共有

บทที่ 4 ห้ามพลาด 4

last update 最終更新日: 2025-07-16 15:29:18

บทที่ 4

ห้ามพลาด

จรัสรักกลับมาถึงบ้านตอนเจ็ดโมงเช้า สีหน้าและแววตาอ่อนล้าจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ ด้วยได้นอนเพียงแค่สองชั่วโมงก็ต้องรีบเช็กเอาต์ออกจากโรงแรม เพื่อเดินทางกลับบ้านซึ่งอยู่นนทบุรี โชคดีที่ปัจจุบันมีรถไฟฟ้าเข้าถึง จึงเดินทางสะดวกและไม่เสียเงินไปกับค่าโดยสารมากนัก

“โหพี่รัก ทำไมกลับเช้าอีกแล้วเนี่ย” จารวีซึ่งกำลังนั่งปอกกระเทียมช่วยผู้เป็นยายเอ่ยทักขึ้นทันที เมื่อเห็นพี่สาวแท้ ๆ อย่างจรัสรักเดินหิ้วถุงอาหารพะรุงพะรังเข้ามาในบ้าน เด็กสาวในชุดนักเรียนมอปลายรีบลุกขึ้นไปรับถุงต่าง ๆ มาจากคนเป็นพี่ “พี่ซื้ออะไรมาเยอะแยะ”

“ซื้อกับข้าวมาไว้ให้ยายกับแม่กินตอนเที่ยง แล้วนี่กินข้าวเช้ากันหรือยัง”

จารวีส่ายหน้า “ยังไม่ได้กินเลย ยายบอกว่ารอพี่รักก่อน”

“ยายคิดว่าเอ็งต้องซื้อเข้ามา เลยไม่ให้ไอ้กิ๊ฟต์ทำกับข้าว” ยายศรีจันทร์ซึ่งยังนั่งปอกกระเทียมอยู่ที่เดิมเอ่ยขึ้นมาบ้าง

จรัสรักพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะบอกให้คนเป็นน้องไปหยิบถ้วยจากในครัวออกมาสี่ใบ จากนั้นก็ช่วยกันแกะโจ๊กที่ซื้อมาเทลงไป ระหว่างนั้นก็ถามน้องสาวถึงสมาชิกอีกคนซึ่งนอนอยู่บนฟูกกลางบ้านเพราะช่วยเหลือตัวเองไม่ได้

“กิ๊ฟต์เช็ดตัวให้แม่แล้วใช่ไหม”

“เรียบร้อยหมดทุกอย่างแล้วพี่ เหลือแค่กินข้าวกับกินยา”

“อืม เดี๋ยวพี่จัดการต่อเอง กิ๊ฟต์รีบกิน จะได้รีบไปโรงเรียน” คนเป็นพี่บอกพลางเปิดกระเป๋าสตางค์และหยิบธนบัตรสีเทายื่นให้น้องสาว “จำได้ว่ากำหนดจ่ายค่ากิจกรรมวันนี้วันสุดท้ายใช่ไหม เอานี่ไปจ่าย แล้วที่เหลือก็เก็บไว้ซื้อของส่วนตัว”

“พี่รักมีเงินใช้อยู่ใช่ไหม” จารวีรับเงินมา แต่ก็มิวายถามคนเป็นพี่ด้วยความเป็นห่วง ที่ผ่านมาเธอรู้ว่าพี่สาวทำงานหนัก เพื่อหาเงินใช้หนี้ซึ่งสะสมมาตั้งแต่ตอนที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ ส่วนแม่ก็ยังเดินเหินได้ปกติ เธอพยายามช่วยแบ่งเบาด้วยการประหยัดให้ได้มากที่สุด แต่บางทีกิจกรรมภายในโรงเรียนก็เป็นอะไรที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

“วันนี้พี่เพิ่งเบิกเงินค่าจ้างมา เจ้าของร้านใจดีให้เบิกเงินออกมาใช้ก่อน” จรัสรักไม่กล้าสบตาน้องสาว ด้วยกลัวถูกจับได้ว่าตนกำลังโกหก จารวีรู้เพียงแค่ว่าเธอทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านเหล้า แต่ไม่รู้รายละเอียดที่มากกว่านั้น “แล้วก็ได้ทิปจากลูกค้ามาด้วย”

