ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐินียุค 80

ทะลุมิติมาเป็นเศรษฐินียุค 80

last updateLast Updated : 2025-11-26
By:  ลัยลาUpdated just now
Language: Thai
goodnovel12goodnovel
Not enough ratings
8Chapters
8views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

‘ด้วยความรู้ความสามารถของเธอในยุคสมัยนี้ รับรองว่าต้องนำพาสกุลลู่ให้เจริญรุ่งเรืองและมั่งคั่งร่ำรวยได้ไม่ยาก’เมิ่งเหยาคิดพร้อมยิ้มพอใจกับโอกาสอันน่ามหัศจรรย์ที่ทำให้เธอได้มาใช้ชีวิตใหม่ในยุคแปดสิบ

View More

Chapter 1

ตอนที่ 1 กู้ชีพอย่างเร่งด่วน

ณ.เมืองหวงซานทางตอนใต้ของมณฑลอานฮุย เมืองแห่งขุนเขาและสายน้ำที่งดงาม ลู่เมิ่งเหยาหญิงสาวอายุ 17 ปี บุตรสาวเจ้าของไร่ชาลู่ชางเฉินได้รับบาดเจ็บพลัดตกลงมาจากเชิงเขาขณะเดินทางนำอาหารกลางวันมาส่งให้พ่อแม่ของเธอซึ่งทำงานอยู่ในไร่ชา

“เหยาเอ๋อ เหยาเอ๋อ เป็นยังไงบ้างลูก เหยาเอ๋อ” อู๋ซินเจียงร้องเรียกบุตรสาวด้วยความเป็นห่วงหลังทราบจากคนในไร่ว่าเมิ่งเหยาเกิดอุบัติเหตุ ขณะที่ตัวเธอเองและพ่อของเมิ่งเหยา ลู่เจียงเฉินกำลังช่วยกันเก็บใบชากับลูกจ้างอยู่ในไร่

“เหยาเอ๋อ อย่าเป็นอะไรนะลูก” เจียงเฉินเอ่ยอย่างร้อนใจ ก่อนจะก้มตัวลงมาหมายจะอุ้มบุตรสาวเพื่อพาเธอไปหาหมอ

“หยุดก่อนครับ อย่าเพิ่งเคลื่อนย้ายเธอ” เสียงร้องห้ามดังมาแต่ไกล จากนั้นไม่นานนักชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งก็รีบเดินตรงเข้ามายังสถานที่เกิดเหตุ

“เสี่ยวเฉิน ช่วยด้วย ช่วยเหยาเอ๋อด้วย” ซินเจียงเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาคือแพทย์ทหาร ซุนมู่เฉินบุตรชายสหายบ้านใกล้เรือนเคียงที่รู้จักคุ้นเคยกันมานานก็รีบบอกให้เขามาช่วยดูอาการบุตรสาวด้วยสีหน้าวิตกกังวล

มู่เฉินพยักหน้าพร้อมเดินตรงเข้ามายังร่างที่สลบไสลไม่ได้สติทันที ก่อนจะนั่งลงข้างร่างแบบบางของเมิ่งเหยาและลงมือตรวจสอบสภาพร่างกายเธอ ซึ่งหากดูจากภายนอกมีเพียงบาดแผลถลอกเล็กๆน้อยๆเท่านั้น เขาจับชีพจรของเมิ่งเหยาพบว่ายังคงมีสัญญาณชีพอยู่ หากแต่ร่างแบบบางกลับหมดสติราวกับหลับใหลไปทั้งอย่างงั้น

‘ไม่ได้การล่ะ เป็นแบบนี้อันตรายมาก ต้องพยายามทำให้เธอฟื้นคืนสติขึ้นมาก่อน’ มู่เฉินคิด เดิมทีเขาเป็นคนเมืองหวงซานแต่ครอบครัวย้ายไปอยู่ที่เมืองเซินเจิ้นนานหลายปีแล้ว เนื่องจากบิดาเขาปลดประจำการจากกองทัพหลังปฏิบัติภารกิจได้รับบาดเจ็บจนร่างกายไม่แข็งแรงพอที่จะปฏิบัติหน้าที่รับใช้หน่วยงานต่อไปได้ จึงออกจากราชการแล้วหันมาประกอบธุรกิจทำการค้าแทน

