กานต์ชิสากลับมาถึงบ้านในเวลาบ่ายซึ่งตอนนี้กานต์สิชาแฝดคนเป็นพี่ก็กำลังรอฟังข่าวอยู่ที่บ้าน
“เป็นยังไงบ้างเค้กคุณไตรภพฟื้นหรือยัง”
“ยังเลย เค้กไปเจอเมียเขาด้วยนคะ เขาคิดว่าเค้กคือพี่”
“อะไรนะ แล้วเขาว่าอะไรเค้กหรือเปล่า”
“ก็ไม่เชิงหรอกค่ะ แต่เขาบอกว่าห้ามเราไปเยี่ยม ถ้าหากเราไม่เชื่อและยังไปเยี่ยมสามีเขาอีก เขาอาจจะส่งคนมาพังร้านก็ได้ ทำไมคุณเขมิกาถึงใจร้ายแบบนั้นล่ะพี่ครีม”
“พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันปกติเขาก็ไม่เคยมาวุ่นวายเลย”
“หรือเป็นเพราะอาการสามีเขาก็ค่อนข้างหนัก”
“หนักเหรอแต่เมื่อวานพยาบาลบอกว่ามีแค่ขาหักเองนะ”
“อือ เค้กก็ได้ยินแบบนั้น แต่ตอนนี้เขายังอยู่ในห้องไอซียู เมียเขาบอกว่าเขามีเลือดออกในสมองด้วย ไม่รู้ว่าจะฟื้นมาตอนไหนแล้วจะจำอะไรได้หรือเปล่า”
“พี่ไม่คิดเลยว่าอาการเขาจะหนักขนาดนั้น”
“เค้กก็ไม่คิดเหมือนกัน ถ้าเกิดสามีเขาเป็นอะไรไปขึ้นมาจริงๆเค้กว่าพี่ครีมแย่แน่ เขายิ่งโทษว่าเป็นความผิดของพี่อยู่”
“จะว่าเป็นความผิดของพี่ยังไง เขาเองแหละที่ขับรถไล่เบียดจนคุณไตรภพต้องขับรถหนี”
“แล้วแบบนี้เราจะเอายังไงกันต่อล่ะ ถ้าคุณไตรภพเขาไม่ฟื้นและมาบอกความจริงกับเมียของเขา เค้กว่าพี่ครีมแย่แน่ระหว่างนี้พี่ก็ระวังตัวเองหน่อยนะ แล้วเด็กที่ชื่อนิรู้เรื่องนี้หรือยัง”
“เมื่อตอนเที่ยงพี่โทรไปบอกเขาแล้ว เขาตกใจอยู่เหมือนกันเห็นว่าเย็นนี้เขาจะไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลนะ”
“ถ้าเกิดเขาไปเจอเมียคุณไตรภพล่ะมันจะเป็นยังไง เค้กว่าเมียเขาคงไม่พอใจแน่”
“เมียเขาไม่รู้หรอกว่านิคือเมียน้อยของสามีเขา ถ้าเจอกันแล้วนิไม่แสดงตัวก็คงไม่เป็นอะไรมาก”
“แต่ก็น่าห่วงอยู่เหมือนกันนะ เมียเขาท่าทางเอาเรื่องอยู่เหมือนกันนะ เขาโกรธที่สามีเขามีเมียน้อยแล้วก็โกรธที่สามียังไม่ฟื้น เค้กล่ะกลัวใจผู้หญิงคนนี้จริงๆ ท่าทางเขาอาฆาตมากนะคะ”
“ไม่ต้องกลัวหรอกน่ามันไม่ใช่เรื่องจริงสักหน่อยเขาไม่ทำอะไรเราหรอก ถ้าเขาจะทำเขาก็คงทำนานแล้วเพราะเรื่องที่คุณไตรภพคบกับนิมันก็เกิดมาหลายเดือนแล้ว”
“ก็ตอนนั้นมันยังไม่มีอุบัติเหตุนี่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนเขาจะโกรธจริงๆ นะเค้กว่าเราปิดร้านกันก่อนได้ไหม เค้กกลัวเขาจะมาทำอันตรายพี่ที่ร้านนะ”
