ฉันเลยกลายเป็นเด็กสาวที่มีเงินในบัญชีหลักแสน ด้วยวัยเพียงสิบหกปี แต่อย่างว่า คนเรามักไม่โชคดีเสมอไป
เงินเต็มบัญชี
ได้นั่งข้างหนุ่มหล่อ
มีติวเตอร์ส่วนตัว
ลักกี้อินเกม แต่ความรักของฉันพังทลาย เหมือนหัวใจแตกสลายเมื่อผามีแฟนคนแรก
ผามีแฟนเป็นเด็กสาวต่างโรงเรียน โรงเรียนสตรีดังของจังหวัดเชียงใหม่ ได้ยินว่าใครที่เรียนที่นั่นจะหน้าตาดีทุกคน และฉันก็เห็นจริงตามนั้น
“ปลาย นี่น้ำปั่นแฟนผา” วันนั้นเรานัดติวหนังสือกัน ฉันดีใจว่าจะได้ติวหนังสือกันตามลำพัง แต่เปล่าเลย เขาพาแฟนเขามาติวด้วย
“หวัดดีน้ำปั่น เราปลาย” ฉันยิ้มให้แฟนของผา เธอเป็นผู้หญิงตัวสูงประมาณฉัน แต่ขาวและผอมกว่าตามสไตล์สาวเหนือ สวยแหละ สวยมาก
“หวัดดีจ้ะปลาย” น้ำปั่นยิ้มหวานให้ฉัน รอยยิ้มของเธอทำฉันหายใจติดขัด เพราะความสวยนั่นแหละ
“วันนี้เราติว ฟิสิกส์กันนะ น้ำปั่นมีตรงไหนที่ไม่เข้าใจไหม” ฉันมองภาพนั้น เห็นน้ำปั่นเอาใจผา ทั้งป้อนน้ำ ทั้งป้อนขนม
ส่วนเกินอย่างฉันจะอยู่เพื่อ…
“ผา น้ำปั่น เราปวดท้องไม่รู้เป็นอะไรเดี๋ยว เรากลับก่อนนะ”
“อ้าว! เป็นอะไร เดี๋ยวเราไปส่งดีกว่า”
“ไม่ต้อง ๆ เดี๋ยวเรากลับเอง” ฉันอ้างว่าเดี๋ยวพ่อมารับ พ่ออยู่ไม่ไกล จริงๆ แล้วต้องแอบไปนั่งรอพ่ออีกตั้งนาน ปวดท้องน่ะไม่ได้เป็นจริงหรอก แต่ปวดใจนี่สิ
“เจ็บ แฮะ” ฉันเริ่มแน่ใจว่าตัวเองรักผาเสียแล้ว ไม่ใช่แค่ปลื้ม เพราะถ้าแค่ปลื้ม ฉันคงไม่เจ็บแบบนี้
“ทำไมกลับเร็ว” พ่อถามในตอนที่ฉันขึ้นนั่งบนรถ
“มันง่าย ติวแป๊บเดียวก็เสร็จ” ฟิสิกส์เนี่ยนะง่ายไอ้ปลาย ล่าสุดตอนสอบตัวเองได้แค่หกคะแนนเต็มสิบ ถ้าผาไม่ติวให้ไม่มีทางผ่าน
ฉันส่งข้อความบอกผาว่าถึงบ้านแล้วตอนที่นั่งรอพ่อ เพราะไม่อยากให้เขาเป็นห่วง เขาส่งสติกเกอร์กลับมาว่าโอเค จริง ๆ แล้วเขาอาจไม่ห่วงก็ได้
“เฮ้อ!” ฉันถอนหายใจอีกครั้งตอนรถจะเลี้ยวเข้าบ้าน จนพ่ออดถามไม่ได้ว่าวันนี้ลูกสาวเป็นอะไร ถอนหายใจเหมือนคนแก่เลย ฉันได้แต่ยิ้ม จะบอกพ่อกับย่าได้อย่างไรกันว่าหลานอกหัก อกหักจากรักครั้งแรก รักแรกที่เขาไม่เคยรู้ตัว
ห้องเรียน ม. 5/1 เทอมสอง
ฉันเดินเข้ามาในห้องเรียนด้วยหัวใจพองฟู ไม่ได้เจอผาตั้งสองวัน อยากให้โรงเรียนเปิดทุกวัน ถ้าเพื่อนรู้คงสาปฉันแน่ แต่ก็นั่นแหละ มาโรงเรียนแล้วได้เห็นหน้าเขา ใครจะไม่อยากมา จริงไหม อยู่บ้านทรมานตั้งสองวัน อยากวิดีโอคอลหาก็ใช่เรื่อง
