Masukหนูนอนตีขาเล่นเกมคุ้กกี้รันอยู่บนเตียงที่ปูเองเป็นครั้งแรก
ปกติจะให้แม่บ้านปูให้ตลอดเน้อ อีกอย่างตอนที่ปูก็เอาแต่เล่นเกมไปด้วย เพราะถ้าผละมือออกมาเมื่อไหร่เกมจะโอเวอร์ทันที ก็เลยปูได้แบบครึ่งๆ กลางๆ สักพักก็ขี้เกียจแล้ว เลยล้มตัวลงนอนเล่นเกมต่อไม่ยอมหยุดจนตกดึก
หนูบ่าได้สนใจว่าเปิ้นหายออกไปไหน เพราะทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาหลังจากยืนซักกางเกงในกับชุดบนอ่างล้างหน้าแล้วตากมันไว้ในห้องน้ำ เปิ้นก็อันตรธานหายไปแล้ว
เปิ้นบ่าอยู่ก็ดีแหละ เจอเรื่องตอนนั้นไป... หนูก็บ่ารู้ว่าจะสู้หน้าเขาจะใดดีเหมือนกัน
ไม่ได้อายที่เขาเห็นนมหนูหรอก ยังไงก็พี่น้องกัน
แต่ไอ้งูพิษของเปิ้นนี่สิ
ทำยังไงก็สลัดออกจากหัวบ่าได้สักที
พอนึกถึงภาพๆ นั้น หนูก็หน้าร้อนขึ้นมาในขณะที่ยังกดเกมอย่างขมักเขม้น นึกถึงร่างกายที่ใหญ่โตของเปิ้น กล้ามแขนที่มีเส้นเลือดสวยๆ กับตรงลำท่อนที่ใหญ่ยาวแถมยังมีเส้นเลือดผุดประปรายอีก
โอ้ยๆๆๆ บ้าจริงๆ เล่นเกมบ่าฮู้เรื่องแล้วเน้อ
หนูบ่นกระปอดกระแปดในใจแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยาก
หรือจะกึ้ดผิดกันนะที่เลือกมาอยู่กับเปิ้น?
ติ๊ง ต่อง
หนูสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเสียงกริ่งหน้าประตูที่ดังขึ้นในเวลาสองทุ่มครึ่ง เงยหน้ามองนาฬิกา ก่อนที่จะเดินอย่างระแวดระวังไปที่หน้าประตู แล้วส่องตาแมวดูอย่างระมัดระวัง
แล้วก็เห็นหัวโล้นๆ ของใครสักคน อ้ะ รอยสักที่หัวจะอี้... เปิ้นนี่เจ้า
“... อึก” หนูกลืนน้ำลายลงคอ เพราะเรื่องเมื่อกลางวันยังคงผุดขึ้นมาในหัว แต่สุดท้ายก็ยอมกลั้นหายใจเปิดประตูออกมาให้เขา “อะ...!”
แต่ทันทีที่เปิดประตูออกไป ร่างใหญ่ๆ ของเปิ้นที่ยืนเอาหน้าพิงประตูอยู่ก็โถมลงมาหาหนูทั้งตัวจนแทบจะล้มลง แต่สุดท้ายก็ใช้แรงทุกเฮือกที่มียกเขาขึ้นมาในท่ากอดก่าย ท่ามกลางสายตาของผู้ชายหน้าสวยคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหน้าห้อง
หนูหน้าซีด ในขณะที่เขาจะเบิกตาโต ซักกำหนึ่งเท่านั้น ก่อนที่ต่อมาเขาจะกระตุกยิ้มออกมา
“งี้นี่เอง” เขาพึมพำ หนูเอาแต่ยืนเอ๋ออย่างบ่าเข้าใจ เพราะนอกจากเขาจะบ่าเข้ามาช่วยแล้ว ร่างสูงก็คลี่ยิ้มหวานใส่อย่างไม่ทุกข์ร้อนอีกต่างหาก “ไอ้เพชรมันเมาน่ะ ฝากดูแลมันต่อด้วยนะคะ”
“จะ... เจ้า” หนูพยักหน้าหงึกหงักตอบกลับไปอย่างงงๆ แล้วเขาก็ยิ้มให้อีก แถมยังถือวิสาสะปิดประตูใส่หน้าหนู ทิ้งเปิ้นที่ทั้งตัวมีแต่กลิ่นเหล้ากับหนูไว้สองคน
ดะ... เดี๋ยว
แล้วจะอี้หนูจะแบกร่างยักษ์ของเปิ้นด้วยตัวคนเดียวไหวได้จะใดเล่า!!
“โอ้ย ตัวเหม็นชะมัดเลยก๋า”
หนูบ่นกระปอดกระแปดตอนที่พยุงร่างของคนตัวโตเท่ายักษ์อย่างยากลำบากไปที่โซฟาหนังที่อยู่ใกล้ที่สุด เพราะเกรงว่าถ้าพาไปในห้องนอน กว่าจะเปิดประตูกว่าจะอะไร หนูแบกไปบ่าไหวพอดี
ตุบ
ร่างของเปิ้นถูกวางลงบนโซฟาอย่างไม่ถนอมมือ นั่นเพราะเขาทั้งตัวหนักแถมตัวเหม็นกลิ่นเหล้าจนหนูทนไม่ไหวต้องรีบสลัดๆ ออกไปให้พ้นตัว พอวางเขาลงที่โซฟาได้ หนูก็เอามือมาปิดจมูกในขณะที่ถอนหายใจดังพรืด
ปกติเขากิ๋นบ่อยๆ จะอี้รึเปล่า ทั้งสูบยาเส้นทั้งอยากเหล้า ทั้งสองอย่างนั้นน่ะมันไม่ดีต่อร่างกายเน้อ จะเป็นโรคหนักใกล้ตายตอนแก่ด้วย เพราะมันจะทำลายอวัยวะภายในไปเรื่อยๆ
อันนี้ป้อก็สอนมาจะอี้แหละ เพราะป้อเลิกยาเส้นเลิกเหล้าตั้งแต่หนูเกิดแล้ว
และพอกึ้ดได้เช่นนั้น หนูก็เลยนึกสงสัยขึ้นมา
แล้วถ้าเกิดเปิ้นมีลูกขึ้นมาล่ะ เปิ้นจะเลิกยาเส้นเลิกเหล้าให้ลูกเหมือนป้อเราจะอี้ก่อ?
คงบ่าได้หรอกเนอะ ก็เปิ้นน่ะทั้งนิสัยหยาบคาย ปากร้ายแถมชอบใช้กำลังอีกต่างหาก
หนูส่ายหน้าพรืด ก่อนที่จะเดินไปคว้าโทรศัพท์ในห้องนอน แล้วเดินมาเขี่ยๆ ปลายเท้าใหญ่ๆ ของเปิ้นให้ไหลลงไปข้างล่างเพื่อที่จะนั่งอยู่ตรงปลายโซฟา ไหนๆ เปิ้นก็เมามาขนาดนี้ล่ะ ตั๋วอ้ายในฐานะคนมาอาศัยบ้านเขาจะให้มานั่งเล่นเกมในห้องก็กระไรอยู่
นั่งเล่นเกมมันตรงนี้ละกันเน้อ
ปิ้วๆ ปังๆ
เพราะบ่าได้ออกไปข้างนอกเลยหลังจากที่เกิดเรื่อง ห้องข้างนอกก็เลยถูกปิดไฟมืดตึ้ดตื๋อ ที่บ่าไปเปิดเพราะขี้เกียจลุกด้วย หนูเป็นคนบ่ากลัวผี บ่าเชื่อเรื่องผี ก็เลยกดเกมคุกกี้รันไฟสว่างจ้าใส่หน้าตอนที่ยังปิดไฟมืดอยู่
หนูเล่นไปเรื่อยๆ จนได้ยินเสียงขยับตัวของคนข้างๆ
แต่บ่าได้สนใจหรอก เพราะว่าถ้าผละสายตาไปมองเมื่อไหร่ เกมจะโอเวอร์ทันที ต้องเล่นอย่างต่อเนื่องเลยล่ะเจ้า
จนรู้สึกเหมือนคนข้างๆ ค่อยๆ หยัดตัวลุกขึ้น หนูเริ่มหวั่นๆ แต่ก็ยังกดมือถือเล่นอย่างไม่ลดละ
‘พี่จ๋าๆ ไฟมืดตึ้ดตื๋อเลย เดี๋ยวหนูเปิดไฟให้นะ’
พรึ่บ!
“...!!”
หนูสะดุ้งเฮือก เพราะในระหว่างที่กำลังนั่งลุ้นว่าเปิ้นจะละเมอเมาอะไรใส่ถึงลุกขึ้นมา ก็ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูเหมือนเป็นเสียงเด็กตัวเล็กๆ พร้อมกับไฟในห้องที่สว่างจ้าขึ้นมาทันที
ตุบ
มือถือของหนูตกลงไปอยู่ที่พื้นทันที
ดะ... เดี๋ยวก่อนเน้อ
เพิ่งเคยเจอกับตั๋วเป๋นครั้งแรกเลย นี่มันเหตุการณ์สุดหลอนที่เคยอ่านเจอในพันทิปก่อ?
