ร่างสูงโปร่งชายชายหนุ่มสูง 180 เซ็นติเมตร ผมอันดกดำ นัยตาคมเข้ม ผู้มีใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เบ้าหน้าฟ้าประทาน เสน่ห์ชวนให้หลงใหล อีกคนของกลุ่มหนุ่มหล่อสุดฮอตของคณะวิศวะ ทายาทคนที่สองของนักธุรกิจชื่อดังอย่าง ริว รัฐพล ที่ตอนนี้ร่างสูงนั้นโปร่งในชุดกีฬาเสื้อก้ามสีขาวแถบสีเแดง ยืนเด่นแพร่รัศมีความหล่อเหล่าในสนามบาส ไม่แพ้กับเพื่อนๆ ในกลุ่ม เนื่องจากวันนี้ เป็นอีกหนึ่งวันที่พวกเขานั้นมาฝึกซ้อมบาสที่จะแข่งขันกีฬามหาลัยในอีกไม่กี่วันข้าง เรื่องความหล่อ รวยที่มาเพียบพร้อมของหนุ่มๆ กลุ่มนี้นั้น หล่อแบบ มีเสน่ห์ที่กินกันไม่ลงเลยทีเดียว ทั้งที่เป็นแค่การซ้อมเล่นกับเพื่อนๆ และกลุ่มรุ่นน้องในคณะ แต่ก็มีสาวๆ บางกลุ่มที่ตามมาให้กำลังหนุ่มหน้าตาดีอย่างพวกเขา
สัปดาห์นี้ร่างสูงนั่นฝึกซ้อมกันอย่างหนัก ถ้าแพ้ขึ้นมาเดี๋ยวเสียชื่อคณะวิศวะหมดเพราะคณะวิศวะนั้นครองแชมป์กีฬาประเภทบาสเกตบอลมาถึง4 ปีซ้อน ซึ่งปีนี่เป็นปีสุดท้ายที่ริวนั้นจะได้ร่วมทำกิจกรรมในรั้วมหาลัย แต่นั้นก็แอบได้ยินมาคณะคู่แข่งขันในปีนี้หวังจะล้มแชมป์เก่าอย่างทีมพวกเขา
"ฝันไปเถอะ" หรือนี้อาจจะเป็นเสน่ห์ของหนุ่มๆ กลุ่มนี้ที่ชอบการกีฬาเล่นบาสเกตบอลเป็นกิจกรรมหลักเพื่อเพิ่มเสน่ห์ความเท่ห์ให้กับตนเอง ก็น่าจะเป็นได้
ร่างสูงในชุดกีฬาเบอร์แปดสิบเก้าวิ่งแย่งลูกบาสกับเพื่อนสนิทอย่างเรียวตะ อรัณ ริว และมีรุ่นน้องในคณะอีกหลายคนที่ร่วมซ้อมในครั้งนี้ด้วย ร่างสูงกระโดดซู๊ต ลูกบาสในสนาม ข้างตึกคณะวิศวะ โดยมีเพียงกลุ่มเพื่อนและรุ่นน้องในคณะเท่านั้นที่ซ้อมกันในสนามแห่งขึ้น
"ไอ้เชี่ยรัณ กูอยู่ตรงนี้ครับ ไอ้สัสมึงแม่งโยนให้ไอ้เชี่ยเรียวเฉย" ริวสบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อโดนเรียวตะกระโดดรับลูกบาสไปต่อหน้าต่อตา ริวถึงกับต่อว่าอรัณทันที เมื่อเพื่อนร่วมทีมอย่างอรัณนั้นดันพลาดโยนลูกบาสให้ฝั่งคู่ต่อสู่อย่างเรียวตะและริก โดยพวกเขาทั้งสี่หนุ่มนั้นแบ่งแยกออกเป็นสองทีม
"อะ นี้แค่ซ้อมดูมึงนี้จริงจัง ขนาดนั่นเชียว" อรัณที่โดนริวต่อว่าถึงกับรีบสวนกลับทันที เพราะริวนั่นดูจริงจังราวกับแข่งขันรองชิง
