ตอนที่9 ผู้ปกครอง
ณิชาเข้าเรียนชั่วโมงแรกหลังจากหยุดเรียนไปสองวันแต่ก็ตามเก็บงานส่งครบเท่าเพื่อนทุกงาน
“วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ ณัฐณิชารอพบผมหลังเลิกคลาสก่อนนะครับ ที่เหลือไปได้ครับ” เสียงทุ้มของอาจารย์หนุ่มบอกกับนักศึกษาออกไปเมื่อหมดเวลา ณิชาที่กำลังเก็บของอยู่ถึงกับสะดุ้งเมื่อตัวเธอถูกเรียกให้อยู่ต่อ
“อาจารย์มีอะไรเหรอคะ” ณิชาเดินเข้าไปหาอาจารย์หนุ่มพร้อมกับเพื่อนอีกสองคนสีหน้าเป็นกังวล
“ผมขอคุยกับณัฐณิชาแค่สองคน นักศึกษาคนอื่นรบกวนออกไปรอข้างนอกก่อนครับ ผมไม่ทำอะไรเพื่อนพวกคุณแน่นอนครับ” กิตหันไปบอกกับมีญ่าและเจนด้า
“นั่งลงก่อนสิ ไม่ต้องกลัว ผมมีเรื่องจะถามคุณนิดหน่อย” กิตผายมือให้เด็กสาวนั่งลงเก้าอี้ตรงข้าม
“ค่ะ อาจารย์จะถามอะไรหนูเหรอคะ”
“รู้จักซันเดย์ใช่ไหม” กิตยิงคำถามที่ต้องการถามทันทีไม่อ้อมค้อม
“ไม่ต้องโกหกเพราะกลัวไอ้ซันมันดุ เมื่อเช้าผมเห็นคุณลงจากรถไอ้ซันตรงหน้าตึก” กิตใช้สรรพนามแทนตัวเองที่เปลี่ยนไปเมื่อตอนนี้อยู่นอกเวลาเรียน และกำลังสนทนาเรื่องส่วนตัวอยู่
“ค่ะ รู้จักค่ะ”
“รู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ว”
“../..”
“อ้อ..ผมลืมแนะนำตัว ผมชื่อกิตเป็นเพื่อนกับซันเดย์ ถ้าคุณไม่เชื่อผมมีรูปถ่ายยืนยันนะ” เมื่อเห็นปฏิกิริยาเด็กสาวที่นิ่งผิดปกติจึงควักโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดรูปที่พวกเขาถ่ายคู่กันตามสถานที่ต่าง ๆ ทั้งตอนเรียนที่อังกฤษและตอนไปเที่ยวประเทศต่าง ๆ
“รู้จักกันเมื่อไม่นานมานี้ค่ะ แต่หนูไม่ขอลงรายละเอียดนะคะเพราะเป็นข้อตกลงของหนูกับคุณซันเดย์” ณิชาตอบและเอาตัวรอดอย่างชาญฉลาดมีไหวพริบ กิตเผลอยิ้มและชื่นชมออกมา
“รู้จักเอาตัวรอดเก่งนะ สมแล้วที่เป็นคนของไอ้ซัน”
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วหนูขอตัวก่อนนะคะ” ณิชารีบเอาตัวเองออกจากจุดนั้นทันทีเพราะสัญญาความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับชายหนุ่มนั้นเป็นความลับไม่สามารถบอกใครได้ และดูเหมือนอีกฝ่ายจะเข้าใจจึงไม่ถามอะไรต่อ
“เชิญครับ”
หลังจากวันนั้นณิชาก็ใช้ชีวิตตามปกติในรั้วมหาลัยโดยการช่วยเหลือตัวเองเป็นส่วนใหญ่ เพราะจากวันนั้นที่ซันเดย์มาส่งเธอเขาก็หายไปไม่ติดต่อมาอีกเลย
