Beranda / รักโบราณ / คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้ / ตอนที่5 ข้าคือบุตรสาวแม่ทัพตะวันตก

Share

ตอนที่5 ข้าคือบุตรสาวแม่ทัพตะวันตก

last update Terakhir Diperbarui: 2025-09-14 16:29:36

“โอ๊ะ! บ้าบอทำไมปวดหัวขนาดนี้”

          จวิ๋นมู่ ยกมือขึ้นวางบนหัวของตัวเอง ก่อนจะลืมตาขึ้น เธอจดจำทุกอย่างได้ และมีความทรงจำของใครอีกคน ชัดเจนอยู่ในหัว เหอะ! นึกว่ามีแค่ในหนังในละคร เธอมาอยู่ในร่างของคนเป็นโรคหัวใจ แล้วยังคนละยุคสมัย กับที่เธอคุ้นเคย เรื่องเดิมๆ ที่ฉายซ้ำไปซ้ำมาในชีรี่ย์ดังหลายๆ เรื่อง แต่ก็นะ...ในเมื่อสวรรค์ให้โอกาส ก็ต้องใช้มันให้คุ้ม

          “ลูกแม่! เจ้าฟื้นแล้ว ไปตามท่านหมอมาเร็วเข้า”

          หลินฮูหยิน รีบหันไปยื่นถาดยาให้มือให้สาวใช้ แล้วรีบก้าวยาวๆ ตรงไปหาบุตรสาวบนเตียง แค่เห็นว่าลูกลืมตา ใจของมารดาเช่นนาง ก็คลายความหวาดกลัวไปมากทีเดียว ร่างที่ยังคงงดงามของหลินฮูหยิน ค่อยๆ รีบนั่งลงขอบเตียง ก่อนจะคว้ามือบุตรสาวมากุมเอาไว้

          ส่วนคนบนเตียง ที่กำลังพยายามเรียบเรียง ทุกความเป็นตัวตน ของคุณหนูจวนแม่ทัพ เธอทำได้เพียงแค่ยิ้ม ให้กับคนที่เรียกเธอว่าลูก ก่อนจะคิดคำพูด ที่จะไม่สร้างความคลางแคลงใจ ในความเปลี่ยนไปของคุณหนูหลินผู้นี้

          “ท่านแม่ เอ่อ...ข้าหลับไปนานเท่าใดเจ้าคะ”

          หญิงสาวถามออกมาได้ในที่สุด ทว่าเสียงที่เปล่งออกมา มันช่างแหบแห้งนัก แค่กๆ หญิงสาวไอถี่ๆ เมื่อลำคอแห้งผาดต้องเปล่งเสียงออกมา ทั้งที่ยังไม่ได้ดื่มน้ำสักอึก เพื่อให้มันชุ่มชื่นเสียก่อน

          “ลูกแม่...ดื่มน้ำสักหน่อยเถิด”

          หลินฮูหยินประคองบุตรสาวให้ลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะรับถ้วยใส่น้ำ ที่มีความเย็นมาให้ป้อนให้แก่บุตรสาว จวิ๋นมู่ที่คอแห้งมากไม่คิดจะดื้อด้าน เธอเลือกที่จะทำตามอย่างว่าง่าย จะรอดได้ต้องกลมกลืนเท่านั้น เพียงน้ำเย็นๆ ไหลผ่านลำคอ ความรู้สึกราวดอกไม้ได้รับหยาดน้ำค้าง มันเป็นเช่นนี้เอง

          “ลูกพ่อ/น้องพี่”

          บุรุษต่างวัยทั้งสอง วิ่งเข้ามาภายในห้อง ด้วยสีหน้าตื่นเต้นระคนยินดี ทั้งสองมองไปที่คนบนเตียง ด้วยความรักและห่วงใยอย่างที่สุด แม้ว่าเวลานี้ใบหน้าของนางจะยังซูบซีดอยู่ แต่นางตื่นแล้วเท่านี้ก็ดีมากแล้ว

          “ท่านพ่อ พี่ใหญ่ ข้ามิเป็นไรเจ้าค่ะ แค่รู้สึกหิวเท่านั้น”

          กองทัพต้องเดินด้วยท้อง พละกำลังเท่านั้น ที่จะทำให้อยู่ในโลกนี้ได้อย่างปลอดภัย เธอหิวนี่...จะโยกโย้ไปทำไมกัน

          “พี่จะไปทำโจ๊กมาให้เจ้ากิน รอพี่สักครู่”

          เอ่ยจบชายหนุ่มก็หมุนกายก้าวออกจากห้องไป โดยไม่ได้สนใจว่าคนบนเตียง แท้จริงอยากกินข้าวที่หนักท้องกว่านี้ กินโจ๊ก! ตรงไหนที่มันจะทำให้เธอมีเรี่ยวแรง

          “เจ้าหลับไปกว่าสิบวัน แค่เจ้าตื่นมาอีกครั้งพ่อกับแม่ ก็ดีใจมากแล้วลูกรัก”

          ท่านแม่ทัพเองก็นั่งลงยังขอบเตียง พร้อมกับเอ่ยออกมา ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโล่งใจ เขารักและเลี้ยงมานางเองกับมือ โดยไม่สนใจสายเลือดแท้จริงอะไรนั่นสักนิด เขาเฝ้าถนอมนางตั้งแต่ในครรภ์ จนเติบโตสู่วัยใกล้ปักปิ่น คนชั่วช้าจากเมืองหลวง ไยจึงกล้าที่บุกถิ่นเขาทำร้ายนางเช่นนี้

          “ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้าไม่เป็นไรแล้วเจ้าค่ะ อย่าได้กังวลไปเลยนะเจ้าคะ”

          หญิงสาวจำต้องปลอบชายหญิง ที่กำลังปลอบประโลมเธอ ด้วยความรักที่สัมผัสได้แบบไม่ต้องใช้ความพยายาม จากนี้เธอคือหลินมู่เสวี่ย บุตรสาวแม่ทัพตะวันตก และดูเหมือนร่างกายบอบบางนี้ จะไม่มีอาการของโรคหัวใจที่มีมาแต่กำเนิดแล้ว ขอบคุณสวรรค์ ที่รู้ว่าเธอต้องอยู่แบบคนที่แข็งแกร่ง

          “ท่านแม่ทัพ ฮูหยิน ข้าน้อยขอดูอาการของคุณหนูสักหน่อยเถิดขอรับ”

          ท่านหมอชรามาถึงสักครู่แล้ว แค่เขากำลังยืนมองประเมินคุณหนูหลินอยู่ห่างๆ ด้วยอยากรู้ถึงสาเหตุ ที่ทำให้ร่างกายของนาง ไร้ซึ่งอาการของโรคประจำตัว

          “เชิญท่านหมอ”

          สองสามีภรรยาลุกขึ้น เปิดทางให้แก่ท่านหมอ ได้เข้ามาตรวจดูอาการของบุตรสาว ท่านหมอได้นั่งลงยังเก้าอี้ข้างเตียง ก่อนจะขออนุญาติหญิงสาว ที่จะต้องแตะต้องนาง หญิงสาวยื่นแขนที่อ่อนแรง ให้แก่ชายชราได้จับชีพจร ซึ่งหมอชราใช้เวลาอยู่ครู่ใหญ่ทีเดียว เมื่อเขาไม่พบเห็นความผิดปกตินั้นในกายนางอีก หญิงสาวมองออกว่าหมอในยุคนี้ กำลังสงสัยเรื่องโรคหัวใจของเจ้าของร่าง

          “อ๊ะ!”

