Masuk
[พาร์ท : เพชฌฆาต]
หวัดดี
ผมชื่อ ‘เพชฌฆาต’ เป็นผู้ชายยังโสดในวัย 22 ปี
อายุยังน้อย แต่ร้อยประสบการณ์ ผมเป็นเด็กหัวเกรียนเรียน กศน. เพราะไม่มีใครส่งเสียเรียนในช่วงวัยรุ่น ชีวิตผมแม่งอาภัพ พ่อตั้งชื่อว่าไอ้เพชฌฆาตเพราะพอมีผมเลยทำให้พ่อกับแม่ต้องหย่าร้างกัน ด้วยเหตุผลไร้สาระก็คือผมเป็นลูกที่ได้มาจากอสุจิของผู้ชายคนอื่นที่แม่นอกใจพ่อไปนอนด้วยตอนที่ยังคบกัน
ส่วนแม่น่ะเหรอ ก็เลี้ยงผมมาแบบขอไปที เหมือนไข่ทิ้งไว้ให้ฟักมาเป็นตัวเฉยๆ มีหน้าที่ทำให้เกิดแต่ไม่มีหน้าที่ทำให้โตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ
เออ ผมแม่งเป็นเด็กมีปัญหาของแท้เลย
ชีวิตผมเติบโตมากับปู่ จนปู่ตายผมก็ออกมาใช้ชีวิตคนเดียว หางานทำ แล้วก็เข้าสู่ด้านมืดของชีวิตวัยรุ่นอย่างเต็มรูปแบบ
ผมสักยันต์เต็มตัวเหมือนพวกขี้ยา โกนหัวเกรียนเพราะเคยโดนขวดปากฉลามฟาดหัวแตกจนต้องผ่าตัด เส้นผมตรงที่ผ่าตัดเลยไม่ค่อยขึ้นเหมือนชาวบ้าน เลยตัดใจโกนทิ้งทั้งหัวแม่งซะเลย จะได้ขึ้นเท่าๆ กัน
ผมเข้าเรียนต่อ กศน. ด้วยความใฝ่อยากเรียน อีกอย่างก็เพราะว่าไม่อยากนอนโง่ๆ อยู่บ้านคนเดียวโดยไม่มีความรู้ ในเมื่อผมไม่มีเงิน ผมก็จะหาทางเรียนด้วยวิธีของผมเอง
จนตกถังข้าวสารมารู้จักกับเจ้าของเว็บคาสิโนออนไลน์ผิดกฎหมายคนหนึ่ง เป็นเสี่ยเงินหนาหน้าตาดี โกงทริคลูกค้าจนทำเงินทำทองมากมาย โชคดีที่เขาเอ็นดูผมมาก (เพราะเป็นตัวต่อยตัวตีให้เขาเวลามีเรื่องกับลูกหนี้) เลยแชร์เงินให้ผมมาจำนวนหนึ่ง
พอผมเริ่มมีเงินจากธุรกิจสีเทา ผมก็เริ่มตั้งใจเรียนตั้งใจทำงานจนอายุ 22 ปีเต็ม ผมได้เข้าเรียนที่มหาลัยรามคำแหงที่ว่าสามารถต่อได้โดยไม่ต้องใช้วุฒิให้ยุ่งยาก มีแบบพรีดีกรี จบ ม.3 มาก็เรียนได้
ผมเข้าเรียนในคณะวิศวกรรมคอมฯ เพราะผมสนใจเรื่องเทคโนโลยีเป็นพิเศษ
ใช่ ผมแม่งเป็นเด็กมีไหวพริบ แต่เสียเรื่องหัวร้อนง่าย หน้าโฉด ตัวใหญ่ ชอบมีเรื่องไปทั่วจนเกือบถูกเด้งออกจากมหาลัยหลายรอบ ส่วนมากไม่มีกับอาจารย์ก็นักศึกษาด้วยกัน เลือดงี้โชกติดมือทุกวัน เพราะพอพวกมันรู้ว่าผมเป็นเด็กใหม่ ไอ้เวรที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าพวกนี้ก็นึกอยากลองของ ไม่ว่าจะตามท้องถนน หรือภายในมหาลัยเปิดฟรี
น่าเสียดายที่ตัวผมมันดันเป็นมวยซะด้วย
ถ้าไม่สภาพร่อแร่ปางตายกลับมาเพราะมันอาจเล่นใหญ่กับผมมาก ก็โดนตบหน้าจนฟันแตก