“ร้านก็ขาดรายได้สิ พี่ไม่ยอมหรอก แล้วอีกอย่างตอนนี้พี่ก็ไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวนะพี่มีเค้กมาอยู่ด้วย” กานต์สิชารู้สึกสบายใจมากที่มีน้องสาวมาอยู่ด้วยแบบนี้ ที่ผ่านมาเธออยู่ตัวคนเดียวมาตลอดเพราะหลังจากมารดาเสียชีวิตเมื่อหลายปีก่อนหญิงสาวก็ไม่ยอมย้ายไปอยู่กับครอบครัวใหม่ของบิดาที่ประเทศอังกฤษ
เพราะอยากจะสานต่อร้านขนมที่สืบทอดมาจากมารดาของตนเองเธอช่วยมารดาทำขนมขายในร้านมาตั้งแต่ตนเองอายุ 15 นับมาถึงตอนนี้ก็เกือบจะ 10 ปีแล้วถ้าให้ต้องไปทำงานอย่างอื่นก็คงทำได้ไม่ดีเท่ากับการทำขนมแน่ๆ
บ้านของไตรภพ
“พี่เข้มไปคุยอะไรกับผู้หญิงคนนั้น” เขมิกาถามพี่ชายเมื่อเขาเดินเข้ามาบริเวณห้องรับแขก
“ก็ไม่มีอะไรหรอก พี่ก็แค่ถามเรื่องอุบัติเหตุเมื่อคืน”
“พี่ยังจะต้องถามอะไรอีก ก็เห็นกันอยู่ว่าเป็นเพราะเธอทำให้พี่ไตรถึงยังต้องนอนอยู่ในห้องไอซียูแบบนั้น”
“แต่เขมจะโทษว่าเป็นความผิดของเธอมันก็ไม่ถูกหรอกนะ ถ้าเขมไม่ใจร้อนขับรถตามอุบัติเหตุมันก็อาจจะไม่เกิดขึ้น”
“พี่เข้มคิดว่าเป็นความผิดของเขมเหรอคะ”
“จริงๆ เขมก็มีส่วนผิดนะ ถ้าเขมไม่ขับตามเขาก็คงไม่ขับหนี”
“พี่เข้มเชื่อคำพูดของผู้หญิงคนนั้นมากกว่าเชื่อน้องของพี่เข้มเหรอ” เขมิกาบีบน้ำตาเพราะรู้ว่าพี่ชายของตนเองนั้นเป็นคนใจอ่อน
“โธ่...เขมพี่ไม่ได้คิดแบบนั้นเลย พี่จะไปเชื่อผู้หญิงคนอื่นมากกว่าน้องสาวของพี่ได้ยังไง พี่ว่าเขมไปพักผ่อนก่อนดีกว่านะ
“พี่เข้มต้องช่วยเขมนะคะ”
“จะให้พี่ช่วยยังไง”
“ช่วยกันผู้หญิงคนนี้ออกไปจากพี่ไตร”
“จะต้องกังวลอะไรอีกล่ะเขม ตอนนี้นายไตรมันก็นอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลยังไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ”
“แต่เขมกลัวค่ะ ถ้าพี่ไตรฟื้นขึ้นมาแล้วจำอะไรไม่ได้ แล้วเขาเจอผู้หญิงคนนั้นก่อนเขมล่ะคะ เรื่องมันจะเป็นยังไง เขมไม่ยอมหรอกนะคะเขมไม่อยากให้พี่ไตรเจอผู้หญิงคนนั้นตลอดไปเลยยิ่งดี”
“เขมก็สั่งพยาบาลไว้แล้วว่าไม่ให้ผู้หญิงคนไหนเข้าเยี่ยมนายไตรแล้วยังจะต้องกลัวอะไรอีก”
“ไม่รู้สิคะพี่เข้ม ตอนนี้เขมระแวงไปหมดแล้ว พี่เขมช่วยพาผู้หญิงคนนี้ออกไปจากชีวิตของพี่ไตรหน่อยได้ไหม”
“พี่จะทำอย่างนั้นได้ยังไง”
“ได้สิคะ พี่เข้มพาเธอไปอยู่สุโขทัยก็ได้”
“พี่จะพาผู้หญิงคนนั้นไปอยู่ที่นั่นก็ได้แต่จะพาเขาไปอยู่ที่นั่นตลอดไปไม่ได้หรอกนะ ใครเขาจะยอม”
“ไม่รู้แหละพี่เข้มต้องพาเธอไปอยู่ที่อื่นแล้วถ้าเกิดพี่ไตรฟื้นเขมจะให้พี่ไตรบอกเลิกผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าเขม”
