“นายหญิงแห่งสำนักของเราป่วยเพราะค่ายกลไม่ถูกต้องอย่างนั้นเหรอ?”“นี่มันเรื่องไร้สาระอะไร!”ผู้อาวุโสสำนักโอสถหลายคนต่างก็ไม่พอใจ “ถ้าเป็นเช่นนั้น บอกมาสิว่า ค่ายกลภายในห้องนั้นไม่ถูกต้องยังไง?”แดร์ริลหัวเราะในขณะที่เขาชี้ไปที่กระจกที่อยู่ทั้งสองฝั่งภายในห้อง จากนั้นเขาก็กล่าวว่า “สำนักโอสถจะต้องกลั่นโอสถตลอดทั้งปีและไฟของหม้อน้ำนั้นมีความแรงอยู่เสมอจนมันทิ้งพลังหยางเอาไว้รอบ ๆ ในตอนแรกค่ายกลภายในห้องอาจจะดี แต่ทุกสิ่งได้เปลี่ยนไปด้วยกระจกสองบานนี้ เพราะว่ากระจกสามารถส่งผลกระทบต่อพลังงานของสิ่งแวดล้อมได้ และกระจกสองบานที่หันหน้าเข้าหากันเช่นนี้ ก็จะสะท้อนพลังงานจากกระจกทั้งสองบานและขยายพลังหยางให้แข็งแกร่งมากขึ้นหลายเท่า ผู้ชายจะถือพลังหยาง ในขณะที่ผู้หญิงจะถือพลังหยิน ดังนั้น ผู้ชายที่อาศัยอยู่ที่นี่จะมีความกระฉับกระเฉง และหลังจากที่ผ่านไปนาน พลังหยินของผู้หญิงจำเป็นต้องขยายเพิ่มขึ้นเพื่อปกป้องพลังหยางที่อยู่ภายในห้อง และนั่น คือสาเหตที่เธอล้มป่วยเช่นนี้ และเธอก็จะรู้สึกหนาวสั่นในทุกครั้งที่อาการของเธอกำเริบ”เมื่อแดร์ริลอธิบายสถานการณ์จบ ภายในห้องนอนก็ถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ
"นี่มัน?"ทุกคนต่างก็ตะลึงเมื่อพวกเขามองเห็นแก้มที่เปลี่ยนเป็นสีดอกกุหลาบของนายหญิงแห่งนิกายเดบร้ารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เธอเขยิบเข้าไปยืนใกล้แดร์ริลมากขึ้นเขาสามารถแต่งบทกวี กลั่นยา และเขายังรู้แม้แต่วิชาค่ายกล ไม่มีอะไรที่ชายผู้นี้ทำไม่ได้จีเวลเองก็ภาคภูมิใจในตัวเขา เธอคว้าแขนของแดร์ริลและพูดว่า "ว้าว คุณเก่งมาก! ในที่สุดพี่สาวโจดี้ก็ฟื้นแล้ว!"แอนดี้เองก็ตกตะลึงเช่นกัน เขารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก เขากอดโจดี้เอาไว้แน่นในขณะที่น้ำตาของเขายังคงไหลริน “ที่รัก ที่รัก ขอบคุณ ตอนนี้เธอหายแล้ว! ขอบคุณพระเจ้า…”โจดี้ขมวดคิ้วเล็กน้อย ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความสงสัย “ที่รัก นี่ฉันไม่สบายอีกแล้วเหรอ?”ในขณะที่พูด โจดี้ก็รู้สึกเขินอายเมื่อเธอมองเห็นผู้คนมากมายที่อยู่ภายในห้องของเธอ“ใช่ แต่ว่าตอนนี้คุณสบายดีแล้ว” แอนดี้หัวเราะในขณะที่เขาร้องไห้ในเวลาเดียวกัน เขามองไปรอบ ๆ และพูดว่า "พวกท่านทุกคนออกไปได้แล้ว ฉันมีอะไรจะพูดกับท่านเจ้าสำนักเกเบิล”เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผู้อาวุโสสำนักโอสถทุกคนก็หันหลังและเดินออกไปอย่างเงียบ ๆอย่างไรก็ตาม ในขณะที่พวกเขาเดินไปถึงที่ประตูพวกเขาก็ยังคงจ้องมอ
