공유

บทที่ 9

작가: หรงหรงจื่ออี
เสิ่นชิงซูได้ซื้อห้องในโครงการ ‘ดอลฟินวิลล์’ ที่อยู่ติดกับสตูดิโอไว้ห้องหนึ่งตั้งแต่เมื่อต้นปี

ขนาดหนึ่งร้อยสี่สิบตารางเมตร มีสามห้อง เธอกับแม่คนละห้อง ส่วนห้องเล็กอีกห้องนั้น เธอเปลี่ยนมันเป็นห้องทำงาน

ห้องตกแต่งพร้อมอยู่ ส่วนของเฟอร์นิเจอร์ เธอได้จ้างบริษัทตกแต่งให้มาออกแบบจัดวางใหม่ ซึ่งตกแต่งเสร็จไปตั้งแต่สามเดือนที่แล้ว ฉะนั้นแค่ถือกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย

เสิ่นชิงซูเอากระเป๋าไปไว้ที่บ้านใหม่ จากนั้นค่อยไปที่สตูดิโอ

เธอทำงานอยู่ในห้องบูรณะถึงรุ่งสาง อดนอนจนถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้วถึงลากร่างอันอ่อนล้ากลับไปยังห้องพักผ่อน

ล้างหน้าล้างตาแล้วนอนลงบนเตียง พอหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทรา

เพียงแต่คืนนี้เธอนอนหลับได้ไม่สนิทนัก ฝันเห็นเรื่องราวมากมาย ครั้นตื่นขึ้นมากลับจำอะไรไม่ได้

เสิ่นชิงซูนวดคลึงศีรษะที่ปวดตึงเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำ

ขณะออกมา มือถือบนชั้นวางข้างหัวเตียงกำลังสั่นอยู่

เป็นฟู่ซือเหยียนที่โทรเข้ามา

เสิ่นชิงซูไม่ได้รับสาย

เธอพอจะเดาได้ว่าเป็นเพราะฟู่ซืออวี่

ในเมื่อตัดสินใจจะหย่าแล้ว งั้นก็ตัดให้มันขาดสะบั้นไปเลย

อย่างไรฟู่ซืออวี่ก็เป็นลูกของโจวอวี๋ชู เสิ่นชิงซูจึงรู้สึกว่าหลังจากได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันไปสักระยะ ฟู่ซืออวี่ก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปพึ่งพาโจวอวี๋ชูเอง

เสิ่นชิงซูเปลี่ยนชุดเสร็จก็หยิบมือถือใส่ลงในกระเป๋า แล้วมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล

……

แผนกสูตินรีเวชในโรงพยาบาล ภายในห้องตรวจส่วนตัวของเฉียวซิงเจีย

“ดูจากวันที่ประจำเดือนหมดไปล่าสุดกับผลตรวจอัลตราซาวนด์ ก็ถือได้ว่าเธอท้องมาห้าสัปดาห์กับอีกสี่วันแล้ว”

เฉียวซิงเจียยื่นรายงานผลการตรวจให้เสิ่นชิงซู

เสิ่นชิงซูรับมา มองภาพขาวดำในรายงานผลการตรวจ หัวใจพลันบีบรัดอย่างอดไม่ได้

“อีกอย่าง นี้…” เฉียวซิงเจียชี้ไปที่ถุงการตั้งครรภ์เล็ก ๆ ในภาพนั้น “ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกแฝดด้วย”

เสิ่นชิงซูครั้นได้ยินก็อึ้งงัน

เธอเงยหน้ามองเฉียวซิงเจีย “เธอแน่ใจเหรอ?”

“ตอนนี้เพิ่งจะห้าสัปดาห์กว่า ก็เลยเห็นแค่ว่าเป็นถุงสองใบเท่านั้น”

เฉียวซิงเจียพูดให้ความรู้เพิ่มเติม “ถ้าจนประมาณสัปดาห์ที่เจ็ดแล้วตรวจพบว่าถุงการตั้งครรภ์ทั้งสองมีการเต้นของหัวใจ งั้นก็จะยืนยันว่าเป็นฝาแฝด แถมของเธอเป็นแบบถุงตั้งครรภ์คู่ โดยทั่วไปมักจะเป็นฝาแฝดจากไข่คนละใบกัน ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นแฝดชายหญิงก็ได้นะ!”