“มันก็ดีไม่ใช่เหรอที่เขาไม่มายุ่งกับเธอ ถือว่าเขายังเมตตาให้เวลาเธอนะณิชา” เสียงเล็กบอกกับตัวเองเมื่อกลับห้องมาเจอเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้เจ้าของสัญญาใบนั้นแต่ไร้เงาคนร่างสัญญานานนับอาทิตย์
ณิชาในชุดนักศึกษาถูกระเบียบกำลังรอแท็กซี่ที่เธอเรียกผ่านแอพอยู่หน้าคอนโด วันนี้เด็กสาวมีพิธีรับเนกไทประจำคณะ เธอจึงไม่อยากไปเบียดเสียดกับผู้คนบนรถไฟฟ้า
ตอนเย็น
“วันนี้เลิกเย็นกลับบ้านยังไงณิชา” มีญ่าเอ่ยถามขึ้นหลังจากทั้งสามเดินออกมาจากงานพิธีด้านใน
“น่าจะแท็กซี่แหละ เดี๋ยวเรียกผ่านแอพเอา”
“ไม่ต้องหรอกมันอันตราย วันนี้พี่ชายฉันมารับเดี๋ยวฉันแวะไปส่ง แล้วก็ห้ามปฏิเสธด้วยวันนี้เราสัญญาจะเป็นเพื่อนกันแล้ว” มีญ่าชิงพูดตัดบทก่อนที่ณิชาจะปฏิเสธออกไป
ทั้งสามนั่งรอรถมารับกว่าครึ่งชั่วโมงจนฝนตั้งเค้าจะตกลงมา ณิชาที่ไม่ได้พกเสื้อแขนยาวหรือร่มกันฝนมาด้วยเริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้เพราะเธอแพ้น้ำฝนถ้าโดนเมื่อไหร่จะไม่สบายทันที
“ณิชาเธอกลัวฝนเหรอ เข้าไปหลบในอาคารก่อนก็ได้นะ ถ้าพี่ชายฉันมารับจะวนไปรับเธอหน้าอาคารก็ได้ อีกสิบนาทีน่าจะถึง” มีญ่าสังเกตเห็นอาการกลัวของณิชาจึงพูดขึ้นเพราะมีหลายคนที่กลัวเสียงฟ้าร้องและลมฝน
“ไม่เป็นไรตรงนี้ก็มีหลังคา อีกสิบนาทีเองฝนน่าจะยังไม่ตก” ณิชาทำใจดีสู้เสือทั้งที่ในใจกลัวจนตัวสั่น ไม่เพียงน้ำฝนที่ทำให้เธอไม่สบาย ลมกรรโชกที่แรงแทบพัดพาทุกอย่างตรงหน้าไป บวกกับเสียงฟ้าร้อง เธอกลัวแทบหายใจไม่ออก ยังดีที่ตอนนี้เพียงเริ่มตั้งเค้ายังไม่มีลมพัดแรงเท่าไหร่
เอี๊ยด.. ฟู่~ฟู่~ฟู่~
รถยนต์คันหรูเคลื่อนตัวเข้ามาจอดพร้อมกับสายฝนที่เทลงมา บรรยากาศรอบด้านมืดสนิทมีเพียงแสงไฟตามจุดทางเดินต่าง ๆ ที่ส่องสว่างเป็นระยะ
“ไปกันเถอะรถพี่ชายฉันมาแล้ว”
“ณิชา นายมารับครับ รออยู่ในรถคันโน้น” ร่างสูงของเตมินเดินฝ่าสายฝนมาหยุดตรงหน้าเด็กสาว ณิชาที่ตอนนี้สติกระเจิงเพราะเสียงฟ้าร้องได้แต่มองหน้าเลขาหนุ่มสลับกับมองหน้าเพื่อน
“ใครเหรอณิชา” มีญ่าที่เห็นอาการเพื่อนไม่ดีนักจึงเอ่ยถามขึ้นเพราะกลัวจะไม่ใช่คนที่เพื่อนรู้จัก
“มัวชักช้าทำอะไรอยู่ ขึ้นรถ” ชายหนุ่มเดินกางร่มเข้ามาตรงจุดที่ทุกคนยืนอยู่ ทุกสายตาหันไปมองเจ้าของเสียง
