Share

ตอนที่6 เจ้าหนูสวี่

last update Last Updated: 2025-09-15 19:11:39

เจ็ดปีต่อมา ณ เส้นทางสู่เมืองหลวง

          รถม้าคันใหญ่เคลื่อนผ่านไปตามถนน ผ่านต้นไม้น้อยใหญ่อย่างเอื่อยเฉื่อย ดูไม่ได้เร่งร้อน ที่จะไปให้ถึงจุดหมายโดยไว เช่นผู้เดินทางอื่นๆ หญิงงามในชุดแพรพรรณชั้นดี บอกได้ว่านางเกิดมาในครอบครัวของผู้มีอันจะกิน ความงามที่เฉิดฉายของนาง หากใครได้ยลก็เสมือนต้องมนต์สะกด เรียกว่าเป็นความงามที่ล่มเมืองเลยก็ว่าได้

          “คุณหนูแตงโมเจ้าค่ะ”

          สาวใช้ข้างกาย ได้ยื่นจานแตงโมเนื้อแดงหวานฉ่ำ ให้แก่นายสาว แน่นอนว่าแดนตะวันตก มีพ่อค้าต่างแดนเข้าออกมากมาย สินค้าใดที่ล้ำค่าราคาแพงในเมืองหลวง คนที่อยู่ชายแดน จะได้รับมันก่อน ในราคาที่ย่อมเยากว่าหลายเท่านัก

          “ขอบใจเจ้ามากเถาเถา เจ้าก็กินเสียด้วยกันเลย”

          หญิงสาวยื่นมือไปหยิบไม้เล็ก ๆ ก่อนจะนำไปจิ้มแตงโมชิ้นพอดีคำ ส่งเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย อากาศที่อบอ้าว ได้กินแตงโตที่เต็มไปด้วยน้ำเช่นนี้ มันสดชื่นเสียนี่กระไร อ๊ะ! ทว่าก่อนที่จะจิ้มแตงโมชิ้นต่อไป หญิงสาวต้องรีบหาที่คว้าจับ มิให้ร่วงลงจากที่นั่ง เมื่อรถม้าหยุดลงอย่างกะทันหัน

          “มีเรื่องอันใด ไยจึงหยุดกะทันหันเช่นนี้ คุณหนูเกือบที่จะได้รับบาดเจ็บ”

          เถาเถาร้องถามคนขับรถม้า ที่หยุดรถม้ากะทันหัน ซึ่งสองนายบ่าวพอจะเดาได้อยู่แล้ว ว่าต้องมีสิ่งผิดปกติอยู่เบื้องหน้า หาไม่แล้วมีหรือรถม้าจะหยุด ก่อนจะถึงที่พักข้างหน้า

          “เรียนคุณหนู มีหญิงชรากับเด็กคนหนึ่ง ขวางทางอยู่ขอรับ”

          คนขับรถม้ารีบรายงานผู้เป็นนาย ก่อนจะนิ่งเงียบเพื่อรอฟังคำสั่งจากคุณหนู อีกทั้งตอนนี้องครักษ์ ผู้คุ้มกันรถม้าได้ไปสอบถามคนที่ขวางทางอยู่

          “ร่มไม้ข้างหน้า พอจะหยุดพักได้ เราพักกันก่อนเถิด”

          หญิงสาวแง้มม่านมองไปข้างทาง เห็นต้นไม้ใหญ่ที่พอจะพักผ่อนได้ จึงเสนอให้นำรถม้าเคลื่อนไปหยุดตรงนั้น จะได้ไม่ขวางทางผู้สัญจรอื่น เมื่อรถม้าหยุดนิ่งแล้ว หญิงสาวจึงได้รับผ้าคาดหน้าสีหวานมาคาดปิดใบหน้าเอาไว้ ก่อนจะพากันลงจากรถม้า เพื่อไปยืดเส้นยืดสายสักหน่อย รวมถึงการลงไปสอบถาม ผู้ที่มาขัดขวางการเดินทางของนางอีกด้วย

          “คุณหนู พวกเขาเป็นชาวบ้าน ที่กำลังจะย้ายถิ่นฐานขอรับ”

          องครักษ์หนุ่มพาสองยายหลาน มาพบกับนายสาวที่เดินลงจากรถม้า หญิงชราที่เดินหลังงองุ้ม ทรุดลงคุกเข่าให้กับหญิงสาว พร้อมกับดึงรั้งให้หลานชาย นั่งลงเคียงข้าง เพื่อทำความเคารพต่อนาง

