แชร์

บทที่11

ผู้เขียน: ชุนกวงห่าว
สีหน้าเธอเรียบเฉย ทำให้เหลียงหยวนโจวรู้สึกเบื่อสุดๆ หัวเราะเยาะแล้วเข้าไปที่ห้องครัว

ตอนนี้แกล้งทำเป็นใจกว้าง ก็แค่เพื่อจะแต่งงานกับเขา

รอทั้งสองแต่งงานแล้ว ยังไม่รู้ว่าจะเสแสร้งขนาดไหน

กลับไปถึงห้อง สืออวี๋ก็เปิดคอมพิวเตอร์ ปรับอารมณ์ให้สงบแล้วทำงานต่อ

ในวันต่อๆ มา เธอก็ยุ่งอยู่กับงาน กลับบ้านดึกทุกวัน เหลียงหยวนโจวไม่ก็นั่งดูเอกสารอยู่ที่ห้องนั่งเล่น ไม่ก็ยังไม่กลับ

ทั้งสองอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน แต่สองสามวันมานี้คุยกันยังไม่ถึงห้าประโยคเลย

ถ้าเป็นแต่ก่อน สืออวี๋คงทนไม่ได้ ต้องเป็นคนไปง้อขอคืนดีเหลียงหยวนโจวแล้ว แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกสบายใจ ไม่รู้สึกอึดอัดสักนิดเลย

เหลียงหยวนโจวเองก็สังเกตเห็นเหมือนกัน ครั้งนี้เขาย้ายกลับมา สืออวี๋ปฏิบัติกับเขาเย็นชามากขึ้น

ทำอาหารก็ทำแค่ของตัวเอง ตอนกลางคืนก็ไม่เปิดไว้ให้เขา เขาไปงานสังสรรค์กลับมาก็ไม่ทำต้มยาแก้เมาค้างให้เขา เขาไม่กลับมาทั้งคืนก็ไม่ถามเหตุผล

พวกเขาเหมือนรูมเมทที่จำเป็นต้องเช่าอยู่ด้วยกันเพราะไม่มีเงิน ต่างคนต่างไม่ยุ่งเกี่ยวกัน และแทบไม่มีปฏิสัมพันธ์กันเลย

แต่เหลียงหยวนโจวกลับสบายใจมาก เพราะตอนนี้เขาไม่ได้รักสืออวี๋แล้ว ก็ไม่อยากเปลืองแรงไปง้อเธอ

พอถึงวันหยุด เซี่ยงชินเฟินก็มาหาพวกเขาโดยตนเอง และไปถ่ายรูปพรีเวดดิ้งกับพวกเขา

หลังถ่ายชุดแรกเสร็จ สืออวี๋นั่งแต่งหน้าอยู่หน้ากระจก เหลียงหยวนโจวก็นั่งเเล่นโทรศัพท์บนโซฟาด้านหลังเธอ

พึ่งแต่งงานเสร็จ ทันใดนั้นสีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็เปลี่ยนไป ลุกขึ้นแล้วพูดว่า “พรีเวดดิ้งค่อยถ่ายวันอื่น ตอนนี้ผมมีเรื่องเร่งด่วน”

สืออวี๋ยังไม่ได้พูดอะไร เซี่ยงชินเฟินก็รีบแย่งโทรศัพท์เขามา พูดด้วยความโกรธ “เรื่องอะไรจะไปสำคัญกว่าการถ่ายพรีเวดดิ้ง?!บริษัทแกจะล้มละลายหรือไง?!”

เมื่อกี้เธอนางอยู่ข้างๆ ก็เหลือบมองเห็นผู้หญิงที่เรียกว่าเสินหลีนั้นส่งข้อความหาเหลียงหยวนโจวตลอด แม้ว่าเหลียงหยวนโจวจะไม่ตอบ แต่สีหน้ากลับกังวลอย่างเห็นชัดเจน

“แม่ เอาโทรศัพท์คืนฉัน เสินหลีเธอจะกระโดดตึก ชีวิตคนยังไม่สำคัญกว่าการถ่ายรูปพรีเวดดิ้งหรือไง?!”

