Share

บทที่ 10

Author: หรงหรงจื่ออี
“แม่ครับ?”

ฟู่ซืออวี่วิ่งกลับมาตามหาที่ห้องรับแขกอย่างไม่ตายใจ

“แม่ครับ? แม่!”

หาจนทั่วแล้วก็ไม่เห็นเสิ่นชิงซู

ในที่สุดฟู่ซืออวี่ก็แน่ใจว่าเสิ่นชิงซูไปแล้ว!

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เสิ่นชิงซูทิ้งเขาไว้แล้วกลับไปโดยไม่บอกไม่กล่าว!

ฟู่ซืออวี่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทำลายของเล่นบนโซฟาที่เสิ่นชิงซูซื้อให้เธอจนพังเรียบ

ฟู่ซือเหยียนที่อยู่ในห้องทำงานได้ยินเสียงโครมครามก็เดินลงมาตรวจสอบดู

ฟู่ซืออวี่ทำห้องรับแขกจนยุ่งเหยิงไปหมด ข้อตกลงการหย่าฉบับนั้นอยู่กับของระเกะระกะ จึงถูกเขากวาดลงไปอยู่ใต้โซฟาด้วย

ฟู่ซือเหยียนขวมดคิ้ว ก่อนจะเดินไปกวาดตามองในครัวแวบหนึ่ง “แม่ของลูกล่ะ?”

“เธอไม่ใช่แม่ผมสักหน่อย!”

ฟู่ซืออวี่ตวาดอย่างเกรี้ยวกราด “มีแม่ที่ไหนทิ้งลูกชายที่กำลังป่วยไว้แล้วกลับไปโดยไม่บอกไม่กล่าวกัน! ผมเกลียดเธอ! ผมไม่ต้องการแม่อย่างเธอแล้ว!”

ฟู่ซือเหยียนชะงักไปเล็กน้อย ประหลาดใจอยู่บ้าง “เธอไปแล้วเหรอ?”

“ใช่ครับ!” ฟู่ซืออวี่อาละวาดเสร็จ ความรู้สึกน้อยใจทะลักขึ้นมาในใจอย่างฉับพลัน จึงส่งเสียง ‘จ้า’ แล้วปล่อยโฮ

“แม่ใจร้าย! เธอไม่ต้องการผมแล้วใช่ไหมครับ? ทั้งที่ผมมีแม่ที่อ่อนโยนแถมโคตรสวย แต่ผมก็ยังไม่บอกว่าจะทิ้งเธอเลย แล้วเธอทำแบบนี้กับผมได้ยังไง…ฮือ ๆ! แม่ใจร้าย! นางมารร้าย!”

ฟู่ซือเหยียนเดินเข้ามา มือใหญ่ลูบศีรษะของฟู่ซืออวี่เบา ๆ “ถึงจะโกรธหรือน้อยใจยังไงก็ด่าแม่สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ”

“ทำไมล่ะครับ…” ฟู่ซืออวี่กอดฟู่ซือเหยียน ร้องไห้จนร่างน้อย ๆ กระตุกสั่นเป็นพัก ๆ “เหมือนว่าแม่ไม่ได้รักผมมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว! พ่อครับ เป็นเพราะว่าผมมีแม่ใหม่ แม่ชิงซูก็เลยจะไปจากผมใช่ไหม?”

ฟู่ซือเหยียนอุ้มเขานั่งลงบนโซฟา ก่อนจะดึงทิชชูมาหลายแผ่นแล้วช่วยเช็ดน้ำตาให้เขา

“ช่วงนี้แม่ชิงซูของลูกก็แค่ยุ่งมาก ต่อให้ลูกจะยอมรับความเป็นแม่ลูกกับแม่เสี่ยวชู เธอก็จะยังรักลูกเหมือนเดิม”

ฟู่ซืออวี่สูดจมูกเล็กน้อย “จริงเหรอครับ?”

