Beranda / วัยรุ่น / คลั่งรักคุณนักแข่ง / ตอนที่ 3 อย่ามายุ่ง

Share

ตอนที่ 3 อย่ามายุ่ง

last update Terakhir Diperbarui: 2025-07-23 11:54:38

            “น้องวิก็คงหนีคุณอาเที่ยวเหมือนกันนั่นแหละ ไม่งั้นคงไม่ทำตัวแบบนี้หรอก” ฉันจ้องใบหน้าหล่อตี๋ของหนุ่มรุ่นพี่อย่างไม่พอใจ

            “ทำตัวแบบไหนคะ”

            “ก็...” ดวงตาประกายจ้องมองเรียวขาอ่อนของหญิงสาวที่ไม่ได้ถูกส่วนของกระโปรงคลุมเอาไว้ “แบบที่คนชนชั้นเราเขาไม่ทำกันน่ะค่ะ”

            “พี่รันเวย์” ฉันสะบัดมือออกจากการเกาะกุมของชายหนุ่มด้วยความหงุดหงิด ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรแจ็กเกตหนังก็ถูกเข้ามาคลุมฉันเอาไว้จากด้านหลังเข้ามามัดที่เอว ฉันรีบหันไปมองด้วยความตกใจ

            “พี่ธีร์” ฉันร้องเรียกอีกคนด้วยความตกใจ

            “ที่จริงแต่งตัวแบบไหนมันก็ไม่ผิดหรอก มันเป็นสิทธิ์ที่เราจะเลือก แต่คนที่ชอบล่วงเกินความเป็นส่วนตัวของคนอื่นเนี่ย มารยาททางสังคมน่าจะบกพร่องนะ” พี่ธีร์มองช้อนไปมองทางพี่รันเวย์ด้วยสายตาดุดัน ทำเอาฉันขนลุกซู่ราวกับตัวเองตัวหดลงไปยามที่ต้องยืนขั้นกลางระหว่างชายหนุ่มร่างสูงทั้งสอง

            “น้องวิรู้จักกับไอ้หมอนี่ด้วยเหรอ” ฉันกำลังจะอ้าปากตอบอีกฝ่ายแต่ก็ต้องกลืนคำพูดลงคอ

            “แล้วไง มึงเป็นแฟนน้องเขาเหรอ”

            “ถ้ากูบอกว่าใช่ล่ะ” พี่รันเวย์เลิกคิ้วพลางเอียงคออย่างอวดดี

            “ไม่ใช่นะคะพี่ธีร์” ฉันรีบแก้ต่าง มือเรียวยกมือขึ้นมาโบกไม้โบกมืออย่างทันควัน “แม่เราแค่สนิทกันเฉย ๆ ค่ะ”

            “ถ้าบอกว่าเป็นคู่หมั้นกันตั้งแต่เด็กจะเชื่อปะล่ะ” พี่ธีร์ถึงกลับหลุดหัวเราะออกมา

            “กูคิดว่าละครน้ำเน่านะเนี่ย” พี่รันเวย์กำหมัดแน่นเมื่อถูกหยามหน้า “กูขี้เกียจพูดกับมึงแล้วว่ะ แพ้แล้วอย่าพาลดิวะ”

            พี่ธีร์ว่าก่อนจะเอื้อมมือมาจับที่ข้อมือของฉันเบา ๆ แล้วจูงมือฉันให้เดินตามออกไป ฉันยอมก้าวเท้าตามอย่างว่าง่ายไม่พูดไม่จาตลอดทางจนพี่เขาพาฉันมาถึงทางออกของสนามแข่ง

            “ไม่คิดว่าจะเจอเราที่นี่นะ เกือบจำไม่ได้แน่ะ” ชายหนุ่มปล่อยมือออกจากฉันแต่ทำไมต้องรู้สึกเสียดายด้วยเนี่ย

