เข้าสู่ระบบแต่คำอธิษฐานของเธอมักไม่เป็นผล...
เรนนี่เงยดวงหน้าตั้งบ่ามองอาคารสูงเสียดฟ้าที่ตั้งสำนักงานของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ แสงยามเช้าสาดเข้าจนเธอยกมือป้องตาพลางถอนหายใจ
เฮ้อ... เธอโทษที่ตัวเองคงทำบุญน้อยไปหน่อยจึงส่งแรงจิตไปถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ถึง
ติ๊ง !
เสียงลิฟต์ยิ่งพาให้หัวใจดิ่งวูบราวกับเสียงระฆังบนเรือข้ามแม่น้ำแห่งความตาย เสียงหวานของเพื่อนสนิทนลินลอยเข้ามาจากโทรศัพท์เมื่อเช้าขณะก้าวเข้าไปในกล่องเหล็กแห่งหายนะ
เขาหมกมุ่น เชื่อฉันไอ้เรย์
จะให้ฉันทำยังไงว่ะ แม่สั่ง
แกโตแล้ว อยู่ให้ห่าง
เธอมองเลขลิฟต์แล้วชะงักเมื่อมีมือสีขาวนิ้วยาวดั่งคนทำงานออฟฟิศเอื้อมออกมาพร้อมเสียงต่ำทุ้ม
“ชั้นไหนครับ”
“สี่สิบค่ะ”
“ชั้นเดียวกันเลย” น้ำเสียงเขากระตือรือร้นขึ้น
เรนนี่เงยหน้ามองทันที แล้วพบกับผู้ชายร่างสูงใหญ่ในชุดสูทอาร์มานีพอดีฟิตหุ่น ผิวขาวจัดอย่างลูกครึ่ง ผมบลอนด์น้ำตาลหวีเรียบตึง ใบหน้าคมจัดที่เกลื่อนด้วยรอยยิ้มกว้างจริงใจจนอดเธอคลี่ยิ้มตอบไม่ได้
“ฉันมาทำงานวันแรกน่ะค่ะ”
“อ้าว… ผมไม่ยักรู้ว่าแผนกผมรับพนักงานใหม่”
“แผนกคุณ ?”
“ครับ ก็คุณไปชั้นสี่สิบ ชั้นผู้บริหารอัครนาราคอนสตรัคชั่น” เขายิ้มกว้าง “ผมอลันรองผู้อำนวยการครับ”
เธอกวาดตามองอย่างเสียมารยาทเมื่อเห็นร่างของหนุ่มวัยสามสิบกว่าแต่เป็นถึงรองผู้อำนวยการ
“ดูคุณสิ ตาโตเชียว” เขาหัวเราะลงลำคอแต่พอดีกลับประตูลิฟต์เปิดจึงทำให้ทั้งคู่หยุดพูดชั่วคราว ก้าวเข้าสู่ชั้นบริหารระดับสูงอันเงียบงัน
“ขอตัวนะคะ ต้องไปรายงานตัวกับ เออ...” เธอเหลียวหาทางไปหน้าห้องประธาน “ประธานบริษัท”
อลันโก่งคิ้วสูงแล้วเป็นฝ่ายกวาดตามองเธอบ้างหัวจรดเท้า รูปร่างระหงอวบอิ่มในชุดทำงานทันสมัย สูทแบบผู้หญิงราคาแพงเกินกว่าจะเป็นพนักงานธรรมดา และกระเป๋าใบละแสน
“ฉันเรนนี่ เป็นเลขาชั่วคราวท่านประธานค่ะ เพื่อนบ้านกัน”
เธอให้ความกระจ่างทันที ไม่รู้ทำไมเหมือนกันคงเพราะท่าทีจริงใจของอลัน หรืออาจเพราะเขาเป็นรองผู้อำนวยการ
“ไอ้ธาม...” น้ำเสียงเขาเข่นเขี้ยวเล็กน้อยจนเธอสงสัย จากนั้นเขาจึงชี้นิ้วไปทางมุมสุดทางเล็ก ๆ “ตรงไปทางนั้นครับ แต่คุณอนงค์เขายังมาทำงาน ?”