          “คุณหนูข้าน้อยมีนามว่าชูหลี หลานชายข้าชูสวี่ เราสองยายหลาน อดอยากยากไร้นัก บุตรสาวสิ้นใจไม่นาน บุตรเขยแต่งภรรยาใหม่ ขับไล่ข้ากับหลานชายออกจากบ้าน ข้าสองคนไปขอความช่วยเหลือจากญาติ ทว่ากลับถูกขับไล่ออกมา ประหนึ่งสุนัข หากคุณหนูจะเมตตาขอให้เราสองยายหลาน ได้ติดตามเข้าสู่เมืองหลวง เพื่อหางานทำด้วยนะเจ้าคะ”

          หญิงชราบอกซื่อแซ่และที่มาเพียงคราว ๆ ให้แก่เจ้าของรถม้า ที่ยินยอมหยุดลง และไม่ได้ขับไล่นางกับหลานชาย ให้หลบไปข้างทาง เช่นรถม้าจากคณะอื่นๆ แม้นางจะรู้ว่ามันเสี่ยงนัก ที่จะถูกพรากหลานชาย จากพวกพ่อค้าทาส ที่อาจเป็นคณะใดคณะหนึ่งก็ตามที แต่นางต้องการเข้าเมืองหลวง เพื่อทำมาหากินเลี้ยงหลานชาย แม้จะเสี่ยงนางก็ต้องยินยอม

          “ท่านชราขนาดนี้แล้ว ทำงานใดได้เล่า”

          หญิงสาวเอ่ยออกมาคล้ายเยาะหยัน ทว่านางนั้นกำลังหยั่งเชิง ว่าหญิงชราผู้นี้ แท้จริงมีจุดประสงค์ใดกันแน่ หากนางเป็นแค่บุตรสาวผู้มีอันจะกินธรรมดาทั่ว ๆ ไป นางคงไม่ต้องระแวดระวังตัวไปเสียทุกเรื่องเช่นนี้ แต่เพราะนางคือบุตรสาวแม่ทัพ และกำลังจะเป็นพระชายาในจิ้งอ๋อง หลายสายตาย่อมจับจ้อง ไหนจะครอบครัวบิดาแท้ๆ ที่ยังวนเวียนเข้าใกล้นางมิเว้นวันอีก

          “ข้าน้อยแม้จะชรามากแล้ว แต่ก็ยังพอทำความสะอาดต่าง ๆ ได้เจ้าค่ะ ขอแค่เราสองยายหลานมีอาหารพอประทังหิว และมีที่ให้บังแดดฝน เท่านี้ก็นับว่าดีมากแล้วเจ้าค่ะ”

          หญิงชรามั่นใจว่าถ้านางได้พักผ่อนสักหน่อย กินอิ่มท้องย่อมมีเรี่ยวแรงที่จะทำงาน นางมิใช่คนขี้เกียจแต่อย่างใด หาไม่แล้วในอดีตนางจะรุ่งเรืองหรือ ที่ต้องเสียทุกอย่างก็เพราะบิดาแท้ ๆ ของหลานชาย ที่มาล่อลวงเอาทรัพย์สินไปจากบุตรสาวนางจนหมดสิ้น

          “หากข้าไม่รับปากเล่า”

หญิงสาวถามออกไป ทว่าสายตานางกลับจับจ้องอยู่ที่เด็กชายหน้าตามอมแมม นางทดสอบสติปัญญาของเด็กคนนี้ดูสักหน่อย

          “ไยท่านจึงใจร้ายนักเล่า ท่านยายของข้านั้นแก่ชรามาแล้ว ยอมก้มหัวให้ท่านที่อ่อนวัยกว่า นางก็ลดศักดิ์ศรีลงมามากแค่ไหนแล้ว”

ด้วยเขาเคยเติบโตมาอย่างมีคนนับหน้าถือตา เมื่อเห็นท่านยาย ที่มีผู้คนให้เกียรติมาตลอด ตอนนี้ต้องก้มกราบสตรีที่อายุยังน้อยกว่า เด็กชายก็รู้สึกเหลืออดนัก ด้วยตอนนี้ท่านยายของเขา กำลังหิวมาก และนางกำลังป่วย แค่ไม่เอ่ยออกมาให้เขาได้รู้ก็เท่านั้น ไยสตรีผู้นี้จึงใจร้ายนัก ไม่ช่วยก็แค่ผ่านไป แต่นี่ลงมาพูดคุยอย่างให้ความหวัง แต่กลับถามออกมาอย่างเย้ยหยัน ช่างแล้งน้ำใจนัก

          “เจ้ากล้าตำหนิข้าหรือเด็กน้อย”

หลินมู่เสวี่ย รู้สึกสนใจในตัวของเด็กชายขึ้นมาในทันที เพราะนี่คืออาการของคนที่พร้อมปกป้องคนที่รักเสมอ หาได้ยากนักในผู้คนยุคแห่งอำนาจ แม้จะเป็นพ่อแม่ลูกก็ล้วนเห็นแก่ตัวทั้งสิ้น แต่เด็กน้อยเลือกที่จะตำหนินาง ปกป้องยายของตนเอง โดยไม่คิดเกรงกลัวว่าจะถูกลงโทษจากนาง ที่นับว่ามีอำนาจเหนือกว่า

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่7 น้องชายข้า

    “ไยข้าจะไม่กล้า ในเมื่อเราร้องขอเมตตาอย่างผู้อับจนหนทาง แต่ท่านกลับใช้สายตาและคำพูดเย้นหยันอยู่ในที แม้เราจะยากไร้แต่เราก็มีหัวใจ” เด็กชายตอบด้วยน้ำเสียงที่ฉะฉาน สายตาไม่ลอกแลก แต่มันกลับแน่วแน่ “หึ ๆ เถาเถา เจ้าเห็นหรือไม่ ว่าข้าถูกเจ้าหนูตัวน้อยตำหนิ” “เจ้าค่ะ” “ชูสวี่ ยายสอนให้เจ้าเป็นคนไร้มารยาทตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” “ท่านยาย ถึงข้าต้องกรีดเลือด เฉือนเนื้อให้ท่านดื่มกิน ข้าก็ยินดีทำอย่างไม่ลังเล แต่จะให้ข้าทนเห็นท่านยายถูกเหยียดหยาม ข้ามิอาจทนได้ขอรับ” เด็กชายวัยเพียงหกขวบ ไม่น่าจะเกินนี้ กล้าที่จะพูดและมีความคิดที่ใหญ่โต แสดงว่าภูมิหลังสกุลชู คงไม่ใช่ยากไร้ตั้งแต่แรก หาไม่แล้วคงสอนเด็กน้อยคนนี้ ให้มีความคิดอ่านที่ฉะฉานได้ “คุณหนูหลานชายข้าน้อยยังเด็กนัก ได้โปรดเมตตาเขาสักครั้ง อย่าได้เอาผิดเขาเลยนะเจ้าคะ” “มาทางนี้เถอะ ข้าเมื่อยขา มานั่งคุยกันสักหน่อย” หลินมู่เสวี่ยมิได้ตอบรับ หรือปฏิเสธคำของหญิงชรา แต่เลือกที่จะเดินไปนั่งใต้ร่วมไม้ โดยส่งสัญญาณให้องครักษ์หนุ่ม ช่วยพยุงหญิงชราให้ลุกขึ้นเดินตามมา

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่6 เจ้าหนูสวี่

    เจ็ดปีต่อมา ณ เส้นทางสู่เมืองหลวง รถม้าคันใหญ่เคลื่อนผ่านไปตามถนน ผ่านต้นไม้น้อยใหญ่อย่างเอื่อยเฉื่อย ดูไม่ได้เร่งร้อน ที่จะไปให้ถึงจุดหมายโดยไว เช่นผู้เดินทางอื่นๆ หญิงงามในชุดแพรพรรณชั้นดี บอกได้ว่านางเกิดมาในครอบครัวของผู้มีอันจะกิน ความงามที่เฉิดฉายของนาง หากใครได้ยลก็เสมือนต้องมนต์สะกด เรียกว่าเป็นความงามที่ล่มเมืองเลยก็ว่าได้ “คุณหนูแตงโมเจ้าค่ะ” สาวใช้ข้างกาย ได้ยื่นจานแตงโมเนื้อแดงหวานฉ่ำ ให้แก่นายสาว แน่นอนว่าแดนตะวันตก มีพ่อค้าต่างแดนเข้าออกมากมาย สินค้าใดที่ล้ำค่าราคาแพงในเมืองหลวง คนที่อยู่ชายแดน จะได้รับมันก่อน ในราคาที่ย่อมเยากว่าหลายเท่านัก “ขอบใจเจ้ามากเถาเถา เจ้าก็กินเสียด้วยกันเลย” หญิงสาวยื่นมือไปหยิบไม้เล็ก ๆ ก่อนจะนำไปจิ้มแตงโมชิ้นพอดีคำ ส่งเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย อากาศที่อบอ้าว ได้กินแตงโตที่เต็มไปด้วยน้ำเช่นนี้ มันสดชื่นเสียนี่กระไร อ๊ะ! ทว่าก่อนที่จะจิ้มแตงโมชิ้นต่อไป หญิงสาวต้องรีบหาที่คว้าจับ มิให้ร่วงลงจากที่นั่ง เมื่อรถม้าหยุดลงอย่างกะทันหัน “มีเรื่องอันใด ไยจึงหยุดกะทันหันเช่นนี้ คุณหนูเก