“เอ่อ..นี่ผู้ปกครองของฉัน งั้นฉันขอตัวกลับก่อนนะ ขอบคุณมากที่อุตส่าห์ให้กลับด้วย ไว้เจอกันพรุ่งนี้” ณิชาที่ได้สติเต็มร้อย ความกลัวก่อนหน้าหายเป็นปลิดทิ้งเมื่อเจอสีหน้าราบเรียบของชายหนุ่ม
“สวัสดีค่ะ ไว้เจอกันพรุ่งนี้ บ๋ายบาย”
“ขึ้นรถ โดนฝนไม่ได้แต่ก็ไม่รู้จักพกร่มมา” เสียงเรียบหันไปดุเด็กสาวขณะที่มือก็กางร่มอันใหญ่พาเด็กสาวเดินไปขึ้นรถ
ฝ่ามือหนาปัดน้ำฝนที่เกาะอยู่ตรงแขนเสื้อด้านซ้ายออก พร้อมกับหยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาเช็ดละอองฝนที่โดนหน้า
“หนูช่วยเช็ดค่ะ” มือเล็กยื่นมาตรงหน้าชายหนุ่มอาสาจะช่วยเช็ดให้
ร่างบางโย้ตัวขึ้นและเอี้ยวตัวเล็กน้อยค่อย ๆ เช็ดละอองฝนที่ติดอยู่บนตัวชายหนุ่มออกจนเกือบหมด ด้วยความสูงที่ต่างกันจนณิชาต้องยืดตัวขึ้นเพื่อจะได้เช็ดได้สะดวก มือเล็กที่ถือผ้าเช็ดหน้าในมือเอื้อมไปด้านหลังชายหนุ่มเพื่อเช็ดเม็ดฝนที่เกาะอยู่บนไหล่ด้านหลังออก จนลืมไปว่าตอนนี้หน้าอกอวบภายใต้เสื้อนักศึกษาตัวบางกำลังเสียดสีกับแขนแกร่งไปมาตามจังหวะขยับตัว
“เสร็จหรือยัง” เสียงแหบพร่าเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่สูดดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ บนตัวเด็กสาวเข้าไปจนเต็มปอด กิจกรรมที่ทำทั้งวันไม่ช่วยให้กลิ่นหอมนี้จางลงไปแม้แต่น้อย
“เสร็จแล้วค่ะ คุณหนาวเหรอคะ พี่เตมินคะรบกวนปรับแอร์ขึ้นอีกหน่อยค่ะ” เด็กสาวเอ่ยถามขึ้นเมื่อเห็นอีกฝ่ายกระชับเสื้อสูทเข้าหากัน จึงหันไปบอกเตมินที่นั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับ
ก่อนหน้านั้น
“ณิชากลับถึงบ้านหรือยัง” ซันเดย์ถามเตมินขณะนั่งรถกลับบ้านเมื่อมองออกไปด้านนอกรถเห็นท้องฟ้ามืดครึ้มเหมือนฝนตั้งเค้าจะตก และนึกขึ้นได้ว่าในใบประวัติเด็กสาวที่เคยให้ไว้เธอเขียนว่ากลัวฝน
“ยังครับเห็นบอกว่าวันนี้เลิกเย็นเพราะมีกิจกรรมรับเนกไท”
“แวะรับเธอกลับบ้านด้วย ฝนน่าจะตกหนัก”
บนรถ
ฝนตกลงมาอย่างหนักส่งผลให้วันนี้การจราจรค่อนข้างติดหนักแทบจะเป็นอัมพาต รถเคลื่อนตัวได้เป็นจังหวะสั้น ๆ สลับกับหยุดนิ่งนานนับชั่วโมง
ณิชานั่งกอดกระเป๋าสะพายใบเล็กเพราะอุณหภูมิภายในรถที่เย็นลงเนื่องจากอุณหภูมิด้านนอกลดลงเพราะฝนตกหนัก
