Masuk
นิยายชุดคุณหนูคนงาม โดยมาวิญญา จะมีสามเรื่อง
ได้แก่ 1.คุณหนูคนงามกับสามโจรป่า ถูกโจรป่าจับตัว ชะตากรรมย่อมมืดมัว แต่ไม่ใช่กับคุณหนูคนงามอย่างนาง ด้วยนั่นคือโอกาสทองต่างหาก จากค่ายโจรสุดโหด กลายเป็นเรือนหรรษาด้วยโจรทั้งสามต่างขยันขันแข็งจัดหนักดุดันทุกครา เพียงแต่นางต้องหลั่งน้ำหรรษามากหน่อยด้วยโจรมีกันถึงสามคน -------------------------- 2.คิดจะรังแกคุณหนูคนงามหรือหัวหน้าพรรคมาร โดยมาวิญญา นางเป็นคุณหนูคนงามอยู่ดีดี กลับถูกจับตัวมากระแทกกระทั้นเพื่อแก้แค้นอ๋องคู่หมั้นซึ่งแล้งน้ำใจไม่ไยดี หัวหน้าพรรคมารผู้นี้ช่างโหดร้ายมุ่งมั่นตอกแทงไม่ยั้งตามอำเภอใจ เขาทั้งกินดุ กินจุ กินบ่อย กินไม่หยุด กินแล้วกินอีก กินไม่รู้จบ ราวนางคือของหวานที่เลิศรสซึ่งต้องกินต่อไปจนไม่ยอมอิ่มหนำ นึกอยากจับนางเด้งแรงตรงไหนก็ทำตามอำเภอใจ กี่ครั้งกี่หนก็ไม่สน ไม่ว่าจะบนหลังคาในวังหลวง บนกิ่งไม้กลางอุทยาน ในงานรื่นเริงซึ่งมีผู้คนมากมาย ท่ามกลางการค้าขายที่ตะโกนแข่งกันจนเซ็งแซ่ ท่วงท่าหวาดเสียวและสารพัดความหฤหรรษ์ล้วนถูกนำมาปรนเปรอ แต่นางหรือจะยอมให้เขารังแกอยู่ฝ่ายเดียว เหี้ยมโหดแล้วอย่างไร แม้แต่ราชสำนักยังเกรงกลัวนั่นก็ช่างเถิด ด้วยนางจะยึดพรรคมารด้วยการควบคุมหัวหน้าเอาไว้ในร่องดอกไม้งามของนางเอง ---------------------- 3.แอบดูพี่เขยจนได้สามี โดยมาวิญญา นางเพียงหนีการแต่งงานมาหาพี่สาว เหตุใดแค่แอบดูครั้งเดียวจึงกลายเป็นได้สามีไปเสียเล่า ไม่เคยมีผู้ใดบอกเจ้าหรือ ความอยากรู้อยากเห็นจะเป็นภัย ไม่เจ้าค่ะ ข้ายังไม่อยากโดนกินโดยนักเขียนจะลงต่อเนื่องกันไปทีละเรื่องนะคะ
ฝากติดตามด้วยค่ะ
แนะนำตัวละคร คุณหนูคนงามกับสามโจรป่า
*เมิ่งเจียวเจียว คุณหนูใหญ่สกุลเมิ่ง
*โจวหาน หัวหน้าค่ายโจร
*ซ่งเถา รองหัวหน้าค่ายโจร
*หลัวจิ้ง รองหัวหน้าค่ายโจร
*เสี่ยวชุน สาวใช้ของเมิ่งเจียวเจียว
ตอนที่สี่ เลือกจากหน้าตาหรือความใหญ่กันแน่เมิ่งเจียวเจียวที่ยังรู้สึกหวาดกลัวจึงออเซาะด้วยวาจาอ่อนหวานกับกายที่สั่นระริกด้วยน้ำหวานถูกรีดออกมาอย่างต่อเนื่อง“ช่วยเล้าโลมอีกนิดได้หรือไม่ แท่งกายของพวกเจ้าใหญ่โตเหลือเกิน หากมีน้ำมากขึ้นข้าคงเจ็บน้อยลงและไม่ต้องกรีดร้องให้รำคาญใจ”ด้วยต้องการให้หญิงสาวรู้สึกว่าพวกเขาต้องการทะนุถนอมนาง