“แล้วคิดว่าจะบังคับนายไตรได้เหรอ”
“ได้สิเพราะครั้งนี้เขมมีข้อต่อรอง”
“ข้อต่อรองอะไร”
“เขมกำลังท้องค่ะพี่เข้ม เขมจะกำลังจะมีลูกกับพี่ไตร ถ้าฟื้นขึ้นมาพี่ไตรจะต้องดีใจมากๆ ที่ได้ยินเรื่องนี้”
“จริงเหรอเขม เขมท้องจริงๆ ใช่ไหม”
“จริงค่ะเขมเพิ่งรู้เย็นเมื่อวานเองและเขมก็อยากจะบอกพี่ไตรแต่ไม่คิดเลยว่าตามไปหาแล้วจะเจอเขาออกมาจากโรงแรมกับผู้หญิงคนนั้น เขมก็เลยขับรถตามอยากจะบอกข่าวดีกับพี่ไตรและให้พี่ไตรเลิกกับผู้หญิงคนนั้นอย่างเด็ดขาด”
“เขมคิดว่าเรื่องลูกจะมัดใจนายไตรได้ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ เขมรู้ว่าพี่ไตรเขาอยากมีลูกมากๆ ถ้าเขารู้ว่าเขมท้องเขาจะต้องเลิกยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นแน่ๆ พี่เข้มช่วยเขมนะคะ ช่วยกันผู้หญิงคนนี้ออกไปจากชีวิตของพี่ไตรได้ไหมอย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะฟื้นแล้วมาบอกเลิกผู้หญิงคนนั้นต่อหน้าเขม เขมถึงจะสบายใจ พี่เข้มคงไม่อยากให้เขมเครียดหรอกนะคะ เพราะถ้าเครียดเมื่อไหร่มันก็จะกระทบกับเด็กในท้องซึ่งเป็นหลานของพี่เข้ม” เขมิกาทำให้เขมณัฏฐ์คิดหนักเพราะการจะพาใครสักคนไปอยู่ด้วยมันเป็นเรื่องที่ยากและดูท่าทางแล้วผู้หญิงที่ชื่อกานต์ชิสาก็คงไม่ยอมง่ายๆ
“แล้วเขมคิดว่าเธอจะยอมไปกับพี่ง่ายๆ เหรอ”
“เธอไม่ยอมเสนอเงินให้เธอสิคะหรือไม่ก็ฉุดเธอไปเลยก็ได้ไม่เห็นจะยากเลย”
“นั่นมันคุกนะเขม”
“ไม่มีผู้หญิงคนไหนกล้าไปแจ้งความเรื่องนี้หรอกค่ะ” เขมิกากล่าวมั่นใจเพราะถ้าหากตนเองถูกฉุดไปก็คงไม่กล้าบอกใครอย่างแน่นอน
เขมณัฏฐ์นั่งพิงหัวเตียงมองคนรักที่นอนหลับสนิทอยู่เขามองถึงอนาคตที่มีร่วมกับหญิงสาวการมากรุงเทพฯ ครั้งนี้ชายหนุ่มคิดว่าจะคุยกับกานต์ชิสาอย่างจริงจังด้วยอายุที่มากขึ้น เขมณัฏฐ์ก็อยากจะสร้างครอบครัวและคนเดียวที่เขาจะสร้างด้วยก็คือผู้หญิงที่นอนอยู่ข้างๆ เพียงคนเดียวเท่านั้นเพราะกำลังคิดอะไรเพลินๆ เลยไม่เห็นว่าตอนนี้หญิงสาวตื่นและกำลังจ้องหน้าเขาอยู่ เธอเองก็กำลังใช้ความคิดอย่างหนักแม้ว่าจะตอบตกลงเป็นแฟนเขาไปแล้วแต่ระยะเวลาที่ได้รู้จักกันมันก็น้อยมากเมื่อเทียบกับผู้ชายคนอื่นที่เธอเคยคบมากทั้งสองตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตนเองอยู่นานก่อนที่เขมณัฏฐ์จะพูดขึ้น“เค้กคุณกำลังคิดอะไรอยู่หน้าเครียดเชียว”“เค้กกำลังสับสนค่ะ”“สับสนเรื่องอะไรครับ”“ก็เรื่องของเราไงคะ จากนี้ไปมันจะเป็นยังไงต่อคะ”“ก็เหมือนที่ผมพูดเมื่อคืนผมจะอยู่กับคุณที่นี่”“เค้กหมายถึงระยะยาวค่ะ”“เค้กตอบผมมาก่อนว่าตกลงจะเป็นแฟนกับผมแล้วใช่ไหม”“คุณก็รู้นี่คะคุณเข้มว่าระหว่างเรามันมากกว่านั้นและฉันก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่จะนอนกับคนอื่นโดยไม่คิดอะไรนะคะ คุณพอใจกับคำตอบของเค้กแล้วใช่ไหม”“พอใจมากครับ ผมคิดไว้แล้วว่าอนาคตจากนี้ของเราสองคนจะ
เมื่อประตูห้องนอนปิดลงเขมณัฏฐ์ก็รวบเธอเข้ามาใบหน้าหล่อก้มลงประกบลงบนริมฝีปากสีสวยด้วยความคิดถึงและโหยหา กานต์ชิสายกแขนขึ้นคล้องคอชายหนุ่มพร้อมกับเปิดริมฝีปากให้เขาเข้ามาอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดอย่าเร่าร้อนและดูดดื่มเร่าร้อน ฝ่ามือร้อนลากเลื้อยไปมาตามร่างกายของเธออย่างหลงใหล ริมฝีปากบดขยี้จูบอย่างหนักหน่วงไปตามอารมณ์พิศวาส ก่อนจะลากไล้ริมฝีปากลงมาขบเม้มบนขาวนวลของหญิงสาวจนขึ้นรอยไปหมด“อื้อ.....คุณเข้ม อย่าใจร้อน”“ผมใจเย็นที่สุดแล้วนะที่รัก ผมคิดถึงคุณมากนะ ให้ใจเย็นกว่านี้คงไม่ไหวแล้ว”เสียงแหบพร่าของเขมณัฏฐ์พูดอย่างเอาแต่ใจก่อนจะพาเธอมายังเตียงกว้างแล้วดันให้เธอนอนลงไปก่อนที่ตนเองจะคร่อมทับลงไปหาอย่างรวดเร็วริมฝีปากหนาก้มลงซุกไซ้ขบเม้มไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น เสียงลมหายใจหนักหน่วงของเขาร้อนแรงขึ้นมากกว่าเดิม บ่งบอกถึงความต้องการที่กำลังพุ่งสูงสูงขึ้น ริมฝีปากร้อนขมเม้มลงบนซอกคอสูดกลิ่นกายที่แสนคิดถึง กานต์ชิสาแหงนหน้าไปด้านบนเพื่อเปิดซอกคอให้เขาซุกไซ้ได้อย่างถนัดเขมณัฏฐ์ขยับริมฝีปากขึ้นมามอบจูบให้เธออีกครั้ง ส่งเรียวลิ้นสอดแทรกตวัดรัดรึงกับเรียวลิ้นเล็กที่หอมหวานในโพรงปากอย
หลังจากที่เขมณัฏฐ์คุยกับชลนิภาและตกลงจ่ายเงินให้หญิงสาวหนึ่งก้อนเพื่อให้เลิกยุ่งกับไตรภพแล้วชายหนุ่มก็ต้องรีบกลับสุโขทัยเพราะงานที่นั่นมีปัญหาเขาไม่มีโอกาสได้เจอกับกานต์ชิสาอีกเลยแต่ชายหนุ่มก็ยังโทรมาหาหญิงสาวอยู่บ่อยๆ ส่วนกานต์ชิสาเองก็ทำงานที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง ซึ่งงานของเธอก็กำลังไปได้ดีหญิงสาวมีหน้าที่ให้คำปรึกษากับผู้ป่วยที่เป็นโรคซึมเศร้าและลูกชายของเจ้าของโรงพยาบาลที่เป็นหมอแผนกศัลยกรรมก็ชวนให้เธอไปให้คำปรึกษากับผู้ป่วยที่ต้องการมาทำศัลยกรรมอีกด้วย