ซูหว่านลงมือเก็บตำลึงหอบใหญ่ไว้ในอ้อมแขนเดินกลับบ้านทันที เมื่อมาถึงบ้านยัยป้าข้างบ้านชะเง้อชะแง้ตามประสาคนขี้เสือก
ซูหว่านเก็บฟักเขียวลูกโตไปวางไว้ในห้องครัว พลางหยิบมีดหั่นเปลือกบางๆของมันออก เผยให้เห็นเนื้อในที่เขียวสดใส ก่อนที่เสียงเบาๆจากในหัวจะดังขึ้นมา
ติ้ง……
เสียงดังก้องในหูของซูหว่าน พร้อมกับข้อความที่ปรากฏขึ้นในอากาศจางๆเป็นรูปจอสี่เหลี่ยมโปร่งแสง
"เช็คอินเป็นเวลาติดต่อกัน 3 วัน รับทันที 120 ฟองไข่ทองคำและเปิดใช้งานระบบแบบเต็มรูปแบบ ทั้งโต้ตอบและช่วยบริหารจัดการ"
"อะไรเนี่ย..." ซูหว่านหยุดมือที่กำลังหั่นฟักเขียว มองไปรอบๆตัวเองด้วยความงุนงง
ทันใดนั้น เสียงหนุ่มหล่อแปลกประหลาดก็เอ่ยขึ้นจากในหัวของนาง ราวกับว่าเป็นเสียงที่ออกมาจากโทรศัพท์มือถือหรือระบบคอมพิวเตอร์ที่ปรากฎอยู่ในอากาศ
"ออนไลน์…ยินดีต้อนรับสู่ระบบครัววิเศษ ข้าน้อยเสี่ยวปังเรียกง่ายๆก็ขนมปัง ยินดีให้บริการ ถามอะไรก็ได้ในทันที….."
เสียงนี้มีความนุ่มนวลและคมชัด ราวกับเสียงพากษ์พระเอกในซีรีส์จีนสุดเท่ เสียงของมันเต็มไปด้วยความมั่นใจและความตื่นเต้นที่อยากจะช่วยเหลือ
ซูหว่านเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดออกมาอย่างไม่แน่ใจ
“เสี่ยวปัง...เป็นใคร ระบบอะไร”
เสียงหนุ่มหล่อกลับมาตอบทันที ราวกับรู้คำถามก่อนที่ซูหว่านจะถามด้วยซ้ำ
"ข้าน้อยคือระบบครัววิเศษที่ถูกพัฒนาเพื่อช่วยผู้ใช้ในด้านการทำอาหารและการบริหารจัดการครัวของท่านในโลกนี้ ท่านจะสามารถปรุงอาหารและประสบผลสำเร็จ โดยระบบจะช่วยแนะนำวิธีปรุงอาหารและใช้สมุนไพรเพื่อสร้างเมนูที่มีประโยชน์ ข้าน้อยจะช่วยท่านในการคัดสรรวัตถุดิบที่ดีที่สุดเพื่อใช้ในการปรุงอาหาร และมอบความรู้ด้านสมุนไพรและเครื่องปุรง และทำให้ทุกเมนูของท่านกลายเป็นอาหารชั้นเลิศศศศศศศศศศ แต๋นแตนนนนนนน"
ซูหว่านยิ้มออกมาบางๆท่าทางงุนงงจากความแปลกใหม่ที่เกิดขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกตื่นเต้นไปด้วย
"แปลกจริงๆมีแบบนี้ด้วยหรือ แต่ก็มีประโยชน์...แล้วไอ้ 120 ฟองไข่ทองคำก็ไม่น้อยนะ"
เสี่ยวปังตอบกลับมาอย่างกระตือรือร้นและมีพลังเต็มเปี่ยม