เรามันคนแอบชอบ ยิ่งเขามีแฟนก็ต้องแอบให้มิด
“หวัดดีปลาย”
“หวัดดีผา อะไรเหรอ” ผายื่นเอกสารในมือให้ฉันดู เป็นเอกสารแนะนำเรื่องการเรียนต่อ
“เราว่าจะสอบเข้าแพทย์ เธอว่าดีไหม” หมอหล่อขนาดนี้ไม่ดีได้อย่างไร อยากจะป่วยสักวันละสองสามครั้ง บุญของคนในอนาคตของคุณหมอภูผาแล้ว แค่เขาบอกแบบนี้ ฉันแทบจะมองเห็น เสื้อกาวน์คุณหมอบนตัวเขาแล้ว
‘คุณหมอภูผา’ โอย ใจละลายแล้ว
“ดีนะ เราเองก็อยากเป็นพยาบาล” สาบานวัดไหนก็ได้ว่าฉันไม่มีความคิดอยากเป็นพยาบาลในหัวแม้แต่น้อย ไม่มีเลย ไม่มีเลยเจ้าค่ะ
แต่ทำอย่างไรได้ เพราะเขาอยากเป็นหมอ ฉันก็ต้องอยากเป็นพยาบาลสิ ไม่อย่างนั้นจะไปอยู่ใกล้เขาได้อย่างไรกัน ความพยายามของฉันต้องสัมฤทธิผลในสักวันสิ ตามติดเขายิ่งกว่าเงาตามตัวขนาดนี้
ผาต้องใจอ่อนบ้างแหละ
ถามว่าทำไมฉันไม่ไปเป็นหมอเหมือนเขา ฉันประเมินตัวเองได้ว่าความสามารถอยู่ระดับไหน ฉันไม่ได้เรียนเก่งขนาดจะสอบติด ถึงสอบติดก็ไม่มีทางเรียนจบได้ ทุกวันนี้ที่เรียนพอได้ผ่านก็เพราะผาช่วยทั้งนั้น
เนี่ย ๆ น่ารักขนาดนี้ ไม่ให้รักได้อย่างไร
“ถ้าปลายเป็นพยาบาล แล้วเราเป็นหมอ ตอนทำงานจะได้เจอกันบ่อย ๆ สินะ” ผายกให้ฉันเป็นเพื่อนลำดับหนึ่งของเขาเสมอ ไม่ว่าเรื่องไหนในชีวิตเขา ฉันรู้ทุกเรื่อง ทุกเรื่องจริง ๆ
“คุยอะไรกันสองคนนี้” ยายแนนเพื่อนอีกคนที่ฉันสนิทด้วย แต่เพราะนางมีแฟน เวลาติวนางเลยไม่ค่อยได้มาติวด้วยกัน
“ผาจะสอบเข้าหมอ” ฉันบอกแนนอย่างตื่นเต้น
“โอย เรื่องนี้ใคร ๆ ก็เดาออกผาเรียนเก่งขนาดนี้ ยังไงผาก็ได้เป็นหมออยู่แล้ว” แนนบอกฉันและหันไปทางผา ใช่ ทุกคนในห้องไม่มีใครแปลกใจเรื่องเขาจะเรียนหมอ
“แล้วแกเรียนไรแนน” ฉันถามเพื่อนคนสวยประจำห้อง
“ว่าจะเรียนถาปัด” เป็นอีกตัวเลือกที่เพื่อนในห้องหลายคนสนใจ
“ว่าแต่ผาอยากเป็นหมออะไร” แนนหันไปถามผาเกี่ยวกับสาขาของแพทย์ที่จะเรียนต่อ หลังจากเรียนจบและใช้ทุนของหลวงแล้ว
“ยังไม่ได้คิด ค่อยคิดก็ได้” ผาตอบยิ้ม ๆ หลังจากนั้นอาจารย์ประจำคาบวิชาก็เข้ามาสอน
“กว่าผาจะรักปลาย”“ที่ไหนล่ะ ผารักปลายมาตลอดเลย ปลายนั่นแหละไม่ชัดเจน” ผมจะสารภาพทีไรมีแต่เรื่องให้ผมอกหัก“ผามีแฟนทิ้งปลายตั้งหลายครั้ง”“ก็ใครย้ำนักย้ำหนาว่าเป็นเพื่อนไง” เธอแหละวางผมไว้เป็นเพื่อนตลอดใครจะกล้าล้ำเส้น ผมแสดงออกตั้งหลายครั้งว่าชอบเธอ“ปลายอยากเป็นมากกว่าเพื่อนตลอดแหละ แล้วใครกันล่ะเมื่อไหร่ก็มีแฟน