โดยครอบครัวสกุลซุนย้ายจากเมืองหวงซานไปอยู่ที่เซินเจิ้นซึ่งนายท่านซุนมองว่ามีหนทางก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากอยู่ติดกับเขตการปกครองพิเศษอย่างฮ่องกงที่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษนับตั้งแต่ปี ค.ศ.1841 จากข่าววงในของเหล่าสหายหลังจากการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองจะมีการเปิดประเทศ สนับสนุนส่งเสริมการค้าอย่างเสรี ทำให้เซินเจิ้นมีโอกาสมากในการดึงเงินลงทุนจากชาวต่างชาติเข้ามาในพื้นที่สร้างความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจได้อย่างมากมายมหาศาล

นายท่านซุนที่มีแหล่งข่าวและคนรู้จักผู้คนในระดับสำคัญของประเทศจึงย้ายครอบครัวมาเปิดกิจการทางด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยใช้ทรัพย์สินเดิมของบรรพบุรุษที่มีอยู่มากมายก่อนหน้านั้นแล้วเป็นเงินลงทุน ต่อยอดขยายธุรกิจให้ก้าวหน้า จนมีรากฐานมั่นคงในเซินเจิ้นมาถึงทุกวันนี้

ในขณะที่ภรรยาของเขา คุณนายลู่หรือเหวินลี่เจียงแม่ของมู่เฉินเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลกลางของเซินเจิ้น เช่นเดียวกันกับน้องชายของเขาซุนลี่จิ่นซึ่งเป็นแพทย์ทำงานอยู่ที่เดียวกัน ยกเว้นมู่เฉินที่ทำงานประจำอยู่ในโรงพยาบาลแพทย์ทหารที่ปักกิ่งหลังเรียนจบมานานหลายปี ก่อนตัดสินใจย้ายมาประจำอยู่ที่เซินเจิ้นเมื่อไม่นานมานี้ และยังคงปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาลแพทย์ทหารซึ่งตั้งอยู่ในเมืองเซินเจิ้นนั่นเอง

และครั้งนี้ที่มู่เฉินเดินทางกลับมาเมืองหวงซานบ้านเกิดอีกครั้งเนื่องด้วยพ่อของเขา นายท่านซุนสั่งให้มาพูดคุยเรื่องที่สหายสนิทอย่างสกุลลู่ ต้องการส่งบุตรสาวมาเรียนที่เซินเจิ้นซึ่งเจริญก้าวหน้ามากขึ้นทั้งยังมีสหายที่ไว้วางใจได้อย่างพ่อของเขาอยู่ที่นั่นด้วย

เพิ่งมาถึงวันแรกมู่เฉินก็ต้องมาเจอเหตุการณ์คาดไม่ถึงเช่นนี้แล้ว งานนี้เขาต้องทำซีพีอาร์ (CPR : Cardiopulmonary Resuscitation การนวดหัวใจผายปอดกู้ชีพ) เพื่อช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อรักษาชีวิตเมิ่งเหยาเอาไว้

คิดได้ดังนั้นมู่เฉินก็ไม่ลังเลลงมือปั๊มหัวใจเมิ่งเหยาโดยไม่รอช้าท่ามกลางสายตาคนทั้งหมู่บ้านฉางจงไห่ ที่ต่างพากันตกอกตกใจเพราะไม่รู้จักคุ้นเคยกับการช่วยเหลือที่ค่อนข้างจะแนบชิดเช่นนี้มาก่อน

“เสี่ยวเฉินจะทำอะไรน่ะ” ซินเจียนแม่ของเมิ่งเหยาตกใจเมื่อเห็นว่ามู่เฉินใช้สองมือปั๊มลงไปบริเวณหน้าอกของบุตรสาวซึ่งในสายตาของผู้ไม่รู้นับเป็นเรื่องเสื่อมเสียอย่างยิ่ง

“ผมจำเป็นต้องปั๊มหัวใจให้เมิ่งเหยาฟื้นครับป้าลู่” มู่เฉินตอบขณะลงมือปั๊มหัวใจให้เมิ่งเหยาอย่างต่อเนื่องแต่เธอยังคงนอนแน่นิ่งไม่ได้สติ

