นับจากงานเลี้ยงของลุงจรัญในวันนั้น ฤชาก็ไม่ได้ออกไปไหนอีก นอกจากไปรับส่งบุตรสาว เขาใช้เวลาหมกมุ่นกับการทำงานมากกว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว หรือ ลึก ๆ แล้วเขาอาจจะกำลังหลบใครบางคนอยู่ก็เป็นได้ ไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้สึกอะไร แต่เรื่องทั้งหมดมันผ่านไปเนิ่นนานแล้ว ต่างคนก็ต่างเลือกทางเดินของตนเอง เขามีครอบครัวของเขา ชาคริตก็มีครอบครัวของชาคริต " พี่ใหญ่~~~~ " เสียงหวานใสดังขึ้นมาจากหน้าบ้านก่อนจะกระโดดกอดหมับเข้าที่เอวบาง " โตแล้วยังอ้อนเป็นน้องเนยไปได้ " " สวัสดีครับ พี่ชา " พลพิทักษ์ยกมือสวัสดีพี่ชายของคนรัก ทุกวันนี้เขารับส่งเจ้าตัวทุกวันไม่ขาด และกลายเป็นหนึ่งในสมาชิกของบ้านไปแล้ว แม้ไม่ได้ค้างก็ตามแต่เรื่องข้าวเย็นสามารถมาฝากท้องได้ตามสบาย " ไปอาบน้ำอาบท่าทั้งคู่ แล้วค่อยลงมากินข้าว " ฤชาไล่น้องชายคนเล็กกับคนรักไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย หลังจากพ้นพี่ชายมา พลก็ถามขึ้น " ช่วงนี้พี่ชาดูซึม ๆ ไปหรือเปล่า " " อืม พ่อของเนยมาไทยน่ะ " ชลธีตอบตรง ๆ เขาไม่มีเรื่องปิดบังคนรัก " เดี๋ยวนะที่รัก พ่ออีกคนของน้องเนยอ่ะนะ คนที่ทำพี่ชาท้อง? " " ใช่แล้ว " " ไปไงมาไงล่ะครับเนี่ย " จากนั้นพลก็ถูกลากเข้าห้องของชลธีและฟังเรื่องเล่านานครึ่งชั่วโมงก่อนจะพูดว่า... " เป็นผู้ชายที่เฮงซวยมากครับ บอกเลย " " เห็นด้วย ๆๆๆๆ เลวมาก " " ที่รัก ผมจะไม่เป็นแบบนั้นเด็ดขาด " " ก็ลองดูสิ น้ำเอาตายแน่ แง่ง!! " พลพิทักษ์โดนกัดที่แขนเบา ๆ ก่อนจะเอาคืนโดยจับคนร่างเล็กกดไว้ใต้ตัวและมอบจุมพิตรสหวานล้ำเป็นการตอบแทน " อืม พล น้ำอยาก " หลังจากจูบกันไปมา แน่นอนว่าร่างกายวัยรุ่นย่อมต้องมีปฏิกิริยาเป็นเรื่องธรรมดา " งั้นไปอาบน้ำด้วย ทำไปด้วยนะครับคนดี เดี๋ยวพี่ใหญ่รอนาน จะโดนบ่นเอานะ " คนตัวเล็กน่ายู่ แต่ก็ยอมตามแต่โดยดี พลช่วยคนตัวเล็กถอดเสื้อผ้า เผยร่างกายขาวเนียนละเอียด เอวคอดบาง ขาเรียวสวย จุดสีชมพูเข้มแต่งแต้มตรงกลางหน้าอกทั้งสองด้านแล้วก็ต้องกลืนน้ำลายดังเอื๊อก เจ้าลูกชายตัวดีของเขาถึงกับแข็งจนปวด เขารีบถอดเสื้อผ้าออกจนร่างเปลือยเปล่าก่อนอุ้มคนน้องเข้าห้องน้ำไปอย่างเร่งรีบ หลังจากนั้นเสียงครางอย่างมีความสุขหวานแหลมผสมแหบแห้วก็ดังลอดออกมาเป็นระยะไม่ขาดอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะหยุดลง ร่างใหญ่อุ้มร่างเล็กห่อผ้าเช็ดตัวออกมา ก่อนจะช่วยเช็ดตัว ไดร์ผมและแต่งตัวให้ " เมื่อยมือไปหมดเลยอ่าา พล " เจ้าตัวเลยประท้วงงุ้งงิ้งอย่างน่ารัก จนเขาก้มลงไปจูบขมับอย่างช่วยไม่ได้ " ขอบคุณที่รัก แล้วที่รักสบายตัวไหมครับ วันนี้ของตัวเองอร่อยนะ " พร้อมแลบลิ้นเลียริมฝีปากบางได้รูปของตัวเอง ทำเอาคนตัวเล็กหน้าแดงก่ำนึกถึงเหตุการณ์ในห้องน้ำที่ผ่านมาเมื่อครู่ที่ยังคงแจ่มชัดในความทรงจำ " อื้ม ไปกินข้าวกัน หิวแล้ว " ชลธีหาเรื่องเฉไฉเพื่อลดความเขินอายลง พลพิทักษ์ก็พอจะรู้และก็ยอมตามใจคนรักแต่โดยดี เมื่อลงมาก็พบว่านาวีกลับมาแล้วเช่นกัน " พี่วี~~~~ " " สวัสดีครับพี่วี " " อื้ม " " พี่รองหน้าบูด ใครทำไรพี่อ่ะ " น้องชายคนเล็กของบ้านถามขึ้นอย่างสงสัย ปกติ แม้เหนื่อยหรือเจอเรื่องไม่ดี นาวีจะไม่เอากลับมาที่บ้านให้คนในบ้านเห็น " เพื่อนบ้านย้ายมาใหม่น่ะ " เจ้าตัวบอกสั้น ๆ ข้าง ๆ บ้านของพวกเขามีบ้านที่เจ้าของปล่อยขายอยู่หลังหนึ่ง แต่เนื่องด้วยราคาที่แพงและยุคเศรษฐกิจตกต่ำจึงหาคนมาซื้อต่อยาก แม้จะปล่อยเช่าก็ยังไม่มีคนมาเช่าต่อ มันจึงว่างไร้คนอาศัยมาจะครบปีแล้ว " บ้านนั้นมีคนซื้อไปแล้วหรอครับ " ชลธีถามพี่ชายคนรอง " อืม " " ก็ดีนี่พี่ ไม่เห็นจะเป็นไร ยังไงก็ไม่ได้ยุ่งกันอยู่แล้ว ทำไมพี่อารมณ์เสียล่ะ " น้องชายคนเล็กถามด้วยความสงสัยเข้าไปอีก ลางสังหรณ์ไม่ดีชักจะทำงานขึ้นมากะทันหัน " อย่าบอกนะว่า.... " " ก็ตามที่คิดแหละ " พลมองสองพี่น้องพูดเป็นประโยคไม่หัวท้ายและเข้าใจกันเองก็ทำหน้างง " คนรู้จักของพี่ชาน่ะ " พลก็บรรลุว่าทำไมสองพี่น้องทำหน้าบอกบุญไม่รับขึ้นมา " ทำไมตื้อนักวะ ครอบครัวก็มีหน้าด้านชิบหาย " นาวีสบถออกมาอย่างหัวเสีย " ริยำมาก นี่ยังไม่ยอมปล่อยพี่ใหญ่อีก แม่งเอ้ย! " น้องคนเล็กโกรธตาม พลได้แต่ดึงอีกฝ่ายมาลูบหัวเบา ๆ ให้อารมณ์เย็นลง เขาก็เห็นด้วยกับทั้งสองคน ในเมื่อตัวเองแต่งงานมีครอบครัวไปแล้วยังมาตามตื้ออะไรกับพี่ชาอีก มันจะหน้าด้านเกินไปเหมือนกัน ขนาดเขาที่เป็นผู้ชายเหมือนกันยังรู้สึกรังเกียจ " พี่ชารู้แล้วหรือยัง " น้องชายคนเล็กของบ้านเอ่อยขึ้น " รู้นานแล้ว " นาวีตอบแบบไม่สบอารมณ์ " แล้วพี่ใหญ่ไม่พูดอะไรบ้างหรอ " " บอก บอกว่าเป็นสิทธิ์ของเขาที่เขาจะอยู่ที่ไหน และสิทธิ์ของเราที่จะไม่สนใจและยุ่งเกี่ยว " " พี่ไม่กลัวพี่ชากลับไปหรอ " ชลธีถาม " ไม่หรอก พี่รู้จักพี่ใหญ่ดี " นาวีรู้ว่าลองฤชาตัดแล้วก็คือตัด ในเมื่อเลือกแล้วที่จะไม่มีอีกคนในชีวิต เขาไม่เคยเห็นฤชาคร่ำครวญหรือเศร้าเลยสักครั้ง แต่มุ่งมั่นดำเนินชีวิตอย่างมีพลังและสวยงาม