“หนาวก็ขยับเข้ามา เตมินปรับแอร์ขึ้นอีก” ฝ่ามือหนาดึงรั้งร่างบางเข้าหาตัว ณิชาขยับเข้าหาไออุ่นจากอ้อมแขนแกร่ง
ห้าว~ห้าว~ห้าว~
เมื่อร่างกายได้รับไออุ่นจากอ้อมแขนแกร่งก็เริ่มหาวนอน มือเล็กยกขึ้นปิดปากครั้งแล้วครั้งเล่า หนังตาที่หนักอึ้งทำท่าจะปิดลงครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นกัน ศีรษะทุยพะหงกแทบล้มไปข้างหน้าจนเสียการทรงตัวอยู่หลายครั้ง
“ง่วงก็นอน จะฝืนทำไม” ฝ่ามือหนาผลักศีรษะทุยเข้ากับอกตัวเอง เมื่อได้รับอนุญาตเด็กสาวไม่รอช้าที่จะปิดเปลือกตาที่หนักอึ้งลง ให้ร่างกายได้พักผ่อนหลังจากใช้งานหนักมาทั้งวัน ลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอในเวลาไม่ถึงห้านาทีบ่งบอกว่าเด็กสาวในอ้อมอกนั้นได้หลับสนิทแล้ว
ใช้เวลาเกือบสองชั่วโมงก็เดินทางกลับมาถึงคอนโดใจกลางเมืองที่เด็กสาวพักอาศัยอยู่ คอนโดแห่งนี้ค่อนข้างเป็นส่วนตัวเพราะมีแต่ไฮโซหรือคนมีฐานะค่อนข้างดีเท่านั้นจะสามารถซื้อที่นี่ได้เพราะราคาสูงเท่ากับบ้านขนาดใหญ่หนึ่งหลัง คอนโดแห่งนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายรวมถึงความเป็นส่วนตัวของคนพักอาศัยเช่นกัน
“ถึงแล้วครับ นายปลุกเธอก่อนไหมครับ”
“ณิชา ถึงแล้ว” เสียงทุ้มกระซิบข้างหูเพื่อปลุกคนที่กำลังหลับอยู่ให้ตื่น
“อือ..ถึงแล้วเหรอคะ”
“ถึงแล้ว หรือจะนอนต่อในรถก็ได้นะ”
“ใครเขานอนในรถกันคะ มีหวังขาดอากาศหายใจตายกันพอดี” เด็กสาวประชดกลับด้วยความที่โดนปลุกขณะที่กำลังหลับสบายจึงหงุดหงิดเล็กน้อยเพราะยังปรับอารมณ์ไม่ทัน
“ไม่นอนก็ขึ้นห้อง”
“เอกสารผมวางไว้นี่นะครับ พรุ่งนี้นายจะเข้าบริษัทไหมครับผมจะได้มารับ”
“เข้าแต่อาจจะสายหน่อย พรุ่งนี้เช้าให้คนขับรถที่บ้านขับรถมาให้ฉันที่นี่ด้วยคันหนึ่ง”
“ครับนาย งั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ”
หลังจากที่เตมินกลับออกไปซันเดย์ก็นั่งดูงานที่กิตส่งมาให้ เป็นเอกสารเชิญให้ไปเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษในหัวข้อ “แนวคิดของคนสำเร็จ” ถึงซันเดย์จะเกิดและโตในครอบครัวที่มีเพรียบพร้อมทุกอย่างแต่เขาเป็นหนึ่งคนที่ไม่เคยอาศัยเงินของพ่อแม่ในการใช้ชีวิต แม้กระทั่งใต่เต้าขึ้นมาเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่ประสบความสำเร็จอย่างวันนี้ นิ้วเรียวยาวกำลังพิมพ์ข้อความตอบกลับไปในอีเมล เมื่อพิมพ์เสร็จก็ปิดหน้าจอLaptop จากนั้นก็เดินเข้าห้องนอนเพื่ออาบน้ำพักผ่อนเพราะตอนนี้ดึกมากแล้ว
