LOGINบทที่ 2
ไม่ยุ่งเรื่องของคนอื่น ........................................ "เรื่องของคนอื่น มันเป็นเรื่องของคนอื่น" ฉันพยายามบอกตัวเองแบบนั้นเพื่อที่จะเริ่มต้นใช้ชีวิตของตัวเองต่อ ใครจะนอกใจใคร ใครจะฟีทเจอริ่งกับใครก็ไม่เกี่ยวกับฉัน ทำงาน เก็บเงิน เรียนจบเพื่อมีอนาคตที่ดี! แค่สิ่งเหล่านี้ก็พอแล้วที่ฉันควรใส่ใจ ฟึบ! เมื่อคิดได้ดังนั้นฉันก็หยิบผ้ากันเปื้อนขึ้นมาสวมอย่างทะมัดทะแมง ในเจ็ดวันฉันจะมีวันหยุดอยู่หนึ่งวัน ส่วนหกวันที่เหลือก็คือวันเรียน และ ทำงานพิเศษ โดยในแต่ละวันฉันจะทำงานพิเศษวันละสองที่ ช่วงบ่าย-เย็น ทำหน้าที่เป็นบาริสต้าที่ร้านกาแฟใกล้มหาลัย ส่วนหัวค่ำ-ดึก จะเป็นพนักงานเสิร์ฟที่ผับชื่อดัง ซึ่งฉันชอบที่ได้ทำงานในร้านกาแฟมาก ๆ กลิ่นกาแฟหอม ๆ ที่คั่วเอง ไอน้ำอุ่น ๆ บรรยากาศที่เงียบสงบ ถึงแม้จะได้เงินไม่มาก แต่มันช่างช่วยให้หัวใจรู้สึกชุ่มชื่นเสียเหลือเกิน ส่วนงานที่ผับ ถึงจะไม่ได้ชอบนัก เพราะมักจะเกือบถูกลวนลาม และ แทะโลมอยู่เป็นประจำ แต่ทว่าก็ได้เงินดีมากคุ้มกับที่อดหลับอดนอน ถ้าถามว่าทำไมฉันถึงต้องทำงานหนักขนาดนี้ทั้ง ๆ ที่ได้ทั้งทุนการศึกษาเต็มจำนวน และ มีที่พักฟรี ก็คงต้องบอกว่า เพราะความจนมันน่ากลัว ฉันไม่ใช่ทายาทจากตระกูลดังที่มีเงินถุงเงินถังจนไม่จำเป็นต้องคิดถึงเรื่องในอนาคตก็ได้ ฉันเป็นเพียงแค่เด็กกำพร้าที่พอจะมีโชคดีเรื่องสติปัญญา และ ความขยันอยู่นิดหน่อย เพราะงั้นอะไรที่ทำได้พอให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้นฉันก็อยากจะทำ แต่วงเล็บว่าต้องทำมันด้วยตัวเองนะ ฉันไม่ชอบวิงวอน หรือ ร้องขอความช่วยเหลือจากใครสักเท่าไหร่ เพราะไม่อยากถูกทวงบุญคุณเอาทีหลัง ทว่า ทั้ง ๆ ที่ฉันพยายามจะไม่เข้าไปอยู่ในวังวนแห่งปัญหาของคนอื่นแท้ ๆ แต่ทว่าก็ดูเหมือนโชคชะตาจะไม่เข้าใจ กริ๊ง! "ร้านกาแฟพอใจยินดีต้อนรับค่ะ" เสียงกระดิ่งที่ติดไว้ที่ประตูดังขึ้น เป็นสัญญาณว่ามีลูกค้าเข้ามาในร้าน เมื่อได้ยินดังนั้นฉันก็รีบหันไปมอง และ กล่าวคำต้อนรับด้วยน้ำเสียงสดใสทันที แต่ทว่าภาพตรงหน้าก็ทำฉันแทบจะคุมสีหน้าไม่อยู่ เมื่อเห็นว่าพี่เวคินกำลังเดินควงแขนเข้ามาในร้านกาแฟพร้อมกับหญิงสาวหุ่นดีคนหนึ่ง ซึ่งพอเห็นดังนั้นฉันก็รีบทรุดตัวลงนั่งยอง ๆ กับพื้นทันทีด้วยความตกใจ พรึ่บ! "แล้วฉันจะตกใจทำไมเนี่ย!" "อ้าว คนขายไปไหนแล้วล่ะ" "ซื้อกาแฟหน่อยค่า" หญิงสาวสวยคนนั้นที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้านเอ่ย