Share

บทที่ 9

Author: หรงหรงจื่ออี
เสิ่นชิงซูได้ซื้อห้องในโครงการ ‘ดอลฟินวิลล์’ ที่อยู่ติดกับสตูดิโอไว้ห้องหนึ่งตั้งแต่เมื่อต้นปี

ขนาดหนึ่งร้อยสี่สิบตารางเมตร มีสามห้อง เธอกับแม่คนละห้อง ส่วนห้องเล็กอีกห้องนั้น เธอเปลี่ยนมันเป็นห้องทำงาน

ห้องตกแต่งพร้อมอยู่ ส่วนของเฟอร์นิเจอร์ เธอได้จ้างบริษัทตกแต่งให้มาออกแบบจัดวางใหม่ ซึ่งตกแต่งเสร็จไปตั้งแต่สามเดือนที่แล้ว ฉะนั้นแค่ถือกระเป๋าเข้ามาอยู่ได้เลย

เสิ่นชิงซูเอากระเป๋าไปไว้ที่บ้านใหม่ จากนั้นค่อยไปที่สตูดิโอ

เธอทำงานอยู่ในห้องบูรณะถึงรุ่งสาง อดนอนจนถึงขีดจำกัดสูงสุดแล้วถึงลากร่างอันอ่อนล้ากลับไปยังห้องพักผ่อน

ล้างหน้าล้างตาแล้วนอนลงบนเตียง พอหลับตาลงเข้าสู่ห้วงนิทรา

เพียงแต่คืนนี้เธอนอนหลับได้ไม่สนิทนัก ฝันเห็นเรื่องราวมากมาย ครั้นตื่นขึ้นมากลับจำอะไรไม่ได้

เสิ่นชิงซูนวดคลึงศีรษะที่ปวดตึงเบา ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปอาบน้ำในห้องอาบน้ำ

ขณะออกมา มือถือบนชั้นวางข้างหัวเตียงกำลังสั่นอยู่

เป็นฟู่ซือเหยียนที่โทรเข้ามา

เสิ่นชิงซูไม่ได้รับสาย

เธอพอจะเดาได้ว่าเป็นเพราะฟู่ซืออวี่

ในเมื่อตัดสินใจจะหย่าแล้ว งั้นก็ตัดให้มันขาดสะบั้นไปเลย

อย่างไรฟู่ซืออวี่ก็เป็นลูกของโจวอวี๋ชู เสิ่นชิงซูจึงรู้สึกว่าหลังจากได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันไปสักระยะ ฟู่ซืออวี่ก็จะค่อย ๆ เปลี่ยนไปพึ่งพาโจวอวี๋ชูเอง

เสิ่นชิงซูเปลี่ยนชุดเสร็จก็หยิบมือถือใส่ลงในกระเป๋า แล้วมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล

……

แผนกสูตินรีเวชในโรงพยาบาล ภายในห้องตรวจส่วนตัวของเฉียวซิงเจีย

“ดูจากวันที่ประจำเดือนหมดไปล่าสุดกับผลตรวจอัลตราซาวนด์ ก็ถือได้ว่าเธอท้องมาห้าสัปดาห์กับอีกสี่วันแล้ว”

เฉียวซิงเจียยื่นรายงานผลการตรวจให้เสิ่นชิงซู

เสิ่นชิงซูรับมา มองภาพขาวดำในรายงานผลการตรวจ หัวใจพลันบีบรัดอย่างอดไม่ได้

“อีกอย่าง นี้…” เฉียวซิงเจียชี้ไปที่ถุงการตั้งครรภ์เล็ก ๆ ในภาพนั้น “ดูเหมือนว่าจะเป็นลูกแฝดด้วย”

เสิ่นชิงซูครั้นได้ยินก็อึ้งงัน

เธอเงยหน้ามองเฉียวซิงเจีย “เธอแน่ใจเหรอ?”

“ตอนนี้เพิ่งจะห้าสัปดาห์กว่า ก็เลยเห็นแค่ว่าเป็นถุงสองใบเท่านั้น”

เฉียวซิงเจียพูดให้ความรู้เพิ่มเติม “ถ้าจนประมาณสัปดาห์ที่เจ็ดแล้วตรวจพบว่าถุงการตั้งครรภ์ทั้งสองมีการเต้นของหัวใจ งั้นก็จะยืนยันว่าเป็นฝาแฝด แถมของเธอเป็นแบบถุงตั้งครรภ์คู่ โดยทั่วไปมักจะเป็นฝาแฝดจากไข่คนละใบกัน ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นแฝดชายหญิงก็ได้นะ!”

เสิ่นชิงซูบีบรายงานผลการตรวจไว้ ริมฝีปากซีดเซียวเม้มแล้วเม้มอีก นานแล้วก็ยังไม่อาจเปล่งคำใดออกมาได้

ในใจเฉียวซิงเจียรู้ดีว่าเสิ่นชิงซูใจอ่อนแล้ว

อย่างไรนั่นก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเอง ซ้ำยังมีโอกาสเป็นฝาแฝดด้วย เป็นใครก็ทำใจได้ยากกันทั้งนั้น

อีกอย่าง นี่เป็นลูกของเสิ่นชิงซูกับฟู่ซือเหยียน

ความรู้สึกที่เสิ่นชิงซูมีต่อฟู่ซือเหยียน เฉียวซิงเจียก็รู้อย่างชัดเจน

เฉียวซิงเจียถึงขั้นรู้สึกว่าบนโลกใบนี้คงหาคนที่เหมือนเสิ่นชิงซูไม่ได้อีกแล้ว ห้าปีเต็ม ๆ เธอรักผู้ชายที่ไม่รู้จะขอหย่าวันไหนด้วยความเต็มใจในรูปแบบของการตอบแทนบุญคุณ

ในการแต่งงานครั้งนี้ เสิ่นชิงซูรักเขาจนตัวเองไร้ค่าทั้งที่มีสติ

แต่เกรงว่าฟู่ซือเหยียนคง...ไม่เคยอินกับบทเลยตั้งแต่ต้นจนจบ

“ฉันขอลองคิดดูก่อนนะ”

ผ่านไปครู่ใหญ่ เสิ่นชิงซูช้อนตามองเฉียวซิงเจีย “ไว้ฉันตัดสินใจได้แล้วจะบอกเธออีกที”

ดวงตางดงามของเธอแดงระเรื่อ น้ำตาคลอเบ้า ภายในแววตาเต็มไปด้วยความสับสน

เฉียวซิงเจียเห็นก็พาลปวดใจตาม “ตัดสินใจให้ได้ภายในสิบสองสัปดาห์ก็โอเคแล้ว”

“ได้” เสิ่นชิงซูเก็บใบรายงานใส่กระเป๋า “อย่าบอกเรื่องที่ฉันท้องกับใครทั้งนั้นนะ”

“ฉันรู้”

เฉียวซิงเจียยังต้องทำงานต่อ เสิ่นชิงซูจึงไม่ทำให้เธอเสียการเสียงาน

พอออกมาจากแผนกสูตินรีเวช เสิ่นชิงซูขึ้นลิฟต์ลงมาชั้นล่าง

เมื่อมาถึงชั้นหนึ่ง เสิ่นชิงซูออกมาจากลิฟต์ ครั้นเงยหน้าขึ้นก็เห็นฟู่ซือเหยียนที่อุ้มฟู่ซืออวี่อยู่เดินเข้ามาในโรงพยาบาลจากด้านนอกพอดี

มีแผ่นแปะลดไข้แปะอยู่ที่หน้าผากของฟู่ซืออวี่

เสิ่นชิงซูตะลึงงัน

ฟู่ซืออวี่เห็นเธอ ดวงหน้าเล็กที่ดูป่วยหนักก็เผยรอยยิ้มออกมาทันที “แม่!”