เลี้ยงลูกสาวและน้องชายอย่างมีความสุข เขาคิดว่าต่อให้อีกฝ่ายย้ายมาสิงในบ้านเขา ฤชาก็ไม่กลับไปอยู่ดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอีกฝ่ายเป็นคนมีครอบครัวด้วยแล้วหรอกนะ ฤชายิ่งไม่สนใจเข้าไปใหญ่ เพราะสิ่งที่ฤชารังเกียจที่สุดคือ คนมีครอบครัวแล้วแต่นอกใจและสามีหรือภรรยาตนเอง แต่เขาต้องเห็นหน้าไอ้เหี้ยนี่ทุกวัน แค่คิดก็หงุดหงิดโว้ยยยย ผู้ชายริยำนี่!! " ช่างเถอะ แค่หาทางกีดกันไม่ให้อีกฝ่ายมายุ่งกับพี่ชาก็พอ " ชลธีบอก " แต่ไม่มีใครเฝ้าพี่ชาได้ตลอดเวลาหรอกนะ ใครจะรู้ว่าตอนไหนมันจะดอดมาบ้านเราได้น่ะ " นาวีเอ่ยอย่างขุ่นเคือง " พี่วี น้ำ ใจร่ม ๆ ก่อนครับ ลองคุยกับพี่ชาดีไหมครับ " พลเสนอความคิด เอาจริงเขาว่าพี่ชาเห็นนุ่ม ๆ แบบนี้แต่ที่จริงใจแข็งมาก เป็นคนที่ลองตัดสินใจแล้วก็คือตามนั้น ลองอีกฝ่ายตัดจบมันก็จบ ความสัมพันธ์นั้นก็ไปต่อไม่ได้ อีกอย่างพี่ชาเป็นผู้ใหญ่แล้ว แกมีความคิดเป็นของตัวเอง ในฐานะคนที่ดูแลเลี้ยงเด็กมาสามคนตั้งแต่อายุยังน้อย เขาว่าพี่ชามีความเป็นผู้ใหญ่มากกว่าอายุและตัดสินใจได้ดี ดูจากการเลือกเดินจากมาในเมื่อรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่สามารถเลือกตนได้ เขาก็รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนเด็ดขาด อย่าได้ถูกหน้าตาหวาน ๆ นั่นหลอกเอาได้ ในบ้านนี้ บอกเลยว่าเขากลัวและเกรงใจพี่ชามากกว่าพี่วีหลายเท่าตัว นาวีแค่ปากร้ายแต่ขี้ใจอ่อน ไม่มีพิษมีภัยอะไร ในบ้านนี้ถ้าพี่ชาไม่ยอมรับความสัมพันธ์ของเขากับน้ำแม่นิดเดียวเขาก็เลิกหวังได้เลย หลังจากกินข้าวและส่งน้องเนยขึ้นนอนเรียบร้อย สามพี่น้องก็นั่งคุยกันแบบเป็นการเป็นงาน " พี่ใหญ่รู้ใช่ไหมว่าคนข้างบ้านเป็นใคร " นาวีถามขึ้น " รู้ " " แล้วทำไมพี่ไม่รู้สึกโมโหบ้างหรอ " คราวนี้เป็นน้องชายคนเล็กถาม " จะใส่ใจทำไมล่ะ เรื่องของคนอื่น สิทธิ์ที่เขาจะอยู่ที่ไหน มันเงินของเขาที่เขาจ่ายไป เราห้ามไม่ได้ แต่ถ้าเขาจะมายุ่มย่ามกับบ้านเราพี่ก็ไม่ยอม นี่คือเส้นที่ขีดไว้ชัดเจนของพี่ ใครก็ล้ำเข้ามาไม่ได้เช่นกัน " ฤชาตอบเสียงราบเรียบชัดเจน สายตาหวานกลายเป็นดุดัน " พะ พี่ใหญ่จะไม่กลับไปใช่ไหม " ชลธีถามขึ้นมา " ไม่หรอก พี่ไม่สนใจคนมีครอบครัวแล้วหรอกนะ บาปกรรม " " สบายใจหน่อย เอาเถอะ ถ้ามีอะไรอย่าลืมเรียกพวกเราล่ะ เข้าใจใช่ไหมพี่ชาย พวกเราจะอยู่ซัพพอร์ตพี่เอง " นาวีเอ่ยนำ เขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายความรู้สึกของฤชาอีกแล้ว