          จวิ๋นมู่ แสร้งเอามือกุมหน้ากุมหน้าอกข้างซ้าย ก่อนจะค่อยๆ ดึงแขนกลับอย่างแนบเนียน

          “เสวี่ยเอ๋อร์”

เมื่อเห็นอาการของคนเป็นลูก มีหรือคนที่เป็นพ่อแม่จะไม่ตื่นตกใจ แต่ก็ยังไม่อาจเข้าใกล้บุตรสาวนางได้ เพราะท่านหมอยังนั่งอยู่

“ข้ามิเป็นไรเจ้าค่ะ” หญิงสาวรีบเอ่ยออกมา เพื่อทำให้พ่อแม่คลายกังวล”

          “อาการโดยรวมของคุณหนูดีขึ้นมากขอรับ แค่บำรุงให้ดี ไม่ช้าก็กลับมาเป็นปกติขอรับ ที่มีอากมารเมื่อครู่ คงเพราะหลับไปนาน ร่างกายไม่ได้ขยับเขยื้อน กล้ามเนื้อจึงยึดไปบ้าง ออกกำลังเบาๆ มิกี่วันก็หายขอรับ”

          คนที่ผ่านโลกมามาก มีหรือจะมองไม่ออก ว่าหญิงสาวนั้นเพียงแสร้งกลบเกลื่อนอาการ เขาต้องการศึกษาเรื่องนี้ให้ท่องแท้ ในตอนที่นางถูกไล่ล่า ได้พบเจอสิ่งใดกันแน่ ไยจึงได้หายจากโรคประจำตัว ที่พร้อมคราชีวิตนางได้ทุกเมื่อเช่นนี้

          “ขอบคุณท่านหมอมากเจ้าค่ะ”

          หญิงสาวเอ่ยออกมา ด้วยเสียงที่ยังแผ่วเบาอยู่ นี่เธอหลับไปถึงสิบวัน ถึงว่าทำไมคอแห้งและหิวโซขนาดนี้

          “คุณหนูพักผ่อนรอข้าสักครู่ ข้าจะไปเตรียมยาบำรุงให้นะขอรับ”

          หมอชราเอ่ยจบก็ลุกออกจากห้องไป ปล่อยเจ้าของบ้านทั้งสอง เขาไปถามไถ่บุตรสาวต่อ ความสงสัยยังคงไม่กระจ่าง เขาคงจะปล่อยวางเรื่องนี้ไปไม่ได้

          “โจ๊กอุ่นๆ มาแล้ว พี่ตั้งใจว่ามาถึงเจ้า ก็กินลงไปได้เลย นี่ขอรับท่านแม่”

          หลินเสวี่ยหลง เดินถือถ้วยโจ๊กเข้ามา พร้อมกับบอกน้องสาว ว่ามันกำลังอุ่นพอดีกิน ก่อนจะยื่นส่งให้มารดา เพื่อที่จะป้อนน้องสาว

          “ขอบคุณพี่ใหญ่เจ้าค่ะ หอมยิ่งนัก”

          ความหิวไม่ทำให้หญิงสาวแสร้งโยกโย้ใดๆ หากยังรั้งรอต่อไป มีหวังได้เป้นลมไปอีกเป็นแน่ ต่อไปนี้เธอ...ไม่สิ! นาง...จะต้องมีแม้แต่ความคิดในใจ ที่เป็นคนของที่นี่ ให้กลมกลืนที่สุด เพื่อความอยู่รอด

          “มาจ๊ะ! แม่ป้อนเจ้าเอง”

          สองพ่อลูกยกเก้าอี้มานั่งข้างๆ เตียง เพื่อให้กำลังใจคนป่วย หยิงสาวยิ้มเต็มใบหน้า หลินเสวี่ยมู่ช่างน่าสงสาร รอบกายมีคนรักมากมายถึงเพียงนี้ แต่เพียงเพราะเรื่องของอำนาจ จึงต้องมาตายจากคนที่เรียกว่าสายเลือด

