LOGINตั้งแต่รู้ว่าเคนเป็นเจ้าของผับ Black butterfly ก็กลายเป็นว่าพลับจีนได้เจอบ่อยขึ้น ทั้งที่ทำงานที่นี่มาตั้งนานแต่ไม่เคยเจอกันมาก่อนเลยสักครั้ง ครั้นอยากหลบหน้าก็ทำไม่ได้ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นเจ้านายของตัวเอง
สืบเนื่องจากเหตุการณ์ครั้งที่แล้วที่โดนวางยา ผู้จัดการที่ได้รับคำสั่งมาอีกทีให้พลับจีนหยุดรับลูกค้าวีไอพีไปสักพัก เปลี่ยนมาดูแลลูกค้าชั้นล่างแทน อย่างน้อยถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ยังอยู่ในสายตาเพื่อนร่วมงานคงช่วยกันได้ทันท่วงที
เสียงเพลงบริเวณชั้นหนึ่งดังกระหึ่มจนรู้สึกปวดหู แม้ว่าจะทำงานที่นี่แทบทุกวันอยู่แล้วแต่พลับจีนก็ยังไม่ชินอยู่ดี กระนั้นก็ยังคงยิ้มแย้มตามหน้าที่ แม้ว่าจะเป็นเพียงลูกค้าทั่วไปไม่ใช่ลูกค้าวีไอพี ถึงอย่างนั้นบางคนก็ทิปหนักไม่ใช่เล่นเหมือนกัน ยิ่งได้พลับจีนที่เป็นถึง Top 2 ของร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องการบริการ และเอาใจลูกค้าเก่ง ทำให้ใคร ๆ ต่างก็พออกพอใจกันทั้งนั้น ถึงจะไม่ใช่คนที่หน้าตาดีที่สุด แต่กลับมีเสน่ห์ที่ใครเห็นก็ต้องเผลอมอง หรือแอบชอบกันบ้าง
พลับจีนมัวแต่ทำงานของตัวเองโดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังถูกจับจ้องโดยใครบางคนจากชั้นบนสุดของร้าน ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของเคนทั้งหมด ไม่ว่าจะลุก จะนั่ง หรือพูดคุยส่งยิ้มให้กับใครกี่คนก็ตาม
เคนไม่รู้ว่าควรเรียกสิ่งที่พลับจีนทำอยู่ว่าเป็นพรสวรรค์หรือความสามารถ ที่ทำให้ลูกค้าทุกคนที่เรียกไปใช้บริการถูกอกถูกใจกัน บางรายถึงขึ้นโทรมาจองตัวไว้ก่อนร้านเปิดด้วยซ้ำ ไม่รู้ว่าหลงอะไรเด็กคนนี้นักหนา
กลับกันเคนไม่เห็นอะไรในตัวพลับจีนเลย เสน่ห์ก็ไม่มี หน้าตาก็พอไปวัดไปวา รูปร่างก็พอใช้ได้ นิสัยก็ดูจะดื้อรั้นอยู่ไม่น้อย แถมยังพูดมากขี้สงสัยอีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็นคนที่เขาไม่มีทางชอบได้เลย
เพราะงั้นคำตอบที่เขาเฝ้าถามตัวเองอยู่หลายต่อหลายครั้ง ว่าทำไมถึงยังข้องเกี่ยวกับพลับจีนไม่เลิก คำตอบตอนนี้มีอยู่อย่างเดียวคือพลับจีนเป็นเพื่อนน่านน้ำ และเขาแค่รู้สึกว่าต้องรับผิดชอบในสิ่งกระทำลงไปในครั้งก่อน แม้ว่าไม่จำเป็นก็ตาม เพราะพลับจีนเองก็คงไม่ได้ถือสาเรื่องที่ตัวเองเสียบริสุทธิ์ให้กับเขา ไม่อย่างนั้นก็คงเรียกร้องจะเอานั่นเอานี่ตั้งแต่วันแรกเหมือนคนอื่น ๆ ไปแล้ว
ก็หวังว่าจะเป็นแบบนี้ไปตลอดก็แล้วกัน...
...
