แชร์

คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ
คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ
ผู้แต่ง: Teddy's

บทที่ 1

ผู้เขียน: Teddy's
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-06-06 17:03:45

“นี่คือ อาหนิง ซ่งหนิงหนิง ทำความรู้จักกันไว้นะลูก อาหนิงเป็นลูกสาวของพ่อกับแม่เหมือนกันกับลูก ก่อนหน้านี้อาหนิงเกิดเรื่องนิดหน่อย น้องเลยอยู่กับเราไม่ได้ แต่ตอนนี้ไม่มีเรื่องแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เซียนเซียน...ดีกับน้องหน่อยนะลูก”

เซียนเซียน หรือชื่อเต็มที่พ่อกับแม่ตั้งให้ก็คือ ซ่งเซียนอวี่ เด็กสาวจากตระกูลซ่ง ลูกสาวคนเดียวของตระกูลซ่ง อันที่จริงจะพูดว่าเป็นลูกสาวคนเดียวของตระกูลซ่งก็ไม่ถูก เพราะตอนนี้แม่ซ่งพึ่งจะแนะนำเด็กสาวแปลกหน้าว่าเป็นน้องสาวของเธอไปหมาด ๆ

เซียนอวี่มองหน้าน้องสาวคนใหม่ด้วยสีหน้าสับสน ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นงุนงง ในหัวของเธอทั้งสับสน ทั้งงุนงง เธอตกใจจนเกือบกรี้ดออกมา แต่ดีที่เธออึ้งจนพูดอะไรไม่ออกไปเสียก่อน

ภาพตรงหน้าของเธอ ทำไมมันช่างแสนคุ้นเคย เธอจำเหตุการณ์นี้ได้เป็นอย่างดี เหตุการณ์ที่ทำให้ชีวิตของเธอเปลี่ยนไป จากคุณหนูหนึ่งเดียวของตระกูลซ่ง ผู้ที่ชีวิตโรยไปด้วยกลีบกุหลาบ

แต่หลังจากวันนี้ ไม่สิ...หลังจากเหตุการณ์นี้ต่างหาก ชีวิตของเธอก็เริ่มเปลี่ยนไป แน่นอนว่าเป็นในทางที่แย่ สถานะที่แท้จริงของเธอคือลูกสาวตัวปลอม หรือที่คนรอบข้างเรียกกันว่าคุณหนูซ่งตัวปลอม เพราะคนที่พึ่งถูกพาตัวกลับเข้ามาอย่างซ่งหนิงหนิงคือลูกสาวที่แท้จริงของบ้านซ่ง

แน่นอนว่าตามนิสัยแล้ว การที่พ่อกับแม่พาเด็กสาวแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน พร้อมกันแนะนำว่าคือน้องสาวคนใหม่ของเธอ เธอต้องกรีดร้องโวยวายพร้อมกับทำลายข้าวของอย่างไม่ยินยอม แต่ว่านะ...ครั้งนี้เธอจะไม่ทำอะไรโง่ ๆ แบบนั้นอีก

“...น้องสาว สินะคะ พ่อคะ แม่คะ หนูขอตัวกลับห้องก่อนนะคะ” หลังจากที่ต้องทุกทรมานมาแล้วรอบหนึ่ง เธอไม่มีทางทำตัวโง่ให้ตัวเองลำบากอีกแน่นอน

พ่อแม่ซ่งได้แต่พยักหน้ายอมให้ลูกสาวตัวปลอมของพวกตนกลับขึ้นห้องไป อย่างไรเด็กคนนั้นก็ถูกพวกเขาเลี้ยงดูมาอย่างประคบประหงม ขนาดยังไม่บอกเรื่องที่ตนเองไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของพวกเขา เซียนอวี่ยังมีท่าทางขนาดนี้ ถ้าหากบอกไปว่าตนเองไม่ใช่สายเลือดของคนบ้านนี้ ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถึงอย่างไรพวกเขาก็เลี้ยงดูเซียนอวี่มาตั้งแต่ยังเด็ก แม้จะรู้อยู่แก่ใจ ว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกที่แท้จริงก็ตาม

