แชร์

บทที่ 10

ผู้เขียน: หรงหรงจื่ออี
“แม่ครับ?”

ฟู่ซืออวี่วิ่งกลับมาตามหาที่ห้องรับแขกอย่างไม่ตายใจ

“แม่ครับ? แม่!”

หาจนทั่วแล้วก็ไม่เห็นเสิ่นชิงซู

ในที่สุดฟู่ซืออวี่ก็แน่ใจว่าเสิ่นชิงซูไปแล้ว!

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เสิ่นชิงซูทิ้งเขาไว้แล้วกลับไปโดยไม่บอกไม่กล่าว!

ฟู่ซืออวี่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทำลายของเล่นบนโซฟาที่เสิ่นชิงซูซื้อให้เธอจนพังเรียบ

ฟู่ซือเหยียนที่อยู่ในห้องทำงานได้ยินเสียงโครมครามก็เดินลงมาตรวจสอบดู

ฟู่ซืออวี่ทำห้องรับแขกจนยุ่งเหยิงไปหมด ข้อตกลงการหย่าฉบับนั้นอยู่กับของระเกะระกะ จึงถูกเขากวาดลงไปอยู่ใต้โซฟาด้วย

ฟู่ซือเหยียนขวมดคิ้ว ก่อนจะเดินไปกวาดตามองในครัวแวบหนึ่ง “แม่ของลูกล่ะ?”

“เธอไม่ใช่แม่ผมสักหน่อย!”

ฟู่ซืออวี่ตวาดอย่างเกรี้ยวกราด “มีแม่ที่ไหนทิ้งลูกชายที่กำลังป่วยไว้แล้วกลับไปโดยไม่บอกไม่กล่าวกัน! ผมเกลียดเธอ! ผมไม่ต้องการแม่อย่างเธอแล้ว!”

ฟู่ซือเหยียนชะงักไปเล็กน้อย ประหลาดใจอยู่บ้าง “เธอไปแล้วเหรอ?”

“ใช่ครับ!” ฟู่ซืออวี่อาละวาดเสร็จ ความรู้สึกน้อยใจทะลักขึ้นมาในใจอย่างฉับพลัน จึงส่งเสียง ‘จ้า’ แล้วปล่อยโฮ

“แม่ใจร้าย! เธอไม่ต้องการผมแล้วใช่ไหมครับ? ทั้งที่ผมมีแม่ที่อ่อนโยนแถมโคตรสวย แต่ผมก็ยังไม่บอกว่าจะทิ้งเธอเลย แล้วเธอทำแบบนี้กับผมได้ยังไง…ฮือ ๆ! แม่ใจร้าย! นางมารร้าย!”

ฟู่ซือเหยียนเดินเข้ามา มือใหญ่ลูบศีรษะของฟู่ซืออวี่เบา ๆ “ถึงจะโกรธหรือน้อยใจยังไงก็ด่าแม่สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ”

“ทำไมล่ะครับ…” ฟู่ซืออวี่กอดฟู่ซือเหยียน ร้องไห้จนร่างน้อย ๆ กระตุกสั่นเป็นพัก ๆ “เหมือนว่าแม่ไม่ได้รักผมมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว! พ่อครับ เป็นเพราะว่าผมมีแม่ใหม่ แม่ชิงซูก็เลยจะไปจากผมใช่ไหม?”

ฟู่ซือเหยียนอุ้มเขานั่งลงบนโซฟา ก่อนจะดึงทิชชูมาหลายแผ่นแล้วช่วยเช็ดน้ำตาให้เขา

“ช่วงนี้แม่ชิงซูของลูกก็แค่ยุ่งมาก ต่อให้ลูกจะยอมรับความเป็นแม่ลูกกับแม่เสี่ยวชู เธอก็จะยังรักลูกเหมือนเดิม”

ฟู่ซืออวี่สูดจมูกเล็กน้อย “จริงเหรอครับ?”