“พ่อไม่โกหกหรอก”

ฟู่ซืออวี่ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ความกระวนกระวายและน้อยเนื้อต่ำใจก็สลายหายไปจากใจเยอะแล้ว

แต่เขายังอยากให้เสิ่นชิงซูดูแลเขาอยู่

เพราะเขาป่วยจึงไม่อยากอาหาร โจ๊กที่เสิ่นชิงซูต้มเองกับมือทั้งหอมและอร่อยมาก เขาอยากให้เสิ่นชิงซูต้มโจ๊กให้เขาทุกวัน

“พ่อครับ ผมก็ยังคิดถึงแม่ชิงซูมากอยู่ดี”

ฟู่ซือเหยียนครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนกล่าว “ถ้าลูกกินโจ๊กแต่โดยดีแล้ว พ่อก็จะพาลูกไปหาเธอ”

ฟู่ซืออวี่ดวงตาเป็นประกายเมื่อได้ยินแบบนั้น “ได้เลยครับ!”

……

หลังออกมาจากคฤหาสน์หนานซี เสิ่นชิงซูก็กลับไปที่สตูดิโอทันที

อีกสามวันก็จะถึงวันที่แม่ออกจากเรือนจำ

และอีกสิบกว่าวันก็จะสิ้นปีแล้ว

ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันก็ขนไปตั้งไว้ที่บ้านใหม่เรียบร้อยแล้ว เสิ่นชิงซูนัดบริษัททำความสะอาดบ้านให้ไปเก็บกวาดบ้านใหม่พรุ่งนี้

ที่สตูดิโอยังมีวัตถุโบราณอีกชิ้นที่ต้องส่งมอบในวันพรุ่งนี้

เดิมทีเสิ่นชิงซูวางแผนไว้ว่าหลังเสร็จงานนี้ก็จะหยุดปีใหม่ไปเลย และปีนี้เธอจะพาแม่ไปฉลองปีใหม่ที่ซานย่า

ทว่าตอนนี้เธอท้องแล้ว...

เสิ่นชิงซูลูบท้องของตัวเอง ความรู้สึกซับซ้อนมาก

เธอยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเก็บเด็กไว้ไหม

ถ้าฟู่ซือเหยียนรู้ว่าเธอท้อง เขาจะมีปฏิกิริยาแบบไหน?

เขาดีกับฟู่ซืออวี่ขนาดนั้น แล้วจะดีกับลูกของเธอเหมือนกันหรือเปล่า?

เสิ่นชิงซูยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองช่างน่าขันเต็มทน

ที่ฟู่ซือเหยียนดีกับฟู่ซืออวี่ขนาดนั้น ก็เป็นเพราะโจวอวี๋ชู

เมื่อรักใครแล้วก็ต้องรักทุกอย่างที่เป็นของคนนั้นด้วย เหตุผลข้อนี้ใครบ้างจะไม่เข้าใจ?

เสิ่นชิงซูเอามือปิดหน้าอย่างเจ็บปวด

ตื่นสักทีเถอะ เลิกเพ้อฝันและหยุดทำให้ตัวเองอับอายได้แล้ว!

ก๊อก ๆ ...

ประตูห้องทำงานถูกเคาะให้ดังขึ้น

เสิ่นชิงซูเงยหน้าขึ้นมา จัดการกับอารมณ์ให้เรียบร้อย “เชิญเข้ามา”

ลู่เสี่ยวหานผลักประตูให้เปิดออก “พี่ชิงซู ซืออวี่มาค่ะ”

เสิ่นชิงซูขวมดคิ้ว “เขายังไม่สบายอยู่ ทำไมถึงมาได้ล่ะ?”

“ทนายฟู่มาส่งที่หน้าสตูดิโอ แล้วให้ฉันพาเข้ามาค่ะ”

เพิ่งจะสิ้นเสียงของลู่เสี่ยวหาน ฟู่ซืออวี่ที่สะพายกระเป๋าลายการ์ตูนของตัวเองไว้ด้านหลังก็เดินเข้ามาแล้ว

“แม่!”

เสิ่นชิงซูลุกขึ้นแล้วเดินมา ก่อนจะแตะที่หน้าผากเขาเบา ๆ “แล้วพ่อของลูกล่ะ?”

“พ่อมีงานก็เลยดูแลผมไม่ได้ครับ และผมเองก็คิดถึงแม่แล้วด้วย” ฟู่ซืออวี่แหงนหน้ามองเสิ่นชิงซูด้วยท่าทางน่าสงสาร

เสิ่นชิงซูโทรหาฟู่ซือเหยียน

เธออยากให้ฟู่ซือเหยียนมารับฟู่ซืออวี่ไป

แต่ฟู่ซือเหยียนไม่รับโทรศัพท์

เห็นได้ชัดว่าจงใจ!