เสิ่นชิงซูบีบรายงานผลการตรวจไว้ ริมฝีปากซีดเซียวเม้มแล้วเม้มอีก นานแล้วก็ยังไม่อาจเปล่งคำใดออกมาได้

ในใจเฉียวซิงเจียรู้ดีว่าเสิ่นชิงซูใจอ่อนแล้ว

อย่างไรนั่นก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง ซ้ำยังมีโอกาสเป็นฝาแฝดด้วย เป็นใครก็ทำใจได้ยากกันทั้งนั้น

อีกอย่าง นี่เป็นลูกของเสิ่นชิงซูกับฟู่ซือเหยียน

ความรู้สึกที่เสิ่นชิงซูมีต่อฟู่ซือเหยียน เฉียวซิงเจียก็รู้อย่างชัดเจน

เฉียวซิงเจียถึงขั้นรู้สึกว่าบนโลกใบนี้คงหาคนที่เหมือนเสิ่นชิงซูไม่ได้อีกแล้ว ห้าปีเต็ม ๆ เธอรักผู้ชายที่ไม่รู้จะขอหย่าวันไหนด้วยความเต็มใจในรูปแบบของการตอบแทนบุญคุณ

ในการแต่งงานครั้งนี้ เสิ่นชิงซูรักเขาจนตัวเองไร้ค่าทั้งที่มีสติ

แต่เกรงว่าฟู่ซือเหยียนคง...ไม่เคยอินกับบทเลยตั้งแต่ต้นจนจบ

“ฉันขอลองคิดดูก่อนนะ”

ผ่านไปครู่ใหญ่ เสิ่นชิงซูช้อนตามองเฉียวซิงเจีย “ไว้ฉันตัดสินใจได้แล้วจะบอกเธออีกที”

ดวงตางดงามของเธอแดงระเรื่อ น้ำตาคลอเบ้า ภายในแววตาเต็มไปด้วยความสับสน

เฉียวซิงเจียเห็นก็พาลปวดใจตาม “ตัดสินใจให้ได้ภายในสิบสองสัปดาห์ก็โอเคแล้ว”

“ได้” เสิ่นชิงซูเก็บใบรายงานใส่กระเป๋า “อย่าบอกเรื่องที่ฉันท้องกับใครทั้งนั้นนะ”

“ฉันรู้”

เฉียวซิงเจียยังต้องทำงานต่อ เสิ่นชิงซูจึงไม่ทำให้เธอเสียการเสียงาน

พอออกมาจากแผนกสูตินรีเวช เสิ่นชิงซูขึ้นลิฟต์ลงมาชั้นล่าง

เมื่อมาถึงชั้นหนึ่ง เสิ่นชิงซูออกมาจากลิฟต์ ครั้นเงยหน้าขึ้นก็เห็นฟู่ซือเหยียนที่อุ้มฟู่ซืออวี่อยู่เดินเข้ามาในโรงพยาบาลจากด้านนอกพอดี

มีแผ่นแปะลดไข้แปะอยู่ที่หน้าผากของฟู่ซืออวี่

เสิ่นชิงซูตะลึงงัน

ฟู่ซืออวี่เห็นเธอ ดวงหน้าเล็กที่ดูป่วยหนักก็เผยรอยยิ้มออกมาทันที “แม่!”

ฟู่ซือเหยียนหยุดฝีเท้าแล้วมองมา

“แม่!”

ฟู่ซืออวี่ตะโกนไปทางเสิ่นชิงซู

ฟู่ซือเหยียนเดินมายังเบื้องหน้าของเสิ่นชิงซูโดยอุ้มฟู่ซืออวี่อยู่

เสิ่นชิงซูรักและห่วงใยฟู่ซืออวี่จากใจจริง เธอลูบใบหน้าของฟู่ซืออวี่เล็กน้อย อุณหภูมิไม่ต่ำเลย

เธอถาม “ทำไมจู่ ๆ ถึงเป็นไข้ได้ล่ะคะ?”

ฟู่ซือเหยียนตอบเสียงเรียบ “เมื่อคืนกินไอศกรีมมา”

ได้ฟังดังนั้น ฟู่ซืออวี่จึงแคะเล็บอย่างรู้สึกผิด

ความจริงเป็นเพราะว่าแม่เพิ่งซื้อไอศกรีมให้เขาครั้งแรก เขาไม่อยากให้สิ้นเปลือง จึงกินจนหมดทั้งกล่อง

แต่ฟู่ซืออวี่ไม่กล้าพูดความจริง ถ้าให้เสิ่นชิงซูรู้ว่าเขากินไอศกรีมไปทั้งกล่องละก็ เธอต้องโทษแม่แน่นอน!

