Share

บทที่ 10

Author: หรงหรงจื่ออี
“แม่ครับ?”

ฟู่ซืออวี่วิ่งกลับมาตามหาที่ห้องรับแขกอย่างไม่ตายใจ

“แม่ครับ? แม่!”

หาจนทั่วแล้วก็ไม่เห็นเสิ่นชิงซู

ในที่สุดฟู่ซืออวี่ก็แน่ใจว่าเสิ่นชิงซูไปแล้ว!

นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เสิ่นชิงซูทิ้งเขาไว้แล้วกลับไปโดยไม่บอกไม่กล่าว!

ฟู่ซืออวี่ไม่พอใจเป็นอย่างมาก ทำลายของเล่นบนโซฟาที่เสิ่นชิงซูซื้อให้เธอจนพังเรียบ

ฟู่ซือเหยียนที่อยู่ในห้องทำงานได้ยินเสียงโครมครามก็เดินลงมาตรวจสอบดู

ฟู่ซืออวี่ทำห้องรับแขกจนยุ่งเหยิงไปหมด ข้อตกลงการหย่าฉบับนั้นอยู่กับของระเกะระกะ จึงถูกเขากวาดลงไปอยู่ใต้โซฟาด้วย

ฟู่ซือเหยียนขวมดคิ้ว ก่อนจะเดินไปกวาดตามองในครัวแวบหนึ่ง “แม่ของลูกล่ะ?”

“เธอไม่ใช่แม่ผมสักหน่อย!”

ฟู่ซืออวี่ตวาดอย่างเกรี้ยวกราด “มีแม่ที่ไหนทิ้งลูกชายที่กำลังป่วยไว้แล้วกลับไปโดยไม่บอกไม่กล่าวกัน! ผมเกลียดเธอ! ผมไม่ต้องการแม่อย่างเธอแล้ว!”

ฟู่ซือเหยียนชะงักไปเล็กน้อย ประหลาดใจอยู่บ้าง “เธอไปแล้วเหรอ?”

“ใช่ครับ!” ฟู่ซืออวี่อาละวาดเสร็จ ความรู้สึกน้อยใจทะลักขึ้นมาในใจอย่างฉับพลัน จึงส่งเสียง ‘จ้า’ แล้วปล่อยโฮ

“แม่ใจร้าย! เธอไม่ต้องการผมแล้วใช่ไหมครับ? ทั้งที่ผมมีแม่ที่อ่อนโยนแถมโคตรสวย แต่ผมก็ยังไม่บอกว่าจะทิ้งเธอเลย แล้วเธอทำแบบนี้กับผมได้ยังไง…ฮือ ๆ! แม่ใจร้าย! นางมารร้าย!”

ฟู่ซือเหยียนเดินเข้ามา มือใหญ่ลูบศีรษะของฟู่ซืออวี่เบา ๆ “ถึงจะโกรธหรือน้อยใจยังไงก็ด่าแม่สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะ”

“ทำไมล่ะครับ…” ฟู่ซืออวี่กอดฟู่ซือเหยียน ร้องไห้จนร่างน้อย ๆ กระตุกสั่นเป็นพัก ๆ “เหมือนว่าแม่ไม่ได้รักผมมากเหมือนแต่ก่อนแล้ว! พ่อครับ เป็นเพราะว่าผมมีแม่ใหม่ แม่ชิงซูก็เลยจะไปจากผมใช่ไหม?”

ฟู่ซือเหยียนอุ้มเขานั่งลงบนโซฟา ก่อนจะดึงทิชชูมาหลายแผ่นแล้วช่วยเช็ดน้ำตาให้เขา

“ช่วงนี้แม่ชิงซูของลูกก็แค่ยุ่งมาก ต่อให้ลูกจะยอมรับความเป็นแม่ลูกกับแม่เสี่ยวชู เธอก็จะยังรักลูกเหมือนเดิม”

ฟู่ซืออวี่สูดจมูกเล็กน้อย “จริงเหรอครับ?”