ฟู่ซือเหยียนหยุดฝีเท้าแล้วมองมา

“แม่!”

ฟู่ซืออวี่ตะโกนไปทางเสิ่นชิงซู

ฟู่ซือเหยียนเดินมายังเบื้องหน้าของเสิ่นชิงซูโดยอุ้มฟู่ซืออวี่อยู่

เสิ่นชิงซูรักและห่วงใยฟู่ซืออวี่จากใจจริง เธอลูบใบหน้าของฟู่ซืออวี่เล็กน้อย อุณหภูมิไม่ต่ำเลย

เธอถาม “ทำไมจู่ ๆ ถึงเป็นไข้ได้ล่ะคะ?”

ฟู่ซือเหยียนตอบเสียงเรียบ “เมื่อคืนกินไอศกรีมมา”

ได้ฟังดังนั้น ฟู่ซืออวี่จึงแคะเล็บอย่างรู้สึกผิด

ความจริงเป็นเพราะว่าแม่เพิ่งซื้อไอศกรีมให้เขาครั้งแรก เขาไม่อยากให้สิ้นเปลือง จึงกินจนหมดทั้งกล่อง

แต่ฟู่ซืออวี่ไม่กล้าพูดความจริง ถ้าให้เสิ่นชิงซูรู้ว่าเขากินไอศกรีมไปทั้งกล่องละก็ เธอต้องโทษแม่แน่นอน!

แม่ทั้งรักและอ่อนโยนกับเขาขนาดนั้น เขาจะยอมให้แม่ถูกเสิ่นชิงซูตำหนิได้ยังไง!

ฟู่ซืออวี่กลัวว่าเสิ่นชิงซูจะถามซักไซ้ต่อ จึงยื่นมือออกไป “แม่ อุ้มผมหน่อยได้ไหม?”

เสิ่นชิงซูทำท่าจะยกมือขึ้นด้วยจิตใต้สำนึก แต่นึกได้ว่าตอนนี้ตัวเองกำลังท้อง ท่วงท่าจึงชะงักไป

เธอลูบศีรษะของฟู่ซืออวี่เบา ๆ “แม่ไม่ค่อยสบาย ให้พ่ออุ้มลูกไปเถอะ”

พอฟู่ซืออวี่ได้ยินก็ทำปากจู๋ไม่พอใจ

นี่เป็นครั้งแรกที่เสิ่นชิงซูปฏิเสธที่จะอุ้มเขา

ถึงจะเป็นเพราะกำลังป่วยอยู่ก็เถอะ แต่ฟู่ซืออวี่จำได้ว่าก่อนหน้านี้ต่อให้ไม่สบาย เสิ่นชิงซูก็ยังอุ้มเขาอยู่ดี

หรือว่าเสิ่นชิงซูจะโกรธแล้ว?

ฟู่ซืออวี่คอยสังเกตเสิ่นชิงซูอย่างระมัดระวัง

ครั้นเห็นว่าเธอสีหน้าไม่ค่อยดีเท่าไรจริง ๆ พลันนั้นในใจฟู่ซืออวี่ก็รู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมาเล็กน้อย

“แม่ แม่โกรธผมแล้วใช่ไหมครับ?” ฟู่ซืออวี่มองเสิ่นชิงซูด้วยท่าทางน่าสงสาร “ผมผิดไปแล้ว ผมไม่ควรแอบแม่ไปกินไอศกรีมเลย วันหลังผมจะไม่กินไอศกรีมอีกแล้วครับ”

เสิ่นชิงซูไม่เคยให้ฟู่ซืออวี่กินไอศกรีมเลยจริง ๆ นั่นก็เพราะว่าฟู่ซืออวี่ป่วยเป็นโรคหอบหืดแต่กำเนิด บวกกับการทำงานของม้ามและกระเพาะแย่มากตั้งแต่เด็ก แพทย์แผนจีนจึงบอกว่าห้ามกินของหวานกับอาหารที่มีฤทธิ์เย็นเด็ดขาด

