เสียงโซฟาลั่นเอี๊ยดบ่งบอกถึงกิจกรรมร้อนแรงที่กำลังดำเนินอยู่บนนั้น ผสมเสียงหอบและครางกระเส่าของคนสองคนในความเงียบของห้องท่ามกลางไฟส่องสว่าง ร่างขาวบึกบึนสูงใหญ่รัดแนบสนิทเป็นเนื้อเดียวกับร่างแบบบางสีน้ำผึ้งเนียนละเอียด ฤชารู้สึกเหมือนตนเองอยู่ในพายุอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ เหมือนเรือน้อยที่ลอยไปมากลางพายุในมหาสมุทร ส่วนใหญ่โตร้อนลวกสอดแทรกเข้าออกในตัวของเขาซ้ำไปมา นำมาซึ่งความสุขสมหาใดเปรียบ " อืม อา " เสียงครางหวานดังขึ้นตลอดทั้งคืน ก่อนจะสงบเงียบในยามรุ่งสาง เสือร้ายที่ได้กินเหยื่อจนอิ่มเอมก็นอนกอดเหยื่อของมันและหลับไปอย่างสุขสมยินดี ฤชารู้ตัวอีกที คนข้างกายก็หายไปเสียแล้ว แม้เขาจะผิดหวังอยู่บ้าง แต่ก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายมีภาระและงานที่ต้องทำ เขาเห็นกระดาษโน๊ตเขียนไว้ว่า อีกฝ่ายทำอาหารย่อยง่ายทิ้งไว้ให้ในครัว ในใจก็หวานล้ำแบบไม่ทราบสาเหตุ แม้ว่าเรื่องเมื่อคืนจะเป็นการผิดพลาด แต่เขาก็เต็มใจ แต่มันก็ก่อความกังวลอีกว่า อีกฝ่ายจะยอมรับได้หรือเปล่าที่มานอนกับผู้ชายด้วยกัน หรือนี่จะเป็นเหตุให้อีกฝ่ายหนีหน้าไปก่อนเขาจะตื่น แต่ก่อนที่เขาจะได้นึกคิดอะไรเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น " ฮัลโหล ฤชา ขอโทษทีผมรีบออกมาทำธุระน่ะ คุณอย่าลืมกินอาหารที่ผมทำไว้นะ " " ครับ " " แล้ว...ยังเจ็บอยู่ไหม " ฤชาหน้าแดงก่ำ คงไม่ต้องถามหรอกมั้งว่าที่เจ็บหมายถึงตรงไหนของร่างกาย " นิดหน่อยครับ แต่คุณทายาให้แล้วสักพักคงจะค่อย ๆ ดีขึ้น " เชาต้องยอมรับว่าครั้งแรกของตนเจอไซส์ชาวตะวันตกเข้าไปแถมดูจะใหญ่กว่ามาตรฐาน ดอกเบญจมาศน้อยของเขาย่อมต้องชอกช้ำเป็นธรรมดาอย่างช่วยไม่ได้ แต่อีกฝ่ายก็ดูแลเขาดี ทำความสะอาด อาบน้ำ ทายาให้เสร็จสรรพ ก่อนจะพาเข้านอน ยังไม่นับรวมทำอาหารให้เขาทานอีก ใจของฤชาเต้นกระหน่ำอย่างช่วยไม่ได้ เขาชอบอีกฝ่ายแล้วจริง ๆ " พักผ่อนมาก ๆ ล่ะ วันนี้หยุดงานไม่ใช่หรือไง ตอนเย็นเจอกันครับ ไม่ต้องทำอาหารนะ ผมจะซื้อเข้าไป " " โอเคครับ เดินทางปลอดภัย ดูแลตัวเองด้วยนะคริต " " ครับ บายครับที่รัก " คำสุดท้ายก่อนจะวางสาย ทำให้หน้า คอ หูของฤชาแดงก่ำไปหมด เขาคงไม่ได้คิดไปเองคนเดียวใช่ไหม ฤชาที่เจ็บเอว เจ็บขา และตรงนั้น ได้แต่นอนแบ๊บอยู่บนเตียง จนกระทั่งยามเย็น เขาก็ได้ยินเสียงประตูบ้านเปิดเข้ามา เขาจึงตะกายลงไปด้านล่างก่อนจะพบกับคนที่เขาคะนึงถึงทั้งวัน " ชา ลงมากินด้วยกันซิ ผมแวะไชน่าทาวน์ซื้ออาหารจีนมา ผมว่าคุณน่าจะชอบ " พร้อมกับยกโชว์ถุงอาหารให้เขาดู ฤชาเดินลงไปด้านล่างของบ้าน ยังไม่ทันจะได้เดินเอาของไปครัว เขาก็โดนรวบเข้าไปในอ้อมกอดขนาดใหญ่ของอีกฝ่าย " ชา คุณรู้สึกแบบเดียวกับผมหรือเปล่า " อีกฝ่ายกระซิบข้างหู โทนเสียงหวานล้ำ ฤชาได้แต่พยักหน้าตอบ ใบหน้าซับสีเลือด อย่างช่วยไม่ได้ จากนั้นเขาก็โดนประกบจูบลึกล้ำเป็นการตอบแทน กว่าจะหยุดร่างกายท่อนล่างของเราทั้งคู่ต่างก็เกิดปฏิกิริยา " ชาว่าชาวันนี้ไม่ไหวแล้วคริต " " ผมช่วยชาเอง ชาก็ช่วยผมด้วย " จากนั้นหลักสูตรการใช้มือก็ถูกสอนอย่างเข้มข้น ฤชาสัมผัสมอนสเตอร์ยักษ์ที่อยู่หว่างขาของอีกฝ่าย มันทั้งใหญ่ ยาว สีแดงก่ำ อีกทั้งทีเส้นเลือดปูดโปน ขนาดเท่านี้ทำให้เขาสงสัยมากว่าเมื่อวานมันเข้าไปในตัวเขาได้อย่างไรจนหมด เขาถูกมือใหญ่กำรอบทับมือของเขาที่จับท่อนร้อนลวก ก่อนจะขยับขึ้นลงตามจังหวะ แรก ๆเขาก็ยังไม่คล่องเท่าไหร่ แต่ด้วยความเป็นคนหัวไว เขาก็จับจุดอีกฝ่ายได้ เสียงหอบแหบพร่าเริ่มมาแทนที่การหายใจแบบปกติ " ชา ผมช่วย " มือใหญ่หนาอุ่นร้อน จับมาส่วนอ่อนไหวของเขาเช่นกัน มือนั้นทำเฉกเช่นเดียวกับที่เขาทำกับอีกฝ่สย สมองของฤชาขาวโล่งไปหมดเมื่อเวลาผ่านไป จนกระทั่งเราสองคนสุขสมจนขีดสุด และต่างนอนหอบหายใจในอ้อมแขนของกันและกัน บดเบียดรืมฝีปากเข้าหากันอย่างโหยหา กว่าจะได้กินมื้อเย็นก็ปาเข้าไปสี่ทุ่มเสียแล้ว อาหารเย็นชืด แต่ก็อิ่มเอมใจ การฝึกงานเดือนที่สองของเขาเป็นไปด้วยดี เนื่องจากภาษา F ของเขาแข็งแรงขึ้นมาก เขาเริ่มได้รับการยอมรับจากทางคนครัวและเชฟทางนี้ แม้จะยังไม่ได้รับคำชม แต่คำตำหนิเริ่มไม่มีให้เห็น อาจจะเป็นเพราะการตั้งใจทำงานมากกว่าปกติและความใส่ใจอย่างล้นเหลือ ทำให้เขาไปเข้าตาเชฟใหญ่เข้า จนได้รับโอกาสให้ไปฝึกงานใกล้ ๆ ตัว ฤชากลับมาแชร์ความยินดีกับชาคริตหลังกลับมา ทั้งสองฉลองกันอย่างถึงอกถึงใจก่อนจะผลอยหลับไปในอ้อมกอดของกันและกัน ช่วงนี้ชาคริตดูจะยุ่งเป็นพิเศษ ปกติมักจะมีเวลาพาเขาไปเที่ยวตามที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ค่อนข้างบ่อย แต่ครึ่งเดือนหลังมานี่ อีกฝ่ายติดธุระบ่อยมาก แม้จะกลับมานอนกับเขาทุกคืนแต่ก็กลับดึกเป็นพิเศษ พอถาม อีกฝ่ายก็ปลอบเขาบอกว่าช่วงนี้ธุรกิจมีปัญหาและขอให้เขายกโทษให้ ซึ่งฤชาก็เชื่ออย่างสนิทใจ โดยไม่เอะใจอะไรทั้งสิ้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แม้ไม่มีเวลาให้กัน แต่ก็ไม่ห่างเหิน เข้าสู่เดือนที่สามของการฝึกงาน เดือนสุดท้ายที่เขาจะอยู่ที่นี่ เขาลำบากใจมาก ใจหนึ่งก็อยากอยู่กับคนรัก