“พ่อไม่โกหกหรอก”

ฟู่ซืออวี่ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ความกระวนกระวายและน้อยเนื้อต่ำใจก็สลายหายไปจากใจเยอะแล้ว

แต่เขายังอยากให้เสิ่นชิงซูดูแลเขาอยู่

เพราะเขาป่วยจึงไม่อยากอาหาร โจ๊กที่เสิ่นชิงซูต้มเองกับมือทั้งหอมและอร่อยมาก เขาอยากให้เสิ่นชิงซูต้มโจ๊กให้เขาทุกวัน

“พ่อครับ ผมก็ยังคิดถึงแม่ชิงซูมากอยู่ดี”

ฟู่ซือเหยียนครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนกล่าว “ถ้าลูกกินโจ๊กแต่โดยดีแล้ว พ่อก็จะพาลูกไปหาเธอ”

ฟู่ซืออวี่ดวงตาเป็นประกายเมื่อได้ยินแบบนั้น “ได้เลยครับ!”

……

หลังออกมาจากคฤหาสน์หนานซี เสิ่นชิงซูก็กลับไปที่สตูดิโอทันที

อีกสามวันก็จะถึงวันที่แม่ออกจากเรือนจำ

และอีกสิบกว่าวันก็จะสิ้นปีแล้ว

ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันก็ขนไปตั้งไว้ที่บ้านใหม่เรียบร้อยแล้ว เสิ่นชิงซูนัดบริษัททำความสะอาดบ้านให้ไปเก็บกวาดบ้านใหม่พรุ่งนี้

ที่สตูดิโอยังมีวัตถุโบราณอีกชิ้นที่ต้องส่งมอบในวันพรุ่งนี้

เดิมทีเสิ่นชิงซูวางแผนไว้ว่าหลังเสร็จงานนี้ก็จะหยุดปีใหม่ไปเลย และปีนี้เธอจะพาแม่ไปฉลองปีใหม่ที่ซานย่า

ทว่าตอนนี้เธอท้องแล้ว...

เสิ่นชิงซูลูบท้องของตัวเอง ความรู้สึกซับซ้อนมาก

เธอยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเก็บเด็กไว้ไหม

ถ้าฟู่ซือเหยียนรู้ว่าเธอท้อง เขาจะมีปฏิกิริยาแบบไหน?

เขาดีกับฟู่ซืออวี่ขนาดนั้น แล้วจะดีกับลูกของเธอเหมือนกันหรือเปล่า?

เสิ่นชิงซูยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองช่างน่าขันเต็มทน

ที่ฟู่ซือเหยียนดีกับฟู่ซืออวี่ขนาดนั้น ก็เป็นเพราะโจวอวี๋ชู

เมื่อรักใครแล้วก็ต้องรักทุกอย่างที่เป็นของคนนั้นด้วย เหตุผลข้อนี้ใครบ้างจะไม่เข้าใจ?

เสิ่นชิงซูเอามือปิดหน้าอย่างเจ็บปวด

ตื่นสักทีเถอะ เลิกเพ้อฝันและหยุดทำให้ตัวเองอับอายได้แล้ว!

ก๊อก ๆ ...

ประตูห้องทำงานถูกเคาะให้ดังขึ้น

เสิ่นชิงซูเงยหน้าขึ้นมา จัดการกับอารมณ์ให้เรียบร้อย “เชิญเข้ามา”

ลู่เสี่ยวหานผลักประตูให้เปิดออก “พี่ชิงซู ซืออวี่มาค่ะ”

เสิ่นชิงซูขวมดคิ้ว “เขายังไม่สบายอยู่ ทำไมถึงมาได้ล่ะ?”

“ทนายฟู่มาส่งที่หน้าสตูดิโอ แล้วให้ฉันพาเข้ามาค่ะ”

เพิ่งจะสิ้นเสียงของลู่เสี่ยวหาน ฟู่ซืออวี่ที่สะพายกระเป๋าลายการ์ตูนของตัวเองไว้ด้านหลังก็เดินเข้ามาแล้ว

“แม่!”

เสิ่นชิงซูลุกขึ้นแล้วเดินมา ก่อนจะแตะที่หน้าผากเขาเบา ๆ “แล้วพ่อของลูกล่ะ?”

“พ่อมีงานก็เลยดูแลผมไม่ได้ครับ และผมเองก็คิดถึงแม่แล้วด้วย” ฟู่ซืออวี่แหงนหน้ามองเสิ่นชิงซูด้วยท่าทางน่าสงสาร

เสิ่นชิงซูโทรหาฟู่ซือเหยียน

เธออยากให้ฟู่ซือเหยียนมารับฟู่ซืออวี่ไป

แต่ฟู่ซือเหยียนไม่รับโทรศัพท์

เห็นได้ชัดว่าจงใจ!