เธอกำลังคิดว่าจะอธิบายให้ฟู่ซืออวี่ฟัง ฟู่ซือเหยียนก็ชิงกล่าวขึ้นมาก่อนว่า “แม่เขาไม่โกรธลูกหรอก”

น้ำเสียงของเขามั่นอกมั่นใจ ไม่รู้สึกเลยสักนิดว่าเสิ่นชิงซูจะทักท้วง

เสิ่นชิงซูแพจนตาสั่นไหวเบา ๆ เม้มริมฝีปากเงียบ ๆ

ฟู่ซืออวี่มองเสิ่นชิงซู “แม่ครับ แม่ไม่ได้โกรธจริง ๆ เหรอครับ?”

เสิ่นชิงซูส่งยิ้มบาง ๆ ให้ฟู่ซืออวี่ “แม่ไม่โกรธอยู่แล้วละจ้ะ”

“ถ้างั้นวันนี้แม่อยู่กับผมได้ไหมครับ?” ฟู่ซืออวี่ดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงน้อยเนื้อต่ำใจยิ่งกว่าเดิม “ผมรู้สึกไม่สบาย ผมอยากกินโจ๊กฝีมือแม่ครับ”

เสิ่นชิงซูลังเลชั่วครู่ ก่อนจะพยักหน้า “ได้”

……

ฟู่ซืออวี่หาหมอมาแล้ว เขาคออักเสบ หมอจึงให้ยามาจำนวนหนึ่ง พร้อมกับแนะนำว่าให้กินอาหารรสอ่อน พอกลับบ้านไปแล้วก็ดื่มน้ำและพักผ่อนให้มาก ๆ

กลับมาถึงยังคฤหาสน์หนานซี ฟู่ซือเหยียนอุ้มฟู่ซืออวี่ขึ้นไปพักชั้นบน

เสิ่นชิงซูไปต้มโจ๊กในห้องครัว

ผ่านไปครึ่งชั่วโมง เสิ่นชิงซูยกโจ๊กที่ต้มเสร็จแล้วขึ้นมาชั้นบน

ประตูห้องนอนเด็กปิดไม่สนิท เสียงของฟู่ซืออวี่จึงดังลอดออกมา...

“แม่ครับ แม่อย่าห่วงไปเลยนะ หมอบอกว่าผมแค่กินยานิดหน่อยก็หายแล้ว…ไม่ใช่ความผิดของแม่นะครับ ถ้าไม่ใช่เพราะแม่ซื้อไอศกรีมให้ผม ผมก็คงไม่รู้เลยว่าที่จริงไอศกรีมรสชาติดีขนาดนี้…แล้วก็คุกกี้ มันฝรั่งทอดกรอบกับอมยิ้มพวกนั้นก็อร่อยมากเหมือนกัน! ผมไม่เคยกินขนมมากมายแบบนี้มาก่อนเลยนะครับ!”

ท่วงท่าในการเปิดประตูของเสิ่นชิงซูชะงักค้าง

เสียงของฟู่ซืออวี่ยังคงดังต่อเนื่อง

“แม่ชิงซูไม่โกรธหรอกครับ พอรู้ว่าผมไม่สบาย เธอก็มีแต่จะเป็นห่วงผมเท่านั้น ตอนนี้เธอก็กำลังต้มโจ๊กให้ผมอยู่ข้างล่างด้วยนะครับ! แม่ครับ แม่ร่างกายไม่แข็งแรง สองสามวันนี้ผมไม่ไปหาแม่แล้วนะ เพราะผมกลัวว่าผมจะแพร่เชื้อหวัดให้แม่…แม่ไม่ต้องเป็นห่วงผมนะครับ แม่ชิงซูจะดูแลผมอย่างดีแน่นอน!”

