Share

บทที่ 5 คนร้ายกาจ

last update Last Updated: 2025-02-02 17:32:29

เธอหยิบรากบัวที่ดึงขึ้นมาจากน้ำได้รากบัวอวบๆก็ถูกจับมุ่งหน้าไปยังครัวไฟ หลินเฟิงมีดเล่มเล็กที่มีอยู่เล่มเดียวในครัวมาปลูกเปียกนอกของรากบัวออกก่อนจะเอาไปล้างน้ำให้สะอาด พร้อมขึ้นเคียงหั่น รากบัวสีขาวราวหิมะถูกหั่นออกมาเป็นแว่นๆอย่างสวยงาม

ร่างบางหลังจากหั่นรากบัวแช่น้ำเรียบร้อยแล้วเธอจึงหันไปทางตะเเกรงไฟสามขาที่ไฟกำลังลุกอีกทั้งประกายไฟก็แตกออกมาอย่างร่าเริง

หม้อดินเผาที่ใส่น้ำครึ่งหม้อถูกยกขึ้นค้างบนตะแกรงเหนือไฟ หญิงสาวทิ้งน้ำในหม้อร้อนเดือดขึ้นจึงหยิบตะเกียงไฟเก่าๆฝุ่นเขลอะเหมือนไม่ได้ใช้งานมาราวๆร้อยกว่าปีแล้วอีกทั้งเชื้อเทียนที่อยู่ด้านในก็ยังเหลือเยอะอยู่

หญิงสาวรีบจุดไฟในตะเกียงเพื่อให้ใช้น้ำทางไปยังสระบัวหลังบ้านอีกครั้งเพื่อที่จะไปเก็บฝักบัวเพื่อนำดีบัวด้านในมาต้มชาให้กลายเป็น "ชาดีบัว" พอเธอไปถึงก็พบว่าน้ำขึ้นสูงกว่าเมื่อตอนกลางวันมาก

นั่นก็เป็นเพราะนี่คือตอนกลางแถมซ้ำยังเป็นคืนจันทร์เต็มดวงแสงจันทร์สีทองอร่ามไปทั่วพอกระทบกับน้ำที่อยู่ในสระก็เป็นแสงระยิบระยับชวนมอง

มือเรียวรีบเอื้อมลงไปเก็บฝักบัวและเมื่อได้ตามต้องการแล้วจึงใคร่ยืนดูน้ำที่มีแสงจันทร์สะท้อนเกือบลืมไปว่าเธอค้างหม้อดินต้มน้ำไว้อยู่

จางหมิ่นบังคับร่างกายของหลิงเฟิงวิ่งกุลีกุจอตรงไปยังครัวไฟพร้อมฝักบัวหลายฝักกับตะเกียงในมือทันทีพอมาถึงก็เห็นน้ำที่เดือดในหม้อดินผุดๆอย่างสำราญใจ

"ชู่วว~ เกือบไปแล้วช้ากว่านี้ไฟคงได้ไหม้หม้อเป็นแน่"

มือเรียวเริ่มคว้ารากบัวหยิบลงไปในหม้ออย่างระมัดระวังไม่ให้น้ำกระเด็นขึ้นมาลวกมือตนเองจนสุกเสียก่อนรากบัวจะสุก

มือเรียวๆหยิบฝาหม้อดินที่ถูกขัดหยาบๆมาปิดไว้ก่อนจะลงมือแกะฝักบัวพร้อมหั่นเอาดีบัวออกมาเตรียมทำน้ำชา

"ไม่เเปลกที่จะไม่เจริญอาหารกระเพาะอาหารมีรสจืดชืดนี่เองหลินเฟิงถึงไม่ยอมกินจนไม่เหลือเคล้าคุณหนูตระกูลผู้ดีมีสตางค์ขนาดนี้"

จางหม่นพึมพำในริมฝีปากเบาๆก่อนจะมีเสียงขึ้นมาขัดความคิดของเธอ

"นั่นเจ้ากำลังทำอะไร?"