“พ่อไม่โกหกหรอก”

ฟู่ซืออวี่ได้ยินเขาพูดแบบนี้ ความกระวนกระวายและน้อยเนื้อต่ำใจก็สลายหายไปจากใจเยอะแล้ว

แต่เขายังอยากให้เสิ่นชิงซูดูแลเขาอยู่

เพราะเขาป่วยจึงไม่อยากอาหาร โจ๊กที่เสิ่นชิงซูต้มเองกับมือทั้งหอมและอร่อยมาก เขาอยากให้เสิ่นชิงซูต้มโจ๊กให้เขาทุกวัน

“พ่อครับ ผมก็ยังคิดถึงแม่ชิงซูมากอยู่ดี”

ฟู่ซือเหยียนครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนกล่าว “ถ้าลูกกินโจ๊กแต่โดยดีแล้ว พ่อก็จะพาลูกไปหาเธอ”

ฟู่ซืออวี่ดวงตาเป็นประกายเมื่อได้ยินแบบนั้น “ได้เลยครับ!”

……

หลังออกมาจากคฤหาสน์หนานซี เสิ่นชิงซูก็กลับไปที่สตูดิโอทันที

อีกสามวันก็จะถึงวันที่แม่ออกจากเรือนจำ

และอีกสิบกว่าวันก็จะสิ้นปีแล้ว

ข้าวของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวันก็ขนไปตั้งไว้ที่บ้านใหม่เรียบร้อยแล้ว เสิ่นชิงซูนัดบริษัททำความสะอาดบ้านให้ไปเก็บกวาดบ้านใหม่พรุ่งนี้

ที่สตูดิโอยังมีวัตถุโบราณอีกชิ้นที่ต้องส่งมอบในวันพรุ่งนี้

เดิมทีเสิ่นชิงซูวางแผนไว้ว่าหลังเสร็จงานนี้ก็จะหยุดปีใหม่ไปเลย และปีนี้เธอจะพาแม่ไปฉลองปีใหม่ที่ซานย่า

ทว่าตอนนี้เธอท้องแล้ว...

เสิ่นชิงซูลูบท้องของตัวเอง ความรู้สึกซับซ้อนมาก

เธอยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเก็บเด็กไว้ไหม

ถ้าฟู่ซือเหยียนรู้ว่าเธอท้อง เขาจะมีปฏิกิริยาแบบไหน?

เขาดีกับฟู่ซืออวี่ขนาดนั้น แล้วจะดีกับลูกของเธอเหมือนกันหรือเปล่า?

เสิ่นชิงซูยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองช่างน่าขันเต็มทน

ที่ฟู่ซือเหยียนดีกับฟู่ซืออวี่ขนาดนั้น ก็เป็นเพราะโจวอวี๋ชู

เมื่อรักใครแล้วก็ต้องรักทุกอย่างที่เป็นของคนนั้นด้วย เหตุผลข้อนี้ใครบ้างจะไม่เข้าใจ?

เสิ่นชิงซูเอามือปิดหน้าอย่างเจ็บปวด

ตื่นสักทีเถอะ เลิกเพ้อฝันและหยุดทำให้ตัวเองอับอายได้แล้ว!

ก๊อก ๆ ...

ประตูห้องทำงานถูกเคาะให้ดังขึ้น

เสิ่นชิงซูเงยหน้าขึ้นมา จัดการกับอารมณ์ให้เรียบร้อย “เชิญเข้ามา”

ลู่เสี่ยวหานผลักประตูให้เปิดออก “พี่ชิงซู ซืออวี่มาค่ะ”

เสิ่นชิงซูขวมดคิ้ว “เขายังไม่สบายอยู่ ทำไมถึงมาได้ล่ะ?”

“ทนายฟู่มาส่งที่หน้าสตูดิโอ แล้วให้ฉันพาเข้ามาค่ะ”

เพิ่งจะสิ้นเสียงของลู่เสี่ยวหาน ฟู่ซืออวี่ที่สะพายกระเป๋าลายการ์ตูนของตัวเองไว้ด้านหลังก็เดินเข้ามาแล้ว

“แม่!”

เสิ่นชิงซูลุกขึ้นแล้วเดินมา ก่อนจะแตะที่หน้าผากเขาเบา ๆ “แล้วพ่อของลูกล่ะ?”