ในห้องเปิ้นมีผีเฮี้ยนอยู่เหรอนิ
หนูหน้าซีดเผือด หลุบตาลงมองโทรศัพท์ที่หล่นลงคว่ำหน้าจอกับพื้นเบื้องล่าง มือที่สั่นเทาของหนูค่อยๆ เอื้อมไปคว้ามัน แล้วขยับหน้าจอพลิกมาดูอย่างหวาดกลัวสุดขีด
ก่อนที่จะเห็นตัวหนังสือสีแดงสดน่าสยดสยองอยู่บนหน้าจอ เป็นคำว่า
GAME OVER
“ง๋า!” หนูร้องลั่นทันที ก่อนที่จะตีหน้าเซ็งออกมา “ก็ขอบคุณที่ตั๋วมาเปิดให้เฮาอยู่หรอกเน้อ แต่เฮาเล่นเกมแพ้แล้วนี่ติ”
พูดแล้วก็กดรีแล้วโหลดแมพใหม่มาเล่นต่อ
ก็บอกแล้วว่าหนูบ่าได้กลัวผีอ่ะ
เอ้อ ว่าแต่เมื่อกี้เหมือนเปิ้นลุกขึ้นมาอยู่รึเปล่าเน้อ หนูกึ้ดในใจพร้อมกับหันกลับไปมอง ก่อนที่จะสะดุ้งเฮือก
เมื่อผู้ชายตัวโตตรงหน้าที่ขยับมานั่งจริงๆ อย่างที่รู้สึกเมื่อครู่กำลังจ้องหน้าหนูตาปรือๆ เขม็งเลย คืออย่างน่ากลัวเลยอ่ะเจ้า
หะ... ให้ตายเต้อะเจ้า! นึกว่าผีเข้าสิง
“ปะ... เปิ้นตื่นแล้วก๋า?” หนูทำใจดีสู้เสือค่อยๆ เอื้อมมือไปแตะแก้มสากของเขาเบาๆ แล้วตบแผ่วๆ สองสามที ก่อนที่จะพูดคุยด้วยเหมือนว่าคนตรงหน้ายังมีสติครบถ้วน “เปิ้นกลิ่นตัวเหม็นยาเส้นกับเหล้ามากเลย ไปอาบน้ำเน้อ เดี๋ยวอ้ายจะไปนอนแล้ว”
พูดแล้วก็หยัดกายลุกขึ้นพร้อมกับมือถือที่ยังค้างอยู่ที่หน้าเซิร์ฟ ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้อง
แต่ทว่า
หมับ
“!” หนูสะดุ้งเมื่ออยู่ดีๆ ข้อมือก็ถูกคว้า แล้วถูกกระชากให้เซลงไปทับหน้าตักหนาๆ ที่แข็งปั๋งไปด้วยมัดกล้ามของคนตรงหน้าทันที พอจะหันไปมองเขาว่าเขาจะยะหยัง ก็ชะงักกึกไปเพราะลมหายใจร้อนๆ ที่ปัดป่ายอยู่ที่กกหู
“... โคตรใหญ่”
“...?”
“อยากจับ”
เขาอู้อะหยังบ่ารู้เรื่องอยู่ข้างหลังหูของหนู ก่อนที่จะรู้สึกตัวอีกที มือหนาก็คว้าหมับเข้าที่หน้าอกหน้าใจที่ใหญ่ทะลักทะล้นของหนูเต็มสองมือหนาทันที
“อ๊ะ เปิ้น” หนูเรียกชื่อเขาอย่างตกใจ ก่อนที่จะเหลียวกลับไปมอง แต่พอหันกลับไปก็โดนร่างสูงกว่าประกบริมฝีปากลงมาฉกชิงลมหายใจเล็กๆ อย่างรวดเร็ว ในขณะที่มือหนาก็ทำหน้าที่เคล้นคลึงหน้าอกของหนูจนแทบปลิ้นออกมา
“อื้อออ อื้ม”
หนูครางฮือในลำคอเมื่อถูกกดริมฝีปากลงมาซ้ำๆ เหมือนคนที่เป็นฝ่ายจูบจะจูบไม่เป็น แต่เพราะหนูก็จูบบ่าเป็นเช่นกัน ก็เลยเอาแต่นั่งตัวสั่นให้เขาขยำหน้าอกตัวเองแล้วดูดริมฝีปากอยู่จะอี้เล่า
ระ... รู้สึกแปลกๆ
หนูเม้มริมฝีปากไว้แน่นเมื่อต่อมาร่างหนาก็ค่อยๆ ซุกใบหน้าลงมาที่ซอกคอ แล้วดูดจ๊วบๆ แต่ไม่เห็นจะรู้สึกอะไร เหมือนเด็กพยายามดูดนมแม่มากกว่า ส่วนมือใหญ่ๆ นั่นก็บีบนวดหน่มน๊มของหนู เคล้าคลึงจนมีอะไรบางอย่างปริ่มๆ อยู่ที่กลางเป้าของซับในตัวจิ๋ว