เสิ่นชิงซูหงุดหงิดเป็นที่สุด สีหน้าเย็นเยียบในทันที

ฟู่ซืออวี่มองเธอ ดวงตาพลันแดงก่ำ ก่อนพูดเสียงสะอื้น “แม่ครับ แม่รังเกียจผมแล้วใช่ไหม? ถ้าแม่ไม่ชอบผมแล้ว งั้นผมไปดีกว่า…”

ระหว่างที่พูด น้ำตาก็ร่วงหล่นลงมา

เสิ่นชิงซูหัวใจอ่อนยวบ รีบเข้ามากอดเขาพลางพูดปลอบเสียงเบา “ไม่ได้ไม่ชอบลูกหรอก แต่สองวันนี้แม่จะยุ่งมาก ลูกยังป่วยอยู่ แม่เลยกลัวว่าจะดูแลลูกได้ไม่ดีน่ะ”

“ผมไม่มีไข้แล้วครับ”

ฟู่ซืออวี่จับมือของเสิ่นชิงซูมาวางทาบบนหน้าผากของตัวเอง “แม่ดูสิครับ ผมไม่มีไข้แล้วจริง ๆ ผมจะอยู่คนเดียวอย่างเชื่อฟังไม่รบกวนการทำงานของแม่แน่นอนครับ ขอร้องนะครับ แม่อย่าไล่ผมไปเลยนะ~”

ฟู่ซืออวี่ใช้ลูกอ้อนทีไร เสิ่นชิงซูก็เป็นต้องจนปัญญาทุกทีไป

เธอถอนหายใจหนึ่งที ก่อนจะลูบใบหน้าเล็กของเขาที่ยังมีไข้อ่อน ๆ เบา ๆ “ลูกกินโจ๊กที่แม่ต้มหรือยัง?”

“กินแล้วครับ!” ฟู่ซืออวี่พูดเหมือนเอาความดีความชอบ “ผมกินหมดไปถ้วยเบ้อเริ่มเลยนะครับ!”

“แล้วเอายามาด้วยหรือเปล่า?”

“เอามาครับ!” ฟู่ซืออวี่ตบกระเป๋าลายการ์ตูนของตัวเองเบา ๆ “แม่ครับ ของเล่นที่แม่ซื้อให้ผมกับหนังสืออ่านก่อนนอนผมก็เอามาด้วยแล้วนะ!”

เสิ่นชิงซูแตะที่ปลายจมูกเขา “มีครั้งไหนบ้างที่ลูกลืมหนังสืออ่านก่อนนอน! ลูกยังป่วยอยู่ ไปนอนพักบนเตียงนะ แม่ยังต้องทำงานอีก”

“ครับ!”

ฟู่ซืออวี่หอบกระเป๋าเดินต๊อกแต๊กเข้าห้องพักผ่อนไป

เสิ่นชิงซูมองท่าทางรู้ประสาและว่าง่ายของฟู่ซืออวี่ ในใจก็อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้

ฟู่ซืออวี่ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง เป็นธรรมดาที่จะพึ่งพาพ่อแม่ ต่อให้ยอมรับความเป็นแม่ลูกกับโจวอวี๋ชูแล้ว แต่ในใจเขายังคงยอมรับแม่คนนี้อย่างเธออยู่ไม่ใช่เหรอ?

เธอไม่ควรเอาความโกรธไปลงที่เด็กคนหนึ่งเลยจริง ๆ

ครั้นนึกมาถึงตรงนี้ เสิ่นชิงซูเปิดแอปซื้อของ ก่อนจะจัดการสั่งซื้อหนังสือจำนวนหนึ่งกับของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กที่ใส่ตะกร้าไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ทั้งหมด

เธอคิดว่าปีนี้ฟู่ซืออวี่น่าจะอยู่ฉลองวันสิ้นปีกับฟู่ซือเหยียนและโจวอวี๋ชูที่ตระกูลฟู่ ของต่าง ๆ ที่ซื้อวันนี้ก็ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่จากเธอที่มอบให้กับฟู่ซืออวี่แล้วกัน