            “หนูก็แค่แต่งหน้าให้เข้ากับบรรยากาศรอบข้างอะ ไม่อยากให้รู้สึกแปลก”

            “พี่เข้าใจ แค่ไม่น่ามีคนแบบหมอนั่นอยู่บนโลก”

            “ว่าแต่ พี่จำหนูได้ด้วยเหรอ” ฉันเผลอจ้องมองใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยแววตาคาดหวังสุด ๆ

            “จำได้ เจอเธอทีไร มีเรื่องให้พี่ต้องช่วยทุกที” หนุ่มรุ่นพี่ตอบกลับด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหน่าย แต่ก็ลอบอมยิ้มเบา ๆ จนฉันหัวใจสั่นระรัว

            “หนูไม่เห็นพี่ที่มหาวิทยาลัยเลย...”

            “ไอ้ธีร์ พ่อเมืองมีอะไรให้ช่วยอะ” เสียงจากด้านหลังเรียกให้เราสองคนหันไปมอง

            “เออเดี๋ยวกูไป” พี่ธีร์หันกลับมามองฉัน “ทีหลังก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะ โลกไม่ได้ใจดีกับทุกคน พี่อาจจะไม่ได้มาช่วยทุกครั้งนะ”

            ชายหนุ่มพูดทิ้งทายก่อนจะเดินออกไปทันที แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงขอเสื้อแจ็กเก็ตคืน ฉันได้แต่ก้มมองเสื้อหนังที่ถูกมัดกับเอวคลุมกระโปรงสั้นของฉันเอาไว้

            พูดชายอะไร อบอุ่นจังอะ

            “แหม ๆ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียวนะ ของแทนใจเหรอ” เพื่อนทั้งสองของฉันมองมาที่เสื้อคลุมที่ฉันพกติดตัวมาด้วยแล้วพับมันเอาไว้อย่างดีจนนิดาต้องเอ่ยแซว

            “คงใช่แหละ พอไปเจอยายวิทีทางออกก็เห็นมีเสื้อตัวนี้มันเอวไว้แล้ว” มนทำสีหน้ากรุ้มกริ่ม

            “พวกแกไม่ยอมพาฉันไปด้วยอะ อดเห็นหน้าพี่หมอของยายวิแข่งรถเลยคงเท่น่าดู”

            “เท่ เท่มากด้วย” ฉันว่าพลางยิ้มกว้าง “ทีหลังก็อย่าติดพี่คิณให้มันมากสิ”

            “เดี๋ยวนี้ยอกย้อนด้วยโอ้โห มนแกดูลูกแกเลยนะ”

            “ฉันสอนให้ลูกฉันสู้คนเนอะ” มนเบะปากใส่นิดาก่อนที่พวกเราจะหลุดขำกันออกมา

            “นี่พวกแก พวกแกว่าฉันเอาแจ็กเก็ตไปคืนพี่เขาดีไหม”

            “ก็ต้องดีสิของยืมเขามา” นิดาตอบกลับมาอย่างใสซื่อ

            “ถามงี้เพราะอยากไปเจอพี่เขาอะดิ ฉันรู้ทันนะยะทำเอาเสื้อมาอ้าง”

            “งั้นฉันเอาไปคืนให้พี่เขาดีกว่า แต่ไม่ได้ถามว่าพี่เขามีเรียนเวลาไหนบ้างอะดิ” ฉันถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย

            “ไม่ควรถามเวลาเรียน แกควรขอเบอร์ขอไลน์เขามากกว่า” มนหรี่ตามองมาทางฉัน

            “นั่นสิเนอะ เจอกันครั้งหน้าต้องขอไลน์แล้ว” ฉันเม้มริมฝีปากจนเป็นเส้นตรงพลางใช้ความคิด

            นี่ก็วันที่สามแล้วที่ฉันมายืนชะเง้อคอมองที่หน้าตึกเรียนคณะแพทย์ฯ คราวนี้ฉันลองมายืนดูในช่วงเย็น แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีวี่แววของพี่ธีร์เดินผ่านไปมาเลยสักนิด