"อ่า แม่ง พูดมาได้นะไอ้สัส" พูดยังไม่ทันขาดคำ ไอ้เรียวตะก็ซู๊ตลูกบาสเข้าห่วงอีกครั้ง และชนะทีมพวกผมไปทันที พร้อมกับทำหน้าเป็นเชิงว่า
"กูแน่ไหมละ" จากนั้นไอ้ริกก็วิ่งมาปรบมือกับไอ้เชี่ยเรียวตะ เป็นการเย้ยผมและไอ้เชี่ยรัณ แม่งหมั้นใส้พวกมันชิบหาย
"แค่ซ้อมเล่นเฉยๆ ละวะ มึงชนะกูได้ที่ไหนกันมีแต่ไอ้เรียวเป็นคนทำคะแนน" ผมหันไปว่าให้ไอ้ริกแฝดคนพี่ของผม ที่มันทำหน้าตาภูมิใจมาก ทั้งที่มันชู๊ตไม่เข้าห่วงซักลูก ฝีมือไอ้ริกเรื่องนี้มันไม่เท่าผมหรอกครับ
"แค่ ซ้อมแล้วไง มึงยอมรับเถอะครับว่าทีมพวกมึงสองตัวอ่อน ไอ้น้องชาย...ฮ่า" ไอ้ริกไม่พูดเปล่า พร้อมกับวางมือมาตบบ่าไหลของผม มันอวยทีมมันมาอย่างภูมิใจ ที่ชนะทีมพวกผมได้ ไอ้เจมส์และไอ้ดีเอ็มได้แต่มองหน้ามันด้วยท่าทีไม่พอใจเพราะสองคนนั้นมันอยู่ทีมเดียวกับผม
"วันแข่งจริงมึงชู๊ตเข้าห่วงเป็นบุญตากูซักลูกเถอะ แม่งขี้โมชิบหาย" ผมว่าให้กับไอ้ริกแม่งอวด แค่ซ้อมไหม อยากจะบอกว่า
"วันนี้พวกกูแค่เบามือโว้ย"
"ไม่รู้แหละ แต่ที่รู้ๆ คืนนี้ พวกมึงสองตัว เลี้ยงเหล้ากูกับไอ้เรียว" ไอ้ริกเอ่ยกับพวกผมมา ไอ้อรัณถึงหลุดขำ แม่งไอ้ริกหาเรื่องแดกเหล้าได้ทุกสถานะการณ์จริงๆ ผมถึงกับสายหัวให้มัน
"เชี่ยรัณ มึงแม่งตกลงกับไอ้ริกมันตอนไหนวะ กูไม่เห็นรู้ว่าใครแพ้ต้องเลี้ยงเหล้า" ผมหันไปถามไอ้อรัณที่ยืนนิ่งอยู่ข้างผม
"มึงไม่รู้นิสัยพี่ชายมึงไง ไอ้ริกถ้ามันจะแดกมันก็หาเรื่องให้กูกับมึงเลี้ยงเหล้ามันเฉยๆ นี้แหละ" พอได้ยินไอ้อรัณเอ่ยมาเช่นนั้น ไอ้ริกถึงกับระเบิดเสียหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจที่ไอ้อรัณนั้นรู้ทันมัน อยากแดกให้เมาแต่ตังไม่ออก ให้ได้อย่างงี้ดิไอ้เชี่ยริก อย่าบอกใครนะว่ามันเป็นพี่ชายผม
"เหอะๆ สัส มึงแม่ง ขี้โกงชิบหาย เลือกอยู่ทีมเดียวกับไอ้เรียว ใน มอ.B นี้มีใครแข่งบาสแล้ว เอาชนะไอ้เรียวได้ กูยังไม่เห็นมีใครล้มมันได้ซักคน " ไอ้เรียวได้ยินเช่นนั้นถึงกับยกยิ้มให้ออกมาด้วยความภูมิใจ
"ฮ่า...แน่นอน" เรียวตะเอ่ยพร้อมกับยักคิ้วให้กับริวและอรัณ เป็นเชิงกูแน่ไหมละ
"ตกลงตามนี้นะไอ้ริว ไอ้เชี่ยรัณ เจอกันที่ร้านนะ เดะกูออกไปกับไอ้เรียว พวกมึงกับพวกไอ้ดีเอ็ม ตามไป" ไอ้ริกออกคำสั่งกับพวกผมเสร็จก็เดินออกจากสนามไปกับไอ้เรียวตะ