หลายวันต่อมา
เสียงฝนตกกระทบหลังคารถทำให้พลับจีนรู้สึกง่วงขึ้นมา อาจเป็นเพราะทำงานเหนื่อยมาหลายวัน ได้พักผ่อนน้อย ช่วงนี้ร่างกายเริ่มล้าแต่ก็หยุดไม่ได้อยู่ดี คาดว่าสักวันมันคงประท้วงที่เขาโหมงานหนักขนาดนี้
เพลงสากลดนตรีเบา ๆ ฟังสบายถูกเปิดเพื่อกลบความเงียบ ก่อนหน้านี้เคนเห็นว่าพลับจีนยืนรอฝนซาอยู่หน้าร้านเลยให้ติดรถมาด้วย แต่แล้วก็เหมือนทุกครั้งเวลาอยู่ด้วยกันทีไร ต่างคนต่างไม่พูดไม่จา จะมีก็แต่พลับจีนที่ถามนั่นถามนี่อยู่บ้างตามประสาเด็กขี้สงสัย
เมื่อช่วงค่ำที่เปิดดูพยากรณ์อากาศก็เห็นว่าจะมีพายุฝน แต่ก็ไม่คิดว่าจะหนักราวกับฟ้ารั่วขนาดนี้ และต่อให้ตอนนี้จะเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว ทว่าบนท้องถนนยังมีรถแล่นไปมา การจราจรติดขัดพอสมควร เนื่องจากไม่สามารถขับรถเร็วได้
พลับจีนยกมือขึ้นปิดปากหาว ทั้งบรรยากาศทั้งเสียงเพลงทำให้เขาง่วงได้จริง ๆ ไฟแดงด้านหน้ายังเหลือเวลาเกือบครึ่งนาที ระยะทางอีกห้ากิโลเมตรเห็นจะได้กว่าจะถึงห้อง ถ้างีบสักหน่อยคงไม่เป็นไรหรอกมั้ง..
ร่างสมส่วนเริ่มขยับตัวหันไปทางประตูรถเล็กน้อย ทว่าไม่ทันได้หลับตาก็ต้องสะดุ้งตกใจ เพราะเจ้าของรถโน้มตัวมาปรับเบาะให้เอนนอนลงไป อีกทั้งยังเผลอสบตากันในตอนที่เคนถอยกลับไป เป็นจังหวะที่พลับจีนแทบจะหยุดหายใจ นอนตัวแข็งไม่กล้าแม้แต่จะหันกลับไปมองอีกฝ่าย เสื้อกันหนาวแขนยาวถูกหยิบขึ้นมาห่มช่วงบน พร้อมกับใช้แขนเสื้อปิดหน้าตัวเองเอาไว้
ทุกอย่างกลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้งเมื่อพลับจีนได้หลับไปแล้ว ปล่อยให้เคนทำหน้าที่เป็นสารถีชั่วคราวพาเขาไปส่งให้ถึงที่
ดวงตาคมทอดมองใบหน้ายับยู่ของคนที่นอนหลับลึกอยู่หลายนาที ไม่รู้สึกตัวแม้ว่าจะมาถึงหน้าห้องแถวสักพักแล้วก็ตาม
น่าเกลียด.. คนอะไรขนาดตอนนอนยังไม่มีตรงไหนน่ามองเลยสักนิด
“นี่” สุ้มเสียงทุ้มต่ำเอ่ยเรียกหนึ่งคำ ทว่าเด็กขี้เซาก็ยังไม่ยอมตื่น “นี่! จะนอนในรถฉันไปจนเช้าเลยหรือไง”
“อื้อ...”
ครั้นได้ยินเสียงพูดดัง ๆ รบกวนเวลานอน พลับจีนจึงต้องฝืนปลุกตัวเองให้ตื่นลืมตาขึ้นมา ใบหน้ามึนงงสับสนยังไม่หายง่วง มองเคนครู่หนึ่งก่อนจะกวาดสายตามองไปนอกรถ ถึงได้เห็นว่าถึงที่พักของตัวเองแล้ว ทว่าฝนยังไม่มีทีท่าจะซาลง ดูเหมือนจะมีพายุเข้าจริง ๆ
“กลับไปนอนที่ห้องตัวเอง”
“ฝนยังตกหนักอยู่เลย คุณเคนจะขับรถกลับไปเลยเหรอครับ”
“ไม่ขับกลับไปแล้วจะให้ฉันนอนกับเธอหรือไง”
“...”