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาในห้องก็ต้องตกใจกับภาพที่เห็น ณิชานอนซุกหน้าเข้ากับหมอนข้างใบใหญ่ กระโปรงนักศึกษาทรงเอร่นขึ้นมาจนเห็นชุดชั้นในสีดำ เสื้อนักศึกษาถูกปลดกระดุมข้างบนออกสองเม็ดเผยร่องอกอวบเบียดเสียดกันโชว์เด่นอยู่ตรงหน้า
“ตั้งใจจะอ่อยกันจริง ๆ ใช่ไหม อยากทำหน้าที่ตัวเองแล้วใช่ไหมยัยเด็กขี้อ่อย” ซันเดย์เดินไปหยุดข้างเตียงที่มีคนนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวว่าภัยกำลังมาถึงตัว
“ณิชา ลุกไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้ ใครใช้ให้นอนทั้งชุดนักศึกษาแบบนี้” มือหนาสะกิดคนตัวเล็กให้ตื่น
“อือ..คุณอย่ากวนหนูได้ไหม หนูง่วงมากหนูจะนอน”
“ถ้ายังไม่ลุกฉันจะจับเธอขึ้นมากระแทกทั้งชุดนักศึกษาแบบนี้แหละ เธอจะไม่ให้เกียรติชุดที่เธอใส่เพื่อศึกษาหาความรู้ก็ได้นะ” ซันเดย์แกล้งขู่ออกไปเสียงเข้ม
“คุณจะมาหื่นอะไรตอนนี้ อยากมากก็ไปช่วยตัวเองในห้องน้ำโน่นค่ะ” คนที่ถูกรบกวนการนอนว่ากลับอย่างลืมตัวว่าตัวเองนั้นกำลังอยู่ในสถานะไหน
“ทำไมฉันต้องช่วยตัวเอง ทั้งที่ฉันจ่ายเงิน 4 ล้านจ้างเธอมา แล้วถ้าฉันจะมีอารมณ์ตอนนี้ก็เพราะเธอมันขี้อ่อย”
“หนูอ่อยคุณตอนไหนคะ”
“แล้วที่นอนอ้าขาอยู่ตอนนี้ไม่ใช่กำลังอ่อยฉันหรือไง”
ตอนที่10 ทำหน้าที่ได้ยินดังนั้นเด็กสาวรีบลนลานลุกจากเตียงนอนสาวเท้าเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าตามที่ชายหนุ่มสั่ง ความเย็นของสายน้ำจากฝักบัวไหลลงกระทบผิวกายไม่สามารถดับความกระวนกระวายในใจเธอได้เลย เมื่อต้องจินตนาการว่าต่อจากนี้ต้องเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้าง ภาพเคลื่อนไหวที่เธอเคยดูในคลิปวิดีโอสิบแปดบวก ฉายวนซ้ำอยู่ในหัว เสียงร้องครวญคราง สีหน้าที่แสดงออกถึงความเจ็บปวดเวลาที่โดนสอดใส่ความเป็นชายเข้าไปช่องทางรัก เธอนึกไม่ออกว่าเธอจะรับสิ่งพวกนั้นได้มากน้อยแค่ไหน“จะอาบถึงเที่ยงคืนเลยหรือไง” ณิชาตัวเย็นวาบรู้สึกชาไปทั้งตัวเมื่อชายหนุ่มที่เธอกำลังจินตนาการถึงเปิดประตูเข้ามา“คุณเข้ามาได้ไงคะ” ร่างกายเปลือยเปล่ายืนแข็งทื่อหันขวับใช้มือปิดส่วนบนส่วนล่างไว้ ถามชายหนุ่มเสียงสั่นขณะที่ยืนหันหลังให้“ก็เธอตั้งใจให้ฉันเข้ามาไม่ใช่เหรอ ก็เห็นไม่ล็อกประตู” คำตอบของซันเดย์ณิชาแทบอยากยกกำปั้นขึ้นทุบหัวตัวเองแรง ๆ ที่สะเพร่าลืมล็อกประตู“เปล่านะคะ หนูรีบเลยลืมล็อก” เด็กสาวรีบปฏิเสธออกไปทันควันเพราะกลัวว่าชายหนุ่มจะเข้าใจผิด“มาถูหลังให้ฉันด้วย” เสียงเรียบสั่งออกไปขณะที่มือเอื้อมไปเปิดก๊อกน้ำตรง
ตอนที่9 ผู้ปกครองณิชาเข้าเรียนชั่วโมงแรกหลังจากหยุดเรียนไปสองวันแต่ก็ตามเก็บงานส่งครบเท่าเพื่อนทุกงาน“วันนี้พอแค่นี้ก่อนครับ ณัฐณิชารอพบผมหลังเลิกคลาสก่อนนะครับ ที่เหลือไปได้ครับ” เสียงทุ้มของอาจารย์หนุ่มบอกกับนักศึกษาออกไปเมื่อหมดเวลา ณิชาที่กำลังเก็บของอยู่ถึงกับสะดุ้งเมื่อตัวเธอถูกเรียกให้อยู่ต่อ“อาจารย์มีอะไรเหรอคะ” ณิชาเดินเข้าไปหาอาจารย์หนุ่มพร้อมกับเพื่อนอีกสองคนสีหน้าเป็นกังวล“ผมขอคุยกับณัฐณิชาแค่สองคน นักศึกษาคนอื่นรบกวนออกไปรอข้างนอกก่อนครับ ผมไม่ทำอะไรเพื่อนพวกคุณแน่นอนครับ” กิตหันไปบอกกับมีญ่าและเจนด้า“นั่งลงก่อนสิ ไม่ต้องกลัว ผมมีเรื่องจะถามคุณนิดหน่อย” กิตผายมือให้เด็กสาวนั่งลงเก้าอี้ตรงข้าม“ค่ะ อาจารย์จะถามอะไรหนูเหรอคะ”“รู้จักซันเดย์ใช่ไหม” กิตยิงคำถามที่ต้องการถามทันทีไม่อ้อมค้อม“ไม่ต้องโกหกเพราะกลัวไอ้ซันมันดุ เมื่อเช้าผมเห็นคุณลงจากรถไอ้ซันตรงหน้าตึก” กิตใช้สรรพนามแทนตัวเองที่เปลี่ยนไปเมื่อตอนนี้อยู่นอกเวลาเรียน และกำลังสนทนาเรื่องส่วนตัวอยู่“ค่ะ รู้จักค่ะ”“รู้จักกันมานานแค่ไหนแล้ว”“../..”“อ้อ..ผมลืมแนะนำตัว ผมชื่อกิตเป็นเพื่อนกับซันเดย์ ถ้าคุณไม่เชื่อผม
ตอนที่8 ติดใจเช้าวันต่อมาซันเดย์แจ้งความประสงค์กับโดเมนว่าเขาต้องการออกจากโรงพยาบาล แม้จะมีเสียงคัดค้านจากทุกคนรวมทั้งหมอเจ้าของไข้อย่างโดเมนเองก็ยังไม่อยากให้ออกไปตอนนี้“นอนดูอาการอีกสักคืนก่อน ถ้าไม่มีไข้พรุ่งนี้ค่อยกลับ” เสียงของโดเมนที่พยายามเกลี้ยกล่อมเพื่อนรักอย่างใจเย็น“ไม่..