ออด...แอด...ออด...แอด...!
เสียงรถม้าเก่า ๆ ที่ล้อไม้เริ่มผุพังกับเสียงกุบกับของการย่ำเท้าจากม้าเทียมที่อายุนับว่าไม่น้อยแล้วดังระคนปนเปไปกับเสียงจอแจของผู้คนเมื่อรถม้าเริ่มผ่านตลาดใหญ่ในตัวเมืองฉางเหอแคว้นเยว่หาน ซึ่งเป็นแคว้นที่ใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ เป็นรองเพียงแคว้นเซี่ยงหยวน
เมืองฉางเหอเป็นเมืองใต้อาณัติของหานอ๋องอนุชาสุดที่รักของฮ่องเต้ในรัชศกปัจจุบันของแคว้นเยว่หาน แต่ไม่มีใครเคยยลโฉมพักตร์ชัด ๆ สักครั้ง เพราะไม่ว่าจะพบปะผู้คน หรือว่าจะออกว่าราชการพร้อมฮ่องเต้ทุกคนจะได้เห็นเพียงเสี้ยวหน้าและดวงตาเท่านั้นจากหน้ากากเงินรูปพยัคฆ์ที่ปิดบังเอาไว้ แต่กระนั้นเขาก็ยังเป็นที่ใฝ่ฝันหาของเหล่าสตรีในเมืองหลวงแคว้นเยว่หาน
แต่ทว่านานทีปีหนเขาจะได้กลับไปเมืองหลวงสักครั้ง ดังนั้นจึงไม่มีใครเคยได้รับรู้ใบหน้าแท้จริงของหานอ๋องสักคนเว้นเพียงคนที่สนิทเท่านั้นซึ่งดูเหมือนจะมีเพียงสองคนในแคว้น คือโอรสสวรรค์กับองครักษ์ข้างกายนามว่าหลี่เฟิง
เสียงรถม้าเก่า ๆ นี้ภายในมีสตรีนั่งอยู่ด้านในพร้อมสาวใช้นามว่าซูซินวัยสิบหกหนาวกับ น้องชายนามว่าซูหมิงวัยห้าหนาว กับคนขับรถม้าที่นั่งบังคับม้ามีใบหน้าละม้ายคล้ายกันเนื่องจากเป็นบ่าวที่เกิดในเรือนตระกูลจาง
นอกจากเสียงรถม้าเก่า ๆ ที่ดังระคายหูแล้วยังมีเสียงร้องจ๊อก ๆ ของท้องจากความหิวโหยของทุกคนดังอยู่ด้วย ไม่เว้นแม้แต่จางม่านอวี้ก็เช่นกัน
ในรถม้าแม้จะเก่าเพียงใดแต่ยังคงมีกลิ่นสะอาดของเบาะที่บุด้วยผ้ายัดด้วยฝ้ายบาง ๆ ที่บ่าวรับใช้ของตระกูลจางต่างขยันทำความสะอาดเอาออกมาซักและตากแดดทุกวันทำให้นางรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเล็กน้อย คล้ายกับว่าในโชคร้ายก็ยังมีโชคดีเหลืออยู่ ทำให้นางสงบใจได้
แต่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ม่านอวี้เอนหลังพิงกับเบาะรองพลางใช้ผ้าเช็ดหน้าโบกพัดเบา ๆ อย่างเชื่องช้าเนื่องด้วยไอร้อนในเดือนแปด ที่ส่งบรรยากาศในรถม้าช่างร้อนอบอ้าวเสียเหลือเกิน ไม่ได้ต่างอะไรกับการนั่งอยู่ในเตาเผาเหล็กร้อน ๆ ของโรงตีเหล็กสักนิด
แม้หน้าร้อนของเมืองฉางเหออากาศช่างโหดร้าย แต่สิ่งที่ร้อนยิ่งกว่านั้นคือไฟหนี้ที่กำลังเผาผลาญตระกูลจาง
นางหลับตาลงพยายามจะลืมความจริงที่เสื้อผ้าอาภรณ์ที่นางกำลังสวมใส่อยู่นี้ เป็นชุดสุดท้ายที่ยังดูดีพอจะใส่ไปพบปะผู้คน ไม่ใช่เพราะนางยากจนอย่างเดียวนะ แต่เสื้อผ้าดี ๆ ส่วนใหญ่ถูกขนไปขายจนเกลี้ยงเรือนหมดแล้วเพราะอะไรน่ะเหรอ...ฮึ!