พ่อแม่ซ่งถอนหายใจ ก่อนจะมองตามหลังเซียนอวี่ไปจนลับสายตา พวกเขาถึงหันมาสนใจลูกสาวที่แท้จริงที่นั่งก้มหน้าด้วยท่าทางหวาดกลัวปนเสียใจอยู่

“อาหนิง ลูกไม่ต้องกลัว ที่นี่เป็นที่ของลูก เป็นบ้านที่แท้จริงของลูก พ่อกับแม่ก็เป็นพ่อแม่ที่แท้จริง ไม่มีใครทำร้ายลูก พวกเราจะชดเชยให้ลูก แม่ขอโทษที่ไม่หาตัวลูกให้เจอเร็วกว่านี้” ตอนนั้นเธอรู้ว่าลูกหายตัวไป นานหลายเดือนก็ไม่อาจทำใจได้

สุดท้ายสามีของเธอจึงได้ตัดสินใจพาเธอไปเลือกเด็กอ่อนพึ่งคลอดมาเลี้ยงแทนลูกสาวที่พลัดพรากไปก่อนตั้งใจว่า หากตามตัวลูกสาวกลับมาได้ ก็จะเลี้ยงให้เด็กคนนี้เป็นคนสนิทข้างกายของลูกสาว

แต่ใครจะไปคิด ว่านานถึงสิบหกปี พวกเขาถึงจะตามหาตัวลูกของตนเองพบ มีหลายครั้งที่พวกเขาถอดใจ แต่เพราะยังมีความหวัง หวังว่าลูกของตัวเองจะต้องยังมีชีวิตอยู่ ในที่สุดก็พบตัวของเด็กน้อยจนได้

“แต่พี่...พี่ดูเหมือนจะไม่ยอมรับหนู ถ้า ถ้ามันทำให้พี่ไม่พอใจ หนู...หนูยินดีกลับไป-” หนิงหนิงก้มหน้าพูดจาแผ่วเบา ทั้งชีวิตนี้เธอถูกเลี้ยงดูด้วยความรุนแรงและหวาดกลัว ตอนที่รู้ว่าตัวเองไม่ใช่ลูกสาวของพ่อกับแม่ แต่เป็นลูกสาวเศรษฐีในเมืองหลวง หัวใจของเธอเกิดคลื่นความดีใจโหมกระหน่ำจนแทบจะอดใจรอไม่ไหว จนในที่สุดเธอก็ได้ถูกรับตัวกลับมา แต่กลายเป็นว่าพ่อกับแม่ของเธอมีลูกคนอื่นอยู่ก่อนแล้ว กับพี่ชายไม่เท่าไหร่ แต่กับพี่สาวที่เธอพึ่งรู้จัก ท่าทางของอีกคนทำให้เธอลำบากใจ

บางที...การปรากฏตัวของเธอคงทำให้พี่สาวคนนั้นไม่พอใจก็ได้ เธอไม่ได้หวังว่าคนในบ้านจะมอบความรักให้แก่เธอมากมายอะไร ขอแค่ไม่รังแกและจิกหัวใช้เธอเหมือนกับบ้านที่เคยอยู่มาก่อนหน้านี้ก็พอแล้ว

“โถ่ อาหนิง...ลูกอย่าคิดอย่างนั้น ที่นี่เป็นบ้านของลูก ซ่งเซียนอวี่ เด็กคนนั้นอายุเท่าลูก เกิดวันเดียวกันกับลูก เพราะเด็กคนนั้นทำให้แม่คิดถึงลูก แม่จึงรับเลี้ยงเด็กคนนั้น ตั้งใจว่าจะให้เป็นคนข้างกายและคอยติดตามลูกตอนที่พบตัวลูก แต่เวลาผ่านไปนานเสียเหลือเกิน เซียนอวี่เติบโตจากการเลี้ยงดูของแม่ แม่ก็รักและเอ็นดูเซียนอวี่มาก แต่ว่า...แม่จะรักลูกคนอื่นมากกว่าลูกของตนเองได้อย่างไรกัน ลูกน่ะ คือตัวจริง ชื่อเซียนอวี่ นั่นก็เป็นชื่อที่แม่ตั้งใจจะให้ลูก อย่าได้คิดมากเลยนะ”