เมื่อสิบปีที่แล้ว?แอนดี้หน้าซีดเซียวเมื่อเขาได้ยินคำพูดของแดร์ริล!“เพื่อนเก่าที่คุณพูดถึง เขาคือ มารกระบี่ ฟอร์ด เซาธ์ ใช่ไหม?” แอนดี้กลืนน้ำลายหลังจากที่เขาพูดจบ“ใช่แล้ว” แดร์ริลพยักหน้าในขณะนั้น ภายในห้องนอนก็เงียบลงในทันที!แอนดี้กำหมัดแน่น เขาสูดหายใจเข้าและพูดว่า “เมื่อสิบปีที่แล้ว สำนักโอสถและสำนักกระบี่ได้ร่วมมือกันโจมตีมารกระบี่ ฟอร์ด เซาธ์ และเมื่อสิบปีที่แล้ว พ่อของฉันเป็นเจ้าสำนักโอสถคนเก่า และเขาก็ได้ล่วงลับไปหลังจากนั้นไม่นานเขาคิดผิดพลาดจริง ๆ ที่ซุ่มโจมตีมารกระบี่ ฟอร์ด เซาธ์ ฉันต้องขอโทษแทนพ่อของฉันจริง ๆ ถึงแม้ว่ามันจะสายเกินไปถึงแม้ว่ามารกระบี่ฟอร์ด เซาธ์ อาจจะไปสู่สุคติแล้วก็ตาม” แดร์ริลถอนหายใจ เขาเห็นว่าแอนดี้เป็นคนดีและเขาเองก็เต็มใจที่จะขอโทษแทนพ่อของเขาแดร์ริลครุ่นคิดว่าจะบอกเขาดีหรือไม่ ว่าฟอร์ด เซาธ์ยังไม่ตาย แต่เขายังอยู่ที่หุบเขาในช่วงตลอดสิบปีที่ผ่านมาแต่แล้วเขาก็ไม่ได้บอก เมื่อเขาคิดได้ว่าอาจารย์ของเขาไม่ต้องการที่จะแก้แค้นอีกต่อไป เขาถึงเลือกที่จะอยู่ที่หุบเขาต่อไปและไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวายใด ๆ อีก“ช่างมันเถอะ อย่าพูดถึงมันอีกเลย” แด
แอนดี้เองก็ตกตะลึงเช่นกัน เขาดูสับสนเดบร้ารู้สึกเป็นกังวล เธอลุกขึ้นและดึงแขนของแดร์ริล "คุณกำลังจะไปไหน?"เธอตื่นตระหนก เธอไม่สนใจสิ่งอื่นใดในขณะที่เธอดึงแขนของเขาแน่นเธอรู้เพียงแค่ว่าเธอจะไม่มีความสุขไปตลอดชีวิตถ้าหากแดร์ริลจากเธอไปแดร์ริลถอนหายใจในขณะที่เขาจ้องมองไปยังภายนอก จากนั้นเขาก็พูดว่า "ฉันต้องไปยังโลกใหม่เพื่อช่วยชีวิตใครบางคน"ในขณะที่พูด ภาพของอีวอนและโมนิก้าก็ปรากฏขึ้นในความคิดของเขา"ฉันจะไปกับคุณ" เดบร้ากัดริมฝีปากในขณะที่เธอตัดสินใจเช่นนั้นเธอคงจะไม่สามารถทำให้เขาอยู่ต่อได้ ดังนั้นเธอจึงจะต้องติดตามเขาไปเธอยินดีที่จะติดตามเขาไปเหมือนดั่งเงาและเธอก็จะไม่เสียใจ …อีกด้านหนึ่ง ณ คฤหาสน์ของเจ้าศักดินาเคนนี่ เบรด ในเมืองหลวงของโลกใหม่เป็นเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว ในสวนเล็ก ๆ ที่สวยงามที่คฤหาสน์ของเจ้าศักดินาเคนนี่ เบรด โมนิก้ายืนอยู่คนเดียวด้วยความหงอยเหงาเธออยู่ในคฤหาสน์ของเจ้าศักดินาเคนนี่ เบรดมาระยะหนึ่งแล้ว นับตั้งแต่ที่เธอถูกพามาที่นั่นหัวใจของเธอยังคงคิดถึงเพียงแดร์ริลความขมขื่นเกิดขึ้นภายในใจของเธอในทุก ๆ ครั้งที่เธอนึกถึงชายคนนั้นชีวิตของเธอก