เซี่ยงชินเฟินเยาะเย้ย “กระโดดตึก? งั้นก็ให้เธอกระโดดสิ ชู้สาวที่ไร้ยางอายและทำลายความสัมพันธ์ของคนอื่นแบบนี้ อยู่ต่อก็มีแต่จะทำให้คนรู้สึกขยะแขยง!”

“แม่ แม่พอได้แล้วหรือยัง?! ถ้าวันนี้แม่ไม่ให้ผมไป งานผมก็จะไม่แต่งงาน!”

สีหน้าของเหลียงหยวนโจวมืดครึ้ม ออร่ารอบกายเต็มไปด้วยความกดดันและน่ากลัว

“เหลียงหยวนโจว แกพูดอีกรอบสิ!”

เซี่ยงชินเฟินมองเขาด้วยสายตาโกรธจัด ดวงตาเต็มไปด้วยความผิดหวังและความโกรธ ทำให้บรรยากาศรอบตัวเงียบและตึงเครียดขึ้น

สองแม่ลูกสบตากัน ไม่มีใครพูดอะไร

ห้องแต่งหน้าเงียบสนิท พนักงานรอบๆ ก็เบาลมหายใจลงโดยไม่รู้ตัว ทุกวินาทีเหมือนกลายเป็นล่าช้ามาก

ทันใดนั้น เสียงส้นสูงดังขึ้น

สืออวี๋เดินไปข้างๆ เซี่ยงชินเฟิน เอาโทรศัพท์คืนจากมือของเขา

“สืออวี๋……หนู……” เซี่ยงชินเฟินมองดูเธอด้วยความตกตะลึง ไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร

สืออวี๋ไม่มองเซี่ยงชินเฟิน ส่งโทรศัพท์ให้เหลียงหยวนโจว “คุณไปเถอะ”

สีหน้าเธอเรียบเฉย ไม่ได้อาละวาด ไม่ได้ผิดหวังหรือเสียใจ ดวงตาที่มองดูเหลียงหยวนโจวไม่มีอารมณ์ใดๆ

เหมือนมองคนแปลกหน้าคนหนึ่ง

เหลียงหยวนโจวหายใจตึงขึ้น แต่ในวินาทีถัดมา เขาก็รับโทรศัพท์จากมือสืออวี๋ แล้วหันหลังเดินออกไปข้างนอกโดยไม่ลังเล

มองดูแผ่นหลังของเขา สืออวี๋พลางนึกถึงวันที่ถูกตระกูลสือไล่ออกมา มันหนาวมาก มือของเขาแห้งแต่ร้อนอุ่น จับมือเธอแล้วเดินออกไป

ตอนนั้นเธอก็มองแผ่นหลังเขาแบบนี้ ตอนนั้นสิ่งที่คิดอยู่ในใจคือ ต่อไปเขาก็คือที่พึ่งเพียงหนึ่งเดียวของเธอแล้ว

แต่ตอนนี้ เธอทำได้เพียงมองดูเขาเดินไปหาผู้หญิงอีกคน

เธอห้ามไม่ได้ และไม่อยากห้าม

เซี่ยงชินเฟินหันมองสืออวี๋ สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิดแล้วเศร้าโศก “สีอวี่……”

สืออวี๋ยิ้มจางๆ หันมาปลอบใจเธอ “ป้าเซี่ยง หนูรู้ว่าป้าจะพูดอะไร ไม่ต้องพูดแล้ว ไม่เป็นไรค่ะ อีกอย่างรูปพรีเวดดิ้งก็ถ่ายไปชุดหนึ่งแล้ว พอแล้วค่ะ”

“ป้าแค่รู้สึกว่าลำบากใจแทนคุณ”

“ไม่ลำบากใจหรอกค่ะ”

เธอไม่คาดหวังอะไรจากเหลียงหยวนโจวอีกแล้ว จึงไม่มีเหตุผลที่จะรู้สึกลำบากใจอีกต่อไป

เซี่ยงชินเฟินถอนหายใจ อดไม่ได้ที่จะคิดว่า ตัวเองไม่ควรใช้บุญคุณที่ช่วยชีวิตมาบีบบังคับสืออวี๋ให้โอกาสเหลียงหยวนโจวอีกครั้งหรือเปล่า?