          “ท่านพ่อ ช่วยแจ้งแก่จวนอ๋องได้หรือไม่เจ้าคะ ว่าขอเวลาอีกสักสองสามปี ให้ร่างกายข้าเติบโตกว่านี้ ค่อยเข้าเมืองหลวง เพื่อเรียนรู้ธรรมเนียมต่างๆ สภาพข้านั้นหากไปในเวลานี้ คงมิรอดถึงใบไม่ผลิปีหน้าอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”

          “เรื่องนี้พ่อจะจัดการให้เจ้าเอง พ่อจะให้ท่านปู่ของเจ้าเข้าวัง ทูลขอยืดเวลาต่อฝ่าบาท เจ้าเป็นเด็กดี ท่านปู่ย่อมไม่รีรออย่างแน่นอน”

          ท่านแม่ทัพหลินตอบรับในทันที เขาไม่ยินดีให้บุตรสาว ที่ยังไม่ปักปิ่น เข้าไปต่อสู้ในสังคมของดอกไม้พิษ นางสมควรเติบโตอยู่ในการโอบอุ้มของครอบครัว บิดาของเขาก็รักนางมาก หากรู้เรื่องที่เกิดกับนาง เห็นทีจวนกั๋วกงคงอยู่ได้ไม่สงบนัก!

          “ขอบคุณเจ้าค่ะ”

หญิงสาวเอ่ยกับบิดา ก่อนจะอ้าปากรับอาหารจากมารดา ตื่นมาก็ต้องไปอยู่ในกฎเกณฑ์เลย มันดูจะไม่ให้เวลานางทบทวนชีวิตใหม่เลย อย่างน้อยๆ ก็ต้องมีอะไรที่เป็นจุดยืนให้ตัวเอง ไม่ใช่รอแค่การปกป้องจากครอบครัว และอีกอย่างนางไม่รู้ว่าสามีในอนาคต จะเป็นคนแบบไหน จะปกป้องนางหรือเมินเฉย ดังนั้นต้องยืนด้วยขาตนเองให้มั่นคง เวลาสองสามีไม่มากพอให้สร้างตัวเอง แต่ก็ไม่ถึงกับน้อยจนเกินไปที่จะเริ่ม

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่7 น้องชายข้า

    “ไยข้าจะไม่กล้า ในเมื่อเราร้องขอเมตตาอย่างผู้อับจนหนทาง แต่ท่านกลับใช้สายตาและคำพูดเย้นหยันอยู่ในที แม้เราจะยากไร้แต่เราก็มีหัวใจ” เด็กชายตอบด้วยน้ำเสียงที่ฉะฉาน สายตาไม่ลอกแลก แต่มันกลับแน่วแน่ “หึ ๆ เถาเถา เจ้าเห็นหรือไม่ ว่าข้าถูกเจ้าหนูตัวน้อยตำหนิ” “เจ้าค่ะ” “ชูสวี่ ยายสอนให้เจ้าเป็นคนไร้มารยาทตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” “ท่านยาย ถึงข้าต้องกรีดเลือด เฉือนเนื้อให้ท่านดื่มกิน ข้าก็ยินดีทำอย่างไม่ลังเล แต่จะให้ข้าทนเห็นท่านยายถูกเหยียดหยาม ข้ามิอาจทนได้ขอรับ” เด็กชายวัยเพียงหกขวบ ไม่น่าจะเกินนี้ กล้าที่จะพูดและมีความคิดที่ใหญ่โต แสดงว่าภูมิหลังสกุลชู คงไม่ใช่ยากไร้ตั้งแต่แรก หาไม่แล้วคงสอนเด็กน้อยคนนี้ ให้มีความคิดอ่านที่ฉะฉานได้ “คุณหนูหลานชายข้าน้อยยังเด็กนัก ได้โปรดเมตตาเขาสักครั้ง อย่าได้เอาผิดเขาเลยนะเจ้าคะ” “มาทางนี้เถอะ ข้าเมื่อยขา มานั่งคุยกันสักหน่อย” หลินมู่เสวี่ยมิได้ตอบรับ หรือปฏิเสธคำของหญิงชรา แต่เลือกที่จะเดินไปนั่งใต้ร่วมไม้ โดยส่งสัญญาณให้องครักษ์หนุ่ม ช่วยพยุงหญิงชราให้ลุกขึ้นเดินตามมา

