แชร์

ตอนที่ 16 : เราเหมือนกันแล้ว 1/1

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-03-20 14:16:28

ตอนที่

[10]

เราเหมือนกันแล้ว

 

“เช่นนั้นท่านยายรับเงินนี่ไปเถิดเจ้าค่ะ” จื่อหรานยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้เซี่ยเถาด้วยเพราะความเกรงใจอย่างถึงที่สุด  

“หรานเออร์ไม่ต้องคิดมากนี่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น” หากแต่หญิงชรากับกล่าวด้วยท่าทางสบาย ๆ ไม่เดือดร้อนอันใด ซึ่งนี่ต่างจากท่าทางของชาวบ้านธรรมดายิ่งนัก 

“พวกข้ามารบกวนท่านยายแท้ ๆ หากไม่รับเป็นเงิน เช่นนั้นคืนนี้ให้ข้านวดให้ดีหรือไม่เจ้าคะ”

ในโลกอนาคตนั้นการนวดถือว่าได้รับความนิยมไม่น้อยเพราะสามารถคลายความเมื่อยล้าได้ นางก็ได้ไปเรียนรู้มาไม่น้อยเช่นกัน

“เจ้าสามารถนวดได้ด้วยหรือ” เด็กสาวผู้นี้ทำให้เซี่ยเถาแปลกใจได้อีกหน คนผู้นี้มีอันใดที่ทำไม่ได้บ้าง นี่ช่างเสียดายแทนบ้านเดิมของนางเสียจริงที่ปล่อยให้สิ่งล้ำค่าเช่นนี้หลุดออกมาได้ ทว่าเมื่อคิดถึงบ้านเดิมของเด็กสาวแล้วดวงตาที่ราวกับรัตติกาลลึกล้ำก็ปรากฏขึ้น 

คนชั่วเหล่านั้นไม่สมควรที่จะเป็นครอบครัวของหรานเออร์แม้แต่น้อย!

กล่าวถึงเหล่าคนชั่วที่ว่ายามนี้เรือนตระกูลฉีต่างกำลังลุกเป็นไฟด้วยข่าวของถงเจี้ยนนั้นโหมกระพือเป็นอย่างมาก เรื่องนี้ส่งผลกระทบต่อทุกคนในจวนโดยเฉพาะฉีหวัง เขาเป็นขุนนางที่มีหน้ามีตาผู้หนึ่งในราชสำนัก ข่าวนี้ทำให้เขาถูกสั่งพักงานโดยไม่มีกำหนด หากแต่ถึงเขาไปทำงาน เขาก็ไม่มีหน้าไปสู้หน้ากับผู้ใดอยู่ดี เกรงว่ายามนี้คงจะพากันถอยห่างเขากันไปหมดด้วยเกรงว่าเขาจะมีรสนิยมเฉกเช่นเดียวกันกับถงเจี้ยนผู้นั้น 

น่าอับอายยิ่ง!!

ด้วยที่นี่เรื่องความรักระหว่างเพศเดียวกันมิได้เปิดกว้างเช่นโลกอนาคตที่จื่อหรานได้ไปประสบมาจึงเป็นเรื่องยากที่จะมีผู้ใดยอมรับได้

และที่น่าปวดหัวไปยิ่งกว่านั้นคือหลังจากผ่านไปสามวันจนร่างกายเริ่มดีขึ้นถงเจี้ยนก็มาถามหาความรับผิดชอบจากคนตระกูลฉี เพราะหากเขาไม่ทำตามแผนที่วางไว้ของผู้เป็นป้าไหนเลยจะต้องพบเจอกับเรื่องอัปยศเช่นนี้ ฉีหวังยิ่งรู้สึกปวดหัวอย่างยิ่งยวด

“ข้าบอกแล้วว่าไม่มีผู้ใดคิดขังเจ้ากับบ่าวไว้ด้วยกัน” 

“แต่ข้าได้ยินชัดเจนว่ามีคนลงกลอนประตูไว้ที่ด้านนอก มีเจตนาขังข้า” 

“นั่นมิใช่แผนการของบ่าวเจ้าหรือ เพื่อหวัง…กับเจ้า” ฉีฮูหยินไม่กล้ากล่าวออกมาตามตรงเพราะยิ่งคิดถึงวันนั้นตนยิ่งรู้สึกขนลุก 

