จินนี่ ดาราสาวสุดฮอดในขณะนี้ที่ใครๆ ต่างกล่าวขวัญถึงความสวยงามและดีกรีนักเรียนนอกนั้นกำลังเป็นที่จับตามองว่าเธอเป็นดาราหน้าใหม่ที่มาแรงของค่ายสถานีโทรทัศน์ชื่อดัง
เมื่อฟังบุตรสาวเล่าเรื่องชายหนุ่มผู้หล่อเหลาซ้ำยังเป็นมหาเศรษฐีระดับโลกอย่างธามแล้ว สองแม่ลูกต่างนั่งเพ้อฝันเฟื่องถึงวันที่จะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลธอมป์สัน และชีวิตความเป็นอยู่ของพวกตนจะต้องเริดหรูอลังการจนใครๆ ก็ต้องอิจฉา...
“แม่ว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปหาเขาด้วยแผนไหนดีแม่ เขาหล่อล่ำถูกใจฉันมากเลย ฉันจะเอาเขามาเป็นผัวให้ได้เลยคอยดูสิ” เมื่ออยู่กันสองคนแม่ลูก จินนี่กับนางจันวิภาต่างก็เผยตัวตนที่แท้จริงออกมา จินนี่เดินไปนั่งไขว้ห้างด้วยท่าทางรานางพญาผู้เย่อหยิ่งซึ่งผู้เป็นแม่ก็หัวเราะชอบใจ
“ดีมากไงล่ะลูก เราจะต้องร่ำรวยมหาศาลแน่ๆ คิดดูสิ คุณธามเขาร่ำรวยขนาดนั้นหากแม่ได้เขามาเป็นเขย โอย ไม่อยากจะคิด แม่จะเอาเงินไปฟาดหัวอีพวกที่มันเคยดูถูกเราให้หัวแตกเลยคอยดู...”
“เราซื้อรถใหม่กันเถอะแม่ คันนี้มันเก่าแล้วเอาไปเทรินกับเพื่อนของแม่ซิ แล้วถอยคันใหม่ออกมาเอาที่ราคาแพงๆ ให้สมกับที่ฉันเป็นนางเอกดังนะแม่จะได้ไม่อายเวลาไปหาคุณธามเขา” จินนี่สั่งมารดาเสียงเข้มใบหน้าเริ่มกร้าวขึ้นมา
“อะไรกันลูก เราเพิ่งเปลี่ยนมาใช้คันนี้ยังไม่ถึงสามเดือนเลยนะ”
“อยากเป็นไฮโซเราก็ต้องเปลี่ยนรถบ่อยๆ สิแม่ อีกอย่างพวกที่คอยตามทวงหนี้มันจะได้จำเราไม่ได้ไง ที่สำคัญฉันเป็นนางเอกดังจะใช้รถคันเก่านานๆ ได้ยังไงกัน อายเขาแย่ แล้วเนี่ยกระเป๋าถือก็ต้องเปลี่ยน ฉันเห็นนังน้ำผึ้งนางเอกอีกช่องมันถือกระเป๋าใบละแสนฉันล่ะหมั่นไส้มัน มันคอยทำตัวแข่งกับฉันทุกเรื่องเลยเชียว...” หญิงสาวเบ้หน้าอย่างหงุดหงิดเมื่อพูดถึงนางเอกคู่แข่งพลางโยนกระเป๋าหนังที่เธอซื้อต่อจากเพื่อนมาด้วยราคาหลายหมื่นแต่บอกใครๆ ว่าตนซื้อมาใหม่ราคาหลักแสน
“จ้ะๆ ลูก แล้วแม่จะคุยกับเสี่ยวิทิตให้นะจ๊ะ เอาเป็นว่าลูกแม่นอนได้แล้วล่ะเดี๋ยวหน้าจะไม่สวย พรุ่งนี้มีถ่ายละครตอนเช้านะ...”