“พ่อมีงานก็เลยดูแลผมไม่ได้ครับ และผมเองก็คิดถึงแม่แล้วด้วย” ฟู่ซืออวี่แหงนหน้ามองเสิ่นชิงซูด้วยท่าทางน่าสงสาร

เสิ่นชิงซูโทรหาฟู่ซือเหยียน

เธออยากให้ฟู่ซือเหยียนมารับฟู่ซืออวี่ไป

แต่ฟู่ซือเหยียนไม่รับโทรศัพท์

เห็นได้ชัดว่าจงใจ!

เสิ่นชิงซูหงุดหงิดเป็นที่สุด สีหน้าเย็นเยียบในทันที

ฟู่ซืออวี่มองเธอ ดวงตาพลันแดงก่ำ ก่อนพูดเสียงสะอื้น “แม่ครับ แม่รังเกียจผมแล้วใช่ไหม? ถ้าแม่ไม่ชอบผมแล้ว งั้นผมไปดีกว่า…”

ระหว่างที่พูด น้ำตาก็ร่วงหล่นลงมา

เสิ่นชิงซูหัวใจอ่อนยวบ รีบเข้ามากอดเขาพลางพูดปลอบเสียงเบา “ไม่ได้ไม่ชอบลูกหรอก แต่สองวันนี้แม่จะยุ่งมาก ลูกยังป่วยอยู่ แม่เลยกลัวว่าจะดูแลลูกได้ไม่ดีน่ะ”

“ผมไม่มีไข้แล้วครับ”

ฟู่ซืออวี่จับมือของเสิ่นชิงซูมาวางทาบบนหน้าผากของตัวเอง “แม่ดูสิครับ ผมไม่มีไข้แล้วจริง ๆ ผมจะอยู่คนเดียวอย่างเชื่อฟังไม่รบกวนการทำงานของแม่แน่นอนครับ ขอร้องนะครับ แม่อย่าไล่ผมไปเลยนะ~”

ฟู่ซืออวี่ใช้ลูกอ้อนทีไร เสิ่นชิงซูก็เป็นต้องจนปัญญาทุกทีไป

เธอถอนหายใจหนึ่งที ก่อนจะลูบใบหน้าเล็กของเขาที่ยังมีไข้อ่อน ๆ เบา ๆ “ลูกกินโจ๊กที่แม่ต้มหรือยัง?”

“กินแล้วครับ!” ฟู่ซืออวี่พูดเหมือนเอาความดีความชอบ “ผมกินหมดไปถ้วยเบ้อเริ่มเลยนะครับ!”

“แล้วเอายามาด้วยหรือเปล่า?”

“เอามาครับ!” ฟู่ซืออวี่ตบกระเป๋าลายการ์ตูนของตัวเองเบา ๆ “แม่ครับ ของเล่นที่แม่ซื้อให้ผมกับหนังสืออ่านก่อนนอนผมก็เอามาด้วยแล้วนะ!”

เสิ่นชิงซูแตะที่ปลายจมูกเขา “มีครั้งไหนบ้างที่ลูกลืมหนังสืออ่านก่อนนอน! ลูกยังป่วยอยู่ ไปนอนพักบนเตียงนะ แม่ยังต้องทำงานอีก”

“ครับ!”

ฟู่ซืออวี่หอบกระเป๋าเดินต๊อกแต๊กเข้าห้องพักผ่อนไป

เสิ่นชิงซูมองท่าทางรู้ประสาและว่าง่ายของฟู่ซืออวี่ ในใจก็อดรู้สึกผิดขึ้นมาไม่ได้

ฟู่ซืออวี่ยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง เป็นธรรมดาที่จะพึ่งพาพ่อแม่ ต่อให้ยอมรับความเป็นแม่ลูกกับโจวอวี๋ชูแล้ว แต่ในใจเขายังคงยอมรับแม่คนนี้อย่างเธออยู่ไม่ใช่เหรอ?