             ฉันได้แต่ถอนหายใจด้วยความผิดหวังแล้วเดินคอตกออกไปจากหน้าตึกคณะแพทย์ฯ

             แต่ฉันจะไม่ยอมแพ้หรอกนะ

             นี่ก็ปามาวันที่เจ็ดแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะมีแม้แต่เงาของพี่ธีร์เลยแม้แต่น้อย ฉันถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าพลางใช้มือตบยุงที่บินเข้ามาตอมขาแล้วกัดสร้างความแสบคัน

             เวลามันจะไม่ตรงกันขนาดนั้นเลยหรือไง พระเจ้ากลั่นแกล้งหนูเหรอคะ

             ฉันเบะริมฝีปากด้วยความหงุดหงิดก่อนจะหันไปมองศาลศักดิ์สิทธิ์ประจำมหาวิทยาลัย แล้วยกมือขึ้นพนมไว้กลางอก

             “เจ้าพ่อคะ คนนี้หนูขอจองไว้ก่อนนะคะ ห้ามให้พี่ธีร์ไปมีใครนะคะหนูจองแล้วเพราะฉะนั้นช่วยประทานพี่เขาให้หนูด้วยเถอะค่ะ” ฉันยกมือขึ้นกลางหน้าผากอย่างตั้งใจก่อนจะตบเบา ๆ ที่เส้นผมของตัวเองแล้วเดินออกไปจากที่ตรงนั้น

              “เซ็งอะ เราว่าไม่ได้ผลหรอก ไอ้แผนไปรอหน้าคณะเนี่ย” ฉันยกมือขึ้นท้าวคางตัวเองกับโต๊ะไม้ด้วยความท้อใจ

              “พี่หมอแกหาตัวยากชะมัดเลย โซเชียลอะไรก็ไม่เล่นเลยเป็นบุคคลลึกลับหรือไงกันนะ” มนจิ้มมะม่วงขึ้นมากินพลางพูดไป

               “ตัดใจไหมแก ถ้าจะหาตัวจับยากขนาดนี้ทั้งเหนื่อยทั้งเสียเวลา” นิดาว่า

               “ไม่ได้ คนนี้เราจริงจังมากนะ หาแบบนี้ไม่ได้ง่าย ๆ นะแก” ฉันโต้เถียง

               “พี่หมอที่มีรอยสัก แรร์ไอเท็มสุด ๆ” มนกล่าวเสริม

               “หมอจริงหมอเก๊เนี่ย เพิ่งเคยเห็นหมอมีรอยสัก” นิดาขมวดคิ้วอย่างจับผิด

               “ของแท้สิยะ สายฉันไม่พลาดหรอก เป็นถึงนักเรียนทุนเลยนะ”

               “ยิ่งเป็นนักเรียนทุนด้วย กฎเขาไม่เคร่งเหรอวะ” นิดายังคงตั้งข้อสงสัย

               “ดี ตั้งคำถามกันเยอะ ๆ นะ เราจะได้หาหัวข้อไปคุยกับพี่ธีร์”

               “ร้ายนักนะยะ” ทั้งมนและนิดาต่างเอ่ยแซว ฉันแอบเขินนิดหน่อยที่พูดอะไรแบบนั้นออกไป แต่เพราะอะไรไม่รู้ฉันรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้แหละคือคนที่ใช่สำหรับฉันจนพร้อมจะเดินหน้าสุดกำลัง

                ฉันไม่ได้แวะเวียนมาที่ตึกเรียนของคณะแพทย์ฯ หลายวันเพราะตัวเองก็ยุ่งไม่แพ้กัน วันนี้เลยกะว่าจะแวะเข้าไปเดินสำรวจข้างในสักหน่อยเผื่อจะรู้อะไรมากขึ้น

