รูม่านตาฟู่ซือเหยียนหดตัวอย่างรุนแรง ก้าวเท้าวิ่งพุ่งเข้าไป… เปลวเพลิงกลืนกินเสิ่นชิงซูและชุดแต่งงานไปจนหมดสิ้น“เสิ่นชิงซู!” ฟู่ซือเหยียนตกใจตื่น แหงนมองเพดาน หัวใจเต้นระรัว หายใจหอบแฮ่ก“คุณชายฟู่” เส้าชิงเห็นเขาฟื้นขึ้นมา ก็รีบเข้าไปแสดงความเป็นห่วง “ในที่สุดคุณก็ฟื้นสักที”เมื่อเห็นเส้าชิง ฟู่ซือเหยียนก็รู้สึกตัวอย่างเต็มที่ที่แท้ก็ฝันไปเขาถอนหายใจเฮือกใหญ่ เอามือยันเตียงลุกขึ้นนั่งกวาดตามองห้องผู้ป่วยที่ไม่คุ้นเคย ฟู่ซือเหยียนกดบริเวณหว่างคิ้วที่ปวดตุบ ๆ “ฉันเป็นอะไรไปน่ะ?”“วันนั้นจู่ ๆ คุณก็กระอักเลือดเป็นลมไปแล้วหลังจากนั้นก็เป็นไข้สูงไม่ลดเลย สลบไปสามวันสามคืนน่ะครับ”สามวันสามคืน?ฟู่ซือเหยียนรู้สึกหนักอึ้งขึ้นมาในใจทันที “แล้วเสิ่นชิงซูล่ะ?”“คุณเสิ่น…” เส้าชิงก้มหน้า “เช้าวันนี้คุณเสิ่นเผาไปแล้วครับ ตอนนี้น่าจะกำลังทำพิธีฝังแล้ว”“นายว่าอะไรนะ?!”ฟู่ซือเหยียนดึงผ้าห่มออกลงจากเตียงทันที “ใครอนุญาตให้พวกนายเผาเธอกัน!”เส้าชิงตอบอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “เรื่องงานศพคุณเสิ่น อาจารย์ไป๋กับอาจารย์เจี่ยงเป็นคนจัดการครับ”“ฉันไม่เชื่อ!”ฟู่ซือเหยียนผลักเส้าชิงออก เด
เธอไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองเสียใจขนาดนี้ แต่เธอก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอรู้สึกว่าหัวใจตัวเองเจ็บปวดราวกับถูกมีดกรีดฟู่ซือเหยียนมองดูทุกอย่างนี้อย่างเหม่อลอยหัวใจพลันเจ็บแปลบขึ้นมาเป็นระยะ ๆ ราวกับมีใครบางคนยิงกระสุนใส่กลางอกเขาอย่างกะทันหันเลือดไหลทะลักออกมาจากรอยแผลนั้นไม่หยุด!ในทรวงอกก็มีเลือดลมปั่นป่วนไม่หยุด ร่างสูงใหญ่ของชายคนนั้นซวนเซเล็กน้อย“แค่ก ๆ …”มือใหญ่ ๆ ของฟู่ซือเหยียนกุมหน้าอกไว้ กระอักเลือดออกมาทันที!ฉินเยี่ยนเฉิงตกใจสุดขีด “ฟู่ซือเหยียน!”ฟู่ซือเหยียนคุกเข่าลงที่พื้น เลือดหยดลงมาจากมุมปากเขาดวงตาแดงก่ำของเขาจ้องมองใบหน้าขาวซีดไร้วิญญาณของหญิงสาวบนเตียงเข็นอย่างไม่ละสายตา“เสิ่นชิงซู…”เขาพึมพำ ดึงดันเชื่อว่าเธอไม่ได้ตายดึงดันเชื่อว่าทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงแค่การเล่นละครตบตาของหญิงสาวดึงดันเชื่อว่าในวินาทีต่อมาหญิงสาวก็จะลืมตาขึ้นมาทั้งหมดนี้ก็เป็นแค่การหลอกลวงเท่านั้น!เขาไม่เชื่อ ไม่มีทางเชื่อ… ความมืดมนถาโถมเข้ามา ท้ายที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว ร่างสูงใหญ่ล้มลงที่พื้นดังโครม…“ฟู่ซือเหยียน!”เสียงตะโกนร้องด้วยความตกใจของฉินเยี่ยนเฉิงก้องอยู่ในหูไม่ห