แม่ทั้งรักและอ่อนโยนกับเขาขนาดนั้น เขาจะยอมให้แม่ถูกเสิ่นชิงซูตำหนิได้ยังไง!

ฟู่ซืออวี่กลัวว่าเสิ่นชิงซูจะถามซักไซ้ต่อ จึงยื่นมือออกไป “แม่ อุ้มผมหน่อยได้ไหม?”

เสิ่นชิงซูทำท่าจะยกมือขึ้นด้วยจิตใต้สำนึก แต่นึกได้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังท้อง ท่วงท่าจึงชะงักไป

เธอลูบศีรษะของฟู่ซืออวี่เบา ๆ “แม่ไม่ค่อยสบาย ให้พ่ออุ้มลูกไปเถอะ”

พอฟู่ซืออวี่ได้ยินก็ทำปากจู๋ไม่พอใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เสิ่นชิงซูปฏิเสธที่จะอุ้มเขา

ถึงจะเป็นเพราะกำลังป่วยอยู่ก็เถอะ แต่ฟู่ซืออวี่จำได้ว่าก่อนหน้านี้ต่อให้ไม่สบาย เสิ่นชิงซูก็ยังอุ้มเขาอยู่ดี

หรือว่าเสิ่นชิงซูจะโกรธแล้ว?

ฟู่ซืออวี่คอยสังเกตเสิ่นชิงซูอย่างระมัดระวัง

ครั้นเห็นว่าเธอสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไรจริง ๆ พลันนั้นในใจฟู่ซืออวี่ก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย

“แม่ แม่โกรธผมแล้วใช่ไหมครับ?” ฟู่ซืออวี่มองเสิ่นชิงซูด้วยท่าทางน่าสงสาร “ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรแอบแม่ไปกินไอศกรีมเลย วันหลังผมจะไม่กินไอศกรีมอีกแล้วครับ”

เสิ่นชิงซูไม่เคยให้ฟู่ซืออวี่กินไอศกรีมเลยจริง ๆ นั่นก็เพราะว่าฟู่ซืออวี่ป่วยเป็นโรคหอบหืดแต่กำเนิด บวกกับการทำงานของม้ามและกระเพาะแย่มากตั้งแต่เด็ก แพทย์แผนจีนจึงบอกว่าห้ามกินของหวานกับอาหารที่มีฤทธิ์เย็นเด็ดขาด

เธอกำลังคิดว่าจะอธิบายให้ฟู่ซืออวี่ฟัง ฟู่ซือเหยียนก็ชิงกล่าวขึ้นมาก่อนว่า “แม่เขาไม่โกรธลูกหรอก”

น้ำเสียงของเขามั่นอกมั่นใจ ไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าเสิ่นชิงซูจะทักท้วง

เสิ่นชิงซูแพจนตาสั่นไหวเบา ๆ เม้มริมฝีปากเงียบ ๆ

ฟู่ซืออวี่มองเสิ่นชิงซู “แม่ครับ แม่ไม่ได้โกรธจริง ๆ เหรอครับ?”

เสิ่นชิงซูส่งยิ้มบาง ๆ ให้ฟู่ซืออวี่ “แม่ไม่โกรธอยู่แล้วละจ้ะ”

“ถ้างั้นวันนี้แม่อยู่กับผมได้ไหมครับ?” ฟู่ซืออวี่ดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจยิ่งกว่าเดิม “ผมรู้สึกไม่สบาย ผมอยากกินโจ๊กฝีมือแม่ครับ”

เสิ่นชิงซูลังเลชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้า “ได้”

……

ฟู่ซืออวี่หาหมอมาแล้ว เขาคออักเสบ หมอจึงให้ยามาจำนวนหนึ่ง พร้อมกับแนะนำว่าให้กินอาหารรสอ่อน พอกลับบ้านไปแล้วก็ดื่มน้ำและพักผ่อนให้มาก ๆ

กลับมาถึงยังคฤหาสน์หนานซี ฟู่ซือเหยียนอุ้มฟู่ซืออวี่ขึ้นไปพักชั้นบน

เสิ่นชิงซูไปต้มโจ๊กในห้องครัว

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสิ่นชิงซูยกโจ๊กที่ต้มเสร็จแล้วขึ้นมาชั้นบน

ประตูห้องนอนเด็กปิดไม่สนิท เสียงของฟู่ซืออวี่จึงดังลอดออกมา...