จากนั้นผมและไอ้อรัณรวมถึงรุ่นน้องในทีมอีกหลายคน ช่วยกันเก็บอุปกรณ์ แพ้แล้วต้องเลี้ยงเหล้าและเก็บอุปกรณ์อีกครับ จากนั้นผมและไอ้อรัณก็ไปเปลี่ยนเป็นชุดนักศึกษา เพราะใส่ชุดกีฬาเที่ยวผับก็ยังไงอยู่ ไม่ใช่ไรหรอกคับ เขินสาวๆ แต่ก่อนที่ผมจะเดินกลับคณะไปกับไอ้เชี่ยรัณนั้น ร่างสูงเหลือบมองนาฬิกา อีกไม่กี่นาทีก็จะถึงหนึ่งทุ่ม
"เชี่ยรัณมึงขึ้นห้องไปก่อนเลยนะ แม่งกูร้อนชิบหาย อยากแดกโค๊กเย็นๆ วะ " ผมเอ่ยกับไอ้อรัณเสร็จ จากนั้นร่างสูงก็เดินมาที่ซุ้มขายตู้น้ำหน้าโรงอาหารของคณะนิเทศทันที
ร่างสูงในชุดนักศึกษาในมือถือกระป๋องโค๊กยืนกระดกอยู่ข้างตู้น้ำยอดเหรียญ
!! ฮื่อ...ฮือ!! เสียงร้องไห้ของผู้หญิงสะอื้น ดังขึ้นมา เป็นพักๆ ริวที่กระป๋องโค๊กอยู่นั้นถึงกับชะงัก และขนลุกขึ้นมา ภายในตึกนั้นเปิดไฟเพียงไม่กี่ดวง
"เย็นขนาดนี้แล้วเสียงร้องไห้มาจากไหนละวะ แม่ง! กูเริ่มขนลุกแหละ" ร่างสูงได้แต่พึมพำออกมา เพราะนี้ก็เป็นเวลาเลิกเรียนแล้ว
!! ฮือๆ ...!! เสียงสะอื้นดังพัดเข้ามากับสายลม ยังคงดังขึ้นมาเรื่อยๆ
"แม่ง...บรรยากาศ แบบนี้ แหละ ชวนขนลุกชิบหาย" ริวได้แต่สบถออกมา เขาไม่ชอบความเงียบและเสียงอะไรแบบนี้เลยซักนิด แต่ขานั้นกับก้าวเดินไปตามเสียงสะอื้น
ริกเดินมาที่ข้างถึงกับต้องชะงัก เมื่อสายตากับสะดุดเข้ากับร่างบางในชุดนักศึกษา ที่นั่งหันบนม้าหินอ่อน สะพายกระเป๋าเป้ใบเล็กสีชมพูและมีพวงกุญแจเป็นรูปไอดอลเกาหลีนั้นติดเอาไว้ เธอนั้นฟุบหน้าลงกับโต๊ะ ผมยาวสีบอนทองถูกปล่อยยาวม้วนลงกลางแผ่นหลัง เสียงสะอื้น...ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ยังดังขึ้นมาเรื่อยๆ
แต่ขณะที่ริวจะเดินเข้าไปดูให้แน่จัดนั้น เสียงเล็กยังคงสะอื้นและสั่นเครือแว่วเข้ามาในหูของเขา
เจนิสฉันได้แต่เสมองคนตรงหน้า ฉันคิดไม่ถึงว่าเขาจะเข้ามาแบบนี้ นิฉันไม่ได้โง่เชื่อเขาหรอกนะว่าพวงกุญแจฉันมันหล่นเองฉันรู้สึกถึงแรงกระชากมาจากด้านหลัง"ของฉันเอง" ฉันเอ่ยและสบตาเข้ากับคนตรงหน้า จากนั้นฉันก็ยื่นมือไปรับพวงกุญแจมาจากเขา แต่นั้นใช่ว่าเขาจะยอมคืนมันให้กับฉันดีๆ"ทำไม...