“ไม่แน่ใจเหมือนกันค่ะ ขอตัวนะคะ”
เรนนี่รีบขอตัวจากมาพลางยกข้อมือดูเวลา เธอเกือบสายจึงรีบสับขาโดยไม่รู้ตัวสักนิดว่าหนุ่มร่างสูงตาน้ำขาวมองตามอย่างรู้ทันเพื่อนสนิท
“ในที่สุดนะมึง” เขาพึมพำคนเดียวหมุนตัวไปฝั่งตรงข้าม
ตึก ตึก
เสียงรองเท้าส้นสูงดังเป็นเสียงเดียวกับแรงเต้นหัวใจของเธอในเวลานี้เมื่อมองหญิงสาวในชุดคลุมหน้าท้องนั่งอยู่หน้าห้อง
เลขาชั่วคราว... แต่ดันทำเอาท้องวูบโหวง แฟ้มในมือหนักขึ้นเมื่อยืนตรงหน้าเลขาชื่อดังของบริษัท
“สวัสดีค่ะ ฉันมารายงานตัวเลขาชั่วคราว” เสียงหวานใสเอ่ยอย่างมั่นใจ
“รอสักครู่ ฉันยังทำงานไม่เสร็จ” คุณอนงค์ที่ใคร ๆ ต่างเรียกขาน ทรงประสิทธิภาพจนคนแย่งตัวกันหลายคนทำให้เรนนี่มองอย่างแปลกใจ โก่งคิ้วเล็กน้อย
“อย่างน้อยก็ควรเงยหน้าหรือทักกันหน่อยมั้ยคะ ?”
เรนนี่พูดไม่ทันจบพลันสายตาเรียวเฉียบขาดปานน้ำแข็งสะบัดขึ้นมองเธอราวคุณครูสมัยมัธยม ยิ่งด้วยวัยสามสิบกว่าผมตึงเปรี๊ยะ เสื้อผ้าหน้าผมเรียบร้อยพาให้เธอเผลอกลืนน้ำลายทั้งที่เป็นคนไม่กลัวใคร
“ฉันไม่ใช่เพื่อนเล่น ส่วนคุณเป็นพนักงานชั่วคราว ที่เส้นเข้ามา ดังนั้นเชิญไปนั่งรอ”
น้ำเสียงเด็ดขาดแม้ไม่ได้กระโชกโฮกฮากทว่ามันทำให้เธอเสียวสันหลัง ร้อนรนไปนั่งยังเก้าอี้ตัวถัดไปแล้วรอ...
อะไรกัน ทำไมฉันต้องทำตามด้วย ? เธอขมวดคิ้วแต่ยังไม่เริ่มถามอีกครั้งพลันเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
โทรศัพท์บ้าน ? สมัยนี้แล้วยังมีคนใช้? นี่มันออฟฟิศหรือพิพิธภัณฑ์กันแน่ ?
“นั่งบื้ออยู่ได้ มาเป็นเลขาไม่ใช่เหรอ มารับสิ” สายตาของคุณอนงค์ยังไม่ละออกจากจอคอมพิวเตอร์ขณะที่สั่งเรนนี่
“แต่ว่า...”
เธอถอนหายใจเมื่อคุณอนงค์ไม่ตอบ จึงจำใจลุกจากเก้าอี้ไปรับกำลังจะยกหู
“ถ้ามีผู้หญิงโทรหาประธานบอกเขาประชุม”
คิ้วสวยโก่งสูงแต่ยกหูเอ่ยด้วยเสียงหวานใส “สวัสดีค่ะ บริษัทอัครนาราค่ะ”
“ขอสายคุณธาม”
“ประชุมค่า...”