เสียงเย็นชาประดุจน้ำแข็งในขั้วโลกเหนือของผู้ชายหน้าตายดังขึ้นข้างหลังเธอ หญิงสาวไม่จำเป็นต้องหันมองก็รู้ว่าเป็นใคร

"อ่อข้ากำลังเดินขึ้นเขา"

หญิงสาวตอบสวนกลับไปอย่างไม่คิดเมื่อตัวของชายปริศนายิงคำถามว่าหาเธอ แต่คำตอบของเธอทำให้ใบหน้าที่ตายอยู่แล้วของชายหนุ่มยิ่งแข็งทื่อเข้าไปใหญ่

"อย่ามาปลิ้นปล้อนตลบตะแลงต่อหน้าข้านะก็เห็นๆอยู่ว่าเจ้ากำลังทำกับข้าว"

"ก็รู้นิแล้วจะถามทำไม"

จางหมิ่นพึมพำเบาๆ คิ้วของชายหนุ่มกระตุกเห็นเมื่อว่าหญิงสาวพึมพำบ่นเขาในลำคอ

"นั่นเจ้าพูดอะไรเมื่อครู่"

"ก็เปล่านะเจ้าคะ"

"โกหก"

"ก็ในเมื่อรู้ว่าข้าโกหกแล้วจะถามทำไมล่ะเจ้าคะ"

"สามหาว"

สิ้นเสียงโต้กลับของชายหนุ่มร่างกายของหลินเฟิงค่อยๆ หันไปหาเขาพบคนที่เธอยังคิดว่าเป็นเจี้ยนหยียืนอยู่แต่ก็คงไม่ใช่แค่คิดแล้วเพราะหานเจียเจิงชายชราคนนั้นมีลูกชายแค่  2คนลูกสาวอีก 1คนและเจี้ยนหยีเป็นลูกชายคนโตของเขา

ซึ่งชายแก่หานเจียเจิงเลี้ยงลูกสามคนมาตัวคนเดียวเหตุเป็นเพราะฮูหยินหาน หานจินเยว่ สียไปตั้งแต่นางคลอดหานจื่อรุ่ย กสาวคนเล็กของตระกูลหาน ป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่หานเจียเจิงหวงแหนราวกับหยกมณีล้ำค่าในชีวิตดวงน้อยๆ ของเขา

ร่างกายของหลินเฟิงแกล้งทำเป็นหาวฟอดๆสามครั้งพลันใบหน้าตายซ้ำซากของชายหนุ่นเกิดแดงขึ้นจากความโมโหแต่เขาก็ยังคงพยายามนิ่งเฉยตามเดิม

"อ่าวทำไมหน้าแดงล่ะข้าคิดว่าเป็นคำสั่งให้ข้าหาวเสียอีก"

จางหมิ่นพูดล้อเลียนชายหนุ่มที่ยืนตระหง่านกอดอกแววตาบึ้งตึงแม้อีกฝ่ายจะพยายามทำหน้าว่างเปล่าก็ตาม แต่ความพยายามของเขาก็ไร้ผลโดยสิ้นเชิงมีแต่จะทำให้หน้าตาเคล้าโคลงผู้ดีมีวาสนาของเขาบูดบึ้งไปด้วย

"น่ารำคาญจริงๆ"

เสียงทุ้มแผ่วเบาเล็ดออกมาตามไรฟันของเจี้ยนหยีชายหนุ่มมาดขรึมแต่ก็เถอะนะ มันก็ไม่ได้ทำให้จางหมิ่นกลัวเธอเพียงแค่ขำเบาๆ กับกิริยาของเขาเท่านั้น

"พอเถียงไม่สู้ก็บอกว่าข้าน่ารำคาญเจ้านี่มันเป็นคนยังไงกัน"

นั่นทำให้ใบหน้าที่แดงเหมือนเลือดไปเลี้ยงส่วนหัวของเขามากเกินไปก็ยิ่งสีเข้มขึ้นเหมือนกับว่าอีกนิดเลือดคงจะทะลักออกมาตามรูขุมขนหรือออกมาจากหูเขาแน่ๆ

"อย่าโกรธไปเลยหน่าข้าพูดความจริง รู้มั้ยตอนที่เจ้าโกรธหน้าเจ้าแก่ลงไปอีกสามปีเลยนะ"