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่6 เจ้าหนูสวี่

    เจ็ดปีต่อมา ณ เส้นทางสู่เมืองหลวง รถม้าคันใหญ่เคลื่อนผ่านไปตามถนน ผ่านต้นไม้น้อยใหญ่อย่างเอื่อยเฉื่อย ดูไม่ได้เร่งร้อน ที่จะไปให้ถึงจุดหมายโดยไว เช่นผู้เดินทางอื่นๆ หญิงงามในชุดแพรพรรณชั้นดี บอกได้ว่านางเกิดมาในครอบครัวของผู้มีอันจะกิน ความงามที่เฉิดฉายของนาง หากใครได้ยลก็เสมือนต้องมนต์สะกด เรียกว่าเป็นความงามที่ล่มเมืองเลยก็ว่าได้ “คุณหนูแตงโมเจ้าค่ะ” สาวใช้ข้างกาย ได้ยื่นจานแตงโมเนื้อแดงหวานฉ่ำ ให้แก่นายสาว แน่นอนว่าแดนตะวันตก มีพ่อค้าต่างแดนเข้าออกมากมาย สินค้าใดที่ล้ำค่าราคาแพงในเมืองหลวง คนที่อยู่ชายแดน จะได้รับมันก่อน ในราคาที่ย่อมเยากว่าหลายเท่านัก “ขอบใจเจ้ามากเถาเถา เจ้าก็กินเสียด้วยกันเลย” หญิงสาวยื่นมือไปหยิบไม้เล็ก ๆ ก่อนจะนำไปจิ้มแตงโมชิ้นพอดีคำ ส่งเข้าปากแล้วเคี้ยวอย่างเอร็ดอร่อย อากาศที่อบอ้าว ได้กินแตงโตที่เต็มไปด้วยน้ำเช่นนี้ มันสดชื่นเสียนี่กระไร อ๊ะ! ทว่าก่อนที่จะจิ้มแตงโมชิ้นต่อไป หญิงสาวต้องรีบหาที่คว้าจับ มิให้ร่วงลงจากที่นั่ง เมื่อรถม้าหยุดลงอย่างกะทันหัน “มีเรื่องอันใด ไยจึงหยุดกะทันหันเช่นนี้ คุณหนูเก

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่5 ข้าคือบุตรสาวแม่ทัพตะวันตก

    “โอ๊ะ! บ้าบอทำไมปวดหัวขนาดนี้” จวิ๋นมู่ ยกมือขึ้นวางบนหัวของตัวเอง ก่อนจะลืมตาขึ้น เธอจดจำทุกอย่างได้ และมีความทรงจำของใครอีกคน ชัดเจนอยู่ในหัว เหอะ! นึกว่ามีแค่ในหนังในละคร เธอมาอยู่ในร่างของคนเป็นโรคหัวใจ แล้วยังคนละยุคสมัย กับที่เธอคุ้นเคย เรื่องเดิมๆ ที่ฉายซ้ำไปซ้ำมาในชีรี่ย์ดังหลายๆ เรื่อง แต่ก็นะ...ในเมื่อสวรรค์ให้โอกาส ก็ต้องใช้มันให้คุ้ม “ลูกแม่! เจ้าฟื้นแล้ว ไปตามท่านหมอมาเร็วเข้า” หลินฮูหยิน รีบหันไปยื่นถาดยาให้มือให้สาวใช้ แล้วรีบก้าวยาวๆ ตรงไปหาบุตรสาวบนเตียง แค่เห็นว่าลูกลืมตา ใจของมารดาเช่นนาง ก็คลายความหวาดกลัวไปมากทีเดียว ร่างที่ยังคงงดงามของหลินฮูหยิน ค่อยๆ รีบนั่งลงขอบเตียง ก่อนจะคว้ามือบุตรสาวมากุมเอาไว้ ส่วนคนบนเตียง ที่กำลังพยายามเรียบเรียง ทุกความเป็นตัวตน ของคุณหนูจวนแม่ทัพ เธอทำได้เพียงแค่ยิ้ม ให้กับคนที่เรียกเธอว่าลูก ก่อนจะคิดคำพูด ที่จะไม่สร้างความคลางแคลงใจ ในความเปลี่ยนไปของคุณหนูหลินผู้นี้ “ท่านแม่ เอ่อ...ข้าหลับไปนานเท่าใดเจ้าคะ” หญิงสาวถามออกมาได้ในที่สุด ทว่าเสียงที่เปล่งออกมา มันช่างแหบแห้งน