เสิ่นชิงซูยืนอยู่นอกประตู มือที่ยกถาดอาหารอยู่รวบเข้าหากันเล็กน้อย

นึกไม่ถึงว่าโจวอวี๋ชูจะให้ฟู่ซืออวี่กินอาหารขยะมากมายขนาดนั้น!

ที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงยิ่งกว่าคือ ในเวลาสั้น ๆ เพียงไม่กี่วัน ความสัมพันธ์ระหว่างฟู่ซืออวี่กับโจวอวี๋ชูก็ดีได้ถึงขั้นนี้แล้ว...

เสิ่นชิงซูรู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์จะไปถือสา แต่เมื่อเห็นเด็กที่ตัวเองทุ่มเทแรงกายแรงใจเลี้ยงดูมาจนโตเอาแต่เรียกโจวอวี๋ชูว่า ‘แม่’ ไม่ขาดปาก เธอก็ไม่วายรู้สึกชอกช้ำขึ้นมาในใจ

เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ ต่อให้เธอจะปฏิบัติกับอีกฝ่ายด้วยความจริงใจเพียงใด ก็สู้ความใกล้ชิดทางสายเลือดไม่ได้อยู่ดี

เธอน่ะ เป็นแค่คนนอกมาตั้งแต่แรกและจะเป็นตลอดไป

……

ฟู่ซืออวี่คุยโทรศัพท์กับโจวอวี๋ชูเสร็จแล้ว จึงจะนึกถึงเสิ่นชิงซูขึ้นมาได้

เขาตะโดนเรียก ‘แม่’ อยู่ในห้อง แต่นานมากแล้วเสิ่นชิงซูก็ไม่ขานรับสักที

ฟู่ซืออวี่จึงเดินลงไปตามหาที่ห้องครัวชั้นล่างเอง

แต่ไม่มีคนอยู่ในครัว

ฟู่ซืออวี่ออกมาจากห้องครัว เห็นโจ๊กถ้วยหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะอาหาร
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 611

    กรทั่งตอนกลางคืนจิ้นเชวี่ยจึงจะกลับมาตอนที่เขากลับมา เจียงหมี่รั่วกลับไปที่ห้องของตัวเองแล้วเสิ่นชิงซูนั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นชั้นหนึ่งจิ้นเชวี่ยเดินเข้ามา เห็นเธอนั่งอยู่คนเดียวตรงโซฟา ก็เดินเข้ามา มองสำรวจแวบหนึ่งแล้วถามว่า “รอผมอยู่เหรอ?”เสิ่นชิงซูเงยหน้ามองเขา “จิ้นเชวี่ย เรามาคุยกันหน่อย”จิ้นเชวี่ยกระตุกยิ้มมุมปาก “คุยเรื่องงานแต่งได้ เรื่องอื่นไม่จำเป็น”“ได้” สีหน้าของเสิ่นชิงซูเย็นชา “ฉันแต่งงานกับคุณได้ แต่มีเงื่อนไขว่าขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสของเราต้องทำที่ในประเทศ นอกจากนี้ฉันยังต้องเซ็นสัญญาก่อนสมรสกับคุณ ทรัพย์สินของเราทั้งสองฝ่ายต้องทำนิติกรรมรับรอง”จิ้นเชวี่ยจ้องมองเธอค่อนข้างแปลกใจกับท่าทีที่อ่อนลงอย่างกะทันหันของเธอแต่ในไม่ช้า เขาก็เข้าใจ“เจียงหมี่รั่วพูดอะไรกับคุณ?”“เธอจะพูดอะไรกับฉันได้?” เสิ่นชิงซูแค่นเสียงเย็นชา “ตอนนี้เธอเป็นแค่คนคลั่งรัก ด้านหนึ่งก็มีลูกให้คุณ อีกด้านก็เกลี้ยกล่อมให้ฉันแต่งงานกับคุณ จิ้นเชวี่ย ต้องบอกเลยว่าคุณล้างสมองเจียงหมี่รั่วได้สำเร็จมาก”“อาซู เรื่องนี้คุณเข้าใจผมผิดแล้วล่ะ” จิ้นเชวี่ยเดินเข้ามา บีบคางของเสิ่นชิงซูเบา ๆ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 610