แต่อีกใจก็ห่วงน้องชายทั้งสองที่ยังไม่โตนักและต้องการคนดูแล เขาอยากคุยกับชาคริตจริงจังในเรื่องนี้ เดือนนี้ชาคริตยังคงงานยุ่งเหมือนเดิม แต่อีกฝ่ายมาค้างน้อยลง บอกว่าต้องทำงานดึก ไม่อยากรบกวนเขามากนัก แต่ก็ยังทยอยให้คนมาส่งอาหารส่งของและแวะมาหาเป็นระยะ ทุกสิ่งคงจะดีถ้าไม่มีเรื่องเกิดขึ้น... " ชา มาดูรายการอาหารนี่สิ พวกนี้เราต้องจัดงานเลี้ยงแต่งงานให้กับแขกคนสำคัญ เขาเป็นตระกูลมาเฟียที่เชื่อมสัมพันธ์กัน ชามีความคิดเรื่องขนมในงานอย่างไรบ้าง ลองออกแบบวางแผนมาให้ผมดู " เชฟใหญ่ส่งแฟ้มรายละเอียดของงานมาให้ ฤชารับไปเปิดดู เลือดในกายของเขาก็ไหลย้อนกลับ ใบหน้าซีดเผือดแบบห้ามไม่อยู่ โชคดีไม่มีใครอยู่บริเวณนั้น ไม่งั้นคงจะเห็นดวงตาแดงก่ำของตนที่เหมือนคนกำลังจะร้องไห้ งานแต่งงานระหว่าง ชาคริต เจโนเวเซ่ กับ ลิซต้า ลุคเชเช่ ธีมงาน : Angel ขนม : เค้กเจ็ดชั้น , ขนมตกแต่งในงาน 20 ชนิด ... รายละเอียดอื่น ๆ ก็พร้าเบลอไม่เข้าหัวไปแล้ว ลิซต้า ลุคเชเช่ เขาไม่รู้จัก แต่ชาคริต เจโนเวเซ่ เขารู้จักดี ดีเกินไปเสียด้วย! กำหนดงานแต่งจะจัดขึ้นหลังเขาเดินทางกลับไทย เกิดอะไรขึ้น? ตอนนี้ฤชาสับสนไปหมด " ลูกนอกสมรสของเจโนเวเซ่แต่งให้กับบุตรสาวสายตรงของลุคเชเช่หรือนี่ เข้าใจหาเส้นสายหนุนหลังนะ " เพื่อนร่วมงานที่ค่อนข้างสนิทกัน เดินผ่านมาดูรายละเอียดแฟ้มงานในมือของเขาพอดี ฤชากลั้นใจถามรายละเอียดออกไป ก่อนจะได้รู้เรื่องทุกอย่าง ชาคริต เจโนเวเซ่ เป็นลูกนอกสมรส ที่เกิดระหว่างหญิงชาวไทยกับบอสของเจโนเวเซ่ แต่ดันเป็นลูกรักและผู้หญิงที่บอสของเจโนเวเซ่รักที่สุด ซึ่งนำมาซึ่งโศกนาฏกรรมตามทำนองเมียน้อยเมียหลวง นายหญิงของเจโนเวเซ่สั่งฆ่าเมียน้อยของสามีตัวเองอย่างแนบเนียนแต่ก็หลบไม่พ้นการถูกจับได้ จึงถูกเก็บไปตามระเบียบ นายหญิงของเจโนเวเซ่มีบุตรชายสองคน ที่อายุมากกว่าชาคริต 5 ปี และ 3 ปีตามลำดับ ถือเป็นทายาทสายตรงที่จะได้รับสืบทอดต่อกิจการมาเฟียของเจโนเวเซ่ แต่เรื่องมันไม่จบแค่นี้ เพราะบอสของเจโนเวเซ่สนใจยกกิจการของตระกูลให้กับลูกนอกสมรสไปดูแลมากกว่าลูกชายสายตรง เนื่องจากความสามารถในการบริหารและความเหี้ยมโหดของทั้งสองไม่ได้ขี้เล็บของลูกนอกสมรส ที่สมเป็นมาเฟียทุกกระเบียดนิ้ว แต่ด้วยความที่เป็นลูกนอกสมรส ทำให้ฝ่ายบริหารในตระกูลไม่ยอมรับเท่าที่ควร ดังนั้นชาคริตจึงถูกใช้เรื่องนี้เล่นงานมาตลอด เขาจึงต้องหาตัวช่วยโดยการเกี่ยวดองกับบุตรสาวสายตรงของ ลุคเชเช่ เพื่อสร้างฐานอำนาจให้มีภาษีมากขึ้น