ผมที่ขึ้นชื่อเรื่องทะเลาะวิวาทที่หนึ่งในมหาลัย ผู้หญิงกลัว ผู้ชายไม่กล้าเข้าใกล้ ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกเหงาอย่างน่าประหลาด
ขนาดในเวลานี้ที่นั่งดูดบุหรี่ตรงที่ห้ามสูบบุหรี่แถวๆ สนามกรีฑา แม่งยังไม่มีหมาสักตัววิ่งเข้ามาตบกบาลแล้วบอกให้แหกตาดูป้ายห้ามสูบบุหรี่ที่อยู่บนหัวเลย
เซ็งจริงๆ เพราะสันดานเป็นงี้เลยไม่มีแฟนสักที
“แม่ง” ผมทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ม้าหินอ่อนอย่างแรงก่อนที่จะฟุบหน้าลงกลางระหว่างขาตัวเองอย่างเซ็งๆ จ้องมือหนาที่ใหญ่เหมือนใบพัดที่พอคีบบุหรี่ มวนบุหรี่มันดูเหมือนหนอนตัวเล็กๆ ในมือไปเลย
มือนี้ใช่มั้ย ที่ตบหน้าคนจนฟันกรามหลุดออกมาทีเดียวสี่ซี่ ทั้งซีกบนซีกล่าง จำได้ว่าเจ้าตัวที่โดนผมตบฟันหลุดถึงกับลาออกจากโรงเรียนเลย
ยิ่งพอเข้ามหาลัยก็เจอเรื่องไม่จบไม่สิ้น ยิ่งทุกคนรู้ข่าวว่าผมเป็นเด็กในสังกัดของเสี่ยคาสิโนออนไลน์ตัวท็อปอันดับสาม ก็ยิ่งกลัวหัวหดเข้าไปใหญ่
มังกรผงาดที่หว่างขาของผมมันไม่เคยได้ใช้งานมา 22 ปีเต็มแล้ว จะมีก็แค่มือใหญ่ๆ ของตัวเองนี่แหละว่ะ ที่คอยชักว่าวเสพสมความปรารถนาของชายวัยกลัดมันอย่างน่าอนาถใจ
ชีวิตแม่งเฮงซวยจริงๆ ผมคิดในใจพร้อมกับเงยหน้าขึ้นพ่นควันขาวคลุ้งขึ้นรดฟ้า
กูอยากมีแฟนกับเขาบ้างจังเลยวะ ไอ้เหี้ย
ตึก ตึก
“แฮ่ก... เปิ้น! อ้ายซื้อมาหื่อแล้วเน้อ”
ผมชะงักไป ก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นไปมองผู้หญิงตรงหน้าที่วิ่งดุ้กดิ้กตรงเข้ามาหาลักษณะเหมือนหมากระเป๋า เธอกำกาแฟกระป๋องในมือเอาไว้แน่น ในขณะที่ลดตัวลงกุมเข่าตัวเองหอบแฮ่กอย่างเหนื่อยอ่อน หลังที่ถูกใช้งานตามประสารุ่นใหญ่ให้ไปซื้อกาแฟมาให้หน่อย เพราะเมื่อเช้าไม่ได้กินอะไรแก้ง่วง ก็เล่นนอนเช้าเพราะกินเหล้าจัดนี่หว่า
ผมเผลอจ้องลงไปที่ปกเสื้อที่เปิดกว้าง มันถูกร่นลงมาจนเห็นเนินอกอวบเกินอายุของเด็กสาววัยละอ่อน ต้องรีบลอบกลืนน้ำลายลงคอเอื้อกใหญ่
ชิบหาย ลืมไปเลยว่ากำลังเลี้ยงดูยัยเด็กคนนี้อยู่
“ขอบใจ” ผมเต๊ะท่าสูบบุหรี่กลบเกลื่อนความเขินของชายฉกรรจ์ยังซิงวัย 22 ปี ที่เห็นร่องอกชิดกันนั่นเป็นรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็ไม่รู้ ยัยเด็กเวรนี่แม่งก้มต่ำไม่เคยระวังตัวเลยจริงๆ “แต่ไม่ชอบเนสกาแฟ อยากได้เบอร์ดี้ สมองมึงมันช้านักเหรอไง”
“กะ... ก็เปิ้นอู้แค่ว่าไค่อยากกาแฟกระป๋อง อ้ายจะไปฮู้ได้จะใดล่ะเจ้า!”
