Share

บทที่ 657

Penulis: ลั่วหูโยว
หลี่มู่ถิงที่บังเอิญไปจี้ใจดำของใครบางคนได้ตรงจุดพอดีแอบรู้สึกสะใจ

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเขาจะกล้าพูดเรื่องแบบนี้กับฉินเย่ได้อย่างไรกัน? แค่พริบตาเดียวก็ถูกสายตาของเขาแช่แข็งจนตายได้แล้ว และประธานฉินก็ไม่ส่งเสริมพฤติกรรมเช่นนี้ของเขาอีกด้วย

แต่สถานการณ์ตอนนี้แตกต่างออกไป หลังจากที่คุณหนูเสิ่นและเด็กสองคนนั้นปรากฏตัวขึ้น อารมณ์ของประธานฉินก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

แม้เป็นตอนที่เขาหยอกเล่น ประธานฉินก็แค่บอกให้เขาไสหัวไป

ดูเผินๆก็เหมือนว่าเขาจะโกรธ แต่จริงๆแล้วเขาไม่ได้โกรธ เหมือนกับเมื่อครู่นี้

หลังจากฟังสิ่งที่เขาพูด ฉินเย่ก็พูดเพียง "ไสหัวไป" แต่หลังจากพูดจบไปไม่กี่วินาที สีหน้าของเขาก็กลับมาเป็นปกติ ถึงขั้นพูดเร่งเขา: "รีบไปจัดการ จัดการเสร็จก็ไปซื้อของที่เด็กๆชอบกินมาด้วย”

หลี่มู่ถิงจึงลงไปชั้นล่าง

ตอนที่เดินออกมา เขาเดินผ่านจี้ชิงเป่ยและสบตากับเขา

เมื่อคิดดูในตอนนี้ หลี่มู่ถิงก็อดไม่ได้ที่จะเกาหัว ทำไมจี้ชิงเป่ยถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยล่ะ?

วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่?

เมื่อเขาซื้อของเสร็จและกลับไปแล้ว เขาต้องถามให้ละเอียดชัดเจน

หลี่มู่ถิงขับรถออกไป ตั้งใจไปที่สนามเด็กเล่นในบริ
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 658

    “ผมจำได้ว่าในงานประมูลครั้งครั้งก่อน ฉินเย่ดูเหมือนจะพาเจียงฉูฉู่ไปเข้าร่วมด้วย” เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หลี่มู่ถิงก็อธิบายอย่างรวดเร็วว่า: "ก็ใช่ แต่ครั้งนั้นเป็นเพราะคำสั่งของคุณแม่ของประธานฉิน แล้วตอนนั้นคุณเจียงมีของที่ต้องการประมูลด้วย พวกเขาก็เลยไปด้วยกัน" “แล้ว?” จี้ชิงเป่ยหรี่ตาลงเล็กน้อย: “เขาเจอหยินอู้เมื่อไร? หยินอู้กลับมาเมื่อไร? เด็กสองคนนั้น...เป็นลูกของเขาเหรอ?” หลี่มู่ถิง "ถ้าไม่งั้นล่ะครับ? แค่เห็นหน้าตาของเด็กสองคนนั้นก็รู้แล้วว่าพวกเขาเป็นลูกของประธานฉินใช่ไหมล่ะ?" เมื่อได้ยิน จี้ชิงเป่ยก็หัวเราะเบาๆ : "ก็ใช่ พวกเขาเหมือนกันมาก" โครงหน้าของพวกเขาเหมือนกับของฉินเย่ทุกประการ ช่วงตาและระหว่างคิ้วก็เหมือนกับเสิ่นหยินอู้ ไม่จำเป็นต้องไปตรวจดีเอ็นเอด้วยซ้ำ แค่เห็นก็แทบสามารถแยกได้ด้วยตาเปล่า หลี่มู่ถิงมองเขา อาจเป็นเพราะช่วงนี้ฉินเย่ให้ท้ายเขา มันจึงทำให้เขามีความกล้ามากยิ่งขึ้น “แล้ววันนี้ทำไมคุณจี้ถึงมาที่นี่ได้ล่ะครับ?” เดิมทีหลี่มู่ถิงคิดที่จะถามให้ชัดว่าเรื่องราวมันเป็นมาอย่างไรกันแน่ แต่เพราะหลังจากฉินเย่เข้าไปในห้องผู้ป่วย เขาเดาว่าฉินเย่น่าจะไม่ออกมาสักพ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 659

