Se connecter"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย
"หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว
"แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก
"แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
“ฮ่ะ!” พายุอุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่หัวใจของเขานั้นเต้นแรง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต
"ถ้าคุณไม่เชื่อ พาหนูไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะคะ" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับมีใบหน้าที่เศร้าหม่น เมื่อเธอคิดว่าบิดาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอนั้นพูดออกมา
"ไม่จำเป็น!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง เพื่อยืนกรานที่จะตรวจดีเอ็นเอ จนทำให้คนฟังนั้นหวาดกลัว เพราะใยไหมคิดว่าบิดานั้นไม่เชื่อใจเธอ
"หนูขอโทษที่มารบกวน หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" ใยไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นบิดาอย่างนอบน้อม ประหนึ่งว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อเธอได้สัญญากับผู้เป็นมารดาเอาไว้ หากถูกปฏิเสธแล้วไซร้ จะขอกลับไปไม่กลับมาหาชายตรงหน้าอีกเลยตราบชั่วชีวิต
"แล้วหนูจะไปไหน นั่งลงก่อนสิ" พายุพูดพร้อมกับจับร่างเล็กของลูกสาวนั่งลงข้าง ๆ อีกครั้ง
"ที่บอกว่าไม่จำเป็น นั่นเป็นเพราะว่าพ่อเชื่อว่าหนูเป็นลูกของพ่อโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ใยไหมไม่รอช้าโผเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาอีกครั้งในทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ
"ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพ่อ" พายุพูดพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มใสของลูกสาวออกจนสิ้น ในขณะที่ตัวของเขาเองก็น้ำตาคลอเช่นกัน
"หนูขอเรียกพ่อว่าคุณป๋านะคะ" เสียงเจี๊ยวจ๊าวพูดออกมาอย่างรื่นหู คุณป๋าที่เด็กหญิงพูดนั้น ทำให้พายุอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้
"ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ทำไมถึงต้องเรียกพ่อว่าคุณป๋าด้วยละ หืม" พายุเอ่ยถามลูกสาวออกมา ขณะที่เขายังคงกอดเด็กหญิงเอาไว้ ด้วยความรักความผูกพันของสายใยระหว่างพ่อลูก ที่มันพันผูกจนมาสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้
"มาดาม ไม่ชอบให้หนูมีพ่อ หนูก็จะมีคุณป๋าแทนยังไงล่ะคะ" คำตอบของลูกสาวทำให้พายุยิ้มไม่หุบครั้งแล้วครั้งเล่า เธอช่างเป็นเด็กฉลาดและร่าเริง ผิดกับแพรไหมมารดาของเธอ ที่ชอบทำหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ตลอดเวลา