มือของเจ้าศักดินาเคนนี่โอบรอบเอวของนายหญิงแห่งนิกาย“ท่านเคนนี่ ได้โปรดให้เกียรติและเอามือของท่านออกไปด้วย”โมนิก้าก้าวถอยหลังไปเล็กน้อย เธอยังคงปฏิเสธในการกระทำที่ใกล้ชิดของเจ้าศักดินาเคนนี่เพราะว่าเธอมีใจให้กับชายเพียงคนเดียวเท่านั้น นั่นคือ แดร์ริลเจ้าศักดินาเคนนี่รู้สึกผิดหวัง เขายิ้มอย่างสิ้นหวังและพูดว่า “ที่รัก มันก็นานแล้วนะ แต่ทำไมคุณถึงยังไม่ยอมรับผม?”โมนิก้าอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ของเบรดมาระยะหนึ่งแล้ว และเจ้าศักดินาเคนนี่ก็รักเธอมาก ดังนั้นเขาจึงไม่บังคับเธอให้ยอมรับเขาโมนิก้ายังคงดูงดงามถึงแม้ว่าเธอจะตั้งครรภ์ ในขณะที่เจ้าศักดินาเคนนี่เองก็รักเธอมากขึ้นทุกวัน เขาหยุดตัวเองไม่ได้เขาจึงต้องการที่จะกอดเธอ แต่เขาไม่คิดว่าเธอจะปฏิเสธเขาอีกเจ้าศักดินาเคนนี่ฝืนยิ้ม จากนั้นเขาก็เปลี่ยนเรื่อง “ที่รัก คุณอยู่ที่นี่มาระยะหนึ่งแล้ว คุณคิดยังไงกับคฤหาสน์เบรดบ้าง?”โมนิก้ากัดริมฝีปากของเธอและพูดเบา ๆ ว่า "ที่นี่เป็นสถานที่ที่ดีมาก เจ้าศักดินาเคนนี่ คุณดีกับฉันมากและฉันก็ซาบซึ้งใจในการกระทำของคุณ แต่ว่าหัวใจของฉันไม่ได้อยู่ที่นี่ แล้วทำไมคุณถึงไม่ปล่อยฉันไปจะดีกว่า?"ใบหน้าอันงด
ที่เมืองหลวงของโลกใหม่กำลังอัดแน่นไปด้วยผู้คน เนื่องจากเหล่านิกายจากทั้งเก้าแผ่นดินใหญ่ได้มุ่งหน้าไปที่นั่นแต่ละนิกายจากทั้งเก้าแผ่นดินใหญ่ ต่างก็มีภูมิหลังที่แตกต่างกัน และเหล่านิกายที่รวมตัวกันอยู่ในเมืองหลวงก็มาจากวัฒนธรรมที่แตกต่างจนทำให้เกิดฉากที่ตระการตาขึ้นห่างจากเมืองหลวงออกไปหลายร้อยไมล์ ผู้คนหลายสิบคนกำลังเดินอยู่บนถนนสายหลัก พวกเขาถูกปกคลุมไปด้วยฝุ่นควันและกำลังหมดเรี่ยวแรงเชสเตอร์และแด็กซ์เป็นผู้ที่นำพวกเขามาสำนักภูเขาบุบผาและนิกายตำหนักอมตะตามหลังพี่น้องสองคนนั้นมา จตุราชันย์พิทักษ์แห่งนิกายตำหนักอมตะ เซอซี เอเวลิน และคนอื่น ๆ ก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกันเช่นเดียวกับนิกายอื่น ๆ ที่อยู่ในเมืองหลวง พวกเขามาที่นี่เพื่ออาวุธมหาประลัย เชสเตอร์และแด็กซ์ ได้ตัดสินใจที่จะไปที่นั่นด้วยเหตุผลนั้นเช่นกัน แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ พวกเขาต้องการตามหาแดร์ริลที่หายตัวไปนอกจากสำนักภูเขาบุบผาและนิกายตำหนักอมตะแล้ว ยังมีอีกหลายนิกายจากจักรวาลโลกที่กำลังมุ่งหน้าไปที่นั่นเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น สำนักเส้าหลิน สำนักบู๊ตึ๊ง สำนักง้อไบ๊ สำนักเทียนชาน สำนักพเนจร สำนักลูกท้อเบ่งบาน และเกือบทุกน