    “ฉันหิวแล้ว อยากลงมากินอะไรหน่อยน่ะ” เจียงหมี่รั่วพูดพลางเดินมา สายตาเบนไปมองเสิ่นชิงซู “พี่ชิงซู พี่ก็หิวแล้วใช่ไหม เรากินด้วยกันเถอะ”เสิ่นชิงซูมองเจียงหมี่รั่ว ถ้าไม่คำนึงถึงว่าเธอกำลังตั้งครรภ์อยู่ ก็อยากไปตบสักฉาดจริง ๆเธอมองเจียงหมี่รั่วอย่างเย็นชา “แค่เพราะว่าฉันยืนกรานจะยกเลิกสัญญากับเธอ เธอก็เลยหักหลังฉันเหรอ?”“พี่ชิงซู ใคร ๆ ก็มีจุดยืนของตัวเองทั้งนั้น ฉันหวังว่าพี่จะเข้าใจฉันนะคะ”เสิ่นชิงซูโมโหจนหัวเราะ “เธอคลอดลูกให้เขา เขากลับฝืนใจให้คนอื่นแต่งงานด้วย เรื่องนี้เธอก็ทนยอมรับได้เหรอ?”เจียงหมี่รั่วยิ้มขม “ถ้าฉันไม่ทนยอมรับ เด็กคนนี้ก็ลืมตาดูโลกไม่ได้”เสิ่นชิงซูอึ้งจิ้นเชวี่ยกลับใช้เด็กข่มขู่เจียงหมี่รั่ว“หมี่รั่ว เธอยังไม่เข้าใจเหรอ? จิ้นเชวี่ยกำลังใช้ความรักของเธอควบคุมเธออยู่นะ เธอจะมีสติหน่อยได้ไหม!”“พี่ชิงซู ฉันตัดสินใจไม่ได้ว่าเขาจะรักใคร แต่ลูกเป็นของเขากับฉัน เรามีลูกด้วยกัน ลูกก็คือการเชื่อมต่อระหว่างเรา เขาจะมีเยื่อใยกับฉัน ก็เหมือนพี่กับฟู่ซือเหยียน ต่อให้พวกพี่หย่ากันแล้ว แต่เพราะมีลูก ระหว่างพวกพี่จึงมีความเชื่อมโยงกันตลอด ต่อให้ไม่ใช่คนรัก อย่างน

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 609

    “จิ้นเชวี่ย คุณคิดจะทำอะไรกันแน่?”“ผมเคยบอกแล้วว่าผมอยากแต่งงานกับคุณ”“ฉันไม่รับปากหรอก” เสิ่นชิงซูจ้องเขาอย่างเย็นชา “จิ้นเชวี่ย คุณอย่าเป็นฟู่ไป๋เซิงคนที่สอง”“ผมไม่เหมือนกับเขา” จิ้นเชวี่ยมองเธอ ท้องนิ้วถูคางเธอเบา ๆ “อาซู คุณเคยช่วยผม ผมไม่ทำกับคุณเหมือนที่พ่อผมทำกับแม่ผมหรอก แค่คุณอยู่กับผมแต่โดยดี ผมสาบานว่าจะมอบทุกอย่างที่ดีที่สุดให้กับคุณ”“จิ้นเชวี่ย ฉันไม่ได้รักคุณ ฉันไม่มีทางแต่งงานกับคุณ”“ความรักมันบ่มเพาะกันได้” จิ้นเชวี่ยพูด “คุณแต่งงานลับ ๆ กับฟู่ซือเหยียนห้าปี คุณก็ไม่ได้รักเขาแต่แรกสักหน่อย? ผมรู้ คุณเป็นคนใจอ่อน แค่เราอยู่ด้วยกันสักสองสามปี ยังไงคุณก็ต้องรักผม”เสิ่นชิงซูขมวดคิ้ว รู้สึกราง ๆ ว่าความยึดมั่นที่จิ้นเชวี่ยมีต่อเธอมีสาเหตุมาจากฟู่ซือเหยียนมากกว่าใจเขาอาจเห็นฟู่ซือเหยียนเป็นศัตรูในความคิดมาตลอด“จิ้นเชวี่ย ฉันไม่สนเรื่องการแต่งงานมานานแล้ว ฉันชอบชีวิตในตอนนี้ของฉัน และฉันก็ไม่รักฟู่ซือเหยียนแล้ว คุณไม่ต้องบีบให้ฉันแต่งงานกับคุณเพื่อเอาชนะเขาหรอก”“คุณคิดว่าที่ผมจะแต่งกับคุณให้ได้ เป็นเพราะฟู่ซือเหยียนเหรอ?”“ความจริงจะใช่หรือไม่ก็ไม่สำคัญ” เสิ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 608