เจอหน้าฉัน ต้องตกใจขนาดนั้นเชียว" เขาไม่พูดเปล่าและยังโน้มใบหน้าอันหล่อเหลาลงมาใกล้ใบหน้าของฉัน ร่างบางได้แต่มองตาพริบๆ และสายตาจับจ้องใบหน้าของเขา"ฉันเปล่า ฉันแค่คิดว่าเราไม่ควรเจอกันอีก" เจนิสเอ่ยด้วยเสียงสั่น ราวกับไม่เป็นตัวของตัวเอง ฉันเบนสายตาออกไปจากสายตาคู่ดุที่จ้องฉันมา ฉันรู้สึกว่าผู้ชายคนนี้เขาดูอันตรายยังไงไม่รู้หรือจะเป็นเพราะคืนนั้น พอเจอหน้าเขาฉันจึงรู้สึกแปลกๆ ฉันละสายตาออกจากคนตัวโตและหวังจะเดินหนีเขา บ้าไปแล้วทำไมเขาต้องเข้าหาและทำเป็นเหมือนว่าเรารู้จักฉันไม่ต้องการให้มันเป็นแบบนี้เลยนะ แต่ขณะที่ร่างบางกำลังจะเดินหนีเขานั้น ฝ่ามือหนากับจับเข้าที่เรียวแขนเล็ก พร้อมกับจ้องมองใบหน้าหวานอีกครั้ง ริวโน้มใบหน้าอันหล่อเหลาลงมาหาเจนิส ร่างบางถึงกับถอยหนี นี่เขาจะทำอะไรคนเดินผ่านไปมาไม่คิดจะอายบ้าง
@ภายในสนามกีฬาด้านริวอีกไม่กี่นาทีก็จะถึงเวลาลงสนามแข่งนาทีของครึ่งหลัง และตอนนี้นักกีฬาหลายคนก็ทยอยเดินลงสนาม สายตาคมทอดยาวมองออกไปยังแสตนขอบสนามที่ร่างบางของใครบางคนนั่งแต่ตอนนี้มันกับมีแต่ความว่างเปล่า ริวนึกถึงใบหน้าหวานๆของเจนิสถึงกับส่ายหัว หึ...อย่าบอกนะว่าออกไปแล้วไม่กลับเข้ามาเชียร์ฉันอีก แค่รู้ว่าเจนิสนั่งเชียร์ฝั่งทีมตนใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับผุดรอยยิ้มขึ้นมาราวกับไม่รู้ตัว แต่อีกใจกับคล้านขึ้นมา ก็แค่ผู้หญิงที่เขาเคยนอนร่วมเตียงคนนึงแล้วทำไมต้องสนใจด้วยวะริวเลิกนึกถึงใบหน้าสวยหวานต้นเหตุที่เข้ามาวุ่นวายในใจของตน ริวพยายามสลัดใบหน้าหวานๆ ของเธอออกจากห่วงความคิดของตน แบบนี้เขาจะมีสมาธิแข่งได้ยังไงกัน เมื่อคิดได้ดังนั้นริวจึงเดินลงไปยังสนามส่วนอีกด้านของใครบางคนร่างบางที่กำลังเข้าไปวุ่นวายภายในใจของรุ่นพี่หนุ่มนั้น เจนิสกลับเข้ามานั่งที่เดิมอีกครั้งแต่ครั้งนี้กับต้องเปลี่ยนฝั่งประตู ฉันกลับเข้ามานั่งขณะที่ฟุตบอลนั้นเริ่มแข่งขันกันไปได้สิบนาทีแล้วฉันมองไปยังร่างสูงเบอร์แปดสิบแปดก็เห็นว่าเขานั้นวิ่งอยู่ในสนาม"พวกแกมาช้าเมื่อกี้ ผัวอรัณฉันยิงนำทำประตูไปแล้วจ้า..." นั่งลงได้ซั