“อะ... เปิ้น เปิ้นเมาก่อ?” หนูหันไปกระซิบเสียงพร่าถามเขา เพราะรู้สึกแปลกๆ อีกอย่างบ่าอยากขัดขืนด้วย ก็มันรู้สึกดีมากๆ เลยอ่ะเจ้า บ่าฮู้ว่ายะหยังเหมือนกันเน้อ
แต่ถ้าเป็นเปิ้นยะ คงบ่าเป็นไรหรอกมั้ง
“กู... ไม่เมา” เสียงแหบต่ำสุดขยี้ใจของเขาดังขึ้น พร้อมกับกลิ่นเหล้าที่โหมเข้ามาจนมอมเมาหนูไปด้วย เขาดูดริมใบหูของหนูเบาๆ จนฉ่ำน้ำลาย แล้วกระซิบข้างหูอีก “ไม่เมา”
และในตอนนั้นเอง มือหนาก็เคลื่อนเข้ามาภายใต้เสื้อยืดของหนูทันที ราวกับว่าเขาอยากปลดเปลื้องทุกอย่างของหนูออกไปซะตอนนี้เลย
“อะ เปิ้น ตรงนั้นอ้ายบ่าเคย...” หนูเม้มริมฝีปากแน่นกลั้นเสียงร้องหวามไหวเอาไว้ เมื่อเรียวนิ้วแกร่งปัดป่ายที่หน้าท้องแบนราบ ลูบไล้พร้อมกับขยี้สะดือเล็กๆ จนรู้สึกเสียดวูบไปทั่วทั้งช่องท้อง
“แฮ่ก...”
เสียงลมหายใจที่เต็มไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ของเปิ้นยังคงปัดเป่าหนักร้อนอยู่ที่ข้างหู เขาจูบที่ข้างต้นคอของหนู แล้วไล้ปลายลิ้นไปข้างไหปลาร้า ในตอนที่มือหนาล้วงลึกเข้ามาภายในชุดชั้นในที่เผยอออกมาเพราะความใหญ่โตของหน้าอก
ปลายนิ้วเรียวลูบวนเบาๆ ที่ปลายยอดอกที่บุ๋มลงไปในเนื้อ หนูแอ่นตัวขึ้นมา รู้สึกเสียววูบวาบไปทั้งตัวจากการไล้ปลายนิ้วตรงจุดสีชมพูนั่น
“อ๊า... เปิ้น”
รู้สึกว่ายอดอกถูกขยี้อย่างหนักหน่วงด้วยปลายนิ้วของเปิ้นทันทีที่หนูครางเสียงร้องน่าอายออกมา หนูกัดริมฝีปากแน่น พยายามหันกลับไปมองเปิ้น แต่ก็ถูกตระโบมจูบเข้าที่ริมฝีปากอวบอิ่มอีกแล้ว คราวนี้เปิ้นพยายามสอดลิ้นเข้ามาแบบสะเปะสะปะ มือหนาสะกิดยอดอกของหนูอย่างแน่วแน่ จนหนูบิดเร้าไปมาอย่างเสียดเสียวสุดตัว
“แฮ่ก... ไม่ออกมาเลยว่ะ” เขากระซิบชิดริมฝีปากเมื่อผละออก แล้วเส้นน้ำลายจางๆ ก็ยืดออกมาระหว่างปลายลิ้นของหมู่เฮา หนูเม้มริมฝีปากแน่น เอนหลังไปซบกับแผงอกหนาตึงเครียดของเปิ้น ที่ตอนนี้สอดเข้ามาอีกมือเพื่อขยุ้มหน้าอกหนูข้างขวา
“อ๊ะ เปิ้น อ้ายรู้สึกแปลกๆ แล้วเน้อ... อื้อ”
เปิ้นจูบหนูอีกแล้ว คราวนี้ขย้ำหน้าอกแรงขึ้นจนน่าจะเป็นรอยนิ้วมือ ส่วนปลายนิ้วชี้กับนิ้วโป้งอีกข้างก็พยายามบี้ยอดอกสีชมพูอ่อนให้หัวอกโผล่ออกมาจากเนื้อ
และเปิ้นก็ยะสำเร็จ ยอดอกหนูแข็งชูชันเป็นไตสู้มือของเขา ร่างสูงฉีกยิ้มออกมา โดยที่หนูไม่รู้ว่าเขาเมามากบ่าได้สติจนลงมือทำจะอี้
หรือว่าเพราะอะหยังกันแน่