ด้านถงเจี้ยนก็รู้สึกรับไม่ได้เช่นกันเมื่อมาได้ยินเรื่องที่ทำให้หวนนึกถึงคืนนั้นอีกครั้ง โก่วอี๋แม้ว่าจะเติบโตมาด้วยกัน เขาก็รับไม่ได้หากจะปล่อยให้อีกฝ่ายมีชีวิตอยู่เพื่อตอกย้ำเหตุการณ์อันเลวร้ายในค่ำคืนนั้น ดังนั้น จึงได้สั่งให้คนโบยอีกฝ่ายจนตายตั้งแต่คืนที่เกิดเรื่อง 

“เหตุเกิดในเรือนพวกท่าน หากมิใช่คนของพวกท่านจะเป็นผู้ใดไปได้” 

“หรือว่าจะเป็นจื่อหราน มีนางผู้เดียวที่ไม่ได้ไปงานเลี้ยง” ฉีเยว่เผิงรีบเอ่ยขึ้นแก้ไขสถานการณ์

“จื่อหรานหรือ ไม่ใช่ว่าพวกเจ้าไล่นางไปตั้งแต่ช่วงเย็นของวันนั้นแล้วหรือ นางจะอยู่ที่เรือนตระกูลฉีได้อย่างไร” เรื่องนี้ถงเจี้ยนได้สอบถามบ่าวในจวนตระกูลฉีแล้ว มิใช่ว่าคราแรกเขาไม่สงสัยฉีจื่อหรานผู้นั้น แต่เมื่อได้รับรู้เรื่องราวการตัดขาดออกจากตระกูลของอีกฝ่าย เขาจึงตัดฉีจื่อหรานออกไปโดยทันทีและอีกอย่างเขากับนางก็ยังไม่ได้มีเรื่องบาดหมางกัน นางไม่จำเป็นที่จะต้องทำกับเขาเช่นนี้ จะต้องเป็นคนที่เหลืออยู่และไม่พอใจบางอย่างในตัวเขาเป็นแน่

“แต่ไม่มีผู้ใดเห็นยามที่จื่อหรานออกไปจากจวนนี่” ฉีเยว่เผิงยังไม่ยอมแพ้ต้องการที่จะโยนบาปทั้งหมดไปให้น้องสาวตน จึงได้ไล่สอบถามบ่าวที่อยู่แถวนั้น 

“บ่าวไม่เห็นยามคุณหนูหกไปจากจวนเลยเจ้าค่ะ” 

“บ่าวก็ไม่เห็นขอรับ” 

“บ่าวก็ไม่…...”

“พอ!!” ถงเจี้ยนทนไม่ไหวจึงได้ตวาดลั่นขึ้น 

ในจังหวะนั้นเองฉีหวังที่นั่งเงียบมาโดยตลอดก็พูดขึ้น “หากเจ้าจะเร่งเอาความผิดมาโยนให้กับคนตระกูลฉี เห็นทีว่าข้าคงมิอาจจะยอมรับได้ เพราะมันมิใช่ความผิดของพวกเรา แต่ควรจะโทษตัวเจ้าเองดีหรือไม่ที่โชคร้ายเอง” 

คำพูดของฉีหวังทำให้ถงเจี้ยนกำหมัดแน่นเนื้อตัวสั่นเทา สายตากวาดมองสมาชิกตระกูลฉีทุกคนด้วยความโกรธ 

หากแม้แต่ท่านป้าที่เป็นญาติของเขาและเป็นผู้ที่คิดแผนการนี้ขึ้นมายังเมินหน้าหนีไปทางอื่นไม่รับผิดชอบใด ๆ  ถงเจี้ยนยามนี้จึงมีความคับแค้นอยู่เต็มอก ในหัวพลางครุ่นคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะทำให้ตระกูลฉีได้รับความเจ็บแสบอย่างสาสมที่สุด

