ชายหนุ่มคนดังกล่าวไม่ได้เอ่ยอะไร เขาหยุดนิ่งๆ เพื่อให้วันเมษาขยับตัวก่อน จะได้เลี่ยงไปคนละทางกับเธอ
“ขอบคุณ” คนที่พึ่งอกหักเอ่ยขอบคุณทั้งๆ ที่ยังคงก้มหน้าอยู่ ก่อนจะก้าวไปยังประตูห้องน้ำตรงหน้า และความที่ชุลมุนกันอยู่นานสองนาน ทำให้วันเมษาไม่ได้เงยหน้าขึ้นมองป้ายห้องน้ำให้ดี “คุณ! เดี๋ยว” เสียงของชายหนุ่มคนดังกล่าวเอ่ยทักขึ้น แต่ไม่ทันเสียแล้ว เพราะว่าตอนนี้วันเมษามายืนซึมกะทือ ก้มหน้าก้มตามองอ่างล้างมืออยู่หน้ากระจกบานใหญ่ในห้องน้ำชายที่เธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นห้องน้ำหญิงเรียบร้อย ส่วนผู้ชายที่กำลังยืนปัสสาวะอยู่ด้านหลัง ด้านข้างก็ต่างพากันยืนสงบนิ่ง ราวกับกำลังยืนเคารพธงชาติก็ไม่ปาน นั่นเพราะตอนนี้มีสุภาพสตรีผู้ไม่ได้รับเชิญยืนอยู่นั่นเอง ธาวิน คือคนที่เอ่ยเรียกวันเมษาเมื่อครู่ แทนที่ชายหนุ่มจะเข้าไปตามเธอให้ออกมาจากห้องน้ำชาย แต่กลับยืนอมยิ้ม กอดอกรออยู่หน้าห้องน้ำเสียเฉยๆ ซะอย่างนั้น รู้สึกสนุกที่ได้แกล้งเธอเล่น รวมทั้งอยากเห็นหน้าของเธอเมื่อรู้ว่าเข้าห้องน้ำผิด จะเป็นยังไง ตอนนี้ภายในห้องน้ำชายดูจะเงียบผิดปรกติ กระทั่งเสียงของชายคนหนึ่งดังขึ้น เพราะเขาทนยืนนิ่งๆ ต่อไปไม่ไหวแล้วนั่นเอง “คุณๆ…นี่มันห้องน้ำชาย คุณเข้ามาได้ยังไง” เสียงนั่นทำให้วันเมษาเงยหน้าขึ้นมองรอบๆ ตัวเอง ก่อนจะส่งยิ้มแห้งๆ ให้คนในห้องน้ำ “อ้าวเหรอ ขอโทษทีนะคะ พอดีฉันไม่ได้มองป้าย” วันเมษาไม่ได้สะทกสะท้านกับการเดินเข้าห้องน้ำผิดแต่อย่างใด แม้จะเห็นก้นหรืออะไรต่อมิอะไรของบุรุษที่สะท้อนอยู่บนกระจกก็ตามที ก่อนจะเดินออกไปด้วยท่าทางเซ็งๆ เช่นเดิม “เข้าไปทำหน้ายังไง ออกมาก็ยังทำหน้าเดิมซะอย่างนั้น” ท่าทางของเธอทำให้ธาวินพลอยเซ็งไปด้วยอีกคน ก่อนจะเดินกลับไปยังโต๊ะอาหารที่ตอนนี้มีเพื่อนๆ รออยู่สองคน ปล่อยให้วันเมษายืนก้มหน้าก้มตามองพื้น สลับถอนหายใจเฮือกๆ พร้อมกับบ่นประโยคเดิมว่า ‘ไม่ใช่สเปค’ ต่อไป วันเมษาแทบไม่อยากกลับไปที่โต๊ะ แต่เพราะตอนที่ลุกมานั้นไม่ได้หยิบกระเป๋ามาด้วย ทำให้เธอต้องปั้นหน้าให้เหมือนกับไม่ได้รู้สึกอะไร ทั้งๆ ที่ใจนั้นรู้สึกเหมือนถูกฉีก ก่อนจะก้าวยาวๆ กลับไปยังโต๊ะที่ตอนนี้ปรวีณ์คงนั่งรออยู่อีกครั้ง แต่เดินยังไม่ถึงโต๊ะ เท้าของเธอก็หยุดชะงักเสียแล้ว