เขายังจำได้ดีถึงวันที่ฤชากลับมาและตอนที่รู้ว่าตัวเองท้องและต้องฝ่าฟันอะไรบ้าง " อืม ขอบใจนะ " " พี่น้องกัน ขอบคุณบ้าบออะไร " นาวีกล่าวอย่างเขิน ๆ " ใช่ ๆ พี่ใหญ่พวกเรารักและเป็นห่วงพี่มากนะ " ชลธีเข้าไปนั่งกอดเอวพี่ชายของตนแน่น เอาหน้าซุกอกแบนราบแต่อบอุ่น พี่ชายที่เหมือนพ่ออีกคนของเขา ทางด้านชาคริต ที่กำลังนั่งไล่อ่านรายงานของฤชาที่ได้รับมาตลอดเจ็ดปี ยิ่งอ่านหน้าเขาก็ยิ่งไร้สีเลือดขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่เคยรู้เลยว่า จริง ๆ เขามีบุตรสาวกับฤชาอยู่คนหนึ่งและฤชาก็ไม่แม้จะยอมบอกให้เขาได้ทราบ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าร่างกายฤชาพิเศษและสามารถท้องได้เฉกเช่นเดียวกับเพศหญิง ความโกรธความโมโห ทำให้เขาแทบคลั่ง เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมอีกฝ่ายถึงปิดบังเขามาตลอดหกเจ็ดปีทีผ่านมา เขาดูภาพเด็กหญิงตัวเล็กที่ใบหน้าถอดแบบใบหน้าตนมาเสียเจ็ดแปดส่วน กำลังยิ้มน่ารักในขณะที่แม่ของตนกำลังอุ้มถ่ายรูป เขาใช้นิ้วหัวแม่มือลูบไปที่ใบหน้าของคนทั้งสองในรูป ก่อนจะนั่งเงียบ ในห้องเป็นเวลานาน " เดินทางกันดี ๆ ล่ะ วีก็อย่าลืมทานมื้อกลางวันด้วยล่ะ " ฤชาบอกทุกคนที่เดินทางออกจากบ้านไปหมด วันนี้นาวีอาสาไปส่งหลานสาวให้ที่โรงเรียน เขาไม่อยากให้พี่ชายออกไปข้างนอกมากนัก เผื่อโดนไอ้เห้นั่นดักเจอกลางทาง อีกฝ่ายเป็นมาเฟีย เขายอมรับว่าเขาไม่มีปัญหาทำอะไรได้มากถ้ามีเรื่องเกิดกับพี่ชายของเขา ฤชาที่กำลังคิดสูตรขนมตัวใหม่ของร้านได้ยินเสียงกริ่งจากหน้าประตู เขาจึงเดินไปดูที่กล้องวงจรปิดตัวที่อยู่หน้ารั้ว ก่อนจะถอนหายใจ " อะไรที่ต้องมาก็มาสินะ " ฤชาบ่นพึมพัมกับตัวเองเบา ๆ เขากดเปิดประตูรั้วให้รถสีดำราคาแพงวิ่งเข้ามาจอดที่ลานหน้าบ้าน ก่อนจะเดินออกไปต้อนรับ 'แขก' " สวัสดีครับ คุณชาคริต " " ฤชา คิดว่าเรามีเรื่องที่ต้องคุยกัน " " เชิญในบ้านครับ " ฤชาเชิญอีกฝ่ายเข้าบ้านตามมารยาท ชาตเห็นฤชาที่เฉยชา มองเขาเหมือนคนแปลกหน้าก็ใจเสียทั้งยังโกรธมากขึ้นไปอีก มือในแขนเสื้อสูทกำแน่น กรามแกร่งบดเข้าหากันจนขึ้นรูป เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบ " เชิญนั่งก่อนครับ ผมจะไปนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ " ไม่นานชาอังกฤษก็ถูกนำมาเสิร์ฟที่โต๊ะรับแขกในห้องนั่งเล่น " คุณมาคุยเรื่อง 'น้องเนย' สินะ " ฤชาเปิดเรื่อง " ทำไมชาไม่บอกผมล่ะ ทำไมคุณถึงปิดบังมาตลอด " เสียงชาคริตดังขึ้นหลายระดับ แต่มันไม่มีผลต่อฤชาทั้งสิ้น เขายังคงนั่งจิบชาแบบอารมณ์เย็น " ผมว่าคุณเข้าใจอะไรผิดนะคุณชาคริต น้องเนยเป็นลูกสาวของผม ไม่ใช่ของคุณ คุณเป็นแค่คนบริจาคอสุจิ คุณที่แต่งงานแล้ว มีครอบครัวแล้ว หมดสิทธิ์เป็นพ่อของเธอตั้งแต่ตอนนั้นแล้วครับ " ชาคริตสะอึก สิ่งที่ฤชาพูดเป็นความจริงทุกอย่างที่เขาปฏิเสธไม่ได้ " ผมขอบอกคุณตอนนี้เลยว่าอย่ายุ่งกับเธอ อย่าให้เด็กน้อยต้องไปเข้าใจความโสมมของผู้ใหญ่เลยครับ เธอไม่เข้าใจหรอกครับว่าทำไมพ่อของเธออีกคนถึงอยู่กับพ่ออีกคนไม่ได้ และทำไมพ่ออีกคนต้องแต่งงานกับคนอื่น ถ้าคุณมีความรู้สึกกับเธออยู่บ้างกรุณาอย่าเห็นแก่ตัวครับ " คำพูดของฤชาพุ่งตรงเข้าโจมตีจุดอ่อนในใจของชาคริตทุกอย่างจนเขาปฏิเสธไม่ได้ " ชา ผมไม่ได้แต่งงานแล้ว " " นั่นก็ปฏิเสธความจริงก่อนหน้าไม่ได้ครับ อย่างไรเธอก็จะถาม เธอฉลาดมาก คุณไม่อาจหลอกเธอได้หรอกครับ อย่าเอาความเห็นแก่ตัวมาทำร้ายเธอครับ " ชาคริตสะอึก สิ่งที่ฤชาพูดออกมา เหมือนเขาโดนหมักฮุกเสยคางน็อกสลบกลางอากาศทุกหมัด " คุณมีอะไรอีกไหมครับ ผมยังมีงานต้องทำต่อ " ฤชาถามเสียงเรียบ " ชา เรา พวกเรากลับมาคบกันแบบเมื่อก่อนไม่ได้หรอ " " ฮะ คุณนี่ตลกนะ ตอนนั้นจำได้ไหมว่า ผมถามคุณแล้วให้คุณเลือก ในเมื่อคุณเลือกแล้ว ผมก็เลือกของผมเหมือนกัน สิ่งที่มันผ่านไปแล้วมันก็คือผ่านไปครับ เราย้อนเวลากลับไปไม่ได้หรอกครับคุณชาคริต เชิญคุณกลับนะครับ และเรื่องน้องเนย ขอให้คุณอย่าพยายามยุ่งกับเธอครับถ้าคุณยังมีความรู้สึกให้เธออยู่บ้าง สงสารเธอนะครับ " ฤชาลุกขึ้น และเดินนำออกไปด้านนอกเป็นการส่งแขกไปในตัว ชาคริตที่ไม่คิดว่าฤชาจะใจแข็งและเมินเฉยเขาได้ขนาดนี้ " ชา... " " เชิญครับ ผมไม่ส่งนะครับ " จากนั้นฤชาก็เดินกลับเข้าไปในตัวบ้านพร้อมปิดประตู ชาคริตทำได้แค่อดทน ก่อนจะเดินไปขึ้นรถและให้คนขับรถขับออกไป เขาไม่ยอม เขาไม่ยอมเสียฤชาไปอีกแล้ว!! เขาพยายามกำจัดอุปสรรคมาตลอดหลายปีก็เพื่อวันนี้ เลือดเนื้อที่เสียไป ต้องไม่สูญเปล่า!
อคิราใจสั่น หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก สาบานว่านี่ไม่ใช่ความฝันหรือเขายังเมาค้างจนหลอนใช่ไหม ที่คุณเดชมาสารภาพรัก" เด็กดี "ใบหน้าหล่อเหลาที่ประหนึ่งหนุ่มวัยสามสิบแม้อายุจริงจะเข้าวัยกลางคนแล้วก็ตาม ก้มลงมาใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดหน้าตอนนี้สมองเขาช็อกจนคิดอะไรไม่ออกไปแล้วได้แต่ปล่อยเลยตามเลยให้คุณเดชเป็นคนจัดการเขาไม่ได้โง่ เขาติดว่าวันนี้เขาคงจะโดนกิน แต่ เขาก็เต็มใจถูกกิน!!