วันต่อมาและอีกหลาย ๆ วัน จื่อหรานและอ้ายมี่ได้ออกเดินทางไปตามหาป่าที่สามารถเข้าไปเก็บสมุนไพรได้ในหลายเขตของเมืองหลวง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่พบกับสิ่งที่ต้องการ ไป ๆ มา ๆ ก็ใกล้ครบเจ็ดวันสำหรับการหมักปุ๋ยมูลสัตว์แล้ว 

จื่อหรานจัดการนำปุ๋ยมูลสัตว์มาผสมกับดินที่เตรียมไว้แล้วทิ้งเอาไว้อีกสามวัน จวบจนกระทั่งก่อนวันลงปลูก นางได้นำเมล็ดพันธุ์พืชต่าง ๆ มาแช่น้ำไว้ เช้าวันรุ่งขึ้นรากของเจ้าพืชต่าง ๆ ก็งอกออกมาให้เห็น เรื่องนี้ส่งผลให้ท่านยายเซี่ยนั้นตื่นเต้นเป็นอย่างมาก

ในที่สุดก็ถึงวันที่เซี่ยเถาทั้งตื่นเต้นและรอคอย ความตื่นเต้นนี้ทำให้นางเขย่ามือของบ่าวรับใช้คนสนิทรัวเร็วพร้อมบอกว่าเวลาที่ตนรอคอยมาถึงแล้ว วันนี้แหละตนน่าจะสามารถปลูกผักได้สำเร็จ 

หลังจากที่จื่อหรานสอนหญิงชราทั้งสองและบ่าวรับใช้ของตนเกี่ยวกับวิธีปลูกผักจนเสร็จสิ้นแล้ว ทุกคนต่างก็แยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนเองด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ แม้ว่าคราแรกจะรู้สึกไม่ดีที่ต้องใช้มือสัมผัสกับมูลสัตว์ที่มีกลิ่นแปลก ๆ แต่ท้ายที่สุดก็สามารถก้าวข้ามความแปลกของมันเพื่อทำในสิ่งที่ตั้งใจได้ 

“ข้าไม่เคยรู้เลยว่าการปลูกผักให้สำเร็จได้จะต้องมีขั้นตอนมากมายเช่นนี้ ถึงว่าที่ผ่านมาข้าปลูกแล้วมันไม่ขึ้นเลย” แม้กระทั่งไปเรียนรู้กับผู้เชี่ยวชาญยังไม่สามารถทำได้สำเร็จ

“ทีนี้เราก็รออีกห้าถึงสิบสี่วันผักก็จะขยายต้นสมบูรณ์กว่านี้เจ้าค่ะ” 

“ข้าชักจะรอไม่ไหวแล้ว” เซี่ยเถาถูมือตนเองไปมา แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังดูสง่างามในสายตาของผู้พบเห็น

“รอดูได้เลยเจ้าค่ะ”

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
ความคิดเห็น (1)
goodnovel comment avatar
Nattapong Sawilo
แนะนำเลยเรื่องนี้
ดูความคิดเห็นทั้งหมด

บทล่าสุด

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนพิเศษ 2 : ถูกกลั่นแกล้ง

    ตอนพิเศษ[2]พร้อมหน้าพร้อมตา วันเวลาผันผ่านไปนานหลายปีหากแต่แคว้นตี้ยังมีแต่ความสงบสุข ไร้ซึ่งความวุ่นวาย นอกจากนั้นยามนี้ยังกลายเป็นผู้นำในด้านสมุนไพรหายากและล้ำค่าอีก เซี่ยจื่อหรานกลายเป็นที่ปรึกษาพิเศษของสำนักหมอหลวง ไม่ว่าหัวขาวหัวดำต่างเรียกนางว่า ‘ท่านอาจารย์’ แทบทั้งสิ้น แม้ไม่อยากจะรับแต่ก็ต้องรับไว้ ไทเฮากล่าวว่าลับหลังนางพวกเขาก็เรียกขานนางว่าท่านอาจารย์อยู่ดี สู้ทำให้กลายเป็นที่ประจักษ์กันไปเลย ผู้ใดจะคิดว่าสตรีอายุน้อยจะมีความรู้แตกฉานในด้านสมุนไพรเช่นนี้ ทั้งสามารถนำสมุนไพรเหล่านั้นมาปรุงเป็นอาหารจานเด็ดได้ด้วยผู้ใดได้กินก็ล้วนแต่ติดใจ หากแต่มีโอกาสได้กินน้อยนัก เพราะชินอ๋องซื่อจื่อหวงภรรยายิ่งกว่าสิ่งใด คงมีแต่ชินอ๋องซื่อจื่อและเชื้อพระวงศ์ที่สนิทกระมังถึงจะได้กินฝีมือของท่านอาจารย์เซี่ย และก็เป็นจริงดังนั้น วันนี้เป็นวันจะเข้าคืนวันขึ้นปีใหม่ ทุกคนตกลงกันว่าจะมารวมตัวกันและเฉลิมฉลองปีใหม่กันที่เรือนซิ่งฝู ดังนั้นเซี่ยจื่อหรานจึงต้องเตรียมอาหารที่ทุกคนลงความเห็นว่าอร่อยหาที่ใดเทียม อาหารที่ว่าก็คือ ไก่ผัดเซียงเหมา นอกจากนั้นยังมีปลาผัดกันเจียง (ขิง) เนื้อแกะตุ๋นส