    ณ ห้องผู้ป่วยเหมิงเหมิงได้ยินเสียงใครบางคนเคาะประตูและมองไปที่เสิ่นซือเหนียนในทันที หลังจากที่เสิ่นซือเหนียนพยักหน้าให้เธอ เขาก็เห็นด้วยกับฉินเย่ที่จะเข้ามา จากนั้นประตูห้องผู้ป่วยก็เปิดออก เด็กทั้งสองเห็นฉินเย่เดินเข้ามาพร้อมกับถุงใบใหญ่สองใบในมือ เสิ่นเหมิงเหมิงมองไปที่ถุงทั้งสองใบโดยไม่รู้ตัวและโพล่งออกมา “ลุงเย่มู่ ซื้ออะไรมาหรอคะ?” หลังจากถาม เสิ่นเหมิงเหมิงก็ตระหนักได้ว่าเธอพูดอะไรไป และรีบยื่นมือออกไปปิดปากของเธอ ดวงตากลมโตที่แวววาวฉ่ำน้ำของเธอเต็มไปด้วยความตกใจ แย่แล้ว! เธอตัดสินใจที่จะไม่สนใจลุงเย่มู่แล้วแท้ๆ แล้วทำไมเธอถึงถามออกไปในทันทีที่เห็นของที่อยู่ในมือของเขาโดยไม่รู้ตัวล่ะ? “อืม” ดวงตาที่เฉี่ยวคมของฉินเย่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม และวางถุงในมือลงบนโต๊ะ “ลุงให้ผู้ช่วยหลี่ไปซื้อของกินมาให้พวกหนู” ในขณะที่พูด ฉินเย่ก็หยิบอาหารออกมาจากถุงแล้ววางลงบนโต๊ะ เมื่อเด็กน้อยทั้งสองเห็นเช่นนั้น ทั้งคู่ก็ยืนอยู่ที่เดิมและกำมือไว้แน่นโดยไม่พูดอะไร ภายในห้องผู้ป่วยเงียบกริบ ฉินเย่ใช้หางตาของเขามองดูเด็กน้อยสองคนที่ยังคงไม่ขยับไปไหน เขาค่อยๆวางอาหารแต่ละอย่างลงบนโต๊ะ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 660

    และที่สำคัญที่สุดคือ ลุงเย่มู่ซื้ออาหารพวกนี้มาเยอะมากแล้ว ถ้าให้ลุงโม่ไป๋มา... “พี่ชาย……” อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เธอจะได้ทันคิด เสิ่นเหมิงเหมิงก็หิวมากจนเธอทนไม่ไหวอีกต่อไปและเริ่มกระตุกชายเสื้อของเขา เสิ่นซือเหนียนรู้สึกหมดหนทาง ในตอนที่กำลังจะขอโทรศัพท์คืนจากฉินเย่ จู่ๆฉินเย่ก็ลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารและมานั่งคุกเข่าลงตรงหน้าทั้งสองคน “ซุบซิบอะไรกันอยู่หรอครับ?” ทันทีที่เธอเห็นเขา เสิ่นเหมิงเหมิงก็หันหนีจากเขาทันที ฉินเย่เอื้อมมือออกไปแตะหัวของเธอเบา ๆ “โกรธลุงเย่มู่ขนาดนั้นเลยเหรอ?” "ฮึ" เสิ่นเหมิงเหมิงไม่อยากคุยกับเขาเลยสักนิด ฉินเย่ทำได้เพียงใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปที่หลังคอของเธอ "ลุงเย่มู่ผิดไปแล้ว ขอโทษเหมิงเหมิงกับพี่ชายด้วยนะ พวกหนูสองคนให้อภัยลุงเย่มู่ได้ไหมครับ?" "ไม่ได้!" เหมิงเหมิงซึ่งแต่เดิมต้องการเมินเขาพูดด้วยความโกรธทันที “ไม่ให้อภัยก็ไม่เป็นไร แต่พวกหนูจะไม่กินจริงหรอ? จะให้ตัวเองอดตาย เดี๋ยวก็หิวจนเป็นลมพอดี ถ้าหม่ามี๊ตื่นขึ้นมาไม่เห็นพวกหนูทำยังไงล่ะ?” ช่วยไม่ได้ ฉินเย่ทำได้เพียงใช้วิธีอ้อมๆเท่านั้น เด็กก็เป็นแค่เด็กอยู่วันยังค่ำ เมื่อได้ยินฉินเย่พูด