เสิ่นชิงซูหงุดหงิดเป็นที่สุด สีหน้าเย็นเยียบในทันที

ฟู่ซืออวี่มองเธอ ดวงตาพลันแดงก่ำ ก่อนพูดเสียงสะอื้น “แม่ครับ แม่รังเกียจผมแล้วใช่ไหม? ถ้าแม่ไม่ชอบผมแล้ว งั้นผมไปดีกว่า…”

ระหว่างที่พูด น้ำตาก็ร่วงหล่นลงมา

เสิ่นชิงซูหัวใจอ่อนยวบ รีบเข้ามากอดเขาพลางพูดปลอบเสียงเบา “ไม่ได้ไม่ชอบลูกหรอก แต่สองวันนี้แม่จะยุ่งมาก ลูกยังป่วยอยู่ แม่เลยกลัวว่าจะดูแลลูกได้ไม่ดีน่ะ”

“ผมไม่มีไข้แล้วครับ”

ฟู่ซืออวี่จับมือของเสิ่นชิงซูมาวางทาบบนหน้าผากของตัวเอง “แม่ดูสิครับ ผมไม่มีไข้แล้วจริง ๆ ผมจะอยู่คนเดียวอย่างเชื่อฟังไม่รบกวนการทำงานของแม่แน่นอนครับ ขอร้องนะครับ แม่อย่าไล่ผมไปเลยนะ~”

ฟู่ซืออวี่ใช้ลูกอ้อนทีไร เสิ่นชิงซูก็เป็นต้องจนปัญญาทุกทีไป

เธอถอนหายใจหนึ่งที ก่อนจะลูบใบหน้าเล็กของเขาที่ยังมีไข้อ่อน ๆ เบา ๆ “ลูกกินโจ๊กที่แม่ต้มหรือยัง?”

“กินแล้วครับ!” ฟู่ซืออวี่พูดเหมือนเอาความดีความชอบ “ผมกินหมดไปถ้วยเบ้อเริ่มเลยนะครับ!”

“แล้วเอายามาด้วยหรือเปล่า?”

“เอามาครับ!” ฟู่ซืออวี่ตบกระเป๋าลายการ์ตูนของตัวเองเบา ๆ “แม่ครับ ของเล่นที่แม่ซื้อให้ผมกับหนังสืออ่านก่อนนอนผมก็เอามาด้วยแล้วนะ!”

เสิ่นชิงซูแตะที่ปลายจมูกเขา “มีครั้งไหนบ้างที่ลูกลืมหนังสืออ่านก่อนนอน! ลูกยังป่วยอยู่ ไปนอนพักบนเตียงนะ แม่ยังต้องทำงานอีก”

“ครับ!”

ฟู่ซืออวี่หอบกระเป๋าเดินต๊อกแต๊กเข้าห้องพักผ่อนไป

เสิ่นชิงซูมองท่าทางรู้ประสาและว่าง่ายของฟู่ซืออวี่ ในใจก็อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้

ฟู่ซืออวี่ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง เป็นธรรมดาที่จะพึ่งพาพ่อแม่ ต่อให้ยอมรับความเป็นแม่ลูกกับโจวอวี๋ชูแล้ว แต่ในใจเขายังคงยอมรับแม่คนนี้อย่างเธออยู่ไม่ใช่เหรอ?

เธอไม่ควรเอาความโกรธไปลงที่เด็กคนหนึ่งเลยจริง ๆ

ครั้นนึกมาถึงตรงนี้ เสิ่นชิงซูเปิดแอปซื้อของ ก่อนจะจัดการสั่งซื้อหนังสือจำนวนหนึ่งกับของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กที่ใส่ตะกร้าไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ทั้งหมด

เธอคิดว่าปีนี้ฟู่ซืออวี่น่าจะอยู่ฉลองวันสิ้นปีกับฟู่ซือเหยียนและโจวอวี๋ชูที่ตระกูลฟู่ ของต่าง ๆ ที่ซื้อวันนี้ก็ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่จากเธอที่มอบให้กับฟู่ซืออวี่แล้วกัน