“ห้องเท่ารูหนูเธอนอนคนเดียวก็เต็มแล้ว”
“ชิ! ทำเหมือนไม่เคยนอน” คนตัวเล็กบนอุบอิบกับตัวเองแผ่วเบา ไม่รู้ว่าเคนจะได้ยินหรือเปล่า แต่ทว่าอีกฝ่ายไม่พูดท้วงอะไรขึ้นมาก็จะถือเสียว่าไม่ได้ยินก็แล้วกัน “งั้นพลับไปแล้วครับ ขอบคุณที่มาส่งครับ”
พลับจีนหยิบกระเป๋าสะพายมากอดเอาไว้ด้านหน้า ใช้เสื้อกันหนาวคลุมหัวตัวเอง ก่อนจะเปิดประตูและรีบวิ่งไปที่ห้อง เนื้อตัวเปียกนิดหน่อย เดี๋ยวคงต้องรีบอาบน้ำไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้ได้เป็นหวัดแน่ ๆ เห็นแข็งแรงแบบนี้จริง ๆ แล้วป่วยง่ายอยู่เหมือนกัน
พลับจีนยืนมองรถที่ตัวเองเพิ่งนั่งมา ค่อย ๆ ถอยหลังออกไป แต่แล้วก็หยุดนิ่งไม่ไปต่อ สร้างความสงสัยให้พลับไม่น้อย ก่อนที่เจ้าของรถจะลงมามองซ้ายมองขวา ยืนเท้าสะเอวเสยผมอย่างคนหัวเสีย พลับจีนเปิดประตูห้องหยิบร่มวิ่งไปกางให้กับเคน
“ออกมายืนตากฝนทำไมครับ เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” ตะเบ็งเสียงถามแข่งกับเสียงฝน ครั้นเห็นว่าเคนไม่ตอบ จึงมองซ้ายทีขวาทีตามที่เคนมองก่อนหน้า ถึงได้เห็นว่ายางหลังแบนจนไปต่อไม่ได้ หากฝืนขับไปก็คงไม่ไหว จะหาร้านซ่อมแถวนี้ก็คงจะยาก “สงสัยคืนนี้ต้องทนนอนห้องรูหนูสักคืนแล้วละครับ”
เจ้าของรถถอนหายใจออกมาอย่างคนไม่สบอารมณ์ คำพูดและน้ำเสียงยียวนของพลับจีนฟังดูแล้วคงจะสะใจอยู่ไม่น้อย
สุดท้ายคืนนี้เคนก็ต้องตั้งหลักปักฐานอยู่ที่ห้องพลับจีนด้วยความไม่เต็มใจ เจ้าของห้องก็ใช่ว่าจะใจจืดใจดำ ยอมให้เคนเข้าไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนตัวเอง เพราะเห็นว่าเนื้อตัวเปียกซกแบบนั้นจะทำให้เป็นหวัดได้ กว่าเคนจะออกมาจากห้องน้ำเกือบทำให้พลับจีนหลับไปอีกรอบ
“ไม่มีเสื้อผ้าที่ตัวใหญ่กว่านี้แล้วหรือไง”
“ถ้ามีก็ให้ไปแล้วครับ มีแค่นี้ทนใส่ไปก่อนเถอะ ผ้าของคุณพลับเอาไปซักตากไว้ให้แล้ว” แต่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่ามันจะแห้งตอนไหน เพราะผ้าซักมือบิดยังไงหากไม่ตากแดดก็แห้งช้าอยู่ดี
เคนเองก็ไม่ได้อยากเรื่องมากนักหรอก ถ้าไอ้เสื้อผ้าที่พลับจีนเอามาให้ใส่ไม่รัดรูปขนาดนี้ แต่แล้วเขาจะทำอะไรได้ในเมื่อเจ้าของห้องว่ามาอย่างนั้น ไม่มีอะไรให้ใส่ก็ต้องจำใจใส่ไปก่อน ดีกว่าเปลือยกายเดินไปเดินมา
พลับจีนเข้าไปอาบน้ำอยู่พักหนึ่งก่อนจะเดินออกมาพร้อมกลิ่นหอมจากสบู่เหมือนครั้งก่อน จำได้ว่าเขาเองก็ใช้สบู่ Lux สีชมพูที่มีอยู่ในห้องน้ำเหมือนกัน แต่ทำไมถึงไม่หอมติดตัวเหมือนอย่างอีกคน
“ฮัดชิ่ว!” แค่อาบน้ำช้านิดหน่อยหวัดก็ถามหาเสียแล้ว จะกินยาเลยก็กะไรอยู่ ตั้งแต่เย็นยังไม่มีอะไรตกลงถึงท้อง มีหวังยาได้กัดกระเพาะกลายเป็นเรื่องอีก
“หิวไหมครับ”
“...”