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 661

    ดังนั้นในท้ายที่สุด เสิ่นซือเหนียนจึงวางมือเล็กๆของเขาลงไปบนมือใหญ่ๆที่ดูอบอุ่น และเขาก็ถูกจูงไป หลี่มู่ถิงซื้อของมากมายหลายอย่างเพราะเขาไม่รู้ว่าเด็กๆชอบกินอะไร เขาจึงซื้อของกินมาเกือบทุกอย่าง ดังนั้นเมื่อจัดวางพวกมันไว้บนโต๊ะ ของกินที่ดูน่าเอร็ดอร่อยก็ดูมีให้เลือกเต็มไปหมด เสิ่นเหมิงเหมิงถูกอุ้มมาวางลงบนเก้าอี้ ดวงตาของเธอเบิกกว้างเมื่อเห็นโต๊ะที่เต็มไปด้วยอาหารนานาชนิด “ลุงเย่มู่ ทั้งหมดนี่สำหรับเหมิงเหมิงกับพี่ชายหรอคะ?” "ใช่ครับ"ในขณะที่พูด ฉินเย่หยิบผ้าเช็ดปากสีขาวสองผืนออกมาแล้วปูบนโต๊ะด้านหน้าของเสิ่นเหมิงเหมิงและเสิ่นซือเหนียน ช่วงนี้เขาดูแลพวกเขามานานมากแล้ว แม้ว่าเขาจะไม่รู้แน่ชัดว่าเด็กสองคนนี้ชอบอะไร แต่หลี่มู่ถิงก็รู้ว่าเด็กๆต้องใช้อะไรบ้างในการรับประทานอาหาร ดังนั้นตอนที่ไปซื้อของเมื่อครู่นี้ เขาก็ซื้อมันมาด้วย เสิ่นเหมิงเหมิงกับเสิ่นซือเหนียนนั่งอยู่ที่นั่น เขามองดูฉินเย่ยุ่งหัวหมุนอยู่กับสองพี่น้อง เสิ่นเหมิงเหมิงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากที่เมินและปากแข็งกับเขาในตอนแรก กลายเป็นค่อยๆลดความระมัดระวังลง และเริ่มพูดสั่งฉินเย่ “ลุงเย่มู่ หนูอยากกินอันนี้!

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 662

    ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน มีเพียงแสงสลัวๆจากไฟดวงเล็กๆที่เปิดอยู่ในห้องผู้ป่วย แสงไฟนุ่มนวลไม่แทงตา ดังนั้นเมื่อเสิ่นหยินอู้ลืมตาขึ้นมา เธอจึงไม่ได้รู้สึกไม่สบายตา เมื่อมองไปรอบๆ ในไม่ช้าเสิ่นหยินอู้ก็เห็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญคนหนึ่งอยู่ที่ข้างเตียงของเธอ ฉินเย่... เสิ่นหยินอู้ซึ่งแต่เดิมสมองยังคงว่างเปล่า หลังจากเห็นฉินเย่ เธอก็นึกขึ้นได้อย่างรวดเร็วว่าเกิดอะไรขึ้นในวันนี้ สติของเธอหายไปหลังจากที่หน้าผากของเธอไปกระแทกโดนอะไรบางอย่าง และเธอก็จำสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นไม่ได้เลย ตอนนี้ดูเหมือนว่าในตอนนั้นเธอคงจะได้รับบาดเจ็บ แล้วฉินเย่ก็มาส่งเธอที่โรงพยาบาลงั้นเหรอ? โรงพยาบาล…… แล้วเหมิงเหมิงกับเหนียนเหนียนล่ะ? เมื่อเขาคิดถึงพวกเขา เสิ่นหยินอู้ที่ยังคงนอนอย่างสงบอยู่ก็รู้สึกกระวนกระวายจนอยากจะลุกขึ้นมานั่งในทันที แต่ทันทีที่เธอส่งเสียง เธอก็ปลุกฉินเย่ที่กำลังพิงขอบเตียงเพื่อหลับตาพักผ่อนอยู่ ฉินเย่ลืมตาสีดำเข้มของเขาขึ้น เธอสบตากับเขาเข้าโดยไม่คาดคิด วินาทีต่อมา ฉินเย่ยืนขึ้นเพื่อมาพยุงเธอ “ตื่นแล้หรอ รู้สึกไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า?” เสียงของเขาฟังดูต่ำและแหบแห้ง ราวก

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 663

    สีหน้าของฉินเย่แข็งทื่อ เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาก็ปูดขึ้นเพราะคำพูดของเธอ แต่หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็กลับมาเป็นปกติ ราวกับว่าเขาได้กำจัดอารมณ์ลบๆเมื่อครู่นี้ทั้งหมดแล้ว “คุณหิวน้ำไหม เดี๋ยวผมเทน้ำอุ่นให้นะ” เสิ่นหยินอู้จ้องมองเขาอย่างเรียบเฉย ฉินเย่สบตาเธอหลายวินาที จากนั้นลุกขึ้นไปรินน้ำอุ่นให้เธอ "ผมวัดอุณหภูมิแล้ว น่าจะกำลังพอดี" เสิ่นหยินอู้มองแก้วน้ำตรงหน้าเธอแล้วปฏิเสธ: "ไม่กิน" “คุณไม่ได้กินอะไรเลยทั้งคืน แล้วก็นอนมานานตั้งแล้ว ดื่มน้ำอุ่นๆให้ชุ่มคอก่อนเถอะ” ในขณะที่พูด ฉินเย่ก็เอาแก้วน้ำเข้าไปใกล้ๆปากของเสิ่นหยินอู้ เสิ่นหยินอู้ขมวดคิ้วและหันหน้าหนี: "ฉันบอกว่าไม่กิน" ฉินเย่อยู่ท่าเดิมครู่หนึ่ง และในที่สุดก็วางแก้วน้ำลง “งั้นกินอะไรหน่อยไหม? คุณอยากกินอะไร?” ในขณะนี้ เสิ่นหยินอู้ไม่รู้ว่าเธอกำลังคิดเช่นไร เธอหัวเราะเยาะเบาๆแล้วพูดว่า: "ฉันไม่อยากกินน้ำ ไม่อยากกินอะไร แล้วก็ไม่อยากเห็นหน้าคุณด้วย ถ้าคุณรู้สึกผิดเพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็เลยอยากทำอะไรเพื่อฉัน งั้นก็โทรตามโม่ไป๋มาที่นี่ให้ฉัน” หลังจากที่เธอพูดชื่อโม่ไป๋ ฉินเย่ซึ่งสงบมาโดยตลอดก็หน้าบูดบึ้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 664

    “ไม่ต้องเฝ้าหรอก” ฉินเย่เม้มริมฝีปากบางของเขาแล้วมองเธออยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ลุกขึ้นและออกไป เสิ่นหยินอู้: "..." ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า แต่เธอรู้สึกว่าสายตาของฉินเย่ที่มองมาที่เธอเมื่อครู่นี้เหมือนกับว่าเขาน้อยใจ หลังจากตอบสนองได้ จู่ๆเสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกโกรธเล็กน้อย เขาน้อยใจอะไร? คนเจ็บคือเธอ ไม่ใช่เขา มีอะไรให้เขาน้อยใจกัน? ปัง ประตูห้องผู้ป่วยถูกปิดลง และฉินเย่ก็ออกไป เสิ่นหยินอู้พลิกตัวเบาๆ บาดแผลยังคงเจ็บอยู่เล็กน้อย แต่เธอพลิกไปจนสามารถที่จะมองเห็นเด็กๆ เธอนอนตะแคงและมองดูพวกเขา เด็กน้อยสองคนนอนหลับสนิทปราศจากความกังวล เป็นเพราะพวกเขารู้ว่าเธออยู่ที่นี่ หรือเพราะพวกเขารู้ว่าคนในห้องผู้ป่วยคือฉินเย่? เนื่องจากแผลบนหน้าผากของเธอยังเจ็บอยู่ เสิ่นหยินอู้จึงไม่มีกะจิตกะใจจะไปคิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องอื่น ในไม่ช้าสติของเธอก็เลือนลางลง ดังนั้นเสิ่นหยินอู้จึงหลับไปอีกครั้งโดยหรี่ตาลงครึ่งหนึ่ง เพียงแต่เธอไม่ได้หลับสนิท สติของเธอฟื้นคืนมาและหายไปเป็นครั้งคราว บางครั้ง เธอก็นึกถึงบุคคลที่อยู่ด้านนอกห้องผู้ป่วย แต่เหตุผลของเธอทำให้เธอไม่สามารถคิดอะไรไร้

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 665

    เธอไม่ได้ตกลง แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธเช่นกัน หัวใจของฉินเย่ซึ่งแขวนอยู่บนด้ายตั้งแต่แรก ในที่สุดก็สงบลง เขามองแผนหลังของเธอที่นอนตะแคงอยู่และยกริมฝีปากบางขึ้นเล็กน้อย ไม่ใช่ว่าเขาอยากให้เธอสงสาร... แต่เพราะตอนนี้อุณหภูมิภายนอกเป็นเลขหลักเดียว เขารู้สึกหนาวจริงๆเมื่อต้องอยู่ข้างนอกด้วยเสื้อกล้ามเพียงตัวเดียว อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้พักหนึ่งเขามีเลือดออกในท้องแต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หายดี ร่างกายจึงมีความบกพร่องบ้างเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาสามารถบอกให้หลี่มู่ถิงไปหาเสื้อคลุมอีกตัวมาให้เขาได้ แต่ก็แค่ต้องใช้เวลาเล็กน้อย หลี่มู่ถิงก็เสนอเรื่องนี้ไปแล้วจริงๆ แต่ในขณะนั้น ฉินเย่อยากลองเข้ามาและมันก็จะดีถ้าได้อยู่ด้านใน แน่นอนว่าเขาทำสำเร็จ แม้ว่าในห้องจะหนาวเหมือนกัน แต่หัวใจของฉินเย่ก็ค่อยๆอบอุ่นขึ้นเมื่อเขาเห็นสภาพของเธอและลูกๆที่นอนอย่างสงบอยู่บนเตียง หลังจากนั่งได้สักพักเขาก็ลุกขึ้นไปเทน้ำร้อนให้ตัวเอง เสียงน้ำดื่มของเขาดูดังขึ้นมาเล็กน้อยท่ามกลางค่ำคืนที่เงียบสงบ ตั้งแต่เย็นจนถึงตอนนี้ เสิ่นหยินอู้กังวลมากจนยังไม่ได้กินอะไรหรือดื่มน้ำเลยสักอึก และตอนนี้เธอก็รู้สึกกระหายน้ำเล