“ฉันล่ะเบื่อ อีเจ๊ใหม่ เมียไอ้ เสี่ยอานนท์ จังเลยแม่ นี่ขนาดว่าผัวมันตายแล้วแทนที่มันจะเพลาๆ ความเรื่องมากลงบ้าง นี่กลายเป็นว่ามันเยอะทุกเรื่อง นี่หากว่าฉันไม่ติดสัญญากับมันอยู่นะ ฉันไปช่องอื่นแล้วไม่อยู่ดักดานให้มันโขลกสับแบบนี้หรอกโอ๊ย เบื่อๆๆ” นางเอกสาวหน้างอหงุดหงิดเมื่อนึกถึงภรรยาเสี่ยเจ้าของสถานีโทรทัศน์ชื่อดังที่เธอสังกัดอยู่ ซึ่งเสี่ยอานนท์เสียชีวิตไปแล้วเมื่อปลายปีที่แล้ว นางเอกสาวกรีดร้องด้วยความพลุ่งพล่านที่ไม่ได้ดังใจก่อนจะเดินลงส้นเท้าเข้าห้องน้ำแล้วปิดประตูดังสนั่น...
“มาทำไม...” พิมพ์ภัสสรถามอย่างไม่มองหน้าหญิงสาวที่แจ้งกับประชาสัมพันธ์ของสตูดิโอว่ามาพบเธอ
“เมื่อวันก่อนเธอเป็นพริตตี้ในงานของเสี่ยมงคล”
“แล้วไง... ฉันก็ไม่เห็นว่ามันเกี่ยวอะไรกับเธอนี่”
“ก็ไม่เกี่ยวกับฉันโดยตรงหากคนที่ฉันรักไม่มาดูเธอโชว์แก้ผ้าอาบน้ำให้ผู้ชายเป็นร้อยๆ คนดู...” น้ำเสียงหมิ่นแคลนของคนที่เธอไม่ชอบหน้าทำให้พิมพ์ภัสสรหันมาเผชิญหน้ากับแทนฤทัยด้วยแววตากร้าว
“หึ ที่มาขอพบฉันนี่แค่จะมาเห่าแค่นี้เหรอ ขอโทษนะ ฉันมีงานต้องทำเยอะแยะไม่ว่างฟังหมาเศรษฐีเห่าหอนอะไรที่ไร้สาระหรอกนะ...”
“นี่เธออย่าจองหองให้มันมากนักนะ หากเทียบกันแล้วเธอกับฉันมันคนละชั้นกัน...” แทนฤทัยกัดฟันพูดเลยทีเดียวเมื่อเจอสายตาเหยียดหยันอย่างที่เธอชอบมองคนอื่นตอกกลับมา
“ถ้าฉันอยู่คนละชั้นกับเธอจริงๆ เธอจะมาหาฉันทำไมล่ะจ๊ะ มีอะไรพูดมาตรงๆ ดีกว่า”
“ฉันมีงานจะเสนอ...”
“หึ ฉันไม่รับงานจากเธอหรอก กลับไปซะ...”
“ฉันรู้ว่าเธอมีฝาแฝด...”
คำพูดของแทนฤทัยทำให้เท้าบางที่กำลังจะเดินจากไปหยุดกึกพิมพ์ภัสสรหันมาเผชิญหน้ากับแทนฤทัยช้าๆ ประกายตาของเธอกร้าวจนแทนฤทัยเองก็นึกหวั่นอยู่ไม่น้อย แต่ก็แสร้งทำทีขึงขังกลบเกลื่อน
“กลับไปซะก่อนที่ฉันตบเธอกระเด็น สาบานเลยว่าฉันทำได้”
“อยากเป็นเมียน้อยเสี่ยวิทิตก็ตามใจนะ... แต่หากเปลี่ยนใจรับทำงานงานหนึ่งให้ฉัน เธอจะไม่ต้องเป็นเมียน้อยใครแถมยังอยู่สบายไปเป็นชาติๆ” พูดจบแทนฤทัยก็โยนนามบัตรใส่หน้าพิมพ์ภัสสรก่อนจะก้าวออกไปอย่างสบายใจ
แทนฤทัยเดินออกไปแล้วแต่พิมพ์ภัสสรยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความเจ็บปวด ดวงตากลมโตหลุบมองกระดาษแผ่นเล็กที่ร่วงแทบเท้าของตนอย่างรังเกียจผู้เป็นเจ้าของ หญิงสาวยอบกายลงหยิบกระดาษนามบัตรนั้นขึ้นมาแล้วกำมันแน่นจนยับยู่ยี่แหลกคามือด้วยความคับแค้นใจ...
“ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้เธอเด็ดขาด...”
หญิงสาวพูดกับตัวเองด้วยน้ำเสียงเจ็บปวด ดวงตากร้าวหากแต่คลอครองด้วยน้ำใสๆ ที่จวนเจียนจะร่วงรินออกมาเผยความอ่อนแอข้างในใช่ว่าเธอจะต้องการเงินหรอกนะแต่เธอต้องการอย่างอื่นมากกว่า นั่นคือ การแก้แค้น...
“กรี๊ดดด... แม่ ดูสิอีนังน้องสาวของคุณธามนั่นมันกันท่าฉันขนาดไหน ทำอย่างกับว่าเป็นเมียไม่ใช่น้องสาว”
ทางด้านนางเอกสาวที่ได้เจอกับฤทธิ์ของแทนฤทัยซึ่งคอยกันท่าพี่ชายจนเธอไม่สามารถเข้าถึงตัวธามได้ทำให้ต้องกลับมาดีดดิ้นด้วยความเจ็บใจอยู่ที่บ้าน เมื่อเช้านางเอกสาวทำทีว่ามีงานอีเวนต์ที่โรงแรมของธามซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจของครอบครัวเขาเพื่อหาทางดักพบชายหนุ่มแต่สุดท้ายเธอกลับพบกับแทนฤทัยน้องสาวของธามและธามเองก็ไปดูงานที่โรงงานผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ที่ต่างจังหวัด และเมื่อเธอพบกับแทนฤทัยก็ต้องถูกสาวไฮโซด่าเสียๆ หายๆ ทั้งดูถูกเธออย่างไม่ไว้หน้าอีกด้วย...
“มันร้ายกาจจริงๆ นังไฮโซบ้านั่นมันคิดว่ามันรวยมันจะพูดอะไรก็ได้...”
“นั่นสิลูก มันร้ายกาจจริงๆ แม่ล่ะพยาย้ามพยายามจะไม่กราดเข้าไปตบมัน” จันวิภาเสริมคำพูดลูกสาวสุดที่รักด้วยท่าทางคันมือคันไม้ดูจริงจัง
“หึ คอยดูนะ ฉันจะเอาพี่ชายมันมาเป็นผัวให้ได้ ดูสิหากคุณธามเขาเป็นผัวฉันมันจะทำหน้ายังไง”
สองแม่ลูกต่างพูดคุยกันด้วยอารมณ์เดือดพล่านด้วยความเจ็บใจและชิงชังน้องสาวของคนที่ตนหมายใจ...
ตอนที่64. อวสาน“เด็กดื้อต้องโดนลงโทษหนักๆ รู้มั้ย...” ธามหอบกระเส่า“อืม... ก็ไม่รู้สิคะ ก็แล้วแต่ว่าพี่ธามมีแรงแค่ไหน...”หญิงสาวท้าทายสามีที่รักนัยน์ตาปรือปรอยเมื่อเขาก้มลงดูดกลืนยอดอกของตนอย่างเมามันและรุนแรงเร้าร้อนแตกต่างจากที่ลูกสาวน้อยดูดดื่มกินนมจากอก หญิงสาวแต่ครางอย่างยอมแพ้เมื่อทั้งปากและมือเขากำลังโจมตีเธอให้เสียวรัญจวนแทบขาดใจ มือใหญ่แยกเรียวขางามออกกว้างเพื่อแทรกเข้าแนบชิดร่างอิ่มของภรรยาอย่างรนรนเมื่อความร้อนระอุในกระแสเลือดมันเดือดพล่านจนเกินจะทานทนความเย้ายวนแสนหวานของเธอคงจะฆ่าเขาหากเขาไม่ได้เข้าไปอยู่ในกายสาวอุ่นฉ่ำชื้นของภรรยาแสนสวยของตน ธามขยันสะโพกแกร่งเข้าหาร่างนุ่มหยุ่นราวกำมะหยี่เนื้อดีของภรรยาสาวด้วยความเร่าร้อน สร้างความซ่านกระสันรัญจวนให้กับภรรยาจนสุขสมล้นเอ่อพาเธอท่องวิมานสวาทครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หากเจ้าตัวน้อยไม่ส่งเสียงอ้อแอ้ขอน้ำนมอุ่นจากมารดากลางดึกเสียก่อน...