“แต่ว่ามัน...” ซินเจียงตั้งท่าจะเอ่ยคัดค้านเพราะไม่เข้าใจในขั้นตอนการช่วยชีวิต

“อาเจียง อย่าเพิ่งกวนเสี่ยวเฉิน เขาเป็นหมอรู้ว่าควรทำยังไง” เจียงเฉินเอ่ยห้ามภรรยาเอาไว้ แม้นจะไม่เข้าใจการกระทำเช่นนั้นของมู่เฉิน หากแต่ก็มั่นใจในตัวบุตรชายสหายสนิท  ซินเจียงจึงทำได้แต่มองดูนิ่งๆด้วยสีหน้าท่าทางวิตกกังวล ทั้งห่วงชีวิตบุตรสาว แล้วตอนนี้ยังต้องมากังวลถึงชื่อเสียงของเมิ่งเหยาด้วย

‘แย่แล้ว ดูเหมือนว่าการปั๊มหัวใจเพียงอย่างเดียวจะไม่ได้ผล’ มู่เฉินคิดหลังจากพยายามปั๊มหัวใจให้เมิ่งเหยาแล้วแต่เธอก็ยังไม่ฟื้นขึ้นมาเสียที สุดท้ายเขาจึงตัดสินใจ ใช้สองมือเปิดปากเมิ่งเหยาให้อ้าขึ้น ประกบปากของเขาลงไป ใช้มือข้างหนึ่งบีบจมูกของเธอเอาไว้แล้วเป่าลมเข้าไปในปากเธอเต็มที่ พร้อมสังเกตทรวงอกของเมิ่งเหยาว่ามีการเคลื่อนไหวขยายขึ้นมาหรือไม่ด้วย

“ทำอะไรน่ะ แบบนี้เหมาะสมเหรอ” ซินเจียงเอ่ยอย่างตกใจพยายามเอามือเข้าไปดึงรั้งมู่เฉินให้ออกห่างจากบุตรสาว

“ป้าลู่ กรุณาเชื่อผมเถอะนะครับ” มู่เฉินเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงและสีหน้าจริงจัง

“อาเจียง ถอยออกมา” เจียงเฉินเข้ามาดึงรั้งภรรยาที่มีสีหน้าวิตกกังวลยิ่งกว่าเดิมเอาไว้ มู่เฉินจึงลงมือเป่าปากช่วยชีวิตเมิ่งเหยาต่อ ท่ามกลางสายตาและคำพูดซุบซิบนินทามากมายรอบด้าน

“ทำอะไรน่ะ น่าอายจริงๆ”

“นั่นสิ แน่ใจเหรอว่าช่วยชีวิต”

“แล้วเมิ่งเหยานั่นแกล้งทำหรือเปล่า”

“เออจริงสิ หรือเมิ่งเหยาจงใจแกล้งให้เสี่ยวเฉินทำแบบนั้น ช่างน่าละอายนัก”

“ใช่ น่าขายหน้าจริงๆ”

“ทำไปได้ยังไงกลางวันแสกๆ”

“นั่นสิ เป็นสาวเป็นนาง นอนให้ผู้ชายทำเรื่องน่าอายแบบนั้นต่อหน้าผู้คนอยู่ได้”

สกุลลู่นี่ยังไงกัน ปล่อยให้เกิดเรื่องแบบนี้ได้เนี่ยนะ”

เสียงซุบซิบนินทาว่ากล่าวไปต่างๆนานา ขณะเดียวกันเมิ่งเหยาที่สลบไสลไม่ได้สติไปนานก็เริ่มรู้สึกตัวฟื้นขึ้นมาในที่สุด

“เหยาเอ๋อ ฟื้นแล้วเหรอลูก” ซินเจียงที่เห็นบุตรสาวปรือตาขึ้นมาเอ่ยขึ้นด้วยความดีใจ เจียงเฉินก็ระบายลมหายใจออกมาอย่างโล่งอก เช่นเดียวกับมู่เฉินที่ถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะถอยห่างออกมาและลุกขึ้นยืนดูอยู่ข้างๆ ปล่อยให้พ่อแม่ลูกได้ดูแลกันต่อ