Bab terbaru

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 910

    โม่ไป๋เดินเข้ามาและพยุงเสิ่นหยินอู้ขึ้น"ตื่นก็ดีแล้ว มีตรงไหนรู้สึกไม่สบายไหม?"เสิ่นหยินอู้มองคนตรงหน้า รู้สึกว่าคนนี้ดูแปลกหน้า แต่เขากลับโอบเธอไว้ และท่าทางกับสายตาดูห่วงใยเธอมาก
แต่......เธอไม่รู้จักเขาเลย"คุณคือ......?"
คำถามแรกของเธอทำให้โม่ไป๋ถึงกับชะงัก"หืม?"
โม่ไป๋คิดว่าตัวเองคงฟังผิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถามว่าเขาเป็นใคร?
แต่คำถามต่อมาของเสิ่นหยินอู้ ทำให้เขาเข้าใจอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ได้ฟังผิด
"คุณคือใคร?"
เสิ่นหยินอู้ถามอีกครั้ง คราวนี้น้ำเสียงฟังดูชัดเจนขึ้น และสายตาที่มองโม่ไป๋เต็มไปด้วยความสงสัย
ไม่เพียงเท่านั้น เธอยังหันไปมองคนรอบข้างแล้วถามว่า "พวกคุณคือใคร?"ทุกคน "......"
เธอไม่รู้จักพวกเขาก็ไม่เป็นไร เพราะพวกเขาไม่เคยพบหน้าเธอมาก่อน และรู้แค่ว่าผู้หญิงคนนี้คือคนที่คุณโม่ไป๋ชอบก็พอแล้ว
แต่ทำไมผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะไม่รู้จักคุณโม่ไป๋เลย?เมื่อเห็นบาดแผลบนหน้าผากของเธอ มีหนึ่งคนพูดขึ้นอย่างเผลอๆ ว่า "เธอคงไม่ได้หัวกระแทกจนจำคุณโม่ไป๋ไม่ได้หรอกนะ?"คนข้างๆ "ไม่หรอกมั้ง? แค่กระแทกทีเดียวก็ความจำเสื่อมเลย? เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นได้จริงเหรอ?"


  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 909

    แต่หลังจากที่เขาพูดว่าตัวเองทำผิดแล้ว ดูเหมือนโม่ไป๋จะไม่ได้ฟังคำสารภาพของเขาเลย เขายืนอยู่ตรงนั้น สายตาจับจ้องอยู่ที่เสิ่นหยินอู้ที่นอนอยู่บนเตียง
หมอกำลังตรวจอาการของเสิ่นหยินอู้
หลังจากตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว หมอก็ถอดแว่นออก แล้วพูดกับโม่ไป๋ว่า “คุณโม่ ดูเหมือนคุณผู้หญิงท่านนี้จะมีแค่แผลที่ผิวเผินเท่านั้น ส่วนอื่นๆ ไม่น่ามีปัญหาอะไรครับ”
เมื่อเกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ได้ยินหมอบอกว่าเสิ่นหยินอู้มีแค่บาดแผลที่ผิวเผิน ก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที
ยังดีที่เป็นแผลแค่ที่ผิวเผิน ถ้าเธอได้รับบาดเจ็บรุนแรงกว่านี้ เกรงว่าเขาคงไม่รอดชีวิตจากความโกรธของโม่ไป๋
ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าผลักแค่นั้นไม่น่าเป็นอะไร แต่กลับกลายเป็นว่าผู้หญิงคนนี้บอบบางมาก แค่ผลักนิดเดียวก็น็อกหมดสติไปได้"แต่ว่า......"
ไม่คิดเลยว่าหมอจะเปลี่ยนคำพูดขึ้นมาทันทีโม่ไป๋ที่ยังคงกังวล ได้ฟังก็ขมวดคิ้วขึ้นทันที "แต่ว่าอะไร?""แต่ว่าสิ่งที่ผมตรวจได้ตอนนี้มีแค่แผลภายนอกเท่านั้น เนื่องจากคุณผู้หญิงได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ ควรพาไปโรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจสอบเพิ่มเติมเมื่อเธอตื่นแล้วครับ"เมื่อได้ยิน โม่ไป๋ก็เข้าใจสิ่งที่หมอหมา