แม่ซ่งกล่าวยืดยาว หวังปลอบใจลูกสาวให้เลิกคิดมากกับเรื่องที่พึ่งเกิดขึ้น แม้ว่าที่ผ่านมาเธอจะเลี้ยงดูและมอบความรักให้เซียนอวี่ก็จริง แต่เธอก็รู้สึกผิดกับลูกสาวที่แท้จริงของตนเองมากกว่า ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร เธอก็ต้องเข้าข้างหนิงหนิงอยู่แล้ว

เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นถูกเซียนอวี่แอบมองจากบนชั้นสองของบ้าน ใบหน้าสวยเฉี่ยวเบะปากคว่ำ เธอแอบฟังสามพ่อแม่ลูกนั่งกอดนั่งปลอบกันหลังจากขอแยกตัวออกไป

เธอรู้อยู่แล้วแหละว่าอะไรเป็นอะไร คนที่นี่ถึงจะเลี้ยงเธอมาตั้งแต่เกิด แต่น้ำหนักในใจเธอก็ไม่ได้มากไปกว่าลูกสาวที่คลอดออกมาจากท้องเองเหมือนซ่งหนิงหนิง

คนที่นี่ไม่ยอมที่จะบอกความจริงกับเธอ ว่าจริง ๆ แล้วเธอไม่ใช่ลูกสาวสายเลือดแท้จริงอย่างหนิงหนิง เลือกจะปล่อยให้คนอื่น ๆ มองเธอว่าโง่ กว่าจะรู้ตัว ก็ตอนที่มีจดหมายส่งมาที่บ้าน ทางการออกกฎหมายใหม่ บังคับให้ทุกครอบครัวส่งบุตรหลานทำงาน หรือเรียกง่าย ๆ ก็คือการส่งตัวเยาวชนไปยังชนบทนั่นแหละ

มันไม่ใช่นโยบายเพื่อประชาชนแต่อย่างใด มันเหมือนเป็นการยึดตัวประกันของแต่ละครอบครัวเอาไว้เสียมากกว่า แน่นอนว่าส่งตัวคุณหนูคุณชายทั้งหลายที่สุขสบายมาทั้งชีวิตไปยังชนบท มีใครบ้างยินดีที่จะไป

พ่อแม่ซ่งไม่ยอมบอกความจริงเรื่องชาติกำเนิดที่แท้จริงกับเธอก็เพราะเรื่องนี้ พวกเขารู้ข่าวมาก่อนแล้ว ว่ารัฐจะให้แต่ละครอบครัวส่งตัวบุตรหลานไปอย่างน้อยหนึ่งคน ดังนั้นพวกเขาก็ไม่ลังเลเลย ที่จะส่งตัวเธอที่พร่ำบอกว่ารักเหมือนลูกไป

แทนที่จะส่งลูกสาวที่พึ่งพบตัวไปลำบากลำบนเป็นครั้งที่สอง แถมยังได้จัดการกับปัญหาหลายอย่างที่ต้องจัดการเกี่ยวกับตัวตนของเธอไปอีกทาง เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกหลายตัว

ได้ทั้งตัวรับกระสุนแทนลูกสาวที่แท้จริง ได้ตัวแทนของครอบครัว ได้กำจัดตัวปัญหาที่จะตามมาก่อกวนครอบครัวอย่างเธอไปอีก เธอจำได้แม่นเลย ตอนที่ถูกส่งตัวไปยังชนบท ครอบครัวซ่งส่งจดหมายไปหาเธอหนึ่งครั้ง

เนื้อหาในจดหมายกล่าวถึงความเสียใจที่ต้องเลือกส่งเธอไปยังที่แบบนั้น ก่อนจะบอกเล่าความจริงทั้งหมด พร้อมทั้งทิ้งท้ายว่าหากรัฐมีนโยบายเรียกตัวกลับเมื่อไหร่ เธอสามารถกลับไปที่บ้านนั้นได้ทุกเมื่อ แต่คงไม่อาจรั้งตำแหน่งคุณหนูของตระกูลไว้ให้ได้เหมือนเมื่อก่อน เพราะไม่อยากทำให้ซ่งหนิงหนิงเสียใจ