“บอกเขาแอลลี่โทรมา”
“ค่า...”
เธอมองโทรศัพท์นิ่ง นี่เธอต้องรับโทรศัพท์จากสาว ๆ มากมายขนาดไหนเนี่ย ปากเริ่มเม้มคว่ำตาจ้องไปทางประตูเขม็ง พอดีกลับคุณอนงค์เสร็จงานพอดี
“เรียบร้อยแล้ว” น้ำเสียงเธออ่อนลงจากทีแรก “ขอโทษด้วยเวลาทำงานเร่ง ๆ พี่ไม่อยากให้ตัวเองเสียสมาธิ งานนี้รีบมาก หากผิดพลาดคุณธามเอาพี่ตายแน่”
เรนนี่ยังโก่งคิ้วค้างเมื่อคุณอนงค์ลุกจากโต๊ะอุ้ยอ้ายเล็กน้อยยิ้มหวานยื่นแฟ้มสำหรับเสนอประธานมาตรงหน้า
“เอาเข้าไปให้คุณธามได้เลย พี่จะเก็บของแล้ว”
“เก็บของ ?” เธอถามไปพลางรับแฟ้มมาอย่างสงสัย
“ก็น้องมาแล้ว พี่จะกลับบ้านไปเตรียมตัวคลอดสักที ไม่รู้ว่าคุณธามจะให้พี่อยู่จนลูกคลอดที่นี่หรือไง” เสียงของเลขายังพูดอีกหลายคำแต่หูเธออื้ออึงไปแล้ว
เธอกำลังกลายเป็นเลขาจริง ๆ สองต่อสอง...
“เอาเข้าไปเลยน้อง พี่จะคลอดอยู่แล้ว” เธอว่าพลางกวาดของลงกล่อง “ออกมาไม่เจอพี่ก็หาของเอาเองนะ มีอะไรโทรถามพี่แปะเบอร์ไว้ให้แล้ว”
ฝ่ามือเธอชื้นเหงื่อทันทีแฟ้มในมือราวกับเผือกร้อนลวก หันตัวไปทางประตูไม้บานใหญ่
ธามวินทร์ อัครนารา อักษรสีดำดั่งดวงตาดำมืดที่ตามหลอกหลอนเธอมาตลอดหลายปี
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา”
แอ๊ด...
เธอผลักประตูกล้า ๆ กลัว ๆ แต่ไม่มีทางที่จะให้เขาเห็นว่าขาเธอกำลังสั่นเกือบจะทรุด จึงเชิดศีรษะ ยิ้มบางแต้มใบหน้า แล้วก้าวเข้าสู่กับดักของหมาป่าอย่างไม่รู้ตัว
“คุณอนงค์ให้เอาแฟ้มเอกสารเข้ามาค่ะ”
แต่รอยยิ้มเธอแข็งค้างเมื่อชายที่หันกลับมาทั้งตัวข้างหน้าต่างไม่ใช่ใบหน้าคมของเด็กหนุ่มเมื่อวานซืนสิบปีก่อน
ใจเธอเต้นโครมครามแม้ว่าเท้ายังสาวไปใกล้ นัยน์ตาเหล็กดึงดูดจนเธอไม่อาจละออก เขาผละร่างในชุดสูทราคาแพงสีเข้มแนบลำตัวแกร่งพร้อมแก้วกาแฟในมือที่ยังกรุ่นเป็นไอราวกับความฝัน
“นั่งสิ” ธามเอ่ยเบา ๆ หย่อนร่างลงเก้าอี้หนังตัวใหญ่ มองนิ้วเรียวที่วางแฟ้ม เธอไม่ทาเล็บสีจัดจ้านตัดสั้นพอดีอย่างที่เขาชอบ
เสียงเก้าอี้ลากทำให้เขาแหงนหน้าขึ้นมองพวงแก้มระเรื่อแต่ริมฝีปากกลับเหยียดตึง จึงยกมุมปากชอบใจ
ดื้อนัก...