“แหกขา” เขากระซิบข้างๆ กกหู หนูเม้มริมฝีปากแน่น ก่อนที่จะส่ายหน้าเพราะว่าตรงจุดนั้นมันชื้นแฉะ ถ้าเขาเห็นมันคงจะน่ารังเกียจแถมยังน่าอายมากอีกต่างหาก “แหกดิ”
“ปะ... เปิ้น แต่ตรงนั้นมัน”
“ถ้าไม่แหก กูจะจับมึงแหกเอง” เขากระซิบเสียงหนักแบบนั้น แล้วไม่ได้พูดเปล่าด้วย เพราะเมื่อหนูบ่ายอมขยับขาออก เขาก็เลยใช้มือหนาทั้งสองข้างเลื่อนลงมาจากหน้าอกลงมาที่ซอกขาด้านใน เขาพยายามจับหนูอ้าขาออก เพื่อที่จะดูอะไรบางอย่าง
“อ๊ะ อ้ายบ่าเอาด้วยเน้อเปิ้น อ้ายอาย”
“ขอดู”
“... อึก” หนูหลับตาแน่นอย่างสะเทิ้นอาย เมื่อสุดท้ายแรงของเปิ้นก็ชนะแรงแข็งขืนของหนู เปิ้นจับหนูแยกขาออก แล้วกะโปรงที่หนูใส่อยู่ก็เลิกขึ้นจนเห็นขาอ่อนด้านในสุด พร้อมกับเป้ากางเกงในที่เลอะน้ำหล่อลื่นใสๆ เป็นดวง
เขาปรือตามองตรงจุดกึ่งกลางกายของหนู พร้อมๆ กับหนูที่นั่งน้ำตาคลอ เพราะว่าเขาเห็นมันเข้าแล้ว
“อ่า... ไม่ไหวแล้วโว้ย”
“อ๊ะ!” หนูสะดุ้งสุดตัว เมื่อมือหนาของเขาตะปบเข้าที่กลางเป้าของตัวเอง พร้อมกับรูดซิปกางเกงลงมา แล้วดึงบ็อกเซอร์ลงแล้วรูดงูพิษสีชมพูของเขาให้โผล่พ้นออกมาด้านนอก หนูที่เหลียวไปดูถึงกับเบิกตากว้าง แล้วก็หน้าแดงซ่านออกมา
“อึก”
เปิ้นเริ่มทำในสิ่งที่หนูเคยเห็นในโดจินชิมาบ้าง ที่ผู้ชายมักจะทำกับของของตัวเอง โดยมีหนูที่นั่งมองทุกอากัปกิริยาของเขา
คนตัวโตใช้ฝ่ามือกำรอบเจ้าสิ่งที่ใหญ่โตแถมยังแข็งขันนั่น พร้อมกับรูดขึ้นรูดลงอย่างเร่าร้อน เขาสะบัดข้อมือขึ้นลงไปมา ในขณะที่อีกมือหนึ่งก็เลื่อนลงมาขยำหน้าอกหน้าใจของหนูไปด้วย
“อื้อ... เปิ้น” หนูหอบแฮ่ก รู้สึกเหมือนยิ่งเห็นเจ้าสิ่งนั้นของเขา หนูกลับยิ่งรู้สึกชื้นที่กลางกางเกงมากขึ้นเรื่อยๆ เลยเจ้า
บ่าฮู้เช่นใด แค่เห็นมังกรผงาดของเปิ้นกำลังถูกรังแกแล้วรู้สึกเสียววูบที่ช่องท้องยังไงก็ไม่รู้
“อ่า... อึก”
เขากระตุ้นจังหวะกับงูพิษสีชมพูมากขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ จนในที่สุดน้ำสีขาวขุ่นก็ทะลักออกมาจากปลายหัวงู เขาแหงนคอที่มีเส้นเลือดขึ้นเป็นริ้วขึ้นคำรามเสียงดัง ก่อนที่เอวเขาจะกระตุกเป็นจังหวะ แล้วปลดปล่อยน้ำสีขาวออกรดเต็มขาอ่อนของหนู
ยะ... เยอะจังเลยเน้อ
หนูหอบหายใจ เขาเองก็หอบหายใจเหมือนกัน ร่างสูงเอนตัวไปพิงกับเบาะโซฟาด้านหลัง แล้วหายใจถี่จนน่ากลัว
“ปะ... เปิ้น”
หนูเลยกลั้นใจเรียกชื่อเขาอย่างเป็นห่วงสุดๆ ทั้งๆ ที่ใบหน้ายังคงแดงก่ำอย่างอับอายจากการกระทำอันแสนลามกของหมู่เฮาทั้งสองเหล่าเมื่อครู่ แต่พอหันกลับไปมองคนตัวโตดีๆ ก็เห็นว่าเขา...