ดังนั้นการแต่งงานนี้จึงเกิดขึ้นอย่างช่วยไม่ได้และเป็นการตั้งใจให้เกิด เมื่อได้ฟังเรื่องราว ฤชาเหมือนโลกถล่มลงมาตรงหน้า มีสิ่งไหนคือความจริงบ้างที่อีกฝ่ายบอกเขา สิ่งไหนคือความจริงใจบ้างที่อีกฝ่ายมีให้ เขาเป็นแค่ชายหนุ่มอ่อนต่อโลกโง่ ๆ คนหนึ่งที่ให้อีกฝ่ายหลอกมาตลอด เขารู้สึกว่าจริง ๆ อีกฝ่ายแค่เล่น ๆ กับเขาเท่านั้นสินะ อย่างไร หนุ่มบ้านนอกจากเมืองไทยมาฝึกงานแค่ไม่กี่เดือนก็ต้องกลับแล้ว ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อแผนการของชายหนุ่มอีกคนแต่อย่างใดทั้งสิ้น วันนี้ฤชาขอลางานกลับก่อน เขาอยากถามความจริงจากปากชาคริตให้รู้เรื่องกันไปเลย เขาไม่ชอบการถูกหลอกและล้อเล้นกับความรู้สึก " คริต วันนี้คุณจะมาไหม " ปลายสายเงียบไปสักพักก่อนจะตอบกลับ " ไปได้แต่อาจจะดึกหน่อย รอได้ไหม " " เอาสิ ผมจะรอนะ เจอกันครับ " ฤชาไม่แสดงน้ำเสียงผิดปกติแต่อย่างใด ก่อนจะวางสาย กลางดึกคืนนั้น ชาคริตเปิดประตูเข้ามาในบ้านที่ไร้แสงไฟ รู้สึกประหลาดใจที่ฤชานอนไว ในเมื่อบอกจะรอ ปกติฤชามักจะรอจนกว่าเขาจะมาแม้จะดึกดื่นแค่ไหนก็ตาม ชาคริตเปิดไฟที่ผนังห้อง ก่อนจะตกใจเมื่อเห็นร่างของฤชานั่งอยู่บนโซฟาท่ามกลางความมืด " ชา มานั่งอะไรมืด ๆ ไม่เปิดไฟ " " คิดอะไรนิดหน่อยครับ วันนี้ทำงานเหนื่อยไหมครับ " ฤชาถามเสียงเรียบไม่แสดงอารมณ์อันใด " ก็มากอยู่ ช่วงนี้มีเรื่องให้ต้องจัดการเยอะ " ชาคริตพลาดที่เห็นสีหน้าเผือดลงกะทันหันชั่วครู่ก่อนจะกลับมาเป็นปกติของฤชา " นั่งก่อนสิ ผมไปเอาน้ำกับอาหารมาให้ " ฤชาเดินไปนำอาหารและน้ำผมไม้ที่เตรียมไว้มาให้อีกฝ่าย เขารอให้อีกฝ่ายทานเสร็จ ก่อนจะเริ่ม " อร่อยมากชา ฝีมือดีเหมือนเดิม " " ชาหวังว่ามันจะถูกใจเฉกเช่นเค้กงานแต่งและขนมหวานในงานของคริตด้วยนะ " เหมือนทุกอย่างหยุดลงในชั่วเวลาหนึ่ง ความเงียบก่อตัวระหว่างทั้งคู่ เหมือนทะเลก่อนเกิดพายุใหญ่โหมกระหน่ำ " ชา...ฟังคริตอธิบายก่อน " " ชาถามคำเดียว เลือกชาหรืออีกฝ่าย " ชาคริตเงียบไปไม่พูดอะไรออกมา ฤชาได้แต่หน้าซีดลงเรื่อย ๆ ตามเวลาที่ผ่านไป เขารู้แล้วว่าอีกฝ่ายเลือกทางไหนไม่จำเป็นต้องพูดออกมาเป็นคำพูด " จบกันแค่นี้เถอะ " ฤชากลั้นใจพูดออกมา หัวใจเจ็บเหมือนมีคนควักออกมาตรง ๆ แล้วเอามากระทืบลงตรงหน้าซ้ำ " ชา! " " คริตไม่ต้องพูดอะไรอีก! " เขาลุกขึ้น กำลังเดินขึ้นไปชั้นสอง แต่ก็โดนอ้อมแขนใหญ่เข้ามากอดรัดแน่น " ชา คริตไม่ปล่อยชาไป คริตรักชานะ อยู่กับคริตเถอะ " " จะให้ชาอยู่ในฐานะอะไร เมียน้อย เมียเก็บ งั้นหรอ! " ชาคริตไม่สามารถพูดออกมาได้ว่าเขาให้ฐานะอะไรกับอีกฝ่ายได้บ้าง