“ไข่เจียวคุณเคนกินได้ไหม พลับขี้เกียจทำอย่างอื่น”
ไม่มีเสียงตอบรับจากอีกฝ่าย นึกว่าหลับไปแล้วเสียอีก แต่ที่ไหนได้ยังนั่งเล่นมือถืออยู่เลย หรือโกรธเขาเรื่องชุดถึงได้ไม่ยอมพูด แล้วจะให้เขาทำยังไงในเมื่อเสื้อผ้าทั้งหมดที่มีชุดที่ให้ไปใหญ่ที่สุดแล้ว อีกอย่างขนาดตัวเขากับเคนก็ห่างกันเยอะอยู่พอควร ให้คนสูงเกือบร้อยเก้าสิบใส่เสื้อผ้าของคนที่สูงแค่ร้อยหกสิบแปดแบบเขามันก็ได้ตามสภาพนั่นแหละ จะทำยังไงได้
พลับจีนวุ่นอยู่ในครัวพักใหญ่ ข้าวสวยร้อน ๆ ที่หุงเอาไว้ก่อนอาบน้ำ พร้อมกับไข่เจียวขอบกรอบ ๆ โปะหน้า ส่งกลิ่นหอมจนน้ำลายสอ
“ข้าวไข่เจียวมาแล้วครับ” เอ่ยบอกคนที่นั่งอยู่บนโซฟาไม่สนใจ พลางวางจานข้าวลงบนโต๊ะพับตัวเล็ก “ลงมานั่งกินสิครับ”
“ไม่หิว”
โครก~
บ้าชิบ! พูดไม่ทันขาดคำท้องก็ร้องดังโครกครากขึ้นมาทันที เสียงขำคิกคักของพลับจีนทำให้เคนรู้สึกเสียหน้านิดหนย่อย กระนั้นก็ยังคงนั่งนิ่งไม่ยอมลงไป
“ไม่หิวก็ไม่หิวครับ แต่พลับมาทำมาแล้ว กินสักหน่อยเถอะจะได้ไม่เสียน้ำใจ” คำพูดมากมายแต่ความหมายเท่าเดิม สุดท้ายแล้วพลับจีนก็สามารถทำให้เคนยอมลงมานั่งกินด้วยกันจนได้
ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงอย่างคนไม่สบอารมณ์ ตักข้าวเข้าปากรีบกินราวกับกลัวใครแย่ง ไม่พูดไม่จา คงจะติดนิสัยมาจากที่บ้าน เพราะน่านน้ำเคยเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนเวลาทานข้าวพร้อมกันต่างคนต่างกิน ไม่พูดคุยกันเพราะถือว่าเสียมารยาท ทว่าตั้งแต่มีน่านน้ำ ทุกอย่างก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไปตามกาลเวลา
น่าเกลียด.. คนอะไรขนาดตอนนอนยังไม่มีตรงไหนน่ามองเลยสักนิด
tbc.