หลับไปแล้ว
“อ๋า คนบ้า” หนูกำมือแล้วทุบไหล่แข็งๆ ของเขาไปเสียงดังอั่ก เพราะนอกจากเขาจะผล็อยหลับไปทันทีที่ปล่อยน้ำสีขาวขุ่นเลอะเต็มขาอ่อนหนูแล้ว ร่างสูงยังกรนออกมาเสียงดังจนน่ารำคาญอีกต่างหาก “เอาแต่ใจ๋ตั๋วเก่าจริงๆ คนอะหยังเน้อ”
บ่นกระปอดกระแปดเสร็จก็ก้มลงมองหน้าขาของตัวเองที่มีน้ำสีขาวขุ่นเปรอะอยู่ กับความชื้นภายในกางเกงใน
เปิ้นเป๋นบ้าอะหยังก่อ
นี่มันต้องคนเป๋นแฟนเขายะจะอี้ให้กันบ่าใจ้เหรอ
ตึกตัก ตึกตักหนูใจเต้นน้อยๆ จนรู้สึกได้นิดหน่อย หลังจากที่โดนรวบศีรษะเข้ามาซบที่หน้าอกหนาๆ ของเปิ้น เป๋นครั้งแรกที่เปิ้นกอดหนู (ที่บ่าใจ้เพราะเมาเหมือนตอนนั้น) และพอได้แนบชิดกับแผงอกที่แข็งแกร่งของเปิ้น หนูก็รู้สึกดีรู้สึกปลอดภัยเมื่อได้อยู่กับเปิ้นมากๆ“... ขอบคุณนะเจ้า” หนูไม่ได้เก็บอาการที่ว่าอยากจะกอดเขากลับ เพราะพอคิดได้แบบนั้นหนูก็รีบโอบรอบเอวสอบที่ทั้งมือของหนูโอบบ่าได้เต็มตัวของเขาทันที หนูเห็นว่าเปิ้นสะดุ้งนิดๆ แต่ต่อมาเขาก็ลูบผมหนูกลับแปลกจัง ปกติเปิ้นจะหวงตัวจะตายนี่เน้อ แต่คราวนี้เขายอมให้หนูกอด แถมยังลูบหัวหนูด้วย“อ้ายฮักเปิ้นนะ”หนูเลยสารภาพออกไปอย่างซื่อๆ แบบนั้นอย่างซาบซึ้งใจ เพราะเขาน่ะเหมือนกับเป็นพี่ชายคนหนึ่งในชีวิตหนูที่สำคัญที่สุดเลย เขาคอยช่วยเหลือหนูตั้งแต่เด็กแล้ว แม้ว่าทุกครั้งเปิ้นจะชอบแสดงท่าทีว่าเบื่อและรำคาญหนูมากก็ตามแต่พอได้ยินหนูโพล่งคำนี้ออกมา มือเขาที่วางอยู่บนหัวหนูก็แทบจะผละออกเหมือนต้องของฮ้อนในทันทีทันใด“นี่มึงรู้ความหมายของคำที่มึงพูดออกมาปะ” เสียงเขาสั่นด้วย จนหนูที่กอดแล้วเอาหัวที่ผมยาวยุ่งเหยิงซุกซบกับอกแกร่งเขาอยู่ต้องเงยหน้าขึ้นมามองเ
พลั่ก!“อะ โอ้ย”ทั้งตัวของหนูถูกผลักจนกระแทกเข้ากับผนังที่เย็นชืดข้างหลัง เพื่อนๆ ของเดียร์กอดอกยืนอยู่ตรงหน้า หลังจากที่จบคลาสเรียนแล้วพวกเธอเรียกตัวหนูให้ตามมาข้างๆ ห้องน้ำหญิงที่หลังตึกคณะวิศวะ แล้วเริ่มลงมือรังแกหนูเหมือนเช่นเคย“สะเออะดีนัก แกคิดว่าแกเป็นเพื่อนเดียร์แล้วจะเผยอจองหองพูดปรามอะไรกับนางฟ้าของพวกเราได้ทุกอย่างอย่างงั้นเหรอ”“อะ... อ้ายบ่าได้ตั้งใจ” หนูพยายามจะหยัดตัวลุกขึ้นเพราะว่าตัวเลอะไปด้วยโคลน หลังจากฝนตกเมื่อตอนเช้า สนามหญ้าแถวนี้ก็เปียกชุ่มไปหมด พอโดนผลักล้มลงไป ก็เลยเปรอะเปื้อนไปทั้งตัวเมื่อกี้ก็โดนตบไปฉาดหนึ่งด้วย สะ... แสบหน้าจัง“อย่าคิดว่าที่ตัวเองเกือบเป็นดาวคณะแซงเดียร์แล้วจะยโสโอหังยังไงก็ได้ แกก็เป็นแค่เพื่อนในห่วงโซ่อาหารชั้นที่ต่ำที่สุดของเดียร์ รู้เอาไว้ซะด้วย!”“... อ้ายฮู้แล้วเจ้า”“แล้วเวลาเดียร์จะทำอะไร ไม่ต้องสะเหล่อมาขัดขาเดียร์ นี่คือคำเตือน!”“...”“อีเด็กทรงโต น่ารังเกียจจริงๆ ทั้งโง่ทั้งอวดดี ถุย!” หนูหลับตาปี๋เมื่อหนึ่งในพวกเธอพ่นน้ำลายใส่จนกระเด็นมาโดนกระโปรงพลีทของตัวเองเล็กน้อย น้ำตาคลอเบ้าขึ้นมาเมื่อพวกเธอสะบัดหน้าเดินจากไปต้องบ่าร