เดี๋ยวจะเท้าความในชีวิตบัดซบนี้ให้ฟังก็แล้วกัน
อันที่จริงจางม่านอวี้คือสตรีจากอีกโลกที่เทคโนโลยีนำหน้าจนมีเจ้าสิ่งที่เรียกว่าเอไอสามารถสร้างสรรค์สิ่ง ต่าง ๆ ได้มากมาย ไม่เว้นแม้แต่ตัวละครในนิยายจนเกิดระบบโลกเสมือน StoryWeaver ขึ้นมา
และใช่ม่านอวี้ผู้เป็นสาวน้อยวัยสิบเจ็ดในยุคปัจจุบันเป็นวัยรุ่นเจนซีผู้มีฝันหรือจะไม่ชื่นชอบโปรแกรมนี้ และแน่นอนว่าเธอได้สร้างตัวละครที่มีชื่อแซ่เดียวกับตัวเองคือจางม่านอวี้ขึ้น เพื่อให้เป็นนางเอกผู้สมบูรณ์แบบในโลกเสมือนแห่งนี้หวังเติมฝันให้เป็นจริง ครั้นเมื่อจะกดตกลงระบบเฮงซวยนำพาเธอเข้ามาในโลกเสมือนนี้และใช้ชีวิตแทนตัวละครที่สร้างขึ้นมา
แน่นอนว่าคำสั่งทั้งหมดติดบั๊ก! จากชีวิตนางเอกผู้สมบูรณ์แบบกลายเป็นตัวประกอบสุดน่าเวทนา
ร่างกายของเธอเป็นเหมือนในสิ่งที่เธอป้อนคำสั่งทุกประการ รูปร่างงดงามดั่งหยกขาวเจียระไนสมชื่อม่านอวี้ ผิวขาวราวหิมะแรก ใบหน้าอ่อนหวานน่ารัก ริมฝีปากจิ้มลิ้มพริ้มเพรา หน้าอกอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือ เอวคอดกิ่วรับกับสะโพกผายผึ่งดั่งนาฬิกาทราย แต่ความสวยดันเป็นอย่างเดียวที่ดีในโลกนี้ของเธอเท่านั้น
ที่เหลือสารเลว!
เพิ่งรู้ว่าความสวยกินไม่ได้ก็ตอนต้องเอาชีวิตรอดให้ได้นี่แหละ แต่เมื่อใจอยากสงบก็สงบได้ไม่สุดยามคิดถึงชะตาชีวิตของตัวเอง
ไอ้บ้าเอ๊ย...มาใช้ชีวิตในโลกนิยายทั้งที แทนที่จะได้สบายนอนบนกองเงินกองทอง แต่งหน้าแต่งตัวเป็นคุณหนูชิล ๆ บนตั่งเตียงรอพระเอกหรือตัวร้ายที่หล่อ ๆ เหลือรับประทานมาฉุด ข้ากลับต้องมาวิ่งดิ้นรนหาเงินไปใช้หนี้หัวหมุน เพื่อไม่ให้เจ้าหนี้มายึดบ้านจนกลายเป็นขอทานข้างถนน!!
ไอ้พ่อตัณหากลับกับนังดอกบัวขาวตัวดีนั่นด้วย...พอกันทั้งคู่เลย!
เพราะชีวิตติดบั๊ก จากครอบครัวนางเอกแสนอบอุ่น เป็นคุณหนูผู้เพียบพร้อมอยู่ในเมืองหลวงนั่งกินนอนกิน รอพระเอกที่มีชาติตระกูลหรือเชื้อพระวงศ์มาสู่ขอกลายร่างเป็นตัวประกอบเฮงซวยลูกสาวพ่อค้าเกลือในเมืองฉางเหอที่มีดีแค่ความสวย แต่สกิลใด ๆ ก็ไม่มีติดตัวสักนิด
บิดานามว่า จางหงเหยียน หลงเมียเด็กที่เคยเป็นลูกบุญธรรมซึ่งบิดาตั้งใจรับมาเป็นพี่สาวของนาง สุดท้ายกลายเป็นแม่เลี้ยงที่อายุห่างจากนางแค่สองปี
ช่างดีเหลือเกินรับนางมาเลี้ยงหนึ่งปีก็เลื่อนฐานะจากลูกบุญธรรมกลายเป็นเมียบุญธรรม!
แต่หากชีวิตจะบัดซบแค่นี้...ก็คงไม่ใช่ตัวประกอบติดบั๊กสินะ สงสัยระบบคงกลัวว่านางจะสบายเกินไป จึงสร้างให้นางเสียมารดาไปหลังจากนังพี่สาวตัวแสบเปิดเผยตัวว่าเป็นเมียอีกคนของบิดา
ท่านแม่คงอยู่ไม่สู้ตายจึงตรอมใจ เพียงข้ามคืนจากผมสีน้ำหมึกก็กลายเป็นสีเงินและหลังจากนั้นหนึ่งเดือนก็ค่อย ๆ หมดลมหายใจทิ้งให้ลูกสาวน่ารัก ๆ อย่างนางต้องเผชิญชะตากรรมลำพัง
หลังจากมารดาตายนางเพิ่งรับรู้ว่าการค้าขายเกลือนั้นเงินทองไม่เคยนำกลับเข้าสู่ตระกูลไม่พอ บิดายังเอาไปปรนเปรอเมียเด็กจนหมด และที่สำคัญนางได้ติดพนันจนเป็นหนี้หัวโตและหนีกลับบ้านเดิมไป
บิดาที่กินไม่ได้นอนไม่หลับรีบหอบสมบัติที่เหลือไม่กี่อย่างตามเมียเด็กที่แสนมารยาอย่าง เม่ยเหลียน ที่ชื่อสวนทางกับนิสัยใจคอจนสิ้น จนอยากไปบีบคอถามคนตั้งชื่อให้นางว่าอะไรเข้าฝัน
เม่ยเหลียน...แม่ดอกบัวหรือ...ดอกทองสิไม่ว่า!