                นักศึกษาหลายกลุ่มจับกลุ่มกันอ่านหนังสือตามใต้ร่มไม้ หรือไม่ก็นั่งกันอยู่ในคาเฟพร้อมกับดื่มกาแฟอย่างสงบ ฉันได้แต่กวาดสายตาไปมองรอบ ๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ ก่อนจะเดินมาทะลุทางด้านหลังตึกที่เต็มไปด้วยร่มเงาจากต้นไม้เย็นสบาย

                 นักศึกษามีเพียงประปรายจนฉันเล็งเห็นเจ้าของแผ่นหลังกว้างที่ท้ายทอยมีรอยสักที่ตามหากำลังฟุบหน้าหลับอยู่บนโต๊ะไม้ริมขอบตึก

                 ฉันค่อย ๆ ย่างเท้าเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างช้า ๆ เพราะเกรงว่าจะรบกวนเวลาพักผ่อนของอีกฝ่าย ใบหน้าหล่อยามนี้หลับตาพริ้มในอ้อมแขนของตัวเอง ฉันสังเกตเห็นว่าในมือของพี่เขามีกระดาษบางอย่างเลยถือวิสาสะก้มหน้าลงไปอ่านมันด้วยความอยากรู้

                จาก มหาวิทยาลัย

                เรียน นักศึกษาแพทย์ นาย ธีรดนย์ เหมวิทย์

                เรื่อง แจ้งเรื่องผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์การให้ทุนการศึกษา

                แค่ได้อ่านหัวข้อเพียงนิดเดียว ฉันก็รีบหันไปมองหนุ่มรุ่นพี่ที่นอนพักอยู่ด้วยความเห็นใจ พอได้มองหน้าเขาใกล้ ๆ แบบนี้ ก็เห็นได้ชัดเลยว่าเขาดูเหมือนคนอดหลับอดนอน อ่อนเพลียเต็มที ปล่อยให้นอนไปสักหน่อยแล้วกัน

                แกรก

                เท้าเจ้ากรรมดันไปเหยียบกิ่งไม้แถวนั้นแหลกคาเท้า อย่างกับนางเอกในละครอย่างนั้นแหละ

                พี่ธีร์เริ่มรู้สึกตัวก่อนจะเปิดเปลือกตาขึ้นมามองฉันด้วยความแปลกใจ

                “มาได้ไงอะ” ฉันไม่รู้จะวางท่าทีอย่างไรจนดวงตาเคลื่อนไปมองยังกระดาษในมือของชายหนุ่มรุ่นพี่

                “คือว่า...”

                “นี่แอบอ่านเหรอ”

                “หนูไม่ได้ตั้งใจนะคะ แค่เผลอไปเห็นเองก็เท่านั้นอะ” ฉันพยายามจะแก้ต่างแต่เหมือนว่าพี่ธีร์จะดูหงุดหงิดรีบลุกขึ้นแล้วเก็บทุกอย่างยัดใส่กระเป๋าเป้

                 “ทีหลังก็อย่ามาเผลอยุ่งเรื่องของคนอื่นบ่อย ๆ ก็แล้วกัน”

                 “พี่ธีร์คะ” ฉันพยายามจะเข้าหาอีกฝ่ายแต่ก็เหมือนรุ่นพี่ก็ยิ่งถอยหนี

                 “อย่ามายุ่ง” พี่ธีร์มองเสื้อแจ็กเก็ตในมือของฉันก่อนจะคว้ามันไปจากมือด้วยอารมณ์คุกรุ่นก่อนจะเดินออกไป ฉันได้แต่มองตามแผ่นหลังขอกอีกฝ่ายที่เดินลับสายตาออกไป

                 “พี่ธีร์ คือหนู” ฉันรีบก้าวเท้าเดินตามหลังของอีกฝ่ายเมื่อเริ่มตั้งสติได้ แต่ก็ไม่ทันเสียแล้วเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มขึ้นคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจของตัวเองแล้วขี่ออกไปจากลานจอดรถของคณะโดยไม่ได้เหลียวแลมามองทางเธอเลยแม้แต่น้อย