“อื้ม พี่ธามพอก่อน น้องธัช หะ หิวแล้ว...” หญิงสาวผลักใบหน้าที่ซุกซบกับอกอวบของตนด้วยน้ำเสียงสั่นพร่าธามยอมเงยหน้าขึ้นโดยดีแล้วหอมแก้มนวลหนักๆ ก่อนจะเดินไปอุ้มลูกน้อยมาห
ตอนที่63.“สวัสดียามเย็นครับคนสวยของพ่อธาม...”ชายหนุ่มเดินไปกึ่งนั่งกึ่งนอนซ้อนหลังภรรยาที่กำลังให้นมลูกแล้วจูบแก้มนวลแรงๆ อย่างมันเขี้ยว แม้จะเจ็ดเดือนแล้วแต่น้องพริมกับน้องธัชยังติดนมแม่ไม่ยอมดื่มนมจากขวดเสียทีจนคนเป็นพ่ออ่อนใจเพราะอยากจะทวง ของรักของหวง คืนจากลูกๆ ตัวน้อยเต็มที... ตอนนี้น้องธัชซึ่งกินนมแม่พร้อมด้วยนมขวดนั้นหลับปุ๋ยไปแล้วอย่างเป็นสุข จะมีก็เพียงน้องพริมเท่านั้นที่ยังอ้อนคุณแม่อยู่กินไม่อิ่มเสียที “อื้อ พี่ธามไปอาบน้ำสิคะมาเหนื่อยๆ อย่ามากวนค่ะ...” หญิงสาวเบี่ยงหน้าหลบเขินๆ สายตาแพรวพราวของสามี แม้จะใกล้ชิดสนิทสนมกันมากี่ครั้งหรือทำมากกว่าหอมแก้มกัน เธอก็ยังขัดเขินอยู่ดียิ่งมีสายตาแป๋วๆ ของลูกน้อยมองมาอย่างไม่พอใจยิ่งทำให้เธอแทบจะผลักใบหน้าหล่อเหลาให้ห่างออกไปเพราะเธอรู้สึกอายลูกอย่างไรไม่รู้“อ้อแอ้ๆๆ บรือออ...”เสียงอ้อแอ้พร้อมทั้งเสียงพ่นน้ำลายและมืออวบๆ ของเด็กหญิงผลักใบหน้าบิดาออกจากอกอวบของมารดาที่ตนครอบครองอยู่ทำให้ธามอยากจะแกล้งลูกสาว จึงก้มลงงับเต้างามเบาๆ หยอกเย้าน้องพริมแต่กลายเป็นว่าเขาร้อนรุ่มขึ้นมาเสียเองเพียงแค่ได้กลิ่นกายหอมๆ อันเป็นกลิ่นธรรมชาติปรา
ตอนที่62.“พี่ธามเข้ามาได้ยังไงคะ” ทำทีเป็นถามเสียงแข็งจนธาม หน้าเสีย พิมพ์ภัสสรนึกขันแกมสงสารเขาอยู่ไม่น้อย“เอ่อ พะ พี่ขอโทษ พี่ไม่ได้ตั้งใจจะเข้ามารบกวนเพื่อน เพียงแต่พี่เป็นห่วงกลัวเพื่อนกับเจ้าตัวเล็กจะหิว เลยถือวิสาสะเข้ามา หากมันทำให้เพื่อนลำบากใจพี่ขอโทษ”“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ ไหนคะ มีอะไรมาให้กินมั่งกำลังหิวพอดีเลย” พิมพ์ภัสสรถามหน้าตายทั้งที่ในใจนั้นอ่อนยวบอยากกอดเขาใจจะขาดเธออยากอยู่ใกล้ๆ เขา อยากอยู่ในอ้อมกอดอุ่นอ่อนโยน ความรู้สึกโหยมันเริ่มมากขึ้นทุกวันๆ แต่พ่อคุณก็ซื่อเหลือเกิน เธอบอกเขาว่าห้ามเข้าใกล้เธอเกินหนึ่งเมตรแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะละเมิดสัญญาไม่ได้นี่นา ตาทึ่ม บทจะทึ่มก็ทึ่มได้ใจจริงๆ สุดท้ายเธอก็นึกค่อนขอดเขาในใจ...“เพื่อนจะนั่งกินบนเตียงหรือไปที่ริมระเบียงดีครับพี่จะยกไปให้” ธามบอกอย่างกระตือรือร้น หญิงสาวก้มหน้าหลบซ่อนแววตาเจ้าเล่ห์ของตนก่อนจะเชิดหน้าตอบเขาเสียงเรียบ“เพื่อนจะนั่งกินตรงนี้ค่ะ รบกวนเอาถาดอาหารมาวางใกล้ๆ เพื่อนหน่อยค่ะ เพื่อนไม่ค่อยมีแรง...” เปิดโอกาสให้ขนาดนี้แล้วดูสิเขาจะทำอย่างไร...“ครับๆ เจ้าหญิง” ธามรีบยกถาดอาหารมาวางใกล้ๆ เธอแล้วก็
ตอนที่61.เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วสภาพจิตใจของพิมพ์ภัสสรดีขึ้นเรื่อยๆ หญิงสาวกลับมาพูดคุยหัวเราะสดใสกับทุกๆ คนเหมือนเคย โดยไม่สนใจเรื่องอดีตหรือข่าวคราวของสองแม่ลูกผู้ที่เป็นเสมือนตราบาปความแค้นในใจเธอ เมื่อเธอค้นพบแล้วว่าการที่ยึดติดกับความแค้นใจนั้นมันเจ็บปวดทรมานมากเพียงใด และตอนนี้เธอมีอย่างอื่นให้สนใจ ใส่ใจมากกว่าอดีตอันแสนเจ็บปวดเป็นไหนๆ ก็เจ้าตัวเล็กในท้องของเธอนี่อย่างไรล่ะ ตอนนี้เจ้าตัวเล็กคงกำลังสนุกสนานมากจนดีดดิ้นถีบยันหน้าท้องของผู้เป็นแม่จนเห็นเป็นรูปร่างมือและเท้าน้อยๆ ส่งผลให้คนมองตื้นตันด้วยความสุขจนล้นใจ“พี่ธามไปห่างๆ เลยค่ะ เพื่อนยังไม่ได้อนุญาตให้พี่ธามเข้าใกล้เพื่อนเกินหนึ่งเมตรนะคะ...” หญิงสาวหันมาตวาดชายหนุ่มที่ทำท่าเหมือนจะโผนเข้ามาลูบไล้สิ่งมีชีวิตที่อยู่ในตัวของเธอเหมือนคนอื่นๆ บ้าง ใบหน้าและท่าทางหงอยๆ ของเขาดูน่าสงสารอยู่หรอกแต่เขานั่นล่ะตัวร้ายที่สุด...“โธ่ เพื่อนน่ะ... ใจร้ายที่สุดเลย นี่แทมมี่อย่ามาวุ่นวายกับเมียพี่ได้มั้ย แล้วไม่ต้องชวนกันไปไหนด้วย รู้บ้างสิว่าผัวเมียเขาอยากอยู่ด้วยกัน” ธามพ้อภรรยาที่เขาได้จับเธอตีทะเบียนแล้วเรียบร้อยด้วยความน้อยใจทั้งย