“แล้วคุณอนงค์หล่ะ” เขาหยิบแฟ้มพลิกกลับมาเปิดอ่านช้า ๆ หางตาลอบสังเกตความเงียบที่ปกติ “ไม่เห็นตอบ”
“ฉันไม่รู้จะพูดยังไงให้มัน เออ... ฟังนิ่มนวลที่สุด”
ธามวินทร์เซ็นเอกสารตวัดลงหนักแล้วปิดเสือกแฟ้มกลับไปที่เดิมยกขาไขว่ห้างเมื่อเห็นไรฟันที่ขบลงขอบปากนุ่มสีเบอร์กันดี แผงอกกำลังสะท้อนเบา ๆ
“ลองว่ามา” เสียงเขาพร่าลงอีกเอนตัวไปด้านหลังยกมือเท้าคางมองเธอนิ่ง
“คุณอนงค์...” จู่ ๆ เรนนี่ก็ไปไม่เป็น กลิ่นน้ำหอมที่อวลอยู่ในห้องปะปนกลิ่นกาแฟ ยังฟีโรโมนที่พุ่งกระแทกเธออย่างจังพาให้ลิ้นพันติดขัดลำคอเหนียวหนืด “เธอบอกจะคลอดอยู่หน้าห้องทำงานนี่แล้ว”
“ฮ่ะ ฮ่า ฮ่า” เขาหัวเราะออกมาแม้ไม่ดังมากนักแต่มันสั่นสะเทือนไปทั่วหน้าท้องของหญิงสาว
ฉันคิดผิด... อย่างมหันต์ !
“ฉันมีเพื่อนอยู่คนหนึ่ง” เธอโพล่งขึ้นทำเอาธามวินทร์หยุดหัวเราะมองสงสัย “ชื่อซินเธียร์ จบบริหารมาโดยตรง ว่างงาน เธอพร้อมเริ่มงานทุกเมื่อ”
เรนนี่หยุดหอบหายใจหลังจากพ่นยาว มองความนิ่งสงบเบื้องหน้ากำลังยกกาแฟขึ้นจิบในท่าเดิม
งดงามราวพยัคฆ์รอเหยื่อ
กริ๊ก... เสียงวางแก้วเกือบทำเธอสะดุ้ง สบตาเขาไม่หลบทั้งที่ข้างในสั่นระรัวกระทั่งมองเห็นมุมปากขยับยิ้มอย่างชอบใจ จึงนิ่วหน้า
“ปอดเหรอไง”
“ปอด...” เธอชี้หน้าตัวเอง “หมายความว่ายังไง”
เขาลุกขึ้นช้า ๆ ดึงดูดสายตาเธอให้หยุดนิ่งเดินอ้อมจนมาถึงด้านหลัง เท้าแขนลงทั้งสองข้างเพื่อกระซิบข้างหูทั้งที่ไม่จำเป็น
“พี่ยินดีนะ ตอบรับจดหมายฉบับนั้น”
มือเรียวบนตักกำแน่น ความทรงจำที่ซ้อนเข้ามาเมื่อสิบกว่าปีก่อน กลิ่นช็อกโกแลต ความสดใหม่ของมหาวิทยาลัย และความเจ็บปวดที่ถูกทำให้อาย
“คุณสนุกนักหรือ” เธอพูดลอดไรฟัน “ที่เห็นฉันอับอาย”
เขายิ้มในลำคอเอียงหน้าจนลมหายใจร้อนพ่นข้างลำคอ เธอได้ยินเสียงเขากลืนน้ำลาย
“ไม่... ไม่สนุกเลยสักนิด เรย์...”