    ฉือกั่วเอ๋อร์จะติดต่อเธอเรื่องยกเลิกสัญญา” เสิ่นชิงซูเดินไปถึงประตู “ต่อไปเธอก็ดูแลตัวเองให้ดี”เสิ่นชิงซูพูดจบก็เปิดประตูห้อง“พี่ชิงซู” เสียงเจียงหมี่รั่วดังมาจากข้างหลังเสิ่นชิงซูหันกลับมาเจียงหมี่รั่วเอามือปิดปาก ความหมองเศร้าอัดแน่นอยู่ในดวงตา “ขอโทษค่ะ”เสิ่นชิงซูขมวดคิ้ว ขณะกำลังจะพูดก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากข้างหลังเธอมีลางสังหรณ์ไม่ดี จังหวะที่หมุนตัวก็ถูกปิดปากปิ่นจมูก กลิ่นแสบจมูกสายหนึ่ง จากนั้นก็หมดสติไปในพริบตา……โม่ไป๋รออยู่ที่ล็อบบีของโรงแรมเกือบหนึ่งชั่วโมง แต่ก็ยังไม่เห็นเสิ่นชิงซูลงมาครั้นตระหนักได้ถึงความผิดปกติ โม่ไป๋ก็โทรศัพท์ไปยังหมายเลขหนึ่ง “เหมือนว่าคุณเสิ่นยังไม่ลงมาครับ”“ขึ้นไปดูเดี๋ยวนี้”โม่ไป๋ขึ้นไปตามหาทันทีแต่ยังมีเสิ่นชิงซูอยู่ที่ไหน?…...ในตอนที่เสิ่นชิงซูฟื้นขึ้นมา เธอก็อยู่ในห้องแปลกหน้าแล้วห้องโอ่โถงมาก ตกแต่งสไตล์จีนประยุกต์เสิ่นชิงซูเลิกผ้าห่มลงจากเตียง เพิ่งเดินมาถึงประตู ประตูก็ถูกผลักออกจิ้นเชวี่ยเดินเข้ามาจากข้างนอกเสิ่นชิงซูถอยหลังสองสามก้าวตามจิตใต้สำนึก “จิ้นเชวี่ย นี่คุณทำอะไรน่ะ?”“อาซู ผมคิดว่าที่คุณไม่ชอบผม