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่5 ข้าคือบุตรสาวแม่ทัพตะวันตก

    “โอ๊ะ! บ้าบอทำไมปวดหัวขนาดนี้” จวิ๋นมู่ ยกมือขึ้นวางบนหัวของตัวเอง ก่อนจะลืมตาขึ้น เธอจดจำทุกอย่างได้ และมีความทรงจำของใครอีกคน ชัดเจนอยู่ในหัว เหอะ! นึกว่ามีแค่ในหนังในละคร เธอมาอยู่ในร่างของคนเป็นโรคหัวใจ แล้วยังคนละยุคสมัย กับที่เธอคุ้นเคย เรื่องเดิมๆ ที่ฉายซ้ำไปซ้ำมาในชีรี่ย์ดังหลายๆ เรื่อง แต่ก็นะ...ในเมื่อสวรรค์ให้โอกาส ก็ต้องใช้มันให้คุ้ม “ลูกแม่! เจ้าฟื้นแล้ว ไปตามท่านหมอมาเร็วเข้า” หลินฮูหยิน รีบหันไปยื่นถาดยาให้มือให้สาวใช้ แล้วรีบก้าวยาวๆ ตรงไปหาบุตรสาวบนเตียง แค่เห็นว่าลูกลืมตา ใจของมารดาเช่นนาง ก็คลายความหวาดกลัวไปมากทีเดียว ร่างที่ยังคงงดงามของหลินฮูหยิน ค่อยๆ รีบนั่งลงขอบเตียง ก่อนจะคว้ามือบุตรสาวมากุมเอาไว้ ส่วนคนบนเตียง ที่กำลังพยายามเรียบเรียง ทุกความเป็นตัวตน ของคุณหนูจวนแม่ทัพ เธอทำได้เพียงแค่ยิ้ม ให้กับคนที่เรียกเธอว่าลูก ก่อนจะคิดคำพูด ที่จะไม่สร้างความคลางแคลงใจ ในความเปลี่ยนไปของคุณหนูหลินผู้นี้ “ท่านแม่ เอ่อ...ข้าหลับไปนานเท่าใดเจ้าคะ” หญิงสาวถามออกมาได้ในที่สุด ทว่าเสียงที่เปล่งออกมา มันช่างแหบแห้งน

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่4 บ่าวทรยศ

    จวนแม่ทัพตะวันตก อาชาสีดำตัวใหญ่ ถูกรั้งให้หยุดลงยังหน้าจวน ก่อนที่ชายสูงวัยที่ยืนอยู่บนบันไดหน้าประตูบานใหญ่ จะวิ่งตรงออกมาหา “ลูกพ่อ!” ท่านแม่ทัพเรียกบุตรสาวเสียงหลง เมื่อเห็นว่าเวลานี้ นางไร้สติอยู่ในอ้อมแขนของบุตรชาย ท่านแม่ทัพรับร่างบุตรสาวลงจากหลังม้า ก่อนจะรีบหมุนกายเดินกลับเข้าไปในจวน “เสวี่ยเอ๋อร์ลูกแม่!” หลินฮูหยินเรียกบุตรสาว ด้วยความตื่นตกใจ ก่อนจะวิ่งตามหลังสามีกลับเข้าไปในจวน นางที่เพิ่งได้สติ จากการเป็นลมไป หลังได้รับข่าวว่าบุตรสาวหายตัวไป “หมอเร็วเข้าช่วยลูกข้าด้วย” ท่านแม่ทัพตะโกนเรียกหมอประจำตระกูล ซึ่งมาดูแลอาการของหลินฮูหยิน รีบวิ่งตามเจ้าของบ้านไป สีหน้าของหมอชรา เต็มไปด้วยความตึงเครียด ยิ่งเมื่อเห็นเจ้าบ้านทั้งสาม มีความตื่นกลัว ความกดดันของเขาก็มากตามไปด้วย คุณหนูหลินนั้น มีโรคหัวใจมาแต่กำเนิด แค่ออกแรกเล็กน้อย นางยังล้มป่วยไปหลายวันเลย แล้วสภาพของนางในตอนนี้ ไม่น่าจะทนไหว...หลินเสวี่ยหลง ที่วิ่งตามพ่อแม่เข้าไปภายในเรือน มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะ ก่อนที่เข้าจะเดินตรงไปยังสาวใช้คนสนิทของน้องสา

