เมื่อคุยกับพี่สาวแล้วกานต์ชิสาก็แวะไปยังร้านเบเกอรี่สั่งงานลูกน้องตามที่พี่สาวบอกจากนั้นก็ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนจะตรงไปยังโรงพยาบาล
หญิงสาวได้ชื่อจริงและนามสกุลจริงมาจากกานต์สิชาก็เลยถามจากทางประชาสัมพันธ์และอ้างว่าตัวเองเป็นตัวแทนจากบริษัทประกันชีวิตประชาสัมพันธ์ก็เลยยอมบอกว่าคุณไตรภพรักษาตัวอยู่ที่ไหน
กานต์ชิสาเดินตามป้ายบอกทางแผนกไอซียูเธอยืนมองคนไข้ที่อยู่ด้านในผ่านกระจกหญิงสาวไม่รู้หรอกว่าคนไหนชื่อไตรภพจึงต้องไปถามจากพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์แต่พยาบาลพยาบาลก็ไม่ยอมบอก
เธอถอนหายใจและขอตัวกลับแต่ยังไม่ทันออกมาจากบริเวณหน้าห้องไอซียูก็เจอผู้หญิงกับผู้ชายเดินมาเข้ามาทัก
“ยังมีหน้ามาเยี่ยมกันอีกนะ เพราะเธอคนเดียวเลยทำให้พี่ไตรถึงเป็นแบบนี้”
“คุณพูดถึงอะไร” กานต์ชิสากำลังงงว่าผู้หญิงคนนี้หมายถึงอะไร
“ยังจะมาทำหน้าซื่อ ฉันรู้นะว่าเมื่อคืนเธออยู่ในรถกับพี่ไตร”
“คุณเป็นเมียของคุณไตรภพเหรอคะ” กานต์ชิสาถามเพราะไม่เคยเจอมาก่อนแต่ถ้าเดาจากคำพูดก็น่าจะใช่
“อย่าทำมาเป็นไม่รู้จักฉันหน่อยเลย เธอก็รู้ว่าฉันเป็นเมียพี่ไตร แล้วฉันขอบอกไว้เลยนะว่ายังไงฉันกับพี่ไตรไม่มีทางเลิกกันเด็ดขาด”
“ค่ะ”
“แล้วเขาขอสั่งอีกอย่างจากนี้เธออย่ามาเยี่ยมพี่ไตรอีก”
“แต่ฉันอยากรู้ว่าการของคุณไตรภพเขาเป็นยังไงบ้าง”
“เธอจะอยากรู้ไปทำไมล่ะ”
“ก็ในฐานะคนเคยรู้จักกัน”
“แค่คนเคยรู้จักเหรอ ฉันล่ะสงสารพี่ไตรจริงๆ ถ้ามาได้ยินคำพูดนี้จากเธอเขาคงเสียใจมากนะ เอาล่ะฉันจะบอกให้เอาบุญก็แล้วกันว่าตอนนี้อาการของพี่ไตรเป็นยัง”
“ขอบคุณค่ะแล้วเขาเป็นยังไงบ้าง”
“พี่ไตรมีเลือดคลั่งในสมองตอนนี้สมองเขาบวมมากและขาหัก”
“เลือดคลั่งเหรอคะ” เธอตกใจเพราะเมื่อคืนพยาบาลที่ห้องฉุกเฉินไม่ได้บอกแบบนั้น
“หมอยังไม่รู้เลยว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาตอนไหนและจะจำอะไรได้หรือเปล่า เป็นยังไงล่ะพอใจหรือยังเพราะเธอคนเดียวให้พี่ไตรต้องเป็นแบบนี้”
“คุณแน่ใจเหรอคะว่าฉันเป็นคนทำให้สามีคุณเป็นแบบนี้ถ้าหากคุณไม่ขับรถไล่ตามอุบัติเหตุก็คงไม่เกิดขึ้น” กานต์ชิสาเถียงไปตามที่ตนเองฟังมาจากพี่สาว
“ก็ฉันบอกให้เขาหยุดจอดรถคุยกับฉัน เขาไม่ยอมหยุดเองเป็นเธอใช่ไหมล่ะที่บอกให้เขาขับรถหนีฉัน”
“ฉันจะทำอย่างนั้นทำไมล่ะ”
“ก็เพราะเธออยากจะให้เขาเป็นของเธอคนเดียวไงล่ะ ถ้าพี่ไตรเป็นอะไรขึ้นมาเธอจะต้องรับผิดชอบ”