ด้านริวในจังหวะที่ผมวิ่งมาเตะลูกฟุตบอตส่งให้ไอ้เรียวตะนั้น สายตาผมเสมองออกไปยังลูกบอลที่วิ่งออกไปที่ขอบสนาม ผมถึงกับชะงักเพราะไม่คิดว่าจะบังเอิญเจอกับยัยขี้เมาที่นั่งเชียร์พวกผมอยู่ขอบสนาม ผมสบตากับใบหน้าสวยของยัยนั้นเข้าอย่างจัง ริวเสมองเจนิสอย่างไม่ยอมละสายตาจนกระทั่ง!! ปิ๊ด ปิ๊ด !! จากนั้นเสียงนกหวีดก็ดังขึ้น"หมดเวลาในครึ่งแรก" เสียงประกาศจากกรรมการ ผมจึงยอมละสายตาออกจากใบหน้าของเธอด้านเจนิส อ่า...เมื่อกี้เราสบตากันฉันปฏิเสธผู้ชายคนนั้นไม่ได้เลยว่าเขาหล่อและเท่มาก เล่นเอาซะฉันเองถึงกับเสียอาการไปชั่วขณะ จู่ๆ ภาพที่เราร่วมเตียงกันในคืนนั้นก็วิ่งเข้ามาในหัวของฉันถึงกับรู้สึกหน้าแดงขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าคนที่ตนนอนด้วยนั้นอยู่ในสนามนี้ด้วย"แก...เจ ยัยเจนิส" เสียงเรียกของยัยเฟย์ทำเอาฉันถึงกับสะดุ้งตัวขึ้นมา"ฉันเรียกแกตั้งนาน เป็นไรป่าว นั่งใจลอยไปได้" เฟย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้แต่เสมองใบหน้าของเจนิสด้วยท่าทีสงสัย หรือที่เพื่อนเป็นแบบนี้เพราะไอ้เลย์กัน"ป่าว ฉันไม่เป็นไร" ฉันรีบตอบยัยเฟย์ด้วยสีหน้าปกติทั้งที่ในใจตอนนี้ในใจฉันตื่นเต้นมาก ถึงกับใจเต้นโครมคราม"พักครึ่งแรกแล้วไปห้องน้ำกั
หลายวันต่อมาด้านเจนิสหลังจากที่ฉันพลาดมีอะไรกับผู้ชายคนนั้น หลังจากที่กลับมาถึงคอนโดฉันก็จัดการตัวเองโดยการซื้อยาคุมฉุกเฉินมาทานทันที ฉันป้องกันตัวเองไว้ ส่วนกับเลย์หลายวันมานี้เราไม่ได้ติดต่อกันเลย ที่มหาลัยฉันก็ไม่เจอเขา นับตั้งแต่วันที่เราเลิกกัน ฉันไม่ได้ข่าวคราวอะไรของเลย์เลยแปลกเนาะทั้งที่เราเรียนที่มหาลัยเดียวกันจะบังเอิญเจอกันทีมันเป็นอะไรที่ยากมักมาก การที่ฉันจะลืมใครซักคนที่เข้ามาอยู่ในใจของฉันนานนับปี จะให้ลืมเพียงแค่เวลาหนึ่งสัปดาห์มันก็เป็นไปได้ยากมาก เพื่อนฉันแนะนำให้ฉันมีคนใหม่จะได้ลืมคนเก่า แต่มันไม่ได้ง่ายเลยสำหรับฉันเลยนี้สิ ถ้าฉันจะมีใครซักคนขอเป็นคนใหม่ที่เข้ามา ฉันรักเขาจริงฉันไม่ต้องการให้เขาเข้ามาเป็นตัวแทนของใครอีกคน@มหาวิทยาลัย Bร่างบางในชุดเสื้อกีฬาสีเขียวการเกงยีนส์ขาเดฟสีซีดผมยาวถูกรวบมัดเป็นจุกขึ้นกลางหัว สะพายกระเป๋าเป้น่ารักสีชมพูคู่ใจ วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ทางมหาลัยนั้นมีการแข่งขันกีฬาสีที่มหาลัย ซึ่งฉันก็เป็น กลุ่มที่ไม่ชอบการเข้าร่วมกิจกรรมเรื่องเล่นกีฬาฉันเล่นอะไรไม่เป็นซักอย่าง ทั้งที่วันนี้ช่วงเช้ามีการเดินขบวนกันไปแล้ว แต่นี้จะสิบโมงที่ฉันพึ่
