“รออยู่ในห้อง ถ้ากลับมาแล้วจะเปิดให้”
คนตัวเล็กถูกผลักให้เข้ามาอยู่ด้านใน ทันทีที่กลับมาถึงคอนโด เมื่อเห็นว่าฌอห์ณกำลังจะล็อกประตูจึงรีบวิ่งเข้าไปหา
“จะขังครีมไว้อีกแล้วเหรอ แล้วจะขังไปถึงเมื่อไหร่?”
“…..” ไม่มีคำตอบใดๆ จากปากแฟนหนุ่ม มีแค่สายตาว่างเปล่าที่ใช้มองเธออย่างพิจารณา
“ปล่อยได้ไหม ครีมคงไม่มีปัญญาหนีไปไหนได้อยู่แล้ว ฌอห์ณก็น่าจะรู้ดี” ครีมพยายามพูดหวานล้อมเพราะไม่อยากตกอยู่ในสภาพนี้อีกแล้ว อยากมีอิสระได้ออกไปใช้ชีวิตปกติเหมือนคนอื่นบ้าง
“ถ้าไม่อยากโดนแบบนี้ คราวหลังก็อย่าคิดจะหนี อย่าคิดจะขัดใจ!”
“จะไม่ทำแบบนั้นแล้ว”
“หรือถ้าคิดจะหนีขึ้นมาจริงๆ ไม่ว่าครีมจะอยู่ที่ไหน ฌอห์ณจะตามไปลากคอกลับมาเหมือนเดิม”
ครีมนั่งบนโซฟาก้มหน้านิ่ง เธอเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาตัวเล็กๆไม่มีความสามารถพิเศษอะไรที่จะหลุดพ้นจากสายตาของเขาไปได้ ยิ่งมีตัวประกันเป็นคนรอบข้าง ยิ่งหมดสิทธิ์ที่จะหนี
“วันนี้ไม่ออกไปหาเพื่อนเหรอ”
ครีมเอ่ยถามด้วยความสงสัยเมื่อเห็นฌอห์ณหยิบกระป๋องเบียร์ออกจากตู้เย็นแล้วเดินกลับมานั่งดื่มข้างๆ เธอ
ร่างกายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่าโชว์รอยสักที่มีอยู่เต็มแผ่นหลัง ส่วนท่อนล่างสวมกางเกงสแล็คสีดำ
“หรืออยากให้ฌอห์ณไป?”
“ไม่เคยอยากให้ไป แต่สุดท้ายฌอห์ณก็เลือกเพื่อนแล้วทิ้งครีมให้อยู่ห้องคนเดียว”
ฌอห์ณจับปลายคางมนให้เงยหน้าขึ้นมาสบตาก่อนจะโน้มริมฝีปากลงไปจูบเธอเบาๆ เมื่อได้เห็นสีหน้าน้อยใจ
“ถ้าคิดจะทิ้งคงไม่กลับมานอนกอดทุกคืน”
“แล้วทำไมถึงสนใจคนอื่นมากกว่าครีม”
“ก็นั่นเพื่อนไง”
“แล้วครีมไม่ใช่เมียฌอห์ณเหรอ?” แววตาที่มองแฟนหนุ่มมันเต็มไปด้วยความอึดอัดใจ ไม่อยากทนอยู่แบบนี้ แต่ก็ออกไปไหนไม่ได้
“หรือที่ผ่านมาไม่เคยมองเห็นครีมเป็นเมียอยู่แล้ว”
“เพื่อนกับเมียมันไม่เหมือนกัน”
“แล้วสำหรับฌอห์ณ อะไรมันสำคัญกว่าระหว่างเพื่อนกับเมีย?”
“หยุดถามอะไรที่มันไร้สาระได้แล้วครีม!”
เธอสะดุ้งหลังจากที่เขาวางกระป๋องเบียร์กระแทกลงบนโต๊ะอย่างแรง น้ำเสียงที่ฌอห์ณพูดเริ่มแสดงออกว่ากำลังหงุดหงิด
“อืม…ครีมพอจะรู้คำตอบแล้ว จากนี้จะไม่ถามอีก”
“แล้วหายปวดหัวยัง?”
“ดีขึ้นแล้ว”
“วันนี้แม่ได้พูดอะไรกับครีมไหม?”
“ไม่ได้พูดอะไร” ครีมเลือกที่จะเก็บเรื่องนั้นเอาไว้ เพราะรู้ว่าฌอห์ณต้องทำให้มีปัญหา ทุกวันนี้ก็มีเรื่องเครียดมากพออยู่แล้ว เลยไม่คิดจะหาเรื่องใหม่เพิ่ม
“แน่ใจ?”
