“ตาแก่นั่นคงไร้น้ำยา ดูรึยังคับแน่นอยู่เหมือนเดิม”
“หยาบคาย”สายคาดเอวมัดอีกคนติดกับแท่นนอน
รอยยิ้ม ยียวนภายใต้เแสงไฟ
“มารื้อฟื้นความหลังกัน”
แหวกชายกระโปรงออกช้าๆ กดศีรษะลงไปลิ้นอุ่นซอกซอนที่กลีบบุปผาใช้ลิ้นอุ่นวน รอบๆ กระดกลิ้นรัวเร็วตรงกลางกลีบบุปผาจนเปาหลิวดิ้นพล่าน
“ปล่อยข้านะ”
“คนตาบอดยังรู้ว่าเจ้าเองก็ติดใจรสสวาทของข้า”
“ไม่มีทาง”
ลิ้นอุ่นยังซอกซอนกระดกเลีย จนน้ำหวานจากบุปผาฉ่ำเยิ้ม
“อย่าปฏิเสธเลย เจ้าเองก็อยากให้ข้าทำแบบนี้”
กดริมฝีปากลงบนปากบางบดเบียดเร่าร้อน เปาหลิวดิ้นรนเอาตัวรอด อุตส่าห์แต่งเข้าบ้านตู้ยังหนีไปไม่พ้นคนผู้นี้
เอวหนากดลงบนกลีบบุปผาฉ่ำเยิ้มแต่คับแน่น
“เห็นไหมแค่ทีสองทีก็ยังคับแน่นเหมือนเดิม ข้าชักจะชอบเจ้าแล้วสิ ข้ายินดีทุ้มเงินซื้อตัวเจ้าจากตาแก้ตู้นั่นคืน”
“หยาบช้าไปให้พ้น ข้าเกลียดท่านท่านมันก็แค่คนมักมากปล่อยข้า”
“ไม่มีทาง ข้าไม่มีทางปล่อยเจ้า ให้ข้าเชยชมอีกสักทีบางที เจ้าอาจติดใจ อย่าทำหยิ่งนัก ทองของข้าเจ้าก็ไม่ยอมรับหนีมาแต่งกับตาแก่นี่”
“ข้าเกลียดท่าน ข้าไม่มีทางจะยอมญาติดีกับท่าน ท่านทำลายข้าแล้วทำให้ข้าอับอายแล้ว สมใจท่านแล้ว ยังจะตามรังควานข้าทำไมกัน ตอนนี้ข้ามีสามีใหม่แล้วอย่าทำแบบนี้”
“ใครให้เจ้าไป ข้ายังติดใจรสสวาทเจ้า ข้าไม่ให้ไปเจ้ากล้าแต่งงานใหม่หรือ ข้าจะรังควานเจ้า หรือไม่ก็จะบอกกับตาแก่นั่นว่าข้าได้เจ้าก่อนเขา”
“ชั่วช้าที่สุด”
“ขอบคุณที่ชม ข้าไม่สนดีชั่วอยากได้ก็ต้องได้”
กดเอวกระหน่ำลงเน้นๆ จนเปาหลิวบิดกายร้องครางปากบางถูกปิดไว้เสียจากริมฝีปากอุ่น
“ขอหย่ากับตาแก่นั่นเสีย ข้าต้องการเจ้า”
ฟ่านหงเหวินเอ่ยปากกระซิบเสียงกระเส่า เร่งจังหวะรัวเร็ว
“อ่าาา ข้าชอบเจ้า ข้าต้องการเจ้าอ่าาาา”
เปาหลิวน้ำตาไหลริน ฟ่านหงเหวิน มองหยาดน้ำตาภายใต้แสงไฟ
“อย่าทำแบบนี้ข้ากำลังตั้งครรภ์ อย่าทำอีก”
ฟ่านหงเหวิน เงยหน้าขึ้นจ้องมองเปาหลิวราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน
“โกหก”
“เรื่องจริง ข้ากำลังตั้งครรภ์อย่าทำแบบนี้ได้โปรด”
ฟ่านหงเหวินแกะสายคาดเอวที่มัดเปาหลิวออก
“เจ้าท้องกับตาแก่นั่นหรือ บอกข้ามาเจ้าตั้งครรภ์กับตาแก่นั่นเช่นนั้นหรือ”
เปาหลิวหลับตาลงช้าๆ ไล่หยาดน้ำตา ดึงผ้าห่มห่มกายมิดชิด
“ไปให้พ้น ไปให้พ้นอย่ามาที่นี่อีก”
เปาหลิวคว้ามหมอนปาเข้าที่ใบหน้าของหงเหวินอย่างจัง สะอื้นอย่างหนักฟ่านหงเหวิน ถอนหายใจปีนออกจาห้องตรงช่องหน้าต่างหายไปกับความมืด เปาหลิวสะอื้นอย่างหนักทั้งเจ็บใจและโมโหที่ ถูกฟ่านหงเหวินคนชั่วนั่นรังแกซ้ำแล้วซ้ำอีก