เช้าวันต่อมาแสงแดดสาดส่องเข้ามากระทบเข้ากับเปลือกตาที่หลับสนิทนั้น ร่างบางที่หลับอยู่ถึงกับงัวเงียขึ้นมา นี้มันกี่โมงแล้ว ทำไมวันนี้นาฬิกาปลุกฉันถึงไม่ยอมทำงานกัน เมื่อเห็นว่าข้างนอกมีแสงแดดที่สาดส่องเข้ามาร่างบางที่หลับอยู่กับพลิกตัว แต่ในจังหวะนั้นร่างบางกับต้องตากลมเปิดกว้างออกมาด้วยความตกใจ เมื่อพบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาฉันไม่ได้นอนคนเดียว ร่างหนาผิวขาวที่นอนร่วมเตียงมากับเธอตลอดทั้งคืน!! อึก !! ฉันถึงกับรู้สึกสะอึกขึ้นมาทันที พร้อมกับรู้สึกปวดหัวขึ้นมาหนึบๆ ฉันจำได้ว่าเมื่อคืนฉันเมามากๆ อ่านี้มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันๆ พยายามนึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่จู่ๆ กับรู้สึกใบหน้าร้อนขึ้นมาพราวๆ"ให้ตายเถอะ อย่าบอกนะว่าคนที่ฉันนอนด้วยมาตลอดทั้งคืนไม่ใช่เลย์ ฉันไม่อยากจะคิด แต่ดูจากรูปร่างสีผิวของคนที่นอนหันหลังให้ฉันก็ไม่ใช่เลย์แล้ว ฉันพยายามนึกเหตุการณ์ต่างๆ ฉันเมาและเรียกชื่อเลย์มาตลอดทั้งคืน ฉันจำได้ว่าฉันเป็นฝ่ายกระชากเลย์เข้ามาจูบ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นฉันฝันไปสินะที่หวังให้เลย์นั้นอยู่กับฉัน" ฮือ...นะตอนนี้ฉันอยากจะร้องไห้มักมาก ฉันเสียตัวให้กับไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้และที่สำคัญฉันเป็นฝ่ายเริ
@ภายในโรงแรมริวตัดสินใจแวะพาคนเมาไม่ได้สติในเข้าพักโรงแรมแห่งหนึ่ง ร่างบางยังคงเมาหนักจำอะไรไม่ได้ ร่างสูงอุ้มคนเมามาวางลงบนเตียงนอนอย่างเบามือ แต่ขณะที่ริวกำลังจะลุกขึ้นนั้น กับโดนร่างบางตรงหน้านั้นกระชากคอเสื้อเอาไว้ไม่ยอมปล่อย"เฮ้ย...ยัยขี้เมา นี้ปล่อยฉันก่อนสิ" ริวเอ่ยมาด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์มากนัก แต่นั้นร่างบางของคนเมากับลุกขึ้นนั่งและส่งสายตายั่วยวนให้กับชายตรงหน้า มือเรียวลูบไล่ใบหน้าอันหล่อเหลาราวกับปลุกอารมณ์ของอีกฝ่ายอย่างไม่รู้ตัว สายตาที่เธอส่งให้เขามาแม่งอันตรายต่อท่อนล่างของเขานัก"ฉันจะบอกอีกครั้ง