"แน่นอน ท่านสามารถใช้ไข่ทองคำเหล่านี้เพื่อเพิ่มพลังในการปรุงอาหาร หรือแลกเปลี่ยนกับวัตถุดิบพิเศษเพื่อสร้างเมนูใหม่ๆได้ ข้าน้อยยังสามารถแนะนำวิธีจัดการครัวเพื่อให้ท่านทำงานได้เร็วขึ้นและลดความยุ่งยากในการหาอุปกรณ์ต่างๆแต่ไข่ทองคำทอดกินไม่ได้นะขอรับ"
ซูหว่านพยักหน้ายิ้มๆ เจ้าเสี่ยงปังรีบกล่าวต่อ
“ยิ่งทำครัวเลเวลยิ่งเพิ่ม ยิ่งเช็คอิน รายได้ยิ่งเพิ่ม เลเวลสามารถอัพสกิลวัตถุดิบและสินค้าในคลังระบบ ได้รับวัตถุดิยแรร์ไอเท็มและการรายได้ที่แทนที่ด้วยหน่วยของไข่ทองคำ ส่วนไข่ทองคำยังสามรถนำใช้แลกซื้อสินค้าในระบบได้ทันทีเลยขอรับ”
“ดีจัง มีแต่ได้กับได้สินะ เอาล่ะ ขอบใจนะเสี่ยวปัง งั้น...มาเริ่มต้นกันเลยไหม"
ซูหว่านยิ้มอย่างมั่นใจแม้ว่าจะไม่แน่ใจว่าระบบนี้จะช่วยอะไรได้บ้างแต่การได้ยินเสียงของมันก็ทำให้รู้สึกเหมือนมีเพื่อนร่วมทางที่พร้อมจะช่วยเหลือ อีกอย่างเคยเห็นพวกนี้ในนิยายมาก่อน ดีจังที่ในชีวิตที่ลำบากแบบนี้ก็ยังมีตัวช่วยแบบนี้
"ข้าน้อยยินดีเสมอขอรับนายหญิง เริ่มต้นที่เมนูลดไข้ให้เด็กๆใช่ไหมขอรับ หากท่านต้องการเคล็ดลับหรือวิธีที่ดีที่สุด ข้าน้อยพร้อมแนะนำทันที"
เสียงของเสี่ยวปังดังก้องขึ้นในหูของซูหว่านและทำให้รู้สึกเหมือนพบพลังใหม่ในการช่วยเหลือเด็กๆ ที่กำลังป่วยอยู่ในตอนนี้
ในครัวไม้เก่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นสมุนไพรและความเร่งรีบ ซูหว่านกำลังล้างฟักเขียวลูกใหญ่ที่พึ่งเก็บมา เสียงทุ้มหล่อกระชากใจดังขึ้นในหัวอีกครั้ง
“ท่านผู้ใช้ ฟักเขียวมีคุณสมบัติแก้ร้อนใน ลดไข้ ส่วนตำลึงนั้นดับพิษร้อนและช่วยเสริมกำลังเด็กเล็กได้อย่างดี หากนำสองอย่างมาปรุงรวมกันจะกลายเป็นเมนูลดไข้ชั้นยอด”
ซูหว่านชะงัก มือที่กำลังหั่นฟักเขียวหยุดค้าง นางเอียงศีรษะพลางยิ้มบางๆ “แล้วเมนูไหนดีเล่าเสี่ยวปัง ที่ทั้งกินง่ายและเด็กๆ จะยอมรับ”
เสียงหนุ่มคนนั้นหัวเราะเบาๆ แฝงความอบอุ่นราวกับกำลังเล่านิทานให้เด็กฟัง
“ข้าแนะนำ ซุปฟักเขียวตำลึงใสไก่ฉีก น้ำซุปใสแต่กลมกล่อม อ่อนโยนต่อกระเพาะเด็กๆ ใช้ฟักเขียวหั่นเต๋าเล็กๆเคี่ยวกับไก่ฉีกนุ่มๆ แล้วใส่ยอดตำลึงลงไปตอนท้ายเพื่อคงความสดกรอบ”
ภาพในหัวซูหว่านเหมือนเห็นชามซุปใสร้อนๆไอหอมกรุ่นลอยขึ้นมา นางถึงกับกลืนน้ำลายเบาๆ