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 607

    ห้องสวีทที่เจียงหมี่รั่วพักอยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม มีความเป็นส่วนตัวสูงมากเสิ่นชิงซูเคาะประตูได้ไม่นานประตูก็เปิดออกเจียงหมี่รั่วในประตูอยู่ในชุดเดรสสีเบจ ดวงหน้าหมดจดสะอาด ริมฝีปากซีดเล็กน้อย“พี่ชิงซู ขอบคุณนะคะที่มาพบฉันได้” เจียงหมี่รั่วเริ่มพูดมาก็สะอื้นเสิ่นชิงซูเป็นผู้หญิงเหมือนกันจึงมองออก ความจริงอาการเจียงหมี่รั่วในเวลานี้ไม่ดีเลยเมื่อเธอเดินเข้าห้อง เจียงหมี่รั่วที่อยู่ด้านหลังก็ปิดประตู“พี่ชิงซู พี่จะดื่มอะไรหน่อยไหมคะ? มีกาแฟกับชา หรือว่าจะเอาน้ำผลไม้...”“หมี่รั่ว ที่ฉันมาไม่ได้จะพูดคุยเรื่องเก่าก่อน” เสิ่นชิงซูตัดบทเจียงหมี่รั่ว มองเธอแล้วพูด “เธออยากพูดอะไรก็พูดมาเถอะ”เจียงหมี่รั่วมองเสิ่นชิงซู ดวงตาแดงระเรื่อ“พี่ชิงซู พี่ผิดหวังกับฉันใช่ไหมคะ?”“มาถามตอนนี้จะมีความหมายอะไร” เสิ่นชิงซูมองเธอ “หมี่รั่ว ความสำเร็จที่เธอเดินมาถึงตอนนี้ ต้องพยายามทุ่มเทกายใจเท่าไร เธอรู้ดีที่สุด ตอนนี้เธอยอมทิ้งเส้นทางศิลปินเพื่อความรัก จะด้วยฐานะเจ้านายหรือเพื่อน ฉันไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งทั้งนั้น”“แต่ฉันรักเขา...” เจียงหมี่รั่วพูดปนสะอื้น “พี่ชิงซู ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้ ตอน

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 606

    หนึ่งอาทิตย์นี้ เสิ่นชิงซูใช้โอกาสนี้ให้เด็กใหม่ในฮ่วนซิงเปิดตัวให้มาก ๆนับจากวันนั้น จิ้นเชวี่ยก็ไม่ปรากฏตัวอีกเสิ่นชิงซูนึกว่าเวลาต่อจากนี้เขาจะอยู่ที่ประเทศเอ็นเพราะเจียงหมี่รั่วตั้งครรภ์เสียอีก……กลางเดือนกุมภาพันธ์ หิมะเมืองเป่ยหยุดตกแล้วแต่อากาศยังหนาวมากเหมือนเดิมในช่วงเลิกงานของวันนี้ เสิ่นชิงซูได้รับข้อความจากเจียงหมี่รั่วเจียงหมี่รั่ว [พี่ชิงซู ฉันกลับมาแล้ว ฉันจะเจอพี่สักครั้งค่ะ]เสิ่นชิงซูแปลกใจอยู่บ้างเจียงหมี่รั่วกำลังท้องกำลังไส้ กลับมาทำไม?เสิ่นชิงซู [ถ้าจะพูดเรื่องการยกเลิกสัญญา เธอติดต่อหยางเหิงตรง ๆ ก็พอ]เจียงหมี่รั่ว [ฉันกลับเมืองก่างเพื่อตรวจสอบงานศพของแม่ พรุ่งนี้ก็จะกลับประเทศเอ็นแล้ว ไปครั้งนี้คงไม่มีโอกาสได้กลับมาอีก ฉันอยากเจอพี่อีกครั้งก่อนจะไป]งานศพของแม่เจียง?เสิ่นชิงซูรู้สถานการณ์ครอบครัวของเจียงหมี่รั่วพอสังเขปเจียงหมี่รั่วเกิดในหมู่บ้านที่ค่อนข้างยากจนในเมืองก่าง ในบ้านมีลูกสาวสี่คน น้องชายหนึ่งคนหมู่บ้านนั้นให้ความสำคัญกับลูกชาย เหยียดลูกสาวมากลูกสาวแต่ละครัวเรือนเกิดมาก็ถูกลิขิตต้องเป็นผู้เสียสละตอนนั้นที่เจียงหมี่รั่วอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status