หญิงสาวยังยุแหย่ชายหนุ่มต่อไปจนเขาทนไม่ได้จึงสะบัดชายผ้าและเดินหายลับเข้าไปในทางเดินมืดๆที่ไม่มีโคมไฟคอยติดไว้ตามทางเพราะว่าต้องประหยัดคบเทียนไว้ใช้ยามฉุกเฉินจริงๆ

หลังจากที่ชายหนุ่มออกไปตอนนี้อาหารก็ถูกจัดอย่างเรียบร้อยแล้วแม้ว่าอาหารจะยังไม่ครับห้าหมู่แต่ก็มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย

รากบัวมีรสหวานทั้งยังช่วยบำรุงคนแก่เยี่ยงหานเจียเจิงได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ต้มรากบัวค่อยๆถูกตัดใส่ถ้วยดินเผาห้าถ้าอย่างบรรจงสวยงามก่อนเธอจะยกออกไปและเห็นสาวน้อยจื่อรุ่ยนั่งกุมท้องอย่างเจ็บปวด

เสียงร้องไห้คร่ำครวญดังระงมจางหมิ่นที่อดีตเคยเป็นหมอแม้จะอยู่ในแผนกผ่าตัดเธอก็เคยเรียนเรื่องนี้มาบ้างถาดสำรับถูกวางลงบนโต๊ะ

แล้วจึงรีบเข้าไปดูอาการของเด็กสาวแม้นทีแรกเธอจะดูรังเกียจรังชังจางหมิ่นอยู่แต่ด้วยอาการปวดท้องหนักขึ้นจนเธอแทบจะลงไปกองกับพื้นและดิ้นทุรนทุราย

สุดท้ายก็ยอมให้จางหมิ่นดูอาการแต่โดยดีพบว่าเธอเป็นโรคกระเพาะเข้าเสียแล้วจึงสั่งให้หรงเหยาที่ยืนมองอยู่ตรงนั้นรินชาดีบัวที่อยู่ในกามาให้เธอ

แม้นว่าหรงเหยาไม่ค่อยเต็มใจแต่ก็คงต้องยอมทำตามแต่โดยดีเพราะน้องเล็กของเขาดิ้นเหมือนกำลังจะขาดใจก็ไม่ปาน

"อ่ะนี่กินนี่ก่อนมันช่วยบำรุงม้ามและยังอุ่นท้อง"

จางหมิ่นค่อยๆพยุงเด็กสาวขึ้นมาและป้อนน้ำชาให้เธอแม้น้ำชาจะไม่ขมมากพอที่เด็กสาวพอที่จะกลืนลงไปได้แต่จื่อรุ่ยไม่ได้รับสารอาหารที่มีรสชาติมาหลายปีแล้วนั่นทำให้หน้าเธอออกจะเหยเกอยู่บ้าง

"หรงเหยาไปตามพ่อกับพี่ใหญ่เจ้ามากินมื้อค่ำ"

เสียงใสๆของหลินเฟิงดังขึ้นเพื่อออกคำสั่งกับหรงเหยาเด็กหนุ่มแสนจะดื้อรั้นก่อนที่เขาจะเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปทางห้องเก็บฟืน