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่4 บ่าวทรยศ

    จวนแม่ทัพตะวันตก อาชาสีดำตัวใหญ่ ถูกรั้งให้หยุดลงยังหน้าจวน ก่อนที่ชายสูงวัยที่ยืนอยู่บนบันไดหน้าประตูบานใหญ่ จะวิ่งตรงออกมาหา “ลูกพ่อ!” ท่านแม่ทัพเรียกบุตรสาวเสียงหลง เมื่อเห็นว่าเวลานี้ นางไร้สติอยู่ในอ้อมแขนของบุตรชาย ท่านแม่ทัพรับร่างบุตรสาวลงจากหลังม้า ก่อนจะรีบหมุนกายเดินกลับเข้าไปในจวน “เสวี่ยเอ๋อร์ลูกแม่!” หลินฮูหยินเรียกบุตรสาว ด้วยความตื่นตกใจ ก่อนจะวิ่งตามหลังสามีกลับเข้าไปในจวน นางที่เพิ่งได้สติ จากการเป็นลมไป หลังได้รับข่าวว่าบุตรสาวหายตัวไป “หมอเร็วเข้าช่วยลูกข้าด้วย” ท่านแม่ทัพตะโกนเรียกหมอประจำตระกูล ซึ่งมาดูแลอาการของหลินฮูหยิน รีบวิ่งตามเจ้าของบ้านไป สีหน้าของหมอชรา เต็มไปด้วยความตึงเครียด ยิ่งเมื่อเห็นเจ้าบ้านทั้งสาม มีความตื่นกลัว ความกดดันของเขาก็มากตามไปด้วย คุณหนูหลินนั้น มีโรคหัวใจมาแต่กำเนิด แค่ออกแรกเล็กน้อย นางยังล้มป่วยไปหลายวันเลย แล้วสภาพของนางในตอนนี้ ไม่น่าจะทนไหว...หลินเสวี่ยหลง ที่วิ่งตามพ่อแม่เข้าไปภายในเรือน มีใบหน้าที่เต็มไปด้วยโทสะ ก่อนที่เข้าจะเดินตรงไปยังสาวใช้คนสนิทของน้องสา