เธอไม่ควรเอาความโกรธไปลงที่เด็กคนหนึ่งเลยจริง ๆ

ครั้นนึกมาถึงตรงนี้ เสิ่นชิงซูเปิดแอปซื้อของ ก่อนจะจัดการสั่งซื้อหนังสือจำนวนหนึ่งกับของเล่นเสริมพัฒนาการเด็กที่ใส่ตะกร้าไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ทั้งหมด

เธอคิดว่าปีนี้ฟู่ซืออวี่น่าจะอยู่ฉลองวันสิ้นปีกับฟู่ซือเหยียนและโจวอวี๋ชูที่ตระกูลฟู่ ของต่าง ๆ ที่ซื้อวันนี้ก็ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่จากเธอที่มอบให้กับฟู่ซืออวี่แล้วกัน

……

เสิ่นชิงซูทำโอทีจนถึงเวลาเที่ยงคืนกว่า

ขณะกลับมาที่ห้องพักผ่อน ฟู่ซืออวี่ก็หลับไปแล้ว

เธอมาที่ข้างเตียงหลังอาบน้ำเสร็จ เลิกผ้าห่มขึ้น ก็เห็นว่าฟู่ซืออวี่ถือสมาร์ตวอตช์เรือนหนึ่งอยู่ในมือ

เป็นรุ่นลิมิติดของแบรนด์หนึ่ง สมาร์ตวอตช์เรือนเดียวก็ราคาถึงห้าหลัก

น่าจะเป็นโจวอวี๋ชูที่ซื้อให้ฟู่ซืออวี่

ดูท่าแล้วโจวอวี๋ชูก็กำลังพยายามเป็นแม่ที่ดีคนหนึ่ง

นี่ถือว่าเป็นเรื่องดีสำหรับฟู่ซืออวี่

เสิ่นชิงซูบอกไม่ถูกว่าตัวเองรู้สึกอย่างไร ถ้าจะพูดว่าไม่สนใจเลยสักนิดก็เป็นไปไม่ได้ แต่เธอเข้าใจดีถึงผลลัพธ์ที่ว่าฟู่ซืออวี่กับโจวอวี๋ชูจะต้องใกล้ชิดสนิทสนมกันขึ้นเรื่อย ๆ อย่างแน่นอน

นี่เป็นเรื่องที่เธอไม่อาจขัดขวาง และไม่มีสิทธิ์ขัดขวางด้วย

สิ่งเดียวที่เธอทำได้คือในตอนที่ฟู่ซืออวี่ต้องการเธอ เธอก็จะดีกับเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้

เสิ่นชิงซูวางสมาร์ตวอตช์ไว้บนตู้ข้างหัวเตียงฝั่งฟู่ซืออวี่ ก่อนจะปิดไฟเข้านอน

เวลาตีสอง เสิ่นชิงซูรู้สึกได้ว่าเด็กน้อยในอ้อมกอดตัวร้อนจี๋เหมือนลูกไฟ

เธอตื่นขึ้นด้วยความตกใจ เปิดไฟแล้วถึงค้นพบว่าดวงหน้าเล็กของฟู่ซืออวี่ร้อนผ่าวจนแดงแจ๋

พอวัดอุณหภูมิดู ก็มีไข้สูงถึงสามสิบเก้าจุดแปดองศาแล้ว!

เสิ่นชิงซูหายาลดไข้มาแล้วป้อนฟู่ซืออวี่ก่อนเป็นอันดับแรก

แต่ผ่านไปครึ่งชั่วโมง ไข้ของฟู่ซืออวี่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะลด

เสิ่นชิงซูรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างไว อุ้มฟู่ซืออวี่ขึ้นแล้วรีบมุ่งหน้าไปที่โรงพยาบาล

เธอโทรหาฟู่ซือเหยียนระหว่างทาง แต่ก็ไม่มีใครรับสายเลย

พอมาถึงโรงพยาบาลก็เข้าตรวจที่ห้องฉุกเฉิน ผลการตรวจออกมาว่าเป็นโรคหลอดลมอักเสบแบบเฉียบพลัน

จำเป็นต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อให้น้ำเกลือและรักษาตัว

หลังจากเสิ่นชิงซูทำเรื่องนอนโรงพยาบาลเสร็จ ก็โทรศัพท์หาฟู่ซือเหยียนต่อ

ในที่สุดครั้งนี้ก็โทรติดสักที เสียงอันอ่อนโยนของโจวอวี๋ชูดังมาจากปลายสาย “ขอโทษนะคะคุณเสิ่น ซือเหยียนอาบน้ำอยู่ คุณมีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าคะ?”
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 100