“กูชื่อเพชร ไม่ได้ชื่อเปิ้น”
“อ้ายก็เอิ้นหาตั๋วว่าเปิ้นนั่นน๊ะเจ้า อ้ายบ่าชอบเรียกชื่อพี่เพชร”
“มึงไม่ได้นับถือกูเป็นพี่ว่างั้นเถอะ”
“โง้ย! เปิ้นนี่เซ้าซี้จัง อ้ายถือกาแฟกระป๋องจนเมื่อยแล้วเน้อ เอาไปเลย” ยัยเด็กน่ารำคาญพูดพร้อมกับกระแทกกาแฟลงตรงหน้าของผมที่ดูดบุหรี่พ่นควันปุ๋ยๆ อย่างไม่ทุกข์ร้อน นี่ขนาดพูดกูมึงใส่มันตลอดนะ แม่งยังไม่กลัวผมเลย
พิลึกคนจริงๆ
แนะนำให้เอาบุญ ทั้งที่ไม่ได้อยากจะแนะนำสักเท่าไหร่ ยัยเด็กตัวเล็กท่าทางเหมือนหมากระเป๋านี่ชื่อ ‘เอิ้นอ้าย’ ชื่อเป็นภาษาอีสานแต่เสือกมีบ้านเกิดอยู่ที่เชียงใหม่ มันเคยเป็นเพื่อนสมัยเด็กของผม คือเป็นเพื่อนสมัยเด็กที่เด็กกว่าหลายปี พอเข้าใจฟิลปะ
ตอนนั้นผมยังอยู่กับแม่ ในความทรงจำลางๆ คือไอ้เด็กเอิ้นอ้ายนี่แม่งโคตรขี้แย ทำไรนิดหน่อยก็ร้อง แหย่ก็ร้อง โดนดุก็ร้อง ร้องแม่งทั้งวัน แถมยังขี้มูกย้อยเปรอะหน้าอย่างน่าขยะแขยง
จนผมอายุสิบปี แม่ก็ผลักไสไล่ส่งผมให้ไปอยู่กับปู่ ก็นะ ปู่ส่งเรียนต่อจนจบ ม.3 ช่วงนึง แล้วพวกเราทั้งสองคนต่างก็หลุดวงโคจรไปจากกัน ยัยเด็กเอิ้นอายโดนย้ายไปอยู่กับพ่อที่เชียงใหม่ ส่วนผมตกระกำลำบากเป็นเด็กวัดข้างคลองที่กรุงเทพมหานคร
ไม่น่าเชื่อว่าพอผมอายุ 22 ปี พ่อของเธอก็กลับมาติดต่อว่าเอิ้นอ้ายจะย้ายมาเข้ารามคำแหงเพราะลูกเขาแม่งโง่ดักดาน เป็นเด็กหัวช้าที่ไม่มีทักษะ สอบตกจนคนเป็นพ่อยังเอือมระอา ยังดีที่ผมใช้เฟสเดิมสมัยพระเจ้าเหาและยังมีเพื่อนกับตาลุงนั่นในเฟสอยู่ ก็เลยต้องกลายมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กเอ๋อจำเป็นในวันนี้
เอิ้นอ้ายเข้ามาเรียนแบบต่อป.ตรี เข้าเรียนเอกมนุษย์ภาษาอังกฤษ ที่พอผมได้ยินครั้งแรกก็แค่นหัวเราะแบบเหยียดหยันออกมา ยัยเด็กเหนือที่พูดเป็นแต่ภาษาเหนือแบบงูๆ ปลาๆ สะเหล่ออยากจะพูดทั้งๆ ที่ไม่ได้อยู่เหนือตั้งแต่เล็ก แถมเสือกยังเอามาใช้พูดกับคนในชีวิตประจำวัน ไหนจะเกรดภาษาอังกฤษที่ลุงนั่นส่งมาให้ผมดูยังโคตรต่ำเตี้ยเรี่ยดินชนิดไม่ได้ผุดได้เกิดอีก