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 908

    "พี่โม่ไป๋ ฉัน......""ออกไปให้พ้น!"
เขามักจะอบอุ่นอ่อนโยนเสมอ ไม่ว่าเมื่อไหร่ ในสายตาของหรงเค่ออิน โม่ไป๋ก็เป็นตัวแทนของสุภาพบุรุษมาโดยตลอด ดังนั้นวันนี้ที่เขาเปลี่ยนสีหน้าและพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่ดุดัน ทำให้หรงเค่ออินตกใจกลัว
เธอยืนตะลึงมองโม่ไป๋อยู่สักพักกว่าจะได้สติ แล้วจึงหันหลังวิ่งออกไป
พอหันมาก็เจอเกาอวี่ที่พาหมอกลับมา เกาอวี่เห็นหรงเค่ออินมีสีหน้าลำบากใจเดินออกไป คาดว่าเธอคงไม่ได้รับการต้อนรับที่ดีจากโม่ไป๋ ทำให้เขาเองก็พลอยกังวลไปด้วยเมื่อเข้าไปข้างใน เขาไม่กล้าพูดอะไรที่มากเกินความจำเป็น ได้แต่พูดประเด็นหลักว่า "คุณโม่ หมอมาถึงแล้วครับ""เข้ามาดูหน่อย ว่าเธอบาดเจ็บตรงไหนบ้าง?"หมอเข้ามาตรวจดูอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อเห็นบาดแผลที่หน้าผากก็รีบทำแผลให้เธอ แล้วพูดว่า "ดูจากแผลนี้ น่าจะเป็นมาสักพักแล้วครับ"
เมื่อโม่ไป๋ได้ยินก็หรี่ตาลงท่าทางอันตราย รังสีรอบตัวก็เย็นเยือกขึ้นอีกหลายเท่า
เกาอวี่ถึงกับหดตัวด้วยความหวาดกลัว
เขาคิดว่าโม่ไป๋จะตำหนิเขา แต่เปล่าเลย โม่ไป๋แค่เตือนหมอให้ตรวจเสิ่นหยินอู้อย่างละเอียด แล้วค่อยหันมามองเขา"มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?"เมื่อได้ยิน เกาอ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 907

    หรงเค่ออินกับเกาอวี่ที่เดินตามหลังโม่ไป๋เข้ามา พอเห็นภาพนี้ก็หน้าถอดสี
ทั้งสองคนสบตากัน
"ทำไมถึงเป็นแบบนี้?"ทางด้านโม่ไป๋ที่อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นมา แสดงสีหน้าเย็นชาแล้วพูดว่า "ติดต่อให้หมอมาที่นี่ด่วน"
แม้จะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่พอเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น ทุกความรู้สึกในใจเขาก็ถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที
เขาไม่มีอารมณ์อื่นใด นอกจากความเป็นห่วงและกลัวว่าเธอจะเป็นอะไร
ปฏิกิริยาแรกของเขาคืออุ้มเธอขึ้นแล้วให้เกาอวี่ไปตามหมอ จากนั้นอุ้มเสิ่นหยินอู้วางลงบนเตียงนุ่มอย่างระมัดระวัง
เกาอวี่ไปตามหมอ ส่วนหรงเค่ออินยังอยู่ที่นี่จากนั้นเธอก็ได้เห็นกับตาตัวเองว่าโม่ไป๋อุ้มเสิ่นหยินอู้ขึ้นเตียงด้วยท่าทางเอาใจใส่และระมัดระวังแค่ไหน
ในใจเธอเต็มไปด้วยความอิจฉาและริษยา เธอรู้จักโม่ไป๋มานานขนาดนี้ แต่ไม่เคยเห็นพี่โม่ไป๋ดีกับผู้หญิงคนไหนแบบนี้มาก่อน
แต่ผู้หญิงคนนี้ มีสิทธิ์อะไรถึงได้รับการปฏิบัติเป็นพิเศษจากพี่โม่ไป๋?
พี่โม่ไป๋ชอบผู้หญิงคนนี้จริงๆ เหรอ?
คิดได้แบบนั้น หรงเค่ออินอดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองโม่ไป๋ กัดริมฝีปากตัวเองแล้วถาม "พี่โม่ไป๋ พี่ชอบเธอเหรอคะ?"
โม่ไป๋เหมือนจะไม่ได้ยิน

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 906

    พูดจบ เธอก็ปล่อยมือเกาอวี่ทันที จากนั้นวิ่งไปทางประตู "พี่โม่ไป๋! กลับมาแล้วเหรอคะ?"พอโม่ไป๋เดินเข้าประตูมาถอดเสื้อคลุมส่งให้คนใช้เสร็จ เขาก็เห็นหรงเค่ออินที่วิ่งเข้ามาหา ดวงตาเรียวยาวของเขาหรี่ลงทันที "หรงเค่ออิน? เธอมาที่นี่ได้ยังไง?"
ท่าทีเย็นชาของเขาทำให้หรงเค่ออินหยุดชะงักอยู่ตรงหน้าเขา
น้ำเสียงที่เขาพูดกับเธอเย็นชาสุดๆ ทำให้ใจของหรงเค่ออินชาไปครึ่งหนึ่ง เธอตัวเกร็งเล็กน้อยแล้วพูดเบาๆ ว่า "ฉัน ฉันคิดถึงพี่ ก็เลยมาหาค่ะ"
แต่น่าเสียดายที่สายตาที่โม่ไป๋มองเธอเหมือนมองคนแปลกหน้า พอฟังเธอพูดจบ เขาก็พูดด้วยเสียงเย็นชา "ใครก็ได้ พาหรงเค่ออินกลับไปที"
เกาอวี่ที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็พยักหน้ารับ"ได้ครับ คุณโม่""ไม่!" หรงเค่ออินรีบขัดขึ้น "พี่โม่ไป๋ เราไม่ได้เจอกันตั้งนาน ฉันอุตส่าห์ลางานมาเจอพี่ นี่พี่รังเกียจฉันขนาดนั้นเลยเหรอ?"เห็นได้ชัดว่าตอนนี้โม่ไป๋ไม่ได้สนใจเธอเลย แม้จะฟังที่เธอพูดไปแล้ว ในใจของเขาก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ กลับตอบอย่างเย็นชาว่า "ฉันไม่มีเวลาต้อนรับเธอตอนนี้ เธอกลับไปก่อน ไว้โอกาสหน้าค่อยมาใหม่"
พูดจบ โม่ไป๋ก็เดินตรงไปที่ชั้นบนทันที
เขามีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้อง