เพราะสายตามองเห็นภาพของปรวีณ์กำลังนั่งคลอเคลียกับหญิงสาวคนหนึ่งเข้า มองยังไงผู้หญิงคนนั้นก็สวยและหุ่นดีกว่าเธอเป็นไหนๆ โดยเฉพาะหน้าอกที่แสนจะดูมๆ ของเจ้าหล่อน แต่พอเห็นหน้า วันเมษาก็แทบยืนไม่อยู่ เพราะผู้หญิงคนนี้ ต่อให้จะฉีดโบท็อกซ์ เหลาคาง ทำวีเชฟ เสริมดั้ง หรือกินกลูต้ามาทั้งโรงงานจนตัวแทบจะเรืองแสงได้ในที่มืด เธอก็จำได้ดี โดยเฉพาะหน้าอกหน้าใจที่ดูมๆ จนได้รับฉายาในวงการนางแบบว่า แม่สาวหน้าอกภูเขาไฟ ที่มีสัดส่วนขยี้ใจชาย 40-25-35 แถมตอนนี้ยังมีดีกรีเป็นถึงนางแบบชุดชั้นในที่กำลังมาแรงที่สุดคนหนึ่งของวงการ “เอวา” วันเมษาเอ่ยชื่อเพื่อนร่วมรุ่นมหาวิทยาลัยของเธอ ต่อให้รูปร่างหน้าตาจะเปลี่ยนไปยังไง แต่มันคงเปลี่ยนนิสัยของคนไม่ได้ เอวาคอยแต่จะเป็นไม้เบื่อไม้เมากับเธอมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งวันเมษาก็ไม่รู้เหตุผลว่าเพราะอะไรเอวาถึงต้องทำแบบนั้นด้วย โดยเฉพาะการที่อยู่ๆ ก็เห็นเอวากับปรวีณ์แทบจะสิงกันอยู่อย่างเมื่อครู่ ก็ยิ่งไม่เข้าใจ “ขอโทษนะคะที่ต้องเข้ามาขัดจังหวะ” น้ำเสียงตึงๆ เอ่ยขึ้น พร้อมกับสีหน้านิ่งๆ แต่ทว่าภายในคือพายุลูกขนาดย่อมที่กำลังก่อตัว “ษา!” ปรวีณ์แทบจะผลักคนบนตักให้ออกห่าง แต่เอวากลับคล้องคอชายหนุ่มไว้แน่น ก่อนจะทำท่าทางตกอกตกใจ “อุ๊ย!” “นี่ใช่ไหมคะ เหตุผลที่บอกว่าษาไม่ใช่สเปคของพี่วีณ์” คำพูดนี้ของวันเมษา รวมทั้งท่าทางเสียอกเสียใจคล้ายจะร้องไห้ที่ได้เห็น ทำให้เอวาสะใจมาก น้ำเสียงและประโยคคุ้นหูนี้ ทำให้ธาวินที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปหันไปมองมายังต้นเสียง ก่อนจะเห็นว่าใครกันที่เป็นคนพูด รวมถึงเห็นเหตุการณ์ศึกสามเศร้า เราสามคน “ใช่…พี่วีณ์ของฉันเขาชอบความดูม ไม่ใช่แบนเป็นไม้กระดานแบบเธอ” เอวาจงใจก้มมองหน้าอกตัวเองที่มันล้นชุดเกาะอกของเธออย่างน่าอิจฉา ก่อนจะมองมายังหน้าอกของวันเมษาด้วยสีหน้าและแววตาเย้ยหยัน “หึ๋ย ยัยนมโต เป็นผีขอส่วนบุญหรือไง ถึงตามเธอไม่เลิกราแบบนี้” ประโยคนี้วันเมษาได้แต่เอ่ยอยู่ในใจเท่านั้น “ษา คือว่าพี่” ปรวีณ์ดูจะอึกอักอยู่ในที เพราะเขาไม่อยากให้วันเมษามาเห็นภาพเมื่อครู่สักเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่อาจขัดใจคนรักใหม่อย่างเอวาได้ “ษาเข้าใจแล้วค่ะ ขอให้พี่วีณ์มีความสุขกับรักที่พี่ได้เลือกแล้วนะคะ”วันเมษาจงใจเน้นคำว่าเลือก เมื่อพูดจบก็คว้ากระเป๋า ก่อนจะเดินกลับออกไปจากร้านอย่างรวดเร็ว แต่พอนึกขึ้นได้ว่าลืมอะไรอีกอย่าง ก็จำต้องกลับมาโต๊ะตัวเดิมอีกครั้ง ทั้งๆ ที่อยากโยนลงถังขยะใจจะขาด “อ้าว! กลับมาอีกทำไมจ๊ะ หรือว่าลืมอะไร” ประโยคที่ได้ยินทำเอาวันเมษาอยากกระโดดข่วนหน้าเอวาเสียจริง แต่ก็ยังเก็บอาการไว้ “พุทโธ ธัมโม สังโฆ ท่องไว้ยัยษา ท่องไว้” แต่ที่ทำให้ความอดทนของวันเมษาชักจะลดลงจนเกือบขาดสะบั้น นั่นคือฉากที่เอวาจงใจคว้าปรวีณ์มาจูบอย่างดูดดื่ม ลิ้นแลกลิ้นต่อหน้าต่อตาเธออยู่ตอนนี้ต่างหาก “อืม ปากพี่วีณ์ทำไมหวานแบบนี้นะ” คำพูดของเอวาทำเอาวันเมษาหน้าแดง เพราะอายแทนเอวาที่กล้าทำตัวก๋ากั่นแบบนี้ ส่วนปรวีณ์ก็นั่งเคลิ้มกับจูบจนไม่พูดไม่จาอะไรทั้งนั้น หึ๋ย! ผู้ชายแบบนี้เธอหลงชอบมาตั้งหลายปีได้ยังไง เสียเวลา วันเมษารีบวางเสื้อสูทของปรวีณ์ไว้บนพนักเก้าอี้ แล้วหมุนตัวกลับออกไป จังหวะนั้นเอวาก็ไม่วายที่จะเอ่ยตามหลัง “กลับบ้านดีๆ นะจ๊ะษา” แต่นั่นกลับไม่ได้ทำให้วันเมษารู้สึกดีขึ้นมาได้เอวายักไหล่ให้เพื่อนร่วมรุ่นที่เธอแสนจะชัง ความรู้สึกนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันเมษาได้รับเลือกให้เป็นดาวคณะแทนที่จะเป็นเธอ น้องใหม่ของคณะที่ใครต่อใครก็ต่างชื่นชมในความน่ารัก แค่ผิวจะคล้ำๆ หน่อย หน้าไม่ได้สวยเป็นวีเชฟอย่างตอนนี้ก็เท่านั้น แต่คนอย่างเธอกลับต้องมาแพ้ให้ผู้หญิงหน้าตาบ้านๆ ที่มองยังไงก็หาความสวยไม่พบสักนิด ตัวก็เตี้ยกว่าเธอเป็นไหนๆ จะมีดีหน่อยก็ตรงที่วันเมษาขาว ดูเป็นคุณหนูผู้อ่อนแอ ยิ่งคิดย้อนกลับไปก็ยิ่งเจ็บใจ เพราะเธอเคยถูกคนรักหักหลัง ด้วยการปันใจไปให้วันเมษา คู่อริหมายเลขหนึ่ง “ไปตายซะ” นี่คือประโยคที่เธอบอกกับอดีตคนเคยรักในวันที่ถูกเขาหักอก และยิ่งเจ็บใจเมื่อเห็นเขาเอาดอกไม้ช่อโตไปมอบให้วันเมษา ทั้งๆ ที่ตอนเช้าพึ่งจะบอกเลิกกับเธอไปหยกๆ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เอวาเริ่มพัฒนาตัวเองเพื่อให้สวยทุกวิถีทาง แต่ก่อนจะสวยได้ดั่งใจ เธอก็ถูกปฏิเสธความรักจากชายที่หมายปองอยู่เรื่อยมา โดยเหตุผลเดิมๆ นั่นคือพวกเขากำลังหลงรักสาวร่างเล็ก บอบบางน่าทะนุถนอมอย่างวันเมษามากกว่าเธอ เมื่อหมั่นไส้หนักเข้า