[พาร์ท : เพชฌฆาต]แสงแดดมันจ้าเข้าตาตอนที่กำลังจะตื่น จนผมต้องปรือตาขึ้นมาพร้อมๆ กับความปวดจี๊ดที่สมองจากอาการเมาค้าง ค่อยๆ ผุดลุกขึ้นมา แล้วก็พบว่าตัวเองนอนปวดเอวอยู่ที่พื้น เงยหน้ามองบนโซฟาหนังก็เห็นว่ามีผ้าห่มผืนนึงกองอยู่คงจะมีคนเดียวแหละว่ะที่เอามาให้ ถ้าเป็นกุมารที่เลี้ยงไว้ ก็ทำได้แค่เปิดปิดไฟสร้างอภินิหารอย่างเดียว กับพูดคุยด้วยเวลามันเหงาเออ ฟังไม่ผิดหรอก ผมเลี้ยงกุมารทองอย่างที่บอกว่าไม่เชื่อเรื่องบาปบุญอะไรนั่น แต่ถ้าของขลังหรือพวกไสยศาสตร์กับภูตผีปีศาจหรือพรายนี่โคตรจะเชื่อ ผมเลยสักยันต์เสือคู่ไว้ที่กลางหลังไง ว่ากันว่าคนสักยันต์นี้ จะมีฤทธิ์แคล้วคลาดจากศัตรู ใครๆ เห็นก็ยำเกรง เลยไม่แปลกที่จะมีแต่คนเห็นผมเป็นสัตว์ประหลาด ที่เกือบทำคนตายได้ด้วยหมัดๆ เดียวแล้วก็ไม่แปลกที่จะถือว่าหัวเป็นของสูงด้วยแกรกผมเดินเซไปที่หน้าประตูห้องตัวเองที่ล็อกไว้จากด้านใน ล้วงกุญแจในกระเป๋ากางเกง แล้วไขประตูเข้าไปภายใน ห้องของผมนั้นมีหิ้งบูชาของขลังที่ดูน่ากลัว อธิบายไปก็ไม่น่าจะเข้าใจ แต่จะเป็นการบูชาภูตผีปีศาจ รวมถึงกุมารทอง และของขลังต่างๆ เอาไว้ช่วยให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายทั้งปวงมากกว่
หนูนอนตีขาเล่นเกมคุ้กกี้รันอยู่บนเตียงที่ปูเองเป็นครั้งแรกปกติจะให้แม่บ้านปูให้ตลอดเน้อ อีกอย่างตอนที่ปูก็เอาแต่เล่นเกมไปด้วย เพราะถ้าผละมือออกมาเมื่อไหร่เกมจะโอเวอร์ทันที ก็เลยปูได้แบบครึ่งๆ กลางๆ สักพักก็ขี้เกียจแล้ว เลยล้มตัวลงนอนเล่นเกมต่อไม่ยอมหยุดจนตกดึกหนูบ่าได้สนใจว่าเปิ้นหายออกไปไหน เพราะทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำออกมาหลังจากยืนซักกางเกงในกับชุดบนอ่างล้างหน้าแล้วตากมันไว้ในห้องน้ำ เปิ้นก็อันตรธานหายไปแล้วเปิ้นบ่าอยู่ก็ดีแหละ เจอเรื่องตอนนั้นไป... หนูก็บ่ารู้ว่าจะสู้หน้าเขาจะใดดีเหมือนกันไม่ได้อายที่เขาเห็นนมหนูหรอก ยังไงก็พี่น้องกันแต่ไอ้งูพิษของเปิ้นนี่สิทำยังไงก็สลัดออกจากหัวบ่าได้สักทีพอนึกถึงภาพๆ นั้น หนูก็หน้าร้อนขึ้นมาในขณะที่ยังกดเกมอย่างขมักเขม้น นึกถึงร่างกายที่ใหญ่โตของเปิ้น กล้ามแขนที่มีเส้นเลือดสวยๆ กับตรงลำท่อนที่ใหญ่ยาวแถมยังมีเส้นเลือดผุดประปรายอีกโอ้ยๆๆๆ บ้าจริงๆ เล่นเกมบ่าฮู้เรื่องแล้วเน้อหนูบ่นกระปอดกระแปดในใจแล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งแล้วนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงอย่างหมดอาลัยตายอยากหรือจะกึ้ดผิดกันนะที่เลือกมาอยู่กับเปิ้น?ติ๊ง ต่องหนูสะดุ้งเฮือกเมื่อได้ยินเ