เรนนี่เกือบทะลึ่งลุกพรวดแต่เขาวางมือบนไหล่กดเธอไว้ “แค่สามเดือน... ไม่นานหรอกเรย์”
ไออุ่นด้านหลังหายไปเมื่อเขาเดินผละออกห่างไปทางหน้าต่างแล้วผลักกว้างทั้งที่ยังเปิดเครื่องปรับอากาศ
กลิ่นความสาวผสมเลดี้ดิออร์อ่อนจางทำเอาเขาเกือบหลุดไปชั่วครู่ เบือนหน้าออกเพื่อลอบเอาอากาศภายนอกชำระราคะที่พุ่งขึ้นกะทันหันก่อนหันกลับมานัยน์ตาเปล่งแสง
“แค่สามเดือน กล้าไหม”
เรนนี่พบว่าในเวลานี้ความกลัว ความโกรธจากเรื่องในอดีตมันตีรวนปนกันไปหมด ยังความรู้สึกแปลกใหม่ที่เพิ่งเจอพาให้มองทุกอย่างพร่าเลือนรวมไปถึงสติ
เขาท้าเธอ... เขารู้จักเธอดีเกินไป
แต่ความใจเร็วและปากจัดจ้านทำให้เธอลุกขึ้นเหยียดรอยยิ้มอย่างผู้ที่ถูกท้า เปล่งคำพูดที่พาให้ชีวิตของเธอพลิกตลบอีกครั้ง และอาจทำให้เธอเสียหัวใจของตัวเองไปอย่างไม่วันได้คืน
“ตกลง สามเดือน”
เสียงหวาน ‘ตกลง’ สะท้อนก้องอยู่ข้างใน ราวกับหัวใจเธอได้ตอบแทนสมองไปแล้ว
และเธอเพิ่งรู้ตัวว่า... เธอแพ้ตั้งแต่เกมแรกทั้งที่ยังไม่ได้ลงเล่น
ตอนพิเศษMy red’s Roomความฝันในจินตนาการอันเพริดแพร้ว...ฟวับ...ร่างของเธอสะดุ้งเฮือกทว่ากลับซ่านระริกถึงปลายเท้า มองแส้สีดำในมือของบุรุษหนึ่งสวมหน้ากากสีดำปิดบังตัวตนเว้นไว้เพียงลูกตา จมูก และริมฝีปากที่เผยเรียวลิ้นชิมขอบแห้งผากตลอดเวลา“คลานเข่ามาใกล้ ๆ” เสียงของเขาแหบพร่า“ไม่ !” เธอเสียงกร้าวขึ้นทว่าน้ำในกายกลับหลั่งริน ขาสั่นเทายืนบิดตัวจับผนังกระจกที่กรุไว้รอบด้าน เย็นทะลุขึ้นมาถึงหัวใจที่โลดแรงราวทะเลคลั่งนัยน์ตาของเขาคล้ายกับหมาป่ายามกลางคืน หิวกระหายทั้งอยากจะครอบครองเมื่อได้ยินคำที่ไม่ใช่คีย์เวิร์กไม่... สำหรับเราคือแรงขึ้นอีกระดับมือสีคล้ำสาวท่อนเนื้อกลางลำตัวช้า ๆ แต่หนักแน่นพ่นลมร้อนมองร่างอวบอิ่มในชุดสายหนังสีดำที่รัดไว้แค่บางท่อนเว้นตรงกลางให้เขาได้ใช้ลิ้นลงอย่างสมใจแส้ในมือสั่นไหวเมื่อเขาพันเข้ากับฝ่ามืออีกข้าง ใช้สายตาและเสียงกดต่ำด้วยคำสั่งตามกฎ“คลานมาเด็กดี ช้า ๆ มาจัดการทำความสะอาดด้วยปากสิคะ”เรนนี่บิดท่อนขาหนีบเข้าหากันแน่นซาบวาบไปหมดแค่ได้ยินคำสั่ง หนึ่งปีแล้วที่เธอตกอยู่ในบ่วงของพี่ชายข้างบ้าน หลุมลึกดำมืดของการรวมร่างในรูปแบบหนึ่งและเธอพบว่า... เธอกระห