ราวกับว่าการหายตัวไปของเธอเป็นเรื่องน่ายินดีของตระกูลซ่ง หากว่าเรื่องมันจบที่จดหมายฉบับนั้นก็คงดี ลูกสาวที่แท้จริงอย่างซ่งหนิงหนิงกลับรู้สึกผิดเต็มหัวใจ สร้างเรื่องที่ทำให้คนอื่น ๆ วุ่นวาย ทั้งพยายามส่งจดหมายและส่งของมีค่าในบ้านมาให้เธอ สุดท้ายก็กลายเป็นเธอที่ต้องรับผิด เมื่อของที่ซ่งหนิงหนิงส่งมานั้นเป็นของมีค่าของคนในบ้าน

“อยู่กันให้มีความสุขไปเถอะ ชาตินี้ฉันพอแล้วกับครอบครัวน่าขยะแขยงแบบนี้ ฮึ” เธอไม่เอาแล้ว แม้ว่าจะต้องถูกส่งตัวไปให้ลำบากที่ชนบท เธอก็ยินดี เพราะอย่างน้อย ปัญหาเรื่องตัวตนของเธอจะได้จบอย่างง่ายดาย

อย่าลืมว่าเอออายุเพียงสิบหกปี จะให้ไปจัดการอะไรก็ยากเสียยิ่งกว่าอะไร ยิ่งเธอเป็นผู้หญิงด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง แค่จะเรียนหนังสือยังยากเลย ดีที่บ้านนี้รวย เรื่องการศึกษาเลยไม่ใช่ปัญหา

ลูกทุกคนในบ้านหลังนี้ได้รับการศึกษาเป็นอย่างดี ทั้งมารยาท ทั้งความรู้ ทุกอย่างครบถ้วน จะมีก็แต่หนิงหนิงที่ต้องเริ่มเรียนใหม่ตั้งแต่ต้น แน่นอนว่าต้องเรียกอาจารย์มาสอนถึงที่บ้าน เพราะพ่อแม่ซ่งแม้ปากจะบอกว่ารักลูกสาวในไส้มากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ยังรักหน้าตัวเองยิ่งกว่าสิ่งใด

พวกเขาไม่ต้องการให้ซ่งหนิงหนิงที่ติดคราบความบ้านนอกออกไปสู่สาธารณชน เอาง่าย ๆ ก็คือเธอจะถูกกักตัวให้อยู่แต่ในบ้าน จนกว่ากิริยามารยาทจะเหมือนคุณหนูคนอื่น ๆ ในเมืองถึงจะยอมให้เธอออกไปพบผู้คนและเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงกับสังคม

แน่นอนว่าเรื่องการเปิดเผยตัวตนนั้นรวมไปถึงคู่หมั้นจากตระกูลใหญ่ที่ทำสัญญาเอาไว้ด้วยเช่นกัน เธอจำได้ว่าหลังจากเธอถูกส่งตัวไปยังชนบท คู่หมั้นที่เคยรักและเอ็นดูเธอยิ่งกว่าใคร ๆ ก็เริ่มเปลี่ยนไป ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นตอนที่เธอไม่อยู่

รู้เพียงแต่ว่า ตระกูลซ่งเปลี่ยนตัวเจ้าสาว จากซ่งเซียนอวี่ กลายเป็นซ่งหนิงหนิง ตอนแรกชายหนุ่มคู่หมั้นของเธอก็ดูไม่ยินยอม ทั้งยังส่งจดหมายมาบอกกล่าวว่ารังเกียจหนิงหนิงยิ่งกว่าอะไร ก่อนจดหมายถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงจะเปลี่ยนเป็นจดหมายตำหนิ ตำหนิว่าเพราะส่งจดหมายไปควบคุมคู่หมั้นแสนจะอ่อนต่อโลกของตนเองจนยัยนั่นทำเรื่องอะไรโง่ ๆ

คำถามเดียวที่เกิดขึ้นในหัวของเธอก็คือ...ถ้าเธอควบคุมซ่งหนิงหนิงได้ขนาดนั้น ทำไมเธอไม่ควบคุมให้นังดอกบัวขาวหน้าโง่นั่นมาลำบากแทนตนเอง ทำไมไม่ควบคุมให้อาหนิงของทุกคนส่งเงินมาทีละหลายร้อยหลายพันหยวนกันล่ะ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   บทที่ 41