มันเลยทำให้เธอค่อนข้างยุ่งและไม่มีเวลาคิดถึงเรื่องของเขมณัฏฐ์มากนัก“เค้กพรุ่งนี้ค่ำเค้กช่วยอะไรพี่หน่อยได้ไหม” กานต์สิชาถามน้องสาวฝาแฝดที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนโซฟา“ให้ช่วยอะไรคะ”“พอดีมีลูกค้าสั่งเค้กวันเกิด แล้วเขาอยากให้พี่เอาไปส่งที่คอนโด แต่มันเป็นช่วงที่เด็กเลิกงานแล้ว ถ้ายังไงเค้กเอาไปส่งให้พี่หน่อยได้ไหม”“แต่กว่าเค้กจะเลิกงานก็ทุ่มหนึ่งเลยนะคะพี่ครีม ลูกค้าเขาจะรอไหวไหม”“ไหวสิลูกค้าบอกว่าไปตอนไหนก็ได้แต่ขอเป็นช่วงค่ำๆ เค้กกลับบ้านมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนก็ยังทันเลย”“ถ้างั้นเดี๋ยวเค้กจะเอาไปส่งให้ค่ะ แล้วเค้กต้องเ
“สวัสดีค่ะคุณเข้มโทรหาเค้กมีอะไรหรือเปล่า”“ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณเยอะเลยเค้ก”“เรื่องอะไรคะ”“ก็เรื่องที่คุณมีฝาแฝดและผมอยากรู้ว่าทำไมคุณถึงยอมไปกับผม”“เค้กก็บอกคุณแล้วนี่ว่าเค้กไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายที่ร้าน อีกอย่างพี่สาวของเค้กเป็นคนที่ไม่ค่อยสู้คนเท่าไหร่ เค้กก็เลยเลือกที่จะไปกับคุณ เพื่อกันให้พี่สาวออกห่างจากเรื่องนี้”“ผมมาคิดดูอีกทีมันดูไม่ค่อยมีเหตุผลเท่าไหร่เลยนะ”“อย่าคิดมากเลยน่า ยังไงเรื่องทุกอย่างมันก็จบลงด้วยดีแล้วนะคะ”“แต่ผมว่ามันยังไม่จบนะ”“ก็ตอนนี้น้องสาวคุณก็เข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้วนี่คะ ส่วนเรื่องเมียน้อยของคุณไตรภพเดี๋ยวพี่ครีมจะนัดให้คุณเจอกับเธอเองจากนั้นจะตกลงกันยังไงก็แล้วแต่คุณเข้มเลย คุณเข้มจะอยู่ที่กรุงเทพถึงวันไหนคะเค้กจะได้บอกพี่ครีมให้รีบนัดให้นิไปเจอกับคุณเข้ม”“ผมน่าจะอยู่อีกหลายวัน พรุ่งนี้เราออกมาเจอกันหน่อยไหม หรือจะให้ผมไปหาที่ร้านก็ได้นะ”“เค้กไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้ตัวเองจะอยู่ที่ร้านหรือเปล่า”“พี่สาวคุณบอกว่าคุณเพิ่งกลับมาจากอังกฤษใช่ไหม”“ใช่ค่ะ เค้กกำลังจะกลับมาเริ่มงานที่นี่”“ผมไม่เคยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับคุณเลย ผมถามหน่อยได้ไหมล่ะว่าคุณจะมาทำ
“พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ” กานต์สิชาพูดกับน้องสาวหลังจากที่ทั้งสองคนทานอาหารเย็นเสร็จและมาแล้วอยู่หน้าทีวีในห้องรับแขก“จะคุยอะไรคะพี่ครีมเค้กมาเหนื่อยๆ อยากจะนอนพักจังเลย”“นอนพักน่ะเค้กจะนอนเมื่อไหร่ก็ได้แต่เค้กต้องคุยกับพี่”“คุยเรื่องอะไรคะ” เมื่อรู้ว่าไม่สามารถเลี่ยงได้กานต์ชิสาก็ ต้องยอมคุยกับพี่สาว“ที่หายไปหนึ่งเดือนไปเที่ยวกับเพื่อนจริงๆ หรือไปอยู่กับคุณเข้ม”“ใครจะไปอยู่กับคุณเข้มกันคะพี่ครีม เค้กกับเขาไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นเราก็เพิ่งเจอกันที่โรงพยาบาลแค่ครั้งเดียวเองนะคะ”“เราเป็นเราสองคนเป็นอะไรกันเหรอเค้ก”“พี่ครีมถามอะไรแปลกๆ เราก็เป็นพี่น้องกันไงคะ พี่ครีมเป็นพี่เค้กสองนาที”“ใช่เพราะเราเป็นพี่น้องและไม่ใช่พี่น้องธรรมดาสิ เราเป็นพี่น้องฝาแฝดกัน พี่มีความรู้สึกว่าเค้กกับคุณเข้มมันไม่ใช่แค่คนรู้จักกันธรรมดา บอกความจริงพี่มา ถ้าไม่อย่างั้นพี่จะโทรไปฟ้องพ่อว่าตั้งแต่เค้กกลับมาถึงเมืองไทยเค้กไม่เคยช่วยพี่ทำงานเลยและหายไปกับผู้ชายหนึ่งเดือน เค้กคิดว่าจะบอกความจริงกับพี่หรือจะบอกกับพ่อดีล่ะ เลือกเอานะ” กานต์สิชาพูดกับน้องสาวด้วยสีหน้าที่จริงจังและเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าถ้าไม
เขมณัฏฐ์ขับรถพาคู่แฝดมายังโรงพยาบาลที่น้องเขยของเขารักษาตัวอยู่เมื่อประตูห้องเปิดออกเขมิกาก็รีบลุกขึ้นมาหาพี่ชาย“พี่เข้มเขมคิดถึงพี่จัง”“พี่ก็คิดถึงเขมเป็นไงช่วงนี้แพ้ท้องหนักหรือเปล่า”“ไม่ค่อยแพ้แล้วค่ะ”“เขมที่พาคุณมาเจอเขมด้วยนะ” ชายหนุ่มเบี่ยงตัวให้ผู้หญิงที่เดินตามมาด้านหลังเผชิญหน้ากับน้องสาวของตนเอง“นี่ยังจะมีหน้ามาเยี่ยมพี่ไตรอีกเหรอ แต่เอ๊ะ!”หญิงสาวหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าตอนนี้ผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าสองคนนั้นหน้าเหมือนกันมากๆ จนเธอแทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นใครและเขมิกาก็จำไม่ได้ว่าผู้หญิงคนไหนที่นั่งรถไปกับสามีของเธอในคืนวันเกิดเหตุ“แล้วคนไหนล่ะที่เป็นเมียน้อยผัวของฉันหรือเป็นเมียน้อยด้วยกันทั้งคู่”“เปล่านะคะ เราสองคนไม่มีใครเป็นเมียน้อยคุณไตรภพทั้งนั้น” กานต์ชิสารีบพูดขึ้น“ไม่ต้องมาโกหกเลย ก็คืนนั้นฉันจำได้ว่าเธอ คนที่เป็นเจ้าของร้านเค้กอยู่ในรถคันเดียวกับพี่ไตร”“ใช่ค่ะ คืนนั้นฉันอยู่ในรถคันเดียวกับคุณไตรภพจริงๆ แต่ฉันไม่ใช่เมียน้อยของเขาหรอกนะคะแต่ฉันรู้ว่าเมียน้อยของเขาคือใคร”“ใครพาฉันไปเจอมันเดี๋ยวนี้นะ ฉันอยากจะเห็นหน้ามันจังว่ามันเป็นใคร”“เขมไม่ต้องไปเห็นหน้าเขาหร