Share

คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว
คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว
Author: คุณหนูหยางเอิน

ตอนที่ 1 : ชีวิตที่เลือกไม่ได้

last update Last Updated: 2025-02-15 15:02:36

ตอนที่

[1]

ชีวิตที่เลือกไม่ได้

 ท่ามกลางสายลมหนาวที่เริ่มคืบคลานเข้ามา ไม่ว่าผู้ใดก็ล้วนแต่ไม่อยากพานพบกับความเหน็บหนาวที่แสนทรมานเช่นนี้ หากแต่บนพื้นที่แสนสกปรกและเต็มไปด้วยเศษใบไม้ร่วงที่ถูกพัดพาเข้ามาจนเต็มพื้นเรือน ยังมีร่างของสตรีนางหนึ่งที่อยู่ในสภาพราวกับเศษผ้าที่ใช้งานจนหมดสภาพแล้วนอนนิ่งอยู่ ร่างนั้นนอนคุดคู้งอตัวเข้าหากันไร้ผ้าห่มหนาคลุมกาย หนำซ้ำบนเนื้อตัวยังเต็มไปด้วยคราบเลือดเกรอะกรัง ใบหน้านั้นไม่สามารถมองออกได้ว่าก่อนหน้านี้มีหน้าตาเป็นเช่นไร 

 สายตาที่พร่ามัวมองไปยังจุดจุดหนึ่งด้วยความเจ็บปวดอย่างสุดซึ้ง

 เขาไม่หันกลับมามองนางแม้เพียงนิด หากแต่เร่งรีบจับจูงมือของสตรีที่อยู่ด้านข้างออกจากเรือนไป

 ฉีจื่อหราน นึกสมเพชในโชคชะตาตนเอง นางมาอยู่ในจุดนี้ได้อย่างไร หากจะผิดก็คงผิดตั้งแต่ต้น ตั้งแต่ที่นางเกิดมาเป็นบุตรสาวตระกูลฉี เป็นบุตรสาวที่ไร้ค่าที่ไม่มีผู้ใดสนใจ ทั้งยังผลักไสราวกับเชื้อโรคที่ต้องหลีกหนีให้ไกลที่สุด 

 หึ สุดท้ายชีวิตของนางก็ต้องจบลงเช่นนี้ เกิดมาเป็นคนไร้ค่า ก็ต้องตายอย่างคนไร้ค่าเช่นนั้นหรือ 

 หนำซ้ำ….คนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่เช่นลูกในท้องของนางก็ต้องมารับกรรมตายตกทั้งที่ยังไม่มีโอกาสได้ลืมตาขึ้นมาดูโลกด้วยซ้ำ 

 นี่มันชีวิตบัดซบแบบใดกัน

 แม่ต้องขอโทษเจ้าด้วย ที่ไม่อาจให้เจ้าเกิดมาใช้ชีวิตอย่างที่ควรจะเป็นได้ คิดแล้วมืออันขาวซีดที่แทบจะแข็งชาเพราะความหนาวก็ลูบไปที่หน้าท้องอันแบนเรียบของตนเองที่เคยมีชีวิตน้อย ๆ อยู่ในนั้นด้วยความสั่นเทา 

 ที่บอกว่าเคยมี นั่นก็เพราะว่าก่อนหน้านั้นเพียงแค่เค่อเดียว ท้องน้อย ๆ ของนางถูกผู้ที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นสามีลงไม้ลงมือทุบตีอย่างหนักเพราะนางไม่ยินยอมที่จะให้เขานำเงินเก็บของนางจากไปพร้อมกับสตรีอื่น 

 แต่สุดท้ายนอกจากเงินเก็บจะไม่สามารถรักษาไว้ด้วย ชีวิตของลูกน้อยอายุสองเดือนก็ไม่สามารถรักษาไว้เช่นกัน และสุดท้ายแม้แต่ชีวิตของนางเองก็คงต้องสังเวยให้กับการตัดสินอันโง่เขลาและโชคชะตาอันบัดซบของตนเอง 

 น่าเสียดายที่เกิดมาชาตินี้นางได้พบเจอกับโลกภายนอกน้อยเหลือเกิน จึงทำให้ชีวิตของนางราวกับถูกปิดกั้น ถูกปิดตาและไร้ทางเลือกมาโดยตลอด น่าเสียดาย….

