Share

บทที่10

Author: ชุนกวงห่าว
หลังได้เห็นกับตาว่าความรักที่เหลียงหยวนโจวมีต่อเสินหลีนั้น เธอก็ไม่อาจหลอกตัวเองได้อีก

ความรักที่เธอมีต่อเหลียงหยวนโจว และตลอดหลายปีที่ผ่านมาความรู้สึกนั้นก็ถูกการดึงดันซ้ำแล้วซ้ำเล่าบั่นทอนจนแทบไม่เหลืออยู่ ไม่เพียงพอที่จะทำให้เธอยืนหยัดต่อไปได้อีกแล้ว

“เป็นไปไม่ได้!”

สายตาของเซี่ยงชินเฟินแน่วแน่ “หนูให้โอกาสเขาอีกครั้ง ถ้าครั้งนี้เขายังทำให้หนูผิดหวังเหมือนเดิม ป้าจะไม่ห้ามหนูอีกแล้ว”

“โอกาสครั้งนี้ ถือว่าป้าเซี่ยงใช้บุญคุณช่วยชีวิตขอแทนหยวนโจวได้ไหม?”

สืออวี๋ถอนหายใจอยู่ในใจ จริงๆแล้วเธอทำแบบนี้ ก็เพียงแค่ยืดเวลาการเลิกราของตัวเองกับเหลียงหยวนโจวออกไปเท่านั้น แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ยังเหมือนเดิม

คนสองคนที่ไม่ได้รักกันแล้ว จะเดินไปด้วยกันต่อได้อย่างไร?

ท่ามกลางสายตาวิงวอนของเซี่ยงชินเฟิน สุดท้ายสืออวี๋ก็พยักหน้า “ได้ค่ะป้าเซี่ยง หนูสัญญากับป้าว่า ถ้าภายในหนึ่งเดือนเหลียงหยวนโจวตัดขาดกับเสินหลีได้จริง หนูจะยกโทษให้เขา”

พูดแบบนี้ เพราะว่าในใจเข้าใจดูว่า เหลียงหยวนโจวไม่มีทางทอดทิ้งเสินหลีเพื่อเธอ

เมื่อเห็นเธอตกลง เซี่ยงชินเฟินก็โล่งใจ รีบหยิบกำไลที่เตรียมมาออกจากกระเป๋า

“นี่เป็นของที่ยายของหยวนโจวให้ป้า ป้าเองก็ไม่มีของมีค่าอะไร นี่ถือเป็นของขวัญงานแต่งที่ป้าส่งให้หนู หนูอย่ารังเกียจเลยนะ”

กำไลหยกนั้นส่องประกายใต้แสงไฟ แค่ดูก็รู้ว่ามีมูลค่ามาก

สืออวี๋ผลักกำไลหยกกลับไป “ป้าเซี่ยงคะ ของชิ้นนี้มีค่ามากเกินไป หนูรับไม่ได้หรอกค่ะ”

“ไม่หรอก ก็แค่กำไลอันหนึ่งเอง”

สืออวี๋ส่ายหัว ไม่ยอมเอา เซี่ยงชินเฟินจึงได้แต่เอาเก็บไว้

หลังจากส่งเซี่ยงชินเฟินขึ้นแท็กซี่แล้ว สืออวี๋จึงกลับบ้าน

ไม่รู้ว่าเซี่ยงชินเฟินใช้วิธีไหน หลายวันมานี้ เหลียงหยวนโจวล้วนกลับมาทุกวัน

ทว่าเมื่อเผชิญหน้ากับสืออวี๋ ก็มักจะทำหน้าเย็นชา และไม่คิดจะเป็นฝ่ายเริ่มคุยกับเธอ

เสินหลีเหมือนจะโทรหาเขาตลอด แต่แปลกที่เหลียงหยวนโจวไม่รับสักสายเลย

สืออวี๋ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไป แต่เธอก็ไม่สนใจ ทำเหมือนเขาเป็นคนล่องหน

แค่ทนให้ครบหนึ่งเดือน เธอชดใช้บุญคุณที่เซี่ยงชินเฟินช่วยชีวิตแล้ว ก็ได้ปลดปล่อยแล้ว

เธอไม่เคยคิดเลยว่า มีวันหนึ่งที่เธอตัดสินใจเตรียมจะไปจากเหลียงหยวนโจว มันจะรู้สึกเหมือนได้รับการปลดปล่อย