"ทำไมถึงเรียกแม่ว่ามาดาม ตอนนี้แม่แต่งงานไปแล้วหรือยัง" เวลานี้พายุลุ้นคำตอบจากลูกสาว หรือแพรไหมจะแต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวไปแล้ว ใยไหมถึงได้เรียกเธอว่ามาดาม
"แม่ยังไม่มีใคร มีแค่ลุงดนัยที่ชอบมาข้องแวะ แต่หนูไม่ชอบเขาเลย เพราะเขาชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาดามอยู่เรื่อย" คำตอบของลูกสาวช่างอิ่มเอมใจ เมื่อแพรไหมไม่มีใครเขาก็พร้อมจะสานสัมพันธ์ แต่งานนี้คงจะยากหากผู้ชายคนนั้นมาข้องแวะ แต่เขามีลูกสาวที่ยืนเคียงข้างแล้วจะกลัวอะไร
"ถ้าพ่ออยากจะจีบแม่ต้องทำยังไง"
"โอ้! เจ๋งเป้งมากค่ะคุณป๋า เดี๋ยวหนูจะช่วยเอง" ใยไหมพูดออกมาด้วยความดีใจ นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนามาแสนนาน อยากให้บิดามารดาได้ลงเอยกันสักที
"ลูกรับปากพ่อแล้วน๊า" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก
"แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อนค่ะ คุณป๋า" ใยไหม ผละออกจากอกกว้างของผู้เป็นบิดา พร้อมกับหยิบคุกกี้ตรงหน้าเข้าปาก
"หิวหรือยัง ไปทานข้าวก่อนดีไหม" พายุเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นลูกสาวนั้นหยิบคุกกี้เข้าปากคำโต
"เดี๋ยวค่อยไปทานก็ได้ค่ะ แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อน เรื่องที่หนูเป็นลูกสาวของคุณป๋า ห้ามให้ใครรู้ ทุกอย่างจะเป็นความลับระหว่างเราได้ไหมคะ" พายุทำหน้าสงสัยกลับไปให้เด็กหญิง เธอกำลังคิดจะทำอะไร ใครหลายคนคงดีใจหากได้เป็นลูกสาวของท่านประธาน
"ทำไมเป็นลูกสาวพ่อมันไม่ดีตรงไหนเหรอ ลูกถึงไม่อยากให้ใครรู้" พายุเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความน้อยใจ เมื่อลูกสาวไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเขาเป็นบิดาของเธอ
"เป็นลูกสาวของป๋าดีที่สุดแล้ว แต่หนูไม่อยากให้ใครมองมาดามในทางไม่ดี ทุกคนต้องรู้แน่ สาเหตุที่มาดามต้องออกจากมหา'ลัยกลางคัน" คำบอกเล่าของใยไหมเป็นเหมือนดังคมหอก ที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของพายุ เด็กหญิงตรงหน้าช่างมีความคิดแบบผู้ใหญ่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบไหนทำไมถึงได้ฉลาดอย่างนี้ แพรไหมคงดูแลอบรมลูกสาวมาอย่างดี ต่างจากเขาผู้เป็นบิดาที่ไม่เคยได้เหลียวแล
"พ่อขอโทษนะ ที่ไม่เคยได้ดูแลหนูเลย ต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ทิ้งหนูกับแม่ให้อยู่กันตามลำพังอีกแล้ว" คำพูดของผู้เป็นบิดากำลังทำให้เด็กหญิงหัวใจพองโต เธอดีใจที่ผู้เป็นพายุไม่ปฏิเสธ แถมเขายังคิดที่จะสานสัมพันธ์กับมาดามของเธออีกครั้ง คงไม่มีอะไรทำให้เด็กหญิงมีความสุขเท่าสิ่งนี้มาก่อนเลยในชีวิต