“แม่ครับ แม่อย่าห่วงไปเลยนะ หมอบอกว่าผมแค่กินยานิดหน่อยก็หายแล้ว…ไม่ใช่ความผิดของแม่นะครับ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ซื้อไอศกรีมให้ผม ผมก็คงไม่รู้เลยว่าที่จริงไอศกรีมรสชาติดีขนาดนี้…แล้วก็คุกกี้ มันฝรั่งทอดกรอบกับอมยิ้มพวกนั้นก็อร่อยมากเหมือนกัน! ผมไม่เคยกินขนมมากมายแบบนี้มาก่อนเลยนะครับ!”

ท่วงท่าในการเปิดประตูของเสิ่นชิงซูชะงักค้าง

เสียงของฟู่ซืออวี่ยังคงดังต่อเนื่อง

“แม่ชิงซูไม่โกรธหรอกครับ พอรู้ว่าผมไม่สบาย เธอก็มีแต่จะเป็นห่วงผมเท่านั้น ตอนนี้เธอก็กำลังต้มโจ๊กให้ผมอยู่ข้างล่างด้วยนะครับ! แม่ครับ แม่ร่างกายไม่แข็งแรง สองสามวันนี้ผมไม่ไปหาแม่แล้วนะ เพราะผมกลัวว่าผมจะแพร่เชื้อหวัดให้แม่…แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ แม่ชิงซูจะดูแลผมอย่างดีแน่นอน!”

เสิ่นชิงซูยืนอยู่นอกประตู มือที่ยกถาดอาหารอยู่รวบเข้าหากันเล็กน้อย

นึกไม่ถึงว่าโจวอวี๋ชูจะให้ฟู่ซืออวี่กินอาหารขยะมากมายขนาดนั้น!

ที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงยิ่งกว่าคือ ในเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่วัน ความสัมพันธ์ระหว่างฟู่ซืออวี่กับโจวอวี๋ชูก็ดีได้ถึงขั้นนี้แล้ว...

เสิ่นชิงซูรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์จะไปถือสา แต่เมื่อเห็นเด็กที่ตัวเองทุ่มเทแรงกายแรงใจเลี้ยงดูมาจนโตเอาแต่เรียกโจวอวี๋ชูว่า ‘แม่’ ไม่ขาดปาก เธอก็ไม่วายรู้สึกชอกช้ำขึ้นมาในใจ

เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ต่อให้เธอจะปฏิบัติกับอีกฝ่ายด้วยความจริงใจเพียงใด ก็สู้ความใกล้ชิดทางสายเลือดไม่ได้อยู่ดี

เธอน่ะ เป็นแค่คนนอกมาตั้งแต่แรกและจะเป็นตลอดไป

……

ฟู่ซืออวี่คุยโทรศัพท์กับโจวอวี๋ชูเสร็จแล้ว จึงจะนึกถึงเสิ่นชิงซูขึ้นมาได้

เขาตะโดนเรียก ‘แม่’ อยู่ในห้อง แต่นานมากแล้วเสิ่นชิงซูก็ไม่ขานรับสักที

ฟู่ซืออวี่จึงเดินลงไปตามหาที่ห้องครัวชั้นล่างเอง

แต่ไม่มีคนอยู่ในครัว

ฟู่ซืออวี่ออกมาจากห้องครัว เห็นโจ๊กถ้วยหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะอาหาร
이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 307