ไม่คิดไกลไปกว่านี้ เธอก็จดจ่อกลับไปอ่านเอกสารต่อ

สุดสัปดาห์ เซี่ยงชินเฟินมาคุยปรึกษาหารือเรื่องแต่งงานกับพวกเขา

พอรู้ว่าเหลียงหยวนโจวกับสืออวี๋ต่างไม่ใส่ใจนัก เธอเลยจัดการแทนเอง

สืออวี๋กับเหลียงหยวนโจวนั่งแยกกันที่สองฝั่งของโซฟา ซ้ายคนขวาคน แบ่งเขตกันอย่างชัดเจน

เทียบกับคู่รักที่กำลังจะแต่งงานแล้ว กลับเหมือนสามีภรรยาที่ความสัมพันธ์แตกสลายและกำลังจะหย่ากัน

เซี่ยงชินเฟินนั่งอยู่ตรงข้ามพวกเขา เอาตัวอย่างการ์ดเชิญที่ตัวเองเลือกเสร็จให้พวกเขาเลือก เหลียงหยวนโจวเลือกอันที่เชยที่สุด ใบหน้าไร้ความใส่ใจ

“เอาอันซ้ายบนก็แล้วกัน”

สืออวี๋เหลือบมอง พบว่าการ์ดนั้นมันดูแก่หน่อย มีแค่ตัวอักษรฮี่[1]ใหญ่ๆตัวหนึ่ง ไม่มีลวดลายตกแต่งใดๆ เหมาะกับรสนิยมผู้ใหญ่ยุคก่อน การ์ดอื่นล้วนสวยกว่านี้หมด

เซี่ยงชินเฟินจิกตาใส่เขา ก่อนหันไปมองสืออวี๋ “สืออวี๋ หนูชอบอันไหน เอาที่หนูชอบ”

มองดูท่าทีที่กระตือรือร้นของสืออวี๋ สืออวี๋อยากบอกกับเธอจริงว่าไม่จำเป็น สภาพนี้ของเธอกับเหลียงหยวนโจว จะแต่งงานแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นได้ยังไง?

ลังเลไปครู่หนึ่ง ก็ไม่พูดคำพวกนี้ออกมา เพราะเธอตอบตกลงเซี่ยงชินเฟินว่าจะให้โอกาสเขาอีกครั้ง

ตอนนี้เธอก็เพิ่งเข้าใจความรู้สึกที่ถูกคนบังคับนั้นมันเป็นอย่างไร

“เอาตามที่เขาเลือกก็ได้ค่ะป้า”

เซี่ยงชินเฟินพยักหน้าแล้วยิ้ม “โอเค งั้นก็ตามนี้นะ”

หลังจากคุยเรื่องของชำร่วยเสร็จ เซี่ยงชินเฟินจึงยิ้มแล้วจากไป

ทันทีที่เธอออกไป ห้องนั่งเล่นก็ตกอยู่ในความเงียบ

สืออวี๋ดูเวลา สี่ทุ่มกว่าแล้ว

พรุ่งนี้เช้ามีคดีต้องขึ้นศาล ถึงแม้เอกสารจะเตรียมครบแล้ว แต่เธอก็ชอบตรวจอีกรอบถึงจะสบายใจ

ลุกขึ้นกำลังจะเดินเข้าห้อง เสียงที่เย็นชาของเหลียงหยวนโจวก็ดังขึ้นในห้องนั่งเล่น

“สืออวี๋ แต่งกับผู้ชายที่ไม่รักเธอ มันก็เหมือนอยู่เป็นหม้ายไปตลอดชีวิต คุณแน่ใจเหรอว่านี่คือชีวิตที่คุณอยากได้?”

สืออวี๋ชะงัก หันกลับไปมองเขา “เหลียงหยวนโจว ถ้าคุณไม่อยากแต่ง ก็ไปบอกกับป้าเซี่ยงเองสิ”

สีหน้าของเหลียงหยวนโจวเคร่งขรึม จ้องเธอไม่วางตา ก่อนหัวเราะหยัน “โอเค คุณอย่าได้เสียใจทีหลังก็แล้วกัน”

สืออวี๋ไม่พูดอะไรอีก เดินเข้าห้องแล้วล็อกประตูโดยตรง

แม้ว่าช่วยงนี้เหลียงหยวนโจวจะกลับมา แต่พวกเขาก็แยกกันนอนตลอด เธอนอนในห้อง เหลียงหยวนโจวนอนบนโซฟา