แรงดูดกลืนทั้งบนล่างจึงเร่งรัวจนหญิงสาวสะท้านซ่านหลังแอ่นเกร็ง ร่างกายสั่นระรัวไปตามจังหวะของลิ้นร้อนที่ตวัดแรงรองหัวหน้าหลัวซุกใบหน้ามุดกลางหว่างขาส่งลิ้นร้อนปาดเลียน้ำหวานใสที่ไหลเยิ้มจนเกิดเสียงจ๊วบจ๊าบกระทั่งอดทนไม่ไหว หลัวจิ้งจึงลุกขึ้นจับเรียวขาอ้ากว้าง แหวกร่องชุ่มฉ่ำแล้วเตรียมกดท่อนลำเข้าไปเสพสุขเป็นคนแรก“ขอข้าก่อนก็แล้วกัน พี่ใหญ่ พี่รอง ข้าไม่ไหวแล้วเมิ่งเจียวเจียวที่กำลังหลับตาเสียวซ่านไปกับลิ้นอุ่นที่วนเลียบนเม็ดชมพูกลางเต้าเต่งรีบลืมตาร้องห้ามด้วยน้ำเสียงราวสายฟ้าฟาด“เดี๋ยวก่อน!...”คุณหนูคนงามรีบหันซ้ายหันขวาเพื่อเปรียบเทียบความใหญ่
ตอนที่สาม ทีละขั้นตอนร่างบางแอ่นอกยกเต้าทรวงให้อีกฝ่ายได้บีบความล้นใหญ่จนกระเด้งกระดอนก่อนที่ทั้งปากทั้งลิ้นจะครอบครองความอวบหยุ่นจนกายบางดิ้นเร่าด้วยเตรียมตัวเตรียมใจมาแล้ว เมิ่งเจียวเจียวที่ได้รับการดูดกลืนและขบเม้มจากปลายลิ้นและปลายนิ้วที่รุมเร้าทั้งบนล่างย่อมเกิดความกระสันซ่านคล้อยตามไปไม่น้อยอื้อ...ความรู้สึกนี้ช่างไม่เหมือนคราวก่อนคราวที่แล้วเหตุใดพวกเขาจึงใจร้อนไม่เล้าโลมนางสักหน่อย จะได้ไม่เจ็บปวดเช่นนั้นอืม...อ้า...เสียว...มิน่าล่ะ ยามแอบเห็นอนุของท่านพ่อแอ่นร่างเด้งกาย เสียงกรีดร้องจึงสั่นกระเส่านัก เมิ่งเจียวเจียวได้รับการปรนเปรอจนเคลิบเคลิ้มล่องลอยแทบหลงลืมไปว่านางกำลังโดนปล้นชิงความบริสุทธิ์ของสตรีในห้วงที่เสื้อผ้าซึ่งเกะกะถูกกระชากออกจนร่างเปลือยเปล่าเผยความงดงามเต็มสองตา โจรหนุ่มทั้งสามต่างพากันถอนริมฝีปากเงยหน้าขึ้นแสยะยิ้มอย่างโง่งมพลางเอ่ยคำชื่นชม“งดงามยิ่ง”พวกเขาพากันกลืนน้ำลายไปหลายอึกด้วยท่อนกลางกายที่แข็งตั้ง สายตาเฝ้าเหลือบมองกลีบชมพูซึ่งมีน้ำใสไหลทะลักออกมาไม่ขาดสายหลัวจิ้งที่เงยหน้าขึ้นเห็นเนินสามเหลี่ยมอวบอูมลอยล่อตาอยู่ตรงหน้าจึงเปลี่ยนมาใช้นิ้วมื
ตอนที่สาม ทีละขั้นตอนพวกเขาย่อมไม่คาดว่าคุณหนูคนงามจะโอนอ่อนผ่อนตามทั้งยังบิดร่างเกือบเปลือยส่งสายตายั่วยวน แม้จะมีเงื่อนไขเล็กน้อยแต่เพียงทำตามก็ไม่ยากลำบากเท่าใดสามผู้นำจึงรีบใช้มีดเล็กจัดการโกนหนวดเคราจนบาดใบหน้าเป็นแผลไปหลายจุด จากนั้นจึงกระโจนลงลำธารเล็กหลังบ้านแล้วลูบล้างอย่างลวกๆ ก่อนจะแย่งกันวิ่งเปลือยกายอวดดุ้นลำที่ตั้งผงาดกลับมาเสนอหน้าที่ข้างเตียงนอนชายหนุ่มทั้งสามคนต่างเติบโตขึ้นโดยการเลี้ยงดูจากหัวหน้าค่ายโจรคนก่อน พวกเขาถูกเก็บมาในเวลาไล่เลี่ยกันและได้รับการสั่งสอนให้ผูกพันกลมเกลียวดั่งพี่น้อง เมื่อโตขึ้นจึงสาบานเป็นพี่น้องกันโดยสัญญาว่ามีสุขร่วมเสพ มีทุกข์ร่วมต้านดังนั้น หากจะมีสตรีสักคน พวกเขาย่อมต้องช่วยกันเสพสุขให้สาสมใจเมิ่งเจียวเจียวเห็นร่างเปียกโชกที่พากันเข้ามารุมอยู่ข้างเตียงแล้วจึงยินยอมอ้าขาเผยร่องกุหลาบสีแดงสดทั้งเด้งทรวงอกอันเต่งตึงเพื่อให้พวกเขาได้ลิ้มลองรสชาติของคุณหนูสูงศักดิ์“โอ้!...พี่ใหญ่เรือนร่างของนางช่างน่าจับยัดดุ้นลำเข้าไปนัก ดูสิ ยอดเต้าทรวงสีชมพูน่าเลียยิ่ง ช่องทางด้านล่างนั่นสีแดงสดช่างน่ากินเหลือเกิน”เห็นท่าทางกระเหี้ยนกระหือรือราวจะกร
ตอนที่สอง เร็วเข้าสิข้าอยากสุขสันต์แล้ว ด้านใน เมิ่งเจียวเจียวใช้เวลานั่งปลุกปลอบตนเองอยู่ในรถม้าด้วยยังไม่หายตื่นตระหนกกับการตัดสินใจเสี่ยงตายเมื่อครู่โชคดีที่หัวหน้าผู้นั้นยังยอมทำตาม เมื่อแรกฟื้นตื่น นางคิดว่าจะใช้วาจาอ่อนหวานออดอ้อนขอความเห็นใจเพื่อเอาตัวรอดแต่เมื่อนึกถึงคราวก่อนที่นางอ้อนวอนจนเสียงแหบแห้งพวกเขาก็ยังไร้ความปรานี หญิงสาวจึงเปลี่ยนความคิดใหม่โดยใช้ความงดงามกับความแปลกที่แตกต่างล่อหลอกให้พวกเขาเดินไปตามทางพวกเขาย่อมคุ้นเคยกับการใช้กำลัง อาวุธ และอำนาจในการออกคำสั่งทั้งข่มขู่ให้ฝ่ายที่อ่อนแอกว่าทำตามเพื่อรักษาชีวิตรอด หากได้พบสตรีที่ไม่เกรงกลัวทั้งยังกล้าเอาแต่ใจย่อมไม่คิดไม่ฝันและคล้อยตามโดยง่ายเฮ้อ!...แต่จะอย่างไรก็คงหนีไม่พ้นการโดนพร่าพรหมจรรย์และต้องรวมร่างกับพวกเขาเอาเถอะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องถูกกระหน่ำบนพื้นดินที่แข็งกระด้างอย่างน่าอนาถหญิงสาวพยายามทำใจว่าคงไม่อาจหลีกพ้น เพียงวาดหวังให้มีความสุขไปกับการสอดใส่โดยไม่ต้องเจ็บปวดจนเกินไปเท่านั้นเฮ้อ!...จะสามารถเปลี่ยนการขัดขืนให้กลายเป็นความสุขสันต์หรรษาได้หรือไม่นะ?ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วยามจึงถึงค่ายโจรที่เป
