เช้าล่ะกันนะคะ กินข้าวเถอะค่ะแม่ ทำไมพี่การันต์ลงมาช้าจัง”
“เห็นว่าเปียกฝน คงสระผมด้วยมั้งลูก เดี๋ยวคงลงมา เราก็กินไปก่อนล่ะกัน แม่หิวแล้ว”
สองแม่ลูกไม่รู้หรอกว่า การันต์ลงนานแล้ว แต่เขาเสียมารยาทแอบฟัง แม่กับน้องคุยกัน นี่เด็กนั่น เจ็บขนาดนั้นเลยเหรอเนี้ย ฟังแล้วเขาก็อดใจหาย ถามว่าสะใจไหม เขาไม่ได้ตั้งใจให้เจ็บมากขนาดนี้นี่ พลาดเอง ไม่ระวัง รู้ว่าแรงสู้เขาไม่ไหว ยังอุตสาห์ยื้ออยู่นั่น สมน้ำหน้า อีกแล้วเขาก็ยังหงุดหงิดเหมือนเดิม ยิ่งแม่กับน้องเขาแสดงออกว่า เป็นห่วงเด็กนั่น อย่างออกหน้าออกตา เขาก็เริ่มโมโหขึ้นมาอีกรอบ ไม่ต้องเอาหรอก โทรศัพท์กับนาฬิกา ปล่อยให้ติดต่อใครไม่ได้แบบนั้นแหละ ดีแล้ว
บ้านทรงทันสมัยหลังใหญ่ ที่ซ้อนตัวอยู่ในร่มไม้ ต้นไม้หลากหลายชนิด ทั้งที่ปลูกมาตั้งแต่สมัยปู่ย่า ก็ยังคงอยู่ และมีบางส่วนที่ปลูกขึ้นมาใหม่ ไหนจะไม้ดอก ต่างๆอีก ทำให้รอบบริเวณบ้านร่มรื่น บ้านหลังนี้อาศัยอยู่4 คน นายเก่งกาจ ผู้เป็นพ่อ นางอรพิณ แม่ การันต์ และพุดกรองและมีพ่อบ้าน แม่บ้าน เป็นสามีภรรยากัน อยู่บ้านหลังเล็กๆ อยู่เลยเข้าไปในสวนครอบครัว กัมปนารถนรากร มีธุรกิจสวนปาล์ม สวนยางบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ขนาดใหญ่ที่สุดในอำเภอนี้ เมื่อมี บริษัท รับเหมาก่อสร้าง แน่นอนก็ต้องมีร้านขายอุปกรณ์ก่อสร้างด้วยการันต์เป็นลูกชายคนโต นิสัยเขาอาจจะเหมือนปู่ และลุง ที่บวชเป็นะพระที่เขาเรียกหลวงพ่อ อดีตปู่เขาเป็นนักเลง ไม่ยอมคน กว้างขวาง เกเรสุดๆ ซึ่งหลวงลุงเหมือนก็เหมือนปู่มาก นักเลง ไม่ยอมคน เกเร ใจร้อน เอาแต่ใจ ไม่ชอบคนขัดใจพวกญาติๆ บอกว่าเขาได้ปู่ ได้ลุง เขาไม่สนใจหรอก แต่งานที่เขาดูแล เขาก็ไม่เคยทำให้เสีย เรื่องนิสัยนักเลง เขาเลิกไปนานแล้ว แต่เรื่องไม่ยอมคน เขาก็เหมือนเดิม อย่าได้มาเอาเปรี
“ใครมา ฝนตกหนักขนาดนี้”ปู่เปลวเอ่ยขึ้น เมื่อเห็นรถกระบะมาจอดหน้าบ้านใจของชายชราเริ่มไม่ดี เขารู้สึกไม่ดีตั้งแต่เช้าแล้ว แต่เห็นว่าเป็นความตั้งใจของหลานสาว ที่อยากไปทำบุญ ก็เลยไม่อยากขัด ได้แต่เภาวนาไม่ให้เกิดเหตุร้ายขึ้น"รถคุ้นๆนะย่า" ชายชรากดรีโมทเปิดประตู“อ้าวนั่น แม่อรพิณกับลูกนี่ มาได้ยังไงกัน เอ๊ะ....”“ใจเย็นๆ ย่านิ่งไว้นะ นิ่งไว้”ปู่เปลวหันมากำชับภรรยาไ่ม่มีอะไรแล้ว หลานเรากลับบ้านแล้ว แค่รอดูว่ามากหรือน้อย“สวัสดีค่ะลุงเปลว ป้าปราง ฉันพาหนูน้ำอบมาส่งจ๊ะ พอดีเจอกลางทาง จักรยานลื่นล้ม เลยพาไปทำแผลที่อนามัยมาแล้วจ๊ะ “ นางอรพิณ และพุดกรอง ยกมือไหว้ และรีบบอกเจ้าของบ้านทั้งสองคน ถึงการมาของนางและลูกสาว"พุดกรอง ช่วยประคองน้ำอบลงมาทีลูก พาขึ้นบ้านเลย เดี๋ยวค่อยมาเอารถจักรยานลง"“ไหว้พระเถอะ แม่อรพิณ มาๆเข้ามาก่อน โอ้ย