    เสี่ยวเนี่ยนอันขมวดคิ้วไม่ได้พูด แต่ก้มหน้ามองตะเกียบเด็กที่ตัวเองถืออยู่ในมือท่าทางการจับตะเกียบของเขาไม่ถูกเสี่ยวอันหนิงจึงหยุดแล้วสอนเขาว่าต้องใช้ตะเกียบเด็กอย่างไรด้วยตัวเอง“เอานิ้วโป้งไว้ตรงนี้ นิ้วชี้ไว้ตรงนี้...ใช่แล้ว เสี่ยวเนี่ยนอันเก่งจังเลย งั้นตอนนี้ลองดูสิ ทำเหมือนกับฉัน คีบเนื้อ คีบขึ้นมา อ้าปาก อ้ำ~ภายใต้การสอนด้วยความอดทนของเสี่ยวอันหนิง เสี่ยวเนี่ยนอันใช้ตะเกียบเด็กคีบเนื้อชิ้นหนึ่งเข้าปากได้สำเร็จเสี่ยวอันหนิงวางตะเกียบลงทันที ตามด้วยปรบมือ “เสี่ยวเนี่ยนอันสุดยอดไปเลย! ตอนที่ฉันเพิ่งเริ่มใช้ตะเกียบนี่ต้องเรียนตั้งหลายวันแน่ะถึงจะเป็น แต่เสี่ยวเนี่ยนอันเป็นอัจฉริยะน้อย เรียนครั้งเดียวก็เป็นแล้ว!”เสี่ยวเนี่ยนอันได้รับคำชมจึงอาย ใบหน้าเล็ก ๆ แดงระเรื่อเขามองไปทางเฟิงอวิ๋นเฉียนด้วยความอายเล็กน้อยเฟิงอวิ๋นเฉียนดื่มเหล้านิดหน่อย มึนนิด ๆเมื่อกี้เขาเห็นการแสดงอันยอดเยี่ยมของลูกชายแล้วเขาวางแก้วเหล้าลง แล้วยกมือใหญ่ยีหัวลูกชายอย่างอ่อนโยน “เนี่ยนอันก้าวหน้ามากเลยนะ”เสี่ยวเนี่ยนอันได้รับคำชมจึงดีใจมาก ยกมุมปาก แย้มยิ้มขี้อายเสิ่นชิงซูสังเกตปฏิสัมพันธ์ขอ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 306

    เวินจิ่งซีเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพยักหน้าด้วยท่าทางหนักอกมีดในมือเสิ่นชิงซูร่วงตกลงพื้น“ระวัง!”เวินจิ่งซีรีบไปดึงเธอออกไป๋เจี้ยนเหวินตกใจกับเสียงจึงรีบปิดไฟกระทะผัดแล้วหันมามองเสิ่นชิงซูเห็นเธอมีสีหน้าแปลกไป ไป๋เจี้ยนเหวินจึงขมวดคิ้ว “เป็นอะไรไปน่ะ?”เสิ่นชิงซูหน้าซีดเผือด ดวงตาแดงก่ำโจวอวี๋ชูทำให้ลูกชายของเธอตายแต่เมื่อกี้เธอทำอะไรลงไป?เมื่อกี้เธอยังอุ้มเด็กคนนั้น...เสิ่นชิงซูหลับตาลง ข่มอารมณ์แล้วพูด “ให้เฟิงอวิ๋นเฉียนพาเด็กคนนั้นไป เอาไปเดี๋ยวนี้!”เธอรู้ว่าเด็กบริสุทธิ์แต่แม่ของเด็กคนนั้นคือฆาตกรที่ทำให้ลูกชายของเธอตาย!ไป๋เจี้ยนเหวินพยุงเสิ่นชิงซูพลางมองเวินจิ่งซี “ยังยืนเฉยทำไม รีบไปสิ!”เวินจิ่งซีถอนหายใจและหมุนตัวออกจากห้องครัว เกือบได้เจอกับเฟิงอวิ๋นเฉียนแล้วเฟิงอวิ๋นเฉียนอยากเข้าห้องครัว แต่เวินจิ่งซีขวางเขาไว้ทัน“คุณทำอะไรน่ะ?”เวินจิ่งซีขมวดคิ้วจ้องเขา “อาซูรู้แล้วว่าเสี่ยวเนี่ยนอันคือลูกของคุณกับโจวอวี๋ เธอไม่ให้อภัยชูโจวอวี๋ชู ถ้าคุณยังมีหัวใจเหลืออยู่ก็รีบพาลูกชายของคุณไสหัวไปเถอะ!”เฟิงอวิ๋นเฉียนมองเวินจิ่งซีด้วยสายตาราบเรียบ “เนี่ยนอันเป็นลูกช