คุยกับนักเขียน
แหม่ๆๆๆ อยากจะแหม่ให้มันดังๆ จังโว้ยยย ว่าเขาน่าเกลียด ไม่น่ามอง แต่มองเขามาเกือบครึ่งชั่วโมงได้แล้วมั้งพ่อ ย้อมแย้งในตัวเองปะถามจริง? แม่ถามหน่อยต้องการอะไรจ๊ะ ต้องการอะไรเอ่ย
ห้องเช่าเท่ารูหนู? แต่คืนแรกที่ได้เขาก็ในห้องเช่าห้องนี้นะ ความคิดเอย คำพูดเอย ส่วนทางกับสิ่งที่ทำหมดเลยเนอะ😌
หลังกินข้าวเสร็จพลับจีนเก็บจานไปล้าง เสร็จแล้วก็กลับมาที่เตียงเตรียมตัวนอน ครั้นหันไปมองเคนที่นั่งอยู่ตรงโซฟาปลายเตียงก็นึกสงสารขึ้นมา หากปล่อยให้นอนตรงโซฟาจะดูใจร้ายไปหรือเปล่า“คุณเคน.. ขึ้นมานอนบนเตียงด้วยกันไหมครับ” แค่นอนเฉย ๆ คืนเดียวคงไม่เป็นอะไรหรอกใช่ไหมนะ.. “เตียงอาจจะไม่ใหญ่ แต่พลับตัวเล็ก นอนสองคนน่าจะได้อยู่ครับ”ดวงตาคมมองสบนัยน์ตาเจ้าของห้อง ใบหน้าเรียบนิ่งไม่แสดงความยินดียินร้ายใด ๆ ออกมา“ฉันไม่ชอบนอนเบียดกับใคร”“แล้วคุณจะนั่งอยู่อย่างนั้นจนเช้าเหรอครับ” จริง ๆ เขาก็ไม่อยากเซ้าซี้นักหรอก จะนั่งจนเช้าก็ไม่เกี่ยวกับเขา แต่ในฐานะเจ้าของห้อง และคุณเคนก็อุตส่าห์พามาส่งจะใจร้ายปล่อยให้นั่งอยู่แบบนั้นได้ยังไง แม้ว่าจะรู้สึกอึดอัดใจบางเล็กน้อยที่ต้องใกล้ชิดกัน ทว่าพอนานวันเข้าความรู้สึกพวกนั้นก็บางเบาลงจากวันแรกเยอะพอสมควร “งั้นคุณเคนมานอนที่เตียงก็ได้ครับ เดี๋ยวพลับนอนโซฟาเอง”“ไม่ต้อง”“เอ๊ะ! นั่นก็ไม่เอา นี่ไม่เอา จะเอายังไงครับ พลับง่วงแล้วนะเมื่อไรจะได้นอน”“ฉันห้ามเธอไม่ให้นอนหรือไง?” คิ้วเข้มเลิกขึ้น ถามกลับด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิด“ก็คุณเล่นนั่งอยู่ปลายเตียงแบบนั้น
ตั้งแต่รู้ว่าเคนเป็นเจ้าของผับ Black butterfly ก็กลายเป็นว่าพลับจีนได้เจอบ่อยขึ้น ทั้งที่ทำงานที่นี่มาตั้งนานแต่ไม่เคยเจอกันมาก่อนเลยสักครั้ง ครั้นอยากหลบหน้าก็ทำไม่ได้ ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นเจ้านายของตัวเองสืบเนื่องจากเหตุการณ์ครั้งที่แล้วที่โดนวางยา ผู้จัดการที่ได้รับคำสั่งมาอีกทีให้พลับจีนหยุดรับลูกค้าวีไอพีไปสักพัก เปลี่ยนมาดูแลลูกค้าชั้นล่างแทน อย่างน้อยถ้ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นก็ยังอยู่ในสายตาเพื่อนร่วมงานคงช่วยกันได้ทันท่วงทีเสียงเพลงบริเวณชั้นหนึ่งดังกระหึ่มจนรู้สึกปวดหู แม้ว่าจะทำงานที่นี่แทบทุกวันอยู่แล้วแต่พลับจีนก็ยังไม่ชินอยู่ดี กระนั้นก็ยังคงยิ้มแย้มตามหน้าที่ แม้ว่าจะเป็นเพียงลูกค้าทั่วไปไม่ใช่ลูกค้าวีไอพี ถึงอย่างนั้นบางคนก็ทิปหนักไม่ใช่เล่นเหมือนกัน ยิ่งได้พลับจีนที่เป็นถึง Top 2 ของร้านที่ขึ้นชื่อเรื่องการบริการ และเอาใจลูกค้าเก่ง ทำให้ใคร ๆ ต่างก็พออกพอใจกันทั้งนั้น ถึงจะไม่ใช่คนที่หน้าตาดีที่สุด แต่กลับมีเสน่ห์ที่ใครเห็นก็ต้องเผลอมอง หรือแอบชอบกันบ้างพลับจีนมัวแต่ทำงานของตัวเองโดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังถูกจับจ้องโดยใครบางคนจากชั้นบนสุดของร้าน ทุกการกระทำอยู่ในสายตาของเคน