ตอนพิเศษจดหมายที่เขายังเก็บอยู่ แต่งงานโหย... ฮิ่โหย... ฮิ่โหย.. ฮิ่โหย.. ฮิ่โหย... ฮิ้ว...ใครมีมะกรูด มาแลกมะนาวใครมีลูกสาว มาแลกลูกเขยเอาว่ะห้อยเอ้ย ยูซู ตะละลา......แสงในยามเช้ายังคงสาดสีทองในขณะที่ธามวินทร์ยืนอยู่ในขบวนขันหมาก เขาตื่นเต้นแทบบ้าตั้งแต่หลายวันมาแล้วจนแม้แต่เรนนี่เองยังช่วยข่มอารมณ์ของเขาไม่ได้เท้าของเขายังขยับไปมาและเหงื่อผุดซึม“ตื่นเต้นอะไรขนาดนั้นวะไอ้ธาม”“งานแต่งนะโว้ย” เขาแค่นเสียงแต่ใบหน้ายิ้มกริ่ม “กูได้แต่งกับน้องมึงแล้วว่ะ”“เออ ! กูรู้แล้ว” อัครพลเค้นเสียงแล้วถูกคุณหญิงนฤมลมองกลับมาด้านหลังเพื่อปราม จึงเอียงตัวไปใกล้ “วันนี้กูอยู่ในขบวนมึงนะอย่าลืม”“ก็แน่นอน ถ้ามึงไปกั้นประตูเงินประตูทอง” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “กูไม่ให้ซองมึงหรอกไอ้เอก มึงติดหนี้กูอยู่นะอย่าลืม”“เฮ้ย ! อะไรวะ นั่นน้องสาวกูแท้ ๆ” อัครพลส่งเสียงโวยวายแต่ไม่ดัง ฉีกยิ้มให้คุณหญิงอีกครั้ง“ก็มึงแพ้พนัน มึงบอกว่าไงนะ ไม่มีทางได้แอ้ม นี่กูทั้งแต่งทั้งแอ้ม ฉะนั้นมึงเขียนเช็คได้เลย”อัครพลอยากจะเกาหัวแต่มือถือพานสินสอดจึงได้แค่แสยะยิ้มไปให้เพื่อนข้างบ้าน“เรื่องเก่าสมัยสิบปีมึงยังจำได้นะไอ้ธาม
35 บทสรุป 2 จบบริบูรณ์บ้านของธามวินทร์ยังคงเหมือนเดิมเสมอตามความรู้สึกของเรนนี่ แม้ว่ามันจะสะอาดทว่าทุกซอกมุมล้วนเป็นระเบียบเรียบร้อยผิดไปจากบ้านของเธอ กลิ่นหอมของดอกกาละสองอวลอยู่ทุกอณูของตัวบ้าน“นั่งสิ” น้านฤมลเปรยเบา ๆ พลางนั่งลงก่อนบนโซฟาหรูหราในห้องนั่งเล่น“มีอะไรหรือเปล่าครับแม่ ผมกับเรย์ค่อนข้างเหนื่อย”เขาพูดตรง ๆ เอนตัวพิงพนักแล้วโอบแขนดึงให้เธอนั่งลงข้าง ๆ อย่างจงใจต่อหน้าทุกคน“พี่ธาม...”