……

เสิ่นชิงซูทำโอทีจนถึงเวลาเที่ยงคืนกว่า

ขณะกลับมาที่ห้องพักผ่อน ฟู่ซืออวี่ก็หลับไปแล้ว

เธอมาที่ข้างเตียงหลังอาบน้ำเสร็จ เลิกผ้าห่มขึ้น ก็เห็นว่าฟู่ซืออวี่ถือสมาร์ตวอตช์เรือนหนึ่งอยู่ในมือ

เป็นรุ่นลิมิติดของแบรนด์หนึ่ง สมาร์ตวอตช์เรือนเดียวก็ราคาถึงห้าหลัก

น่าจะเป็นโจวอวี๋ชูที่ซื้อให้ฟู่ซืออวี่

ดูท่าแล้วโจวอวี๋ชูก็กำลังพยายามเป็นแม่ที่ดีคนหนึ่ง

นี่ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับฟู่ซืออวี่

เสิ่นชิงซูบอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร ถ้าจะพูดว่าไม่สนใจเลยสักนิดก็เป็นไปไม่ได้ แต่เธอเข้าใจดีถึงผลลัพธ์ที่ว่าฟู่ซืออวี่กับโจวอวี๋ชูจะต้องใกล้ชิดสนิทสนมกันขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน

นี่เป็นเรื่องที่เธอไม่อาจขัดขวาง และไม่มีสิทธิ์ขัดขวางด้วย

สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือในตอนที่ฟู่ซืออวี่ต้องการเธอ เธอก็จะดีกับเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เสิ่นชิงซูวางสมาร์ตวอตช์ไว้บนตู้ข้างหัวเตียงฝั่งฟู่ซืออวี่ ก่อนจะปิดไฟเข้านอน

เวลาตีสอง เสิ่นชิงซูรู้สึกได้ว่าเด็กน้อยในอ้อมกอดตัวร้อนจี๋เหมือนลูกไฟ

เธอตื่นขึ้นด้วยความตกใจ เปิดไฟแล้วถึงค้นพบว่าดวงหน้าเล็กของฟู่ซืออวี่ร้อนผ่าวจนแดงแจ๋

พอวัดอุณหภูมิดู ก็มีไข้สูงถึงสามสิบเก้าจุดแปดองศาแล้ว!

เสิ่นชิงซูหายาลดไข้มาแล้วป้อนฟู่ซืออวี่ก่อนเป็นอันดับแรก

แต่ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ไข้ของฟู่ซืออวี่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลด

เสิ่นชิงซูรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไว อุ้มฟู่ซืออวี่ขึ้นแล้วรีบมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล

เธอโทรหาฟู่ซือเหยียนระหว่างทาง แต่ก็ไม่มีใครรับสายเลย

พอมาถึงโรงพยาบาลก็เข้าตรวจที่ห้องฉุกเฉิน ผลการตรวจออกมาว่าเป็นโรคหลอดลมอักเสบแบบเฉียบพลัน

จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือและรักษาตัว

หลังจากเสิ่นชิงซูทำเรื่องนอนโรงพยาบาลเสร็จ ก็โทรศัพท์หาฟู่ซือเหยียนต่อ

ในที่สุดครั้งนี้ก็โทรติดสักที เสียงอันอ่อนโยนของโจวอวี๋ชูดังมาจากปลายสาย “ขอโทษนะคะคุณเสิ่น ซือเหยียนอาบน้ำอยู่ คุณมีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 307