แต่ตอนนี้มาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้เสียใจ ก็สายเกินไปแล้ว

ส่งเซี่ยงชินเฟินกลับไป สืออวี๋ก็หันไปถามพนักงาน “พรีเวดดิ้งยังเหลือกี่ชุด?”

“คุณหนูสือ ตอนนั้นพวกคุณเลือกไว้สี่ชุด แล้วทางเราก็เพิ่มให้อีกหนึ่งชุด ยังเหลืออีกสี่ชุดที่ยังไม่ได้ถ่าย คุณจะมาถ่ายเพิ่มภายหลังหรือจะจัดการอย่างไรดีคะ?”

“ไม่ต้องถ่ายเสริม ถ่ายวันนี้ให้เสร็จเลย”

ได้ยินเช่นนี้แล้วพนักงานก็รู้สึกลำบากใจเล็กน้อย “คุณหนูสือ คุณจะถ่ายคนเดียวเหรอคะ?”

“อืม ชุดที่ถ่ายเสร็จแล้ว ช่วยลบเขาออกให้หน่อย แค่ปรับแต่งให้เป็นภาพศิลปะของฉันคนเดียวก็พอแล้ว”

“อ้า?อ๋อ……ได้คะ……งั้นชุดต่อไป จะถ่ายเป็นภาพศิลปะเดี่ยวของคุณใช่ไหม”

สืออวี๋พยักหน้า “อืม”

สตูดิโอนี้เธอเป็นร้านที่เธอเปรียบเทียบมาหลายที่ แล้วเลือกมาตั้งนานถึงจะเลือกออกมาได้ เธอจึงไม่อยากเสียเปล่า

ถ่ายเสร็จ ก็ตอนเย็นหกโมงกว่าแล้ว

สืออวี๋ไปทานข้าวเย็นแถวๆ สตูดิโอแล้วค่อยกลับบ้าน เปิดประตูก็เจอกับความมืดมิดเหมือนที่คาดไว้

ถ่ายรูปมาทั้งวัน สืออวี๋เหนื่อยมาก กลับห้องไปอาบน้ำแล้วเข้านอนโดยตรงเลย

เช้าวันต่อมา สืออวี๋ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จกำลังจะเตรียมออกไป ก็ถูกเหลียงหยวนโจวเรียกเอาไว้

“สืออวี๋ เราคุยกันหน่อยเถอะ”

เธอหยุดเดิน แล้วดูเวลาจากนั้นค่อยหันไปมองเขา “ฉันมีเวลาแค่ห้านาที คุณจะคุยเรื่องอะไร?”

“ฉันสามารถแต่งงานกับคุณได้ แต่มีข้อแม้ว่าเธอห้ามยุ่งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างผมกับเสินหลีอีก”

เห็นท่าทีที่ยอมถอยให้เยอะแล้วของเหลียงหยวนโจว สืออวี๋ก็รู้สึกตลก

เมื่อก่อนเธอช่างต่ำต้อยมาก ต่ำต้อยจนเขาคิดว่าจะทำร้ายเธอยังไงเธอก็ไม่มีวันจากไป ดังนั้นจึงทำให้เขาพูดคำพูดแบบนี้ออกมาสินะ?