……

เสิ่นชิงซูทำโอทีจนถึงเวลาเที่ยงคืนกว่า

ขณะกลับมาที่ห้องพักผ่อน ฟู่ซืออวี่ก็หลับไปแล้ว

เธอมาที่ข้างเตียงหลังอาบน้ำเสร็จ เลิกผ้าห่มขึ้น ก็เห็นว่าฟู่ซืออวี่ถือสมาร์ตวอตช์เรือนหนึ่งอยู่ในมือ

เป็นรุ่นลิมิติดของแบรนด์หนึ่ง สมาร์ตวอตช์เรือนเดียวก็ราคาถึงห้าหลัก

น่าจะเป็นโจวอวี๋ชูที่ซื้อให้ฟู่ซืออวี่

ดูท่าแล้วโจวอวี๋ชูก็กำลังพยายามเป็นแม่ที่ดีคนหนึ่ง

นี่ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับฟู่ซืออวี่

เสิ่นชิงซูบอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร ถ้าจะพูดว่าไม่สนใจเลยสักนิดก็เป็นไปไม่ได้ แต่เธอเข้าใจดีถึงผลลัพธ์ที่ว่าฟู่ซืออวี่กับโจวอวี๋ชูจะต้องใกล้ชิดสนิทสนมกันขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน

นี่เป็นเรื่องที่เธอไม่อาจขัดขวาง และไม่มีสิทธิ์ขัดขวางด้วย

สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือในตอนที่ฟู่ซืออวี่ต้องการเธอ เธอก็จะดีกับเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เสิ่นชิงซูวางสมาร์ตวอตช์ไว้บนตู้ข้างหัวเตียงฝั่งฟู่ซืออวี่ ก่อนจะปิดไฟเข้านอน

เวลาตีสอง เสิ่นชิงซูรู้สึกได้ว่าเด็กน้อยในอ้อมกอดตัวร้อนจี๋เหมือนลูกไฟ

เธอตื่นขึ้นด้วยความตกใจ เปิดไฟแล้วถึงค้นพบว่าดวงหน้าเล็กของฟู่ซืออวี่ร้อนผ่าวจนแดงแจ๋

พอวัดอุณหภูมิดู ก็มีไข้สูงถึงสามสิบเก้าจุดแปดองศาแล้ว!

เสิ่นชิงซูหายาลดไข้มาแล้วป้อนฟู่ซืออวี่ก่อนเป็นอันดับแรก

แต่ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ไข้ของฟู่ซืออวี่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลด

เสิ่นชิงซูรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไว อุ้มฟู่ซืออวี่ขึ้นแล้วรีบมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล

เธอโทรหาฟู่ซือเหยียนระหว่างทาง แต่ก็ไม่มีใครรับสายเลย

พอมาถึงโรงพยาบาลก็เข้าตรวจที่ห้องฉุกเฉิน ผลการตรวจออกมาว่าเป็นโรคหลอดลมอักเสบแบบเฉียบพลัน

จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือและรักษาตัว

หลังจากเสิ่นชิงซูทำเรื่องนอนโรงพยาบาลเสร็จ ก็โทรศัพท์หาฟู่ซือเหยียนต่อ

ในที่สุดครั้งนี้ก็โทรติดสักที เสียงอันอ่อนโยนของโจวอวี๋ชูดังมาจากปลายสาย “ขอโทษนะคะคุณเสิ่น ซือเหยียนอาบน้ำอยู่ คุณมีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ?”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 733