เมื่อเห็นว่าพนักงานหายไปไหนไม่รู้ กริ๊ง! ๆ ๆ หญิงสาวกดกริ่งที่เคาน์เตอร์ติดต่อกันหลายครั้ง แต่ทว่าฉันกลับไม่กล้าโผล่หน้าออกไปเลย จนกระทั่งพี่ธีเดินออกมาจากหลังร้านเพราะได้ยินเสียงกริ่ง "มาแล้วครับ ๆ" "พลอยไม่อยู่งั้นหรอ" พี่ธีพึมพำ ก่อนจะมองมาเห็นฉันที่นั่งยอง ๆ อยู่บนพื้น พอเห็นแบบนั้นเขาก็ทำหน้าตาฉงนสงสัย ซึ่งฉันได้แต่ยกมือไหว้ขอโทษเขายิก ๆ พี่ธีจึงได้แต่ตามน้ำไป และ มาต้อนรับลูกค้าแทน "ทำอะไรกันอยู่คะเนี่ย ให้ลูกค้ารอตั้งนาน" หญิงสาวเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดทั้ง ๆ ที่เธอเข้ามาในร้านยังไม่ถึงห้านาทีเลยแท้ ๆ "ไม่เอาครับน้ำ เราก็ไม่ได้รอนานขนาดนั้นสักหน่อย" ชายหนุ่มอีกคนเอ่ยขึ้น ซึ่งทั้งน้ำเสียง และ โทนเสียงของเขาฉันจดจำมันได้ดี ว่าเขาก็คือพี่เวคินตัวจริงเสียงจริง แถมผู้หญิงคนนั้นก็คือหญิงสาวข้างซอกกำแพงอีกต่างหาก เป็นเรื่องจริงสินะเนี่ย ฉันไม่ได้ตาฝาดไปจริง ๆ ด้วย อ๊าก!! ทำไมฉันต้องมารับรู้อะไรแบบนี้ด้วยนะเนี่ย "ต้องขอโทษด้วยนะครับ" "วันนี้ลูกค้าทั้งสองจะรับเมนูอะไรดีครับ(^_^)" พี่ธีรับลูกค้าอย่างมืออาชีพ สุดยอดไปเลยค่ะพี่ธี! ฉันถึงกับต้องยกนิ้วโป้งให้พี่ธีถึงสองนิ้ว ซึ่งพี่ธีที่ก้มหน้ามามองก็ถึงกับส่ายหน้าไปมายิ้ม ๆ ห้านาทีต่อมา "ทานให้อร่อยนะครับ ขอบคุณที่ใช้บริการ(^_^)" "ไปแล้วหรอพี่ธี" ฉันกระซิบกระซาบถามพี่ธีเบา ๆ และเมื่อพี่ธีพยักหน้าฉันก็รีบคลานออกมาจากใต้เคาน์เตอร์ทันที "ยังไงเรา นั่นโจทย์หรอ" พี่ธีเอ่ยถามด้วยความสงสัย ซึ่งฉันก็ส่ายหน้าปฏิเสธทันที "ไม่ใช่โจทย์พลอยหรอกค่ะ แต่เป็นโจทย์ของคนรู้จัก" "ก็นึกอยู่ ว่าคนอย่างพลอยจะไปมีศัตรูที่ไหนได้" พี่ธีส่ายหน้าไปมาเบา ๆ เพราะงั้นฉันจึงอดไม่ได้ที่จะถามเขาว่าความหมายที่ว่าคืออะไร "หมายถึงยังไงคะ?" "ก็ดูพลอยไม่ค่อยสนใจใครไง เอาแต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานงก ๆ" "แล้วมันไม่ดีหรอคะ?" "มันก็มีทั้งดี และ ไม่ดีคละกันไปนั่นแหละ" "ตั้งใจทำงานมันก็ดี แต่บางทีพลอยต้องหัดสนใจคนอื่นบ้าง เดี่ยวจะตามเล่ห์เหลี่ยมของคนอื่นเขาไม่ทันเอา" "เหมือนที่ไม่รู้ว่าพี่ธีชอบพลอยน่ะหรอ?" ฉันแกล้งกระเซ้าพี่ธีอย่างหยอกล้อ ฉันทำงานกับพี่เขามา ปีนี้ก็จะเข้าปีที่สองแล้ว ซึ่งพี่ธีแอบชอบฉันมาตลอดหนึ่งปี แต่ฉับกลับไม่รู้เลย จนกระทั่งที่เขามาสารภาพรัก