“น้ำอบๆๆ” เสียงพุดกรองนี่นา หญิงสาวหันหน้าไปทางเจ้าของเสียง พุดกรองกับคุณป้าอรพิณ น่าจะเพิ่งกลับจากวัด น้ำอบยังร้องไห้และสะอื้นอยู่ สภาพเธอตอนนี้คงน่าสงสารมาก“น้ำอบเป็นอะไร” พุดกรองกางร่มลงมาจากรถ “น้ำอบนี่เลือดนี่ โอ้ยตายแล้ว” พุดกรองร้องเสียงดังแข่งกับฝน เมื่อเห็นเลือดที่แขนของน้ำอบ ที่ขาก็มี ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้นะ” ขึ้นรถๆ เร็วตายแล้ว ทำไมเป็นแบบนี้” พุดกรองประคองน้ำอบไปขึ้นรถ ดีที่วันนี้เธอใช้รถกระบะ 4 ประตู“เดี๋ยวก่อนพุดกรอง อบช่วย”“ไม่ต้องแล้ว เดี๋ยวพุดทำเอง” พุดกรองเปิดกระบะท้าย แล้วยกรถจักรยานของน้ำอบขึ้นน้ำอบ ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะลูก นางอรพิณจับมือของน้ำอบมากุมไว้ ลูบหลังลูบไหล่ของน้ำอบ เมื่อเห็นเด็กสาวร้องไห้และสะอื้นไม่หยุด นางดึงตัวของน้ำอบเข้ามากอดไว้ นั่งยิ่งทำให้ หญิงสาวสะอื้นจนตัวโยนพุดกรอง เลือดไหลใหญ่แล้วลูก แวะอนามัยก่อนเลย โรงพยาบาลไกลเกินไป นางสั่งลูกสาว“ได้ค่ะแม่ อดทนนิดนะน้ำอบ เลี้ยวข้างหน้านี่ก็ถึงแล้วล่ะ” พุดกรองพยายามบังคับรถท่ามกลา
เขาไม่พอใจหลวงลุง แต่เขาทำอะไรไม่ได้ ยุคสมัยนี้แล้ว ยังงมงายอยู่ได้ เขาไม่อยากโวยวายให้แม่กับหลวงลุงเสียหน้าเฉยๆ เพราะยังไงชาวบ้านแถวนี้ก็นับถือหลวงพ่อกันทั้งนั้น หลวงพ่อที่เป็นลุงของเขา มีชื่อเสียงในเรื่องของการหยั่งรู้ เรื่องราวในอดีต อภินิหาร อะไรประมาณนั้นแต่หลวงลุงไม่ได้แสดง หรืออวดอุตริอะไร มีคนดังมีชื่อเสียงหลายคนที่มาหาหลวงลุง ให้ช่วยแก้ไขปัญหาชีวิตให้ ไม่ใช่ว่าจะช่วยให้ชีวิตดีขึ้น ทันทีทันใด หลวงลุงจะคอยแนะนำให้สวดมนต์ นั่งสมาธิ คิดดีทำดี คนส่วนมากที่ทำตามที่หลวงพ่อบอก ประสบผลสำเร็จ แล้วกลับมาสร้างและบูรณะวัด มากมาย ไม่ว่าจะเป็นศาลาหลังใหม่ เมรุ กุฎิ ห้องน้ำ เงินที่ลูกศิษย์ลูกหาถวายมา ท่านก็ปรับปรุงวัดแต่ถามว่าเขาเชื่อไหม เขารู้สึกเฉยๆ แต่ก็เกรงใจท่านอยู่บ้าง หลายครั้งที่สมัยเขาเป็นหนุ่มน้อย ดวยนิสัยของเขาไม่เคยยอมและลงให้ใคร มีเรื่องตีรันฟันแทง กับคู่อริเป็นประจำ ครั้งนั้น เขาไปต่างถิ่นคนเดียว โดนคู่อริยกพวกไล่ล่า เขาขับรถหนี ด้วยความเร็ว ทำให้รถคว่ำ เขาสลบคาที่ คราวนั้นครอบครัวเขาคิดว่าเขาไม่รอด เขาสลบไปเกือบเดือนมันเหมือนความฝัน เขาเดินเข้าป่าลึก