“จริงเหรอ ดีจัง ให้กิ๊ฟต์ไปทำด้วยดีไหม จะได้ช่วยกันหาเงินให้ได้เยอะ ๆ”

“กิ๊ฟต์เพิ่งอายุสิบแปดปีเอง ยังไม่ถึงยี่สิบเลย ที่ร้านไม่รับหรอก” จรัสรักว่าพลางยิ้มบาง ๆ ให้น้องสาว ขณะที่มือกำลังคนโจ๊กในถ้วยให้คลายความร้อน “อีกอย่างถ้ากิ๊ฟต์ออกไปทำงาน แล้วใครจะดูแลแม่กับยาย ไหนจะต้องไปโรงเรียนอีก”

พูดจบจรัสรักก็ลุกเดินไปหามารดา ประคองให้ลุกขึ้นนั่ง เดินไปหยิบโต๊ะที่พิงผนังไว้ออกมากางคร่อมขาเล็กลีบเพราะไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง จากนั้นก็วางถ้วยโจ๊กลงเพื่อให้ผู้เป็นแม่ตักกิน

จารวีช่วยด้วยการเทน้ำและจัดยาหลังอาหารไปวางเตรียมไว้ให้ ก่อนจะเอ่ยเหมือนที่เคยเอ่ยเป็นประจำ “กินให้หมดนะแม่ จะได้แข็งแรง ๆ”

“จ้ะ รีบไปกินข้าวเถอะ ใกล้ถึงเวลาไปโรงเรียนแล้ว” คนเป็นแม่ยิ้มตอบลูกคนเล็ก เงยหน้าขึ้นไปมองลูกสาวคนโตด้วยรอยยิ้มบางเบาด้วยความรู้สึกผิดที่ติดอยู่ในใจ จากนั้นก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวไปเงียบ ๆ

จรัสรักและจารวีกลับมานั่งแล้วเริ่มตักโจ๊กในถ้วยตัวเองกิน พร้อมคนเป็นยายที่วางมือจากการปอกกระเทียม ขยับมานั่งล้อมวงกินมื้อเช้าพร้อมหลานสาวทั้งสอง

เมื่อคนอายุน้อยสุดกินเสร็จและยกถ้วยเข้าไปเก็บในครัว ยายศรีจันทร์จึงล้วงเงินทั้งหมดที่มีในกระเป๋าเสื้อยื่นให้หลานสาวคนโต พร้อมเอ่ยเรื่องเครียดขึ้นมา

“อาทิตย์นี้ยายรับจ้างปอกกระเทียมได้พันนึง เอ็งเบิกเงินล่วงหน้ามาได้เท่าไร พอจ่ายยอดวันนี้หรือเปล่า เดี๋ยวสาย ๆ มันก็ขี่รถมาเก็บกันแล้ว”

“พอจ้ะยาย” จรัสรักพยักหน้า พยายามพูดให้น้อยที่สุด จะได้ไม่เป็นที่สงสัย แต่ถึงกระนั้นก็หนีไม่พ้นอยู่ดี

“งานที่เอ็งบอกว่าเพื่อนชวนไปทำ มันได้เงินเยอะขนาดนั้นเลยรึ”

“ทำงานเสิร์ฟที่ร้านเหล้าในเมืองจ้ะยาย ได้ค่าจ้างวันละพัน ไม่รวมทิป” หญิงสาวจำเป็นต้องโกหกเรื่องค่าจ้าง เพื่อไม่ให้ยายสงสัยเรื่องที่มาของเงิน

“ถ้าไม่ใช่งานที่ต้องเปลืองเนื้อเปลืองตัวก็ดีไป” หญิงวัยชราเอ่ยราวกับพูดลอย ๆ แล้วก้มหน้ากินโจ๊กต่อ ทว่าคนได้ยินกลับรู้สึกเสียวสันหลังวาบด้วยมีชนักติดหลัง