    “เธอมีพรสวรรค์ดีมาก ด้วยฐานะทางบ้านอย่างเธอ สามารถหาอาจารย์เก่ง ๆ มาชี้แนะได้สบาย”ชีเยว่วาดไปได้แค่ครึ่งเดียว ก็ได้ยินประโยคนี้หลุดจากปากเสิ่นชิงซูเขาชะงักมือ เงยหน้าขึ้นมองเธอเสิ่นชิงซูสีหน้าเย็นชา “แกลเลอรีของฉันไม่รับเธอ เธอกลับไปซะเถอะ”ชีเยว่วางพู่กันลง จ้องมองเสิ่นชิงซู “เป็นเพราะลุงฟู่แต่งงานกับแม่ผม คุณถึงไม่ชอบผมเหรอครับ?”“ใช่” เสิ่นชิงซูมองเด็กชายที่มีความคิดความอ่านเกินเด็กแปดขวบไปไกล น้ำเสียงยังคงเย็นยะเยือก “เพราะชีหมิงเสวียน และเพราะฟู่ซือเหยียน คนหรือสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ฉันไม่อยากยุ่งเกี่ยวด้วยทั้งนั้น”ชีเยว่เริ่มร้อนใจ ขมวดคิ้วรีบอธิบาย “ลุงฟู่รักคุณมากนะครับ เขากับแม่ผมแค่ร่วมมือกันทางธุรกิจเฉย ๆพวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันด้วยซ้ำ”เสิ่นชิงซูเพียงแค่นยิ้มเย็น “ฉันไม่สนหรอก เธอเป็นเด็ก ฉันไม่อยากใจร้ายกับเธอเกินไป แต่ขอให้เธออย่ามาที่นี่อีก”ชีเยว่มองเสิ่นชิงซูตาละห้อยเสิ่นชิงซูละสายตากลับมา หันไปสั่งผู้อำนวยการเซวีย “ฉันไปก่อนนะคะ ถ้าเขายังดื้อไม่ยอมกลับ คุณก็แจ้งตำรวจให้มาจัดการได้เลย”ผู้อำนวยการเซวียพยักหน้ารับ “เข้าใจแล้วครับ”เสิ่นชิงซูหันหล

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 732

    เมื่อสบตากัน ทั้งสองฝ่ายต่างก็มีสีหน้าแปลกใจอย่างเห็นได้ชัดชีเยว่จ้องมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอยผ่านไปครู่ใหญ่ เขาถึงลุกขึ้นยืน มองหน้าเสิ่นชิงซู แล้วถามว่า “คุณเป็นเจ้าของแกลเลอรีนี้เหรอครับ?”เสิ่นชิงซูเดินเข้ามา มองเด็กชายที่มีท่าทางแก่แดดเกินวัย นิ่งคิดไปครู่หนึ่ง ถึงเอ่ยปาก “เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ ถ้าจะสมัครเรียน ต้องให้ผู้ปกครองมาด้วยถึงจะสมัครได้นะ”“แม่ไม่สนใจผมหรอกครับ” ชีเยว่มองเสิ่นชิงซู ทั้งที่อายุแค่แปดขวบ แต่คำพูดคำจากลับดูเป็นผู้ใหญ่ “ผมตัดสินใจเองได้ ทุกบ่ายวันอาทิตย์ผมจัดสรรเวลาเองได้ครับ”เด็กคนนี้อายุน้อยแค่นี้ แต่กลับมีบุคลิกความเป็นผู้นำแผ่ออกมาพูดง่าย ๆ ก็คือ สุขุมเกินวัยแต่เขาเป็นลูกชายของชีหมิงเสวียน และเป็นลูกเลี้ยงของฟู่ซือเหยียนเสิ่นชิงซูไม่ได้อยากรับเขาไว้นัก“ขอโทษนะ ตามกฎแล้ว แกลเลอรีของเรารับผู้เยาว์เข้าเรียนโดยที่ผู้ปกครองไม่ยินยอมไม่ได้” เสิ่นชิงซูใช้น้ำเสียงเป็นการเป็นงาน“เป็นเพราะแม่ผมคือชีหมิงเสวียน คุณถึงไม่อยากรับผมใช่ไหมครับ?”เสิ่นชิงซูชะงัก “ใช่ เพราะงั้นอย่าฝืนใจคนอื่นเลย ฉันเปิดประตูทำธุรกิจก็จริง แต่ไม่ใช่ทุกธุรกิจที่จำเป็นต้อ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 731