“ฟังดูน่ากิน…แต่เครื่องปรุงเล่า ข้าไม่มีซุปกระดูกไก่หรือเครื่องเทศเลย”
เสียงทุ้มตอบทันทีด้วยความมั่นใจ
“ไม่เป็นไร ข้ามีวิธี ตอนนี้ท่านมีไข่ทองคำในระบบอยู่ 120 ฟอง สามารถใช้แลกวัตถุดิบชั้นดีได้ทันที เช่น ซุปกระดูกไก่เข้มข้น เครื่องปรุงพื้นฐานอย่างเกลือบริสุทธิ์จากเหมืองหิมะ และซีอิ๊วใสที่หมักด้วยถั่วเหลืองแท้ๆ”ทันใดนั้นเบื้องหน้าซูหว่านมีหน้าต่างแสงโปร่งใสลอยขึ้น พร้อมรายการวัตถุดิบกับราคาที่ใช้ไข่ทองคำแลกเปลี่ยน
ซุปกระดูกไก่เข้มข้น – 10
ฟองเกลือบริสุทธิ์จากเหมืองหิมะ – 2 ฟอง
ซีอิ๊วใสหมักถั่วเหลืองแท้ – 5 ฟอง
ซูหว่านหัวเราะเบาๆพลางพึมพำ
“เหมือนตลาดเวทมนตร์เลยนะ เจ้าเสี่ยวปังนี่…น่าสนุกทีเดียว”
เสียงหนุ่มในหัวเอ่ยขึ้นอย่างภูมิใจ
“เพราะครัววิเศษ ไม่ใช่ครัวธรรมดา ท่านผู้ใช้เพียงคิด…อาหารชั้นยอดก็จะเกิดขึ้นเพื่อปกป้องผู้ที่ท่านรัก”
ซูหว่านยิ้มกว้างขึ้น นัยน์ตาทอแววมั่นใจ ก่อนเอ่ยเสียงหนักแน่น
“ตกลง เสี่ยวปัง ข้าใช้ไข่ทองคำแลกทั้งหมดนี่…คืนนี้เด็กๆ ต้องได้ซุปที่ดีที่สุด”
ติ้ง
เสียงระบบดังขึ้นอีกครั้ง ไอแสงกระพริบ วัตถุดิบหอมกรุ่นปรากฏบนโต๊ะไม้ตรงหน้าทันที กลิ่นซุปกระดูกไก่หอมหวลลอยมา ทำให้ซูหว่านมั่นใจว่าครั้งนี้…เด็กๆจะต้องฟื้นไข้แน่นอน
เสียงสัญญาณการประกวดการแข่งขันดังขึ้นจากทุกทิศทาง ผู้เข้าแข่งขันต่างเตรียมพร้อมและทำอาหารด้วยความมุ่งมั่น บรรยากาศในงานเต็มไปด้วยความตึงเครียดและความคาดหวังจากทุกฝ่าย ท่ามกลางกลิ่นหอมของอาหารหลากหลายชนิดที่เต็มไปด้วยความพิเศษและรสชาติที่ไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อนท่านฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรไปยังเหล่าผู้เข้าแข่งขันแต่ละรายพร้อมกับขันทีข้างกายที่คอยรายงานข้อมูลและชี้ชวนให้ดูยังจุดต่างๆ ภายในบริเวณงาน การมองลึกๆ ของพระองค์สะท้อนถึงความใส่ใจในทุกรายละเอียด และความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับการประกวดในครั้งนี้"นั่นใช่ไหม เปิ่นหลี่ของอ๋องแปด"ฮ่องเต้ถามพร้อมกับมองไปยังผู้เข้าแข่งขันในชุดประดับที่เด่นชัดขันทีข้างกายยิ้มและตอบอย่างนอบน้อม "พ่ะย่ะค่ะ ความจริงแล้วโรงเตี๊ยมที่ลงแข่งขันทั้งหมดล้วนมีจุดเด่น