“ข้าเกลียดท่าน เขาจะไม่มีทางรู้ว่าคนชั่วเช่นท่านเป็นพ่อของเขา”ยกมือลูบท้องเบาๆ
ด่านชายแดนร่างสูงของ ตู้อี้ซาก้าวขายาวๆ ยังค่าย ผู้ใช้แรงงานด่านชายแดน“ฟ่านหงเหวิน”ร่างผอมบางนอน อยู่แคร่ไม้ไผ่ ซูบผอมจนอี้ซาจำแทบไม่ได้เนื้อตัวมีแต่รอยแผลผุพองและรอยเลือดแห้งเกราะกรัง“อะอะอะ อี้ซา”“ข้า นำเงินมาไถ่ตัวท่าน อีกอย่างตอนนี้คือช่วงเปลี่ยนผ่านไม่มีฮ่องเต้ไม่มีไท่จือทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกันแล้ว ต่างชาติเข้ามาปกครองต้าชิงของเราจนสิ้น ฟ่านหงเหวินยิ้มเศร้าๆ“คงไม่ทันแล้วข้า คงไม่อาจกลับไปที่นั่น มิใช่แค่ไม่กล้าสู้หน้าเปาหลิวหากแต่แม้แต่ขยับกายข้ายังไม่อาจกระทำ ข้าทรมานเหลือเกินอี้ซาพูดกับนางแทนข้า บอกนางว่าข้าขอโทษ แค่กกก”เสียงหายใจหอบเหนื่อยอี้ซาลุกขึ้นมาชะโงกด้านหน้า“ใครก็ได้ตามท่านหมอข้ามีเงินทองมากมายตามท่านหมอมาตรวจดูอาการเขาที”คนติดตามมาประสานมือ“ท่านตู้ที่นี่ไร้หมอ อีกอย่าง”กระซิบข้างหูตู้อี้ซาเบาๆตู้อี้ซาหลับตาลงช้าๆ“มีเวลาอีกนานแค่ไหน”“อีกไม่เกินหนึ่งชั่วยามขอรับ ตอนนี้คุณชายฟ่านกระอักเลือดสดๆ ออกมาตั้งแต่เมื่อวาน นี่ก็ถือว่ามีความอดทนที่สุดแล้ว คงเพื่อรอพบท่านตู้คุณชายฟ่านจึงยังอยู่ถึงตอนนี้”“แค่กๆๆๆ ”ข้าจะพาเขากลับต้าชิงพวกเจ้าหาเกี้ยวและคนเพื่อพาคุณชา
ดวงตาเบิกโพลง พ่นเลือดสดๆ ออกมาก่อนที่วิญญาณจะหลุดออกจากร่าง“ถอยไปถอยไป”ผู้คุมใช้ทวนในมือกันให้หงเหวินถอยห่างออกไป“ตายเสียแล้ว ขอรับนายท่าน”“เอาไปเผา ตอนนี้กำลังเกิดโรคระบาด เผาให้สิ้นซาก”หงเหวินทอดถอนใจเขตวังหลวงต้าชิง“นายหญิงเจ้าขา คุณชายน้อย กับท่านตู้กลับมาจากบ้านตู้แล้วเจ้าค่ะ”ป้าเหยาเอ่ยปากเบาๆ เมื่อเห็นว่าเปาหลิวนั่งเหม่อมองไปไกล“ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ให้กับคุณชายด้วย อากาศข้างนอกหนาวเหน็บ ท่านตู้ตามใจคุณชายให้ออกไปตกปลาประจำ”“ทั้งสองคนเข้ากันได้ดีน่าชื่นใจยิ่งนัก”“ป้าเหยา ข้าได้ยินว่าเกิดโรคระบาดด่านชายแดน”ป้าเหยายิ้มบางๆ“นายหญิงเจ้าขา อย่าห่วงเลยเจ้าค่ะโรคระบาดไม่มาถึงนี่”เปาหลิวยิ้มเศร้าๆก่อนหน้านั้น“ เจ้าควรอภัยให้ฟ่านหงเหวินได้แล้ว เขารับกรรมที่ก่อไปแล้ว ต่อไปไม่แน่ว่าจะได้พบหน้ากันอีกหรือไม่ เขาฝากให้ข้าอี้ซาดูแลเจ้า แต่ทว่า เมื่อเจ้ายืนยันที่จะไม่แต่งกับข้าทางเดียวที่ทำได้คือ เราสองคนอยู่กันแบบสหายข้าสัญญาไม่มีทางทอดทิ้งโดดเดี่ยวเจ้า เงินทองที่เคยให้ก็ยังจุนเจือเหมือนเดิมที่ท่านพ่อเคยทำอย่างไรก็ยังอย่างนั้นเพราะเจ้าช่วยบ้านตู้ได้ไม่น้อยตอนนี้กิจการของบ้านตู้เป็น