“แม่ไม่ได้พูดอะไรจริงๆ”
“ถ้าไม่ได้มีอะไรก็แล้วไป”
“ทำไมตอนนั้นฌอห์ณถึงตัดสินใจมาคบกับครีม”
เธอกับฌอห์ณเจอกันครั้งแรกที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย ตอนนั้นเขาหล่อมากเรียกว่าเป็นหนุ่มฮอตเบอร์ต้นๆ ของมหาลัย มีสาวสวยดาวคณะคอยรุมล้อมเยอะแยะไปหมด
แต่ฌอห์ณกลับมาเลือกเธอที่เป็นคนหน้าตาธรรมดาแถมแต่งตัวเชยไม่ได้โดดเด่น เขาคอยไปรับไปส่งเธอทุกวัน วันหยุดคอยพาไปเที่ยวดูหนัง โทรคุยกันจนถึงดึกดื่น สุดท้ายก็พาเธอเข้าบ้านไปเจอครอบครัว
“เห็นหน้าครีมครั้งแรกแล้วตรงสเปกเลยอยากได้” ต้องขอบคุณพวกเพื่อนๆ ชวนเขาไปกินข้าวที่โรงอาหารในวันนั้น จนได้เจอครีมเดินผ่านโต๊ะไป เขามองจ้องแบบไม่คาดสายตาก่อนจะล็อคเป้าหมายแล้วเป็นฝ่ายเริ่มเข้าหาก่อน
“ตอนนั้นไม่ได้คิดจริงจังกะแค่จะหลอกฟันเล่นๆ”
“ก็ได้ฟันสมใจอยากแล้วนิ”
“ครีมจำได้ไหมว่าเรามีอะไรกันครั้งแรกที่ไหน”
“จำไม่ได้ แล้วก็ไม่ต้องพูดด้วย ครีมลืมมันไปนานแล้ว” ถึงแม้จะจำได้แต่ไม่อยากนึกถึงมันอีก ครั้งแรกของเธอกับเขามันไม่ได้น่าจำเลยสักนิด เธอร้องไห้หนักแต่เขาก็ยังไม่หยุด นอนจับไข้นั่งไม่ลงไปเกือบอาทิตย์
“แต่ฌอห์ณจำได้ทุกอย่าง เรามีอะไรกันครั้งแรกที่บ้านฌอห์ณ ตอนนั้นที่ฌอห์ณบอกว่าไม่มีถุงยางมันเป็นแค่เรื่องโกหก”
“…..” ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันแน่น เพราะเพิ่งเคยรู้ความจริงก็วันนี้ สรุปว่าโดนเขาหลอกมาตั้งแต่แรก
“สุดท้ายก็ปล่อยในใส่ครีมไปตั้งหลายรอบ แม่งโคตรฟิน!” ดวงตาคู่คมฉายแววความเจ้าเล่ห์ออกมาอย่างชัดเจน
“หยุดพูด! คะ…ครีมไม่อยากฟังแล้ว”
“คิดว่าถ้าได้สักทีสองทีแล้วจะเขี่ยทิ้ง แต่สุดท้ายฌอห์ณก็ทิ้งครีมไม่ได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม”
ฌอห์ณไม่เคยคบใครจริงจังนอนกับผู้หญิงไปทั่ว ถ้าสวยถูกใจก็พาเข้าโรงแรม เปลี่ยนคู่นอนเป็นว่าเล่นอาทิตย์ละสองคนสามคน
จนได้มาเจอครีมที่ไม่เหมือนผู้หญิงพวกนั้น เขาพาเธอไปบ้านใหญ่ไปเจอครอบครัว พาเข้าคอนโด ทำหลายสิ่งหลายอย่างที่ไม่เคยคิดจะทำให้ใคร
หลังจากมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งแทนที่จะเขี่ยเธอทิ้งเหมือนผู้หญิงคนอื่น แต่กลับเปลี่ยนไปทั้งหมด พอเขาเลิกเรียนก็รีบตามไปเฝ้าเช้าเฝ้าเย็น ตั้งหน้าตั้งตารอวันหยุดเพื่อจะได้อยู่กับเธอ
ไม่อยากเชื่อตัวเองว่าจะคบกับใครได้นานจนถึงขนาดนี้ แล้วมันจะอาจจะมีแค่ครีมไปตลอดทั้งชีวิตของเขา
“แล้วคิดจะอยู่กับครีมไปจนถึงเมื่อไหร่?” ถ้ารู้ว่าฌอห์ณจะกลายเป็นคนแบบนี้ สู้ยอมให้เขาหลอกฟันแค่ทีสองทีตั้งแต่ตอนนั้นยังจะดีเสียกว่า
“ไม่รู้ดิ”
“เราสองคนจะอยู่กันไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหมายแบบนี้น่ะเหรอ”
“แล้วจุดหมายที่ครีมว่ามันคืออะไร?” เขาหันไปสบตากับแฟนสาวราวกับต้องการคำตอบอย่างจริงจังว่าสิ่งที่เธออยากได้มันคืออะไร
“ตอนนี้ฌอห์ณมีทุกอย่างให้ครีมหมดแล้ว ยังจะต้องการอะไรอีก?”