    “หานหมิงอวี่” ชีหมิงเสวียนเอ่ยชื่อเขาด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกหานหมิงอวี่ชะงักนิ่งไป“แปดปีแล้วสินะ” ชีหมิงเสวียนหัวเราะในลำคอ แต่เป็นเสียงหัวเราะที่ไร้ซึ่งชีวิตชีวา “ที่แท้คุณก็ยังจำเขาได้ ที่แท้คุณก็จำได้ว่าชีเยว่เป็นลูกของเขา ที่แท้คุณก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณกับฉี่ซือเนี่ยนเป็นพี่น้องกัน”หานหมิงอวี่ขมวดคิ้ว กำโทรศัพท์แน่นขึ้นปลายสาย เสียงของชีหมิงเสวียนยังคงดังต่อเนื่อง “งั้นทำไมตลอดแปดปีมานี้ คุณถึงไม่เคยมาดูดำดูดีพวกเราแม่ลูกเลย? ฉี่ซือเนี่ยนตายไปแล้ว ความเป็นพี่น้องก็ตายตามไปด้วยเหรอ? ทำไม? ทำไมถึงปล่อยให้พวกเราแม่ลูกต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในขุมนรกตระกูลชีตามยถากรรม?”หานหมิงอวี่นิ่งอึ้ง“หานหมิงอวี่ ตอนนี้คุณจะมาแกล้งทำเป็นรักลึกซึ้งอะไรกับเสิ่นชิงซู?” ชีหมิงเสวียนแค่นหัวเราะ “ความจริงแล้ว คุณต่างหากที่เป็นคนเลือดเย็นที่สุด”เสียงของผู้หญิงลอดผ่านโทรศัพท์เข้าสู่โสตประสาทของชายหนุ่มท่ามกลางความเงียบสงัดในศาลบรรพชน ลมหายใจของหานหมิงอวี่เริ่มติดขัดแพขนตากะพริบถี่รัววินาทีถัดมา ชายหนุ่มก็กดตัดสายอย่างร้อนรนราวกับคนหนีความผิด......หลังจากวันนั้น เสิ่นชิงซูเก็บตัวอยู่ในวิลล่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 730

    ฟู่ซือเหยียนมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอยแต่เสิ่นชิงซูไม่แยแสเขาอีก หันหลังเดินตรงเข้าบ้านไปประตูหน้าบ้านปิดลงเสียงดังปัง ตัดขาดสายตาของผู้ชายคนนั้นฟู่ซือเหยียนจ้องประตูที่ปิดสนิทบานนั้น แววตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า…...คฤหาสน์ตระกูลหานหลังจากหานหมิงอวี่ส่งญาติผู้ใหญ่ทั้งสี่กลับถึงบ้าน ก็อธิบายเรื่องราวให้พวกเขาฟังตามฉบับที่ตกลงกับเสิ่นชิงซูไว้ผลลัพธ์ก็เป็นอย่างที่เขาคาด ต้องไปคุกเข่ารับโทษที่ศาลบรรพชนคุณปู่หานพอได้ยินว่าหลานชายตัวดีเป็นคนทำผิดต่อฝ่ายหญิง ทำให้เธอต้องคลอดลูกโดยไร้สถานะ เป็นเหตุให้หลานคนโตของตระกูลหานต้องตกระกำลำบากอยู่ข้างนอกด้วยความโมโห คุณปู่เลยฟาดไม้เท้าใส่หลังหานหมิงอวี่ไปหนึ่งทีหานหมิงอวี่กัดฟันแน่นไม่ร้องสักแอะคุณย่าหานปวดใจแทนหลาน ปากก็ดุด่าความผิดของหลาน สั่งให้คนลากตัวไปคุกเข่าที่ศาลบรรพชน แต่ความจริงคือหาทางปกป้องหลาน กลัวว่าคุณปู่เลือดขึ้นหน้าจะฟาดซ้ำอีกหลายไม้หานหมิงอวี่ถูกทำโทษให้คุกเข่าสำนึกผิดในศาลบรรพชนคุณปู่หานยื่นคำขาด ต้องคุกเข่าถึงพรุ่งนี้ ใครกล้ามาช่วยพูด ให้ไปคุกเข่าเป็นเพื่อนเขาด้วย!พ่อหานแม่หานส่ายหน้าถอนหายใจผู้ชายอกสาม