ฉันไม่ได้เป็นอะไรมากแล้ว อยู่นี่ก็นอนเฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไร กลับไปพักที่บ้านก็ได้” ซันเดย์กลับออกมาจากห้องน้ำหลังจากเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า“คุณยังตัวรุม ๆ อยู่เลยนะคะ น่าจะเพราะแผลมันอักเสบหรือเปล่าที่เมื่อวานหนูเผลอเขย่าแขนคุณน่ะค่ะ” เสียงของเด็กสาวเดินตามหลังไปมาระหว่างที่ชายหนุ่มเดินไปหยิบจับโน่นนี่ ราวกับเป็นเงาตามตัว“เป็นผีหรือไงถึงมาเดินตามฉันอยู่ได้ ไปเก็บของก่อนที่ฉันจะปล่อยให้เธอกลับบ้านเอง อย่ามัวพูดมากน่ารำคาญอยู่แบบนี้” มือหนาที่กำลังเก็บเอกสารยัดใส่กระเป๋าหยุดชะงักแล้วหันหลังมาพูดกับเด็กสาว“ก็ได้ค่ะ” ณิชาจำต้องรีบเก็บของใช้ส่วนตัวของตัวเองตามคำสั่งของชายหนุ่ม“เฮ้อ! แม่งดื้อจริง ๆ” โดเมนถอนหายใจยาว ๆ เมื่อโดนเมินเฉยจากผู้ป่วย VIP จำต้องจรดปากกาเซนต์ชื่อลงในชาร์จคนไข้และกดสั่งยาในไอแพดที่พยาบาลส
ตอนที่7 มือเดียวไหว“เกิดอะไรขึ้น” เสียงของโดเมนไม่ช่วยทำลายบรรยากาศตึงเครียดเลยสักนิด เด็กสาวยังยืนก้มหน้าสะอื้นไห้ไม่ยอมหยุด“แล้วทำไมสภาพมึงถึงเป็นแบบนี้” โดเมนถามขึ้นอีกครั้งเมื่อยังไม่ได้รับคำตอบใด ๆ“เลือดไหลย้อนกลับเข้าสายน้ำเกลือกูเลยดึงออก สภาพก็อย่างที่มึงเห็น”“แล้วณิชาร้องไห้ทำไม มึงทำอะไรเธอ” โดเมนไม่ได้สนใจคนป่วยที่นอนอยู่บนเตียง แต่ให้ความสนใจเด็กสาวที่สะอื้นไห้อยู่ข้างเตียงมากกว่า“กูยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ซันเดย์ตอบกลับไปเสียงเรียบสีหน้าเอือมระอา“ณิชาร้องไห้ทำไมครับ”“ขอโทษค่ะ หนูไม่ได้ตั้งใจจะนอนทับแขนคุณซันเดย์เลยนะคะ”“พี่รู้ครับ แต่คราวหลังณิชาต้องระวังมากกว่านี้ ถ้าเกิดว่าไอ้ซันเสียเลือดในปริมาณมากอาจเป็นอันตรายได้ ไปล้างหน้าไปร้องไห้ตาแดงหมดแล้ว” โดเมนค่อย ๆ อธิบายให้เด็กสาวฟังอย่างใจเย็น ไม่ได้เอ่ยโทษหรือตำหนิอะไรเพราะรู้ว่าเด็กสาวไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นณิชาเดินเข้าห้องน้ำอย่างว่าง่าย“ทีกูบอกไม่เห็นจะฟัง มึงบอกแค่คำเดียวรีบทำตามอย่างไว สรุปเป็นคนของใครวะ” ซันเดย์สบถออกมาไม่พอใจนัก“แล้วนี่มึงเจ็บแขนเหรอ ยังไม่ดีขึ้นหรือไง” โดเมนสังเกตเห็นว่าซันเดย์เอามือจับที่แขนหล