เอวาจึงกุเรื่องว่าวันเมษาเป็นดี้ พวกผู้ชายตาต่ำเหล่านั้นถึงได้เปลี่ยนใจ ถอยห่างไปทีละคนสองคน แต่เอวาคนเก่าได้ตายไปแล้ว ตอนนี้เธอสวยและมีเสน่ห์ไม่เป็นสองรองใคร เธอเลือกได้ว่าจะคบหรือจะทิ้งใคร “ที่นี่หนาวจังเลยค่ะพี่วีณ์ กอดเอวาแน่นๆ หน่อยสิคะ” น้ำเสียงออดอ้อนที่ฟังดูน่าหมั่นไส้ดังขึ้น ซึ่งดังพอจนวันเมษาได้ยิน เธอกำหมัดแน่นแล้วรีบจ้ำออกไปจากร้าน เอวาหย่อนตัวลงนั่งบนตักของปรวีณ์ ชายหนุ่มที่เธอใช้มารยาล่อหลอก ให้เขามาตกหลุมรักจนบอกเลิกกับวันเมษาได้สำเร็จ ทุกอย่างที่เป็นของวันเมษา หากเธอแย่งชิงมาได้เธอก็จะทำ เพื่อสนองความสะใจของตัวเอง“หยุดทำไมครับพี่ษา” วันเมษาไม่ตอบอะไร แต่กลับวกขึ้นมาจูบธาวินใหม่อีกครั้ง พร้อมกับใช้มือเล็กๆ รั้งกางเกงบ็อกเซอร์ให้ออกไปจากร่างกายชายหนุ่ม โดยที่ธาวินนั้นคอยยกสะโพกขึ้นสูงช่วยอีกแรงเมื่อวันเมษาถอนจูบออก เธอก็ไล้กึ่งปากกึ่งจมูกลงต่ำไปเรื่อยๆ กระทั่งถึงจุดที่ทำเอาธาวินแทบจะกลั้นหายใจ ก่อนที่เขาจะสะดุ้งวาบเมื่อรับรู้ได้ว่าตอนนี้วันเมษากำลังสัมผัสแกนกายเขาด้วยริมฝีปากอุ่นใบหน้าของธาวินเหยเก ทรมานอย่างถึงที่สุด แต่เป็นความทรมานที่เขาแสนจะชื่นชอบและรอคอย สำหรับวันเมษาแม้จะเธอจะเป็นมือใหม่หัดดูดไอศกรีม แต่สัมผัสจากเธอก็ไม่ทำให้ธาวินผิดหวัง ยิ่งเธอเร่งจังหวะก็ยิ่งทำให้เขาทรมานจนต้องบอกให้หยุดก่อน“ขืนทำแบบนี้ เดี๋ยวผมก็ถึงหรอกครับพี่ษา” ทั้งคู่สบตากันและกัน แววตาที่เต็มไปด้วยความเสน่หาก่อนที่ธาวินจะกลับมาเป็นฝ่ายคุมเกม เขาจัดการถอดบิกินี่ตัวน้อยให้ออกไปจากร่างกายของคนรัก แล้วแทรกตัวเข้าหา บดเบียดความแข็งขืนที่ตื่นตัวเต็มที่เข้ากับกุหลาบดอกงามที่ตรงกึ่งกลางนั้นเต็มไปด้วยหยาดน้ำหวาน ไม่ว่า
วันเมษานั่งอยู่บนเตียง ตรงหน้าเธอคือคนรักหนุ่มที่มีท่าทีอายๆ อยู่เล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเปิดเพลงช่วยธาวินบิวต์อารมณ์อีกแรง เมื่อจังหวะเพลงขึ้น ธาวินก็เริ่มขยับร่างกาย พร้อมกับค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากตัว เริ่มจากเสื้อเชิ้ตก่อนแค่ได้เห็นหน้าอกขาวๆ ซิกซ์แพ็กลอนสวยๆ ของเขาทำเอาวันเมษาแทบกำเดาพุ่ง แต่ก็ยังคงเก็บอาการไว้ ทั้งๆ ที่ใจนั้นเต้นไม่เป็นส่ำ สั่งตัวเองให้ยุบหนอ พองหนอ อดใจไว้หนอ ก่อนจะตาลุกวาวเมื่อเห็นว่าตอนนี้ธาวินกำลังปลดเข็มขัดและรั้งกางเกงลงไปกองไว้ที่ข้อเท้า“กำเดาจ๋า อย่าพึ่งไหลออกมาตอนนี้นะ อย่าพึ่ง” วันเมษาเอ่ยสั่งตัวเอง เพราะแม้จะเคยมีอะไรๆ กับธาวินแล้ว แต่เธอไม่เคยเห็นเขาในลักษณะยั่วยวนมากขนาดนี้ พึ่งรู้ว่าผู้ชายก็ยั่วเป็น ดูๆ สะโพกกลมๆ เนื้อแน่นๆ ที่หันมาหาน่าตบจริง“โอ๊ย! ยุบหนอ พองหนอ ใจเย็นไว้หนอ ไม่ปล้ำหนอ” นี่คือบทที่วันเมษาท่องอยู่ในใจ แต่ท่าทางของเธอก็ยิ่งทำให้ธาวินยิ้ม ก่อนจะเต้นยั่วเธออย่างจงใจ ตอนนี้บนตัวเขามีเพียงกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวและอีกไม่กี่อึดใจเขาจะถอดมันออก แต่พอเห
“ใช่ครับ ผมสาบานได้เลยนะว่าไม่ได้เป็นเกย์ ถ้าเป็นขอให้น้องชายเหี่ยว ใช้งานไม่ได้ไปตลอดชีวิตเลยเอา” คำสาบานของธาวินทำเอาคนฟังสะดุ้งเล็กๆ แต่ก็ยังไม่แสดงออกอะไรมาก“หรือถ้าไม่เชื่อ ผมต่อสายให้พี่ษาคุยกับแอดดี้ตอนนี้เลยยังได้” ยังไม่ทันที่ธาวินจะได้หยิบโทรศัพท์มาต่อสายหาแอดดี้ เสียงโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้นเสียก่อน คนที่โทรเข้ามาคือเจ้าของปาร์ตี้สละโสดคืนนี้ธาวินหยิบโทรศัพท์มากดรับสาย ก่อนจะยื่นให้วันเมษาได้คุย เธอดูลังเลแต่ก็ยอมรับสาย ก่อนที่แอดดี้จะอธิบายให้ฟังว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ก่อนที่แอดดี้จะวางสายไปเมื่อได้ฟัง วันเมษาก็คิดตาม สรุปนี่เธอเชื่อความฝันจนทะเลาะกับธาวินเสียใหญ่โต บ้านแทบแตก เธอนี่งี่เง่า ไร้เหตุผล หวังว่าธาวินจะไม่โกรธเธอหรอกนะ“แล้วทำไมถึงไม่ยอมบอกษา ว่าไปปาร์ตี้ที่บาร์เกย์ด้วย” น้ำเสียงที่เอ่ยถามนั้น ไม่ได้ฟังดูห้วนอย่างครั้งแรก พลอยทำให้ธาวินใจชื้นขึ้นมาได้มากโข“ผมเองก็พึ่งรู้ตอนไปถึงว่าที่นั่นเป็นบาร์เฉพาะชาวสีม่วง” สี
“ครับ…ผมจะรีบเข้าไปเดี๋ยวนี้” เอ่ยจบก็รีบวางสายแล้วรีบขับรถไปที่บ้านเฟื่องรัตน์ทันทีแต่ขณะนั้นสายของธาวินก็ต้องสะดุ้ง เมื่อวันเมษาเข้ามาได้ยินบทสนทนาเข้า เธอจ้องมองเพื่อนทั้งสองคนเขม็ง“อย่ามองแบบนั้นสิษา น่ากลัว” เฟื่องรัตน์ส่งยิ้มแห้งๆ มายังวันเมษา แต่คนตรงหน้ากลับมีแต่ความบึ้งตึง“ไหนแกสองคนสัญญากับฉันแล้วไง ว่าจะไม่บอกอีตาพี่วิน”“ก็ฉันไม่อยากให้แกเข้าใจหมอผิด หมอไม่ได้เป็นเกย์นะแก” เก๋ไก๋เอ่ยขึ้น“แกรู้ได้ไง”“ก็ตอนที่แกวิ่งปรู๊ดออกมาเรียกแท็กซี่น่ะ ฉันกับเฟื่องเข้าไปถามคนในห้องมาว่าอะไรยังไง”“ฉันไม่เชื่อ คนพวกนั้นก็คงรวมหัวกันหลอก สนุกมากสินะที่หลอกให้ฉันรักได้แบบนี้ ป่านนี้คงเอาไปคุยจนสนุกปากว่าฉันใจง่าย”“แกก็คิดมากไปษา คนที่น่าจะรู้ว่าหมอวินใช่เกย์ไหม น่าจะคือแกนะ” เฟื่องรัตน์เอ่ยสีหน้าซีเรียส“ไม่รู้ ตอนนี้ฉั