“เหยาเอ๋อ เกิดอะไรขึ้นทำไมถึงตกมาจากเนินเขาได้ล่ะ” เจียงเฉินเอ่ยถามบุตรสาวที่มีสีหน้าท่าทางมึนงงพูดอะไรไม่ออก

‘นี่มันเรื่องอะไรกัน ไร่ชางั้นเหรอ แล้วคนพวกนี้เป็นใครกัน หน้าตาเหมือนในความฝันเลย’ เมิ่งเหยามองไปโดยรอบ ไม่เข้าใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า

“อาเฉิน..ลูกเพิ่งจะฟื้น อย่าเพิ่งถามอะไรเลย พาลูกกลับบ้านก่อนเถอะ” ซินเจียงเอ่ยกับสามี เจียงเฉินพยักหน้ารับ ก่อนก้มตัวตั้งใจจะช้อนตัวบุตรสาวขึ้นมา

‘กร๊อบ’ เสียงกระดูกลั่นไม่เบานัก

“โอ๊ย” เจียงเฉินส่งเสียงร้องขึ้นมาทันทีเมื่อรู้สึกว่าเอวของตนเองเหมือนจะเคล็ดเสียแล้ว พร้อมเอามือจับตรงตำแหน่งที่มีเสียงกระดูกลั่นเอาไว้ มู่เฉินเห็นสภาพนั้นจึงเอ่ยปากอาสาช่วยอุ้มเมิ่งเหยากลับไปแทน

“คุณลุงคุณป้า ให้ผมช่วยเถอะนะครับ” มู่เฉินเอ่ยปาก เจียงเฉินพยักหน้าน้อยๆเป็นการตอบรับ ส่วนซินเจียงมองพิจารณาดูสามีแล้วก็ถอนหายใจยาวออกมา ก่อนจะพยักหน้ายินยอมให้มู่เฉินอุ้มบุตรสาวกลับบ้าน มู่เฉินจึงก้มลงไปช้อนตัวเมิ่งเหยาขึ้นมาและอุ้มเดินตามสองสามีภรรยาสกุลลู่ออกจากไร่ชา

Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters
No Comments
8 Chapters
ตอนที่ 1 กู้ชีพอย่างเร่งด่วน
ณ.เมืองหวงซานทางตอนใต้ของมณฑลอานฮุย เมืองแห่งขุนเขาและสายน้ำที่งดงาม ลู่เมิ่งเหยาหญิงสาวอายุ 17 ปี บุตรสาวเจ้าของไร่ชาลู่ชางเฉินได้รับบาดเจ็บพลัดตกลงมาจากเชิงเขาขณะเดินทางนำอาหารกลางวันมาส่งให้พ่อแม่ของเธอซึ่งทำงานอยู่ในไร่ชา“เหยาเอ๋อ เหยาเอ๋อ เป็นยังไงบ้างลูก เหยาเอ๋อ” อู๋ซินเจียงร้องเรียกบุตรสาวด้วยความเป็นห่วงหลังทราบจากคนในไร่ว่าเมิ่งเหยาเกิดอุบัติเหตุ ขณะที่ตัวเธอเองและพ่อของเมิ่งเหยา ลู่เจียงเฉินกำลังช่วยกันเก็บใบชากับลูกจ้างอยู่ในไร่“เหยาเอ๋อ อย่าเป็นอะไรนะลูก” เจียงเฉินเอ่ยอย่างร้อนใจ ก่อนจะก้มตัวลงมาหมายจะอุ้มบุตรสาวเพื่อพาเธอไปหาหมอ“หยุดก่อนครับ อย่าเพิ่งเคลื่อนย้ายเธอ” เสียงร้องห้ามดังมาแต่ไกล จากนั้นไม่นานนักชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งก็รีบเดินตรงเข้ามายังสถานที่เกิดเหตุ“เสี่ยวเฉิน ช่วยด้วย ช่วยเหยาเอ๋อด้วย” ซินเจียงเมื่อเห็นว่าคนที่เข้ามาคือแพทย์ทหาร ซุนมู่เฉินบุตรชายสหายบ้านใกล้เรือนเคียงที่รู้จักคุ้นเคยกันมานานก็รีบบอกให้เขามาช่วยดูอาการบุตรสาวด้วยสีหน้าวิตกกังวลมู่เฉินพยักหน้าพร้อมเดินตรงเข้ามายังร่างที่สลบไสลไม่ได้สติทันที ก่อนจะนั่งลงข้างร่างแบบบางของเมิ่งเหยาและลงม
last updateLast Updated : 2025-11-20
Read more
ตอนที่ 2 ถามหาความรับผิดชอบ
เมื่อมาถึงบ้านสกุลลู่ มู่เฉินอุ้มเมิ่งเหยาเข้ามาในห้องของเธอ พร้อมวางเธอนอนลงบนเตียงอย่างแผ่วเบา เมิ่งเหยาที่สะลึมสะลือพยายามตั้งสติมองไปโดยรอบตลอดระยะทางที่มู่เฉินอุ้มเธอเดินผ่านมา ทำให้สมองของเธอรับรู้ได้ถึงความผิดปกติของสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยไร่ชา ป่าเขา สายน้ำและทุ่งหญ้า‘นี่มันเหมือนภาพในความฝันไม่มีผิด ไม่นะ..หรือว่าเราตายแล้วมาเกิดใหม่เป็นลู่เมิ่งเหยาในความฝันงั้นเหรอ’ เมิ่งเหยาคิด ก่อนหน้านี้เธอจำได้ว่า เธอกำลังขับรถกลับจากที่ทำงานหลังตรวจสอบรายการสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนที่เธอรับผิดชอบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซึ่งการตรวจสอบครั้งนี้เป็นการตรวจสอบครั้งใหญ่ในรอบครึ่งปี ทำให้งานของเธอเสร็จล่าช้ากว่าทุกวัน พอเงยหน้าขึ้นมาอีกทีเวลาก็ปาเข้าไปเที่ยงคืนกว่าแล้วหลังทำงานเสร็จตัวเธอที่เป็นผู้จัดการดูแลในส่วนของซูเปอร์มาร์เก็ตก็ขับรถตรงกลับบ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้เธออาศัยอยู่กับย่าตามลำพัง แต่ย่าของเธอกลับมาเสียชีวิตไปด้วยโรคปอดเรื้อรังเกี่ยวเนื่องมาจากโรคระบาดร้ายแรงระดับโลกครั้งใหญ่ก่อนหน้านี้ ทำให้เธอซึ่งพ่อแม่แยกทางกันไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่อายุได้เพียง 10 ขวบ ต้องอยู่ตามลำพังกับย่าของเธ