 หากได้มีโอกาสอีกครั้ง…..ก็คงจะดี

 คิดแล้วดวงตาอันพร่าเลือนก็ค่อย ๆ เริ่มปิดลงพร้อมกับลมหายใจที่เริ่มขาดห้วงขึ้นเรื่อย ๆ 

 ‘อย่าเสียใจไปเลยนี่คือโชคชะตาของเจ้า จบชีวิตครานี้ก็เพื่อไปพานพบชีวิตใหม่ที่เจ้าสามารถเลือกทางเดินของตนเองได้อีกครั้ง’ เสียงอันอบอุ่นดังขึ้นในโสตประสาทของฉีจื่อหราน ดวงตาของนางไม่สามารถมองเห็นได้ว่าเขาคือผู้ใด อีกทั้งก่อนที่นางจะจากไปเขายังพูดขึ้นอีกว่า 

 ‘นอกจากนี้ข้ายังจะพาเจ้าไปพานพบอีกโลกหนึ่งที่จะทำให้เจ้าได้พบกับประสบการณ์ดี ๆ ที่ไม่สามารถไปหาจากที่ใดได้อีก’ 

 เฮือก!!

 ร่างของหญิงสาวโฉมสะคราญกระเด้งกายขึ้นมาจากเตียงที่นอนอยู่กะทันหันจนทำให้สาวใช้คนสนิทได้แต่ตกใจต่อปฏิกิริยาเช่นนี้ของผู้เป็นนาย อ้ายมี่ถึงจะตกใจแต่ก็รู้สึกยินดี เพราะคุณหนูของตนจู่ ๆ ก็นอนซมไปนานกว่าสามวันไม่มีวี่แววจะฟื้นขึ้นมาแต่อย่างใด เมื่อไปแจ้งคนเรือนใหญ่ก็ราวกับว่าคำพูดของนางได้เลือนหายไปตามสายลม พวกเขาไม่ได้สนใจอันใดบอกเพียงว่าให้นอนพักผ่อนให้มาก ๆ ก็เท่านั้น 

 จะได้อย่างไรกัน คุณหนูของนางเป็นหนักถึงเพียงนี้ แม้จะยังมีลมหายใจอยู่ แต่ก็ช่างรวยรินเสียเหลือเกิน ระหว่างที่อ้ายมี่กำลังรู้สึกไม่ได้รับความเป็นธรรมนั้น 

 ฉีจื่อหรานกำลังยกมือทั้งสองข้างของตนขึ้นมาสำรวจดูก่อนจะหยิบคันฉ่องที่อยู่ไม่ไกลมาพิศมองรูปลักษณ์ในยามนี้ของตนเองอย่างละเอียด 

 เมื่อเห็นว่านางได้กลับมายังเวลาที่ทุกอย่างยังไม่สายเกินไปแววตาที่เคยสว่างใสก็ปรากฏความบ้าคลั่งขึ้นมาสายหนึ่ง นอกจากนั้นยังหัวเราะขึ้นมาเสียงดังจนลั่นเรือน 

 “ฮ่า ๆ แม้แต่นรกและสวรรค์ยังเข้าข้างข้า” 

 ใบหน้าที่แต่เดิมมักจะเต็มไปด้วยการซ่อนอารมณ์ที่แท้จริงของตน ยามนี้กำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่งพร้อมพ่นถ้อยคำที่ไม่มีผู้ใดเข้าใจได้ออกมานอกจากเจ้าตัว 

 ยามนี้อ้ายมี่ยิ่งเป็นห่วงนายของตนมากขึ้น คุณหนูหลับไปนานหลายวันตื่นมาก็เป็นเช่นนี้จะไม่ให้นางหวาดกลัวได้เช่นไร