จากนั้นก็ไม่พูดอะไรต่อ เพราะจารวีเดินออกมาพอดี สาวน้อยหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายเตรียมตัวไปโรงเรียน สิ่งที่เด็กสาวทำเป็นประจำก่อนออกจากบ้านคือการเดินเข้าไปกอดและหอมแก้มผู้เป็นยายที่เลี้ยงมาตั้งแต่แบเบาะ

“กิ๊ฟต์ไปโรงเรียนก่อนนะยาย”

“เอ้อ ไปเถอะ ไปดีมาดีล่ะ”

“ไปก่อนนะพี่รัก”

จรัสรักยืนยิ้มโบกมือส่งน้องสาวอยู่ประตูหน้าบ้าน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี จารวีก็ยังเป็นน้องสาวที่ร่าเริงและสดใสในสายตาเธอเสมอ น้องเธอเป็นเด็กดี แบ่งเบางานบ้านได้ทุกอย่าง เลิกเรียนก็ไม่เคยไปเที่ยวเถลไถลที่ไหน ผลการเรียนอยู่ในระดับดีเยี่ยม

จารวีย์คือตัวแทนของเธอในด้านการศึกษา หกปีก่อนจรัสรักพลาดโอกาสเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรีเพราะปัญหาด้านการเงิน เธอจึงต้องหยุดเรียนและออกมาหางานทำด้วยวุฒิมอหก เพื่อให้น้องได้เรียนต่อ ซึ่งน้องก็ไม่เคยทำให้เธอผิดหวัง

หญิงสาวจึงตั้งใจเอาไว้ว่า นอกจากหาเงินใช้หนี้ เธอจะทำทุกวิถีทาง เพื่อผลักดันให้จารวีได้ทำตามความฝันของตัวเอง

จรัสรักคิดเสมอว่าความสำเร็จของน้องก็เท่ากับความสำเร็จของเธอ

この本を無料で読み続ける
コードをスキャンしてアプリをダウンロード

最新チャプター

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   ตอนพิเศษ 3

    ตอนพิเศษ 3“เกรซซี่!”เจ้าของชื่อซึ่งกำลังนอนคว่ำกระดิกปลายเท้าระบายสีอยู่กลางห้องนั่งเล่นชั้นล่าง เงยหน้าขึ้นไปมองน้าสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในบ้าน ในมือมีกระดาษอะไรสักอย่างติดมาด้วยฟังจากน้ำเสียงที่เรียกเมื่อกี้เกรซซี่รู้สึกเสียวสันหลังแปลก ๆ เพราะปกติเวลาน้ากิ๊ฟต์กลับบ้าน น้ากิ๊ฟต์จะเรียกหาเกรซซี่ด้วยเสียงที่นุ่มนวลหรือไม่ก็ร่าเริงกว่านี้ แต่วันนี้แค่เรียกเสียงเข้มไม่พอ ยังทำสีหน้ายุ่งใส่กันอีกเกรซซี่ไปทำอะไรของน้ากิ๊ฟต์พังหรือเปล่านะ...ก็ไม่นี่นา ไม่ได้เข้าไปในห้องของน้ากิ๊ฟต์เลยด้วยซ้ำใจจริงอยากวิ่งเข้าไปรับอย่างที่เคยทำ ทว่าวันนี้เกรซซี่สังหรณ์ใจไม่ดียังไงก็ไม่รู้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังขานรับน้าสาวเสียงหวาน “...ขาน้ากิ๊ฟต์”จารวีหันหน้าไปไหว้แม่และยายของตนที่นั่งเอนกายบนตั่งไม้อีกฝั่งของบ้าน ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอย่างแรง จากนั้นก็ยื่นเอกสารรายงานผลการเรียนชั้นอนุบาลไปตรงหน้าหลานสาวสุดที่รัก “อันนี้คืออะไรเนี่ย ทำไมเป็นแบบนี้”กนกนุชขยับนั่งขัดสมาธิ มองน้ากิ๊ฟต์กับกระดาษเอสี่ที่ถูกยื่นออกมาตรงหน้าด้วยความงุนงง ก่อนจะหันไปมองผู้เป็นแม่ซึ่งเดินตามหลังน้องสาวตัวเองเข้ามาด้วยรอยยิ้ม