    เสี่ยวเนี่ยนอันขมวดคิ้วไม่ได้พูด แต่ก้มหน้ามองตะเกียบเด็กที่ตัวเองถืออยู่ในมือท่าทางการจับตะเกียบของเขาไม่ถูกเสี่ยวอันหนิงจึงหยุดแล้วสอนเขาว่าต้องใช้ตะเกียบเด็กอย่างไรด้วยตัวเอง“เอานิ้วโป้งไว้ตรงนี้ นิ้วชี้ไว้ตรงนี้...ใช่แล้ว เสี่ยวเนี่ยนอันเก่งจังเลย งั้นตอนนี้ลองดูสิ ทำเหมือนกับฉัน คีบเนื้อ คีบขึ้นมา อ้าปาก อ้ำ~ภายใต้การสอนด้วยความอดทนของเสี่ยวอันหนิง เสี่ยวเนี่ยนอันใช้ตะเกียบเด็กคีบเนื้อชิ้นหนึ่งเข้าปากได้สำเร็จเสี่ยวอันหนิงวางตะเกียบลงทันที ตามด้วยปรบมือ “เสี่ยวเนี่ยนอันสุดยอดไปเลย! ตอนที่ฉันเพิ่งเริ่มใช้ตะเกียบนี่ต้องเรียนตั้งหลายวันแน่ะถึงจะเป็น แต่เสี่ยวเนี่ยนอันเป็นอัจฉริยะน้อย เรียนครั้งเดียวก็เป็นแล้ว!”เสี่ยวเนี่ยนอันได้รับคำชมจึงอาย ใบหน้าเล็ก ๆ แดงระเรื่อเขามองไปทางเฟิงอวิ๋นเฉียนด้วยความอายเล็กน้อยเฟิงอวิ๋นเฉียนดื่มเหล้านิดหน่อย มึนนิด ๆเมื่อกี้เขาเห็นการแสดงอันยอดเยี่ยมของลูกชายแล้วเขาวางแก้วเหล้าลง แล้วยกมือใหญ่ยีหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน “เนี่ยนอันก้าวหน้ามากเลยนะ”เสี่ยวเนี่ยนอันได้รับคำชมจึงดีใจมาก ยกมุมปาก แย้มยิ้มขี้อายเสิ่นชิงซูสังเกตปฏิสัมพันธ์ขอ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 306

    เวินจิ่งซีเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพยักหน้าด้วยท่าทางหนักอกมีดในมือเสิ่นชิงซูร่วงตกลงพื้น“ระวัง!”เวินจิ่งซีรีบไปดึงเธอออกไป๋เจี้ยนเหวินตกใจกับเสียงจึงรีบปิดไฟกระทะผัดแล้วหันมามองเสิ่นชิงซูเห็นเธอมีสีหน้าแปลกไป ไป๋เจี้ยนเหวินจึงขมวดคิ้ว “เป็นอะไรไปน่ะ?”เสิ่นชิงซูหน้าซีดเผือด ดวงตาแดงก่ำโจวอวี๋ชูทำให้ลูกชายของเธอตายแต่เมื่อกี้เธอทำอะไรลงไป?เมื่อกี้เธอยังอุ้มเด็กคนนั้น...เสิ่นชิงซูหลับตาลง ข่มอารมณ์แล้วพูด “ให้เฟิงอวิ๋นเฉียนพาเด็กคนนั้นไป เอาไปเดี๋ยวนี้!”เธอรู้ว่าเด็กบริสุทธิ์แต่แม่ของเด็กคนนั้นคือฆาตกรที่ทำให้ลูกชายของเธอตาย!ไป๋เจี้ยนเหวินพยุงเสิ่นชิงซูพลางมองเวินจิ่งซี “ยังยืนเฉยทำไม รีบไปสิ!”เวินจิ่งซีถอนหายใจและหมุนตัวออกจากห้องครัว เกือบได้เจอกับเฟิงอวิ๋นเฉียนแล้วเฟิงอวิ๋นเฉียนอยากเข้าห้องครัว แต่เวินจิ่งซีขวางเขาไว้ทัน“คุณทำอะไรน่ะ?”เวินจิ่งซีขมวดคิ้วจ้องเขา “อาซูรู้แล้วว่าเสี่ยวเนี่ยนอันคือลูกของคุณกับโจวอวี๋ เธอไม่ให้อภัยชูโจวอวี๋ชู ถ้าคุณยังมีหัวใจเหลืออยู่ก็รีบพาลูกชายของคุณไสหัวไปเถอะ!”เฟิงอวิ๋นเฉียนมองเวินจิ่งซีด้วยสายตาราบเรียบ “เนี่ยนอันเป็นลูกช