ตอนที่ฉินเยี่ยนเฉิงมาเฉียวซิงเจียมาถึง ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกพอดีหัวหน้าหวังเดินออกมา ถอดหน้ากากออก ส่ายหัวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม“ขอโทษจริง ๆ ค่ะ พวกเราพยายามเต็มที่แล้ว”ในชั่วพริบตา โลกทั้งใบราวกับเงียบงันโดยสิ้นเชิงไป๋เจี้ยนเหวินขาทรุดทันที เวินจิ่งซีพยุงเธอไว้ได้ทัน “อาจารย์แม่!”“อาซู อาซูของพวกเรา…” ไป๋เจี้ยนเหวินเอามือปิดปากร้องไห้ตะโกนว่า “อาซูของเราอายุแค่นี้ ทำไมเธอจากไปเร็วอย่างนี้ล่ะคะ เป็นไปไม่ได้ หัวหน้าหวัง ฉันขอร้องคุณละ ช่วยเธออีกครั้งเถอะนะคะ…”“อาจารย์ไป๋ ทำใจดี ๆ นะคะ ฉันทำเต็มที่แล้วจริง ๆ ”ฟู่ซือเหยียนยืนนิ่งอยู่กับที่อย่างเคว้งคว้างข้าง ๆ เขา หัวหน้าหวังอธิบายให้ไป๋เจี้ยนเหวินฟังว่าทำไมช่วยเสิ่นชิงซูไว้ไม่ได้…ไป๋เจี้ยนเหวินไม่อยากยอมรับเสียงร่ำไห้ร้องตะโกนดังกังวานอยู่ในหูเขาฟู่ซือเหยียนไม่เชื่อเสิ่นชิงซูจะตายได้ยังไง?ฟู่ซือเหยียนยิ้มมุมปาก เขาหัวเราะ แต่ดวงตากลับแดงก่ำเป็นอย่างมาก “เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อ…”เขาพึมพำ เดินผ่านหน้าหัวหน้าหวังเข้าไปทางห้องฉุกเฉินฉินเยี่ยนเฉิงเห็นสถานการณ์ก็ปล่อยมือเฉียวซิงเจียทันที ตามไปคว้าตัวฟู่ซือเหยียนไว
ฟู่ซือเหยียนอึ้ง“คุณไม่คู่ควรเป็นพ่อเขาด้วยซ้ำ!”เสิ่นชิงซูเงื้อมือ ตบดังสนั่นฉาดหนึ่งเข้าอย่างจังที่ใบหน้าของฟู่ซือเหยียน…“คุณมันเสแสร้งจริง ๆ! ถ้าไม่ใช่เพราะคุณกับโจวอวี๋ชู ลูกฉันก็ไม่ต้องเผชิญกับเรื่องทั้งหมดนี่หรอก! ตบนี้ ให้ลูกชายฉัน!”‘เพียะ’ สิ้นเสียงตบฉาดที่สอง…“ตบนี้ ให้แม่ฉัน!”‘เพียะ’ สิ้นเสียงตบฉาดที่สาม…“ตบนี้ ให้ตัวฉันเอง!”ฟู่ซือเหยียนก้มหน้า รับฝ่ามือของเสิ่นชิงซูเต็ม ๆ สามครั้งโดยไม่หลบเลี่ยงเขาที่หยิ่งทะนงมาตลอด เวลานี้ก้มหน้านิ่ง มือทั้งสองข้างลำตัวกำหมัดเสิ่นชิงซูหน้าอกกระเพื่อม หายใจหอบแรง หากวินาทีนี้เธอมีมีดเล่มหนึ่งในมือ เธอต้องจ้วงแทงเข้าไปที่อกฟู่ซือเหยียนอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยอย่างแน่นอน!เธอเกลียดชังเขา แทบอยากให้เขาหายไปจากโลกนี้เดี๋ยวนี้!“ฟู่ซือเหยียน คุณแย่งลูกชายไป ฉันยอมรับมันแล้ว แต่ลูกสาวฉัน คุณไม่มีสิทธิ์แย่งไปจากฉันอีก ตั้งแต่คืนนี้ไป เราสองแม่ลูกกับคุณขาดกัน!”เสิ่นชิงซูเบนสายตากลับมา หันหลังกลับเดินไปข้างหน้าที่ด้านหลัง มีคนกำลังเรียกเธออยู่เสิ่นชิงซูได้ยินไม่ค่อยชัด ร่างกายเหมือนเหยียบปุยนุ่นอยู่ สิ่งที่อยู่ตรงหน้าพร่าเลื