เธอดุเสียงแผ่วแต่แอบหยิกต้นขา ส่วนพี่ชายข้างบ้านยิ่งยิ้มกว้างส่งสายตาแพรวพราว“ฮ่ะ แฮ่ม” แม่ของเรนนี่กระแอมสองสามครั้งจึงทำให้ธามวินทร์ยอมปล่อยแขนออกจากหัวไหล่เธอ“พ่อเขาคุยกับแม่แล้วเมื่อคืน” นฤมลเริ่มต้นด้วยเสียงเป็นงานเป็นการ จ้องไปทางเรนนี่ “เรื่องพริมาและคลิปทั้งหลาย”“คุณน้า... คะ” เรนนี่ร้อนตัว“ฟังน้าก่อน” นฤมลรีบแย้งขึ้น “น้าเองก็มีส่วนผิด ที่จริงเราไม่ควรพูดกันต่อหน้าแม่ของหนู แต่ไหน ๆ หนูเองก็กำลังจะมาเป็นสะใภ้ ดังนั้นน้าจึงคิดว่าไม่ควรมีอะไรปิดบังกัน”ธามวินทร์ค่อยยิ้มออกมากว้างกว่าเดิมผ่อนลมหายใจเฮือกใหญ่ ก้มมองน้องสาวข้างบ้านที่คล้ายหน้าเอ๋อไปบ้างอย่างมึนงง“เรื่องส่วนตัวข
35 บทสรุป 1แปร๋น !ธามวินทร์บีบแตรรถขณะจอดรอหน้าประตูรั้ว อีกมือดึงเรนนี่ไว้ไม่ให้หนีลงไปก่อน“ให้พี่เลี้ยวรถเข้าบ้านก่อน”“ไม่ ! เดี๋ยวแม่เห็นว่ากลับพร้อมพี่ธาม”“จะเป็นไรไป ทีเมื่อวานค้างที่บ้านไม่เห็นจะกลัว”ก็ใช่... เมื่อวานมันเกิดเรื่องเกือบตายทั้งคืนไงเล่า ! แต่เธอไม่พูดออกไป กลัวจะต้องรับสายตาเอ็นดูแบบหมาป่าอีก“พี่ธาม” เธอเหลียวมองไปทางบ้านตัวเองอย่างหวาด ๆ “แต่นี่มันสี่โมงเย็น ใครมันจะไปค้างคืนกับผู้ชายแล้วกลับเอาป่านนี้”เขาตวัดรถจอดเข้าซองในโรงเก็บรถ แต่ยังไม่ดับเครื่อง “ก็เรนนี่ไง พี่กำลังจะซื้อคอนโดใหม่ ไปดูด้วยกันนะ”“ซื้อทำไมกัน อยู่บ้านก็ดีแล้ว จะได้อยู่ใกล้ ๆ กัน” เธอพูดพาซื่อจึงโดนพี่ชายข้างบ้านจับหน้าให้หันกลับไปแล้วบีบแก้มจนปากยู่“ไม่ดีค่ะ ขืนอยู่บ้านพี่จะนอนกับหนูได้ไงคะ”“ก็ อือ ปล่อยเรย์นะ” เธอพูดอู้อี้ จึงโดนเขาจุ๊บปากไปหนึ่งครั้ง“ไปอยู่คอนโดกับพี่นะคนเก่ง” เขากระซิบใช้นัยน์ตาเหล็กกล้าหลอกล่อเธอ “พี่จะสั่งทำห้องสีแดงพิเศษสำหรับหนูคนเดียว ไม่เหรอคะ”เรนนี่ส่ายหน้าหนีปากร้อนแต่เขาประกบปิดจนได้สอดลิ้นตวัดสองสามครั้งก่อนจะออกช้า ๆ“ทำอย่างเมื่อคืน... ไม่ชอบเหรอ
34 เอาคืน 2รอยยิ้มของพริมายังแข็งค้างบนใบหน้างดงามขณะที่เธอมองตัวเองในกระจกลิฟต์ ใช้มือชื้นเหงื่อลูบหยาดน้ำที่ผุดตามไรผมด้วยความสับสน“ทำไมในลิฟต์ร้อน” เธอเห็นเด็กหนุ่มมองตากันก่อนเหลียวกับมาทางเธอ“ไม่นะครับ ปกติ”พริมายกมือพัดใบหน้าร้อนผ่าว รู้สึกผิวเนื้อซ่านระริก “พี่ร้อน อยากอาบน้ำ”เด็กหนุ่มที่พยุงเรนนี่ไม่ได้พูดอะไร พวกเขายืนเงียบ ๆ กระทั่งประตูลิฟต์เปิดออกจึงเห็นว่าพริมาพุ่งตัวออกไปเป็นคนแรกเดินไปยังห้องที่จองไว้“เร็ว ๆ สิ พี่อยากเข้าห้อง มัน...”