                  อะไรเนี่ย สร้างความร้าวฉานตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มจีบเลยเหรอ

                  ฉันพ่นลมหายใจออกมาพลางยกมือขึ้นมาเสยผมเพื่อปัดความหงุดหงิดออกไปจากใจ ใจร่ม ๆ นะยายวิ

                  “อ้าว ธีร์มันไปแล้วเหรอ” ฉันหันไปมองตามเสียงเมื่อได้ยินชื่อของหนุ่มรุ่นพี่ในบทสนทนา หญิงสาวสวยเดินมาพร้อมกับชายหนุ่มภายใต้กรอบแว่นหนาเตอะเดินเคียงกันมา

                  “ขี่มอ’ไซค์ไปอย่างไวขนาดนั้น คงมีเรื่องด่วนละมั้ง” ฉันจ้องมองสองคนนั้นอย่างไม่วางตาจนรุ่นพี่ทั้งสองหันมามองเมื่อรู้ตัว

                 “เธอมีอะไรเปล่าอะ”

                 “อ๋อ เปล่าค่ะ” ฉันรีบยกมือโบกปัด

                 “ไม่ใช่นักศึกษาแพทย์นี่ มาหาไอ้ธีร์มันเหรอ” ชายหนุ่มเอ่ยถาม

                 “ค่ะ”

                 “โธ่ อดทนหน่อยนะ มันก็เย็นชาแบบนี้แหละแก้ไม่หาย ต้องใช้เวลา” สาวรุ่นพี่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเห็นใจก่อนจะเข้ามาปลอบปะโลมฉัน

                 “มีคนมาจีบพี่ธีร์เยอะเลยเหรอคะ”

                “น้องไม่ใช่คนแรก ๆ อะ แต่มันก็ไม่เอาเลยสักคน เพราะฉะนั้นถ้าน้องกลัวจะเสียเวลาก็ไปได้เลยนะ” พี่แว่นบอก

                ฉันกลืนน้ำลายลงคอ

                “แต่พี่ถูกชะตากับน้องอะ ดื่มกาแฟด้วยกันสักแก้วไหมอะ” รุ่นพี่สาวคลี่ยิ้มกว้างก่อนจะเข้ามากอดแขนฉันเอาไว้แล้วลากฉันไปที่คาเฟโดยไม่ทันได้เอ่ยทักท้วงอะไร

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • คลั่งรักคุณนักแข่ง    ตอนพิเศษที่ 2 เพื่อนเจ้าสาว

    ตั้งแต่งานหมั้นฉันก็ผันตัวมาเป็นแม่บ้านแบบเต็มตัว จะเข้าบริษัทก็ต่อเมื่องานมีปัญหาแล้วทำงานอยู่ที่บ้านแทนเพราะจะได้ใช้เวลาร่วมกับพี่ธีร์มากขึ้น ใช้ชีวิตแบบนี้มาเป็นเวลาเกือบจะเข้าปีที่สาม “กลับบ้านแล้วเหรอคะ” วันนี้พี่ธีร์เลิกเวรค่อนข้างดึก ฉันนั่งดูทีวีอยู่ที่บ้านของพี่ธีร์เพื่อรอให้แฟนหนุ่มกลับบ้าน พ่อให้พี่ธีร์มาประจำการที่คลินิกใหญ่ในกรุงเทพฯ พวกเราเลยได้ใช้เวลาร่วมกันบ้างเวลาที่พี่ธีร์เลิกงาน “อื้อ นั่งรอพี่เหรอ” “ค่ะ พี่ธีร์ทานอะไรมาหรือยังเดี๋ยวหนูอุ่นกับข้าวให้นะ” “ครับ แต่วิต้องทานเป็นเพื่อนพี่นะ” “อื้อ” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินเข้าไปอุ่นอาหารในห้องครับโดยมีพี่ธีร์เดินตามเข้ามาเพื่อช่วยก่อนที่พวกเราจะมานั่งทานอาหารที่โต๊ะเตี้ยหน้าโซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยกัน “วันนี้ที่คลินิกเป็นยังไงบ้างคะ” ฉันเอ่ยถามระหว่างที่เรานั่งทานอาหารด้วยกัน “วันนี้คนไข้เยอะเป็นพิเศษเลย เป็นช่วงวันหยุดด้วย ยิ่งเยอะไปใหญ่” พี่ธีร์ถอนหายใจเพื่อไล่ความเมื่อยล้าแล้วตักอาหารเข้าปากอย่างเอร็