ซึ่งฉันก็หักอกเขาไปเรียบร้อยแล้ว แต่ทว่าเราก็ยังคงเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีต่อกัน แถมตอนนี้พี่ธีก็มีแฟนแล้วด้วย "ล้อพี่หรอฮะ มานี่เลยมา" "โชคดีที่เป็นพี่นะ ถ้าพลอยไปเจอคนที่เจ้าห์กว่านี้ เจ้าแผนการ แถมยังโรคจิตพลอยจะนึกเสียใจ" พี่ธีเอ่ย ก่อนจะจับฉันล็อกคอ และ ใช้มือเขกหัวฉันเบา ๆ และ เพราะว่าพวกเราไม่ทันมอง จึงไม่ทันเห็นเลยว่ามีใครบางคนหยุดยืนอยู่หน้าร้านมาสักพักแล้ว และ เข้ากำลังจะเปิดประตูเข้ามาในร้าน กริ๊ง! "ฮ่า ๆ ๆ พี่ธีปล่อยพลอยนะ" เสียงกริ่งที่ประตูดังขึ้นทำให้หางตาฉันเหลือบมองไปที่ประตูทันที ก่อนจะพบว่าเป็นพี่เวคินนั่นเอง! นี่เขายังไม่ไปอีกหรอเนี่ย!? "อ้าวคุณลูกค้า เครื่องดื่มมีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ" พี่ธีดูลนลานเล็กน้อยเมื่อคิดว่าเครื่องดื่มที่ทำไปเมื่อสักครู่มีปัญหา "พอดีขมไปหน่อยครับ เลยว่าจะมาขอไซรัปเพิ่ม (^_^)" พี่เวคินเอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อนจะยื่นแก้วกาแฟไปให้พี่ธี และ เลื่อนสายตามาทางฉันพร้อมกับเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม "พลอยทำงานอยู่ที่นี่งั้นหรอ" "เอ่อ.....ใช่ค่ะ พลอยทำที่นี่มาตั้งแต่ปีหนึ่งแล้ว" อีกแล้ว รู้สึกได้ถึงบรรยากาศแปลก ๆ จากพี่เวคินอีกแล้ว "งั้นหรอ เอาไว้พี่จะมาอุดหนุนบ่อย ๆ นะ" "กาแฟอร่อยดีนะครับ(^_^)" พี่เวคินเอ่ยกับฉัน ก่อนจะหันไปพูดชมพี่ธี "ขอบคุณนะครับ ท่านให้อร่อยครับ" พี่ธียิ้มแก้มแทบปริเมื่อได้รับคำชม ก่อนที่เขาจะส่งแก้วกาแฟที่เติมไซรัปแล้วคืนให้พี่เวคิน "พี่ไปก่อนนะ" "สวัสดีค่ะพี่คิน" ฉันยกมือไหว้พี่คินเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเปิดประตูเดินออกจากร้านไป ทว่าจู่ ๆ ฉันก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ มันเป็นคำพูดของเขา ถึงแม้จะนานแล้ว แต่ฉันก็พอจะจำได้ลาง ๆ 'พี่ไม่ค่อยชอบกินกาแฟเท่าไหร่' 'แต่จะกินตอนที่อารมณ์ไม่ดี เพราะรสขมของมันพอที่จะช่วยเรียกสติพี่ได้บ้าง' อีกด้าน "เข้าไปในร้านกาแฟทำไมอีกหรอคะเวคิน" "ไปเติมไซรัปมาครับ" "เพราะกาแฟรสชาติไม่ได้เรื่องเลยจริง ๆ" สิ้นเสียงทุ้ม เวคินก็ทิ้งแก้วกาแฟที่ยังไม่ทันได้แตะสักคำลงถังขยะทันทีด้วยใบหน้าเย็นชา ตุ้บ!บทที่ 49ENDING........................................