และเปิ่นหลี่ของอ๋องแปดก็เป็นหนึ่งในนั้น ข้าว่าท่านอ๋องแปดคงคิดหนักหน่อยเมื่อเห็นผู้เข้าแข่งขันเหล่านี้ ทุกคนล้วนมาเพื่อแข่งขัน"ฮ่องเต้พยักหน้าแล้วทอดพระเนตรต่อไปที่ผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ ก่อนจะเลื่อนสายตามาหยุดที่ซูหว่าน ที่กำลังก้มลงเติมฟืนในเตาอย่างมุ่งมั่นท่ามกลางเตาอาหารที่ยังคงคุกรุ่นไปด้วยความร้
ไม่ใช่คู่แข่งที่น่ากลัวแต่ก็ประมาทไม่ได้ โรงเตี๊ยมผิงจื้อมีชื่อด้านสุราหอมหวนอาหารที่ทำล้วนแต่เป้นกับแกล้มที่คยนกินรุ้สึกสึกปากเมื่อต้องกินคู่กับสุราฉะนั้นประมาทไม่ได้เรื่องรสชาติอาหารที่จัดจ้าน” ซูหว่านพยักหน้ายิ้มๆด้านข้างหอโอชารสที่เข้าแข่งขันครั้งนี้ด้วย ป้ายแผ่นไม่ด้านหลังงดงามด้วยตัวอักษรที่พลิ้วไหว“หอโอชารส”“หอโอชารส ส่วนมากจะปรุงอาหารที่นิยมในหมู่ขุนนางและคนในราชสำนักนับว่ายกระดับอาหารจากที่ชาวบ้านกิน ส่วนมากแล้วขุนนางในราชสำนัมักจะนัดพบปะพูดคุยหารือเรื่องต่างๆ หรือตกลงกันด้วยเรื่องการเมืองมักจะมากินอาหารที่นี่เสมอมีทั้งสุราดีและนารีที่งดงาม” ซูหว่านยิ้ม“แล้วนั่นล่ะค่ะ” ชี้มือไปที่ด้านนซ้ายนถัดจากโรงเตี๊ยมไห้ถัง“นั่นโรงเตี๊ยม จือฮวาที่แค่คงตั้งใจเข้ามาร่วมการแข่งขันเพื่อให้คนรู้จักมากขึ้นเพราะข้าเพิ่งเห้นว่าดรงเตี๊ยมแห่งนี้เพิ่งจะเปิดได้ไม่กี่วัน” ฟงหงเหวินชี้มือไปที่โรงเตี๊ยม เปิ่นหลี่“เปิ่นหลี่”“นั่นคือคู่แข่งคนสำคัญเพราะเป็นโรงเตี๊ยมที่ขายให้เฉพาะคนในราชสำนักีรุ้ใจเข้าใจคนในวังหลวงว่าชมชอบอาหารแบบไหนซึ่งคนในวังหลวงก็มีฝ่าบาทในนั้นด้วยเกรงวาสครึ่งใจของฝ่าบาทจะเทไปที่เ
ซูหว่านก้มมองตัวเองพร้อมกับรอยยิ้ม แสงแดดอ่อนๆ ที่ส่องเข้ามาทำให้ดูสง่างามอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ชุดกี่เพ้าแบบฟ้าขาวทำให้ดูสวยงามและสงบเยือกเย็น แต่ก็มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น เข้ากับบุคลิกของซูหว่านอย่างลงตัวฉายหยาเลิกคิ้วขึ้น พลางมองไปที่ซูหว่านจากหัวจรดเท้าแล้วพูดด้วยน้ำเสียงใสซื่อ"อ่อ พี่เซิ่นหยี่ยนเข้าใจหาลูกค้านะคะ นางกำลังจะลงแข่งขันการปรุงอาหาร สวมอาภรณ์ที่มาจากผ้าเนื้อดีและตัดเย็บมาจากร้านหวงฝูเหอแบบนี้ เท่ากับช่วยโฆษณาสินค้าของร้านหวงฝูเหอสินะคะ เพราะว่านางเป็นหญิงเพียงคนเดียวที่ลงแข่งขันในครั้งนี้ ทุกสายตาในงานเทศกาลจะต้องจับจ้องมาที่นาง อาภรณ์ชุดนี้พออยู่บนตัวนางยิ่งทำให้นางดูงดงาม แบบนี้หญิงงามทั้งเมืองจะต้องอยากได้ชุดแบบนี้บ้างสินะคะแล้วร้านหวงฝูเหอก็จะ ทำยอดขายเป็นกอบเป็นกำสินะคะ พี่เซิ่นเหยี่ยนนี้สุดยอดจริงๆ"คำพูดของฉายหยาเหมือนมีแรงกดดันบางอย่าง และเมื่อพูดถึงร้านหวงฝูเหอ น้ำเสียงนั้นก็เหมือนจะตีความว่าเซิ่นเหยี่ยนกำลังใช้ซูหว่านเป็นเครื่องมือในการโฆษณา แม้ว่าคำพูดของฉายหยาออกจะดูเหมือนการชมเชย แต่ก็แฝงไปด้วยการวิจารณ์บางอย่างเซิ่นเหยี่ยนถอนหายใจ เขากลับรู้ส
เซิ่นเหยี่ยนก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ข้างๆ ฉายหยาที่เกาะแขนของเขาเดินไปติดๆ ในขณะที่ทั้งคู่เดินไปข้างหน้า หยางลู่ที่เดินอยู่ข้างหลังอดไม่ได้ที่จะเงยหน้าขึ้นมอง ทั้งๆ ที่พยายามทำใจให้สงบ แต่ทว่าความรู้สึกบางอย่างกลับฉุดรั้งให้ไม่สามารถละสายตาจากแผ่นหลังของเซิ่นหยี่ยนได้เซิ่งเจี๋ยที่ยืนอยู่ข้างหน้าเห็นหยางลู่ที่เดินเข้ามาใกล้ก็ยกมือขึ้นมาโบกให้กับหยางลู่รอยยิ้มบนใบหน้า แม้จะเป็นเพียงการแสดงออกธรรมดา แต่ก็ไม่ได้แสดงถึงความรู้สึกบางอย่างในเมื่อหยางลู่สวมชุดสีแดงเพลิงสะดุดตาขนาดนั้นฉายหยาที่เห็นเซิ้งเจี๋ยโบกมือก็พูดขึ้นยิ้มๆ"พี่จะไปหาพี่เซิ่งเจี๋ยก็ได้นะคะ ส่วนข้ากับพี่เซิ่นเหยี่ยนเราจะได้ใช้เวลาด้วยกันเพียงลำพัง พี่เองก็จะมาเดินตามเราทำไมกัน" เสียงของฉายหยาที่พูดด้วยท่าทางไร้เดียงสาแทรกเข้ามาในหูของหยางลู่ แม้รอยยิ้มใสใสที่ส่งมาเป็นเพียงแค่การแสดงออกภายนอก แต่หยางลู่กลับเห็นสิ่งที่ซ่อนอยู่ในแววตาของฉายหยาความเย้ยหยันที่แฝงมาในท่าทีที่แสนสงบ ทำให้รู้สึกไม่พอใจ"อืม เข้าใจแล้ว ก็น่าเห็นใจเจ้านะฉายหยานานๆ ครั้งไม่สิคงไม่มีโอกาสได้เดินเคียงข้างคุณชายหวงสินะ วันนี้จึงอยากจะใช้โอกาสนี้ใ