เม่ยเหลียนกับบิดาช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมราวกับกิ่งทองใบหยก ห่อหมกใบยอแต่ก็อาจจะยังไม่ใช่นะ
มันต้อง...
ตะกร้อกับรองเท้า ผีเน่ากับโลงผุเท่านั้น!
‘อย่าให้ข้าเจอหน้า...จะกระทืบให้จมดิน’
ผัวะ!
จู่ ๆ รถม้าก็กระแทกเข้ากับหลุมตรงทางเลี้ยวเพื่อเปลี่ยนทิศไปยังร้านรับแลกเงินตระกูลเฉิน จนตัวม่านอวี้
กระดอนเด้งลอยขึ้นไปเล็กน้อยก่อนจะร่วงกลับลงมา ทำให้นางต้องรีบคว้าขอบหน้าต่างที่กรอบแกรบจวนเจียนจะพังเต็มทนเอาไว้แน่น
“คุณหนู...ไม่เป็นไรนะขอรับ”
เสียงคนขับรถม้าที่เป็นบ่าวรับใช้ชายของตระกูลดังลอดเข้ามา นางไม่ได้ตอบในทันทีแต่ว่าหันมองเจ้าเด็กน้อยซูหมิงที่ลูบหัวป้อย ๆ กับซูซินสาวใช้ที่ไม่ทันได้ระวังหัวโขกกับรถม้า จนอดสงสารพวกเขาไม่ได้
นางกำมือแน่นจนเล็บที่ทำความสะอาดอย่างดีจิกเข้าฝ่ามือและใช้ความคิดซ้ำไปซ้ำมาจนกระทั่งซูซินจับขานางเขย่า
“เป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะคุณหนู”
นางพลันได้สติ ก่อนถอนลมหายใจออกมาหนึ่งสายส่ายหน้าแล้วยิ้มบาง ๆ ให้พวกนาง
ตัวประกอบติดบั๊กคนนี้มีเจ้าหนี้เก่าที่ไม่กล้าเข้าหาเพราะเสี่ยงต่อการเสียตัว ตาแก่เหล่านั้นไม่ได้สนเงินทองสนแต่เรือนร่างของนาง
และเป้าหมายวันนี้นางต้องกู้เงินจากคุณชายเฉิน พ่อค้าคหบดีคนใหม่เจ้าของโรงรับแลกเงินตระกูลเฉินเพื่อปิดหนี้เก่าให้หมด อย่างน้อยเหลือลูกหนี้แค่คนเดียวให้จัดการยังพอรับมือได้ง่ายกว่า
ม่านอวี้เงยหน้าขึ้นมองออกไปนอกหน้าต่างบานเล็ก คิดสภาพตัวเองที่มีรูปลักษณ์ดั่งสตรีงามล่มเมือง กับเคราะห์กรรมของคนสวย มันต่างอะไรกับตั๋วแลกเนื้อในสายตาเจ้าหนี้ชั้นต่ำเหล่านั้น
นางเอามือกุมหน้าอกอวบอิ่มที่เต็มไม้เต็มมือพลางคิด ‘ถ้าความสวยของข้าแลกข้าวสารได้ก็ดีน่ะสิ ข้าคงไม่ต้องนั่งรถม้าผุ ๆ พัง ๆ แบกหน้าไปพึ่งพาคนแปลกหน้าอย่างนี้หรอก’
ออด...แอด...ออด...แอด เสียงรถม้ายังคงดำเนินต่อไปเมื่อเส้นทางเริ่มหดสั้นลงทีละน้อยสู่ชะตากรรมบทใหม่ที่หวังว่าคุณชายเฉินโยว่เหวย ผู้เป็นดั่งความหวังของตระกูลจางของนางจะเมตตาคนน่ารักน่าเอ็นดูอย่างนางนะ
ยิ่งมองตาแป๋ว ๆ ของซูหมิงยิ่งปวดใจ เจ้าเด็กน้อยผู้นี้แม้มีเนื้อที่สุดในบ้าน แต่ยังมีเสียงท้องร้องดังเป็นระยะพาให้อดสงสารไม่ได้
แต่นางคงลืมคิดว่าตัวประกอบติดบั๊กชีวิตล้วนไม่ง่ายดายเท่าไหร่นัก