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 305

    เสี่ยวเนี่ยนอันพยักหน้าเสิ่นชิงซูนั่งยองลงอีกครั้ง มองเขาแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “เสียงของเสี่ยวเนี่ยนอันไพเราะมาก น้าอยากฟังอีกจังเลย ได้ไหมจ๊ะ?”เสี่ยวเนี่ยนอันอ้าปาก ค่อย ๆ เปล่งเสียงออกมาคำหนึ่งช้า ๆ “ครับ”“เก่งจังเลย!” เสิ่นชิงซูลูบศีรษะของเขา ตามด้วยมองเสี่ยวอันหนิง “ลูกพาเสี่ยวเนี่ยนอันไปเล่นก่อนเถอะ”“ได้ค่ะ!”เสี่ยวอันหนิงจูงมือเสี่ยวเนี่ยนอันวิ่งไปเล่นที่ห้องรับแขกอย่างสุขสันต์ทันทีเสี่ยวเนี่ยนอันยินดีตามเสี่ยวอันหนิงไปเสี่ยวอันหนิงขนกล่องของเล่นตัวเองออกไปแล้วเทของออกทั้งหมด “เสี่ยวเนี่ยนอัน ของเล่นพวกนี้เลือกได้ตามสบายเลยนะ ชอบอันไหนฉันจะให้ แต่เลือกได้แค่ชิ้นเดียวนะ~”เด็กสองคนเล่นกันเอง ผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องกังวลเสิ่นชิงซูลุกขึ้นยืนมองจางอวิ๋นและถาม “เสี่ยวเนี่ยนอันกี่ขวบแล้วคะ?“เดือนที่แล้วเพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบสามปีไปค่ะ”เสิ่นชิงซูพยักหน้า “งั้นก็เด็กกว่าเสี่ยวอันหนิงไปปีหนึ่ง สามขวบยังเด็ก พวกคุณอย่ายอมแพ้กับเขานะ อย่างอื่นเขาฟังรู้เรื่องหมด แค่ว่าจิตใจอ่อนไหวกว่าเด็กคนอื่น ผู้ใหญ่ต้องแนะนำด้วยความอดทนเป็นเวลานาน“คุณพูดถูกค่ะ เจ้านายรักคุณชายน้อยมาก เขา

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 304

    เสี่ยวเนี่ยนอันมีตรวจพบว่ามีแนวโน้มปิดกั้นตัวเองตั้งแต่สองขวบนับจากตรวจพบ จางอวิ๋นกับครูพี่เลี้ยงอีกคนหนึ่งเพียรพยายามแนะนำเสี่ยวเนี่ยนอันอยู่ตลอด กลับได้ผลผิดจากที่หวังทว่าเวลานี้ เสี่ยวอันหนิงกับเสิ่นชิงซูกลับเปลี่ยนแปลงเสี่ยวเนี่ยนอันได้อย่างง่ายดายจางอวิ๋นรู้สึกว่าอัศจรรย์ใจมาก!ไม่เพียงจางอวิ๋น แม้แต่เจี่ยงเหวินจิ่นกับเวินจิ่งซีก็ประหลาดใจมากเหมือนกันเวินจิ่งซีกระซิบบ่น “มิน่าฟู่ซือเหยียนถึงไม่ยอมหย่าสักที ดวงสมพงษ์กับเด็กที่มีมากอย่างนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ไหนบ้างจะไม่หวั่นไหว!”เจี่ยงเหวินจิ่นถลึงตาใส่เขา “วันดี ๆ อย่าพูดถึงตัวซวย!”เวินจิ่งซี “...ก็ได้ครับ!”เสิ่นชิงซูนั่งยองลงมองเสี่ยวเนี่ยนอันด้วยความอ่อนโยน “เสี่ยวเนี่ยนอัน น้าอุ้มหนูได้ไหมจ๊ะ?”เสี่ยวเนี่ยนอันกะพริบตาปริบ ๆ หน้าเป๋อเหลอนาทีนี้บรรยากาศเงียบกริบทันใดทุกคนกำลังรอปฏิกิริยาของเสี่ยวเนี่ยนอันแม้แต่เสี่ยวอันหนิงก็ไม่กล้าพูดสักแอะ แค่ยืนจ้องเสี่ยวเนี่ยนอันอยู่ด้านข้างเงียบ ๆเวลาผ่านไปทุกนาที เสี่ยวเนี่ยนอันยังไม่ตอบสนองพวกผู้ใหญ่ต่างเข้าใจ การขอแบบนี้เป็นการฝืนเสี่ยวเนี่ยนอันเกินไป“ไม่เป็นไ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 303