เธอจับหน้าท้องที่หดเกร็ง ร่องสวาทกำลังเต้นตุบ เธอกำลังต้องการของผู้ชายอย่างรุนแรง“ทำไมเป็นแบบนี้”มันไม่ควรเป็นแบบนี้... นี่ฉันควรเป็นฝ่ายลงมือสิ ร่างเธอร้อนซ่าน ขาไม่มีแรงเดิน เหงื่อไหลจากไรผมจนต้องพิงผนังเสียงโกลาหลดังจากอีกฝั่งของโถงโรงแรม ธามวินทร์ยืนนิ่ง มองร่างพริมาที่กำลังถูกพยุงออกจากลิฟต์ในสภาพโดนยาไร้สติดูเธอสิ... อยากเป็นข่าวนัก ก็ขอให้สมใจเขาขยับเนกไทนิดเดียว ไม่ได้เดินเข้าไปช่วย ไม่ได้แม้แต่สบตาเธอเคยบอกว่าฉันไม่มีหัวใจ... วันนี้ฉันก็ปล่อยให้เธอเห็นกับตา ว่าฉันแค่มีหัวใจให้แค่กับคน ๆ เดียว“พี่ไม่ไหวแล้วเด็ก ๆ”เสีย
33 เอาคืน 1การแต่งงานของเราเคยดีบ้างไหมแค่หนึ่งปีเศษ… ฉันเป็นได้แค่ตัวแทนของใครอีกคน ฮึ ! ตอนเขาคลี่ยิ้มให้เลขาเด็กนั่น… มันเหมือนมีใครเอาตีนมาลูบหน้าการแต่งงานจอมปลอมที่ฉันต้องเป็นตัวแทนให้ คุณกดฉันต่ำในวันนั้น แต่วันนี้...หัวเราะกันได้อีกไม่นานหรอกพริมาคลี่ยิ้มอ่อนหวานให้กับกรรมการอสังหาริมทรัย์ในงานการกุศลแวดวงไฮโซกลุ่มก่อสร้างระดับบนเท่านั้น“วันนี้คุณพริมาสวยเป็นพิเศษ”เธอยิ้มรับคำชมจากปากของเสี่ย หนึ่งในกรรมการชมรม แต่เธอไม่หลงกลคำลวงพวกนี้อีกแล้ว การแลกเปลี่ยนเรื่องบนเตียงไม่ควรได้มาฟรีแม้แต่เด็กหนุ่มเธอยังลงทุนเสียเงิน“ขอบคุณค่ะคุณกวง นี่กำลังจะเริ่มงานประมูลแล้วใช่ไหมคะ”“ครับ แหม... วันนี้มีคนเอาของมาร่วมงานหลายรายการเลย คุณธามวินทร์เขาเอาภาพหายากมาช่วยด้วย ดูแล้วน่าจะได้ราคาดีที่สุด”เธอยังเหยียดยิ้มทั้งที่แค่นเสียงดูถูกข้างใน ตาเสี่ยบ้านี่ไม่รู้หรือไงว่าเธอและเขาฟ้องหย่าขาดกัน ไม่ได้จบดียังปากมากพูดจาไม่เข้าหูเธอ“แต่เอะ ! คุณพริมารู้จักผู้หญิงที่มากับคุณธามวินทร์หรือเปล่าครับ”“ค่ะ” เธอพูดเสียงเรียบ ๆ “น้องสาวข้างบ้านควบเลขา แต่คงมัดรวมเลขาบนเตียงด้วย”“พูดแบบนี้หมา