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่3 เย็นชา

    เมืองหลวง ณ จวนจิ้งอ๋องลู่หย่งไท้ ร่างสูงในชุดสีดำ ก้าวตรงเข้าไปในตัวเรือนหลังใหญ่ จวนอันเงียบสงบ ไร้พี่น้องพ่อแม่อยู่ร่วม ทว่ากลับเป็นที่หมายตาของสตรีทั่วเมืองหลวง ที่อยากจะมาเป็นสตรีหนึ่งเดียวในจวนแห่งนี้ ทว่าเจ้าของจวนกลับเมินเฉยต่อเรื่องนั้น จนกระทั้งมีพระเสาวนีย์ จากองค์ไท้เฮา ถึงการหมั้นหมาย ที่มีกับบุตรสาวคนโต ของแม่ทัพตะวันตกหลินมู่เฉียว ซึ่งตามข่าวลือ นางคือบุตรสาวที่ติดท้องมารดา ซึ่งได้หย่าขาดกับท่านเจียงกั๋วกง “ท่านอ๋อง ท่านกั๋วกงได้ส่งเทียบเชิญ ให้ท่านอ๋องไปร่วมมื้อค่ำในวันพรุ่งนี้ขอรับ” พ่อบ้านชราถือเทียบเชิญจากจวนกั๋วกง ก้าวตามนายตนเข้าไปในเรือน ตามจริงเขาจะปฏิเสธแทนผู้เป็นนายก็ย่อมได้ แต่เพราะเจียงกั๋วกง คือบิดาโดยสายเลือดของว่าที่พระชายาเอก เขาจึงไม่กล้าที่จะบุ่มบ่ามทำสิ่งใดโดยไม่ได้รับเห็นชอบจากผู้เป็นนาย “ทุกครั้งท่านทำเยี่ยงไร ไยครานี้จึงต้องมาถึงมือข้าด้วยเล่า”อ๋องหนุ่มย้อนถามพ่อบ้านของตน ซึ่งโดยปกติเรื่องแค่นี้ ย่อมไม่ผ่านเลยมาถึงมือเขา ให้ต้องเสียเวลาตัดสินใจ “แต่ท่านกั๋วกง คือบิดาแท้ๆ ของว่าที่พระชายา ข

  • คุณหนูบอบบางเยี่ยงข้าจะสังหารผู้ใดได้   ตอนที่2 ที่ไหน

    มือที่บางนี่จะแข็งแรงแค่ไหน เรื่องนี้จะจริงหรือฝัน เธอก็ไม่มีวันยอมให้ตัวเอง ถูกทำเรื่องเสื่อมเสียเด็ดขาด เพราะถ้าคนไล่ล่าคือผู้ชาย น้อยนักที่จะไม่คิดเรื่องแบบนั้นกับผู้หญิง จวิ๋นมู่หันมองสำรวจไปรอบๆ ตัว ก่อนจะหลับตาลงแน่น เมื่อหัวของเธอเจ็บร้าว เหมือนถูกทุบซ้ำๆ จนต้องยกมือขึ้นกุมขมับเอาไว้ จะบ้าตายนี่มันเรื่องบ้าอะไรเนี่ย! พรึ่บ! หวืด! หมับ! ยังไม่ทันที่จะได้ทบทวนอะไร ดวงตาที่หลับนิ่งเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมกับคว้าจับข้อมือหนา ของผู้ชายตัวโตเอาไว้ ก่อนที่จะได้แตะต้องตัวเธอ ยังดีที่เธอเอี้ยวตัวหลบได้ทัน ไม่อย่างนั้น...ถ้าเธอตกอยู่ในเงื้อมือของชายแปลกหน้าไปแล้ว ฉึก! ปึก! มันเกิดขึ้นรวดเร็วจนชายหนุ่มร่างใหญ่ ไม่ทันคาดคิดว่าเขาจะถูกตอบโต้ จากหญิงสาวบอบบาง อ๊าก!!! ชายหนุ่มร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อมีบางสิ่งแทงเข้าที่ลำคอของเขา ก่อนมันจะถูกดึงออก จนเลือดไหลพุ่งกระฉูดเมื่อเส้นเลือดถูกเปิด มือหนากุมลำคอเอาไว้แน่น ร่างสูงใหญ่ดิ้นพล่านอยู่บนพื้นดิน ใกล้กับหญิงสาวที่เขาไล่ล่าเสียงร้องโหยหวนของเขา ทำให้ฝีเท้าจำนวนหนึ่ง มุ่งตรงมายังทิศทางนี้ นั่นทำให้หญิงสาวลุกขึ้นยืนเต็มควา

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status