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 905

    หรงเค่ออินที่ตัดสินใจได้แล้วก็ดีใจเหมือนลิงโลดในใจ ก่อนจะหันมาถามว่า "พี่เกาอวี่ ตอนนี้พี่โม่ไป๋อยู่ที่ไหน เขาจะกลับมาเมื่อไหร่?""คุณโม่ไป๋กำลังทำธุระสำคัญอยู่ครับ คงจะกลับมาช่วงค่ำ คุณหรงจะอยู่ทานข้าวเย็นที่นี่เลยไหมครับ?"
หรงเค่ออินพยักหน้า
"ได้ค่ะ งั้นฉันจะอยู่ทานข้าวที่นี่ด้วยเลย"
พูดจบ เธอก็เหมือนนึกอะไรได้ หันไปมองห้องที่ล็อกอยู่พร้อมกับแค่นเสียง"ที่นี่......พี่โม่ไป๋คงไม่ได้มานานแล้วสินะ? ตอนนี้ดันกลับมาได้เพราะผู้หญิงคนนั้นเหรอ?"
ยิ่งคิด หรงเค่ออินก็ยิ่งโกรธ อยากให้แรงที่ใช้ผลักเธอตอนนั้นมากกว่านี้ เธอน่าจะสั่งสอนอีกฝ่ายให้มากกว่านี้
ช่างเถอะ ถ้าหากเธอพักอยู่ที่นี่บ่อยๆ โอกาสที่จะจัดการผู้หญิงคนนั้นยังมีอีกเยอะหรงเค่ออินที่จะอยู่ต่อ ก็ให้เกาอวี่สั่งคนในบ้านมาจัดห้องให้ แล้วให้ส่งกระเป๋าของเธอมาที่นี่ จากนั้นเธอก็พักอยู่ที่นี่เลย โดยที่ห้องของเธอเป็นห้องที่ใกล้กับโม่ไป๋
เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จ ก็ผ่านไปแล้วสามชั่วโมง หรงเค่ออินนอนอยู่บนเตียงใหญ่สักพัก ก่อนจะเดินออกไปถามเกาอวี่"ว่าแต่ ผู้หญิงที่พี่โม่ไป๋พากลับมา ได้สร้างความวุ่นวายอีกหรือเปล่า?"เกาอวี่ที่มัว

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 904

    ถึงแม้ว่าเกาอวี่จะไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ที่มีผลกระทบต่อโม่ไป๋ แต่เขาก็ไม่กล้าลงมือกับเธอ เขาไม่คิดว่าหรงเค่ออินจะยื่นมือผลักเธอเข้าไปแล้วปิดประตู
“คุณหรง......”หรงเค่ออินเงยหน้าขึ้นมองเขา “อะไรล่ะ? คุณไม่ได้บอกเหรอว่าเธอไม่อยากเข้าไป? งั้นฉันก็เลยใช้วิธีที่ง่ายที่สุดให้เธอเข้าไปไง พี่โม่ไป๋บอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้เธอหนีไปไหน? ทำไมยังไม่รีบล็อกประตูอีก?”
เกาอวี่นิ่งไปสักพักก่อนจะยิ้มออกมา“คุณหรงพูดถูก ผมจะล็อกประตูเดี๋ยวนี้”
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดี ล็อกประตูอย่างรวดเร็วแล้วจากไปตอนที่จากไป ทั้งคู่ก้าวเท้าออกไปอย่างสบายใจ ไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่อยู่ในห้องล้มลงกับพื้นหลังจากถูกผลัก
เสิ่นหยินอู้ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นจะวางอำนาจขนาดนี้ และยังลงมือผลักเธอเข้าไปในทันที
หัวของเสิ่นหยินอู้กระแทกอย่างแรงทำให้เธอรู้สึกเจ็บ เธอพยายามพยุงตัวขึ้นด้วยมือ แต่ก็เกิดอาการวิงเวียนจนไม่สามารถทรงตัวได้
เธอยื่นมือไปแตะที่ท้ายทอย และพบกับความเปียกชื้น
เธอยังไม่ทันได้มองความเปียกชื้นในฝ่ามือก็หมดสติไปอีกครั้ง
–
เกาอวี่เดินตามหรงเค่ออินลงบันได
“คุณหรง ทำแบบนี้อาจทำให้คุณโม่ไม่พอใจนะครับ”“