“เหลียงหยวนโจว วันที่สองของวันที่ไปกินข้าวที่บ้านป้าเซี่ยง เธอมาหาฉันที่สำนักงานกฎหมาย ใช้บุญคุณที่เธอเคยช่วยชีวิตฉันไว้มาแลกเพื่อให้ฉันให้โอกาสคุณอีกครั้ง”

สีหน้าของเหลียงหยวนโจวเปลี่ยนไป สืออวี๋กลับทำเหมือนไม่เห็น พูดต่อว่า “ตอนนั้นฉันบอกว่า ถ้าภายในหนึ่งเดือนนี้คุณสามารถตัดขาดกับเสินหลีได้ ฉันจะให้อภัยคุณ”

“ฉันรู้ว่าคุณไม่อยากแต่งกับฉัน ฉันก็ไม่อยากเป็นร้ายที่ทำให้คุณกับเสินหลีต้องแยกจากกัน ตอนนี้เหลืออีกยี่สิบวันถึงจะครบหนึ่งเดือน คุณแค่อยู่กับเสินหลีต่อก็ได้แล้ว เมื่อครบหนึ่งเดือนแล้ว เราก็เลิกกัน”

พูดจบ เหลียงหยวนโจวก็หัวเราะเยาะ “สืออวี๋ เลิกเสแสร้งแล้วได้ไหม? คุณพูดแบบนี้ ก็แค่อยากบังคับให้ผมตัดขัดกับเสินหลีไม่ใช่เหรอ?”

“ผมตอบตกลงที่จะแต่งงานกับคุณแล้ว คุณยังมีอะไรไม่พอใจอีก? ให้ตำแหน่งคุณนายเหลียงกับคุณยังไม่พออีกเหรอ?”

คำพูดของสืออวี๋ เขาไม่เชื่อสักคำ

ใกล้แต่งงานแล้ว เธอจะยอมเลิกกันได้ยังไง ก็แค่ข้ออ้างที่หามาเพื่อบังคับให้เขากับเสินหลีเลิกกันเท่านั้นเอง

มองดูสีหน้าที่หมดความอดทนของเหลียงหยวนโจว ใจของสืออวี๋ก็ขมขื่น

“เหลียงหยวนโจว สิ่งที่ฉันต้องได้ไม่ใช่ตำแหน่งคุณนายเหลียง”

สิ่งที่เธอต้องการ คือใจจริงของเขาตอนมหาวิทยาลัยต่างหาก

แต่น่าเสียดายเหลียงหยวนโจวในตอนนี้ ไม่มีวันเข้าใจหรอก

ต่อให้เข้าใจ ก็ไม่สนใจ

เหลียงหยวนโจวมองดูเธอด้วยสีหน้าที่เยาะเย้ย “คุณไม่อยากได้ตำแหน่งคุณนายเหลียง เลยหาทางบังคับให้ผมแต่งงานกับคุณ?”

“ฉันบอกแล้ว ครบกำหนดหนึ่งเดือน เราก็เลิกกัน”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่85

    สีหน้าของเหลียงหยวนโจวมืดครึ้ม หันไปมองสืออวี๋กับซือเยี่ยนที่ยืนอยู่ไม่ไกลตอนนี้สืออวี๋กำลังเงยหน้าคุยกับซือเยี่ยน ดวงตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความอ่อนโยน ไม่ได้มีท่าทางเย็นชาเหมือนตอนเขาเลยสักนิดเลย“ก็ได้ ฉันจะขอโทษเขา!”วันนี้เขาถูกซือเยี่ยนเล่นงาน ก็ถือว่าเขาซวยไปแต่ผู้ชายคนนี้จะแบกรับคำขอโทษของเขาไหวหรือไม่ มันก็คืออีกเรื่องหนึ่งแล้ว!เขาหันตัวรีบเดินไปหาสืออวี๋กับซือเยี่ยน จนมายืนอยู่ตรงหน้าทั้งสองคน เขาจึงพูดด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “สืออวี๋ ผมขอโทษเขาได้”สืออวี๋มองเขาแวบหนึ่งก่อนพูดอย่างหมดความอดทน “รบกวนคุณรีบหน่อย ฉันยังมีธุระต่อ”ในใจของเหลียงหยวนโจวมีไฟโกรธลุกโชนขึ้นมา แต่ก็ถูกเขาพยายามกดมันไว้“คุณซือ เมื่อกี้เป็นผมที่วู่วามไป คุณโปรดให้อภัยผมด้วย”ซือเยี่ยนมองเขา ดวงตาแฝงแววเยาะเย้ยจาง ๆ“ประธานเหลียง ไม่เป็นไรหรอก ครั้งหน้าก็อย่าวู่วามแบบนี้อีกนะ”พูดจบ เขาหันมองสืออวี๋ “ตอนนี้ประธานเหลียงก็ขอโทษแล้ว เราก็ยอมรับการไกล่เกลี่ยจากตำรวจเถอะ”สืออวี๋พยักหน้า “โอเค”เห็นสืออวี๋ไม่แม้แต่จะเหลียวแลมองมาทางตัวเอง สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็เริ่มตึงเครียด เส้นเลือดที่ขมับเต้