ริมฝีปากหนากร้านและริมฝีปากเต็มอิ่มสีสดประกบเข้าหากัน ร่างบางซึ่งไม่ประสีประสาแต่กลับกระตุ้นอารมณ์กำหนัดของคนแก่กว่าได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากทั้งสอง คลึงเคล้า บดเดบียด หยอกล้อกันไปมา จนริมฝีปากของร่างบางบวมช้ำอัครเดชหยุดพักให้ร่างบางได้หายใจหายคอ ก่อนจะจู่โจมกลับไปอีกที คราวนี้เปลี่ยนจากจูบแบบผิวเผินกลายเป็นดูดดื่มเข้มข้น ลิ้นสากยาวสอดลึกเข้าไปในโพรงปากชุ่มฉ่ำ กวาดต้อนลิ้นเล็กแสนน่ารักที่หลบหนีไปมา พร้อมกับกวาดต้อนดูดชิมน้ำหวานสีใสไปพร้อมกัน" หวาน " คนอายุมากกว่าพึมพัมชิดริมฝีปากของร่างบางอคิราที่ไม่ประสีประสาในบทรักก็โดนชักนำไปตามพายุอารมณ์ของคนแก่กว่าอย่างช่วยไม่ได้ เพียงแค่จูบเขาก็เสียวซ่านแบบไม่เคยเ
อคิราผู้กำลังถูกสอบสวนหาความจริงถึงกับเหงื่อแตกเต็มหลัง เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรดี พยายามใช้สมองประมวลผลหาข้อแก้ตัวดี ๆ ซักอย่าง แทนที่จะพูดความจริงแล้วเสี่ยงเข้าหน้ากันไม่ติดอีกเลย" เอ่อ...คิน..."" คิน ไม่โกหกแด๊ดนะ " คุณเดชกล่าวเสียงจริงจังอคิราเองก็ไม่อยากโกหก ได้แต่นั่งคอตกเงียบ ๆ น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากหัวตา พร้อมสะอื้นทำไมเขาต้องมาโดนกดดันอะไรแบบนี้ด้วย สาเหตุมาจากเขาที่ไหนกัน เขาอยากออกไปจากตรงนี้!ก่อนที่จะได้พูดหรือทำอะไร เขาก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น" โอ๋ เด็กดี ไม่ร้องนะครับ แด๊ดขอโทษ ค่อย ๆ คุยกันนะ "จากที่คิดว่าจะหยุดร้องไห้ กลับร้องหนักขึ้นอัครเดชไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่กอดปลอบลูบหัวลูบหลังพร้อมกับกดจูบซับน้ำตาให้เด็กน้อยของเขาก็คงจะอดกลั้นมานานมาก ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้สังเกตอะไรนอกจากคิดว่าเด็กน้อยคนนี้เห็นเขาเป็นเพียงญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ผิดกับเขาที่..." ไม่ร้องนะครับเด็กดี น้องคิน "คุณเดชเรียกชื่อผมเหมือนสมัยตอนผมยังเป็นเด็กเล็ก ๆ" อืม "ผมตอบรับ ตนเองหยุดร้องแล้วแต่ยังสะอื้นนิดหน่อย กลไลของร่างกายนี่ทำเอาลำบากจริง ๆ ก่อนจะอื้อมแขนไปโอบกอดคุณเดชแน่น เอาหน้าตัวเอง