  • คลั่งรักคุณนักแข่ง    ตอนพิเศษที่ 1 ลูกเขยคนโปรด

    เวลาผ่านมาเนิ่นนานหลังจากที่เราทั้งสองตกลงคบกัน นี่ก็ปามาปีที่สี่ของการคบกัน ฉันเรียนจบก่อนพี่ธีร์จนออกมาทำงานในบริษัทในเครือของพ่อ ส่วนพี่ธีร์ที่เพิ่งจบออกมาได้หมาด ๆ ก็ต้องไปทำงานเพื่อใช้ทุนตามข้อตกลงที่ต้องไปประจำการที่โรงพยาบาลตามต่างจังหวัด เรามีโอกาสได้เจอกันน้อยลง ถึงแม้แต่จะติดต่อกันไม่ขาด แต่ยอมรับเลยว่าฉันคิดถึงพี่เขาเอามาก ๆจนในที่สุดเวลาเราก็ตรงกัน ไหน ๆ เราก็คิดที่จะใช้ชีวิตร่วมกันแล้วฉันเลยคิดว่าถึงโอกาสแล้วที่พ่อกับแม่จะต้องได้เจอกับพี่ธีร์สักที แม้ที่ผ่านมาพวกท่านจะรู้เรื่องความสัมพันธ์ของฉันกับพี่ธีร์แต่ก็ไม่ได้มีโอกาสได้พูดคุยกันอย่างจริงจังเสียที “พี่โอเคหรือยัง” พี่ธีร์เอ่ยถามฉันเป็นรอบที่สิบของวันนี้ ชายหนุ่มแสดงอาการประหม่าอย่างเห็นได้ชัด ฉันเอื้อมมือไปจัดผมของคนพี่ที่ยุ่งเหยิงเพราะหมวกกันน็อก “ดูดีแล้วค่ะ เข้าบ้านกัน” ฉันสิ่งยิ้มหวานให้อีกคนได้ผ่อนคลายก่อนจะจูงมือพี่ธีร์เดินเข้ามาในตัวบ้าน คุณแม่กำลังจัดโต๊ะอาหารเพื่อเตรียมรอต้อนรับแขกที่มาเยี่ยมเยียน แต่ก่อนแม่ก็ไม่โอเคนักที่ฉันไม่ได้ชอบพี่รันเวย์คนที่

  • คลั่งรักคุณนักแข่ง    ตอนที่ 25 The End (NC ส่งท้าย)