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2โชคดีที่จิณณ์ฝึกลูกให้นอนคนเดียวตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านหลังนี้ ช่วงแรกที่ยังไม่เปิดเทอมอาจจะมีร้องไห้โยเยบ้าง เพราะตื่นมาแล้วไม่เจอใครอยู่ในระยะสายตา แต่พอค่อย ๆ บอกค่อย ๆ สอนว่าตื่นแล้วไปหาพ่อหรือหายายกับทวดได้ที่ไหน แกก็เริ่มเรียนรู้และเข้าใจ จากนั้นมาก็ไม่มีเสียงร้องไห้ตอนเช้าอีกเลยฉะนั้นหลังเล่านิทานส่งลูกเข้านอนเสร็จ คนเป็นพ่อเป็นแม่จึงได้มีเวลาสวีตหวานในห้องส่วนตัวกันบ้าง“เรียนทำขนมวันนี้เป็นไงบ้าง” จิณณ์เอ่ยถามภรรยาที่กำลังใช้สำลีลบเครื่องสำอางซึ่งแต่งแต้มเพียงบางเบา เตรียมตัวเข้าไปอาบน้ำ ส่วนเขาก็กำลังปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองเพื่อจะเข้าไปอาบพร้อมกันจรัสรักมองเรือนร่างของสามีผ่านกระจก ใบหน้าสวยร้อนผะผ่าวพร้อมกับหัวใจที่จู่ ๆ ก็สั่นรัวขึ้นมา หญิงสาวรีบเลื่อนสายตาไปโฟกัสจุดอื่น แม้จะเคยเห็นมานับครั้งไม่ถ้วน ทว่าเธอก็ไม่เคยทำใจให้ชินได้เสียที“กะ...ก็ดีค่ะ พี่ฟางใจเย็นและสอนดีมาก” เธอตอบเสียงกะตุกกะตัก เกร็งตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อเขาเดินเข้ามายืนใกล้ ๆ จิณณ์ดึงชุดคลุมอาบน้ำช่วงไหล่ของภรรยาลง ก่อนจะประทับจูบร้อน ๆ ลงบนไหล่เปลือย จากนั้นก็พูดต่อ“คุณอยากได้สูตรไหนหรือ

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1หลังจากงานแต่งงานและทำบุญขึ้นบ้านใหม่ซึ่งถูกจัดขึ้นเป็นงานเล็ก ๆ แต่อบอุ่นเสร็จสิ้นไป จิณณ์ก็ขอให้ทุกคนย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนี้ ซึ่งก็เป็นไปตามคาด หญิงมากวัยทั้งสองคนมีอาการงอแงเล็กน้อย ด้วยไม่อยากละทิ้งบ้านของตนที่เต็มไปด้วยความทรงจำมากมายจรัสรักพยายามเกลี้ยกล่อมพร้อมทั้งอธิบายให้แม่และยายของตนเข้าใจ เธอเองก็ไม่ได้จะทิ้งบ้านหลังนั้น แต่ด้วยสภาพที่เก่าและทรุดโทรมตามกาลเวลา อีกทั้งยังมีข้าวของเก็บไว้มากมาย ซึ่งบางอย่างก็เป็นของที่ไม่ได้ใช้แล้ว หญิงสาวจึงถือโอกาสนี้เคลียร์ของและจะทำการรีโนเวตบ้านใหม่ จากนั้นจะยกให้เป็นชื่อของจารวีจิณณ์ถามน้องสาวภรรยาว่าอยากรื้อแล้วสร้างใหม่เลยหรือไม่ จะได้บ้านในแบบที่ต้องการ ทว่าจารวีปฏิเสธพร้อมบอกว่าเอาไว้ก่อน เพราะล่าสุดพี่เขยก็เพิ่งจะถอยรถมินิคูเปอร์คันละสามล้านให้เป็นของขวัญเรียนจบแบบสด ๆ ร้อน ๆ โดยให้เหตุผลว่าระบบเซฟตีมันดีมากกว่ารถอีโคคาร์ทั่วไป ยังไม่นับคอนโดมิเนียมที่กำลังเลือกดูเพื่อจะซื้อให้พักอาศัยระหว่างที่เรียนต่อเนื่องจากสองพี่น้องมีความใฝ่ฝันที่จะเป็นหมอ แต่ขาดแรงสนับสนุนจึงไม่ได้ไปต่อ ทำให้ต้องเลือกเดินในเส้นทางอ