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่84

    ต่อหน้าเขาแต่เธอกลับไปปกป้องผู้ชายอีกคนแทน?แถมยังเป็นผู้ชายเจ้าเล่ห์อีกต่างหาก!“สืออวี๋ นี่คุณดูไม่ออกหรือว่ามันแกล้ง?!”ในดวงตาของสืออวี๋เต็มไปด้วยความเหลือทน “เขาแกล้งอะไร? ฉันเห็นแค่คุณทำร้ายเขาอย่างไม่มีเหตุผล ต่อยเขาจนได้รับบาดเจ็บ”“ถ้าเขาไม่พูดคำพูดเหล่านั้น ผมจะลงมือเหรอ?”สืออวี๋ขมวดคิ้ว “คุณทำก็ทำไปแล้ว ยังจะมาบอกว่าเขาพูดได้ไม่เข้าหู?”“ฉันไม่อยากพูดไร้สาระกับคุณ รีบขอโทษซะ!”ท่าทางที่เย็นชาและห่างเหินของเธอ ราวกับต้องการตัดขาดกับเขาโดยสิ้นเชิง ทำให้เหลียงหยวนโจวเสียสติไปในที่สุด“ให้ผมขอโทษเขา? คุณฝันไปเถอะ!”“ได้ ในเมื่อคุณไม่ยอมขอโทา งั้นฉันก็คงต้องแจ้งความ แต่ฉันต้องขอเตือนคุณก่อนว่า ตามมาตรา 43 ของกฎหมายว่าด้วยการลงโทษทางปกครองด้านความมั่นคงสาธารณะ การทำร้ายผู้อื่นโดยไม่มีเหตุผล อาจถูกควบคุมตัวไม่เกินห้าวัน หรือปรับไม่เกินหนึ่งพัน”เหลียงหยวนโจวคิดไม่ถึงว่า สืออวี๋จะทำแบบนี้กับตัวเองเพราะผู้ชายอีกคนสายตาเขาเย็นชา เต็มไปด้วยความโกรธ“สืออวี๋ คุณแน่ใจเหรอว่าเพื่อคนที่ไม่สำคัญแบบนี้คนหนึ่ง ถึงขั้นเอาเรื่องไปถึงโรงพัก?”มือของสืออวี๋ค่อย ๆ กำแน่น เงยหน้ามองเ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่83