พอมีแฟนก็หายหัวไปเลย” เธอย่นหน้าให้ผม“อยากตัดใจจริง ๆ นะ มันเจ็บ ว่าแต่คุยกันเรื่องลูกอยู่ดี ๆ แล้วเรามาเรื่องนี้กันได้ยังไงเนี่ย”“เออ นั่นสิมาเรื่องนี้ได้ยังไงกัน” ปลายเองก็งงว่าเรามากันเรื่องของตัวเองได้อย่างไรกัน แล้วยังโกรธย้อนหลังกับอดีตที่ผ่านมา เราทั้งคู่หัวเราะชอบใจ“ขอบคุณนะผา ที่เตือนสติปลาย ปลายชอบมองว่าลูกยังเด็กไม่อยากให้ลูกมีแฟน ทั้ง ๆ ที่ลูกอายุเท่าเราในตอนนั้นเลย” ในตอนนั้นที่เธอหมายถึงคือตอนที่ผมกับปลายเริ่มชอบกัน ตอนนั้นพวกเราอายุเท่ากับลูก ๆ ในตอนนี้นั่นแหละ“ผาเข้าใจ ไม่ผิดหรอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ก็แบบนี้ทั้งนั่นแหละ ผาเองก็เป็นห่วงลูกไม่ต่างกับปลาย แต่เราดูแลเขาไม่ได้ไปตลอดชีวิตประสบการณ์จะทำให้เขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นและดูแลตัวเองได้” ด้วยความที่ผมเป็นผู้ชายด้ว
ใช่ ตอนนี้เต็มไม้เต็มมือ แถมยังร้อนอีกต่างหาก“ปลาย...” เสียงผาเซ็กซี่จนฉันสะท้าน เสียงทรมานแบบนี้ยิ่งทำให้ฉันอ่อนยวบไปทั้งตัว ปลายนิ้วเขาปัดผ่านตุ่มไตบนเนินทรวง ยอดถันหดเกร็งอย่างอัตโนมัติ ความชื้นฉ่ำตรงกลางกายบ่งบอกว่าฉันเองก็อยากได้เขาไม่ต่างกัน “ผา...ไม่ไหว” ฉันไม่ไหวแล้วตอนนี้ อยากเหลือเกิน ยิ่งเขาปลุกปั่นฉันยิ่งอยาก คงเพราะเราทั้งสองร้างรามาหลายเดือน เขาเองคงไม่ต่างจากฉัน“อยากทำหรืออยากให้ผาทำ” วันนี้ฉันอยากเป็นฝ่ายกระทำมากกว่าโดนกระทำย่ำยี“ปลายจะย่ำยีผาให้หนำใจ”“เอาเลยทูนหัว ย่ำยีผัวให้หนำใจ”“อา....” ฉันเริ่มย่ำยีเขาอย่างที่ใจต้องการ บดเนินเนื้อเข้าหาส่วนแข็งขึงให้แข็งกว่าเดิม ส่ายร่อนเอวอย่างที่เขาชอบ เสียงครางต่ำของเขาบ่งบอกว่าทรมานแค่ไหนในการโดนย่ำยีครั้งนี้“ปลายจ๋า” เสียงผาหวานเหลือเกิน ฉันตอบรับเขาเสียงหวาน ก่อนจะโน้มตัวให้หน้าอกคัปดีในตอนนี้บดเบียดกับหน้าอกแกร่งของเขา จูบเร่าร้อน ลิ้นร้อนร้ายไล้ชิมในโพรงปากของเราทั้งคู่ดูดดึง หยอกล้อกันฝ่ามือหนาของผาบีบแก้มก้นฉันแน่น เขาจับของเขาจ่อตรงร่องรักฉ่ำชื้น ฉันโยกตัวขยับให้ทุกอย่างเข้าหากันได้ง่ายขึ้น เมื่อเป้าหมายไม่พล