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทส่งท้าย คำมั่นสัญญา

    สี่ผ่านไปตอนนี้หลินเฟิงมีลูกสาวสมใจลูกชายฝาแฝดอายุหกขวบส่วนลูกสาวอยู่ในวัยกำลังอายุสองขวบซึ่งกำลังดื้อจนนางเองก็ปวดหัวไม่น้อย “ท่านแม่” เด็กน้อยซูฮวาวิ่งมาหาท่านแม่ด้วยใบหน้าที่มอมแมมคงจะโดนพี่ชายทั้งสามแกล้งมาอีกจึงรีบวิ่งมาฟ้องนางแบบนี้ “เด็กน้อยของแม่เจ้าไปเล่นซนที่ไหนมา” หลินเฟิงอุ้มลูกขึ้นมานั่งบนตักและเช็ดใบหน้าให้ลูกสาวพร้อมกับหอมแก้มไปหนึ่งที “ท่านพี่แกล้ง” ได้ทีจึงรีบฟ้องท่านแม่แต่เด็กน้อยก็ไม่ร้องไห้งอแงตั้งคลอดจนถึงตอนนี้ซูฮวาเป็นเด็กเลี้ยงง่ายและฉลาดกว่าเด็กในวัยเดียวกัน “น้องหญิงพี่กลับมาแล้ว” เจี้ยนหยีเดินเข้ามาในจวนเห็นนางกำลังเช็ดตัวให้ลูกสาวที่เจี้ยนหยีหวงยิ่งกว่าอะไร “ท่านพี่กลับมาเร็วจังเจ้าค่ะ” หลินเฟิงให้เจี้ยนหยีออกไปซื้อสมุนไพรเพื่อเตรียมไว้สำหรับคนไข้ไม่คิดว่าจะกลับมาเร็วขนาดนี้เพราะยังไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม “พี่คิดถึงน้องกับลูกๆ ใช่ไหมเด็กน้อย” “ท่านพ่อ อุ้มๆ” เด็กน้อยชูแขนให้เจี้ยนหยีอุ้มเขาไม่รอช้าที่จะอุ้มลูกสาวขึ้นมาแนบอกและหอมแก้มซ้ายขวาจนซูฮวาหัวเราะอย่างชอบใจ “คิก คิก คิก”

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 28 ลูกชายของเรา

    หกเดือนหลังจากนั้นหลินเฟิงก็ได้ให้กำเนิดลูกชายฝาแฝดเจี้ยนหยีดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่ตอนนี้ได้แต่นั่งมองลูกชายทั้งสองที่เพิ่งกินนมแล้วหลับไป “เจ้าจะให้ชื่อว่าอะไร” หานเจียเจิงถามลูกชายที่ดูเหมือนจะไม่ได้คิดชื่อนี้ไว้ “ข้ายังไม่ได้คิดเลยท่านพ่อ” เพราะมัวแต่เป็นห่วงหลินเฟิงไปหน่อยจึงไม่ได้คิดชื่อไว้ให้ลูกชายทั้งสอง “นั้นข้าจะให้ชื่อ พี่คนโตชื่อ จางซิงอี ส่วนคนเล็กชื่อ จางซีห่าวเจ้าว่าดีหรือไม่” หานเจียเจิงหันไปถามลูกชายที่พยักหน้ารับหน้าช่างน่าเกลียดน่าชังยิ่งนัก “ซิงอี แปลว่า คนดีและมีความสุข ส่วน ซีห่าว คือเหมือนฮีโร่ โตขึ้นมาให้เจ้าทั้งสองดูแลพ่อและแม่” “ขอบใจท่านพ่อมาก” “พี่สะใภ้ฟื้นแล้ว” จื่อรุ่ยรีบวิ่งมารายงานพี่ชายและท่านพ่อที่รออยู่หลังจากคลอดลูกหลินเฟิงก็สลบไปเพราะเสียเลือดมาก เจี้ยนหยีเมื่อได้ยินอย่างนั้นจึงรีบวิ่งไปหานาง “น้องหญิง น้องฟื้นแล้ว” เจี้ยนเข้ามานั่งข้างกายของนางตอนนี้สีหน้าของนางเริ่มมีเลือดฝาดขึ้นมาเล็กน้อยหมอให้ต้มยากินจนกว่าจะแข็งแรง “น้องอยากเห็นหน้าลูกเหลือเกิน” ถึงแม้จะยังเจ็บปวดอยู่แต่ก็อย