"ที่ฉันเปิดโอกาสให้คุณได้เจอกับลูก นั่นมันคือโอกาสเดียวที่ฉันมีให้กับคุณ เพราะอะไรรู้ไหม ที่ฉันต้องยอม ก็เพราะว่าใยไหมขอร้อง เธอพยายามถามหาพ่อตั้งแต่จำความได้ สิ่งที่คุณทำเอาไว้ เด็กคนหนึ่งต้องมีปม เมื่อเธอเกิดมาแล้วไม่มีพ่อเหมือนคนอื่นเขา ฉันไม่รู้ทำไมใยไหมถึงต้องการพ่อเลว ๆ อย่างคุณนักก็ไม่รู้" แพรไหมพูดสะกิดไปที่หัวใจของพายุ เวลานี้เขารู้สึกเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาบีบรัดเอาไว้ มันเจ็บหน่วงไปหมดเมื่อลูกโหยหาเขามาแสนนาน ในขณะที่เขานั้นเอาแต่ทำงานไม่คิดที่จะตามหาแพรไหมอย่างจริงจัง"นับจากวินาทีนี้ไป ผมจะทำหน้าที่พ่อให้ดีที่สุด เท่าที่พ่อคนหนึ่งจะทำได้ ไปอาบน้ำผมจะทำอาหารรอ" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ต่อให้แพรไหมผลักไสไล่ส่งเขาไปไหน สิ่งที่เขาจะทำคือการยืนหยัดมุ่งมั่นที่จะอยู่ข้างเธอและลูก "ออกไปได้แล้ว และอย่าคิดพยายามคิดทำในสิ่งที่คุณไม่มีสิทธิ์" แพรไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แข็งกระด้างเช่นกัน เมื่อเธอนั้นไม่มีทางอภัยให้เขาได้เลยในชีวิตนี้ "จะอาบไหมน้
"คุณเจ็บมากหรือเปล่า แพรไหม" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดลงมาที่ใต้สะดือ แล้วพบว่ามีแผลเป็นรอยยาวจางๆ ประมาณสิบถึงสิบห้าเซนติเมตร ซึ่งรอยนั่นเขารู้ดีว่ามันคงได้มาจากการผ่าตัดทำคลอดใยไหม "อืม..หนาว..หนาวจัง" แพรไหมครางออกมาอีกครั้ง พร้อมกับเสียงพูดที่บ่งบอกว่าเธอนั้น ต้องการผ้าห่มมากกว่าผ้าชุบน้ำที่พายุนั้นกำลังเช็ดไปทั่วเรือนกายของเธอ "แป๊บหนึ่งเดี๋ยวผมก็จะห่มผ้าให้นอนตะแคงก่อน" พายุพูดพร้อมกับจับแพรไหม นอนตะแคงข้างเขาใช้ผ้าเช็ดไปที่แผ่นหลัง ที่ขาวนวลของเธอไปมา ในระหว่างนั้นเขาก็พยายามห้ามใจไปด้วย เมื่อเรือนกายของหญิงสาวช่างเซ็กซี่สะดุดตาเสียจนอยากกลืนกินเธอไปทั้งตัว "อ้าว! เฮ้ย..บรรลัยละ" พายุเปล่งเสียงอุทานออกมาด้วยความตกใจ เมื่อผ้าขนหนูผืนเล็กนั้น ไปเกาะเข้ากับตะขอบราสีชมพูอ่อนจนหลุดออกมา
ก่อนจะเข้าไปหามารดา ใยไหมตัดสินใจเปิดประตูเข้าห้องตัวเองเพื่อไปอาบน้ำชำระร่างกาย เด็กหญิงอาบน้ำได้สักพักใหญ่ เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกมาจากห้อง มองไปที่โต๊ะอาหารทุกครั้งเวลาที่เธอออกไปข้างนอก ผู้เป็นมารดามักจะทำอาหารไว้รอเธอเสมอ แต่วันนี้มาแปลกหรือมารดาจะโกรธที่เธอออกไปตามหาบิดา ก่อก! ก่อก! แกร๊ก! ใยไหมเคาะประตูห้องของมารดา ก่อนจะเปิดประตูเข้าไป และแล้วเด็กหญิงต้องตกใจกับภาพที่เห็น เมื่อมารดานอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มท่าทางจะหนาวจนสะบั้น เพราะพิษไข้ ใบหน้าของผู้เป็นมารดานั้นดูซีดเซียวมาก "แม่! มาดามเป็นอะไร แย่แล้วทำไมตัวร้อนแบบนี้ ทำไงดี ทำยังไงดี" ใยไหมตกใจ เมื่อตัวของมารดาร้อนดั่งไฟสุม เด็กหญิงไม่รู้ว่าจะทำยังไงเพราะมัวแต่ตกใจกลัวว่ามารดาจะเป็นอะไรไป "ป๋า! ..ใช่แล้วต้องโทรหาป๋า" ใยไหมวิ่งไปที่ห้องเพื่อหยิบโทรศัพท์โทรหาผู้เป็นบิดา แต่พอนึกได้ว่าเขาอยู่ห้องตรงข้าม เธอน่าจะเดินไปเรียกเลยดีกว่า หรือว่าจะ
"ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก"ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวดเลยทีเดียวสองพ่อลูกเดินออกมาจากบริษัท คุยกันกะหนุงกะหนิงด้วยความสนิทใจอย่างรวดเร็ว เวลานี้ใกล้มืดแล้ว แต่ใยไหมกลับลืมเวลา ไม่ได้สนใจว่ามารดาจะคอยเธอกลับ พายุพาลูกสาวขับรถตรงไปที่ร้านอาหารหรู เขาได้สั่งเมนูตามใจชอบของเด็กหญิง "ว้าว! อาหารน่าทานทั้งนั้นเลยค่ะคุณป๋า" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับแสดงกิริยาตื่นตาตื่นใจ เมื่อเธอนั้นเพิ่งกลับมาเมืองไทย มันจึงทำให้อาหารเหล่านี้แปลกตาและดูน่ารับประทาน "หนูทานเผ็ดไหม ทานได้หรือเปล่าลูก" พายุถามออกมาด้
"หนูอายุเท่าไหร่" พายุเอ่ยถามออกไป เมื่อเขาแน่ใจว่า ความสัมพันธ์ของเขาที่ลึกซึ้งกับบรรดาสาว ๆ นั้น เมื่อคราวที่เรียนมหา'ลัยเท่านั้น เพราะหากเด็กคนนี้อายุเกินสิบขวบ ก็แสดงว่าเธอกำลังโกหกเขาอยู่อย่างแน่นอน เพราะตั้งแต่มีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับแพรไหม เขาก็ไม่เคยนอนกับผู้หญิงคนไหนอีกเลย "หนูอายุสิบขวบนิดๆ ค่ะ แต่แม่บอกว่าหนูเป็นสาวแล้ว" คำบอกเล่าของเด็กหญิง ทำให้พายุฉีกยิ้มกว้าง เขาอยากรู้จังเลยทำไมมารดาของเธอถึงได้บอกว่าลูกเป็นสาว ทั้งที่ลูกนั้นเพิ่งจะสิบขวบเอง แต่ดูจากหน้าตาและรูปร่างเธอโตเกินวัยจริงๆ มิน่ามารดาของเธอถึงบอกว่าใยไหมโตเป็นสาวแล้ว "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก
"คุณพายุรีบหรือเปล่าคะ ฝ้ายอยากจะชวนคุณไปดูแบบที่ร่างเอาไว้แล้วลืมหยิบมา ฝ้ายอยากได้แบบนั้น แต่ออกแบบไม่เป็นอยากให้คุณพายุแนะนำ คุณรีบหรือเปล่าคะ" ฝ้ายถามชายตรงหน้าออกไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม แต่สายตาของเธอกลับหวานหยาดเยิ้ม พายุพอจะเดาได้ว่าหญิงตรงหน้าต้องการอะไร สำหรับเขาแล้วเวลานี้มีเพียงแพรไหมที่จะทำให้หัวใจเขานั้นพองโต "พอดีผมมีนัดกับลูกค้า เอาไว้คราวหน้าก็แล้วกันนะครับคุณฝ้าย" พายุพยายามปฏิเสธออกไป เพื่อรักษาน้ำใจของหญิงสาวตรงหน้า "ตกลงค่ะ แต่คราวหน้าคุณพายุห้ามปฏิเสธ เพราะว่าฝ้ายอยากได้ลายนั้นมาก แต่ว่าออกแบบไม่เป็น ต้องรบกวนคุณพายุแล้ว" ฝ้ายยังคงพูดจาจีบปากจีบคอส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มแบบนั้นมาที่พายุเหมือนเดิม "ไม่มีปัญหาครับเดี๋ยวคราวหน้าผมจะแวะไปดูให้" ยิ่งพายุพูดแบบนั้นออกไป ยิ่งทำให้ฝ้ายปลาบปลื้มใจ ที่ชายหนุ่มนั้นจะไปพบเธอ ตามที่ได้ตั้งเจตจำนงเอาไว้ เพื่อหลอกล่อชายตรงหน้าไปตกหลุมพรางของเธอ"ขอบคุณนะคะ นอกจากคุณพายุจะหน้าตาดีแล้ว ยังใจดีอีกต่างหา