ตอนที่สอง เร็วเข้าสิข้าอยากสุขสันต์แล้ว หลัวจิ้งเห็นเช่นนั้นจึงยกกระบองไม้ทุบพื้นดัง โครม! สร้างเสียงดังสั่นสะเทือนเพื่อข่มขวัญหญิงสาว พลางหรี่ตาเย็นชาแล้วก้าวเข้ามาใกล้“เจ้ารู้หรือไม่ว่ากำลังพูดกับผู้ใด ช่างไม่เคยตาย!”แทนที่จะแสดงท่าหวาดกลัว แต่คุณหนูสกุลเมิ่งกลับหันมองตาขวางแล้วตอบโต้ฉะฉาน“เหตุใดจะไม่รู้ว่าพวกเจ้าคือ โจรป่าที่คิดปล้นขบวนเดินทางของข้า แล้วอย่างไร? ปล้นก็ปล้นแล้ว ทรัพย์สินก็มีเท่าที่เห็น ส่วนข้า...อืม...พวกเจ้าคงต้องเล่นสนุกจนสมใจสินะได้...แต่ก่อนอื่นพวกเจ้าควรต้องตามใจข้าสักหน่อย ถึงอย่างไรข้าก็เป็นคุณหนูสูงศักดิ์ เสียความบริสุทธิ์ทั้งทีควรหาสถานที่ดีกว่านี้อ้อ...ข้าจะบอกอีกอย่าง หากพวกเจ้าทะนุถนอมเอาใจข้าสักหน่อยรับรองว่าจะคล้อยตามไม่ดิ้นรนให้ขัดใจ เช่นนี้ดีหรือไม่”เสียงนกกาที่บินวนบนกิ่งไม้คล้ายเงียบลงไปชั่วขณะด้วยเหล่าโจรต่างไม่คาดคิดว่าจะได้การตอบรับอย่างเข้าใจจากผู้เป็นเหยื่อซึ่งยังคงเชิดหน้าไม่ได้มีอาการสั่นกลัวหรือโวยวายใดทั้งสิ้น“เจ้า…ไม่กลัวพวกข้าเลยหรือ?” ซ่งเถาซึ่งถอยไปยืนอยู่ด้านหลังอดสงสัยไม่ได้จึงยื่นหน้ามาถามแต่กับโดนตอกกลับ“เหตุใดต้องกลัว ข
ตอนที่หนึ่ง ฉุดนางลงมาแม้จะขาสั่นและรู้ตัวว่าโดนทิ้งแน่แล้ว แต่เมิ่งเจียวเจียวยังก้าวลงมาอย่างชดช้อยเผยเรือนร่างอรชรอ้อนแอ้นกับใบหน้าอ่อนเยาว์และแววตาที่แฝงความหยิ่งยโสตามประสาคุณหนูสูงศักดิ์สายตาของกลุ่มโจรสว่างวาบ เผลอแลบลิ้นเลียริมฝีปากตะลึงงันไปกับร่างเล็กที่เปล่งประกายกลางป่าเขาผมยาวสีดำเงางามสยายราวสายน้ำที่ไหลผ่านโขดหิน ดวงตากลมโตสีดำเข้มเจิดจ้าราวกับดวงดาวบนท้องฟ้า ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อนที่ขยับเพียงครั้งเดียวก็สามารถสะกดสายตาผู้คนได้ทั้งค่ายโจรภาพคุณหนูคนงามที่เดินลงมาบิดกายปัดฝุ่นกระโปรง จัดชุดเสื้อที่ยับย่น ช่างแฝงไว้ด้วยความสง่างามและเย้ายวนอย่างน่าประหลาดหัวหน้าโจรทั้งสามจึงชะงักค้างไปด้วยความตื่นตาราวถูกมนตร์สะกดครั้นเริ่มรู้สึกตัวโจวหานจึงแสยะยิ้มกว้าง ขณะหลัวจิ้งแววตาลุกวาวหัวเราะเสียงแหลม“ฮ่าๆๆ ของดีจริงๆ คราวนี้ต้องสนุกแน่ นับว่าผู้ว่าจ้างไม่ได้หลอกพวกเรา”โจวหานในฐานะหัวหน้าตัดสินใจเดินเข้ามากระชากแขนคุณหนูคนงามจนแทบเซล้มพลางตะโกนโอ้อวด“ใช่แล้ว นี่แหละ...สมบัติชิ้นงามที่พวกเรารอคอย ฮ่า ฮ่า”ขณะกำลังฮึกเหิมจู่ๆ เสียงกรีดร้องของคุณหนูก็ดังลั่นจนป่าสะเทือน“โอ๊ย