หลังตรวจสอบเอกสารเสร็จ มั่นใจว่าไม่มีปัญหาแล้วสืออวี๋ก็เก็บใส่กระเป๋า เอาชุดนอนแล้วเตรียมไปอาบน้ำเข้านอน

รุ่งเช้า สืออวี๋ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จหยิบกระเป๋าเอกสารแล้วออกจากห้อง ในห้องนั่งเล่นก็ไม่มีวี่แววของเหลียงหยวนโจวแล้ว

การขึ้นศาลช่วงเช้าเป็นไปอย่างราบรื่น เอกสารและหลักฐานที่สืออวี๋ยื่นครบถ้วน ทำให้การพิจารณาจบลงอย่างรวดเร็ว

เหลือเพียงรอคำพิพากษา ซึ่งถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดก็น่าจะชนะ

ขณะเดินออกจากศาล จู่ๆก็มีคนพุ่งออกมา

ทำให้สืออวี๋ตกใจแล้วถอยหลังไปสองก้าว ก่อนจะเห็นว่าเป็นเสินหลี

เสินหลีตาทั้งแดงและบวม สีหน้าดูโทรมเล็กน้อย สายตาที่มองดูสืออวี๋มีความโกรธเคือง

“สืออวี๋ คุณทำอะไรไป? ทำไมช่วงนี้ประธานเหลียงไม่รับสายฉัน ในบริษัทก็ปฏิบัติเย็นชากับฉัน?!”

น้ำเสียงกล่าวหาของเธอทำให้สืออวี๋ไม่พอใจ พูดด้วยน้ำเสียงที่เฉยชาว่า “คุณควรไปถามเหลียงหยวนโจว ไม่ใช่มาถามฉัน”

“ต้องเป็นเพราะคุณแอบทำเรื่องไม่ดีลับหลังแน่ ตอนนี้คนที่ประธานรักคือฉัน ต่อให้คุณใช้กลอุบายอะไรทำให้ไม่สนใจชั่วคราว เขาก็ไม่มีวันรักคุณอีกครั้งหรอก!”

มือของสืออวี๋ที่ถือกระเป๋าเอกสารกำแน่นขึ้นเล็กน้อย พยยักหน้าด้วยสีหน้าที่เรียบนิ่ง “งั้นคุณก็สู้ๆ ล่ะ พยายามให้เขากลับไปอยู่ข้างเธอให้ได้เร็วๆ นะ”

สีหน้าของเสินหลีดูแย่ รู้สึกว่าสืออวี๋กำลังประชดเธอ

“คุณดีใจได้ไม่นานหรอก!”

พูดจบ เสินหลีก็จากไปอย่างโกรธ

มองดูแผ่นหลังเธอ บนใบหน้าของสืออวี๋ไม่แสดงอารมณ์ใดๆ

ดูออกว่า เหลียงหยวนโจวเอาใจเธอมากจริง ไม่อย่างงั้นเธอก็คงไม่กล้าวิ่งมายั่วยุที่ตรงหน้าสืออวี๋

สืออวี๋ละสายตา แล้วเดินไปที่ลานจอดรถ

คืนนั้น เหลียงหยวนโจวก็กลับมาพร้อมกลิ่นเหล้าหนักอึ้ง

สืออวี๋กำลังเขียนเอกสารที่ห้องนั่งเล่น ได้กลิ่นเหล้านตัวเขาก็ขมวดคิ้วแล้วรีบปิดคอมเตรียมกลับห้อง

เหลียงหยวนโจวขวางเธอไว้ “วันนี้เสินหลีไปหาคุณเหรอ?”

ทันทีที่เขาพูด กลิ่นเหล้าก็ล้อมรอบสืออวี๋ทันที

สืออวี๋ถอยหลังเล็กน้อยเพื่อดึงระยะห่างระหว่างทั้งสองคนออก “ใช่ ทำไม?”