“จะให้ฉันรับผิดชอบอะไรเขาก็เป็นสามีของคุณ มันเกี่ยวอะไรกับฉัน”
“ทีแบบนี้มาบอกว่าเขาเป็นผัวฉันแล้วทีวันอื่นล่ะเธอเอาเขาไปกกอยู่ตั้งนานไม่ละอายใจมั่งเหรอ”
“คุณจะพูดหรือจะคิดอะไรก็แล้วแต่คุณเลยค่ะ ตอนนี้ฉันต้องการแค่ให้คุณไตรฟื้นขึ้นมาเร็วที่สุด เขาจะได้บอกอะไรบางอย่างกับคุณ”
“เธอคงไม่หวังให้เขาฟื้นขึ้นมาแล้วบอกเลิกฉันหรอกนะเพราะมันไม่มีทางเป็นแบบนั้นเลย ถ้าเขาเลิกกับฉันเขาก็เป็นผู้ชายที่เหลือแต่ตัวเท่านั้น”
“เขาจะเหลือแต่ตัวมันก็ไม่เกี่ยวกันฉัน”
“แน่เหรอ ถ้าเขาไม่มีเงินให้เธอจะยอมเป็นเมียน้อยเขาเหรอ รู้ไว้นะบริษัทที่เขาบริหารงานอยู่ตอนนี้มันก็เป็นบริษัทของครอบครัวฉัน เขาจะไม่เหลืออะไรเลยแล้วเธออยากจะได้ผู้ชายที่ไม่เหลืออะไรเลยแบบนั้นหรอก”
“เขมพี่ว่าค่อยๆ คุยกันดีกว่านะเสียงดังเกินไปแล้ว” ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ เตือนน้องสาว
“พี่เข้มจะให้เขมใจเย็นได้ยังไงล่ะ ผู้หญิงคนนี้เป็นเมียน้อยแล้วยังจะมีหน้ามาเยี่ยมพี่ไตรอีก”
“ฉันไม่อยากจะคุยเรื่องนี้กับคุณหรอกค่ะรอให้เขาฟื้นขึ้นมาก่อนดีกว่า” กานต์ชิสาส่ายหัว
“ฉันขอสั่งเธอเลยนะ ว่าห้ามมายุ่งกับพี่ไตรอีกเด็ดขาด อย่ามาให้ฉันเห็นหน้า อย่าให้ฉันรู้ว่าเธอยังแอบมาเยี่ยมเพราะถ้าเป็นแบบนั้นฉันจะทำลายร้านเบเกอรี่เล็กๆ ของเธอให้มันไม่เหลือแม้แต่ซากเลยทีเดียว” เขมิกาขู่ด้วยน้ำเสียงอาฆาต
“โหดร้ายเกินไปไหมคะคุณ แต่คิดเหรอว่าฉันจะกลัวกับคำขู่ของคุณ”
“เธอกำลังท้าทายฉันอยู่นะเปล่าค่ะ”
“ฉันไม่กล้าท้าทายคุณหรอกค่ะ ถ้ายังไงขอตัวกลับก่อนนะคะ” หญิงสาวพูดจบก็เดินออกมาจากบริเวณหน้าห้องไอซียูเข้ามาในลิฟต์โดยไม่ได้สังเกตเลยว่าผู้ชายที่เดินมากับภรรยาคุณไตรภพเดินตามเธอมาด้วย
“ผมขอคุยอะไรกับคุณหน่อยสิ”
“ฉันเหรอคะ”
“ใช่คุณนั่นแหละ”
“แล้วคุณเป็นใครจะมาขอคุยกับฉันได้ยังไง”
“ผมเป็นพี่เขยของนายไตร”
“พี่เขยหมายความว่าคุณคือพี่ชายของผู้หญิงที่ด่าฉันเมื่อกี้เหรอคะ” กานต์ชิสาไม่รู้ว่าเขาจะตามเธอมาทำไม
“ใช่ผมคือใช่ผมคือพี่ชายของเธอ และผมมีอะไรจะตกลงกับคุณหน่อย”
“ทำไมฉันจะต้องตกลงอะไรกับคุณล่ะคะ ในเมื่อฉันกับพี่เขยของคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“คุณอย่าคิดนะว่าผมไม่รู้ว่าคุณกับนายไตรเป็นอะไรกัน”
“แล้วคุณคิดว่าฉันกับเขาเป็นอะไรกัน”
“จะต้องให้ผมพูดอีกเหรอ”
“ก็ได้ค่ะ ไม่พูดก็ไม่พูดงั้นคุณจะคุยอะไรกับฉัน”
“เราไปหาที่นั่งคุยกันดีไหม ร้านกาแฟตรงนั้นเป็นไง” เขาพูดเมื่อลิฟต์มาแล้วเห็นร้านกาแฟพอดี