จะปล่อยไม่ปล่อย" เสียงเข้มเอ่ยออกมากับคนไม่ได้สติ แต่นั้นใช่ว่าคนเมาจะสนใจ แต่กับส่งเสียงหัวเราะขึ้นมาแทน"คริ คริ ไม่เอาสิเลย์อย่าใจร้ายกับเจนักเลยนะ" เสียงหวานยังเอ่ยพึมพำออกมาคิดว่าชายตรงหน้านั้นเป็นอดีตคนรักของตน เจนิสไม่พูดเปล่าพร้อมกับซุกใบหน้าเข้ากับซอกคอของคนตัวโตและเป็นฝ่ายขบเข้าที่ลำคอของชายหนุ่มมาเบาๆ เล่นเอาริวถึงกับขนลุก ให้มันได้แบบนี้สิ ปลุกแบบนี้เดี๋ยวแม่ง ก็ขาแหกกันพอดี ริวได้แต่พึมพำคิดในใจ"ฉันไม่ใช่ไอ้..." คำว่าเลย์ถูกกลื้นหายเข้าไปในลำคอ เมื่อร่างสูงม
สวนคนที่ถูกคนเมาจูบอย่างไม่ทันตั้งตัว ริวถึงกับชะงัก นี้เป็นครั้งแรกที่โดนผู้หญิงนั้นเป็นฝ่ายเข้ามาจูบและเปิดทางให้ก่อน แบบนี้ก็เข้าทาง คนอย่างเขาแล้วสิ บอกแล้วว่าไม่ใช่คนดีอะไร โดนผู้หญิงกระชากเข้าไปจูบแบบดูดดื่มแบบนี้มีหรือเสือร้ายอย่างเขาจะไม่สนองกลับ"นี้เธอถอนตัวตอนนี้ยังทันนะ" ริวได้แต่เอ่ยพึมพำขึ้นมาในใจ เมื่อไหร่ที่เลือดในกายสูบฉีดบอกเลยว่าไม่มีรอดซักรายริวปล่อยให้คนตรงหน้านั้นตักตวงรสจูบจากปากของตนอย่างพอใจ แต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมา จากนั้นร่างสูงก็แปรเปลี่ยนเป็นเขาเสียเอง ที่ตักตวงจูบจากปากของเธอแทน จูบที่เร้าร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จูบที่มีรสชาติฝาดๆ ขมๆ ปะปนเข้ามาในโพรงปากหนา แบบนี้แหละสิ่งที่เขาต้องการ!! อ่า เรียวลิ้นหนาของคนมากประสบการณ์เปิดปากและดุดเรียวลิ้นร้อนเกี่ยวลิ้นของคนตัวเล็กอย่างพอใจ จากที่คนเมาเป็นฝ่ายเริ่มแต่กับเป็นริวเสียเองที่เป็นคนคุมเกมส์ในค่ำคืนนี้ ให้ตายเถอะยัยนี้ร้อนแรงชะมัดถึงหน้าตาเธอจะสวยหวาน แต่นั้นก็ไม่ใช่สเปกเขา จากที่เราสัมผัสกันด้วยรสจูบนี้ ยัยขี้เมานี้คงไม่ธรรมดา ดีเหมือนกันเขาไม่ชอบของใหม่แกะกล่อง ไม่ชอบที่ต้องเป็นคนสอนงานใครมากประสบการณ์แบบเธอน