เพราะแม้แต่ฐานะเขาก็ไม่อาจให้ได้ในตอนนี้ " ปล่อยชาไปเถอะ ถือว่าให้ความทรงจำดี ๆ ระหว่างเรายังเหลืออยู่นะคริต อย่าให้ชาต้องเกลียดคริตเลยนะ " ฤชาหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายออกมาไหลอาบแก้มตั้งแต่โตเป็นผู้ใหญ่ นับจากวันที่พ่อแม่เสียชีวิต ฤชาก็ไม่เคยร้องไห้อีก จนกระทั่งวันนี้ที่เขาหลั่งน้ำตาลูกผู้ชายออกมาอย่างไม่อาย เขาเจ็บปวด เขาโดนทรยศ เขาเสียใจ แต่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ทั้งสิ้น เพราะทุกอย่างไม่เคยมีพื้นฐานอยู่บนความจริงตั้งแต่แรกแล้ว ความสัมพันธ์ของเรามันปลอมตั้งแต่ต้นจนจบ ชาคริตได้แต่มองฤชาขึ้นไปเก็บของและลากกระเป๋าลงมา แม้เขาจะขอไปส่งแต่อีกฝ่ายก็ปฏิเสธอย่างชัดเจน นับแต่คืนนั้น ทั้งฤชาและชาคริตไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป ชาคริตก็ไม่ติดต่อมา เช่นเดียวกับเขาที่ไม่ติดต่อไป เมื่อครบกำหนดสามเดือนในการฝึกงาน เขาก็บินกลับไทยทันที ผลงานสุดท้ายที่ฝากไว้คือขนมในงานทั้งหมดของชาคริตที่เขาตั้งใจออกแบบเป็นของขวัญบอกลาว่าชีวิตนี้เราสองคนไม่อาจบรรจบกันได้อีก ฤชาที่บินกลับไทยในวันหนึ่งก็เป็นลมล้มพับกลางร้าน ก่อนจะถูกนำส่งโรงพยาบาล สภาพนอนไม่ค่อยหลับจากสภาพใจสลายและการกินอาหารน้อยทำให้ร่างกายทรุดโทรม แต่ที่สำคัญ เขาตั้งครรภ์ได้สิบสองสัปดาห์แล้ว เขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าตนเองมีร่างกายที่พิเศษ มีมดลูกแบบเพศหญิงที่สามารถตั้งครรภ์ได้ เนื่องจากไม่รู้ เวลามีอะไรกับชาคริต เขาจึงไม่เคยป้องกันสักที เขาไม่คิดจะบอกเรื่องนี้กับชาคริตเพราะตอนนี้อีกฝ่ายได้แต่งงานเป็นผู้ชายมีครอบครัวไปแล้ว และชีวิตเขาต้องเดินต่อ มีภาระต้องรับผิดชอบ มีน้องชายที่ต้องเลี้ยงดู บรรดาน้องชายเมื่อรับรู้ต่างก็ซักเขากระหน่ำ แต่เขาไม่พร้อมพูดอะไรทั้งนั้น แผลมันยังสดใหม่เกินไป ที่เขาจะเปิดมันออกมา รอมันหายจนไม่เจ็บอีกแล้ว เขาจะเล่าให้บรรดาน้อง ๆ ฟังเอง นี่คือสิ่งที่เขาบอกนาวีและชลธีที่ยังเด็ก เวลาไหลผ่านไปเหมือนสายน้ำ ช่วยเยียวยาหัวใจที่แหลกสลายให้กับมาป็นปกติในที่สุด ลูกของเขาเป็นบุตรสาวตัวน้อยที่น้ำหนักเกือบสี่กิโลกรัมตอนคลอดออกมา เนื่องจากเขาเป็นเพศชาย การผ่าคลอดคือเรื่องแน่นอน วินาทีที่เขาเห็นบุตรสาวที่ถอดแบบหน้าตาของพ่อตนเองมาเจ็ดแปดส่วนเขาก็แอบปวดใจ แต่เด็กน้อยไม่ผิดอะไร และนี่คือเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา เขาจะรักและดูแลเธออย่างดี เขาให้สัญญากับตัวเอง ตั้งแต่วันนั้น ฤชาที่เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ที่ลือกันว่าเมียตายก็ถือกำเนิดขึ้น....