โง่แบบจัดเต็ม โง่ได้ใจเลยจริงๆ
แต่แวบแรกที่เห็นก็ตกใจเหมือนกัน แบบเข้าขั้นช็อค เพราะยัยเด็กผีเอิ้นอ้ายในอดีตที่พูดคำไหนไม่เป็นนอกจากร้องไห้งอแงขี้มูกโป่ง หน้าตาเปรอะเปื้อนขี้มูกแบบบ้านๆ กลับโตขึ้นมาแบบมีคุณภาพสัสๆ สวยสะพรั่งสดใส ผิวขาวอมชมพู หน้าตาจิ้มลิ้มแบบเน็ตไอดอลยังอาย
คือเอาง่ายๆ จัดว่าน่ารักมาก โคตรน่ารัก เหมือนตุ๊กตาเดินได้
แต่ความหัวช้าของมันยกให้เป็นที่หนึ่ง และกูก็ไม่ได้ชอบอะไรมากมาย ไม่ชอบผู้หญิงเอ๋อ
เสียอย่างเดียว นมมันใหญ่มาก ตูดก็ใหญ่ พอก้มๆ เงยๆ ทีเห็นไปถึงร่องนมเลย
แล้วคนที่ต้องเห็นภาพพวกนั้นทุกวันก็คือกูนี่ไง ไอ้เหี้ยเอ้ย เพราะมันดันต้องย้ายเข้ามาอยู่กับผมอาทิตย์หน้านี้แล้ว หลังจากที่ไอ้เอ๋อไปอยู่กับบ้านป้ามันแล้วเขาก็ขับไล่ไสส่งออกมาเพราะทำอะไรไม่เป็นเลยนอกจากนอนเล่นเกมโทรศัพท์
“ทำไมเปิ้นต้องสูบไอ้นี่ด้วย?” ใช่ แล้วก็มีมันคนเดียวนี่แหละที่ไม่เคยกลัวผม แม้ว่าผมจะตัวใหญ่เท่าหมีควาย กล้ามแน่นบึ้กแบบต่อยหัวคนคอขาดได้ในหมัดเดียว กับรอยสักเต็มทั้งตัว รวมทั้งสักน้ำมัดผงาดของ
“ทำไม” ผมเลิกคิ้วถามมันเสียงนิ่ง
“อ้ายเหม็น จะอ้วก” แล้วดูแม่งแสดงออกกับผมดิ ไอ้เด็กเอ๋อเอ้ย
“กูถามคำนึงนะ”
“อื้ม”
“มึงไม่กลัวกูเหรอไอ้อ้าย?” ท้ายประโยคผมขยี้มวนบุหรี่กับโต๊ะม้าหินอ่อน เพราะทุกคนต่างก็กลัวผมกันทั้งนั้น มองเห็นผมเหมือนสัตว์ประหลาดที่มีชีวิต แต่มันกลับพูดคุยกับผมเหมือนเป็นเรื่องปกติ
ยัยตัวเล็กที่ขนาดทรวดทรงองค์เอวไม่ใช่เล่นๆ ค่อยๆ ล้มตัวจุ้มปุกนั่งลงข้างๆ ผมจนต้องเขยิบหนีเพราะหน้าอกเธอมันเบียด พร้อมกับหันดวงตากลมโตนั่นมองผมตาปริบๆ จนผมต้องด่ากลบเกลื่อน
“มองไรไอ้เอ๋อ?”