ปึก ปึก ปึกพับ พับ พับ“อ๊ะ อื้ออ พี่คินช้า ๆ ..... แฮ่ก” ฉันเอ่ยบอกพี่คินเสียงกระเส่า เพื่อให้เขาขยับสะโพกช้าลงหน่อย ตอนนี้ฉันถูกร่างสูงของพี่คินกักตัวเอาไว้บนโต๊ะทำงานราคาแพงของเขา ไม่รู้ทำไมจู่ ๆ ก็เกิดอารมณ์หื่นกามขึ้นมากะทันหัน ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนก็เล่นงานฉันจนแทบจะมาทำงานไม่ไหวแท้ ๆ“อยากกินนม” พี่คินที่เหมือนจะสติหลุดเอ่ยพึมพำในขณะที่มือก็บีบเคล้นหน้าอกฉันไม่หยุดปึก ปึก ปึกพับ พับ พับ“พี่คินอย่า.....อึก อื้อ” ฉันพยายามปัดป้องมือหนาของพี่คินที่พยายามจะแกะกระดุมเสื้อของฉัน พี่คินจะรู้ตัวบ้างไหมเนี่ยว่าเขาทำให้ฉันถูกนินทาไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ความสัมพันธ์ร้าย ที่เริ่มต้นแบบลับ ๆ ของเรา ตอนนี้มันไม่ใช่ความลับอีกต่อไป เพราะพี่คินแสดงออกอย่างชัดเจนต่อหน้าของทุก ๆ คน ว่าฉันคือคนรักของเขา จนตอนนี้เหล่าเพื่อนร่วมฝึกงานบางคนก็เรียกฉันว่า ว่าที่คุณนายสนามบินไปแล้วปึก ปึก ปึกพับ พับ พับ“ชอบจังเลย.....ถุงน่องสีเนื้อ” พี่คินเอ่ยด้วยน้ำเสียงแสนโรคจิต บ่งบอกว่าเขาพึงพอใจมากแค่ไหนในยามที่ลูบไล้มือไปบนถุงน่องที่ขาดวิ่น ซึ่งก็เป็นฝีมือเข
บทที่ 48การหน่วงเหนี่ยวที่เต็มใจ NC18+........................................สวบ สาบ“อย่าเอาแต่เขยิบหนีพี่สิครับพลอย” พี่คินเอ่ยเสียงกระเส่า ก่อนจะใช้มือจับล็อกสะโพกของฉันเอาไว้เพื่อไม่ให้ฉันขยับหนีไปไหนได้สวบ สาบ“อึกก พี่คิน”“พลอยร้อนค่ะ แฮ่ก ๆ”“พี่เร่งแอร์ให้แล้วยังร้อนอยู่หรอครับ”สวบ สาบกึด!“อึก อื้ออ พะ พี่ก็รู้ว่าพลอยไม่ได้หมายถึงแอร์” ฉันใช้มือผลักหน้าอกของพี่คินเบา ๆ ก่อนจะชะโงกหน้ามองไปที่บริเวณกลางกายของตัวเองที่มีอะไรบางอย่างที่ทั้งใหญ่ทั้งร้อนสอดเข้าออกไม่หยุดเป็นจังหวะ พอมองมุมนี้แล้วมันช่างดูลามกจริง ๆ แต่สิ่งที่ลามกยิ่งกว่าก็คงเป็นคนตรงหน้า ตอนนี้สีหน้าของพี่คินเหมือนคนโรคจิตไม่มีผิดเลยสวบ สาบปึก ปึก ปึก“แฮ่ก.....พลอยมองหน้าพี่สิครับ” พี่คินเอ่ยเสียงกระเส่า ก่อนจะใช้มือจับใบหน้าของฉันเอาไว้ ส่วนเอวของเขาก็ยังคงขยับไปมาไม่หยุดเป็นจังหวะเนิบช้าสวบ สาบปึก ปึก ปึก“อึก ๆ แฮ่ก ๆ” ตอนนี้หัวของฉันมันขาวโพลนไปหมด ยิ่งพี่คินขยับช้าฉันก็ยิ่งสัมผัสได้ถึงความใหญ่โตของเขาอย่างชัดเจน ไหนจะการที่เขาชอบกระแทกเข้ามาจนสุดความยาวแล้วคาทิ้งเอาไว้ครู่หนึ่งอีก มันทำเอาฉันทรมา