อคิราใจสั่น หัวใจเต้นแรงจนแทบทะลุออกจากอก สาบานว่านี่ไม่ใช่ความฝันหรือเขายังเมาค้างจนหลอนใช่ไหม ที่คุณเดชมาสารภาพรัก" เด็กดี "ใบหน้าหล่อเหลาที่ประหนึ่งหนุ่มวัยสามสิบแม้อายุจริงจะเข้าวัยกลางคนแล้วก็ตาม ก้มลงมาใกล้จนลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดหน้าตอนนี้สมองเขาช็อกจนคิดอะไรไม่ออกไปแล้วได้แต่ปล่อยเลยตามเลยให้คุณเดชเป็นคนจัดการเขาไม่ได้โง่ เขาติดว่าวันนี้เขาคงจะโดนกิน แต่ เขาก็เต็มใจถูกกิน!!ริมฝีปากหนากร้านและริมฝีปากเต็มอิ่มสีสดประกบเข้าหากัน ร่างบางซึ่งไม่ประสีประสาแต่กลับกระตุ้นอารมณ์กำหนัดของคนแก่กว่าได้เป็นอย่างดี ริมฝีปากทั้งสอง คลึงเคล้า บดเดบียด หยอกล้อกันไปมา จนริมฝีปากของร่างบางบวมช้ำอัครเดชหยุดพักให้ร่างบางได้หายใจหายคอ ก่อนจะจู่โจมกลับไปอีกที คราวนี้เปลี่ยนจากจูบแบบผิวเผินกลายเป็นดูดดื่มเข้มข้น ลิ้นสากยาวสอดลึกเข้าไปในโพรงปากชุ่มฉ่ำ กวาดต้อนลิ้นเล็กแสนน่ารักที่หลบหนีไปมา พร้อมกับกวาดต้อนดูดชิมน้ำหวานสีใสไปพร้อมกัน" หวาน " คนอายุมากกว่าพึมพัมชิดริมฝีปากของร่างบางอคิราที่ไม่ประสีประสาในบทรักก็โดนชักนำไปตามพายุอารมณ์ของคนแก่กว่าอย่างช่วยไม่ได้ เพียงแค่จูบเขาก็เสียวซ่านแบบไม่เคยเ
อคิราผู้กำลังถูกสอบสวนหาความจริงถึงกับเหงื่อแตกเต็มหลัง เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบอะไรดี พยายามใช้สมองประมวลผลหาข้อแก้ตัวดี ๆ ซักอย่าง แทนที่จะพูดความจริงแล้วเสี่ยงเข้าหน้ากันไม่ติดอีกเลย" เอ่อ...คิน..."" คิน ไม่โกหกแด๊ดนะ " คุณเดชกล่าวเสียงจริงจังอคิราเองก็ไม่อยากโกหก ได้แต่นั่งคอตกเงียบ ๆ น้ำตาเริ่มไหลออกมาจากหัวตา พร้อมสะอื้นทำไมเขาต้องมาโดนกดดันอะไรแบบนี้ด้วย สาเหตุมาจากเขาที่ไหนกัน เขาอยากออกไปจากตรงนี้!ก่อนที่จะได้พูดหรือทำอะไร เขาก็เข้าไปอยู่ในอ้อมกอดอบอุ่น" โอ๋ เด็กดี ไม่ร้องนะครับ แด๊ดขอโทษ ค่อย ๆ คุยกันนะ "จากที่คิดว่าจะหยุดร้องไห้ กลับร้องหนักขึ้นอัครเดชไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่กอดปลอบลูบหัวลูบหลังพร้อมกับกดจูบซับน้ำตาให้เด็กน้อยของเขาก็คงจะอดกลั้นมานานมาก ซึ่งเขาเองก็ไม่ได้สังเกตอะไรนอกจากคิดว่าเด็กน้อยคนนี้เห็นเขาเป็นเพียงญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ผิดกับเขาที่..." ไม่ร้องนะครับเด็กดี น้องคิน "คุณเดชเรียกชื่อผมเหมือนสมัยตอนผมยังเป็นเด็กเล็ก ๆ" อืม "ผมตอบรับ ตนเองหยุดร้องแล้วแต่ยังสะอื้นนิดหน่อย กลไลของร่างกายนี่ทำเอาลำบากจริง ๆ ก่อนจะอื้อมแขนไปโอบกอดคุณเดชแน่น เอาหน้าตัวเอง