last updateLast Updated : 2025-11-20
Read more
ตอนที่ 3 ศัตรูในคราบมิตรสหาย
หลังจากทุกคนออกไปแล้วเมิ่งเหยาก็ลุกขึ้นมานั่งและมองสำรวจรอบห้องตัวเองอีกครั้ง‘นี่มันยุค 80 จริงๆสินะ น่าสนใจจัง เอาเถอะ..ในเมื่อเธอทะลุมิติมาอยู่ในร่างนี้แล้ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใดก็ตาม ต่อ ไปนี้เธอจะใช้ชีวิตเป็นเมิ่งเหยาในโลกใบใหม่ให้ดีเลยล่ะ’ เมิ่งเหยาคิด เธอไม่มีอะไรผูกพันกับโลกก่อนหน้านี้แล้ว พ่อแม่ที่ให้กำเนิดก็ทอดทิ้งไปมีครอบครัวใหม่ตั้งแต่เธออายุยังน้อย ย่าของเธอ..ญาติเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ซึ่งเธอให้ควาสำคัญก็จากไปนานแล้วเช่นกันตอนนี้เธอกลับโชคดีได้มีชีวิตในโลกใบใหม่ มีพ่อแม่ที่ดูท่าว่าจะรักและห่วงใยเธอมาก แม้นแม่ของเธอจะจู้จี้อยากให้เธอแต่งออกไปกับมู่เฉินซึ่งมีสถานะทางบ้าน อาชีพหน้าที่การงานดีพร้อมทุกอย่างก็ตาม แต่ทั้งหมดก็เป็นไปเพราะรักและใส่ใจเธอมากนั่นเองครอบครัวสกุลลู่เป็นครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อกับแม่เธอมีทรัพย์สินที่ดินทำกิน ทำการเกษตรสืบทอดต่อกันมาจากบรรพบุรุษ หลังจากรัฐบาลเปิดโอกาสให้ประชาชนทำมาหากินในที่ดินของตนเองและเริ่มค้าขายเองได้ในช่วงปลายยุค 70 พ่อของเธอก็หันมาทำไร่ชา หาเลี้ยงครอบครัวกระจายรายได้ให้คนในหมู่บ้านฉางจงไห่มาโดยตลอด‘เมืองหวงซานเป็นเมืองที่สวยงาม
last updateLast Updated : 2025-11-20
Read more
ตอนที่ 4 บรรพบุรุษชาเขียว
เมิ่งเหยาที่เห็นมู่เฉินรีบเดินออกมาปกป้องชิงเหยียน ซึ่งเสแสร้งแกล้งทำเป็นผู้หญิงอ่อนแอถูกเธอรังแก หลี่ตามองดูเขานิดหนึ่งพร้อมอดคิดดูถูกไม่ได้‘ที่แท้ก็คนโง่อีกคนที่หลงเชื่อการแสดงเสแสร้งแกล้งทำของชิงเหยียนได้อย่างง่ายดาย’ เมิ่งเหยาคิดพร้อมถอนหายใจแรงไปทีหนึ่ง“คุณหมอซุน หากฉันบอกว่าฉันไม่สนใจเลยสักนิดว่าสกุลซุนจะรับใครเข้าไปอยู่ในบ้าน หรือคุณกับเสิ่นชิงเหยียนจะมีอะไรกัน มันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเลยแม้นแต่น้อย คุณก็คงจะไม่เชื่ออยู่ดีสินะคะ ดังนั้นแล้วคุณจะคิดยังไงก็ตามสบายเถอะ ฉันขอตัวก่อนล่ะ” เมิ่งเหยาเอ่ยอย่างไม่คิดจะใส่ใจกับชายหนุ่มหญิงสาวที่อยู่เบื้องหน้าอีก ก่อนจะเดินจากไปยังไร่ชาเพื่อมองสำรวจสถานที่โดยรอบต่อทางด้านมู่เฉินที่ได้ยินและเห็นท่าทีเฉยชาไม่สนใจอะไรของเมิ่งเหยาก็ถึงกับตกตะลึงไปอีกรอบ เช่นเดียวกับชิงเหยียน เพราะหากเป็นก่อนหน้านี้เมิ่งเหยาคงร้องไห้ฟูมฟายจนใครๆมาเห็นและได้ยิน จากนั้นก็กล่าวโทษว่าเขากลั่นแกล้งเธอ ทำให้เขาโดนพ่อแม่ดุเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา“พี่มู่เฉิน อย่าไปถือสาเมิ่งเหยาเลยนะคะ เธอคงอารมณ์ไม่ดีเพราะรู้ว่าฉันจะเดินทางไปเซินเจิ้นด้วยนะค่ะ” ชิงเหยียนแสร้งทำ