“เปิ้นบ่าเห็นน่ากลัวเลยเจ้า” แล้วดูคำตอบของเธอ มันทำผมแอบใจสั่นไปหน่อยๆ เพราะแววตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนเหมือนกับลูกแก้วนั่น ไม่เคยมีผู้หญิงหน้าตาน่ารักมาพูดแบบนี้ในระยะใกล้มาก่อน “แต่เปิ้นตัวเหม็น เปิ้นฮักเปิ้นชอบที่จะสูบไอ้นั่น อ้ายบ่าชอบ”
“อืม”
“ถ้าเปิ้นเลิกสูบยาเส้นแบบนั้น อ้ายอาจจะอยากอยู่ใกล้ๆ มากกว่านี้ก็เป๋นได้เจ้า” เธอพูดแล้วก็คลี่ยิ้มหวานแฉ่งออกมา ซึ่งไม่รู้ตัวเลยว่าคำพูดที่พูดออกมานั่นคือการยั่วยวนเพศชายแบบไม่รู้สึกตัว (คิดไปเอง)
เอาดีๆ
ใจกูแม่งเต้นกับยัยนี่นะเนี่ย
“ไม่เอาว่ะ ไม่อยากอยู่ใกล้หมาชิวาว่า”
“เปิ้น!”
“แล้วไอ้นี่มันเรียกว่าซิกาเร็ต ไม่ใช่ยาเส้น” ผมพูดด้วยความซึนในตัวเอง แล้วคว้ามวนบุหรี่มาเคาะหน้าผากของมันเบาๆ จนยัยตัวเล็กต้องหลับตาปี๋อย่างขัดใจที่ผมแม่งโคตรปากหมากับเธอ “สะกดไว้ในสมองที่มีเท่าเม็ดถั่วของมึงด้วย”
“...”
“เข้าใจนะ ไอ้เด็กโง่”
ตึกตัก ตึกตักหนูใจเต้นน้อยๆ จนรู้สึกได้นิดหน่อย หลังจากที่โดนรวบศีรษะเข้ามาซบที่หน้าอกหนาๆ ของเปิ้น เป๋นครั้งแรกที่เปิ้นกอดหนู (ที่บ่าใจ้เพราะเมาเหมือนตอนนั้น) และพอได้แนบชิดกับแผงอกที่แข็งแกร่งของเปิ้น หนูก็รู้สึกดีรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับเปิ้นมากๆ“... ขอบคุณนะเจ้า” หนูไม่ได้เก็บอาการที่ว่าอยากจะกอดเขากลับ เพราะพอคิดได้แบบนั้นหนูก็รีบโอบรอบเอวสอบที่ทั้งมือของหนูโอบบ่าได้เต็มตัวของเขาทันที หนูเห็นว่าเปิ้นสะดุ้งนิดๆ แต่ต่อมาเขาก็ลูบผมหนูกลับแปลกจัง ปกติเปิ้นจะหวงตัวจะตายนี่เน้อ แต่คราวนี้เขายอมให้หนูกอด แถมยังลูบหัวหนูด้วย“อ้ายฮักเปิ้นนะ”หนูเลยสารภาพออกไปอย่างซื่อๆ แบบนั้นอย่างซาบซึ้งใจ เพราะเขาน่ะเหมือนกับเป็นพี่ชายคนหนึ่งในชีวิตหนูที่สำคัญที่สุดเลย เขาคอยช่วยเหลือหนูตั้งแต่เด็กแล้ว แม้ว่าทุกครั้งเปิ้นจะชอบแสดงท่าทีว่าเบื่อและรำคาญหนูมากก็ตามแต่พอได้ยินหนูโพล่งคำนี้ออกมา มือเขาที่วางอยู่บนหัวหนูก็แทบจะผละออกเหมือนต้องของฮ้อนในทันทีทันใด“นี่มึงรู้ความหมายของคำที่มึงพูดออกมาปะ” เสียงเขาสั่นด้วย จนหนูที่กอดแล้วเอาหัวที่ผมยาวยุ่งเหยิงซุกซบกับอกแกร่งเขาอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมามองเ
พลั่ก!“อะ โอ้ย”ทั้งตัวของหนูถูกผลักจนกระแทกเข้ากับผนังที่เย็นชืดข้างหลัง เพื่อนๆ ของเดียร์กอดอกยืนอยู่ตรงหน้า หลังจากที่จบคลาสเรียนแล้วพวกเธอเรียกตัวหนูให้ตามมาข้างๆ ห้องน้ำหญิงที่หลังตึกคณะวิศวะ แล้วเริ่มลงมือรังแกหนูเหมือนเช่นเคย“สะเออะดีนัก แกคิดว่าแกเป็นเพื่อนเดียร์แล้วจะเผยอจองหองพูดปรามอะไรกับนางฟ้าของพวกเราได้ทุกอย่างอย่างงั้นเหรอ”“อะ... อ้ายบ่าได้ตั้งใจ” หนูพยายามจะหยัดตัวลุกขึ้นเพราะว่าตัวเลอะไปด้วยโคลน หลังจากฝนตกเมื่อตอนเช้า สนามหญ้าแถวนี้ก็เปียกชุ่มไปหมด พอโดนผลักล้มลงไป ก็เลยเปรอะเปื้อนไปทั้งตัวเมื่อกี้ก็โดนตบไปฉาดหนึ่งด้วย สะ... แสบหน้าจัง“อย่าคิดว่าที่ตัวเองเกือบเป็นดาวคณะแซงเดียร์แล้วจะยโสโอหังยังไงก็ได้ แกก็เป็นแค่เพื่อนในห่วงโซ่อาหารชั้นที่ต่ำที่สุดของเดียร์ รู้เอาไว้ซะด้วย!”“... อ้ายฮู้แล้วเจ้า”“แล้วเวลาเดียร์จะทำอะไร ไม่ต้องสะเหล่อมาขัดขาเดียร์ นี่คือคำเตือน!”“...”“อีเด็กทรงโต น่ารังเกียจจริงๆ ทั้งโง่ทั้งอวดดี ถุย!” หนูหลับตาปี๋เมื่อหนึ่งในพวกเธอพ่นน้ำลายใส่จนกระเด็นมาโดนกระโปรงพลีทของตัวเองเล็กน้อย น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาเมื่อพวกเธอสะบัดหน้าเดินจากไปต้องบ่าร
[พาร์ท : เพชฌฆาต]แสงแดดมันจ้าเข้าตาตอนที่กำลังจะตื่น จนผมต้องปรือตาขึ้นมาพร้อมๆ กับความปวดจี๊ดที่สมองจากอาการเมาค้าง ค่อยๆ ผุดลุกขึ้นมา แล้วก็พบว่าตัวเองนอนปวดเอวอยู่ที่พื้น เงยหน้ามองบนโซฟาหนังก็เห็นว่ามีผ้าห่มผืนนึงกองอยู่คงจะมีคนเดียวแหละว่ะที่เอามาให้ ถ้าเป็นกุมารที่เลี้ยงไว้ ก็ทำได้แค่เปิดปิดไฟสร้างอภินิหารอย่างเดียว กับพูดคุยด้วยเวลามันเหงาเออ ฟังไม่ผิดหรอก ผมเลี้ยงกุมารทองอย่างที่บอกว่าไม่เชื่อเรื่องบาปบุญอะไรนั่น แต่ถ้าของขลังหรือพวกไสยศาสตร์กับภูตผีปีศาจหรือพรายนี่โคตรจะเชื่อ ผมเลยสักยันต์เสือคู่ไว้ที่กลางหลังไง ว่ากันว่าคนสักยันต์นี้ จะมีฤทธิ์แคล้วคลาดจากศัตรู ใครๆ เห็นก็ยำเกรง