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 729

    ฟู่ซือเหยียนไม่ได้ปฏิเสธลูกกระเดือกของเขาขยับขึ้นลง “อาซู ผมรู้ว่าเรื่องนี้ผมต้องรับผิดชอบ ให้เวลาผมหน่อย เรามาคุยกันเถอะ”หานหมิงอวี่ทนไม่ไหวอีกต่อไป ก้าวเข้าไปขวางหน้าเสิ่นชิงซูไว้ “ฟู่ซือเหยียน เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วคุณยังกล้าเอาลูกมาขู่เธออีก หน้าไม่อายไปหน่อยมั้ง?”ฟู่ซือเหยียนแค่นเสียงหัวเราะ “ผมเอาลูกมาบีบเธอ? หรือเป็นคุณกันแน่ที่มีเจตนาแอบแฝง?”สายตาของหานหมิงอวี่วาวโรจน์ จ้องเขม็งอย่างไม่ลดละสองหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ไล่เลี่ยกันยืนประจันหน้า บรรยากาศตึงเครียดจนแทบหยุดหายใจเหล่าผู้หลักผู้ใหญ่ตระกูลหานได้แต่ยืนอึ้งทำตาปริบ ๆสุดท้ายพ่อหานจึงต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากไกล่เกลี่ย“ดูท่าวันนี้พวกเราจะคิดน้อยไปหน่อยจริง ๆ” พ่อหานมองเสิ่นชิงซู น้ำเสียงอ่อนโยน “คุณเสิ่น ต้องขอโทษด้วยที่พวกเราบุ่มบ่าม เรื่องของพวกหนุ่ม ๆ สาว ๆ ก็ตัดสินใจกันเองน่าจะดีกว่า เอาอย่างนี้ สินสอดพวกเราจะฝากไว้ให้ก่อน ถ้าคุณเสิ่นกับหมิงอวี่มีวาสนาต่อกัน ก็ถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าพวกคุณยังไม่อยากแต่งงาน... สินสอดพวกนี้ก็ถือซะว่าเป็นของรับขวัญที่พวกเราให้เสี่ยวเนี่ยนเนี่ยนก็แล้วกัน”พ่อหานพูดจาได้อย่างสวยหรูไร้ที่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 728

    เสิ่นชิงซูถึงกับไปไม่เป็นลีลาของคุณย่าหานช่างดุดันเหลือเกิน จนเธอไปไม่เป็น ได้แต่หันหน้าไปมองหานหมิงอวี่หานหมิงอวี่ยกมือนวดหว่างคิ้ว เอ่ยกับคุณย่าว่า “คุณย่าครับ ใจเย็น ๆ ก่อน สถานการณ์ระหว่างเราซับซ้อนนิดหน่อย คุณย่าทำแบบนี้ ชิงซูจะลำบากใจเอานะครับ”“อะไรคือสถานการณ์ซับซ้อน?” คุณย่าหานขมวดคิ้วมองหลานชาย “หรือว่า พวกหลานแอบไปจดทะเบียนสมรสกันมาแล้ว?”หานหมิงอวี่ “...”เสิ่นชิงซู “...”ฟู่ซือเหยียนที่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ทนดูต่อไปไม่ไหว“อาซู” ฟู่ซือเหยียนก้าวเข้ามา เมินเฉยคนอื่นรอบข้าง สายตาคมเข้มจับจ้องเพียงเสิ่นชิงซู “เรามาคุยกันหน่อยได้ไหม?”เสิ่นชิงซูมองเขาด้วยสีหน้าเย็นชา “ขอโทษนะคะคุณฟู่ เกรงว่าตอนนี้ฉันคงไม่ว่างต้อนรับคุณ”คุณย่าหานและแม่หานมองฟู่ซือเหยียน แม่ผัวลูกสะใภ้ลอบสบตากันแวบหนึ่งความจริงก่อนจะบุกมาที่นี่ พวกเขาสืบประวัติของเสิ่นชิงซูมาเรียบร้อยแล้วเรื่องที่เสิ่นชิงซูและฟู่ซือเหยียนเคยเป็นสามีภรรยากัน แม้ทั้งคู่จะไม่เคยเปิดเผย แต่สำหรับตระกูลหาน การสืบเรื่องแค่นี้มันง่ายมากเสิ่นชิงซูเคยผ่านการแต่งงานมาแล้ว แถมยังมีลูกชายหญิงกับฟู่ซือเหยียนอีกหนึ่งคู่ แม้คนตระ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status