บทที่ 47ครอบครัวเพียงคนเดียว........................................“พวกคุณจะไม่มีทางได้เงินสักบาทเดียว”เสียงของใครบางคนที่ไม่ได้อยู่ในวงสนทนาดังขึ้น ทำเอาคนทั้งโต๊ะหันไปมองเป็นตาเดียว“พลอย.....” พี่คินตาโตทันทีเมื่อเห็นว่าฉันปรากฏตัวขึ้นกลางวงสนทนา“นี่คือสาเหตุที่พี่เบี้ยวนัดพลอยหรอคะ”“เพื่อมาเจอคนน่ารังเกียจพวกนี้เนี่ยนะ”ฉันเอ่ยเสียงเรียบ ก่อนจะกวาดตามองเหล่าคนหน้าเงินที่ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาที่นั่งอยู่บนโต๊ะด้วยสายตาเย็นชา“แกกล้าเรียกพวกฉันว่าคนน่ารังเกียจหรอ นี่พ่อ แม่ แล้วก็น้องของแกนะ!”“ฉันไม่มีพ่อ ไม่มีแม่ น้องยิ่งไม่มี”“ครอบครัวของฉันมีแค่เขาคนเดียว” ฉันเอ่ย ก่อนจะชี้นิ้วไปที่พี่คิน ซึ่งพอเขาได้ยินแบบนั้น ใบหน้าหล่อที่แสนคุ้นเคยก็พลันฉีกยิ้มกว้างออกมา“อย่ามาอวดดีนะ เลือดในตัวของแกมันก็มาจากพวกฉันทั้งนั้น”“ฉันลำบากแค่ไหนกว่าจะคลอดแกออกมา แกจะมาเนรคุณฉันไม่ได้!”“คลอดลูกออกมาเพื่อขายกินงั้นหรอ”“นี่พวกคุณทำฟาร์มค้าสัตว์หรือไง?” ฉันแสยะยิ้มมุมปาก ถึงจะรู้ว่าไม่ควรพูดกับผู้ให้กำเนิดแบบนี้ แต่ตอนนี้ฉันเหลืออดแล้วจริง ๆ สำหรับคนพวกนี้ไม่คู่ควรให้ฉันถวิลหาเลยจริง ๆ“นังพลอย!
บทที่ 46คนเดียวในใจ........................................“ (^_^) ”ใบหน้าหล่อของเวคินเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มในขณะที่กำลังขับรถเข้ามาในสนามบิน การมีอยู่ของพริ้งพลอยนั้นเพียงพอทำให้เขาสุขใจได้แล้ว แต่ทว่าใบหน้าที่เปื้อนยิ้มกลับคงอยู่ได้ไม่นาน เมื่อหางตาดันไปเหลือบเห็นบางเข้า“จิ๊!” เวคินจิ๊ปากออกมาด้วยท่าทางหงุดหงิด เมื่อเห็นว่าบุคคลเจ้าปัญหากำลังยืนออกันอยู่ที่ลานจอดรถ ซึ่งคนเหล่านั้นก็คือ พ่อกับแม่ของพริ้งพลอย ส่วนอีกคนก็คือน้องสาวฝาแฝดของพริ้งพลอยนั่นเอง“เงินก็โอนให้แล้วมาทำอะไรกันอีก”เอี๊ยด!รถหรูจอดลงตรงหน้าของคนทั้งสาม ก่อนที่เวคินจะลดกระจกลงจ้องมองทั้งสามคนด้วยสายตาคมกริบบ่งบอกว่ากำลังไม่พอใจมาก ๆ“มาทำอะไรที่นี่ครับ” เวคินเอ่ยเสียงเข้ม ตอนนี้ใจเขารู้สึกร้อนรนเล็กน้อยเพราะกลัวพริ้งพลอยจะเห็นคนทั้งสาม“คือพวกเรามีเรื่องจะรบกวนคุณสักหน่อยน่ะค่ะ (^_^) ” หญิงวัยกลางคนเอ่ย เธอยิ้มให้เวคินด้วยท่าทางไม่รู้ร้อนรู้หนาว ก่อนจะดึงแขนลูกสาวของตัวเองมายืนข้าง ๆ และทำการแนะนำเสร็จสรรพ“นี่ลูกแพรวค่ะ พอดีน้องกำลังหาที่ฝึกงานอยู่ เลยอยากจะถามว่าคุณสามารถรับน้องแพรวเข้าฝึกงานที่นี่ได้ไหมคะ” หญ