เหลียงหยวนโจวมองดูหน้าที่ไร้อารมณ์ของเธอ แล้วหัวเราะหยัน ดวงตาเต็มไปด้วยการดูถูก

“ช่วงนี้คุณช่างยิ่งอยู่ยิ่งใจกว้างสักแล้ว ถ้าเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรก เราก็คงไม่ทะเลาะกันเยอะขนาดนั้น”

ถ้าสืออวี๋สามารถใจกว้างแบบนี้ตลอดไป ไม่สนเรื่องระหว่างเขากับเสินหลี แต่งงานกับเขาก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้

แม้ว่าเขาจะไม่รักสืออวี๋แล้ว แต่ใบหน้าของสืออวี๋ พาออกไปข้างนอกก็มีหน้ามีตาดี

สบตากับเหลียงหยวนโจวอยู่ครู่หนึ่ง สืออวี๋เบือนหน้าไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย

ไม่ได้ใจกว้างขึ้น แต่เป็นเพราะเธอไม่สนใจเขาอีกแล้ว

“คุณไว้ใจ ต่อไปจะไม่มีอีกแล้ว”

━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━━

[1]ฮี่ หมายถึง คำมงคลในภาษาจีน ที่แสดงถึงความสุข ความยินดี
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 221

    เมื่อเห็นเขายิ้มมุมปาก ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจเรื่องงานของตัวเองเลยสักนิด สืออวี๋ก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจเขาคงแกล้งทำเป็นสบาย ๆ ก็เพราะไม่อยากให้เธอโทษตัวเองสินะเธอสูดหายใจเข้าลึก แกล้งทำเป็นประหลาดใจแล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันก็นึกไม่ถึงเหมือนกันค่ะ ดูท่าต่อไปคุณก็จะเป็นหมอซือที่ค่าตัวหลายสิบล้านแล้วสินะคะ”“อืม เพราะงั้นคุณไม่ต้องห่วงผมหรอก หมอที่ค่าตัวหลายสิบล้านแบบนี้ โรงพยาบาลไหนบ้างจะไม่แย่งกันเอา”สืออวี๋พยักหน้า “พูดถูก โรงพยาบาลไหนได้ตัวคุณไปก็ถือว่ากำไรมหาศาลแล้ว”พอดีกับที่ลิฟต์มาถึง ทั้งสองจึงเดินเข้าไปด้วยกันเมื่อออกจากลิฟต์ ทั้งสองก็แยกย้ายกันตรงหน้าประตูพอกลับถึงบ้าน สืออวี๋ก็วางเสื้อผ้าที่ซื้อเมื่อตอนบ่ายไว้ตรงโถงทางเข้าบ้าน เปลี่ยนรองเท้า แล้วไปหยิบน้ำขวดหนึ่งจากตู้เย็น ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นเธอหยิบมือถือออกจากกระเป๋า ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรออกไปยังเบอร์ของเหลียงหยวนโจว“อาอวี๋... ผมนึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะยังติดต่อผมมา...”น้ำเสียงของเหลียงหยวนโจวเจือความดีใจและความรู้สึกแบบทำตัวไม่ถูก ราวกับย้อนกลับไปในช่วงที่เขากำลังจีบสืออวี๋ ที่

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 220

    “อืม ผู้ชายเฮงซวยแบบนั้น ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียดายจริง ๆ นั่นแหละ เราไปกันเถอะ”อีกด้านหนึ่ง หลังจากเหลียงหยวนโจวอุ้มเสินหลีไปส่งที่รถ เขาก็ยืนอยู่ข้างรถและพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า: “ผมยังมีธุระที่บริษัท เดี๋ยวให้คนขับรถส่งคุณไปโรงพยาบาล”พูดจบ ก็ทำท่าจะปิดประตูสีหน้าของเสินหลีเปลี่ยนไป เธอยื่นมือไปคว้าแขนเสื้อของเขาไว้ทันที “หยวนโจว คุณไม่ไปกับฉันเหรอคะ? ถ้าเผื่อลูกเป็นอะไรขึ้นมา…”เหลียงหยวนโจวพูดแทรกขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “ผมไม่ใช่หมอ อีกอย่าง ต่อไปนี้ถ้าคุณเจอสืออวี๋ก็หลีกเลี่ยงเธอซะ พยายามอย่าไปปรากฏตัวต่อหน้าเธอ”“ว่าไงนะคะ?”เสินหลีมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “คุณไม่แม้แต่จะถามสักคำว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ฉันถูกรังแกหรือเปล่า แต่กลับบอกให้ฉันเห็นสืออวี๋แล้วต้องเป็นฝ่ายหลีกเลี่ยง?”เรากำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้ว เขาไปเข้าข้างสืออวี๋ได้ยังไง!“จำเป็นต้องถามด้วยเหรอ ด้วยนิสัยของสืออวี๋ ถ้าคุณไม่ไปหาเรื่องเธอก่อน เธอก็ไม่แม้แต่จะชายตามองคุณด้วยซ้ำ”“งั้นคุณก็หมายความว่าทั้งหมดเป็นความผิดของฉันงั้นสิ”เหลียงหยวนโจวหมดความอดทน เขามองเธออย่างเย็นชา แววตาหนาวเยียบ“รู้ตัวก็ดีแล้ว ที่ผม