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 903

    ตอนขึ้นรถ เสิ่นหยินอู้เห็นที่นั่งข้างคนขับว่างอยู่ จึงนั่งลงตรงนั้นทันที
ที่นั่งนี้เดิมทีเป็นของผู้ช่วยเฉิน ดังนั้นเมื่อคนขับเห็นเสิ่นหยินอู้นั่งอยู่ตรงนั้น จึงมองไปทางผู้ช่วยเฉิน“คุณเสิ่น ที่นั่งข้างคนขับไม่ปลอดภัยนะครับ ให้……”“ฉันไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเลือกที่นั่งเลยเหรอคะ?”“ให้เธอนั่งเถอะ ขอแค่เธอสบายใจก็พอ”
เสียงของโม่ไป๋ดังออกมาจากหูฟังก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะทันได้พูดอะไร
ผู้ช่วยเฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอีก ทุกคนขึ้นรถทีละคน
เพราะก่อนหน้านี้คิดว่าเธอจะใส่แว่นตา รถจึงไม่ได้มีมาตรการป้องกันใดๆ เสิ่นหยินอู้สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนนได้อย่างเต็มตา
เธอมองเห็นทะเบียนรถ ไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็รู้ได้อย่างชัดเจนแล้วว่านี่คือที่ไหน
เสิ่นหยินอู้จึงนั่งสบายๆ ชมทิวทัศน์นอกหน้าต่าง รวมถึงสิ่งก่อสร้างต่างๆ
เส้นทางไม่ไกลนัก ประมาณหนึ่งชั่วโมง พวกเธอก็มาถึงที่หมาย
เสิ่นหยินอู้ลงจากรถตามหลังผู้ช่วยเฉินคำแรกหลังลงจากรถของเธอคือ “ฉินเย่ อยู่ไหน?”
ผู้ช่วยเฉินไม่ตอบ มีคนจากฝั่งประตูเดินเข้ามารับหน้าที่แทนเขาเขาพูดอะไรกับผู้ช่วยเฉินอยู่สองสามคำ ก่อนที่ผู้ช่วยเฉินจะจากไป และก่อนที่เขาจะไปเ

  • คนในใจเขากลับมา เลยต้องปิดเรื่องท้อง   บทที่ 902

    เกิดอะไรขึ้น?โม่ไป๋ไม่ได้ใช้ฉินเย่มาควบคุมเธอหรอกหรอ?
ทำไมถึงกลัวว่าเธอจะบอกคนอื่นล่ะ? ถึงเธอจะบอกคนอื่น แต่เธอก็ไปไหนไม่ได้ไม่ใช่หรอ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เสิ่นหยินอู้ก็รู้สึกไม่พอใจเห็นเธอยืนนิ่ง ๆ ผู้ช่วยเฉินก็พูดขึ้นว่า “คุณเสิ่น ถ้าคุณต้องการไปเจอคุณฉิน ก็กรุณาอย่าทำให้ทุกคนลำบากเลยครับ และอย่าทำให้เสียเวลา ถ้าคุณยอมเอาโทรศัพท์ให้เร็วขึ้น เราก็จะเดินทางกันเร็วขึ้น แต่ถ้าคุณไม่อยากให้ก็ได้ครับ เรามีเวลาอยู่ที่นี่กับคุณ”
ผู้ช่วยเฉินตอนนี้เหมือนคนละคนกับตอนที่อยู่บนเครื่องบิน
การสื่อสารที่ถูกตัดไปบนเครื่องบินตอนนี้น่าจะกลับมาแล้ว
พวกเขาน่าจะเข้าสู่สถานะที่ถูกดักฟังอีกครั้ง
ดูเหมือนว่าเธอจะต้องยอมให้โทรศัพท์ไปแล้ว
เมื่อคิดแบบนี้ เสิ่นหยินอู้ถึงยอมส่งโทรศัพท์ของเธอให้ผู้ช่วยเฉิน เขารับโทรศัพท์ไปกดปิดเครื่องและดึงซิมออกเสิ่นหยินอู้"......"
ทำแบบนี้อีกแล้ว สุดท้ายจะไม่ได้เอาโทรศัพท์ที่ไม่มีซิมคืนให้เธอหรอกใช่ไหม?
แต่ครั้งนี้เธอเดาผิด ผู้ช่วยเฉินไม่ได้คืนโทรศัพท์ให้เธอ แต่เก็บมันไว้ทั้งหมด
"เราไปกันเถอะครับ"
หลังจากนั้นตามการนำของผู้ช่วยเฉิน พวกเขาก็ไปที่ลานจอดรถใ

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status