“ก็ได้ค่ะ”
เมื่อไปถึงร้านทั้งสองก็สั่งเครื่องดื่มและขนมคนละชิ้นจากนั้นชายหนุ่มก็แนะนำตัว
“ผมชื่อเขมณัฏฐ์หรือจะเรียกว่าเข้มก็ได้ แล้วคุณล่ะชื่ออะไร” เขายังไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไรเพราะเขมิกาก็ไม่เคยพูดชื่อภรรยาน้อยของไตรภพให้เขาฟัง
“ฉันชื่อเค้กคุณมีอะไรจะคุยกับฉันก็คุยมาสิคุณเข้ม”
“ผมไม่อยากให้คุณไปยุ่งเกี่ยวกับน้องเขยและน้องสาวผมอีก”
“ฉันไม่ได้อยากยุ่งเกี่ยวเลย ที่ฉันมาวันนี้ก็อยากจะมาดูว่าอาการเขาเป็นยังไงบ้าง”
“ในเมื่อคุณเห็นแล้วว่าตอนนี้เขายังไม่ฟื้นเพราะฉะนั้นคุณก็อย่ามาเยี่ยมพี่เขยผมอีก”
“คนเราจะแสดงความมีน้ำใจมาเยี่ยมกันไม่ได้เชียวเหรอคะ ทำไมคุณจะต้องห้ามด้วย”
“ถ้าเป็นคนอื่นผมคงไม่ห้ามแต่คุณก็รู้ตัวดีว่าคุณเป็นอะไรกับนายไตรผมไม่อยากให้น้องสาวผมไม่สบายใจ”
“ดูท่าทางคุณเป็นพี่ชายที่แสนดีจังเลยนะ”
ชายหนุ่มยิ้มมุมปาก ใช่เขาเป็นพี่ชายที่แสนดีอย่างที่ผู้หญิงก็มีพูดจริงๆ ไม่ว่าน้องสาวของเขาอยากได้อะไรหรือต้องการให้เขาทำอะไรเขมณัฏฐ์ก็จะทำให้น้องสาวทุกอย่าง เพราะมีกันอยู่แค่สองพี่น้องเนื่องจากบิดามารดาเสียชีวิตไปกันหมดแล้วอะไรก็ตามที่ทำให้เขมิกามีความสุข เขาก็ยินดีทำทุกอย่าง
“ตกลงค่ะ ฉันจะไม่มาเยี่ยมเขาอีกแล้ว แต่ถ้าเขาฟื้นขึ้นมาคุณช่วยรบกวนโทรบอกฉันหน่อยได้ไหม แค่โทรบอกมันคงไม่ลำบาก เกินไปหรอกนะคะ”
“เอาเบอร์โทรศัพท์ของคุณมาสิถ้านายไตรฟื้นผมจะโทรบอกคุณ”
เมื่อแลกเบอร์โทรศัพท์แล้วหญิงสาวก็เดินออกไปจากร้านกาแฟเขมณัฏฐ์มองตามด้วยความเสียดายเพราะเธอเป็นผู้หญิงที่สวยและมีเสน่ห์มาก แต่ไม่น่าจะต้องมาเป็นภรรยาน้อยของใครเลยถ้าหาได้เจอเธอก่อนไตรภพเขาก็อาจจะจีบเธอก็ได้แต่ตอนนี้มันสายไปแล้ว
เขมณัฏฐ์นั่งพิงหัวเตียงมองคนรักที่นอนหลับสนิทอยู่เขามองถึงอนาคตที่มีร่วมกับหญิงสาวการมากรุงเทพฯ ครั้งนี้ชายหนุ่มคิดว่าจะคุยกับกานต์ชิสาอย่างจริงจังด้วยอายุที่มากขึ้น เขมณัฏฐ์ก็อยากจะสร้างครอบครัวและคนเดียวที่เขาจะสร้างด้วยก็คือผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างๆ เพียงคนเดียวเท่านั้นเพราะกำลังคิดอะไรเพลินๆ เลยไม่เห็นว่าตอนนี้หญิงสาวตื่นและกำลังจ้องหน้าเขาอยู่ เธอเองก็กำลังใช้ความคิดอย่างหนักแม้ว่าจะตอบตกลงเป็นแฟนเขาไปแล้วแต่ระยะเวลาที่ได้รู้จักกันมันก็น้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ชายคนอื่นที่เธอเคยคบมากทั้งสองตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองอยู่นานก่อนที่เขมณัฏฐ์จะพูดขึ้น“เค้กคุณกำลังคิดอะไรอยู่หน้าเครียดเชียว”“เค้กกำลังสับสนค่ะ”“สับสนเรื่องอะไรครับ”“ก็เรื่องของเราไงคะ จากนี้ไปมันจะเป็นยังไงต่อคะ”“ก็เหมือนที่ผมพูดเมื่อคืนผมจะอยู่กับคุณที่นี่”“เค้กหมายถึงระยะยาวค่ะ”“เค้กตอบผมมาก่อนว่าตกลงจะเป็นแฟนกับผมแล้วใช่ไหม”“คุณก็รู้นี่คะคุณเข้มว่าระหว่างเรามันมากกว่านั้นและฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะนอนกับคนอื่นโดยไม่คิดอะไรนะคะ คุณพอใจกับคำตอบของเค้กแล้วใช่ไหม”“พอใจมากครับ ผมคิดไว้แล้วว่าอนาคตจากนี้ของเราสองคนจะ
เมื่อประตูห้องนอนปิดลงเขมณัฏฐ์ก็รวบเธอเข้ามาใบหน้าหล่อก้มลงประกบลงบนริมฝีปากสีสวยด้วยความคิดถึงและโหยหา กานต์ชิสายกแขนขึ้นคล้องคอชายหนุ่มพร้อมกับเปิดริมฝีปากให้เขาเข้ามาอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดอย่าเร่าร้อนและดูดดื่มเร่าร้อน ฝ่ามือร้อนลากเลื้อยไปมาตามร่างกายของเธออย่างหลงใหล ริมฝีปากบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงไปตามอารมณ์พิศวาส ก่อนจะลากไล้ริมฝีปากลงมาขบเม้มบนขาวนวลของหญิงสาวจนขึ้นรอยไปหมด“อื้อ.....คุณเข้ม อย่าใจร้อน”“ผมใจเย็นที่สุดแล้วนะที่รัก ผมคิดถึงคุณมากนะ ให้ใจเย็นกว่านี้คงไม่ไหวแล้ว”เสียงแหบพร่าของเขมณัฏฐ์พูดอย่างเอาแต่ใจก่อนจะพาเธอมายังเตียงกว้างแล้วดันให้เธอนอนลงไปก่อนที่ตนเองจะคร่อมทับลงไปหาอย่างรวดเร็วริมฝีปากหนาก้มลงซุกไซ้ขบเม้มไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น เสียงลมหายใจหนักหน่วงของเขาร้อนแรงขึ้นมากกว่าเดิม บ่งบอกถึงความต้องการที่กำลังพุ่งสูงสูงขึ้น ริมฝีปากร้อนขมเม้มลงบนซอกคอสูดกลิ่นกายที่แสนคิดถึง กานต์ชิสาแหงนหน้าไปด้านบนเพื่อเปิดซอกคอให้เขาซุกไซ้ได้อย่างถนัดเขมณัฏฐ์ขยับริมฝีปากขึ้นมามอบจูบให้เธออีกครั้ง ส่งเรียวลิ้นสอดแทรกตวัดรัดรึงกับเรียวลิ้นเล็กที่หอมหวานในโพรงปากอย
หลังจากที่เขมณัฏฐ์คุยกับชลนิภาและตกลงจ่ายเงินให้หญิงสาวหนึ่งก้อนเพื่อให้เลิกยุ่งกับไตรภพแล้วชายหนุ่มก็ต้องรีบกลับสุโขทัยเพราะงานที่นั่นมีปัญหาเขาไม่มีโอกาสได้เจอกับกานต์ชิสาอีกเลยแต่ชายหนุ่มก็ยังโทรมาหาหญิงสาวอยู่บ่อยๆ ส่วนกานต์ชิสาเองก็ทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งงานของเธอก็กำลังไปได้ดีหญิงสาวมีหน้าที่ให้คำปรึกษากับผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าและลูกชายของเจ้าของโรงพยาบาลที่เป็นหมอแผนกศัลยกรรมก็ชวนให้เธอไปให้คำปรึกษากับผู้ป่วยที่ต้องการมาทำศัลยกรรมอีกด้วย