“นี่เจ้า ตู้อี้ซาจะมากไปแล้วข้าเป็นถึงไท่จืออีกอย่างข้ากับฟงหงเหวินก็มีความสัมพันธ์อันดี ข้าจะให้ร้ายเขาได้อย่างไร”ตู้อี้ซายิ้มหยันหาได้รู้สึกหวาดกลัวในบารมีของฟงกัวไม่“ข้าได้ยินว่า ไท่จือยึดทรัพย์ของบ้านฟ่าน เป็นของตัวเองขับไล่มารดาของฟ่านหงเหวินออกจากแคว้นทรัพย์สินของบ้านฟ่านมีไม่น้อย แค่นี้ก็น่าจะเพียงพอแล้วยังถึงกับจะตัดรากถอนโคนเชียวหรือ”ฮ่องเต้ชราโบกมือห้าม เพราะกลัวว่าไท่จือจะถูกเปิดโปงมากไปกว่านี้และจะทำให้ความศรัทธาลดน้อยลงไปฮ่องเต้ชราก้มลงกระซิบกับขันทีข้างกายที่ก้าวออกมายืนข้างหน้า“ละเว้นโทษตาย เนรเทศออกจากต้าชิง ให้ใช้แรงงานยังด่านชายแดน ส่วนทรัพย์สินที่ยึดไว้ส่งเข้าคลังหลวงทำนุบำรุงต้าชิงเสีย”อี้ซา ส่ายหน้าไปมา อย่างน้อยก็ยังรักษาชีวิตของฟ่านหงเหวินไว้ได้หากเป็นก่อนนั้นคงถูกประหารทั้งๆ ที่ยังไม่ทันไต่สวนเดินไปข้างๆ ร่างผอมโซของฟ่านหงเหวินใบหน้าซีดเซียวหมดความองอาจที่ถูกจำกัดอิสรภาพโดยโซ่ตรวน“ข้าช่วยท่านได้แค่นี้จริงๆ คุณชายฟ่านขอให้ท่านโชคดี”“ข้า ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดจากด่านชายแดนได้หรือไม่ ข้า ..หวังเพียงว่านางจะอภัยให้ข้าและนางกับลูกของข้าจะมีความสุข อี้ซาดูแลน
ท้องพระโรง ฟ่านหงเหวินถูกคุมตัวมา ยังหน้าพระพักตร์ของฮ่องเต้ ขุนนางที่บ้านฟ่านเคยเกื้อหนุน ต่างถอนหายใจไม่อาจช่วยเหลือท่านตู้กับตู้อี้ซาสวมอาภรณ์แบบตะวันตก ท่านตู้ถือไม้เท้าพยุงตัวเหมือนแบบที่สมัยนิยม (ปีค.ศ1800ก่อนสงครามฝิ่น) ส่วนตู้อี้ซาสวมแว่นสายตาในมือถือไปป์“ตู้อ้ายซา ตู้อี้ซา ถวายพระพรฝ่าบาท”ฮ่องเต้ชราโบกมือให้ ทั้งสองคนลุกขึ้น ฟงกัวขมวดคิ้วด้วยความรู้สึกไม่พอใจ“ข้าน้อยสองคนเข้ามาฟังคำไต่สวน ความผิดของคุณชายฟ่านหงเหวิน” ฮ่องเต้ชรากระซิบกับขันทีชราข้างกายด้วยจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าใครคือฟ่านหงเหวินโบกมือให้ขันทีจีบปากจีบคอพูดแทน“ฟ่านหงเหวิน ความผิดลบหลู่เบื้องสูง กล้าส่งหญิงงามที่ด่างพร้อยมีรอยมลทินให้กับไท่จือประมุขตำหนักบูรพาด้วยหวังผลประโยชน์ในการส่งวัตถุดิบสำหรับห้องเครื่องเข้ามาในวังหลวงผูกขาดเพียงเจ้าเดียวมีความผิดมหันต์สมควรได้รับโทษตาย ประหารเจ็ดชั่วโครต แต่ด้วยพระบารมีและพระเมตตา จึงลดโทษให้แค่เพียงประหารตัวคนผิด คือฟ่านหงเหวินผู้ที่ทำการหลบลู่เบื้องสูงเท่านั้น”อี้ซา ยกไปป์ขึ้นจรดปากสูดควันเข้าไปเต็มปอดพ่นออกมาหนักหน่วง ไม่ได้สนใจสายตาของฮ่องเต้ ไท่จือหรือเหล่านางในที