เสิ่นชิงซูขนตาสั่นไหวเล็กน้อย หลับตาปี๋ ริมฝีปากที่ซีดเผือดเม้มแน่นไป๋เจี้ยนเหวินรู้สึกได้ว่าทรวงอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลงแรงขึ้นเรื่อย ๆ“อาซู เธอมีความแค้นเคืองอะไรก็พูดออกมาให้หมดเถอะ เธออย่าเป็นแบบนี้…” ไป๋เจี้ยนเหวินมองที่เธอด้วยความกังวลเสิ่นชิงซูเม้มปากแน่น หลับตาไว้ไม่ยอมส่งเสียงใด ๆ ออกมาสักแอะมีเพียงน้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่รู้จบจากหางตาของเธอ จนทำให้หมอนเปียกชุ่ม“อาซู เธออย่าเป็นแบบนี้สิ เธอร้องไห้ออกมาก็ได้ เธอฝืนไว้แบบนี้ไม่ได้นะ…”ไปเจี้ยนเหวินรู้สึกได้ว่าความรู้สึกที่เธอสะสมไว้ในใจรุนแรงเพียงใดแต่เธอกลับใช้วิธีที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นการทรมานตัวเองกดเก็บความรู้สึกไว้!เวินจิ่งซีเห็นแล้วร้อนใจเป็นอย่างมาก อดรนทนไม่ไหวพุ่งเข้าไปตะโกนใส่ฟู่ซือเหยียน “คุณไปซะเถอะ! คุณดูบีบว่าคุณบีบอาซูจนเป็นยังไงแล้ว!” ฟู่ซือเหยียนเม้มปาก ไม่ได้สนใจเวินจิ่งซี ดวงตาดำขลับคู่นั้นจดจ้องเสิ่นชิงซูด้วยสายตาหนักอึ้งเขาไม่ไป เวินจิ่งซีจึงก้าวเข้าไปผลักเขาชายสองคนต่างคนต่างไม่ยอมกัน ดูท่าจะลงไม้ลงมือชกต่อยกันแล้ว“ฉันอยากไปดูลูกสาวหน่อย”ชายสองคนต่างคนต่างตะลึง หันหน้าไปมองเสิ่นชิงซูท
กุมารแพทย์พยายามอย่างสุดความสามารถ ในที่สุดก็ช่วยคนน้องกลับมาจากประตูนรกได้แต่อาการยังคงไม่สู้ดีนักพูดยังไงเสิ่นชิงซูก็จะไปดูลูกที่แผนกทารกแรกคลอดให้ได้ไป๋เจี้ยนเหวินพูดโน้มน้าว “เธอไปก็เข้าไปไม่ได้อยู่ดี อีกอย่างร่างกายเธอก็ยังไม่ฟื้นตัว ยังไงอย่าเพิ่งลุกเดินเลยจะดีกว่า”“หนูนั่งรถเข็นเอาก็ได้ค่ะ” เสิ่นชิงซูมองไป๋เจี้ยนเหวิน ท่าทางยังแน่วแน่เช่นเดิม “แม่บุญธรรมคะ ตั้งแต่พวกเขาคลอดจนถึงตอนนี้หนูยังไม่ได้ไปดูด้วยตัวเองเลย หนูมักรู้สึกกระวนกระวายใจ แม่บุญธรรมให้หนูไปดูสักครั้งได้ไหมคะ?”ในใจของไป๋เจี้ยนเหวินลุกลี้ลุกลนอย่างมาก ทว่าบนใบหน้าฝืนแสร้งสงบนิ่ง“อาซู คุณเชื่อฟังอาจารย์แม่เถอะนะ” เวินจิ่งซีพูดต่อว่า “ผมได้ยินว่าการอยู่ไฟสำคัญกับผู้หญิงที่เพิ่งคลอดลูกอย่างพวกคุณมาก เอาแบบนี้แล้วกัน ผมจะไปถ่ายวิดีโอที่แผนกทารกแรกเกิดมาให้คุณดูอีกสองสามวิดีโอดีไหม?”เสิ่นชิงซูขมวดคิ้วเล็กน้อย กวาดสายตามองไปที่ใบหน้าของไป๋เจี้ยนเหวินและเวินจิ่งซีรอบหนึ่ง“ทำไมพวกแม่เอาแต่ขวางไม่ให้หนูไปดูลูกตลอดเลย?”ไป๋เจี้ยนเหวินกับเวินจิ่งซีพากันตกตะลึงไป“พวกแม่มีเรื่องอะไรปิดบังหนูอยู่ใช่ไหมคะ?” เส