ตอนที่60.“แหม อีแก่นี่ปากมันน่าตบให้ฟันร่วงจริงๆ จะตายอยู่แล้วยังจะปากดี” เจ๊หวานเท้าสะเอวจ้องหน้านางจันอย่างเกลียดชัง“อย่าเสียเวลาเลย คนพวกนี้ยิงปล่อยไว้นานยิ่งเปลือง” คุณนิดาขู่ซ้ำ“แกจะทำอะไรพวกเรา...” คราวนี้สองแม่ลูกกอดกันกลมเมื่อเห็นท่าทางน่ากลัวของชายฉกรรจ์ที่เดินตรงมาหาพวกตนด้วยสีหน้าเย็นชา“รับรองได้ว่าลูกน้องฉันทุกคนไม่มีใครใฝ่ต่ำข่มขืนฆ่าเธอแน่ๆ ของเน่าๆ แบบนี้แบให้เอาฟรีๆ ลูกน้องฉันก็ไม่มีใครอยากหรอกจ้ะ เพราะลูกน้องฉันทุกคนได้กินแต่ของดีๆ และเลือกสรรมาแล้วอย่างดีเสมอ ของคาวของเน่าของเหม็นอย่างพวกเธอน่ะไม่มีอยู่ในสายตาคนของฉันหรอกย่ะ และที่สำคัญถึงแม้ฉันจะเกลียดใครมากแค่ไหนฉันก็ไม่ใช้วิธีสกปรกอย่างที่พวกเธอใช้หรอก ฉันมีความเป็นแม่และมีความเห็นอกเห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกันมากกว่าที่พวกเธอสองคนมีก็แล้วกัน เอาตัวพวกมันไป...”คุณนิดาปรายตามองเหยียดหยันรู้สึกขยะแขยงหญิงทั้งสองคนตรงหน้ายิ่งนัก สองแม่ลูกใจเสียแต่ยังไม่ยอมจำนนเสียทีเดียว เพราะต่างพยายามดิ้นรนออกจากเกาะกุมของชายทั้งสองปากก็ด่าทอต่างๆ นานาอย่างหยาบคายจนเจ๊หวานกับคุณนิดาแทบจะทนฟังไม่ได้“แน่จริงมึงปล่อยกูสิวะนางแก่ อีกะ
ตอนที่59.“แต่ตอนนี้ฉันไม่มีน้องสาวแล้ว” พิมพ์ภัสสรหน้าหม่นลง“แต่เธอมีสิ่งที่มีค่ามากกว่า และฉันก็อยากให้เธอรักษามันไว้ กลับมาเป็นคนเดิมนะเพื่อน หากเธอเป็นแบบนี้หรือหากเธอกับเจ้าตัวเล็กเป็นอะไรไปฉันคงไม่ยกโทษให้ตัวเองไปตลอดชีวิตแน่ๆ เพราะฉันเองก็มีส่วนทำให้เรื่องมันเลวร้าย”แล้วแทนฤทัยก็เล่าเรื่องในคืนวันเกิดเหตุให้พิมพ์ภัสสรฟังซึ่งหากเป็นเมื่อก่อนพิมพ์ภัสสรคงจะต่อว่าแทนฤทัยด้วยความเผ็ดร้อนไปแล้วที่ทำเพิกเฉยกับคำเตือนของราฟาเอล ถึงขนาดว่ามีอันตรายต่อทุกคนแต่แทนฤทัยเลือกที่จะไม่ใส่ใจเพราะอคติที่มีต่อตน แต่ตอนนี้พิมพ์ภัสสรคิดว่าทุกคนก็คงได้รับผลของการกระทำของตนไปแล้ว...“ไม่เป็นไรหรอกแทมมี่ ฉันเองก็คงมีส่วนผิดเหมือนกัน หากว่าจะมีใครผิดก็คงเป็นคนที่คิดทำร้ายเรามากกว่าและฉันก็คิดว่าทุกคนก็คงได้รับผลกรรมของตนไปแล้ว ไม่ว่าฉันหรือเธอ หรือใครๆ”“นั่นแสดงว่าเธอยกโทษให้ฉันแล้ว” แทนฤทัยตาโตแล้วยิ้มกว้าง“ฉันยกโทษให้เธอไม่ได้หรอกแทมมี่” แทนฤทัยหุบยิ้มทันที พิมพ์ภัสสรยิ้มบางๆ ก่อนจะพูดต่อ“ที่ฉันยกโทษให้เธอไม่ได้ก็เพราะว่าฉันไม่เคยโทษเธอเลยกับทุกเรื่องที่ผ่านมา และฉันก็ไม่ได้โกรธเธอเองก็ไม่ได้ทำอ