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่3 เย็นชา

    เมืองหลวง ณ จวนจิ้งอ๋องลู่หย่งไท้ ร่างสูงในชุดสีดำ ก้าวตรงเข้าไปในตัวเรือนหลังใหญ่ จวนอันเงียบสงบ ไร้พี่น้องพ่อแม่อยู่ร่วม ทว่ากลับเป็นที่หมายตาของสตรีทั่วเมืองหลวง ที่อยากจะมาเป็นสตรีหนึ่งเดียวในจวนแห่งนี้ ทว่าเจ้าของจวนกลับเมินเฉยต่อเรื่องนั้น จนกระทั้งมีพระเสาวนีย์ จากองค์ไท้เฮา ถึงการหมั้นหมาย ที่มีกับบุตรสาวคนโต ของแม่ทัพตะวันตกหลินมู่เฉียว ซึ่งตามข่าวลือ นางคือบุตรสาวที่ติดท้องมารดา ซึ่งได้หย่าขาดกับท่านเจียงกั๋วกง “ท่านอ๋อง ท่านกั๋วกงได้ส่งเทียบเชิญ ให้ท่านอ๋องไปร่วมมื้อค่ำในวันพรุ่งนี้ขอรับ” พ่อบ้านชราถือเทียบเชิญจากจวนกั๋วกง ก้าวตามนายตนเข้าไปในเรือน ตามจริงเขาจะปฏิเสธแทนผู้เป็นนายก็ย่อมได้ แต่เพราะเจียงกั๋วกง คือบิดาโดยสายเลือดของว่าที่พระชายาเอก เขาจึงไม่กล้าที่จะบุ่มบ่ามทำสิ่งใดโดยไม่ได้รับเห็นชอบจากผู้เป็นนาย “ทุกครั้งท่านทำเยี่ยงไร ไยครานี้จึงต้องมาถึงมือข้าด้วยเล่า”อ๋องหนุ่มย้อนถามพ่อบ้านของตน ซึ่งโดยปกติเรื่องแค่นี้ ย่อมไม่ผ่านเลยมาถึงมือเขา ให้ต้องเสียเวลาตัดสินใจ “แต่ท่านกั๋วกง คือบิดาแท้ๆ ของว่าที่พระชายา ข

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่2 ที่ไหน

    มือที่บางนี่จะแข็งแรงแค่ไหน เรื่องนี้จะจริงหรือฝัน เธอก็ไม่มีวันยอมให้ตัวเอง ถูกทำเรื่องเสื่อมเสียเด็ดขาด เพราะถ้าคนไล่ล่าคือผู้ชาย น้อยนักที่จะไม่คิดเรื่องแบบนั้นกับผู้หญิง จวิ๋นมู่หันมองสำรวจไปรอบๆ ตัว ก่อนจะหลับตาลงแน่น เมื่อหัวของเธอเจ็บร้าว เหมือนถูกทุบซ้ำๆ จนต้องยกมือขึ้นกุมขมับเอาไว้ จะบ้าตายนี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย! พรึ่บ! หวืด! หมับ! ยังไม่ทันที่จะได้ทบทวนอะไร ดวงตาที่หลับนิ่งเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคว้าจับข้อมือหนา ของผู้ชายตัวโตเอาไว้ ก่อนที่จะได้แตะต้องตัวเธอ ยังดีที่เธอเอี้ยวตัวหลบได้ทัน ไม่อย่างนั้น...ถ้าเธอตกอยู่ในเงื้อมือของชายแปลกหน้าไปแล้ว ฉึก! ปึก! มันเกิดขึ้นรวดเร็วจนชายหนุ่มร่างใหญ่ ไม่ทันคาดคิดว่าเขาจะถูกตอบโต้ จากหญิงสาวบอบบาง อ๊าก!!! ชายหนุ่มร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อมีบางสิ่งแทงเข้าที่ลำคอของเขา ก่อนมันจะถูกดึงออก จนเลือดไหลพุ่งกระฉูดเมื่อเส้นเลือดถูกเปิด มือหนากุมลำคอเอาไว้แน่น ร่างสูงใหญ่ดิ้นพล่านอยู่บนพื้นดิน ใกล้กับหญิงสาวที่เขาไล่ล่าเสียงร้องโหยหวนของเขา ทำให้ฝีเท้าจำนวนหนึ่ง มุ่งตรงมายังทิศทางนี้ นั่นทำให้หญิงสาวลุกขึ้นยืนเต็มควา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status