2 ซม ผ่านไปริวที่นั่งอยู่ในโต๊ะร่วมกับอรัณและเรียวตะ ไม่นานทั้งสองหนุ่มก็ขอตัวกลับคอนโด ร่างสูงนัยตาคมเข้มจ้องมองร่างบางในชุดนักศึกษาตั้งแต่ที่เธอเดินเข้ามา นี่ผ่านไปจะสามชั่วโมงแล้ว ริวยังคงนั่งมองเธออยู่เช่นนั้น ริวที่เห็นสภาพของเธอ ใบหน้าอันหล่อเหลาถึงกับขมวดคิ้ว เมื่อภาพที่เห็นร่างบางในชุดนักศึกษานั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะโดยมีเพื่อนของเธออย่างริต้านั้นนั่งเฝ้าส่วนโต๊ะผมเหลือแค่ผมและไอ้ริก หมดขวดนี้ก็จะกลับแล้วเหมือนกัน เพราะพรุ่งนี้พวกผมมีเรียนตอนสิบโมง เมื่อนั่งกันได้ซักพักไอ้ริกก็ย้ายโต๊ะไปนั่งจีบสาว ผมว่าผมจะกลับก่อนมันแล้วแหละ เพราะดูท่าแล้วไอ้ริกน่าจะติดลมนั่งจีบเด็กมันต่อร่างสูงเดินมาที่โต๊ะของพี่ชายที่ตอนนี้ มีริต้า ริก และก็ผู้หญิงคนนั้น"กูกลับก่อนนะ ง่วงแล้ววะ พรุ่งนี้มีเรียนเช้า" ริวเดินเข้ามาหาริกแต่สายตากับเบนไปยังร่างบางที่หน้าฟุบลงกับโต๊ะ"เฮ้ย...กลับก่อนได้ไง กลับพร้อมกันดิวะ เนี้ยจะหมดขวดและ" ริกเอ่ยมาขณะที่ยังนั่งชนแก้วกับริต้าอย่างสนุก"ใช่ หมดแก้วนี้ต้าก็จะกลับแล้วเหมือนกัน" ริต้าเธอหันมาเอ่ยกับผม และตอนนี้กลายเป็นว่าผมต้องมานั่งรอไอ้ริกและดูพี่ชายกำลังรุกจีบสาว
10 นาทีที่แล้วด้านเจนิสหลังจากที่ฉันมาถึงร้านตามที่พี่แป้ง บอกกับฉันมานั้น แต่ก็ไม่มีวี่แววของคนที่ฉันอยากเจอแต่อย่างใด ร่างบางเดินมานั่งในโต๊ะร่วมกับแป้งและเพื่อนๆ ของเธอและมีผู้ชายแปลกหน้าคนหนึ่งที่ร่วมโต๊ะด้วย เมื่อมาถึงฉันก็ไม่รอช้าถามถึงคนที่ฉันอยากเจอทันที"พี่แป้ง เลย์ละคะ""เลย์ ... เออ ใช่สิ เมื่อกี้เลย์นั่งอยู่โต๊ะนั้น เจมาช้าไปแค่ห้านาที สงสัยเลย์จะกลับไปแล้ว" พี่แป้งเอ่ยกับฉันมา"ไหนๆ ก็มาแล้ว เจก็นั่งก่อนสิจ๊ะ" พี่แป้งเอ่ยกับฉัน แต่กับมีผู้ชายคนนึงที่นั่งข้างเพื่อนพี่แป้งนั้นยกยิ้มขึ้นมาให้ฉันๆ ดูคุ้นหน้าเขาอยู่นะ แต่ไม่รู้จัก"คนสวย ดื่มอะไรดีครับ" พี่ผู้ชายใบหน้าหล่อที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มนั้นเอ่ยกับฉัน"ว่าไงเจ ดื่มอะไรดี""ออนเดอะร็อค" ทุกคนในโต๊ะต่างดูตกใจกับฉัน"เอางั้นเลยเหรอเจ""จัดมาเถอะค่ะ เจ อยากเมา" ฉันบอกกับพี่แป้ง จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็ยื่นแก้วมาให้ฉันทันทีมือเรียวรับแก้วมาจากนั้นก็กระดกลงคอทันที ฉันไม่ใช่สายดื่มแต่วันนี้ฉันอยากเมาๆ เพื่อจะได้นอนหลับ ไม่ฟุ้งซ่านที่จะโทรหาเลย์ ฉันไม่อยากให้เขานั้นเกลียดฉัน ฉันดื่มไปเพียงแก้วเดียว และตอนนี้มันรู้สึกร้อนและมึนๆ ห