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 305

    เสี่ยวเนี่ยนอันพยักหน้าเสิ่นชิงซูนั่งยองลงอีกครั้ง มองเขาแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยน “เสียงของเสี่ยวเนี่ยนอันไพเราะมาก น้าอยากฟังอีกจังเลย ได้ไหมจ๊ะ?”เสี่ยวเนี่ยนอันอ้าปาก ค่อย ๆ เปล่งเสียงออกมาคำหนึ่งช้า ๆ “ครับ”“เก่งจังเลย!” เสิ่นชิงซูลูบศีรษะของเขา ตามด้วยมองเสี่ยวอันหนิง “ลูกพาเสี่ยวเนี่ยนอันไปเล่นก่อนเถอะ”“ได้ค่ะ!”เสี่ยวอันหนิงจูงมือเสี่ยวเนี่ยนอันวิ่งไปเล่นที่ห้องรับแขกอย่างสุขสันต์ทันทีเสี่ยวเนี่ยนอันยินดีตามเสี่ยวอันหนิงไปเสี่ยวอันหนิงขนกล่องของเล่นตัวเองออกไปแล้วเทของออกทั้งหมด “เสี่ยวเนี่ยนอัน ของเล่นพวกนี้เลือกได้ตามสบายเลยนะ ชอบอันไหนฉันจะให้ แต่เลือกได้แค่ชิ้นเดียวนะ~”เด็กสองคนเล่นกันเอง ผู้ใหญ่ไม่จำเป็นต้องกังวลเสิ่นชิงซูลุกขึ้นยืนมองจางอวิ๋นและถาม “เสี่ยวเนี่ยนอันกี่ขวบแล้วคะ?“เดือนที่แล้วเพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบสามปีไปค่ะ”เสิ่นชิงซูพยักหน้า “งั้นก็เด็กกว่าเสี่ยวอันหนิงไปปีหนึ่ง สามขวบยังเด็ก พวกคุณอย่ายอมแพ้กับเขานะ อย่างอื่นเขาฟังรู้เรื่องหมด แค่ว่าจิตใจอ่อนไหวกว่าเด็กคนอื่น ผู้ใหญ่ต้องแนะนำด้วยความอดทนเป็นเวลานาน“คุณพูดถูกค่ะ เจ้านายรักคุณชายน้อยมาก เขา

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 304

    เสี่ยวเนี่ยนอันมีตรวจพบว่ามีแนวโน้มปิดกั้นตัวเองตั้งแต่สองขวบนับจากตรวจพบ จางอวิ๋นกับครูพี่เลี้ยงอีกคนหนึ่งเพียรพยายามแนะนำเสี่ยวเนี่ยนอันอยู่ตลอด กลับได้ผลผิดจากที่หวังทว่าเวลานี้ เสี่ยวอันหนิงกับเสิ่นชิงซูกลับเปลี่ยนแปลงเสี่ยวเนี่ยนอันได้อย่างง่ายดายจางอวิ๋นรู้สึกว่าอัศจรรย์ใจมาก!ไม่เพียงจางอวิ๋น แม้แต่เจี่ยงเหวินจิ่นกับเวินจิ่งซีก็ประหลาดใจมากเหมือนกันเวินจิ่งซีกระซิบบ่น “มิน่าฟู่ซือเหยียนถึงไม่ยอมหย่าสักที ดวงสมพงษ์กับเด็กที่มีมากอย่างนี้ คนเป็นพ่อเป็นแม่ที่ไหนบ้างจะไม่หวั่นไหว!”เจี่ยงเหวินจิ่นถลึงตาใส่เขา “วันดี ๆ อย่าพูดถึงตัวซวย!”เวินจิ่งซี “...ก็ได้ครับ!”เสิ่นชิงซูนั่งยองลงมองเสี่ยวเนี่ยนอันด้วยความอ่อนโยน “เสี่ยวเนี่ยนอัน น้าอุ้มหนูได้ไหมจ๊ะ?”เสี่ยวเนี่ยนอันกะพริบตาปริบ ๆ หน้าเป๋อเหลอนาทีนี้บรรยากาศเงียบกริบทันใดทุกคนกำลังรอปฏิกิริยาของเสี่ยวเนี่ยนอันแม้แต่เสี่ยวอันหนิงก็ไม่กล้าพูดสักแอะ แค่ยืนจ้องเสี่ยวเนี่ยนอันอยู่ด้านข้างเงียบ ๆเวลาผ่านไปทุกนาที เสี่ยวเนี่ยนอันยังไม่ตอบสนองพวกผู้ใหญ่ต่างเข้าใจ การขอแบบนี้เป็นการฝืนเสี่ยวเนี่ยนอันเกินไป“ไม่เป็นไ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 303