    สืออวี๋ตกใจกับเหลียงหยวนโจวที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน ถอยหลังโดยไม่รู้ตัว เท้าลื่นเกือบล้มทันใดนั้น มือที่แข็งแรงข้างหนึ่งก็ยื่นมารองที่เอวของเธอไว้ ตามด้วยเสียงที่อ่อนโยนของซือเยี่ยน “เป็นอะไรไหม?”สืออวี๋ส่ายหน้า มองเขาด้วยความขอบคุณ “ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณนะ”ซือเยี่ยนถอนมือกลับอย่างสีหน้าเรียบเฉย “ไม่เป็นไร”เหลียงหยวนโจวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ มองดูปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสอง ความโกรธในอกเหมือนไฟลุกโชน ยิ่งลุกก็ยิ่งเดือดเขายื่นมืออยากจะดึงสืออวี๋มาข้างๆ แต่ยังไม่ทันแตะตัวสืออวี๋ ก็ถูกซือเยี่ยนขวางไว้“คุณเหลียง คุณอย่าจับมือถือแขนสืออวี๋”มือของเหลียงหยวนโจวถูกผลักออก ความโกรธยิ่งพุ่งสูงเขไม่แม้แต่จะมองซือเยี่ยน สายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธจ้องไปที่สืออวี๋เมื่อไม่นานมานี้ก็เป็นสวีอวี่เจ๋อ ตอนนี้ก็เปลี่ยนผู้ชายอีกคน อีกไม่นาน เธอก็จะเปลี่ยนอีกคนแล้วใช่ไหม?เพื่อจะยั่วให้เขาโมโห เธอก็คิดหาทุกวิถีทางเลยจริงๆ!“มานี่!”ทั้งน้ำเสียงที่เย็นชา และกรามที่เกร็ง ล้วนบ่งบอกว่าตอนนี้เขากำลังโกรธจัดแต่สืออวี๋ในตอนนี้ไม่สนใจอีกแล้วพวกเขาเลิกกันแล้ว เขาจะดีใจหรือโกรธ ก็ไม่เกี่ยวกับเธออีก

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่82

    พอวางสายแล้ว สาตาของเสินหลีก็เปลี่ยนเป็นเย็นชารอสืออวี๋กลายเป็นคนที่ถูกรังเกียจเดียดฉันท์ เธอไม่เชื่อว่าเหลียงหยวนโจวยังจะชอบสืออวี๋อีก!อีกด้านหนึ่ง หานเชี่ยนวางโทรศัพท์ลง แล้วหันมองช่างทำเล็บที่กำลังทำเล็บให้เธอ “ทำเร็วๆหน่อย เดี๋ยวฉันยังจะต้องไปพบคุณชายซ่ง ถ้าทำให้ฉันเสียเวลา ฉันจะไม่ปล่อยเธอแน่!”ช่างทำเล็บชินกับนิสัยชอบสั่งอย่างเย่อหยิ่งของหานเชี่ยนแล้ว จึงตอบอย่างนอบน้อม “ค่ะ คุณหนูหาน”หลังจากทำเล็บเสร็จ ก็ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่าแล้วหานเชี่ยนมองเล็บใหม่อย่างพอใจ หยิบกระเป๋าแล้วขับรถตรงไปยังร้านอาหารที่นัดกับซ่งจื่อเฉียนไว้เมื่อพนักงานพาเธอไปยังห้องส่วนตัว ซ่งจื่อเฉียนก็รอเธออยู่แล้วเมื่อเห็นซ่งจื่อเฉียน บนใบหน้าของหานเชี่ยนก็เต็มไปด้วยความดีใจ เดินตรงไปหาเขาทันทีเห็นเธอนั่งลงที่ข้างๆตัวเอง ซ่งจื่อเฉียนก็ขมวดคิ้ว พูดเสียงเย็นชาว่า “คุณหนูหาน ผมไม่ชอบนั่งใกล้กับคนที่ไม่สนิทขนาดนี้ กรุณานั่งให้ห่างจากผมหน่อย”ร่างกายของหานเชี่ยนแข็งทื่อไปชั่วขณะ พยายามฝืนยิ้ม มองดูซ่งจื่อเฉียนแล้วพูดว่า “คุณชายซ่ง วันนี้คุณนัดฉันมา ไม่ใช่เพราะอยากให้สถานะกับฉันหรือ?”หลังจากคืนนั้น เธ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่81