    เราทั้งสองนัวเนียกันอยู่ในเต็นท์ ฉันรู้สึกตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อคิดถึงบรรยากาศรอบข้างที่เป็นป่าตีนภูเขายิ่งทำให้หัวใจสั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก ฉันกัดริมฝีปากเอาไว้แน่นเพราะกลัวว่าจะมีใครผ่านมาได้ยิน “พี่ธีร์คะตรงนี้จะดีจริง ๆ เหรอ หนูรู้สึกแปลก ๆ” ใบหน้าของฉันเห่อร้อนขึ้นมจนลามมาถึงใบหู ในใจสั่นระรัวราวกับว่าเลือดลมกำลังสูบฉีดเป็นอย่างดี “ตื่นเต้นดีใช่ไหมครับ” พี่ธีร์ไม่รอช้ารีบถอดเสื้อผ้าของตัวเองด้วยอารมณ์ที่กำลังปะทุอยู่ภายในฉันเองก็ทนไม่ไหวแล้วเลยถอดเสื้อผ้าของตัวเองจนหมดเกลี้ยง ความมืดในเต็นท์ไม่ได้เป็นอุปสรรคของพวกเราเลย แต่ความแคบเนี่ยสิที่เป็นอุปสรรค “ระวังเต็นท์สั่นนะคะ” ฉันแอบเห็นชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากก่อนจะเข้ามาคลอเคลียที่ลำคอขบเม้มเล็กน้อยแล้วไล่ลงมาจนถึงเนินอกขาวไร้อาภรณ์ปิดบัง จังหวะของหัวใจฉันเต้นถี่กระชั้นเสียจนเหมือนจะระเบิดออกมา ลมหายใจที่รินลดบนผิวหนังของฉันย้ำเตือนว่าเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด ยอดอกของฉันถูกครอบครองด้วยลิ้นอุ่นก่อนที่สติของฉันมันจะเริ่มขาวโพลนไปหมด ไม่มีอะไรเลยน

  • คลั่งรักคุณนักแข่ง    ตอนที่ 24 แคมปิง

    ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาในยามเช้าเพราะแสงไฟที่ส่องสว่างจนแยงตา ดวงตาเคลื่อนไปมองบานหน้าต่างที่ถูกเปิดไว้รับลมเพราเมื่อคืนไฟดับจนไม่มีพัดลมคอยเปิดเพื่อระบายความร้อน ฉันยันตัวเองขึ้นมานั่งพลางบิดขี้เกียจจากอาการเมื่อยล้า ความโล่งประหลาดทำเอาฉันต้องก้มหน้ามองเนื้อตัวที่เปลือยเปล่าของตัวเองแล้วหน้าแดงแจ่ขึ้นมาเสียดื้อ ๆ ทีตอนทำไม่รู้จักอายยายวิเอ๊ย ฉันยกมือขึ้นมากุมขมับก่อนจะเหลือบไปมองชายหนุ่มที่นอนอยู่ข้างกาย พี่ธีร์นอนหลับตาพริ้มอย่างสบายใจฉันได้แต่ถอนหายใจก่อนจะหยิบเสื้อผ้าที่กองอยู่ขึ้นมาสวมใส่แล้วเดินตรงไปอาบน้ำ หลังจากที่ทำร่างกายให้สดชื่นแล้วฉันก็เดินลงบันไดมาที่ห้องครัวแล้วเปิดตู้เย็นออกดู ในตู้เย็นโล่งโจ้งมีเพียงแผงไข่ไก่ อยากซื้อของมาเติมจัง ไม่เป็นไรทำไปก่อนแล้วกัน ฉันหยิบแผงไข่ไก่ออกมาก่อนจะเริ่มทำอาหารเช้าทันที เห็นอย่างนี้ฉันก็ทำอาหารเป็นนะ สกิลเด็กหอไง ผ่านไปสักพักหนึ่งฉันก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเก้าเหยียบลงมาจากบันไดก่อนที่พี่ธีร์จะเดินเข้ามาในห้องครัว “ทำไรกินเหรอ” พี่ธีร์เดินงัวเง

  • คลั่งรักคุณนักแข่ง    ตอนที่ 23 ไฟดับ NC

    วันนี้เพื่อน ๆ ของฉันชวนมาเที่ยวส่งท้ายเทอมที่ผับของรุ่นพี่ในคณะที่จบไปแล้ว ซึ่งก็เป็นผับเดียวกันกับที่ที่พี่ธีร์ทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ที่นี่ ฉันเลยถือโอกาสมาเช็กซะเลยว่าพี่ธีร์ของฉันจะฮอตสักแค่ไหน “รับอะไรดีครับคุณลูกค้า” พี่ธีร์ส่งยิ้มพราวเสน่ห์มาให้ฉันที่นั่งอยู่ตรงริมสุดของเคาน์เตอร์ แพรวพราวชะมัด “มาตินีหนึ่งแก้วค่ะ” ฉันยกยิ้มมุมปากก่อนที่พี่ธีร์จะหันไปจัดตามที่ฉันบอก ฉันทอดสายตามองชายหนุ่มด้วยความชื่นชม คนอะไรครบเครื่องชะมัด ฉันเดินมาตามทางเดินที่มีแสงไฟหลากสีสาดส่องไปมาเพื่อมุ่งตรงไปเข้าห้องน้ำ วันนี้ผู้คนไม่ค่อยหนาตาเท่าไรเลยไม่ค่อยมีคนเดินพลุกพล่านไปมาชวนปวดหัว แต่แล้วก็มีแรงกระชากที่ข้อมือก่อนจะดันให้ฉันติดกำแพง “พี่รันเวย์” ฉันเรียกชื่อของอีกคนเสียงตื่น แต่คนพี่ก็ยกนิ้วขึ้นมาทาบที่ริมฝีปากของฉันไว้เพื่อบอกใหฉันเงียบลง “น้องวิ พี่วานอะไรหน่อยได้ไหม” พี่รันเวย์มองซ้ายมองขวาราวกับกำลังหวาดระแวงอะไรบางอย่าง “ช่วยแกล้งเป็นแฟนพี่ทีได้ไหม” “พี่ทำบ้าอะไรเนี่ย” ฉันรีบดันให้

  • คลั่งรักคุณนักแข่ง    ตอนที่ 22 อาหารมื้อที่ดีที่สุด

    “หงอยเลยอะดิ พี่ธีร์ไปค่ายแค่สามวัน นั่งหงอยเหมือนไม่เคยตัวห่างกันเลยเนอะ” นิดาเอ่นแซวเมื่อเห็นว่าฉันนั่งเขี่ยข้าวในจานด้วยความเบื่อหน่าย พี่ธีร์ไปค่ายอาสากับทางคณะตั้งสามวันแล้ว ขึ้นไปบนเขาไม่มีสัญญาณติดต่อกลับมาก็ไม่ได้ “แผลเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้” ฉันบ่นพึมพำกับสองเพื่อนสาวด้วยน้ำเสียงอ้อยอิ่ง “สติค่ะสาวค่ายคณะแพทย์ฯ แปลว่าอะไรคะ แปลว่ามีหมอเต็มไปหมดค่ะ ยิ่งกว่าแขกวีไอพีอีกนะ หมอล้อมขนาดนั้นอะ” มนตอกย้ำสติหลุดลอยของฉันให้กลับคืนมา “จริงด้วย พี่ธีร์เรียนหมอนี่” “แกลืมไปแล้วเหรอว่าแฟนแกเป็นนักศึกษาแพทย์ แล้วแกลืมไปหรือเปล่าว่าแกเรียนวิศวะฯ ไม่ใช่พยาบาล เก่งจังนะดูแลผู้ชายเนี่ย” นิดาเข้ามาซ้ำเติมเพิ่มอีกคน “แล้วเวลาแฟนแกป่วยแกไม่อยากดูแลหรือไง ขนาดพี่คิณเมื่อยยังไปนวดให้เลย แกเป็นหมอนวดเหรอ” “เจ็บแสบมาก รู้เลยว่าได้ความปากแจ๋วมาจากใคร” นิดายกมือขึ้นทาบอกตัวเองก่อนจะแอบชำเรืองหางตามามองทางมนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กับเธอ “นี่ยายวิ พี่ธีร์เขากลับเย็นนี้ไม่ใช่เหรอ ยิ้มหน

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status