last updateLast Updated : 2025-11-21
Read more
ตอนที่ 5 ทำของว่างให้ทุกคนชิม
มู่เฉินขับรถพาสองสาวเดินทางไปเซินเจิ้น มีชิงเหยียนนั่งด้านหน้าข้างคนขับคู่กันไปกับเขา ส่วนเมิ่งเหยานั่งด้านหลัง โดยก่อนหน้านี้มู่เฉินให้ทั้งสองสาวไปนั่งด้านหลังด้วยกันทั้งคู่ ตัวเองทำหน้าที่เป็นคนขับ แต่ชิงเหยียนไม่ยอมรีบเสนอตัวมานั่งด้านหน้าบอกว่าอยากทำตัวให้เป็นประโยชน์ชวนมู่เฉินพูดคุยจะได้ไม่ง่วงเมิ่งเหยาไม่ได้แสดงท่าทีเสนอตัวหรือคัดค้านอะไร มู่เฉินเองก็ตอบรับความหวังดีของชิงเหยียนให้เธอมานั่งหน้ารถด้วยกัน ผ่านไปได้ครึ่งทางถึงจุดแวะพัก มู่เฉินก็ให้เวลาเด็กสาวไปยืดเส้นยืดสายทำธุระส่วนตัว เช่นเดียวกันกับเขาที่เข้าห้องน้ำเสร็จก็ไปซื้อน้ำและขนมมาให้ทั้งคู่“นี่ขนมเปี๊ยะไส้เนื้อของที่นี่อร่อยมากเลยนะเอาไปชิมสิ” มู่เฉินกล่าวพร้อมยื่นขนมไปให้ชิงเหยียนที่ยืนอยู่ข้างตัวรถด้วยกันกับเมิ่งเหยา“ขอบคุณมากค่ะพี่มู่เฉิน พี่ใจดีมากเลย” ชิงเหยียนเอ่ยขอบคุณพร้อมรับขนมไปด้วยรอยยิ้มจนแก้มแทบปริ ส่วนเมิ่งเหยาไม่ได้ใส่ใจอะไรเดินกลับไปขึ้นรถประจำที่นั่งของตนเองทางด้านหลังเงียบๆ มู่เฉินตั้งใจจะบอกให้ชิงเหยียนแบ่งขนมกับเมิ่งเหยาด้วย แต่เขาเห็นท่าทีเฉยเมยเช่นนั้นของเธอจึงไม่ได้เอ่ยปากอะไรออกไป“เมิ่งเหยาขน
last updateLast Updated : 2025-11-22
Read more
ตอนที่ 6 แสดงฝีมือในการทำอาหาร
ชิงเหยียนไม่พอใจที่เมิ่งเหยาดึงความสนใจในครอบครัวสกุลซุนไปหมด ทั้งยังคิดไม่ถึงด้วยว่าเมิ่งเหยาจะมีฝีมือในการทำอาหารได้หลากหลายอย่างเช่นนี้“เมิ่งเหยา เธอนี่เก่งนะ แต่อยู่ที่บ้านไม่เห็นเธอจะหยิบจับทำอะไรเลย ถ้าลุงกับป้าลู่พ่อแม่ของเธอรู้เข้าคงเสียใจแย่ที่ลูกสาวมาลงมือทำอาหารให้คนอื่นกิน แต่ตัวเองกลับไม่เคยได้ลิ้มลองมาก่อน” ชิงเหยียนมิวายหาเรื่องใส่ความเมิ่งเหยาอีกครั้ง“ชิงเหยียน ฉันเคยถามเธอแล้วนะว่าเธออยู่บ้านหลังเดียวกันกับฉันเมื่อไหร่กัน ถึงได้รู้เห็นว่าฉันทำอะไรหรือไม่ทำอะไรบ้าง อีกอย่างพ่อแม่ฉันเคยชิมอาหารฝีมือฉันตั้งหลายครั้งหลายหนแล้ว พ่อแม่เธอเองก็น่าจะรู้ดีนะ เพราะฉันไปส่งอาหารมื้อกลางวันให้พ่อกับแม่ที่ไร่ชาออกจะบ่อยไป อ้อ..ฉันลืมไป เธอที่ชอบพูดบอกกับคนอื่นว่าไปช่วยเหลือพ่อแม่ทำงานในไร่ชาเพื่อแบ่งเบาภาระให้พวกท่าน แต่ฉันไปกี่ครั้งกี่หนกลับไม่เคยพบเจอเธอเลยสักครั้ง เธอจึงไม่รู้นะสิว่าฉันทำอาหารส่งข้าวส่งน้ำให้พ่อแม่อยู่บ่อยๆ ลองกลับไปถามพ่อแม่เธอดูก็ได้ พวกท่านยังเคยชมเลยว่าอาหารฝีมือฉันอร่อย” เมิ่งเหยาเอ่ยตอกหน้าชิงเหยียนกลับไป‘ชิงเหยียนชอบพูดอวดอ้างตัวกับคนนู้นคนนี้ว่าเธอช่
last updateLast Updated : 2025-11-23
Read more
ตอนที่ 7 พบเจอเพื่อนวัยเด็ก