“ทะทะไท่จือโปรดอภัยหรูหรานไม่ได้เป็นคนที่คิดจะหลอกลวงเบื้องสูง ตะตะแต่เป็นคุณชายฟ่าน ที่ ที่แอบพรากพรหมจรรย์ของข้าไปเสียก่อน” ฟงกัวยิ้มเย็น กระบี่ในมือเสียบเข้าที่ยอดอกของหรูหรานอย่างจัง“เลวที่สุดพวกเจ้ากล้า หลอกลวงเบื้องสูงกล้าหลอกลวงข้าคิดว่าข้าเป็นตัวตลกหรือไร”เช็ดรอยเลือดที่คมกระบี่ ก่อนจะก้าวขาจากไป“องครักษ์ส่งคนคุมตัวฟ่านหงเหวินมาที่ ตำหนักบูรพาข้าจะฆ่าเขาเสีย”กัดฟันจนเป็นสันนูน มิใช่แค่การเลี้ยงดูแต่ด้วยสันดานเดิมของ ฟงกัวที่ไม่เคยยอมใคร เขาจึงไม่ยอมให้ใครมาลูบคมได้ง่ายดายฟ่านหงเหวิน ป่านนี้คงเย้ยหยันที่เขา กินเศษเดนที่ฟ่านหงเหวินหยิบยื่นมาให้ฟ่านหงเหวิน กดริมฝีปากของกับปากบางของ เปาหลิวส่งต่อลมหายใจแบกร่างเล็กขึ้นบ่าวิ่งวนไปรอบๆ อี้ซาได้แต่ถอนหายใจ“แค่กๆๆๆ ”เปาหลิวส่งเสียงไอออกมาเบาๆ“คุณชายฟ่าน พานางไปที่ร้านหมอจะดีกว่า”อี้ซาเอ่ยปาก เมื่อเห็นว่าฟ่านหงเหวินทำอะไรไม่ถูก ด้วยความห่วงใยเปาหลิวฟ่านหงเหวินรีบอุ้มร่างบางของเปาหลิวยังร้านหมอแต่ไม่ทันจะก้าวเข้าไปในร้านหมอ ทหารนับสิบต่างวิ่งเข้ามารายล้อมรอบตัว“เกิดอะไรขึ้น”หงเหวินถามด้วยน้ำเสียงตื่นตกใจ“ฟ่านหงเหวินหลอกลวงเ
“ข้า ปักใจกับฟงหงเหวินก่อนที่จะถวายตัว เป็นฝ่าบาทที่ฝืนใจข้า และเป็นนางที่แย่งชิงเขาไป ข้าทำทุกวิถีทางเพื่อให้เขาใกล้ชิดข้า แม้ว่าเขาจะไม่มีใจให้ข้าก็ตาม”ฟงหงเหวินยิ้มหยันอี้ซายิ้มเศร้าเจ็บปวดใจอย่างที่สุดคำหวานของเปาหลิวที่ผ่านมา วนเวียนในหู นางล่อหลอกจนเขาตายใจเพื่อให้ฟงหงเหวินเข้ามาในวังหลวงอย่างแนบเนียน“เจ้ามีใจให้ฟงหงเหวินอย่างนั้นหรือ”“ข้ารักพี่ฟงรักเขามาตลอด แม้ว่าเขาจะไม่เคยรักหลิวหลิวคนนี้ก็ตาม เราสองคนไม่ควรต้องจากกัน เราสองคนไม่ควรต้องหลบซ่อน”เสียงแหบพร่า ฟงหงเหวินตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน“เจ้า เลือกเขาใช่ไหม เปาหลิวเจ้าเลือกฟงหงเหวิน ไม่เสียใจกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นใช่ไหมฮองเฮา”ฟงหงเหวินเองก็เจ็บที่ใจภาพความทรงจำที่ร่างเล็กของหลิวหลิววิ่งตามเขายามเยาว์วัยยังติดอยู่ในใจเปาหลิวก้มหน้านิ่ง ไม่เอ่ยคำใดเหมือนเป็นการตอบรับอี้ซายิ้มหยันชักกระบี่ข้างกายองครักษ์หมายจะเสียบคมกระบี่เข้าที่อกกว้างของฟงหงเหวินที่ถูกองครักษ์จับตัวไว้เสียให้ตายลงบัดนั้นทว่า“ฝ่าบาทอย่า”เปาหลิวถลาเข้าไปขวางคมกระบี่ที่คมกริบ ด้วยแรงโทสะคมกระบี่ในมือของอี้ซาเสียบทะลุอกขาวของเปาหลิวเลือดสีแดงไหลทะลักซ