ตอนที่6 รู้เท่าไม่ถึงการณ์ณิชารีบเช็ดตัวให้ชายหนุ่มด้วยความระมัดระวังเพราะบนตัวยังมีรอยฟกช้ำให้เห็นอยู่หลายจุด เมื่อเช็ดเสร็จก็เอาผ้าเช็ดตัวผืนใหม่มาพันรอบเอวก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าชุดใหม่มาให้ชายหนุ่มเปลี่ยน“พี่หมอโดเมนบอกว่าสักพักหมอจะมาเข้าเฝือกให้ค่ะ ระหว่างนี้คุณจะนอนพักก่อนก็ได้นะคะ” ณิชาที่ทำหน้าที่เป็นพยาบาลจำเป็นเอ่ยพูดขึ้น สะโพกกลมมนนั่งลงบนโซฟาข้างเตียงผู้ป่วยโชว์เรียวขาสวยเนื่องจากวันนี้เด็กสาวใส่กางเกงขาสั้น“ฉันโตแล้วไม่ต้องมีใครบอกว่าควรนอนตอนไหน แล้วอีกอย่างกางเกงที่มันยาวกว่านี้ไม่มีหรือไง เสื้อผ้ามีเต็มตู้ไม่เอามาใส่ชอบนักไอ้เศษผ้าพวกนี้” สายตาคมเข้มมองเด็กสาวสีหน้าไม่พอใจนักที่เด็กในการปกครองแต่งตัวไม่ค่อยเรียบร้อยออกจากบ้าน ถ้าชุดที่เด็กสาวใส่ตอนนี้ใส่แค่อยู่บ้านเขาคงไม่ว่าอะไร แต่นี่ใส่ออกมาข้างนอกแถมนั่งแท็กซี่มาคนเดียวอีกต่างหาก คนสมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจเมื่อมีสิ่งยั่วยวนมันต้องมีการเกิดอารมณ์ความต้องการเป็นธรรมดา“หนูรีบค่ะ พอพี่เตมินโทรบอกหนูก็รีบออกมาเลย” ณิชาพยายามอธิบายให้ชายหนุ่มฟังก๊อก ก๊อก ก๊อก“ขออนุญาตครับ คุณหมอโดเมนแจ้งแล้วใช่ไหมครับว่าหมอซันต้องเ
ตอนที่5 ไร้เดียงสาทั้งสองต่างแยกย้ายออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง ณิชาเดินออกไปหน้าปากซอยเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้าเพื่อเดินทางไปเรียน ส่วนซันเดย์ก็ขับรถไปทำงานตามปกติ“วันนี้ช่วงบ่ายนายจะออกไปตรวจไซซ์งานไหมครับ” เตมินเอ่ยถามเมื่อทั้งสองเดินออกจากห้องประชุมหลังจากประชุมความคืบหน้าของโครงการเสร็จ“ไป เตรียมแปลนที่ฝ่ายสถาปนิกแก้ไขไปด้วย”“ครับ”ซันเดย์เดินตรวจสอบความเรียบร้อยของโครงสร้างด้วยตัวเองทั้งที่มีวิศวกรรับผิดชอบโครงการนี้อยู่แล้ว แต่ชายหนุ่มก็มาตรวจความเรียบร้อยด้วยตัวเองทุกครั้ง“โซนโน้นช่างกำลังขึ้นโครงสร้างคุณซันเดย์อย่าเดินเข้าไปเลยครับมันอันตราย” วิศวกรหนุ่มเอ่ยเตือนซันเดย์ถึงพื้นที่ด้านในที่เป็นพื้นที่อันตราย“ฉันเข้าไปดูแป๊บเดียว ตรงนั้นสถาปนิกเปลี่ยนแปลนใหม่แก้ไขเรียบร้อยหมดทุกจุดหรือยัง”“เรียบร้อยครับ”“ฉันเข้าไปดูหน่อย” พูดจบเท้ายาวก็สาวเท้าเดินดุ่ม ๆ เข้าไปยังโซนพื้นที่ก่อสร้างที่ขึ้นป้ายเตือนชัดเจนว่าตรงนี้เป็นเขตก่อสร้างผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้า“กำชับคนงานด้วยว่าอย่ามักง่ายหรือหละหลวมในการทำงาน เพราะบ้านคนไม่ได้อยู่แค่ห้าปีสิบปี บางคนใช้เงินเก็บทั้งชีวิตเพื่อซื้อบ้านสักหลังไว้