มันเลยทำให้เธอค่อนข้างยุ่งและไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องของเขมณัฏฐ์มากนัก“เค้กพรุ่งนี้ค่ำเค้กช่วยอะไรพี่หน่อยได้ไหม” กานต์สิชาถามน้องสาวฝาแฝดที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา“ให้ช่วยอะไรคะ”“พอดีมีลูกค้าสั่งเค้กวันเกิด แล้วเขาอยากให้พี่เอาไปส่งที่คอนโด แต่มันเป็นช่วงที่เด็กเลิกงานแล้ว ถ้ายังไงเค้กเอาไปส่งให้พี่หน่อยได้ไหม”“แต่กว่าเค้กจะเลิกงานก็ทุ่มหนึ่งเลยนะคะพี่ครีม ลูกค้าเขาจะรอไหวไหม”“ไหวสิลูกค้าบอกว่าไปตอนไหนก็ได้แต่ขอเป็นช่วงค่ำๆ เค้กกลับบ้านมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ยังทันเลย”“ถ้างั้นเดี๋ยวเค้กจะเอาไปส่งให้ค่ะ แล้วเค้กต้องเ
“สวัสดีค่ะคุณเข้มโทรหาเค้กมีอะไรหรือเปล่า”“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณเยอะเลยเค้ก”“เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่คุณมีฝาแฝดและผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงยอมไปกับผม”“เค้กก็บอกคุณแล้วนี่ว่าเค้กไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายที่ร้าน อีกอย่างพี่สาวของเค้กเป็นคนที่ไม่ค่อยสู้คนเท่าไหร่ เค้กก็เลยเลือกที่จะไปกับคุณ เพื่อกันให้พี่สาวออกห่างจากเรื่องนี้”“ผมมาคิดดูอีกทีมันดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่เลยนะ”“อย่าคิดมากเลยน่า ยังไงเรื่องทุกอย่างมันก็จบลงด้วยดีแล้วนะคะ”“แต่ผมว่ามันยังไม่จบนะ”“ก็ตอนนี้น้องสาวคุณก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้วนี่คะ ส่วนเรื่องเมียน้อยของคุณไตรภพเดี๋ยวพี่ครีมจะนัดให้คุณเจอกับเธอเองจากนั้นจะตกลงกันยังไงก็แล้วแต่คุณเข้มเลย คุณเข้มจะอยู่ที่กรุงเทพถึงวันไหนคะเค้กจะได้บอกพี่ครีมให้รีบนัดให้นิไปเจอกับคุณเข้ม”“ผมน่าจะอยู่อีกหลายวัน พรุ่งนี้เราออกมาเจอกันหน่อยไหม หรือจะให้ผมไปหาที่ร้านก็ได้นะ”“เค้กไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้ตัวเองจะอยู่ที่ร้านหรือเปล่า”“พี่สาวคุณบอกว่าคุณเพิ่งกลับมาจากอังกฤษใช่ไหม”“ใช่ค่ะ เค้กกำลังจะกลับมาเริ่มงานที่นี่”“ผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับคุณเลย ผมถามหน่อยได้ไหมล่ะว่าคุณจะมาทำ
“พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ” กานต์สิชาพูดกับน้องสาวหลังจากที่ทั้งสองคนทานอาหารเย็นเสร็จและมาแล้วอยู่หน้าทีวีในห้องรับแขก“จะคุยอะไรคะพี่ครีมเค้กมาเหนื่อยๆ อยากจะนอนพักจังเลย”“นอนพักน่ะเค้กจะนอนเมื่อไหร่ก็ได้แต่เค้กต้องคุยกับพี่”“คุยเรื่องอะไรคะ” เมื่อรู้ว่าไม่สามารถเลี่ยงได้กานต์ชิสาก็ ต้องยอมคุยกับพี่สาว“ที่หายไปหนึ่งเดือนไปเที่ยวกับเพื่อนจริงๆ หรือไปอยู่กับคุณเข้ม”“ใครจะไปอยู่กับคุณเข้มกันคะพี่ครีม เค้กกับเขาไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นเราก็เพิ่งเจอกันที่โรงพยาบาลแค่ครั้งเดียวเองนะคะ”“เราเป็นเราสองคนเป็นอะไรกันเหรอเค้ก”“พี่ครีมถามอะไรแปลกๆ เราก็เป็นพี่น้องกันไงคะ พี่ครีมเป็นพี่เค้กสองนาที”“ใช่เพราะเราเป็นพี่น้องและไม่ใช่พี่น้องธรรมดาสิ เราเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน พี่มีความรู้สึกว่าเค้กกับคุณเข้มมันไม่ใช่แค่คนรู้จักกันธรรมดา บอกความจริงพี่มา ถ้าไม่อย่างั้นพี่จะโทรไปฟ้องพ่อว่าตั้งแต่เค้กกลับมาถึงเมืองไทยเค้กไม่เคยช่วยพี่ทำงานเลยและหายไปกับผู้ชายหนึ่งเดือน เค้กคิดว่าจะบอกความจริงกับพี่หรือจะบอกกับพ่อดีล่ะ เลือกเอานะ” กานต์สิชาพูดกับน้องสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังและเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าถ้าไม
เขมณัฏฐ์ขับรถพาคู่แฝดมายังโรงพยาบาลที่น้องเขยของเขารักษาตัวอยู่เมื่อประตูห้องเปิดออกเขมิกาก็รีบลุกขึ้นมาหาพี่ชาย“พี่เข้มเขมคิดถึงพี่จัง”“พี่ก็คิดถึงเขมเป็นไงช่วงนี้แพ้ท้องหนักหรือเปล่า”“ไม่ค่อยแพ้แล้วค่ะ”“เขมที่พาคุณมาเจอเขมด้วยนะ” ชายหนุ่มเบี่ยงตัวให้ผู้หญิงที่เดินตามมาด้านหลังเผชิญหน้ากับน้องสาวของตนเอง“นี่ยังจะมีหน้ามาเยี่ยมพี่ไตรอีกเหรอ แต่เอ๊ะ!”หญิงสาวหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าสองคนนั้นหน้าเหมือนกันมากๆ จนเธอแทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นใครและเขมิกาก็จำไม่ได้ว่าผู้หญิงคนไหนที่นั่งรถไปกับสามีของเธอในคืนวันเกิดเหตุ“แล้วคนไหนล่ะที่เป็นเมียน้อยผัวของฉันหรือเป็นเมียน้อยด้วยกันทั้งคู่”“เปล่านะคะ เราสองคนไม่มีใครเป็นเมียน้อยคุณไตรภพทั้งนั้น” กานต์ชิสารีบพูดขึ้น“ไม่ต้องมาโกหกเลย ก็คืนนั้นฉันจำได้ว่าเธอ คนที่เป็นเจ้าของร้านเค้กอยู่ในรถคันเดียวกับพี่ไตร”“ใช่ค่ะ คืนนั้นฉันอยู่ในรถคันเดียวกับคุณไตรภพจริงๆ แต่ฉันไม่ใช่เมียน้อยของเขาหรอกนะคะแต่ฉันรู้ว่าเมียน้อยของเขาคือใคร”“ใครพาฉันไปเจอมันเดี๋ยวนี้นะ ฉันอยากจะเห็นหน้ามันจังว่ามันเป็นใคร”“เขมไม่ต้องไปเห็นหน้าเขาหร