    แกร้ง!เสียงมีดผ่าตัดหล่นลงพื้นดังขึ้นอย่างชัดเจนแพทย์วิสัญญีที่กำลังจะฉีดยาก็ชะงักทันที!หัวหน้าเจียงขมวดคิ้ว มองไปยังผู้ช่วยคนที่หนึ่ง “เธอเป็นอะไรไป?”ผู้ช่วยคนที่หนึ่งทำหน้าไร้เดียงสา “ไม่ใช่ฉันนะคะ นี่มัน...”ทันใดนั้นแพทย์วิสัญญีก็ดึงเข็มฉีดยาออก “แผ่นดินไหว!”เสิ่นชิงซูเบิกตาโพลงขึ้นทันที......ไฟผ่าตัดเหนือศีรษะกะพริบติด ๆ ดับ ๆ เธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เตียงผ่าตัดใต้ร่างกำลังสั่นไหว!ในวินาทีต่อมา เสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นทั่วทั้งโรงพยาบาล!“หยุดการผ่าตัด! อพยพไปทางหนีไฟเร็วเข้า...”เสิ่นชิงซูงุนงงไปหมด ถูกเฉียวซิงเจียและแพทย์วิสัญญีประคองลงจากเตียงผ่าตัดประตูห้องผ่าตัดเปิดออก ทางเดินเต็มไปด้วยผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ สถานการณ์วุ่นวายอยู่พักหนึ่งเวินจิ่งซีเห็นพวกเธอออกมาก็รีบเข้าไปหา“เป็นยังไงบ้าง? ผ่าตัดไปหรือยัง?”“ออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” เฉียวซิงเจียพูดพร้อมกับประคองเสิ่นชิงซูเวินจิ่งซีพยักหน้า ร่างสูงใหญ่ของเขาคอยป้องกันพวกเธอขณะเดินไปยังทางหนีไฟ...โชคดีที่แผ่นดินไหวหยุดลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้ ทั้งทางหนีไฟและทางเดินต่างเต็มไปด้วยผู้คนถึงแ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 99

    เสิ่นชิงซูต้องตรวจเจอว่าท้องตั้งนานแล้วแน่ ๆ และที่สำคัญคือเธอไม่เคยคิดจะบอกเขาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ!ฟู่ซือเหยียนนึกถึงวันนั้น...วันนั้นทั้งลมทั้งหิมะรุนแรงขนาดนั้น ท่าทีของเสิ่นชิงซูก็เด็ดเดี่ยวขนาดนั้น ทำให้เขาในตอนนั้นถูกความโกรธเข้าครอบงำจนหน้ามืดตามัว กลับมองข้ามรายละเอียดที่สำคัญที่สุดไป!รถเมย์บัคแล่นด้วยความเร็วสูงอยู่บนถนนในเมือง เปลี่ยนเลนอย่างอันตรายอยู่หลายครั้ง แต่ความเร็วกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย!ภายในรถ มือที่กุมพวงมาลัยของฟู่ซือเหยียนเกร็งแน่น ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงเย็นชานี่เสิ่นชิงซูวางแผนที่จะหย่าทั้ง ๆ ที่ท้องลูกของเขา แล้วไปคบกับเวินจิ่งซีอย่างนั้นเหรอ?เธอคิดจะให้ลูกของเขาเรียกคนอื่นว่าพ่องั้นเหรอ?ริมฝีปากบางของชายหนุ่มที่เม้มแน่นอยู่พลันโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน“เหอะ เสิ่นชิงซู คุณนี่มันแน่จริง ๆ!”ฟู่ซือเหยียนกุมพวงมาลัยด้วยมือเดียว เปิดรายชื่อผู้ติดต่อ แล้วโทรออกหาฉินเยี่ยนเฉิง“เสิ่นชิงซูอยู่ที่โรงพยาบาลพวกนาย นายรีบช่วยฉันเช็คประวัติการรักษาของเธอให้หน่อยสิ...”ปรี๊น ปรี๊น...ทันใดนั้นก็มีรถบรรทุกคันใหญ่ฝ่าไฟแดงพุ่งออกมาจากสี่แยกข้างหน้า!ฟู่ซือ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 98