 ฉีจื่อหรานหลังจากที่ได้ระบายอารมณ์ที่คั่งค้างในใจและยินดีกับการกลับมาของตนเองเสร็จก็เริ่มเห็นปฏิกิริยาของสาวใช้คนสนิทว่ากำลังตกใจเพียงใด นางจึงค่อย ๆ คลี่ยิ้ม 

 “อ้ายมี่ ขอข้ากอดที”

 “…..” แต่นอกจากสาวใช้ตัวน้อยจะไม่ขยับเข้ามาหา ยังขยับกายออกไปอย่างไม่รู้ตัวอีกด้วย ฉีจื่อหรานส่ายหน้าก่อนจะทำการดึงแขนของอีกฝ่ายเข้ามาหาตัว 

 หมับ! 

 “คุณหนู!” 

 “อ้ายมี่ ข้าดีใจเหลือเกินที่ได้กลับมา” 

อ้ายมี่ตัวแข็งทื่อไม่เข้าใจว่าคุณหนูกล่าวถึงเรื่องใด กลับมาหรือ กลับมาจากที่ใดในเมื่อคุณหนูแทบจะไม่ได้ออกจากจวนเลยด้วยซ้ำ และเมื่อสามวันที่แล้วจู่ ๆ ก็ล้มป่วยลงและไม่ฟื้นมาเลยนับจากนั้น 

 ฉีจื่อหรานรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังคิดสิ่งใด จึงได้ผละกายออกมา 

 “ข้าหลับไปกี่วันหรือ” 

 แม้จะไม่เข้าใจแต่ปากเล็ก ๆ ก็ยังตอบผู้เป็นนาย 

 “สามวันเจ้าค่ะ คุณหนูหลับไปสามวัน” 

 “เช่นนั้นอ้ายมี่ ข้าจะเล่าเรื่องที่น่าเหลือเชื่อระหว่างที่ข้าหลับไปสามวันให้เจ้าฟังดีหรือไม่ ว่าข้าไปพบเจอสิ่งใดมา” กล่าวว่าสามวันแต่แท้จริงแล้วนางไปอยู่ที่แห่งนั้น ที่ที่เป็นเหมือนโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อนานนับสิบปี ซึ่งที่นั่นทำให้นางได้สะสมความรู้และความสามารถมากมาย ก่อนที่จะได้รับโอกาสให้กลับมาที่นี่ จวนตระกูลฉีที่เต็มไปด้วยความจอมปลอมแห่งนี้ ทั้งยังกลับมาในช่วงก่อนที่ชีวิตของนางจะถูกผลักดันให้ไปอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุด และจบลงด้วยความตายที่แสนอนาถ!

 นอกจากเล่าเรื่องราวโลกอนาคตที่นางไปประสบพบเจอมา นางยังจะเล่าเรื่องราวก่อนที่นางจะถูกส่งไปยังที่นั่นด้วย การถ่ายทอดเรื่องราวที่นางไปพบเจอให้กับอ้ายมี่ฟัง นางไม่ได้สนใจว่าอีกฝ่ายจะเชื่อหรือไม่ เพียงแต่แค่อยากให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าที่นางทำตัวแปลกไป นั่นเพราะนางไม่ใช่ฉีจื่อหรานคนเดิมอีกต่อไปแล้ว 

 หลังฟังจบดวงตาของสาวใช้คนสนิทของฉี่จื่อหรานก็เบิกโพลง อ้าปากค้างไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าอ้ายมี่นั้นเชื่อนายของตนจนหมดใจ 

 ตั้งแต่ที่เป็นนายบ่าวกันมานางอยู่กับคุณหนูมาตั้งแต่ที่นางอายุห้าหนาว คุณหนูก็อายุเพียงเจ็ดหนาว ไม่เคยมีสักครั้งที่คุณหนูจะมีท่าทางเช่นนี้ ความเด็ดเดี่ยว ความแข็งแกร่ง ดวงหน้าที่ไม่หวาดกลัวผู้ใดหากมิใช่คนที่ผ่านพ้นประสบการณ์ที่คาดไม่ถึงมา คงไม่สามารถที่จะแสดงออกเช่นนี้ได้