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนพิเศษ 1 : ถูกกลั่นแกล้ง

    ตอนพิเศษ[1]ถูกกลั่นแกล้ง สองขาแข็งแกร่งก้าวไปอย่างมั่นคงไม่มีซวนเซเลยแม้แต่น้อยแม้จะดื่มสุรามงคลเข้าไปเพียงใดก็ตาม ค่ำคืนนี้เขาจะได้ร่วมเรียงเคียงหมอนกับสตรีในดวงใจแล้วจะไม่ให้ตื่นเต้นได้อย่างไร ทว่ายิ่งเร่งรีบเหตุใดปลายทางก็ยิ่งห่างไกล หรือว่าเขากำลังตื่นเต้นเกินไป จึงรู้สึกว่าทุกอย่างเชื่องช้าไปเสียหมด แต่สุดท้ายก็สามารถพาตนเองไปอยู่ที่หน้าห้องที่ประดับตกแต่งด้วยผ้าสีแดงเต็มไปหมด ในขณะที่มือหนากำลังจะเอื้อมมือไปเปิดบานประตู จู่ ๆ องครักษ์ก็มารายงานว่าฝ่าบาทมีรับสั่งให้เขาไปทำภารกิจเร่งด่วนในคืนนี้ หากเป็นวันทั่วไปเขาก็คงไปโดยไม่อิดออด แต่คืนนี้เป็นคืนสำคัญของเขา คิดได้อย่างเดียวว่านี่ต้องเป็นการกลั่นแกล้งจากเสด็จลุงเป็นแน่ ไม่สิ อาจจะมีเสด็จย่าเข้าร่วมด้วย “ข้าไม่ไป” ชายหนุ่มปฏิเสธเตรียมจะเปิดประตูเข้าห้องหออีกครั้ง “เอ่อ ฝ่าบาทรับสั่งว่าหากซื่อจื่อไม่ไปจะทำการโยกย้ายพระองค์ไปประจำการที่แดนใต้ตั้งแต่คืนนี้โดยไม่ให้ฮูหยินติดตามไปด้วยขอรับ” “ฮึ่ม นี่มันเกินไปจริง ๆ” ชินอ๋องซื่อจื่อเสวี่ยจิ้นกัดฟันกรอดแม้จะรู้สึกขัดใจเพียงใด แต่สุดท้ายก็ต้องไป มาดูกันว่าเสด็จลุงจะกลั่นแกล้

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 48 : จบอย่างที่ควรจะเป็น 1/2 ตอนจบ