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   บทที่ 32 รัก (ตอนจบ)

    บทที่ 32 รัก (ตอนจบ)“แต่งงานกับผมนะครับ”ในเมื่อเขาดีและทำเพื่อเธอขนาดนี้ ก็ไม่มีเหตุผลที่เธอต้องปฏิเสธ ถึงจะเป็นการขอครั้งที่สอง แต่เธอก็อดตื่นเต้นไม่ได้ จรัสรักพยักหน้า ตอบรับคำขอของเขาด้วยรอยยิ้มยินดี“ค่ะ รักจะแต่งงานกับคุณ”จบประโยคนั้นร่างบางก็สะดุ้งขึ้นเล็กน้อย เมื่อไฟที่ประดับประดาอยู่รอบ ๆ ตัวบ้านสว่างขึ้นพร้อมกันทุกดวง พร้อมกับเสียงโห่ร้องจากผู้คนมากมายดังขึ้นด้วยความยินดีใบหน้าสวยมองไปตามเสียงก็เจอกับเด็กหญิงกนกนุชในชุดสวยถือช่อดอกไม้วิ่งเข้ามาหา เลื่อนสายตาไปข้างหลังอีกก็เจอแม่และยายที่นั่งอยู่บนรถเข็น โดยมีปรานกับกฤษณ์เข็นให้ พร้อมทั้งพีรัช ภริตา จารวี และคุณหญิงพรรษา ยืนอยู่ข้าง ๆ กันทุกคนกำลังเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มจรัสรักรู้ว่าวันนี้มีนัดรับประทานอาหารร่วมกัน แต่ไม่รู้ว่าทุกคนจะมารวมตัวกันที่บ้านของเธอก่อน พวกเขามาตั้งแต่เมื่อไรกัน ทำไมเธอไม่ได้ยินเสียงรถเลย“ป้อจิน เอาให้แม่” เสียงของลูกสาวดึงสายตาเธอให้กลับมาสนใจคนตรงหน้าอีกครั้ง เด็กหญิงกนกนุชยื่นช่อดอกทานตะวันให้คุณพ่อตามที่พ่อปรานบอก“ขอบคุณครับ” จิณณ์รับดอกไม้มาถือ ก่อนจะคว้าตัวลูกสาวเข้ามากอดและกดจมูกหอมแก้มแ