มัตเตโอขมวดคิ้วเมื่อเขาสังเกตเห็นว่าแด็กซ์ไม่เป็นมิตร เขามองไปที่จัสตินและถามว่า "นายรู้จักชายผู้นี้ไหม?"จัสตินตอบทันทีว่า "ท่านอาจารย์ เขาคือ แด็กซ์ เจ้าสำนักภูเขาบุปผา และชายที่อยู่ข้าง ๆ เขาคือ เชสเตอร์ ประมุขนิกายตำหนักอมตะ นิกายของพวกเขาแข็งแกร่งมากในจักรวาลโลก"แข็งแกร่ง?มัตเตโอยิ้มเยาะในขณะที่เขามองดูแด็กซ์และเชสเตอร์พวกเขาเป็นเพียงปราชญ์ยุทธเท่านั้น แต่พวกเขากลับถูกมองว่าแข็งแกร่ง?ด้วยความใจร้อนของแด็กซ์ เขาจึงเตะจัสตินทันที “เฮ้ นายคิดว่านายมีพลังเพิ่มมากขึ้นหลังจากที่นายออกจากเมืองตงไห่ไป นายเลยไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันถามอย่างนั้นเหรอ? หูหนวกหรือยังไง? ฉันถามว่าลิลี่อยู่ที่ไหน?”แด็กซ์โกรธจัด จัสตินจะต้องโค้งคำนับเมื่อพูดกับแด็กซ์ แต่ดูเหมือนว่าในตอนนี้ เขาจะเย่อหยิ่งและแสร้งทำเป็นหูหนวกจัสตินพยายามหลบตาแด็กซ์ในขณะที่เขาพึมพำว่า "ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าเธออยู่ที่ไหน"เขาพูดด้วยเสียงเบาเพราะเขารู้สึกผิดมัตเตโอมองไปที่จัสติน เขากล่าวว่า “นายเป็นลูกศิษย์ของสำนักประกายแสง ดังนั้น นายจะต้องกล้าที่จะยอมรับในสิ่งที่นายทำ ทำไมนายไม่ยอมรับไปว่าผู้หญิงที่น่าเกลียดคนนั้นได้ตายไป
บึ้ม!เปลวไฟสีม่วงกระทบเกราะป้องกันด้วยเสียงอันดังและความร้อนที่น่ากลัวก็เริ่มแผดเผาไปทั่วทั้งร้านอาหารแคร็ก!เกราะป้องกันแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เชสเตอร์และแด็กซ์บินถอยหลังห่างออกไปหลายสิบฟุต จากนั้น พวกเขาก็ตกลงบนพื้นและกระอักเลือดออกมาเต็มปาก!“ท่านประมุขนิกาย!”“ท่านเจ้าสำนัก!”สาวกของสำนักวังภูเขาบุปผาและนิกายตำหนักอมตะชักดาบออกมาและล้อมรอบพวกเขาเอาไว้ทันทีอย่างไรก็ตาม มัตเตโอไม่ได้กังวลอะไรเลยสักนิด เขายิ้มเยาะและรินไวน์ให้ตัวเองทุกคนในร้านอาหารต่างก็จ้องมองไปที่มัตเตโอ จากนั้น ความเงียบก็เข้าปกคลุมอย่างสมบูรณ์!ทรงพลัง!เขาแข็งแกร่งมาก!เมื่อโอฟีเลียสังเกตเห็นสถานการณ์ เธอกำลังจะยืนขึ้นเพื่อช่วยหยุดพวกเขาแม้ว่าเธอจะรู้ว่าแด็กซ์เป็นคนอย่างไร แต่พวกเขาก็มาจากจักรวาลโลกเหมือนกัน ดังนั้น มันจึงไม่ถูกต้องที่จะเห็นผู้คนที่มาจากจักรวาลโลกถูกรังแกอย่างไรก็ตาม อีวาน ไวท์ได้ห้ามเธอเอาไว้ อีวานเป็นลูกศิษย์คนโปรดของโอฟีเลีย ดังนั้น เขาจะติดตามเธอไปไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน อีวานเคยปลอมตัวเป็นดาร์บี้ผู้ไร้พ่ายที่งานวันเกิดของซาร่า คาร์เตอร์ เพื่อสร้างเรื่องให้โซรันอนุญาตให้เขาได้แ