    ตอนที่[30]จบอย่างที่ควรจะเป็นภาพทุกอย่างตัดกลับไปที่ฉีจื่อหรานยังคงเป็นทารกน้อยครานี้เสิ่นเจียงร้องไห้ออกมาราวกับจะขาดใจ นั่นสิ นางเป็นแม่แบบใดกัน อุ้มท้องมาตั้งเก้าเดือน กว่าจะคลอดออกมา จื่อหรานในยามเป็นทารกก็น่ารักน่าชังยิ่ง นางทำกับเด็กที่ไร้เดียงสาเช่นนั้นได้อย่างไร สวรรค์ลงโทษแล้ว เป็นนาง นางเป็นมารดาที่ชั่วช้า เหล่าคนตระกูลฉีเริ่มรู้แล้วว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นผลจากการกระทำที่ตนได้กระทำกับฉีจื่อหรานอย่างโหดร้ายในชาติก่อน ชาตินี้ก็ยังกระทำซ้ำรอบเดิมอีก ไม่แปลกที่จะได้รับความทุกข์ทรมานทั้งกายและใจเช่นนี้ บัดนี้ความรู้สึกโกรธแค้น ความรู้สึกไม่เข้าใจ ไม่ยินยอมได้แปรเปลี่ยนเป็นความรู้สึกผิดมาจากใจจริง “หรานเออร์พวกเราขอโทษเจ้า โปรดให้อภัยพวกเราด้วย”เหล่าผู้ที่รับหน้าที่คุมตัวตระกูลฉีไปส่งที่แดนเหนือ รีบลงมาจากรถม้าเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้น ไม่นานพวกเขาก็ต้องถอนหายใจออกมาเพราะยามนี้เบื้องหน้าปรากฏเพียงร่างไร้วิญญาณของพ่อแม่ลูกตระกูลฉีเท่านั้น ใบหน้าของพวกเขายังมีคราบน้ำตาติดอยู่มากมายราวกับคนที่ร้องไห้ด้วยความทรมานจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต โดยเฉพาะคนผู้หนึ่งที

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 47 : จบอย่างที่ควรจะเป็น 1/1

    ตอนที่[30]จบอย่างที่ควรจะเป็น “เหตุใดจึงแต่งงานกันไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ” ยามนี้ชินอ๋องซื่อจื่อเสวี่ยจิ้นกำลังเอ่ยถามพระอัยยิกาพร้อมทั้งมีสีหน้าบึ้งตึงด้วยไม่พอใจอย่างยิ่งยวด “ย่าอนุญาตให้คบหากันนั่นก็ที่สุดแล้ว แล้วนี่เพิ่งคบกันได้หนึ่งเดือนจะแต่งงานกันเลยได้อย่างไร เวลาน้อยไป หรานเออร์หลานย่า ย่าไม่ยอมให้คบผู้ใดเพียงแค่ผิวเผินแน่นอน” เซี่ยไทเฮาว่าพลางดึงหลานสาวให้ไปอยู่ด้านหลังตน “แล้วหลานมิใช่หลานของเสด็จย่าเช่นเดียวกันหรือ อีกอย่างหลานหาใช่คนชั่วร้ายอันใด จะให้รอไปถึงเมื่อใดกัน เสด็จย่าอย่าใจร้ายกับหลานเลย” ว่าแล้วพลางส่งสายตาที่น่าสงสารไปให้คนรักที่อยู่ด้านหลังผู้เป็นย่า หวังว่านางจะเห็นใจเขาและช่วยพูดกับเสด็จย่า หากแต่นางกลับมีเพียงรอยยิ้มน้อย ๆ และไม่กล่าวอันใดอีก “ระยะเวลาไม่กำหนด แต่หากซื่อจื่อทำให้ย่าเห็นว่าเจ้าสามารถดูแลหรานเออร์ได้ดี เมื่อนั้นย่าจะอนุญาตเอง” “โธ่ แล้วหากว่ากว่าจะเป็นที่ถูกใจเสด็จย่ามันก็ผ่านไปหลายปีแล้วเล่า” “หลายปีก็หลายปีสิ ซื่อจื่อรอไม่ไหวหรือ เช่นนั้นย่าจะได้ให้หรานเออร์ไปแต่งกับผู้อื่นที่ความอดทนมีมากกว่า” “ไม่ได้นะพ่ะย่ะค่ะ!! เฮ้อ เช่นนั้น รอก็ร