 “คุณหนู ต่อจากนี้ไม่ว่าจะต้องพานพบกับสิ่งใด บ่าวก็จะอยู่เคียงข้างกับคุณหนูให้นานที่สุดเจ้าค่ะ” 

 “เจ้าเชื่อในสิ่งที่ข้าเล่าหรือ” ฉีจื่อหรานเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ 

 “เชื่อเจ้าค่ะ บ่าวเชื่อคุณหนู”

 ในชาติที่แล้ว คุณหนูเล่าว่านางถูกโบยจนตาย เพราะถูกใส่ความว่าละเลยต่อการดูแลคุณหนูของตน ทั้งที่ความจริงแล้ว นางถูกคนชั่วนามว่าโก่วอี๋จับลากเข้าไปในเรือนเก็บฟืน ก่อนจะลงมือย่ำยีนางแล้วขังเอาไว้ ขณะเดียวกันนายของมันก็ไปลงมือกับคุณหนูของนางเช่นกัน และเรื่องราวเหล่านี้ล้วนมีเบื้องลึกเบื้องหลัง ชาตินี้นางจะร่วมหัวจมท้ายกับคุณหนูเพื่อแก้แค้นทุกคนที่เกี่ยวข้องและจะไม่ให้คุณหนูของนางได้รับความอัปยศอดสูอีก

 “เช่นนั้นวันนี้เจ้าช่วยข้าแต่งกาย เย็นนี้ข้าจะไปกินอาหารกับครอบครัวที่รักของข้าเสียหน่อย” กล่าวแล้วรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยเลศนัยก็ปรากฏขึ้น หากแต่ดวงตานั้นลึกล้ำจนแม้แต่อ้ายมี่ยังไม่กล้ามองนาน 

 ยิ่งฝีเท้าของนางเข้าใกล้เรือนใหญ่มากเท่าใด ก็ยิ่งได้ยินเสียงพูดคุยอย่างครึกครื้นของพวกเขาดังขึ้นมาเท่านั้น นางไม่เคยได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของความครื้นเครงกลมเกลียวเช่นนี้สักครั้ง

ทั้งที่นางก็เป็นลูก เป็นหนึ่งในพี่น้องของพวกเขาเช่นกัน! 

รอยยิ้มเหยียดหยันปรากฏขึ้นพร้อมสายตาที่ดูแคลน 

“ไหน ๆ ก็มากันครบแล้ว เรามาเริ่มกินข้าวกันเถิด” สิ้นคำของผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวกล่าว สมาชิกทุกคนก็หันไปหยิบจับตะเกียบของตนขึ้นมา หากแต่ยังไม่ทันได้ลงมือกินอาหารเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาเสียก่อน 

“จะครบได้อย่างไรเจ้าคะ ยังขาดข้าอีกคน”

“…..”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนพิเศษ 2 : ถูกกลั่นแกล้ง

    ตอนพิเศษ[2]พร้อมหน้าพร้อมตา วันเวลาผันผ่านไปนานหลายปีหากแต่แคว้นตี้ยังมีแต่ความสงบสุข ไร้ซึ่งความวุ่นวาย นอกจากนั้นยามนี้ยังกลายเป็นผู้นำในด้านสมุนไพรหายากและล้ำค่าอีก เซี่ยจื่อหรานกลายเป็นที่ปรึกษาพิเศษของสำนักหมอหลวง ไม่ว่าหัวขาวหัวดำต่างเรียกนางว่า ‘ท่านอาจารย์’ แทบทั้งสิ้น แม้ไม่อยากจะรับแต่ก็ต้องรับไว้ ไทเฮากล่าวว่าลับหลังนางพวกเขาก็เรียกขานนางว่าท่านอาจารย์อยู่ดี สู้ทำให้กลายเป็นที่ประจักษ์กันไปเลย ผู้ใดจะคิดว่าสตรีอายุน้อยจะมีความรู้แตกฉานในด้านสมุนไพรเช่นนี้ ทั้งสามารถนำสมุนไพรเหล่านั้นมาปรุงเป็นอาหารจานเด็ดได้ด้วยผู้ใดได้กินก็ล้วนแต่ติดใจ หากแต่มีโอกาสได้กินน้อยนัก เพราะชินอ๋องซื่อจื่อหวงภรรยายิ่งกว่าสิ่งใด คงมีแต่ชินอ๋องซื่อจื่อและเชื้อพระวงศ์ที่สนิทกระมังถึงจะได้กินฝีมือของท่านอาจารย์เซี่ย และก็เป็นจริงดังนั้น วันนี้เป็นวันจะเข้าคืนวันขึ้นปีใหม่ ทุกคนตกลงกันว่าจะมารวมตัวกันและเฉลิมฉลองปีใหม่กันที่เรือนซิ่งฝู ดังนั้นเซี่ยจื่อหรานจึงต้องเตรียมอาหารที่ทุกคนลงความเห็นว่าอร่อยหาที่ใดเทียม อาหารที่ว่าก็คือ ไก่ผัดเซียงเหมา นอกจากนั้นยังมีปลาผัดกันเจียง (ขิง) เนื้อแกะตุ๋นส