บทที่ 45คนเห็นแก่ตัว........................................“ตั้งใจทำงานนะครับ (^_^) ”พี่คินเอ่ยบอกฉันเสียงหวาน โดยที่มือของเขาก็ยกขึ้นขยี้ผมของฉันไปด้วยท่าทางเอ็นดู“หยุดขยี้ผมพลอยได้แล้วค่ะ มันยุ่งหมดแล้วเนี่ย”ฉันอ้อมแอ้มเอ่ย ไม่ใช่ว่าไม่ชอบที่เขาทำแบบนี้หรอกนะ แต่ว่ามันเขินต่างหาก ตอนนี้หน้าของฉันมันร้อนไปหมดแล้ว ยิ่งพี่คินทำตัวอ่อนโยนใส่ หัวใจของฉันก็ยิ่งเต้นแรง แต่ที่เป็นแบบนี้จะโทษว่าฉันใจง่ายไม่ได้นะ ก็ใครใช้ให้ผู้ชายคนนี้หน้าตาดีเกินไป อ่อนโยน และ ทะนุถนอมฉันเกินไปกันล่ะ จะโทษก็ต้องโทษพี่คินนั่นแหละ ทุกอย่างมันเป็นเพราะเขาคนเดียวเลย (-///////-)“วันนี้พี่ไปทำงานข้างนอก พลอยอยู่นี่ก็เป็นเด็กดีนะครับ”“ห้ามดื้อ ห้ามซน ห้ามมอง หรือ ไปใกล้ชิดผู้ชายคนอื่นรู้ไหม”“ทำเหมือนพลอยเป็นเด็ก ๆ ไปได้” ฉันเอียงแก้มหนีริมฝีปากพี่คินที่กำลังซุกไซ้อยู่เล็กน้อยด้วยความเขินอาย ทำไมเขาถึงขยันทำให้ฉันใจสั่นจริง ๆ เลยเนี่ย“ที่พี่ทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะเห็นพลอยเป็นเด็กสักหน่อย”“แต่ที่ทำแบบนี้เพราะพี่รักต่างหาก”ตึกตัก ตึกตักสิ้นคำบอกรักแสนหวานของพี่คิน หัวใจของฉันก็พลันสั่นระรัวขึ้นมาอีกครั้ง“พี
บทที่ 44อ่อนใจ หรือ ใจอ่อน........................................สวบ สาบจุ้บ ๆ จุ้บ“พะ พี่คิน.....หยุดได้แล้ว”ฉันเอ่ยในขณะพยายามใช้มือดันหน้าอกของพี่คินที่เอาแต่โถมตัวเข้าใส่และซุกไซ้ซอกคอฉันไม่หยุด ตอนนี้เราอยู่กันบนเตียงของฉัน เนื่องจากไม่ว่าอย่างไรฉันก็ไม่ยอมตามเขาขึ้นรถไปที่คอนโด เพราะอย่างนั้นคนหน้ามึนจึงถือวิสาสะจะเข้ามาในห้องฉันให้ได้ และ หลังจากเข้ามาในห้องเขาก็ผลักฉันล้มลงบนเตียงทันที“ไม้เบสบอลพี่อยู่ไหนนะ (^_^) ”“พี่คิน!” ฉันขมวดคิ้วใส่พี่คินทันทีเมื่อเขาเอาแต่ข่มขู่ฉันไม่เลิก“อย่ามาโมโหใส่พี่เพราะคนอื่นนะพริ้งพลอย”“อะไรพี่ก็ยอมได้ ยกเว้นเรื่องนี้เท่านั้นที่พี่ไม่ยอม”“สำหรับพลอยที่หนึ่งต้องเป็นพี่เท่านั้น” พี่คินเอ่ยเสียงเรียบแต่ทว่ากลับแฝงไปด้วยความกดดัน“....................”ความกดดันของพี่คินทำเอาฉันได้แต่นิ่งพูดอะไรไม่ออกแผล็บ!“อื้ออ”“เข้าใจไหม” พี่คินเลียแก้มของฉัน ก่อนจะเอ่ยขึ้นเสียงเข้มราวกับจะเร่งเร้าให้ฉันตอบ“ถ้ายังไม่เข้าใจละก็.....”“พะ เพชรเขาไม่ได้ชอบผู้หญิงค่ะ (>_”ฉันรีบเอ่ยเมื่อเห็นว่าพี่คินเหลือบมองไปที่ไม้เบสบอลที่วางอยู่บนพื้นห้อง ให้ตา