เลยไม่แปลกที่จะมีแต่คนเห็นผมเป็นสัตว์ประหลาด ที่เกือบทำคนตายได้ด้วยหมัดๆ เดียวแล้วก็ไม่แปลกที่จะถือว่าหัวเป็นของสูงด้วยแกรกผมเดินเซไปที่หน้าประตูห้องตัวเองที่ล็อกไว้จากด้านใน ล้วงกุญแจในกระเป๋ากางเกง แล้วไขประตูเข้าไปภายใน ห้องของผมนั้นมีหิ้งบูชาของขลังที่ดูน่ากลัว อธิบายไปก็ไม่น่าจะเข้าใจ แต่จะเป็นการบูชาภูตผีปีศาจ รวมถึงกุมารทอง และของขลังต่างๆ เอาไว้ช่วยให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวงมากกว่
หนูนอนตีขาเล่นเกมคุ้กกี้รันอยู่บนเตียงที่ปูเองเป็นครั้งแรกปกติจะให้แม่บ้านปูให้ตลอดเน้อ อีกอย่างตอนที่ปูก็เอาแต่เล่นเกมไปด้วย เพราะถ้าผละมือออกมาเมื่อไหร่เกมจะโอเวอร์ทันที ก็เลยปูได้แบบครึ่งๆ กลางๆ สักพักก็ขี้เกียจแล้ว เลยล้มตัวลงนอนเล่นเกมต่อไม่ยอมหยุดจนตกดึกหนูบ่าได้สนใจว่าเปิ้นหายออกไปไหน เพราะทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาหลังจากยืนซักกางเกงในกับชุดบนอ่างล้างหน้าแล้วตากมันไว้ในห้องน้ำ เปิ้นก็อันตรธานหายไปแล้วเปิ้นบ่าอยู่ก็ดีแหละ เจอเรื่องตอนนั้นไป... หนูก็บ่ารู้ว่าจะสู้หน้าเขาจะใดดีเหมือนกันไม่ได้อายที่เขาเห็นนมหนูหรอก ยังไงก็พี่น้องกันแต่ไอ้งูพิษของเปิ้นนี่สิทำยังไงก็สลัดออกจากหัวบ่าได้สักทีพอนึกถึงภาพๆ นั้น หนูก็หน้าร้อนขึ้นมาในขณะที่ยังกดเกมอย่างขมักเขม้น นึกถึงร่างกายที่ใหญ่โตของเปิ้น กล้ามแขนที่มีเส้นเลือดสวยๆ กับตรงลำท่อนที่ใหญ่ยาวแถมยังมีเส้นเลือดผุดประปรายอีกโอ้ยๆๆๆ บ้าจริงๆ เล่นเกมบ่าฮู้เรื่องแล้วเน้อหนูบ่นกระปอดกระแปดในใจแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยากหรือจะกึ้ดผิดกันนะที่เลือกมาอยู่กับเปิ้น?ติ๊ง ต่องหนูสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเ
“เชี่ย มึงใจเย็นก่อนดิ!”ไอ้แมนที่รับหมัดทุกหมัดเข้ากับเป้าชกที่มันตั้งศอกไว้ถึงกับเซแล้วผงะถอยหลังไป เพราะเมื่อทันทีที่ผมมาถึงร้านอาเจ๊กแล้วขึ้นเวทีมวยกับมันอย่างที่ฝึกกันเป็นประจำ ผมก็ทั้งฮุกหมัดซ้ายหมัดขวาใส่เป้าชกจนทอมที่ขึ้นชื่อว่าพละกำลังเกินหญิง เป็นกอริลล่าในร่างผู้หญิงเพราะกล้ามบึกบึนของมันต้องเซไปอีกทางและพอมันเปิดช่องให้แบบนั้น ผมเลยพุ่งตัวใหญ่ๆ เข้ามาแล้วจะซัดเข้าหน้ามันแบบจังๆ โดยที่ไม่สนว่าแม่งจะไม่ได้ใส่อะไรกันหน้าไว้หรือไม่“ไอ้เหี้ยเพชร ใจเย็นๆ!!”