ผากำลังอุ้มลูกของเราในวัยแรกคลอด เด็กผู้ชายแฝดสองคนหนึ่งผาอุ้มไว้ในอ้อมกอดแสนอบอุ่น ก่อนที่เราจะมีลูกผาตัดสินใจเรียนต่อเฉพาะทางกุมารเวชลูกชายอีกคนแม่ของฉันอุ้มไว้แนบอกหลานยาย แม่ของฉันเกษียณอายุจากการเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยแล้ว ฉันจึงขอร้องให้แม่ช่วยมาอยู่เป็นเพื่อนฉันกับผา เราสองคนปลูกบ้านหลังใหม่ ไม่ห่างจากบ้านหลังเดิมของพ่อมากนัก เพราะลูกแฝดทำให้ผาค่อนข้างกังวลเมื่อลูกเขยสุดที่รักขอร้องให้มาอยู่เป็นเพื่อนลูกสาวกับหลาน แม่ที่อยู่คนเดียวตอนนี้จึงตัดสินใจไม่ยาก เพราะความห่วงฉันและหลานใจลึก ๆ ฉันก็อยากให้พ่อกับแม่ลองได้พูดคุยกันอีกครั้ง แต่ก็นั่นแหละ ความสัมพันธ์ของพ่อกับแม่ยุติมาแสนนานแล้วจึงค่อนข้างยากที่จะให้กลับมาเหมือนเดิม“น้องไปป์ น้องโป๊ป” เสียงเรียกของคนที่เพิ่งมาถึง พ่อของฉันมาถึงพร้อมย่า ตอนนี้ฉันย้ายกลับมาพักฟื้นที่บ้านแล้ว เด็ก ๆ อายุได้หนึ่งเดือนแล้วแข็งแรงทั้งคู่ น้ำหนักและความยาวถึงจะน้อยกว่าเด็กในวัยเดียวกันแต่ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติ“ไหนขอทวดดูหน้าหน่อย” ย่านั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่น เรียกดูหน้าเหลน ผากับแม่ฉันจึงอุ้มเด็กทั้งคู่มาให้ย่าดูหน้าชัด ๆ ย่าท่องคาถาอะไร
“ขอโทษ” ผาค้อมศีรษะให้น้ำปั่นอย่างรู้สึกผิด“ไม่ต้องขอโทษเรา ไปขอโทษปลายโน่น รักเขาแต่ไม่ยอมบอก เป็นเรานะปลาย จะเล่นตัวให้เข็ด” น้ำปั่นยังปล่อยพลังทำลายล้าง ผานั่งตัวงออย่างรู้สึกผิดกับฉันและน้ำปั่น“ไม่ต้องขอโทษแล้วผา ตอนนั้นเรายังเด็กด้วยกันทั้งคู่ กว่าน้ำปั่นจะมาเจอแฟนคนนี้ น้ำปั่นเองก็คบมาเยอะ ถือว่าเป็นประสบการณ์ของคนสวยก็แล้วกัน ว่าไหมปลาย”ฉันสะอึกเพราะกลายเป็นผู้มีประสบการณ์น้อยขึ้นมาทันทีน้ำปั่นยกข้อมือดูเวลา เราทั้งสองแลกคอนแท็กต์กันไว้หลายช่องทาง“ไปก่อนนะปลาย ผา ขอให้รักกันแบบนี้ตลอดไปให้เหมือนที่ผ่านมานะ เราไปก่อน” น้ำปั่นอวยพรพร้อมทั้งล่ำลากัน คำอวยพรของน้ำปั่นทำให้ฉันรู้ว่า เธอรู้ว่าผารักฉันตั้งแต่ตอนนั้น“น้ำปั่นรู้ว่าผารักปลาย” เขาย้ำความคิดฉันด้วยคำพูดอีกครั้ง นี่เป็นเหมือนสิ่งค้างคาใจฉันมาตลอด เพราะน้ำปั่นคือแฟนคนแรกของผา และเป็นแฟนคนเดียวที่เขาแนะนำให้ฉันรู้จักอย่างเป็นทางการ“น้ำปั่นแมนมากเลย”“น้ำปั่นมีลูกแล้วปลาย” ผาทำหน้าตาตกใจ คงกลัวฉันจะชอบน้ำปั่นสินะ“ที่บอกว่าแมนหมายถึงเขาไม่งี่เง่าใส่ปลายเหมือนหมอฝ้าย” ฉันคิดว่าถ้าเจอหน้าน้ำปั่นคงมองหน้ากันไม่ติด ใครจะคิด