ชิงเหยียนมาอยู่ที่บ้านสกุลซุนได้ราวหนึ่งสัปดาห์แล้ว เธอออกตระเวนสำรวจพื้นที่ ซึ่งตั้งใจจะนำข้าวของรวมทั้งอาหารจากมิติพิเศษมาขาย และในระหว่างที่เธอกำลังสำรวจอยู่นั้นก็ได้พบกับสหายเก่าเข้าโดยบังเอิญ“เหยียนเอ๋อ นั่นเธอใช่ไหม” หญิงสาวรูปร่างหน้าตาดี เดินเข้ามาทักทายเมิ่งเหยาขณะสำรวจที่ทางทำมาหากินอยู่ในย่านตลาดกลางเมือง“ลี่เอ๋อ เธอนั่นเอง ดีใจจังที่ได้เจอเธอที่นี่” เมิ่งเหยาทำท่านึกอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะจำได้ว่าหญิงสาวตรงหน้าเป็นเพื่อนในหมู่บ้านที่เรียนและเล่นด้วยกันมากับเมิ่งเหยาตั้งแต่ยังเด็ก นามว่าฉินเหม่ยลี่ซึ่งครอบครัวย้ายจากเมืองหวงซานมาเซินเจิ้นเพื่อทำธุรกิจเช่นเดียวกันกับสกุลซุนหลังจบจากชั้นมัธยมต้นเมิ่งเหยาจึงไม่ได้เจอเพื่อนคนนี้อีก ทั้งที่ความจริงแล้วสนิทสนมกันไม่น้อยเลย“ใช่ฉันเอง เหยาเหยา..เธอมาทำอะไรที่นี่งั้นเหรอ” เหม่ยลี่ถามด้วยความตื่นเต้นยินดีที่ได้พบเจอเพื่อนรักอีกครั้ง ทั้งยังเอ่ยเรียกเมิ่งเหยาอย่างสนิทสนมคุ้นเคยด้วย“ฉันมาเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยที่นี่น่ะ แล้วเธอล่ะเป็นยังไงบ้าง สบายดีนะ” เมิ่งเหยาตอบพร้อมถามกลับไป“ฉันสบายดี ฉันเองก็กำลังเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยอยู่เหมือนกั
last updateLast Updated : 2025-11-24
Read more
ตอนที่ 8 บาร์บีคิวมื้อพิเศษ
เมิ่งเหยาเอ่ยทักทายพร้อมถามสองพี่น้องมู่เฉินกับลี่จิ่นที่ตั้งท่าจะออกไปตามหาเธอด้วยความเป็นห่วง“เหยาเอ๋อกลับมาก็ดีแล้ว ซื้ออะไรมาเยอะแยะเลยล่ะนั่น” คุณนายซุนเอ่ยทักทายด้วยท่าทีปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อนหน้านี้ ส่วนมู่เฉินกับลี่จิ่นก็ทำท่าเนียนๆไปกับแม่ของพวกเขาเช่นกัน“มีวัตถุดิบเป็นพวกเนื้อสัตว์ เครื่องปรุง เครื่องเทศที่จะนำมาทำรายการอาหารมื้อพิเศษให้ทุกคนได้ทานกันน่ะค่ะ”“รายการอาหารพิเศษงั้นเหรอ อะไรน่ะ” ลี่จิ่นเดินเข้ามาหาเมิ่งเหยา พร้อมเอ่ยถามด้วยความสนใจทันที ส่วนมู่เฉินเดินกลับไปนั่งไม่ห่างออกไปจากพ่อแม่เขาเท่าไหร่นัก“บาร์บีคิวค่ะ เป็นเนื้อกับผักหรือผลไม้ นำไปเสียบไม้แล้วทาด้วยซอสชนิดพิเศษก่อนนำไปย่างจนสุก รอชิมนะคะ” เมิ่งเหยาอธิบายคร่าวๆ พร้อมตั้งท่าจะเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารจานเด็ด“อะไรนะ บะ..คิวอะไรน่ะ” ลี่จิ่นเอ่ยถามงงๆ“บาร์บีคิวค่ะ เป็นเนื้อกับผักหรือผลไม้เสียบไม้แล้วทาด้วยซอสชนิดพิเศษก่อนนำไปย่างจนสุก รอชิมนะคะ” เมิ่งเหยากล่าว พร้อมตั้งท่าจะเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารจานเด็ด“เดี๋ยว มานั่งนี่ก่อน ป้าหลี่ช่วยเอาของเข้าไปเก็บทีครับ” มู่เฉินกล่าวกับเมิ่งเหยาเ
last updateLast Updated : 2025-11-26
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status