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนพิเศษ 1 : ถูกกลั่นแกล้ง

    ตอนพิเศษ[1]ถูกกลั่นแกล้ง สองขาแข็งแกร่งก้าวไปอย่างมั่นคงไม่มีซวนเซเลยแม้แต่น้อยแม้จะดื่มสุรามงคลเข้าไปเพียงใดก็ตาม ค่ำคืนนี้เขาจะได้ร่วมเรียงเคียงหมอนกับสตรีในดวงใจแล้วจะไม่ให้ตื่นเต้นได้อย่างไร ทว่ายิ่งเร่งรีบเหตุใดปลายทางก็ยิ่งห่างไกล หรือว่าเขากำลังตื่นเต้นเกินไป จึงรู้สึกว่าทุกอย่างเชื่องช้าไปเสียหมด แต่สุดท้ายก็สามารถพาตนเองไปอยู่ที่หน้าห้องที่ประดับตกแต่งด้วยผ้าสีแดงเต็มไปหมด ในขณะที่มือหนากำลังจะเอื้อมมือไปเปิดบานประตู จู่ ๆ องครักษ์ก็มารายงานว่าฝ่าบาทมีรับสั่งให้เขาไปทำภารกิจเร่งด่วนในคืนนี้ หากเป็นวันทั่วไปเขาก็คงไปโดยไม่อิดออด แต่คืนนี้เป็นคืนสำคัญของเขา คิดได้อย่างเดียวว่านี่ต้องเป็นการกลั่นแกล้งจากเสด็จลุงเป็นแน่ ไม่สิ อาจจะมีเสด็จย่าเข้าร่วมด้วย “ข้าไม่ไป” ชายหนุ่มปฏิเสธเตรียมจะเปิดประตูเข้าห้องหออีกครั้ง “เอ่อ ฝ่าบาทรับสั่งว่าหากซื่อจื่อไม่ไปจะทำการโยกย้ายพระองค์ไปประจำการที่แดนใต้ตั้งแต่คืนนี้โดยไม่ให้ฮูหยินติดตามไปด้วยขอรับ” “ฮึ่ม นี่มันเกินไปจริง ๆ” ชินอ๋องซื่อจื่อเสวี่ยจิ้นกัดฟันกรอดแม้จะรู้สึกขัดใจเพียงใด แต่สุดท้ายก็ต้องไป มาดูกันว่าเสด็จลุงจะกลั่นแกล้

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 48 : จบอย่างที่ควรจะเป็น 1/2 ตอนจบ