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 46 : ต้นตอของโรคระบาด 1/2

    ตอนที่[29]ต้นตอของโรคระบาด ใช้เวลากว่าแรมเดือนกว่าที่นางจะสามารถจัดการธุระสำคัญทั้งหมดเสร็จสิ้น หลังจากที่เหตุการณ์อันตรายผ่านพ้นไป ไทเฮาจึงได้ชวนเชื้อพระวงศ์ไปพักผ่อนที่ตำหนักซินหยานอีกครา แม้อากาศจะเริ่มเหน็บหนาวแล้วแต่ยังสามารถเดินทางออกไปได้อยู่ ยามนี้ที่นั่นคงงดงามไม่น้อย “จื่อหราน รอบนี้เราไปปีนเก็บผลไม้กันมาเยอะ ๆ อย่าให้พี่ใหญ่จับได้” ท่านหญิงเสวี่ยเร่อมากระซิบข้างหูนางด้วยความซุกซนเช่นเคย นั่นสินะ ผลไม้หลายอย่างที่เติบโตในอากาศหนาวคงกำลังออกผลผลิตเต็มต้น หากแต่สิ่งที่นางตื่นเต้นนั้นมิใช่แค่การเก็บผลไม้เหล่านั้นอย่างเดียว หากแต่เป็นสิ่งที่คนผู้นั้นกล่าวว่ามีบางอย่างจะพูดคุยกับนาง “หรานเออร์ พี่มีบางอย่างจะพูดคุยกับเจ้า” เพียงแค่ถึงตำหนัก เขาก็ไม่รอช้าที่ลากนางเข้าไปในป่า ในป่าที่เป็นป่าจริง ๆ หาใช่สวนบุปผาที่สวยงามแต่อย่างใด ลากมาอย่างรวดเร็วและไกลชนิดที่ว่าเสวี่ยเร่อตามไม่ทันกันเลยทีเดียว พร้อมทั้งคำเรียกขานที่เปลี่ยนไปทั้งหมด “เจ้าหนาวหรือไม่” เขาว่าพร้อมถอดเสื้อคลุมมาคลุมให้นางโดยไม่รอคำตอบ แต่เขาควรจะถามว่าเหนื่อยหรือไม่ก่อนสิ ก็เล่นลากกันมาไกลเช่นนี้ “เจ้า

  • คุณหนูหกผู้ไร้ค่ากลายเป็นบ้าไปเสียแล้ว   ตอนที่ 45 : ต้นตอของโรคระบาด 1/1

    ตอนที่[29]ต้นตอของโรคระบาด โทษของตระกูลฉีสามารถทำให้ร้ายแรงไปจนถึงขั้นประหารชีวิตเฉกเช่นองค์ชายห้าได้ แต่เพราะนางอยากให้พวกเขาได้ลิ้มรสความสิ้นหวังและการถูกทอดทิ้งว่าเป็นอย่างไร เมื่อไม่สามารถกลับบ้านและกลับมาสู่จุดเดิมที่เคยอยู่ ตกต่ำไร้คนเหลียวแล แบบนั้นคงจะเจ็บแสบกว่าการประหารและลิ้มรสความเจ็บปวดเพียงแค่ระยะเวลาสั้น ๆ ที่จริงแล้วตระกูลฉีไม่ได้ฉลาดล้ำโดยการไปร่วมมือวางแผนการกับองค์ชายห้าถึงเพียงนั้น แต่เพราะพวกเขาถูกหลอกใช้ ว่าจะมอบยารักษาให้รวมถึงช่วยแก้แค้นหากพวกเขาสามารถเผาที่เก็บยาสมุนไพรของนางได้สำเร็จ แต่น่าเสียดายที่มันไม่ได้ง่ายถึงเพียงนั้น เพราะสมุนไพรทั้งหมดนางเก็บเอาไว้ที่เรือนที่ถูกสร้างขึ้นใกล้กันกับเรือนซิ่งฝู แต่เมื่อลงมือทำแล้วก็ต้องรับผลของการกระทำ ชีวิตหลังจากนี้ของพวกเขาจะเป็นเช่นไรก็แล้วแต่โชคชะตากำหนดก็แล้วกัน ด้านองค์ชายห้าผู้ที่เป็นต้นเหตุและต้นตอของความวุ่นวายในเมืองหลวงที่เกิดขึ้นมาตลอดหลายวัน และเป็นคลื่นใต้น้ำในราชสำนักมาหลายปีก็ถูกจับกุมตัวและถูกสั่งโทษประหารเรียบร้อยแล้ว เรื่องราวเริ่มต้นที่องค์ชายห้าผู้ที่มักวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด แท้จริงกลั

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status