    เฉียวซิงเจียช่วยเสิ่นชิงซูทำเรื่องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก่อน จากนั้นก็พาเธอไปที่ห้องผู้ป่วยเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดของโรงพยาบาลหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการตรวจร่างกายเบื้องต้นอีกสองสามอย่างผลตรวจจะออกในอีกครึ่งชั่วโมงเวลาแห่งการรอนั้นยาวนานและทรมาน เสิ่นชิงซูยืนอยู่ริมหน้าต่าง ไม่พูดอะไรสักคำเฉียวซิงเจียและเวินจิ่งซีอยู่เป็นเพื่อนเธอเงียบ ๆ ไม่ได้เข้าไปรบกวนครึ่งชั่วโมงผ่านไป ผลตรวจออกมา ทุกอย่างเป็นปกติ สามารถทำการผ่าตัดได้ในขณะเดียวกัน ทางห้องผ่าตัดก็ส่งข่าวมาว่าเตรียมพร้อมแล้ว“อาซู” เฉียวซิงเจียเรียกเธอ “เราต้องไปที่ห้องผ่าตัดแล้วนะ”เมื่อได้ยินดังนั้น ขนตาของเสิ่นชิงซูก็สั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ หันกลับมาเฉียวซิงเจียเดินเข้ามาสวมกอดเธอ “ไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง”เสิ่นชิงซูตอบรับเสียงเบา “อืม”เวินจิ่งซียืนเงียบอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักทั้งสามคนมาถึงหน้าห้องผ่าตัด เวินจิ่งซีหยุดเดินเฉียวซิงเจียควงแขนเสิ่นชิงซูเดินเข้าไป ประตูห้องผ่าตัดปิดลงอย่างหนักหน่วง......ศาลประชาชนเมืองเป่ย ผู

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 97

    “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ” เสิ่นชิงซูเม้มปากถอนหายใจเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืนพูดว่า “ฉันขอบคุณในความหวังดีของคุณมากนะ แต่ฉันตัดสินใจไปแล้ว”เวินจิ่งซีลุกขึ้นยืนตาม จ้องมองเธอแล้วถามย้ำ “แน่ใจแล้วเหรอครับ?”“อืม” เสิ่นชิงซูพยักหน้า น้ำเสียงหนักแน่น “ตอนแรกฉันยังคิดอยู่เลยว่าหลังผ่าตัดจะปิดบังคุณยังไงดี แต่ในเมื่อตอนนี้คุณรู้แล้ว ก็ช่วยฉันเก็บเป็นความลับด้วยแล้วกันนะ”เวินจิ่งซีเห็นว่าเธอตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จึงไม่ได้พูดเกลี้ยกล่อมอะไรต่อ“คุณวางใจได้เลย ผมช่วยคุณเก็บเป็นความลับแน่นอน” เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วถามต่อ “พรุ่งนี้คุณผ่าตัดกี่โมงเหรอ?”“เก้าโมงค่ะ”“งั้นพรุ่งนี้ผมไปส่งคุณที่โรงพยาบาล”“ไม่ต้องหรอกค่ะ” เสิ่นชิงซูไม่อยากรบกวนเวินจิ่งซี “ซิงซิงอยู่ที่โรงพยาบาล เดี๋ยวเธอจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อยเอง”“อาจารย์กับภรรยาของอาจารย์กำชับผมนักหนาก่อนที่เขาจะไป ว่าต้องดูแลคุณให้ดี” เวินจิ่งซีพูด “คุณจะให้ผมช่วยเก็บเป็นความลับ งั้นอย่างน้อยผมก็ต้องอยู่เฝ้าคุณ ให้แน่ใจว่าการผ่าตัดของคุณเรียบร้อยดี ผมถึงจะวางใจได้!”เสิ่นชิงซูยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เวินจิ่งซีก็ชิงพูดตัดหน้าขึ้นก่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 96