พลั่ก!!“อั่ก!”จนสุดท้าย เมื่อเพื่อนเห็นว่าวิธีชกดีๆ คงจะคุมคนที่สติแตกอย่างผมไม่อยู่ มันเลยใช้ตีนถีบอัดที่กลางเป้าของผมซึ่งเป็นจุดตายสำหรับผู้ชายทุกคน จนผมต้องหยุดทุกการกระทำทุกอย่างลงแล้วล้มลงไปนอนกุมเป้ากับพื้นอย่างเจ็บปวดไอ้เหี้ยแมนเอาส้นตีนมาขยี้หัวที่ตัดสกินเฮดของผมแล้วบี้ไปมา“มึงเป็นห่าไร มึงคิดจะชกกูเหรอไอ้เหี้ยเพชร มึงจะฆ่าตัดตอนเพื่อนที่เลี้ยงดูมึงตลอดมาเหรอวะ”“... อีกอริลล่าเอ้ย” ผมสบถด่ามันออกมาอย่างเจ็บใจ มันเลยพ่นลมหายใจ ถอดเป้าชกส่งให้ไอ้เจนที่ยืนเกาะเชือกเวทีอยู่รับไว้เหยียบหัวแบบนี้กูถือนะ วันจันทร์ไปข
“อืม... ไอ้เด็กเวรเอ้ย”ตึกตัก ตึกตักหนูใจเต้นแรงพร้อมๆ กับค่อยๆ ไถลตัวลงไปนั่งยองๆ กับพื้นห้องจากหลังประตู มือเล็กๆ ที่เอามาปิดปากตัวเองไว้สั่นเทาอย่างตื่นเต้น แม้ว่าจะแง้มประตูไป แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้น แล้วก็เหมือนว่าเปิ้นจะบ่าสังเกตเห็นด้วยว่าหนูกำลังแอบมองเขาทุกอิริยาบถอยู่ เขาเริ่มทำ... อะไรบางอย่างหนูเห็นแวบๆ ว่าเขากำลังละเลงข้อมือกับบางสิ่งบางอย่างที่ผงาดขึ้นมาระหว่างต้นขาของเขา มันเป็นลำท่อนใหญ่ เป็นปล้องเหมือนหนอนยักษ์ที่กำลังจะพ่นพิษร้าย และมีเส้นเลือดผุดขึ้นบ้างประปรายหนูหายใจบ่าทั่วท้องเลยล่ะเจ้า รู้สึกเขินแบบไม่มีสาเหตุจนต้องหลับตาปี๋“แฮ่ก...”แต่เสียงหอบหายใจและครางครวญของเปิ้นก็ยังคงลอดเข้ามาในกกหูเสียงของเปิ้นดูเร้าใจจังเน้อ แหบต่ำแถมยังดูเซ็กซี่สุดๆ อีกด้วย หนูฟังแล้วเขินจังเลยแถมไอ้นั่นที่ตั้งชูชันขึ้นมา ถึงจะได้เห็นแค่แวบเดียว แต่กลับทำให้ตรงกลางระหว่างขาของหนูมีน้ำอะไรสักอย่างปริ่มออกมามากขึ้นตึกตัก ตึกตักหัวใจหนูเต้นเร็วมากกว่าเดิม ทำไมรู้สึกอยากเอามือไปแตะมันจังเลยก๋าคิดแล้วก็ค่อยๆ เอาปลายนิ้วเล็กๆ ของตัวเองสัมผัสเบาๆ ที่กลางร่องกลีบที่ฉ่ำชื้น“อะ...!”