“สแกนมาดีแล้วพลาด หมายความว่ายังไงแก สรุปหมอวินเป็นเสือไบจริงๆ น่ะเหรอ” วันเมษาอ้าปากค้าง สรุปฝันเธอมันกลายมาเป็นเรื่องจริงใช่ไหม“เป็นไม่เป็น เดี๋ยวเห็นแกก็รู้”“ไป ลุย” เฟื่องรัตน์เอ่ยเสียงดัง ราวกับต้องการปลุกใจ แต่วันเมษากลับยกมือขึ้นมาเบรก เพื่อขอเวลานอก“เดี๋ยวๆ ฉันขอทำใจแป๊บนึง” ว่าแล้วก็หยิบกระปุกยาดมอันใหญ่ยักษ์จากกระเป๋าออกมาเปิดฝาก่อนจะสูดดมไปเสียเต็มปอดอยู่หลายครั้ง ก่อนจะพยักหน้าให้สองคนตรงหน้า ว่าเธอพร้อมแล้วทั้งสามจึงก้าวเข้าไปยังบาร์ตรงหน้า แม้ที่นี่จะเปิดให้บริการหนุ่มๆ ที่มีรสนิยมชอบไม้ป่าเดียวกันหรือได้ทั้งรุกและรับ แต่ก็ไม่รังเกียจหากชายแท้หรือสาวแท้จะเข้ามาใช้บริการ เพราะมีการแยกโซนไว้อย่างชัดเจนสายตาสามคู่สอดส่องมองหาเป้าหมาย แต่กลับไม่พบธาวิน เมื่อโต๊ะด้านนอกไม่เห็น ก็คงต้องตามหากันตามห้องวีไอพีแทน ไล่มาตั้งแต่วีไอพีหนึ่งถึงสิบ แต่ก็ยังหาตัวชายหนุ่มไม่พบ“แกไน่ใจนะเฟื่อง ว่าหมอวินมาที่นี่” เก๋ไก๋ยืนพ
“ผมขอโทษนะครับ ที่ไม่สามารถพาพี่ษาไปที่ที่มันโรแมนติกกว่าชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาล”“ไม่เป็นไรค่ะ ที่ไหนก็ไม่สำคัญถ้าไม่มีพี่วินอยู่ด้วย”“ไว้ผมจะชดเชยให้ทีหลังนะครับ”“ค่ะ” วันเมษายิ้มเขินนาฬิกาจอยักษ์ของห้างสรรพสินค้าชื่อดัง โชว์เวลาอยู่ไกลๆ เสียงนับถอยหลังดังผ่านลำโพงขนาดใหญ่ให้ได้ยินแว่วๆ แต่ก็พอจะจับใจความได้ กระทั่งเสียงห้า สี่ สาม สองและหนึ่งดังขึ้น ตามด้วยเสียงพลุที่พร้อมใจกันจุดขึ้นบนท้องฟ้ายามค่ำคืนอย่างสวยงามตระการตาแต่วันเมษามีเวลาได้ชื่นชมความสวยงามของพลุ ได้เพียงแค่ไม่กี่วินาทีเท่านั้น เพราะตอนนี้เธอกำลังหลับตาพริ้มรับจูบที่แสนอ่อนหวานจากธาวิน ในที่สุดจูบที่เธอปรารถนาในคืนเคาท์ดาวน์ก็เป็นจริง“สวัสดีปีใหม่ครับพี่ษา”“สวัสดีปีใหม่ค่ะพี่วิน” ทั้งคู่ยิ้มให้กัน ก่อนที่ธาวินจะโน้มตัวลงมาจูบวันเมษาอีกครั้งซึ่งเธอก็เขย่งปลายเท้าจูบเขากลับไปเช่นเดียวกัน จูบจากความรักจึงแสนหอมหวานแล