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 27 นางมารร้าย

    “ข้าแค่มาเยี่ยมน้องสาวของข้า” ซูหรานมองไปที่หลินเฟิงที่ตอนนี้สวยยิ่งกว่าอะไร ในความคิดหลินเฟิงคงตากแดดจนตัวดำและดูผิวนางสิ ขาวเนียนไม่มีที่ติ “พี่หญิงมาหาข้ามีเรื่องอันใด” “เจ้าได้ดีแล้วไม่หันไปดูแลพ่อที่แก่ชราบ้างเลยหรือตอนนี้ทางบ้านมีหนี้สินไปหมด” ตอนนี้ซูหรานกำลังลำบากเพราะที่บ้านมีหนี้สินรัดตัวจากที่เคยมั่งมีตอนนี้ไม่เหลืออะไรแล้ว “แล้วตอนที่ไล่ข้าออกมาละพวกท่านคิดอะไรกัน เพราะตระกูลหานยากจนท่านจึงให้ข้าแต่งงานแทนและห้ามให้ข้ากลับไปเหยียบที่นั่น” ไม่รู้ว่าทำไมหลินเฟิงถึงมีความทรงจำนั้นภาพต่างๆ ฉายชัดเข้ามาจนหลินเฟิงเองก็แปลกใจ “เจ้ามันเนรคุณ” “หุบปากซะ! แล้วไสหัวออกไป” เจี้ยนหยีมองใบหน้าที่ซูบผอมของซูหรานครอบครัวเขารู้ดีว่านางนั้นร้ายกาจแค่ไหนและยังเคยมาทำร้ายท่านพ่อของเขาอีก “เจ้าคนชั้นต่ำ! กล้าไล่ข้าหรือ” “เจ้าด่าตัวเองหรือเปล่าดูสภาพเจ้าตอนนี้สิดูไม่ได้เลยคุณผู้สูงศักดิ์ทำไมถึงกลายมาเป็นสภาพนี้” หลินเฟิงไม่รู้เรื่องราวอะไรมากกว่าเกิดอะไรขึ้นตั้งแต่แต่งงานออกเรือนมาก็ไม่เคยกลับไปพบหน้าท่านพ่อและพี่สาวอีกเลยแ

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 26 อาการแปลกๆ

    ยามเช้าในฤดูวสันต์ตอนนี้ใบไม้ต้นหญ้ากับดูแห้งแล้งเพราะใบไม้ได้ร่วงหล่นลงมากองอยู่เต็มพื้นไปหมดมองไปที่ภูเขาไกลๆ ก็ไม่น่าดูสักเท่าไร อ้วก! “น้องหญิงเป็นอะไร” เจี้ยนหยีได้ยินเสียงเหมือนคนอาเจียนจึงรีบลุกออกจากเตียงและรีบไปหาหลินเฟิงด้วยความห่วงใยไม่รู้ว่านางลุกออกไปจากเตียงตั้งแต่ช่วงเวลาใด “น้องหญิงเกิดอะไรขึ้น!” เจี้ยนหยีเห็นสภาพของนางแล้วจึงรีบเข้ามาดูอาการเพราะใบหน้าที่ซีดไม่มีเลือดฝาดยิ่งทำให้เขาร้อนรนไปหมด “น้องแค่อยากอาเจียน หาเปลือกส้มมาให้น้องหน่อย” ตอนนี้สิ่งที่อยากทำที่สุดคือได้ดมกลิ่นเปลือกส้มช่วงนี้นางมักจะเกลียดกลิ่นอาหารอยู่บ่อยครั้ง “มานั่งรอพี่” เจี้ยนหยีรีบไปหาเปลือกส้มมาให้นางทันทีเพราะกลัวว่านางจะเป็นอะไรไปมากกว่านี้ “หรือว่าที่เราฝันจะเป็นความจริง” หลินเฟิงนึกคิดถึงเรื่องราวที่ฝันเมื่อคืนหรือว่าที่เด็กน้อยทั้งสองมาขออยู่ด้วยนางจะได้ลูกแฝดกัน “น้องหญิงพี่มาแล้ว” “ขอบคุณท่านพี่มากเจ้าค่ะ” หลินเฟิงหยิบเปลือกส้มขึ้นมาดมกลิ่นทำให้อาการอยากอาเจียนเวียนหัวเริ่มดีขึ้นมา และใช้มือลูบไปที่หน้าท้อ