    ฟู่ซือเหยียนพาฟู่ซืออวี่จากไป พร้อมกับแมวพันธุ์แร็กดอลล์ที่โจวอวี๋ชูย้ำนักย้ำหนาว่าเสิ่นชิงซูจะต้องชอบหลังจากพวกเขาไปแล้ว เสิ่นชิงซูที่ฝืนทนมาตลอดก็ล้มพับลงเวินจิ่งซีรับร่างที่อ่อนแรงของเธอไว้ แล้วอุ้มเธอไปวางบนโซฟาในห้องทำงานเสิ่นชิงซูพิงโซฟา มือข้างหนึ่งกุมหน้าอก หายใจหอบถี่ ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษนี่คืออาการหายใจเร็วเกินไปที่เกิดจากอารมณ์ที่รุนแรงเกินไปเวินจิ่งซีใช้มือปิดปากเธอ แล้วแนะนำอย่างใจเย็น “คุณหายใจเร็วเกินไป ปิดปาก แล้วทำตามจังหวะผมนะ หนึ่ง สอง หายใจ ใช่ แบบนั้นแหละ หนึ่ง สอง หายใจ...”ด้วยความช่วยเหลือของเวินจิ่งซี ในที่สุดการหายใจของเสิ่นชิงซูก็กลับมาเป็นปกติเวินจิ่งซีรินน้ำอุ่นแก้วหนึ่ง ส่งไปจ่อที่ริมฝีปากเธอ “ดื่มน้ำหน่อยนะ”เสิ่นชิงซูพิงโซฟาอยู่ หลังจากดื่มน้ำอุ่นไปครึ่งแก้ว ร่างกายที่เกร็งอยู่ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลงเวินจิ่งซีคว้าหมอนอิงใบหนึ่งมารองหลังให้เธอ “พิงไว้จะสบายขึ้นหน่อย”เสิ่นชิงซูมองเวินจิ่งซี ริมฝีปากที่ซีดเซียวเม้มขึ้นเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ขอบคุณค่ะ”จากการที่ได้อยู่ด้วยกันมาหลายวันนี้ เธอพบว่าถึงแม้เวินจิ่งซีจะปากร้ายไปหน่อย แต

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 95

    เสิ่นชิงซูมองฟู่ซือเหยียน ถ้อยคำของเขาแทงใจจนเธอต้องยิ้มทั้งน้ำตา“ฟู่ซือเหยียน ลูกชายของคุณเขามีแม่ของเขาอยู่แล้ว แม่ของเขาชื่อโจวอวี๋ชู ไม่ใช่ฉันเสิ่นชิงซู! แล้วก็ ในเมื่อคุณคิดว่าฉันอารมณ์ไม่ดี ไม่ใช่แม่ที่ได้เรื่อง งั้นก็ได้ ฉันยอมรับ! เป็นฉันเองที่ไม่คู่ควรจะเป็นแม่ของฟู่ซืออวี่ เพราะฉะนั้นตอนนี้เชิญคุณพาลูกชายของคุณไสหัวออกไปจากที่ของฉันได้แล้ว!”เสิ่นชิงซูพูดรวดเดียวจบ ก็รู้สึกหน้ามืดตาลาย ร่างบางโงนเงนเหมือนจะล้มเวินจิ่งซีรีบเข้าไปประคองเธอไว้ ก้มลงกระซิบถามข้างหูเบา ๆ “คุณยังโอเคไหม?”เสิ่นชิงซูสูดหายใจลึก ภาพที่พร่ามัวกลับมาชัดเจนขึ้น เธอส่ายหน้า “ยังไหว”ฟู่ซือเหยียนมองการกระทำของคนทั้งสอง สันกรามล่างเกร็งแน่น แววตาเย็นเยียบในขณะที่ฟู่ซืออวี่กำลังจ้องมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอย ปากเล็ก ๆ ยังอ้าค้างอยู่ แต่กลับลืมไปแล้วว่าต้องร้องไห้เมื่อกี้แม่พูดว่าอะไรนะ?แม่...ไม่ต้องการเขาแล้วจริง ๆ เหรอ?ความหวาดกลัวอย่างรุนแรงถาโถมเข้ามาในใจของฟู่ซืออวี่ มือที่โอบคอฟู่ซือเหยียนอยู่กระชับแน่นขึ้น “พ่อครับ แม่แค่พูดประชดใช่ไหมครับ? แม่เป็นแม่ของผม แม่ไม่มีทางไม่ต้องการผมใช่ไหมค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status