“แล้วทำไมเวลาทะเลาะกันถึงชอบพูดว่าครีมน่าเบื่อ บางครั้งก็บอกรำคาญครีม ฌอห์ณรู้สึกแบบนั้นจริงๆ ใช่ไหม”
“พูดไปงั้นแหละ ไม่ต้องสนใจ”
“แต่ครีมเสียใจนะ”
“เรื่องแค่นี้จะเสียใจทำไม”
“งั้นลองให้ครีมพูดแบบฌอห์ณดูบ้างไหม”
“ลองพูดดูสิ! เดี๋ยวก็รู้ว่าฌอห์ณทำอะไรกับครีมได้บ้าง” คนตัวโตแค่นหัวเราะในลำคอเบาๆ เหยียดยิ้มเย้ยหยัน ไม่ชอบเวลาที่เธอแข็งข้อและทำอวดดีใส่
“แล้วทำไมฌอห์ณถึงพูดกับครีมได้”
“ฌอห์ณจะทำอะไรกับครีมก็ได้ทั้งนั้นแหละ!”
“แล้วเมื่อไหร่ถึงจะยอมปล่อยครีม”
“จนกว่าฌอห์ณจะตาย”
“แล้วเมื่อไหร่จะตาย?”
ฌอห์ณถอนหายใจลากยาวหยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบเมื่อได้ยินคำถามสุดแสนเฮงซวยนั่น! เหมือนโดนเมียรักสาปแช่งทางอ้อมขอให้เขาตายไวๆ วันนี้เธอดูงอแงต่อล้อต่อเถียงมากผิดปกติ
“ก็คงตายพร้อมครีม”
ถ้าเกิดว่าเขาจะตายก็คงทำให้เธอตายไปพร้อมกัน หรือต่อให้ครีมตายก่อนเขาก็จะเป็นฝ่ายตายตามเธอไป!
เพราะในชาตินี้จะไม่ยอมยกให้ครีมตกเป็นของใครหน้าไหน นอกจากต้องเป็นของเขาคนเดียว ส่วนชาติหน้าไม่รู้เพราะยังไม่เคยตาย!
“จูบหน่อยครีม” ใบหน้าคมคายโน้มลงเข้าหา แต่ร่างบางกลับขยับถอยห่างเบือนหน้าหันหนี
“ไม่เอา เหม็นกลิ่นเหล้า!”
“อะไร?”
“เหม็นบุหรี่ด้วย”
“ฌอห์ณก็ดูดแบบนี้ทุกวันจะเหม็นอะไร อย่ามาหาเรื่อง” ท่อนแขนแกร่งโอบรัดเอวบางไว้แน่นไม่ยอมให้เธอปฏิเสธ โน้มใบหน้าคมคายแนบชิดประกบจูบบดขยี้อย่างอุกอาจ ถ้าอยากจูบต้องได้จูบ! ถ้าอยากเอา
ต้องได้เอา!
กลิ่นน้ำหอมจากตัวแฟนหนุ่มผสมกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ลอยคละคลุ้งตลบอบอวลอยู่ในโพรงปากเล็กทำให้รู้สึกพะอืดพะอมตีขึ้นมาจุกอยู่กลางลำคอ
“ช่วยออกไปไกลๆ ก่อนได้ไหม”
“อะไรนักหนาวะครีม!”
“ครีมเหม็นฌอห์ณ อึก! จะ…อ้วก” สิ้นประโยคนั้นครีมรีบวิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำ ท่ามกลางสายตายากจะคาดเดาของแฟนหนุ่มที่มองตามหลังออกไป