    พอทุกคนติดต่อที่บ้านเสร็จแล้วก็เหลือเวลา แน่นอนว่าพวกเธอตั้งใจจะมาตลาดเพื่อซื้อของเข้าครัว ตลาดเลยเป็นสถานที่ต่อไปที่พวกเธอมุ่งหน้าไปในทันทีประจวบกับจังหวะที่เซียนอวี่กำลังอธิบายเรื่องตัวตนของหมิงหานให้กับตัวน่ารำคาญอย่างช่างหยูฟัง ทั้งที่เธอเคยพูดเคยบอกทุกคนไปแล้วว่ามีสามีแล้ว แต่คงเพราะเธอยังเด็ก

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   บทที่ 40

    เช้าวันนี้กลุ่มเยาวชนหญิงตกลงกันว่าจะออกไปจ่ายตลาด พวกเธอพากันตื่นแต่เช้า แต่หน้าแต่งตัวเข้าเมืองกันกว่าจะเสร็จก็ยามสายของวัน ดีที่พวกเธอไปกันหลายคน รถรับส่งเลยยอมออกรอบเข้าเมืองเป็นพิเศษให้ซ่งหนิงหนิงตั้งใจจะเข้าเมืองไปติดต่อหาครอบครัว เธออยากให้พ่อกับแม่มาช่วยเธอให้ออกไปจากที่แห่งนี้มาก แต่ขนาดคร

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   บทที่ 39

    หมิงหานนั่งบนเก้าอี้นิ่ง ๆ เขามองเซียนอวี่ที่กำลังก้มหน้าตั้งใจทำแผลให้ตัวเอง แก้มสากอดไม่ได้ที่จะแดงก่ำ ยิ่งมองใกล้ ๆ เซียนอวี่ก็ยิ่งสวย อันที่จริงแล้ว เขาก็สนใจเธอเหมือนกับผู้ชายคนอื่น ๆ ในหมู่บ้านนั่นแหละ แต่ไม่กล้าเข้าไปยุ่งกับเธอมากนัก ไม่คิดเลยว่าคนที่ตั้งใจจะแอบมองอยู่ห่าง ๆ ในวันนี้ ตอนนี้จะ

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   บทที่ 38

    ในขณะที่เซียนอวี่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขายไข่ ซ่งหนิงหนิงกลับวนเวียนอยู่กับการเข้าไร่เข้าป่า ในตอนแรกเธอเลือกเข้าป่าหาฝักหาของกินกับชาวบ้านเหมือนคนอื่น ๆ แต่ไม่นานก็ได้รู้ว่า การที่เธอเข้าป่าอย่างเดียวนั้นจะทำให้เธอไม่มีข้าวกินแม้ว่าจะเอาเงินที่ติดตัวมาไปซื้อข้าวขาวหรือธัญพืชอื่น ๆ กินได้ แต่เธอก็ไม่ก

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   บทที่ 37

    หมิงหานที่เห็นว่าแดดเริ่มจ้าแล้วเซียนอวี่ยังไม่กลับมาก็ร้อนรน เขาเห็นเธอเดินเข้าป่าไปทางหลังบ้าน เส้นทางนี้ยังไม่มีใครบุกเบิกมาก่อน เขากลัวว่าเธอจะถูกสัตว์มีพิษเข้าระหว่างทางไปน่ะสิแต่ความกังวลของเขาก็ค่อย ๆ จางหายไป เมื่อได้ยินเสียงดังแว่ว ๆ มาจากทางหลังบ้าน เป็นเสียงของเซียนอวี่แน่นอน เขาไม่มีทาง

  • คุณหนูตัวปลอมขอลาก่อนนะคะ   บทที่ 36

    ข่าวว่าหมิงหานกลับบ้านมาได้อย่างปลอดภัยแพร่กระจายออกไปทั่วหมู่บ้าน อันที่จริงพวกเขาอยากจะเข้ามาทักตั้งแต่เห็นทั้งสองคนปั่นจักรยานกลับมาแล้ว แต่เห็นสภาพของทั้งสองคนที่หิ้วของพะรุงพะรังก็เลยเลือกจะมาทักวันหลังแทนเซียนอวี่ตื่นแต่เช้าทำความสะอาดบ้านและทำอาหารให้หมิงหาน วันนี้เธอก็ยังต้องเข้าเมืองไปขายไ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status