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 219

    “ดูภายนอกก็ดูดี ไม่นึกเลยว่าจะทำเรื่องน่าขยะแขยงแบบนี้ได้!”“เหอะ ๆ ของทั้งเนื้อทั้งตัวรวมกันก็เกือบสิบห้าล้านแล้วมั้ง ผู้ชายคนนั้นก็คงรวยน่าดู ไม่อย่างนั้นจะรีบพุ่งเข้าไปจับขนาดนั้นเหรอ?” …เสียงซุบซิบดูแคลนรอบข้าง ยิ่งทำให้เสินหลีรู้สึกรังเกียจชืออวี๋มากขึ้นไปอีก เห็น ๆ อยู่ว่าตัวเองคุมแฟนไม่อยู่ มีสิทธิ์อะไรมาโทษเธอด้วยล่ะ? ถ้าเป็นรักแท้จริง ๆ คบกันปีสองปีก็แต่งงานกันแล้ว นี่เหลียงหยวนโจวคบกับเธอมาห้าปีแล้วยังไม่แต่ง ก็ได้แต่พูดว่าเขาไม่เคยคิดจะแต่งงานกับสืออวี๋เลยต่างหาก เธอแค่ปรากฏตัวได้ถูกจังหวะก็เท่านั้น เธอไม่ได้ผิดอะไรเลยยิ่งคิด เสินหลีก็ยิ่งโมโหขณะที่เธอกำลังจะโต้เถียงสืออวี๋ จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดเกร็งที่ท้องขึ้นมาอย่างกะทันหัน“อ๊า... ท้องของฉัน...”เธอรีบกุมท้อง ใบหน้าซีดเผือดจนแทบไร้สีเลือดผู้คนที่มุงดูอยู่รอบตัวเธอรีบถอยห่างทันที บนใบหน้าของทุกคนมีแต่ความดูถูกเหยียดหยามและรังเกียจ กลัวว่าเสินหลีจะแกล้งพาลใส่พวกเขาเมื่อเห็นว่าทุกคนมีแต่ท่าทีเย็นชา ไม่มีใครยอมช่วยเรียกรถพยาบาลให้ เสินหลีจึงทำได้เพียงทนความเจ็บปวดที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วกดโทรศัพท์หาเหลียง

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 218

    ปกติถ้าพวกเขาอยากได้อะไรที่เกินเงินค่าขนมของตัวเอง ก็จะไปทำงานพาร์ทไทม์หาเงินซื้อเอง สมัยเรียนมหาวิทยาลัย การแต่งตัวและการกินอยู่ของซ่งจื่ออินก็ไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่ เลยมีน้อยคนมากที่จะรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของประธานสือกรุ๊ปแม้ว่าตอนนี้คุณพ่อของเธอจะไม่จำกัดเรื่องเงินแล้ว แต่เสื้อผ้าที่ซ่งจื่ออินใส่ในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นของที่ซื้อตามตลาดนัด“ได้”ซ่งจื่ออินลองเสื้อผ้าเสร็จ ก็เลือกซื้อชุดที่ค่อนข้างพอใจสองสามชุด พอรูดบัตรเสร็จก็ให้ทางร้านจัดส่งไปที่บ้านตระกูลซ่งโดยตรงทั้งสองคนกำลังจะเดินออกจากร้าน ร่างเพรียวบางร่างหนึ่งก็เดินเข้ามาในร้านพอดีพอเห็นว่าเป็นเสินหลี สีหน้าของซ่งจื่ออินก็เคร่งขรึมลงทันทีสืออวี๋เองก็ประหลาดใจไปชั่วครู่ แต่พอนึกถึงเรื่องที่เหลียงหยวนโจวเคยบอกว่าจะแต่งงานกับเสินหลี ก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกต่อไปเสินหลีในวันนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ดูเรียบง่ายจืดชืด เธออยู่ในชุดแบรนด์หรูสั่งตัด ผมยาวดัดลอนอ่อน ๆ ในมือหิ้วถุงช้อปปิ้งแบรนด์ไฮเอนด์หลายใบ บนข้อมือสวมนาฬิกาประดับเพชรแวนคลีฟแอนด์อาร์เพลส์ เผยให้เห็นความหรูหราประณีตตั้งแต่หัวจรดเท้าซ่งจื่ออินแค่นเสียงเ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 217