“เชี่ย มึงใจเย็นก่อนดิ!”ไอ้แมนที่รับหมัดทุกหมัดเข้ากับเป้าชกที่มันตั้งศอกไว้ถึงกับเซแล้วผงะถอยหลังไป เพราะเมื่อทันทีที่ผมมาถึงร้านอาเจ๊กแล้วขึ้นเวทีมวยกับมันอย่างที่ฝึกกันเป็นประจำ ผมก็ทั้งฮุกหมัดซ้ายหมัดขวาใส่เป้าชกจนทอมที่ขึ้นชื่อว่าพละกำลังเกินหญิง เป็นกอริลล่าในร่างผู้หญิงเพราะกล้ามบึกบึนของมันต้องเซไปอีกทางและพอมันเปิดช่องให้แบบนั้น ผมเลยพุ่งตัวใหญ่ๆ เข้ามาแล้วจะซัดเข้าหน้ามันแบบจังๆ โดยที่ไม่สนว่าแม่งจะไม่ได้ใส่อะไรกันหน้าไว้หรือไม่“ไอ้เหี้ยเพชร ใจเย็นๆ!!”พลั่ก!!“อั่ก!”จนสุดท้าย เมื่อเพื่อนเห็นว่าวิธีชกดีๆ คงจะคุมคนที่สติแตกอย่างผมไม่อยู่ มันเลยใช้ตีนถีบอัดที่กลางเป้าของผมซึ่งเป็นจุดตายสำหรับผู้ชายทุกคน จนผมต้องหยุดทุกการกระทำทุกอย่างลงแล้วล้มลงไปนอนกุมเป้ากับพื้นอย่างเจ็บปวดไอ้เหี้ยแมนเอาส้นตีนมาขยี้หัวที่ตัดสกินเฮดของผมแล้วบี้ไปมา“มึงเป็นห่าไร มึงคิดจะชกกูเหรอไอ้เหี้ยเพชร มึงจะฆ่าตัดตอนเพื่อนที่เลี้ยงดูมึงตลอดมาเหรอวะ”“... อีกอริลล่าเอ้ย” ผมสบถด่ามันออกมาอย่างเจ็บใจ มันเลยพ่นลมหายใจ ถอดเป้าชกส่งให้ไอ้เจนที่ยืนเกาะเชือกเวทีอยู่รับไว้เหยียบหัวแบบนี้กูถือนะ วันจันทร์ไปข
“อืม... ไอ้เด็กเวรเอ้ย”ตึกตัก ตึกตักหนูใจเต้นแรงพร้อมๆ กับค่อยๆ ไถลตัวลงไปนั่งยองๆ กับพื้นห้องจากหลังประตู มือเล็กๆ ที่เอามาปิดปากตัวเองไว้สั่นเทาอย่างตื่นเต้น แม้ว่าจะแง้มประตูไป แต่ก็แค่นิดเดียวเท่านั้น แล้วก็เหมือนว่าเปิ้นจะบ่าสังเกตเห็นด้วยว่าหนูกำลังแอบมองเขาทุกอิริยาบถอยู่ เขาเริ่มทำ... อะไรบางอย่างหนูเห็นแวบๆ ว่าเขากำลังละเลงข้อมือกับบางสิ่งบางอย่างที่ผงาดขึ้นมาระหว่างต้นขาของเขา มันเป็นลำท่อนใหญ่ เป็นปล้องเหมือนหนอนยักษ์ที่กำลังจะพ่นพิษร้าย และมีเส้นเลือดผุดขึ้นบ้างประปรายหนูหายใจบ่าทั่วท้องเลยล่ะเจ้า รู้สึกเขินแบบไม่มีสาเหตุจนต้องหลับตาปี๋“แฮ่ก...”แต่เสียงหอบหายใจและครางครวญของเปิ้นก็ยังคงลอดเข้ามาในกกหูเสียงของเปิ้นดูเร้าใจจังเน้อ แหบต่ำแถมยังดูเซ็กซี่สุดๆ อีกด้วย หนูฟังแล้วเขินจังเลยแถมไอ้นั่นที่ตั้งชูชันขึ้นมา ถึงจะได้เห็นแค่แวบเดียว แต่กลับทำให้ตรงกลางระหว่างขาของหนูมีน้ำอะไรสักอย่างปริ่มออกมามากขึ้นตึกตัก ตึกตักหัวใจหนูเต้นเร็วมากกว่าเดิม ทำไมรู้สึกอยากเอามือไปแตะมันจังเลยก๋าคิดแล้วก็ค่อยๆ เอาปลายนิ้วเล็กๆ ของตัวเองสัมผัสเบาๆ ที่กลางร่องกลีบที่ฉ่ำชื้น“อะ...!”