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 25 เจี้ยนหยีคนคลั่งรัก

    “ท่านพี่อย่านะเจ้าคะ” หลินเฟิงร้องออกมาเมื่อเจี้ยนหยีเริ่มจะไม่นอนอยู่เฉยเฉยๆ มือไม้เลื้อยเหมือนกับเถาวัลย์ไม่มีผิด “พี่คิดถึงน้องหญิงมากขอให้พี่ได้ชื่นใจสักนิดเถอะพี่ทรมานเหลือเกิน” เจี้ยนหยีซุกใบหน้าเข้าไปที่ต้นคอของหลินเฟิงและเริ่มซุกไซร้ไปมาจนนางต้องหดคอหนีเพราะเริ่มจั๊กจี้ ข้างนอกอากาศช่างเย็นนักแต่ทำไมตอนนี้ร่างกายเริ่มร้อนร่มขึ้นมา “อื้อออ ท่านพี่ข้าต้องการท่าน” หลินเฟิงครางออกมาราวกับคนกำลังละเมอใบหน้าที่งดงามจ้องมองตากับเจี้ยนหยีอย่างลึกซึ้งมือบางโอบลำคอของเขาไว้แน่นราวกับกลัวว่าเจี้ยนหยีจะหายไป “พี่ก็ต้องการน้องหญิง” เจี้ยนหยีสลัดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมดสิ้นและจูบปากหลินเฟิงอย่างหิวกระหายมือหนาพยายามที่จะดึงกระชากเสื้อของนางออกจากตัว “อื้อออ อืม ดีเหลือเกินท่านพี่” หลินเฟิงครางออกมาเมื่อเจี้ยนหยีใช้มือกอบกุมกับหน้าอกของนางไว้ส่วนลิ้นหนาก็เลียเข้ากับยอดถันอย่างไม่เกรงกลัวเจ้าของ เจี้ยนหยีก้มตัวลงมาเรื่อยๆ จนมาหยุดอยู่ที่ของสงวนของหลินเฟิงเขาใช้มือแหวกจนเห็นกับกลีบกุหลาบงามที่มีน้ำไหลเยิ้มออกมาอย่างน่าลิ้มลอง และก็ทำอย่างท

  • คุณหมอผู้แสนดีทะลุมิติมาเป็นคนไร้ค่า   บทที่ 24 ข้าไม่ใช่นาง

    เจี้ยนหยีลืมตาขึ้นมาในยามเฉิน (07.00-08.59 น.) สายตาทอดมองไปที่หลินเฟิงที่ยังคงหลับใหลอยู่ข้างกายบนร่างกายมีรอยแดงจ้ำโผล่พ้นผ้าห่มออกมา ชายหนุ่มนึกคิดเรื่องที่ผ่านมาทำให้เขามั่นใจว่านางไม่ใช่หลินเฟิงคนเดิมนิสัยใจคอนางเปลี่ยนไปเป็นคนละคน หลินเฟิงผู้นี้ทำให้เจี้ยนหยีตกหลุมรักยิ่งนักแค่เห็นนางยืนคุยกับชายอื่นเขาก็ทนไม่ได้แล้ว “อื้อ!” หลินเฟิงลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยอาการที่เมื่อยล้าเมื่อนึกถึงเรื่องที่ผ่านมาก็พานจะร้องไห้ ไหนเจี้ยนหยีบอกว่ารังเกียจนางทำไมถึงทำเช่นนี้ “ตื่นแล้วเหรอน้องหญิง” หลินเฟิงหันไปมองที่ด้านหลังของนางพบว่าเจี้ยนหยีกำลังส่งยิ้มให้ทำให้หลินเฟิงรู้สึกขนลุกขึ้นมา เจี้ยนหยีเมาจนสมองไม่ปกติไปแล้ว “ภรรยาของข้าเป็นใบ้ไปแล้วหรือ” “เจ้ากินย่าลืมเขย่าขวดหรือไง” “น้องว่าอะไรพี่ฟังไม่เข้าใจ” เจี้ยนหยีทำหน้าสงสัยแต่นางก็ไม่ยอมตอบรับลุกออกจากเตียงจนเจี้ยนหยีถามออกมา “เรื่องเมื่อคืน...” “ท่านกับข้าก็ลืมมันไปเสียเถิด” หลินเฟิงไม่รอให้เจี้ยนหยีพูดนางจึงรีบตัดบทหลินเฟิงไม่ใช่นางเอกที่เสียความบริสุทธิ์แล้วต้องม

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status