    แต่ตอนนี้คือโอกาสที่จะได้อยู่กับสืออวี๋ และนี่อาจเป็นโอกาสเดียวในชีวิตของเธอ เขาไม่มีทางปล่อยมันไปเด็ดขาดเขากระดกไวน์แดงในแก้วจนหมดรวดเดียว ก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องนอนไปชั่วพริบตาเดียวก็ถึงบ่ายของวันรุ่งขึ้น สืออวี๋เพิ่งตื่นจากงีบหลับกลางวัน ก็ได้รับโทรศัพท์จากซ่งจื่ออิน“อาอวี๋ ฉันถึงหน้าประตูหมู่บ้านแกแล้ว แต่ยามไม่ให้เข้า ฉันรออยู่ข้างนอกนะ”“โอเค รอฉันสิบนาทีนะ”สืออวี๋รีบล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบมือถือกับกระเป๋าแล้วจึงออกจากห้องไปพอเดินมาถึงหน้าหมู่บ้าน เธอก็เห็นซูเปอร์คาร์สีชมพูของซ่งจื่ออินจอดอยู่ไม่ไกลทันทีที่ขึ้นรถ ซ่งจื่ออินก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “เมื่อวานตอนที่ฉันเห็นโลเคชั่นหมู่บ้านที่แกส่งให้ ก็รู้สึกคุ้น ๆ อยู่เหมือนกัน เพิ่งจะนึกออกว่า ตอนที่โครงการนี้สร้าง บริษัทของพี่ชายฉันก็เคยมีดีลด้วยนะ รู้สึกว่าทางผู้พัฒนาโครงการจะแถมบ้านให้เขาสองหลังเลยล่ะ”สืออวี๋ฉายแววประหลาดใจ “บังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ”“ก่อนที่บริษัทซ่งซื่อจะเปลี่ยนสายธุรกิจ หลัก ๆ ก็ทำอสังหาริมทรัพย์นี่แหละ เคยร่วมมือกับผู้พัฒนาในเมืองเซินตั้งหลายเจ้า เดี๋ยวคืนนี้กลับไปฉันจะถามเขาดูว่าห้อ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 216

    “ดูท่าว่า นายคงอยากกลับเมืองหลวงแล้วสินะ”ซือห่าวอวี่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “คุณอาเล็กครับ ถ้าผมกลับไปเมืองหลวง ผมก็จะไปกินข้าวเย็นเป็นเพื่อนคุณปู่คุณย่าทุกวัน ทีนี้พอพูดมากเข้า เกิดผมเผลอหลุดปากพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป คุณอาเล็กก็น่าจะเข้าใจผมใช่ไหมครับ?”“ดูเหมือนว่าไม่กี่ปีที่ฉันไม่อยู่บ้าน นายจะเก่งกาจขึ้นเยอะเลยนะ รู้จักข่มขู่คนเป็นแล้วด้วย”สายตาของซือเยี่ยนเย็นชา ทั่วทั้งร่างมีไอความเย็นแผ่ซ่านถ้าเป็นปกติ ซือห่าวอวี่คงกลัวจนตัวสั่นไปแล้วทว่าตอนนี้ทั้งสองคนคือศัตรูหัวใจ เขาจะแสดงความขลาดกลัวออกมาแม้แต่น้อยไม่ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นแล้วจะเอาอะไรไปสู้กับซือเยี่ยนได้ซือห่าวอวี่จ้องมองซือเยี่ยนตรง ๆ มุมปากประดับรอยยิ้ม “คุณอาเล็กครับ ทั้งหมดนี้ก็เพราะคุณอาสอนมาดี”หว่างคิ้วของซือเยี่ยนเต็มไปด้วยความเย็นชา “ถ้างั้นวันนี้ฉันจะสอนนายอีกเรื่องที่มันไม่มีความหวังน่ะ รีบตัดใจซะแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า ไม่อย่างนั้นคนที่จะเจ็บปวดทีหลังก็คือนายเอง”“คุณอาเล็กครับ ในสายตาคุณอา ผมอาจจะไม่มีหวัง แต่ในสายตาผม คุณอาต่างหากคือคนที่ไม่มีหวัง”ด้วยความที่ท่านย่าซือกับท่านผู้เฒ่าซือให้ความสำคัญกับซือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status