    เขารู้สึกว่าสืออวี๋ไม่มีทางเลิกกับเขาจริงๆ และในขณะเดียวกันก็รู้สึกว่าพฤติกรรมช่วงนี้ของสืออวี๋มันไม่ปกติ ทำให้เขารู้สึกเหมือนจะสูญเสียเธอไปได้ทุกเมื่อยิ่งคิด สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็ยิ่งเคร่งเครียดตอนที่เสินหลีเคาะประตูเข้ามา ก็เห็นเหลียงหยวนโจวนั่งเหม่อมองเอกสารอยู่เธอกัดริมฝีปากล่าง สีหน้าซับซ้อน ตั้งแต่เหลียงหยวนโจวกับสืออวี๋เลิกกันแล้ว เธอก็เห็นเขาเหม่อลอยอยู่เป็นประจำช่วงนี้แม้เหลียงหยวนโจวจะยอมรับความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อหน้าเพื่อนและคนในบริษัทโดยปริยาย แต่เสินหลีกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเลย ตรงกันข้าม เธอกลับรู้สึกกังวลเพราะเธอพบว่า เหลียงหยวนโจวไม่ได้มีความกระตือรือร้นกับเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้วและทุกครั้งที่มีสืออวี๋อยู่ในเหตุการณ์ สายตาของเหลียงหยวนโจวก็จะมองไปที่สืออวี๋เสมอ ทำให้เธอทนไม่ได้สิ่งที่เธอต้องการคือ ในสายตาของเหลียงหยวนโจวมีเพียงเธอคนเดียว!“ประธานเหลียง นี่คือเอกสารที่ต้องเซ็นวันนี้ค่ะ”เหลียงหยวนโจวดึงสติกลับมา เงยหน้าขึ้นมองเธอ อดขมวดคิ้วไม่ได้ “ทำไมคุณไม่เคาะประตูก่อนเข้ามา?”เสินหลีหน้าซีด “ประธานเหลียง ฉันเคาะแล้วค่ะ……อาจเป็นเพราะคุณเหม่อลอยอยู่ เล

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่80

    สืออวี๋หันไปมองเขา “คดีของหวังซันซันไม่ต้องตามต่อแล้วนะ อีกไม่กี่วันเธอจะมายกเลิกสัญญา”ซือห่าวอวี่ขมวดคิ้วแน่น แทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “เธอจะเปลี่ยนทนาย? ทำไมล่ะ?”คดีของหวังซันซัน สืออวี๋ติดตามอย่างทุ่มเทเต็มที่ แถมการพิจารณาคดีรอบแรกก็จบไปแล้ว อีกไม่นานก็จะเข้าสู่รอบที่สอง ทำไมอยู่ดีๆอีกฝ่ายถึงเปลี่ยนทนาย?!“เธอหาทนายที่เก่งกว่าได้ ทนายคนนั้นเป็นมืออาชีพมาก เคยทำคดีหย่าร้างมาเยอะ”“ถึงทนายคนนั้นจะมืออาชีพแค่ไหน เธอก็ทำเรื่องแบบนี้ไม่ได้นะ?มันเกินไปแล้ว พี่ไม่น่าจะยอมให้เธอเปลี่ยนทนายเลย!”พอนึกถึงช่วงที่ผ่านมานี้เพื่อคดีของหวังซันซันแล้วสืออวี่ลำบากแทบแย่ เรียกเมื่อไรก็ต้องไปทันที แต่อีกฝ่ายกลับมาเปลี่ยนทนายในจังหวะสำคัญแบบนี้ ในใจของซือห่าวอวี่ก็รู้สึกโกรธขึ้นอย่างอดไม่ได้“ถ้าไม่ยอม เธอก็คงไม่ให้ความร่วมมือ ยื้อคดีนี้ไว้ก็ไม่มีประโยชน์อะไรแล้วเหมือนกัน”อีกอย่าง เรื่องนี้ก็จะโทษหวังซันซันคนเดียวไม่ได้ทางเหลียงหยวนโจวต้องเสนออะไรบางอย่างที่เธอไม่อาจปฏิเสธได้ เธอถึงได้โทรมาเปลี่ยนทนายไม่ว่าอย่างไร เธอก็หวังให้คดีนี้ชนะเพราะตามนิสัยของเยว่เผิงแล้ว ถ้าแพ้ ต่อไปยังไม่รู้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status