    ตอนที่[30]จบอย่างที่ควรจะเป็นภาพทุกอย่างตัดกลับไปที่ฉีจื่อหรานยังคงเป็นทารกน้อยครานี้เสิ่นเจียงร้องไห้ออกมาราวกับจะขาดใจ นั่นสิ นางเป็นแม่แบบใดกัน อุ้มท้องมาตั้งเก้าเดือน กว่าจะคลอดออกมา จื่อหรานในยามเป็นทารกก็น่ารักน่าชังยิ่ง นางทำกับเด็กที่ไร้เดียงสาเช่นนั้นได้อย่างไร สวรรค์ลงโทษแล้ว เป็นนาง นางเป็นมารดาที่ชั่วช้า เหล่าคนตระกูลฉีเริ่มรู้แล้วว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นผลจากการกระทำที่ตนได้กระทำกับฉีจื่อหรานอย่างโหดร้ายในชาติก่อน ชาตินี้ก็ยังกระทำซ้ำรอบเดิมอีก ไม่แปลกที่จะได้รับความทุกข์ทรมานทั้งกายและใจเช่นนี้ บัดนี้ความรู้สึกโกรธแค้น ความรู้สึกไม่เข้าใจ ไม่ยินยอมได้แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกผิดมาจากใจจริง “หรานเออร์พวกเราขอโทษเจ้า โปรดให้อภัยพวกเราด้วย”เหล่าผู้ที่รับหน้าที่คุมตัวตระกูลฉีไปส่งที่แดนเหนือ รีบลงมาจากรถม้าเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น ไม่นานพวกเขาก็ต้องถอนหายใจออกมาเพราะยามนี้เบื้องหน้าปรากฏเพียงร่างไร้วิญญาณของพ่อแม่ลูกตระกูลฉีเท่านั้น ใบหน้าของพวกเขายังมีคราบน้ำตาติดอยู่มากมายราวกับคนที่ร้องไห้ด้วยความทรมานจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต โดยเฉพาะคนผู้หนึ่งที

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 47 : จบอย่างที่ควรจะเป็น 1/1

    ตอนที่[30]จบอย่างที่ควรจะเป็น “เหตุใดจึงแต่งงานกันไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ” ยามนี้ชินอ๋องซื่อจื่อเสวี่ยจิ้นกำลังเอ่ยถามพระอัยยิกาพร้อมทั้งมีสีหน้าบึ้งตึงด้วยไม่พอใจอย่างยิ่งยวด “ย่าอนุญาตให้คบหากันนั่นก็ที่สุดแล้ว แล้วนี่เพิ่งคบกันได้หนึ่งเดือนจะแต่งงานกันเลยได้อย่างไร เวลาน้อยไป หรานเออร์หลานย่า ย่าไม่ยอมให้คบผู้ใดเพียงแค่ผิวเผินแน่นอน” เซี่ยไทเฮาว่าพลางดึงหลานสาวให้ไปอยู่ด้านหลังตน “แล้วหลานมิใช่หลานของเสด็จย่าเช่นเดียวกันหรือ อีกอย่างหลานหาใช่คนชั่วร้ายอันใด จะให้รอไปถึงเมื่อใดกัน เสด็จย่าอย่าใจร้ายกับหลานเลย” ว่าแล้วพลางส่งสายตาที่น่าสงสารไปให้คนรักที่อยู่ด้านหลังผู้เป็นย่า หวังว่านางจะเห็นใจเขาและช่วยพูดกับเสด็จย่า หากแต่นางกลับมีเพียงรอยยิ้มน้อย ๆ และไม่กล่าวอันใดอีก “ระยะเวลาไม่กำหนด แต่หากซื่อจื่อทำให้ย่าเห็นว่าเจ้าสามารถดูแลหรานเออร์ได้ดี เมื่อนั้นย่าจะอนุญาตเอง” “โธ่ แล้วหากว่ากว่าจะเป็นที่ถูกใจเสด็จย่ามันก็ผ่านไปหลายปีแล้วเล่า” “หลายปีก็หลายปีสิ ซื่อจื่อรอไม่ไหวหรือ เช่นนั้นย่าจะได้ให้หรานเออร์ไปแต่งกับผู้อื่นที่ความอดทนมีมากกว่า” “ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!! เฮ้อ เช่นนั้น รอก็ร