รถแท็กซี่สีเขียวเหลือง เข้ามาจอดหน้าประตูคฤหาสน์หลังใหญ่ย่านชานเมือง ก่อนที่คนสองคนจะลงจากรถ คนร่างสูงใหญ่ พยุงคนร่างเล็กแบบบางลงจากรถ ก่อนจะบอกให้คนขับเปิดมิเตอร์รอรับคนร่างใหญ่กลับไปด้วยพนักงานรักษาความปลอดภัยของคฤหาสน์เดินออกมาดูก่อนจะเห็นว่าคนร่างเล็กในอ้อมแขนคนร่างใหญ่เป็นใครจึงเปิดประตูทางเข้าเล็กให้ ก่อนจะพาคนทั้งสองขึ้นรถกอล์ฟแบบที่ใช้ในสนามกอล์ฟ ขับพาไปยังตัวคฤหาสน์ด้านในรถถูกขับมาจอดไว้ด้านหน้าบันไดทางขึ้นกัทพยุงร่างบางของเพื่อนลงจากรถก่อนจะช้อนขาขึ้นอุ้มท่าเจ้าหญิง" แกหนักขึ้นนะเนี่ย " เจ้าตัวบ่นพึมพัม" อืม "เจ้าเพื่อนรักที่เมาหมดสภาพได้แต่ตอบรับแกน ๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาถามอะไร" ส่งคินมาให้พ่อมา "กัทเงยหน้าขึ้นมองผู้มาใหม่ ร่างสูงใหญ่ ส่วนสูงเกิน 190 กล้ามเนื้อกำยำ แข็งแรงผิดกับคนวันสี่สิบกว่า มองดูดี ๆ เหมือนคนเพิ่งสามสิบอย่างไรอย่างนั้น แถมเปล่งฮอร์โมนเพศผู้อย่างเข้มข้นออกมา เหมือนจ่าฝูงของเหล่านักล่าในป่า ที่กำลังขมขู่เพื่อปกป้องสิ่งหวงแหนกัทมองอีกฝ่ายอย่างอึ้ง ๆ ไม่คิดว่าเจ้าตัวจะออกมารอรับเจ้าเพื่อนรักของเขา จากนั้นคนในอ้อมแขนก็โดนแย่งไป อีกฝ่ายอุ้มเจ้าเพื่อ
อคิราขับรถฝ่าการจราจรในกรุงเทพฯช่วงฝนตกอย่างเหนื่อยใจ สองกิโลสามชั่วโมง ไม่มีอะไรจะน่าเบื่อขนาดนี้มาก่อน วันนี้เกรงว่าเขาจะกลับไปไม่ทันทานข้าวกับคุณเดชเสียแล้วไหน ๆ กลับไม่ทันเขาก็ควรบอกกล่าวก่อน อีกฝ่ายจะได้ไม่รอเขาจนเลยเวลาทานอาหารเขาควักมือถือไอโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้เป็นของขวัญวันเกิดจากคุณเดชออกมาส่งข้อความหาอีกฝ่ายคุณเดช : คุณพ่อ ฝนตก รถติดมาก คินคงกลับถึงไม่ทันเวลากินข้าว ทานก่อนเลยนะครับสักครู่ก็มีข้อความตอบกลับคุณเดช : อืม ขับรถระวัง ๆ ล่ะ ฝนตกอันตรายคินคิน : ครับเขากลับมาตั้งใจขับรถก่อนจะเอายูทูปมาเปิดดูคลิปหมาแมวน่ารัก คลิปทำอาหาร คลิป asmr คั่นเวลารอรถขยับ คาดว่าคงมีอุบัติเหตุด้านหน้า รถเลยเคลื่อนช้าขนาดนี้ระหว่างนี้ก็ไถทวิตเตอร์เล่นไปด้วยตึ๊งตึงเสียงแจ้งเตือนจากเฟซบุ๊คซึ่งเป็นข้อความจากกลุ่มคนที่ทำงานบริษัทเดียวกัน ทำไว้เพื่อเม้ามอยหรือกระจายข่าวสาร (ซุบซิบ) ดังขึ้นเขากดเข้าไปดูตามปกติเพื่อเช็กเรื่องเม้าล่าสุดหนูนาบ้านอีสานพวกเธอเข้ามาส่องคู่ควงคนใหม่ของท่านประธานกันเร๊ว ก่อนจะถูกท่านแอดมินกลุ่มกำจัด(แปะรูป)(แปะรูป)(แปะรูป)มีคนกดไลค์ คอมเม้นหลักร้อยและยัง