เจ้าของร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาหนังสีน้ำตาล-ทองราคาแพงจากแบรนด์ชั้นนำในต่างประเทศ ความนุ่มของมันทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าเหลือเชื่อ ศีรษะทุยเอนพิงไปกับพนักโซฟา หลับตาลง คิดทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ หลายสิ่งที่เขายังไม่เข้าใจ และยังหาคำตอบไม่ได้ปกติแล้วเคนมักจะหลับนอนที่ชั้นบนสุดของผับตัวเอง เพราะขี้เกียจขับรถกลับคอนโดฯ ส่วนบ้านใหญ่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ตั้งแต่ขึ้นเรียนมหา’ลัย เคนก็กลับไปที่นั่นน้อยลง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีเวลาให้พ่อกับแม่เอาเสียเลย วันไหนที่พวกท่านเรียกหาเคนก็ไม่เคยปฏิเสธ เพียงแต่ไม่ได้นอนค้างก็เท่านั้นคอนโดฯ ที่มีก็ซื้อไว้ตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนมหา’ลัย พอเรียนจบเปิดผับเปิดร้านอาหาร เคนก็ไม่ค่อยได้กลับไปนอนที่นั่นสักเท่าไร อาทิตย์หนึ่งอาจจะกลับไปนอนสักครั้ง หรือไม่ก็ไม่กลับไปเลย เรื่องทำความสะอาดเคนจะจ้างแม่บ้านให้มาทำทุกอาทิตย์จนกระทั่งวันนี้ที่เขาเสนอให้พลับจีนมาทำหน้าที่นั้นแทน ในฐานะ ‘พ่อบ้าน’ ที่ต้องรับผิดชอบตั้งแต่ดูแลความสะอาด รวมถึงอาหารการกิน พอได้คิดทบทวนดูแล้วสิ่งที่เขากำลังทำเหมือนกับว่ากำลังเห็นใจเด็กคนนั้น เพราะอะไร...เพราะเป็นเพื่อนน่านน้ำเพราะมีชีวิต
“ลองชิมดูไหมครับ”“ไม่ ฉันท้องเสียขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ”คนฟังกลอกตามองบน พลางถอนหายใจออกมาอย่างเอือม ๆ ไม่ชิมก็ไม่ต้องชิมสิ ไม่เห็นต้องพูดอะไรแบบนี้ เขาไม่ได้บังคับสักหน่อยหลังจากเล่นกับเด็ก ๆ มาเกือบสองชั่วโมง พลับจีนจึงขอไปช่วยทำมื้อเย็นในครัว เคนที่ไม่รู้ว่าจะไปไหนก็เลยทำได้แค่เดินตามมาเงียบ ๆ ยืนกอดอกมองอยู่หน้าประตูห่าง ๆ ไม่ได้คิดที่จะเข้าไปช่วยหรือทำตัวเกะกะคนในครัว แม้ว่าอยากเดินออกไปสูบบุหรี่ก็ทำไม่ได้ เพราะมีป้ายห้ามแทบจะทุกจุด เคนก็เข้าใจอยู่ว่าทำไมพลับจีนเดินหน้าบึ้งกลับไปในครัว ฝีมือการทำอาหารถ้าให้เทียบกับน่านน้ำเขานี่เทียบไม่ติดเลยสักนิด แค่พอกินได้ก็ดีเท่าไรแล้ว ที่เข้ามาช่วยก็เป็นแค่ลูกมือ คอยหยิบนั่นหยิบนี่ หั่นผัก หั่นเนื้อบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆเสียงพูดคุย หัวเราะเจี๊ยวจ๊าวของพวกผู้หญิงในครัวทำให้พลับจีนเผลอยิ้มตามไปด้วย แม้จะไม่ได้สนิทสนมกันแต่เพราะเป็นพลับจีนการปรับตัวเข้ากับคนอื่นถึงได้เป็นเรื่องง่าย เพราะเขาจะมีคติเตือนใจตัวเองอยู่เสมอ‘หากอยากอยู่บนโลกนี้ได้ก็ต้องรู้จักปรับตัวให้เป็น’ผิดกับอีกคนที่ดูจะขวางโลก เอาตนเป็นที่ตั้งเสียมากกว่าทุกสิ่ง สำหรับพลับจีนอาจจะ
ภายในรถเงียบสนิทไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นระหว่างพวกเขาสองคน จนกระทั่งรถเลี้ยวมาจอดหน้าร้านขายของชำที่พลับจีนเองก็เคยมาอยู่หลายครั้ง“ลงสิ”พลับจีนหันมองเจ้าของรถด้วยความสงสัย ทว่าไม่ทันได้ถามอะไรอีกฝ่ายก็ลงจากรถไปเสียแล้ว ดวงตากลมกลอกมองบนพลางเป่าลมออกจากปากจนผมหน้าม้าเสียทรงร่างสมส่วนเดินตามหลังคนอายุมากกว่าเข้ามาในร้านขายของชำ หันไปยิ้มทักทายเจ้าของร้านเล็กน้อย“ช่วยเลือกซื้อของที่เด็ก ๆ ชอบหน่อย”“เด็กที่ไหนครับ”“บ้านเด็กกำพร้าที่เธอเคยไป”พลับจีนไม่เข้าใจเคนจริง ๆ ว่าเป็นคนแบบไหนกันแน่ ครั้งก่อนบอกไม่ชอบเด็ก ทว่าครั้งนี้กลับพาเขามาช่วยเลือกซื้อของให้เด็ก ๆ น่ะเหรอแต่ถึงสงสัยยังไงพลับจีนก็ไม่อยากถามอะไรให้มากนัก เดินไปหยิบตะกร้าใบใหญ่มาใบหนึ่ง เลือกซื้อพวกขนมและของใช้ที่คิดว่าจำเป็น จำพวกของเดิมๆ ที่เคยซื้อเหมือนทุกครั้งเวลาไปที่นั่น เคนเดินตามหลังมาเงียบ ๆ ไม่พูดไม่ขัด ไม่ว่าพลับจีนจะเลือกซื้ออะไร แม้ว่าของบางชิ้นจะราคาแพงก็ตาม“แค่นี้ก็น่าจะพอแล้วนะครับ”“มีเด็กเยอะไม่ใช่หรือไง แค่นี้จะพออะไร”“แต่นี้ก็หลายบาทแล้วนะครับ” คนที่มีงบน้อยอย่างพลับจีนแม้ว่าจะอยากช่วยเหลือคนอื่น แต่
เจ้าของร่างสูงยืนพิงหน้าต่างมองดูคนหมดสภาพที่นอนอยู่บนเตียง หลังจากถูกราดน้ำเรียกสติอยู่พักใหญ่กว่าจะหมดฤทธิ์ถึงได้หลับไป ปล่อยให้เคนจัดการเปลี่ยนผ้าให้ทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่เลยสักนิดความต้องการของคนที่กินยาปลุกเซ็กซ์เข้าไปคือการที่มีความต้องการทางเพศ ซึ่งเคนไม่ได้อยากมีอะไรกับคนที่ขาดสติ วิธีที่พอจะช่วยได้ที่คิดออกก็มีเท่านี้ระหว่างทางกว่าจะมาถึงห้องพักของพลับจีน เจ้าตัวพยายามที่จะปีนป่ายเข้าหาเคนอยู่หลายครั้ง แต่ก็ถือว่าเก่งมากที่พยายามฝืนตัวเองได้ แม้ว่าจะต้องกัดแขนตัวเองจนเลือดซิบก็ตาม“เจอตัวยังครับคุณแซน”[ค่ะคุณเคน เป็นลูกค้าใหม่เพิ่งมาครั้งแรกค่ะ]“ไม่ว่าจะลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่ ผมไม่สนใจ กฎของร้านเป็นยังไงคุณแซนรู้ใช่ไหมครับ”[รู้ค่ะ แล้วเรื่องที่พนักงานของเราไปฟาดหัวเขาล่ะครับ]“ผมไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น เพราะพนักงานเราไม่ผิดที่ปกป้องตัวเอง”“ค่ะ เดี๋ยวที่เหลือแซนจะจัดการให้เรียบร้อยค่ะ”“ฝากด้วยครับ”เคนกดวางสายจากผู้จัดการร้าน ทอดมองพลับจีนพลางถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย ถึงไม่อยากข้องเกี่ยวด้วยแต่ก็ทำไม่ได้อยู่ดีเพราะยังไงเสียพลับจีนก็ถือว่าเป็นพนักงานในร้านของเขาเห






![สถานะเมียในสมรส [Omegaverse]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)
![เกิดใหม่เป็นตัวร้ายในซีรีส์วายเรื่องหนึ่ง [Mpreg]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)