    เสิ่นชิงซูลูกชิ้นหัวสิงโตที่เพิ่งทำเสร็จออกมาจากห้องครัว“เสี่ยวอันหนิงอย่าเข้ามา ระวังร้อนนะ”เสี่ยวอันหนิงได้ยินหย่างนั้นจึงลากเสี่ยวเนี่ยนอันหลบไปอีกทางหนึ่งทันทีกระทั่งเห็นเสิ่นชิงซูวางอาหารไว้บนโต๊ะแล้ว เสี่ยวอันหนิงจึงลากเสี่ยวเนี่ยนอันเดินไปตรงหน้าเสิ่นชิงซู“แม่คะ แม่ดูสิ นี่คือเสี่ยวเนี่ยนอัน!”เสี่ยวอันหนิงผลักเสี่ยวเนี่ยอันไปตรงหน้าเสิ่นชิงซูเสิ่นชิงซูยิ้ม ลูกสาวเป็นพวกเข้าสังคมเก่งคนหนึ่ง ชอบพาเพื่อนมาที่บ้าน เธอชินกับเรื่องแบบนี้นานแล้วเธอนั่งยองลงเหมือนทุกที คิดจะทักทายกับเด็กน้อย แต่จังหวะที่เห็นดวงตาดำขลับกลมโตของเสี่ยวเนี่ยนอันกลับชะงักงันความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายถาโถมเข้ามาในหัวใจเสี่ยวเนี่ยนอันก็มองเสิ่นชิงซูเหมือนกันดวงตาเด็กน้อยดำขลับสะท้อนใบหน้าของเสิ่นชิงซู ดวงหน้าทื่อ ๆ เล็ก ๆ ยังคงไม่มีอารมณ์ใดเสี่ยวอันหนิงเดินไปข้างหน้าและกระซิบข้างหูของเสิ่นชิงซู “แม่คะ เสี่ยวเนี่ยนอันไม่ค่อยเหมือนกับเด็กทั่วไปค่ะ น้าจางบอกว่าเขาไม่ชอบพูด”พอเสิ่นชิงซูได้ฟังก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ค่อยเหมือน?ตอนนี้เอง เวินจิ่งซี เจี่ยงเหวินจิ่นและจางอวิ๋นเดินเข้ามาจากข้างน

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 302

    เสี่ยวเนี่ยนอันชอบเสี่ยวอันหนิงมากจริง ๆ เวลาที่เขาอยู่กับเสี่ยวอันหนิง แม้จะไม่ค่อยพูดเท่าไร แต่แค่เสี่ยวอันหนิงถามเขา เขาก็จะตั้งใจตอบทุกครั้งจะพูดง่าย ๆ ไม่กี่คำจางอวิ๋น เวินจิ่งซีเจี่ยงและเหวินจิ่นซึ่งเป็นผู้ใหญ่สามคนยืนมองอยู่ข้างนอก รู้สึกว่าภาพที่เด็กสองคนอยู่ด้วยกันช่างเป็นการเยียวยาที่แสนสวยงามเหลือเกิน“จะว่าไปก็แปลกนะคะ ฉันดูแลคุณชายน้อยมาสองปี นอกจากเจ้านายเรา ยังเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขายอมสนิทสนมกับใครก่อนเลย”“จะเป็นไปได้ไหมว่าลูกสาวผมน่ารักมาก?” เวินจิ่งซีเลิกคิ้วด้วยความภาคภูมิใจเต็มประดา “อยู่ที่โรงเรียนอนุบาล เธอเป็นเด็กที่พ็อปที่สุดเลยนะ”พอจางอวิ๋นได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะพูด “งั้นคุณมีความสุขมากเลยนะคะ มีลูกสาวน่ารักอย่างนี้ ภรรยาของคุณต้องเป็นคนดีมากเลยค่ะ เธอเลี้ยงดูเสี่ยวอันหนิงได้ดีมาก”เวินจิ่งซีกระแอมกระไอ “นี่ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของผมครับ เป็นลูกสาวบุญธรรม”“หา อย่างนี้นี่เอง....” จางอวิ๋นก็อีหลักอีเหลืออยู่บ้างเหมือนกัน จึงเปลี่ยนเรื่องพูด “ถ้าข้างตัวคุณชายน้อยมีเพื่อนน่ารัก ๆ อย่างเสี่ยวอันหนิง อาการของเขาต้องดีขึ้นมากแน่ค่ะ”“พวกคุณก็อยู่ที่เมืองเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status