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 46 : ต้นตอของโรคระบาด 1/2

    ตอนที่[29]ต้นตอของโรคระบาด ใช้เวลากว่าแรมเดือนกว่าที่นางจะสามารถจัดการธุระสำคัญทั้งหมดเสร็จสิ้น หลังจากที่เหตุการณ์อันตรายผ่านพ้นไป ไทเฮาจึงได้ชวนเชื้อพระวงศ์ไปพักผ่อนที่ตำหนักซินหยานอีกครา แม้อากาศจะเริ่มเหน็บหนาวแล้วแต่ยังสามารถเดินทางออกไปได้อยู่ ยามนี้ที่นั่นคงงดงามไม่น้อย “จื่อหราน รอบนี้เราไปปีนเก็บผลไม้กันมาเยอะ ๆ อย่าให้พี่ใหญ่จับได้” ท่านหญิงเสวี่ยเร่อมากระซิบข้างหูนางด้วยความซุกซนเช่นเคย นั่นสินะ ผลไม้หลายอย่างที่เติบโตในอากาศหนาวคงกำลังออกผลผลิตเต็มต้น หากแต่สิ่งที่นางตื่นเต้นนั้นมิใช่แค่การเก็บผลไม้เหล่านั้นอย่างเดียว หากแต่เป็นสิ่งที่คนผู้นั้นกล่าวว่ามีบางอย่างจะพูดคุยกับนาง “หรานเออร์ พี่มีบางอย่างจะพูดคุยกับเจ้า” เพียงแค่ถึงตำหนัก เขาก็ไม่รอช้าที่ลากนางเข้าไปในป่า ในป่าที่เป็นป่าจริง ๆ หาใช่สวนบุปผาที่สวยงามแต่อย่างใด ลากมาอย่างรวดเร็วและไกลชนิดที่ว่าเสวี่ยเร่อตามไม่ทันกันเลยทีเดียว พร้อมทั้งคำเรียกขานที่เปลี่ยนไปทั้งหมด “เจ้าหนาวหรือไม่” เขาว่าพร้อมถอดเสื้อคลุมมาคลุมให้นางโดยไม่รอคำตอบ แต่เขาควรจะถามว่าเหนื่อยหรือไม่ก่อนสิ ก็เล่นลากกันมาไกลเช่นนี้ “เจ้า

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 45 : ต้นตอของโรคระบาด 1/1

    ตอนที่[29]ต้นตอของโรคระบาด โทษของตระกูลฉีสามารถทำให้ร้ายแรงไปจนถึงขั้นประหารชีวิตเฉกเช่นองค์ชายห้าได้ แต่เพราะนางอยากให้พวกเขาได้ลิ้มรสความสิ้นหวังและการถูกทอดทิ้งว่าเป็นอย่างไร เมื่อไม่สามารถกลับบ้านและกลับมาสู่จุดเดิมที่เคยอยู่ ตกต่ำไร้คนเหลียวแล แบบนั้นคงจะเจ็บแสบกว่าการประหารและลิ้มรสความเจ็บปวดเพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ที่จริงแล้วตระกูลฉีไม่ได้ฉลาดล้ำโดยการไปร่วมมือวางแผนการกับองค์ชายห้าถึงเพียงนั้น แต่เพราะพวกเขาถูกหลอกใช้ ว่าจะมอบยารักษาให้รวมถึงช่วยแก้แค้นหากพวกเขาสามารถเผาที่เก็บยาสมุนไพรของนางได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้ง่ายถึงเพียงนั้น เพราะสมุนไพรทั้งหมดนางเก็บเอาไว้ที่เรือนที่ถูกสร้างขึ้นใกล้กันกับเรือนซิ่งฝู แต่เมื่อลงมือทำแล้วก็ต้องรับผลของการกระทำ ชีวิตหลังจากนี้ของพวกเขาจะเป็นเช่นไรก็แล้วแต่โชคชะตากำหนดก็แล้วกัน ด้านองค์ชายห้าผู้ที่เป็นต้นเหตุและต้นตอของความวุ่นวายในเมืองหลวงที่เกิดขึ้นมาตลอดหลายวัน และเป็นคลื่นใต้น้ำในราชสำนักมาหลายปีก็ถูกจับกุมตัวและถูกสั่งโทษประหารเรียบร้อยแล้ว เรื่องราวเริ่มต้นที่องค์ชายห้าผู้ที่มักวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แท้จริงกลั

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status