รถแท็กซี่สีเขียวเหลือง เข้ามาจอดหน้าประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ย่านชานเมือง ก่อนที่คนสองคนจะลงจากรถ คนร่างสูงใหญ่ พยุงคนร่างเล็กแบบบางลงจากรถ ก่อนจะบอกให้คนขับเปิดมิเตอร์รอรับคนร่างใหญ่กลับไปด้วยพนักงานรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์เดินออกมาดูก่อนจะเห็นว่าคนร่างเล็กในอ้อมแขนคนร่างใหญ่เป็นใครจึงเปิดประตูทางเข้าเล็กให้ ก่อนจะพาคนทั้งสองขึ้นรถกอล์ฟแบบที่ใช้ในสนามกอล์ฟ ขับพาไปยังตัวคฤหาสน์ด้านในรถถูกขับมาจอดไว้ด้านหน้าบันไดทางขึ้นกัทพยุงร่างบางของเพื่อนลงจากรถก่อนจะช้อนขาขึ้นอุ้มท่าเจ้าหญิง" แกหนักขึ้นนะเนี่ย " เจ้าตัวบ่นพึมพัม" อืม "เจ้าเพื่อนรักที่เมาหมดสภาพได้แต่ตอบรับแกน ๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาถามอะไร" ส่งคินมาให้พ่อมา "กัทเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่ ร่างสูงใหญ่ ส่วนสูงเกิน 190 กล้ามเนื้อกำยำ แข็งแรงผิดกับคนวันสี่สิบกว่า มองดูดี ๆ เหมือนคนเพิ่งสามสิบอย่างไรอย่างนั้น แถมเปล่งฮอร์โมนเพศผู้อย่างเข้มข้นออกมา เหมือนจ่าฝูงของเหล่านักล่าในป่า ที่กำลังขมขู่เพื่อปกป้องสิ่งหวงแหนกัทมองอีกฝ่ายอย่างอึ้ง ๆ ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะออกมารอรับเจ้าเพื่อนรักของเขา จากนั้นคนในอ้อมแขนก็โดนแย่งไป อีกฝ่ายอุ้มเจ้าเพื่อ
อคิราขับรถฝ่าการจราจรในกรุงเทพฯช่วงฝนตกอย่างเหนื่อยใจ สองกิโลสามชั่วโมง ไม่มีอะไรจะน่าเบื่อขนาดนี้มาก่อน วันนี้เกรงว่าเขาจะกลับไปไม่ทันทานข้าวกับคุณเดชเสียแล้วไหน ๆ กลับไม่ทันเขาก็ควรบอกกล่าวก่อน อีกฝ่ายจะได้ไม่รอเขาจนเลยเวลาทานอาหารเขาควักมือถือไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้เป็นของขวัญวันเกิดจากคุณเดชออกมาส่งข้อความหาอีกฝ่ายคุณเดช : คุณพ่อ ฝนตก รถติดมาก คินคงกลับถึงไม่ทันเวลากินข้าว ทานก่อนเลยนะครับสักครู่ก็มีข้อความตอบกลับคุณเดช : อืม ขับรถระวัง ๆ ล่ะ ฝนตกอันตรายคินคิน : ครับเขากลับมาตั้งใจขับรถก่อนจะเอายูทูปมาเปิดดูคลิปหมาแมวน่ารัก คลิปทำอาหาร คลิป asmr คั่นเวลารอรถขยับ คาดว่าคงมีอุบัติเหตุด้านหน้า รถเลยเคลื่อนช้าขนาดนี้ระหว่างนี้ก็ไถทวิตเตอร์เล่นไปด้วยตึ๊งตึงเสียงแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊คซึ่งเป็นข้อความจากกลุ่มคนที่ทำงานบริษัทเดียวกัน ทำไว้เพื่อเม้ามอยหรือกระจายข่าวสาร (ซุบซิบ) ดังขึ้นเขากดเข้าไปดูตามปกติเพื่อเช็กเรื่องเม้าล่าสุดหนูนาบ้านอีสานพวกเธอเข้ามาส่องคู่ควงคนใหม่ของท่านประธานกันเร๊ว ก่อนจะถูกท่านแอดมินกลุ่มกำจัด(แปะรูป)(แปะรูป)(แปะรูป)มีคนกดไลค์ คอมเม้นหลักร้อยและยัง