“ไปหนูน้ำอบ ไปใส่บาตรกันลูก” นางอรพิณ แตะที่แขนของกรรณญาวีร์ ให้ลุกไปใส่บาตร“ค่ะคุณป้า “หญิงสาวลุกขึ้น ถือขันข้าวสวยเพื่อไปใส่บาตร น้ำอบเตินตามนางอรพิณไป และต่อหลังเพื่อรอใส่บาตร น้ำอบเพิ่งสังเกตว่าคนเยอะมาก เธอนั่งข้างหน้า และไม่ได้หันมามองข้างหลังเลย ระหว่างที่ยืนรอใส่บาตรนั้นเอง เสียงผู้หญิงเรียกชื่อน้ำอบ“น้ำอบ น้ำอบใช่ไหม มาวัดด้วยเหรอ ดีจริง “กรรณญาวีร์ หันไปตามเสียงเรียกจากทางด้านหลัง ผู้หญิงคนที่เธอเหยียบเท้าอยู่ในเซเว่นนี่นา จำได้ล่ะ ชื่อพุดกรอง สวยจัง พุดกรองใส่ๆๆชุดคล้ายของน้ำอบเลย แต่เสื้อคนละสี “สวัสดีจ๊ะ พุดกรองมาวัดด้วยเหรอ น้ำอบไม่เห็นเลย ““กรองมารอบสองจ๊ะ เมื่อเช้ามาส่งแม่ แล้วก็กลับไปเปิดร้าน แล้วก็รีบมานี่แหละ”ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ“อ้าว สองสาว รู้จักกันแล้วเหรอลูก” เสียงนางอรพิณ ดังขึ้นๆๆๆๆๆๆๆๆ“ค่ะแม่ เมื่อวานกรองเจอน้ำอบที่เซเว่นค่ะ บังเอิญมาก น้ำอบเหยียบเท้ากรอง เลยได้รู้จักกันค่ะ”“ดีๆ แล้วลูก รู้จักกันไว้ดีแล้ว มาๆ เตรียมใส่บาตรรกันเถอะลูก”ๆๆๆๆ“กรองใส่บาตรกับน้ำอบก็ได้นะ ข้าวน้ำอบเต็มขันเยอะมากเลย”“ได้เลย ขอบใจนะน้ำอบ “สองสาวใส่บาตรข้าวสวยด้วยกัน เสร็จแล้วก็
น้ำอบชอบอากาศตอนเช้าที่นี่จังเลย เงียบ มีแต่เสียงนก สายลมเย็นพัดผ่านปะทะตัว หอมดอกการเวกลอยมาจากซุ้มหน้าบ้าน ห้องนอนของน้ำอบอยู่ฝั่งติดประตูหน้าบ้าน เปิดหน้าต่างปุ๊ป ได้กลิ่นหอมชื่นใจมาก ทำให้เช้านี้สดชื่น ตื่นตัวดีจัง บ่ายนี้คาดว่าฝนตกอีกแน่ๆหญิงสาวลุกตั้งแต่ตีห้า ปู่กับย่าน่าจะยังไม่ตื่น เธอรีบหุงข้าว ทำกับข้าว แบ่งไว้ให้ปู่กับย่า สำหรับมื้อเช้า และกลางวัน เธอตั้งใจว่าหลังจากเสร็จจากถวายข้าวพระเสร็จแล้วจะกวาดลานวัด และล้างห้องน้ำต่อ กว่าจะกลับก็คงบ่ายๆ วันนี้น้ำอบทำกับข้าวสามอย่าง แบ่งไปวัด ข้าวสวย แกง ขนมหวาน น้ำเปล่า ธูป เทียน ดอกไม้ จัดเตรียมลงตะกร้าหวายใบย่อมขนาดกำลังดีหลังจากเตรียมของเสร็จ หญิงสาวรีบอาบน้ำแต่งตัว วันนี้เธอเลือกใส่ผ้าถุงปาเต๊ะที่ตัดเป็นผ้าถุงสำเร็จ ยาวถึงตาตุ่ม ใส่เสื้อลูกไม้สีครีม แบบเรียบแต่ไม่เชย เข้ารูปแขนสั้น ที่ซื้อมาจากตลาดเมื่อวาน ปล่อยผมยาวตามธรรมชาติ น้ำอบสูง 175 สำหรับผู้หญิงไทยคือสูง ผอม แต่หุ่นดี มีหน้าอก มีเอว สะโพกผาย เธอรู้ว่าตัวเอง รูปร่างหน้าตาดี เลยไม่ค่อยชอบแต่งตัวเท่าไร ปล่อยตามธรรมชาติ จะแต่งหน้าแต่งตัว ก็เฉพาะงานสำคัญเท่า