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   บทที่ 32 รัก

    บทที่ 32 รัก (ตอนจบ)หลังจากหมูกระทะมื้อค่ำสิ้นสุดลง ทุกคนก็ช่วยกันเก็บจานไปล้างและทำความสะอาดสถานที่ จิณณ์รับหน้าที่พาเด็กหญิงกนกนุชไปอาบน้ำ เนื่องจากหนูน้อยเริ่มตาปรือเพราะใกล้ถึงเวลาเข้านอนเมื่อบรรยากาศภายในบ้านเริ่มเงียบสงบ จารวีนั่งเล่นกับหลาน พูดคุยกับแม่และยายสักพักก็เข้าห้องส่วนตัวของตัวเอง ส่วนอ้อมใจก็จัดที่นอนเตรียมพักผ่อน หน้าที่พยาบาลพิเศษในบ้านหลังนี้ไม่ได้หนัก และคนป่วยก็ไม่ได้จู้จี้จุกจิก พอทำหน้าที่หลักเสร็จก็สามารถนอนพักผ่อนได้ แต่ข้อเสียคือไม่มีห้องนอนส่วนตัวให้ ต้องนอนรวมกันที่ห้องโถงจรัสรักเดินมาเช็กความเรียบร้อยที่ครัวหลังร้าน เพราะพรุ่งนี้ต้องเปิดร้านขายของตามปกติหลังจากหยุดไปทำธุระหนึ่งวัน“อุ๊ย!” ทว่ายังไม่ทันได้หยิบจับสิ่งใด ร่างบางก็ถูกสวมกอดจากคนที่เดินตามเข้ามาติด ๆ หญิงสาวยิ้มและเอ่ยถามกลั้วขำ “อะไรคะเนี่ย”“อยากกอด” จิณณ์คลายวงแขนแล้วหมุนตัวเธอให้หันกลับมาเผชิญหน้ากัน จากนั้นก็โน้มใบหน้าลงไปจูบหน้าผากเธอแผ่วเบา “เมื่อไหร่บ้านจะเสร็จ”จรัสรักหลุดขำ นึกเอ็นดูคนตัวโตที่เริ่มงอแง นับวันก็ยิ่งเหมือนลูกมากขึ้นทุกที “คงอีกนานค่ะ ยังไม่ได้ลงเสาเลย”“รู้งี้ผมให้

  • คนโปรดของหมอจิณณ์   บทที่ 31 คนพิเศษ 2

    บทที่ 31 คนพิเศษ“แม่แค่เป็นห่วงครับ ไม่ได้ดุ”“ดุ” ใบหน้าน้อย ๆ เอียงซบไหล่แกร่ง พยายามหลบสายตาแม่ แต่กระนั้นก็ยังแอบเหล่มอง“รับปากแม่ได้ไหมว่าครั้งหน้าเกรซซี่จะใส่รองเท้าก่อนออกบ้านทุกครั้ง” จรัสรักยังคงเสียงแข็งแต่ก็ยังฟังดูอ่อนโยนอยู่ในที เธอไม่ได้อยากเป็นแม่ใจร้ายหรอก แต่บางทีก็ต้องบอกต้องสอนกันบ้าง“รับปากแม่เร็ว คนเก่งของพ่อทำได้อยู่แล้ว” จิณณ์ให้กำลังใจ พร้อมเบี่ยงร่างเล็กในอ้อมแขนให้หันไปหาคนเป็นแม่“ต่อไปนี้เกรซซี่จะใส่รองเท้าก่อนทุกครั้งค่ะ” หนูน้อยยอมพูดแต่โดยดี ซึ่งผู้เป็นแม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรอีก ส่งยิ้มให้พร้อมยกมือขึ้นมาลูบศีรษะอย่างชื่นชม“เก่งมากค่ะ”กลายเป็นคุณพ่อที่ทวนความจำให้ลูกแทน “จำได้ไหมครับ ที่คุณแม่บอกว่าถ้าไม่ใส่รองเท้าจะเกิดอะไรขึ้น”“จะเหยียบปะตู เลือดไหล ต้องไปหาหมอ แล้วก็ร้องไห้แง ๆ” จิณณ์ไม่แก้ไขที่ลูกพูดผิด รู้ดีว่าความเข้าใจของแกก็คือตะปูนั่นแหละ“ใช่แล้ว เพราะฉะนั้นต่อไปนี้เกรซซี่ต้องใส่รองเท้าทุกครั้งนะ โอเคไหม”“โอเคค่า” เมื่อเคลียร์กันลงตัว หนูน้อยก็กลับมายิ้มแย้มแจ่มใส“หาแม่ไหม พ่อจะขนของลงรถ” ชายหนุ่มบอกพร้อมส่งลูกให้คนเป็นแม่อุ้ม ซึ่งมือเล็ก ๆ

続きを読む
無料で面白い小説を探して読んでみましょう
GoodNovel アプリで人気小説に無料で!お好きな本をダウンロードして、いつでもどこでも読みましょう!
アプリで無料で本を読む
コードをスキャンしてアプリで読む
DMCA.com Protection Status