รถม้าหลายคันเคลื่อนเข้ามาอย่างรวดเร็ว ล้อไม้ดังเสียงกรอบแกรบขณะที่พาหนะแต่ละคันวิ่งเข้ามาหยุดยังบริเวณงาน บริเวณนี้เต็มไปด้วยคนของโรงเตี๊ยมทั้งใหญ่และเล็ก ทุกคนต่างช่วยกันจัดเตรียมทั้งอุปกรณ์ทำอาหารและการก่อเตาฟืนกลางแจ้งเพื่อใช้ในการแข่งขันครั้งนี้"ทุกอย่างพร้อมแล้วใช่ไหม" เสียงของเซิ่งเจี๋ยดังขึ้นในระหว่างที่เขากำลังเดินไปมาในพื้นที่ เขายืนอยู่ในชุดสูทที่ทันสมัย ดูสง่างามและนอบน้อม ในขณะที่ขุนนางที่มีตำแหน่งสูงต่างๆ เดินผ่านมา พวกเขาหยุดและกล่าวทักทายเขาด้วยท่าทางสุภาพ จนทำให้บรรยากาศรอบๆ ยิ่งดูเป็นทางการและยิ่งใหญ่“จอมปลอม” ซูหว่านเผลอพึมพำเบาๆรุ้สึกหนักอึ้งกับภาพตรงหน้าเซิ่งเจี่ยคนเดียว“เจ้าว่าอะไรนะ”“อ่อเปล่า…….ข้ากำลังรู้สึกว่าฮ่าาาๆๆๆๆบางอย่างมันดูยิ่งใหญ่ที่สุดเลยจริงๆไม่เคยเห้นอะไรแบบนี้มาก่อนงานปีใหม่นี่ดีจริงๆนะฮ่าาาาา”"หลังจากจบการแข่งขันการทำอาหารข้าจะพาเจ้าเดินชมงานเทศกาลรอบๆ ที่นี่มีของขายมากมายและยังมีการแสดงหุ่นกระบอกกับการร่ายรำกระบี่ที่หาดูยากแล้วในตอนนี้อีกด้วย" ซุหว่านพยักหน้ายิ้มๆ"ขอบคุณคุณชายมากๆเลยคะ ข้าคงใจจดจ่อที่การแข่งขันในตอนนี้ แต่พวกเด็กๆไม่รอแล้ว
ก่อนจะตอบออกไปอีกทีอย่างรวดเร็ว "ไม่ ไม่ยกเว้นใครทั้งนั้น!"หยางลู่ผุดลุกขึ้นแล้วเดินไปที่หน้าต่าง มองไปข้างนอกที่มีแสงจากพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า "เราจะต้องเหนือกว่าทุกคนที่นี่โดยเฉพาะซูหว่านนางขอทานนั่น ที่นี่เรามีเงิน มีอำนาจ ทุกอย่างที่คนธรรมดาไม่มี คุณจะกลัวทำไม ซูหว่านก็แค่ผู้หญิงไร้พิษสงคนหนึ่งเท่านั้น!"คำพูดของหยางลู่ยังดังก้องในห้อง แต่เซิ่งเจี๋ยกลับมองไปที่หยางลู่ด้วยแววตาที่ไม่อาจบอกได้ว่ากำลังคิดอะไร เขายังคงเงียบ และท่าทางนั้นทำให้หยางลู่หันกลับมามองเขาด้วยความสงสัย"คุณไม่เชื่อใช่ไหมคอยดูก็แล้วกัน ซูหว่านจะต้องไร้ที่ยืนที่นี่" หยางลู่ถามเสียงต่ำเซิ่งเจี๋ยพยักหน้าอย่างช้าๆ เขารู้ดีว่าไม่ใช่แค่ซูหว่านที่เขาต้องระวัง แต่ยังมีคนอื่นๆ ที่เขาต้องคิดถึงอีกมากมาย... " คุณเกลียดอะไรเขาหนักหนาผมไม่เข้าใจ ผมก็แค่ไม่อยากเห็นความผิดพลาดครั้งใหญ่" เขาพูดเบาๆหยางลู่ยิ้มหยัน"ไม่ต้องห่วง คุณชายเซิ่งเจี๋ย ฉันจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง ที่นี่จะไม่มีคำว่าผิดหวังในเมื่อต้นทุนเรามาดีขนาดนี้ฉันถึงปฏิเสธระบบบ้าบอนั่นอย่างไรเล่า"หยางลู่พูดก่อนจะหันกลับไป และจากไปด้วยท่าทีที่มั่นใจ จะไม่ยอมให้ใ