    เสิ่นชิงซูลูกชิ้นหัวสิงโตที่เพิ่งทำเสร็จออกมาจากห้องครัว“เสี่ยวอันหนิงอย่าเข้ามา ระวังร้อนนะ”เสี่ยวอันหนิงได้ยินหย่างนั้นจึงลากเสี่ยวเนี่ยนอันหลบไปอีกทางหนึ่งทันทีกระทั่งเห็นเสิ่นชิงซูวางอาหารไว้บนโต๊ะแล้ว เสี่ยวอันหนิงจึงลากเสี่ยวเนี่ยนอันเดินไปตรงหน้าเสิ่นชิงซู“แม่คะ แม่ดูสิ นี่คือเสี่ยวเนี่ยนอัน!”เสี่ยวอันหนิงผลักเสี่ยวเนี่ยอันไปตรงหน้าเสิ่นชิงซูเสิ่นชิงซูยิ้ม ลูกสาวเป็นพวกเข้าสังคมเก่งคนหนึ่ง ชอบพาเพื่อนมาที่บ้าน เธอชินกับเรื่องแบบนี้นานแล้วเธอนั่งยองลงเหมือนทุกที คิดจะทักทายกับเด็กน้อย แต่จังหวะที่เห็นดวงตาดำขลับกลมโตของเสี่ยวเนี่ยนอันกลับชะงักงันความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายถาโถมเข้ามาในหัวใจเสี่ยวเนี่ยนอันก็มองเสิ่นชิงซูเหมือนกันดวงตาเด็กน้อยดำขลับสะท้อนใบหน้าของเสิ่นชิงซู ดวงหน้าทื่อ ๆ เล็ก ๆ ยังคงไม่มีอารมณ์ใดเสี่ยวอันหนิงเดินไปข้างหน้าและกระซิบข้างหูของเสิ่นชิงซู “แม่คะ เสี่ยวเนี่ยนอันไม่ค่อยเหมือนกับเด็กทั่วไปค่ะ น้าจางบอกว่าเขาไม่ชอบพูด”พอเสิ่นชิงซูได้ฟังก็ขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ค่อยเหมือน?ตอนนี้เอง เวินจิ่งซี เจี่ยงเหวินจิ่นและจางอวิ๋นเดินเข้ามาจากข้างน

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 302

    เสี่ยวเนี่ยนอันชอบเสี่ยวอันหนิงมากจริง ๆ เวลาที่เขาอยู่กับเสี่ยวอันหนิง แม้จะไม่ค่อยพูดเท่าไร แต่แค่เสี่ยวอันหนิงถามเขา เขาก็จะตั้งใจตอบทุกครั้งจะพูดง่าย ๆ ไม่กี่คำจางอวิ๋น เวินจิ่งซีเจี่ยงและเหวินจิ่นซึ่งเป็นผู้ใหญ่สามคนยืนมองอยู่ข้างนอก รู้สึกว่าภาพที่เด็กสองคนอยู่ด้วยกันช่างเป็นการเยียวยาที่แสนสวยงามเหลือเกิน“จะว่าไปก็แปลกนะคะ ฉันดูแลคุณชายน้อยมาสองปี นอกจากเจ้านายเรา ยังเป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นเขายอมสนิทสนมกับใครก่อนเลย”“จะเป็นไปได้ไหมว่าลูกสาวผมน่ารักมาก?” เวินจิ่งซีเลิกคิ้วด้วยความภาคภูมิใจเต็มประดา “อยู่ที่โรงเรียนอนุบาล เธอเป็นเด็กที่พ็อปที่สุดเลยนะ”พอจางอวิ๋นได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะพูด “งั้นคุณมีความสุขมากเลยนะคะ มีลูกสาวน่ารักอย่างนี้ ภรรยาของคุณต้องเป็นคนดีมากเลยค่ะ เธอเลี้ยงดูเสี่ยวอันหนิงได้ดีมาก”เวินจิ่งซีกระแอมกระไอ “นี่ไม่ใช่ลูกสาวแท้ ๆ ของผมครับ เป็นลูกสาวบุญธรรม”“หา อย่างนี้นี่เอง....” จางอวิ๋นก็อีหลักอีเหลืออยู่บ้างเหมือนกัน จึงเปลี่ยนเรื่องพูด “ถ้าข้างตัวคุณชายน้อยมีเพื่อนน่ารัก ๆ อย่างเสี่ยวอันหนิง อาการของเขาต้องดีขึ้นมากแน่ค่ะ”“พวกคุณก็อยู่ที่เมืองเ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status