“ปลายรักผา รักมานานแล้ว อ๊ะ” ฉันบอกรักเขาพร้อมกับรัดเขาแน่น ๆ ด้วยร่องรักที่เต้นตุบ ๆ บดร่องรักเข้ากับตัวตนของเขาจนแทบไม่มีช่องว่าง พร้อมกับเขี่ยระรัวตรงส่วนของเกสรให้เขาดูด้วย“ปลาย ท่านี้โคตรเอกซ์” เขาพูดพร้อมทั้งบีบหน้าอกฉันแรงกว่าเดิม ทำไมฉันจะไม่รู้ว่าท่านี้โคตรเอกซ์และเขาชอบแค่ไหน ทุกครั้งที่ทำท่านี้ ทุกครั้งที่มองเขา สายตาเขาและตัวตนเขาที่จมอยู่ในร่องรักจะกระตุกตลอด“ผาก็โคตรเอกซ์ ปลายชอบทุกส่วนของผา” ฉันบีบกล้ามอกเขาแรง ๆ อย่างที่เขาบีบฉัน กล้ามนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกนุ่มนิ่ม หากแต่ให้ความรู้สึกเคร่งครัด แน่นไปทุกสัดส่วน“ปลายแต่งงานกันไหม” ใครมาขอแต่งงานตอนที่ผู้หญิงกำลังขย่มอยู่บ้าง ฉันควรจะร้องไห้เพราะความดีใจหรือเพราะความเสียวดี“ผาเอาเสร็จก่อนค่อยขอ” ขอแต่งงานควรสวมแหวนสิ ไม่ใช่สวมอะไรอย่างตอนนี้“ตอนนี้อารมณ์มันได้”“อื้อ ผาไม่เล่น” เขาจูบฉันทั้งยังสวนเอวเข้ามาไม่หยุด“ไม่ได้เล่น แต่งไหม”“อื้อ แต่ง แต่ง แตกแล้ว”“จะแต่งหรือจะแตก” เขาหัวเราะอย่างอารมณ์ดีเมื่อฉันแตกกับตัวตนของเขาพร้อมทั้งตอบตกลงแต่งงานกับเขา รักข้างเดียวตลอดหลายปีของฉัน สุดท้ายฉันก็ได้เขามาครอบครองทั้งกายแ
“ไม่รู้สิ คนถูกจีบบื้อไปหน่อยมั้ง” เขายักไหล่พร้อมทั้งหัวเราะอย่างชอบใจที่ได้ว่าฉัน“ปากหนัก มโนเก่ง” ฉันว่าพร้อมทั้งเบ้ปากให้เขา เพราะความปากหนักและขี้มโนของเขานั่นแหละ ทำให้เราสองคนต้องอดทนรอกันและกันมาถึงสิบสองปี“ถือว่าแยกกันไปเติบโต พอผาได้บรรจุ ผาคิดเลยนะว่าจะไม่ยอมให้ปลายหลุดมือผาไปอย่างแน่นอน”“ขนาดนั้นเลย” ฉันแกล้งแซว“ทั้งพาไปเลือกคอนโด ทั้งจับมือ ทั้งหอมมือ ยังไม่รู้อีกว่าอยากเป็นมากกว่าเพื่อน”จริง ๆ ตอนนั้นฉันก็แอบหวั่นไหวมาก ถึงได้ขอคบเขาเป็นเพื่อนนอน เพราะคิดว่าจะหลบอยู่ในซอกหลืบของความเป็นเพื่อนต่อไปคงไม่ไหว“ก็รู้แล้วไงตอนนี้ ทำไมชอบว่าเนี่ย” ฉันปั้นปากใส่เขาอย่างหมั่นไส้“ผารักปลาย”พอเขาพูดคำนี้ทีไร ฉันที่ปั้นปากอย่างอารมณ์ไม่ดีแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มกว้างอย่างดีใจ คำบอกรักของเขาฟังกี่ทีฉันก็ไม่เคยเบื่อ เหมือนน้ำฝนที่ไหลลงพื้นดินมอบความชุ่มฉ่ำหัวใจได้ตลอดเราสองคนกลับจากตลาดในเวลาเกือบสามทุ่ม พนักงานของรีสอร์ตพาเราสองคนกลับมาส่งที่ห้องอย่างปลอดภัย ฉันตรงไปยังห้องน้ำเพื่ออาบน้ำทันที เหนียวตัวเพราะฝุ่นควันจากตลาด และร้อนเพราะเครื่องดื่มที่กระดกเข้าไปหลายแก้ว“ผา อย่าเพิ่ง