" คุณพ่อ ผมไปทำงานก่อนนะครับ "" อืม กลับมาทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนพ่อด้วยล่ะ "" ครับ "บทสนทนาประจำวันแบบเดิม ๆ ที่มักจะได้ยินทุกวันมาเป็นเวลาสามปีเขาชื่อ อคิรา อายุ 26 ปี ทำงานเป็นผู้บริหาร กรรมการบริษัท DX มีธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามแบบใช้ตำรับสมุนไพรเป็นส่วนผสม บริษัทนี้เป็นบริษัทของคุณพ่อของภรรยา ที่ได้สูตรที่ตกทอดกันมาจากบรรพบุรุษที่อดิตเคยเป็นถึงสนมขั้นเฟยในวังหลังภายหลังการปฏิรูประบอบการปกครอง ตระกูลตกต่ำจนต้องย้ายประเทศมาอยู่ที่นี่ พร้อมทั้งหอบหิ้วสมบัติมาตั้งตัวและหนึ่งในนั้นคือสูตรบำรุงความงามต่าง ๆ ที่ว่าบริษัทมีจุดเริ่มต้นจากร้านยาจีนเล็ก ๆ เนื่องจากหนึ่งในบรรพบุรุษที่มาตั้งรกรากที่นี่เป็นแพทย์แผนจีนอีกทั้งยังเป็นหัวหน้าตระกูล ภรรยาของท่านหัวหน้าตระกูลให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวบุตรชายเอาดีทางด้านการบริหาร ก่อร่างสร้างเนื้อสร้างตัวจากร้านยาเล็ก ๆ จนกลายเป็นธุรกิจใหญ่โต ส่วนบุตรสาวร่ำเรียนสืบทอดวิชาแพทย์ต่อจากผู้เป็นพ่อทุกวันนี้จากร้านยาจีนเล็ก ๆ กลายเป็นเครือบริษัทใหญ่โตที่ครอบคลุมกิจการร้านยาจีนหลายสาขา มีโรงงานผลิตอาหารเสริมแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เวชสำอ
คำเตือนคำหยาบ , โรลเพลย์ช่วงนี้น้องสาวของเจกำลังตั้งครรรภ์ได้สองเดือน ชายหนุ่มทั้งสามในบ้านต่างประคมประหงมหญิงสาวเพียงผู้เดียวนี้ดีมาก จนบางทีรู้สึกได้ว่าเจ้าตัวรำคาญสุด ๆ ฮิมที่เห็นน้องสาวของเขาท้องก็เกิดเฟติชแบบแปลก ๆ ขึ้นมา ตอนที่อยู่ในห้องกันสองคนจึงได้ชวนเขาเล่นอะไรบางอย่าง" เจ ลองเล่นโรลเพลย์กันไหม "ปกติพวกเขาก็เล่นอะไรพวกนี้เป็นปกติอยู่แล้วแต่การชวนครั้งนี้ดูกระตือรือล้นจนเจอดที่จะแปลกใจไม่ได้" อยากเล่นบทอะไร "เขาถามออกไป" โจรชั่วข่มขืนหม้ายท้องแก่จอมร่าน "" ห๊ะ!? "เป็นเขาที่ฟังแล้วทำหน้าเหวอ ตั้งแต่แต่งงานกันมา พึ่งรู้ว่าสามีของเขาโรคจิตขนาดนี้เหมือนกัน ไม่ใช่ว่ารังเกียจแต่กำลังคิดว่าทำไมอีกคนถึงอยากเล่นบทบาทนี้ต่างหาก" ทำไมถึงอยากเล่นบทนี้ล่ะ "เจถามด้วยหน้าสงสัยสุดขีด" ก็แบบเห็นจูนท้องแล้วพอคิดว่าเป็นมึงท้องแล้วกูจัดมึงตอนท้องแก่แค่คิดก็น้ำจะแตกแล้ว "ไม่พูดเปล่า เจ้าหมาหื่นจับมือเขาลงไปที่เป้ากางเกงที่ตอนนี้แข็งตุงเป็นลำ แท่งเนื้อดันเป้าแทบปริออกมาเจหมั่นไส้สามีจนขยำลงไปแรง ๆ แต่แทนที่เจ้าตัวจะสำนึกกลับเด้าใส่มือ หัวเราะชอบใจไม่หยุดแทนเสียนี่เขาล่ะหน่ายใจ นอกจ