" คุณพ่อ ผมไปทำงานก่อนนะครับ "" อืม กลับมาทานข้าวเย็นเป็นเพื่อนพ่อด้วยล่ะ "" ครับ "บทสนทนาประจำวันแบบเดิม ๆ ที่มักจะได้ยินทุกวันมาเป็นเวลาสามปีเขาชื่อ อคิรา อายุ 26 ปี ทำงานเป็นผู้บริหาร กรรมการบริษัท DX มีธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ความงามแบบใช้ตำรับสมุนไพรเป็นส่วนผสม บริษัทนี้เป็นบริษัทของคุณพ่อของภรรยา ที่ได้สูตรที่ตกทอดกันมาจากบรรพบุรุษที่อดิตเคยเป็นถึงสนมขั้นเฟยในวังหลังภายหลังการปฏิรูประบอบการปกครอง ตระกูลตกต่ำจนต้องย้ายประเทศมาอยู่ที่นี่ พร้อมทั้งหอบหิ้วสมบัติมาตั้งตัวและหนึ่งในนั้นคือสูตรบำรุงความงามต่าง ๆ ที่ว่าบริษัทมีจุดเริ่มต้นจากร้านยาจีนเล็ก ๆ เนื่องจากหนึ่งในบรรพบุรุษที่มาตั้งรกรากที่นี่เป็นแพทย์แผนจีนอีกทั้งยังเป็นหัวหน้าตระกูล ภรรยาของท่านหัวหน้าตระกูลให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวบุตรชายเอาดีทางด้านการบริหาร ก่อร่างสร้างเนื้อสร้างตัวจากร้านยาเล็ก ๆ จนกลายเป็นธุรกิจใหญ่โต ส่วนบุตรสาวร่ำเรียนสืบทอดวิชาแพทย์ต่อจากผู้เป็นพ่อทุกวันนี้จากร้านยาจีนเล็ก ๆ กลายเป็นเครือบริษัทใหญ่โตที่ครอบคลุมกิจการร้านยาจีนหลายสาขา มีโรงงานผลิตอาหารเสริมแผนโบราณ ผลิตภัณฑ์เสริมความงาม เวชสำอ
คำเตือนคำหยาบ , โรลเพลย์ช่วงนี้น้องสาวของเจกำลังตั้งครรรภ์ได้สองเดือน ชายหนุ่มทั้งสามในบ้านต่างประคมประหงมหญิงสาวเพียงผู้เดียวนี้ดีมาก จนบางทีรู้สึกได้ว่าเจ้าตัวรำคาญสุด ๆ ฮิมที่เห็นน้องสาวของเขาท้องก็เกิดเฟติชแบบแปลก ๆ ขึ้นมา ตอนที่อยู่ในห้องกันสองคนจึงได้ชวนเขาเล่นอะไรบางอย่าง" เจ ลองเล่นโรลเพลย์กันไหม "ปกติพวกเขาก็เล่นอะไรพวกนี้เป็นปกติอยู่แล้วแต่การชวนครั้งนี้ดูกระตือรือล้นจนเจอดที่จะแปลกใจไม่ได้" อยากเล่นบทอะไร "เขาถามออกไป" โจรชั่วข่มขืนหม้ายท้องแก่จอมร่าน "" ห๊ะ!? "เป็นเขาที่ฟังแล้วทำหน้าเหวอ ตั้งแต่แต่งงานกันมา พึ่งรู้ว่าสามีของเขาโรคจิตขนาดนี้เหมือนกัน ไม่ใช่ว่ารังเกียจแต่กำลังคิดว่าทำไมอีกคนถึงอยากเล่นบทบาทนี้ต่างหาก" ทำไมถึงอยากเล่นบทนี้ล่ะ "เจถามด้วยหน้าสงสัยสุดขีด" ก็แบบเห็นจูนท้องแล้วพอคิดว่าเป็นมึงท้องแล้วกูจัดมึงตอนท้องแก่แค่คิดก็น้ำจะแตกแล้ว "ไม่พูดเปล่า เจ้าหมาหื่นจับมือเขาลงไปที่เป้ากางเกงที่ตอนนี้แข็งตุงเป็นลำ แท่งเนื้อดันเป้าแทบปริออกมาเจหมั่นไส้สามีจนขยำลงไปแรง ๆ แต่แทนที่เจ้าตัวจะสำนึกกลับเด้าใส่มือ หัวเราะชอบใจไม่หยุดแทนเสียนี่เขาล่ะหน่ายใจ นอกจ