ห้องเสื้อLEETHING
เย็นของวันนี้ขณะที่ลี่ถิงกำลังง่วนอยู่กับแบบร่างเสื้อผ้าที่เธอเองต้องรับผิดชอบ หญิงสาวขะมักเขม้นอย่างตั้งใจ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลงานชิ้นนี้จะช่วยกอบกู้ชื่อเสียงของเธอกลับมาได้เช่นกัน ระหว่างนั้นเองชิงชิงเด็กในร้านก็เดินเข้ามาพร้อมประโยครายงานที่ราบเรียบ "คุณลี่ถิงค่ะ มีคนมาขอพบค่ะ" "ใคร" "ไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ แต่ท่าทางดูดีหล่อด้วยค่ะ" ประโยครายงานของพนักงานในร้านทำเอาลี่ถิงย่นหัวคิ้วเข้าหากัน ปกติแล้วเธอไม่เคยมีแขกผู้ชายมาขอพบ หากจะมีก็มีแต่ผู้หญิงที่เป็นลูกค้าของทางร้าน เมื่อวางทุกอย่างที่ถืออยู่ไว้แล้ว ก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแล้วมุ่งหน้าออกไปจากห้องส่วนตัว แต่ชายร่างสูงที่ยืนเด่นเป็นสง่าหันหลังให้เธออยู่นั้น เธอรู้ได้ทันทีว่าเป็นเขา หมอซาง "คุณมาทำอะไรที่นี่" ประโยคแรกของลี่ถิงทำเอาหมอซางที่ยืนหันหลังอยู่ต้องหันหน้ามามอง "นี่เป็นประโยคเด็ดของทางร้านงั้นเหรอ ปกติเขามีแต่ยินดีที่ลูกค้าเข้าร้าน" คำพูดที่แสนเย็นชาบวกกับใบหน้านิ่งสนิท ทำเอาลี่ถิงต้องยกมือมากอดอกตนเองไว้แน่น มองเขาด้วยความสงสัย "พ่อฉันบอกว่าให้มาตัดชุดวันงานหมั้น" "ตัดชุด?" ลี่ถิงถามย้ำอีกครั้ง เธอแปลกใจมากที่หมอซางเป็นคนเอ่ยเรื่องชุดงานหมั้นก่อน ทว่า "ไม่ต้องสงสัยหรอกนะ ที่ฉันยอมมาเพราะคำสั่งเท่านั้น" "อ้อ อย่างนั้นหรือคะ" ยังไม่ทันได้สนทนาต่อเสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้น ทำให้ลี่ถิงหันไปมองที่ห้องส่วนตัว ก่อนที่เธอจะหมุนตัวเพื่อไปรับโทรศัพท์ปลายสาย โทรศัพท์ "ค่ะพ่อ" (หมอซางคงไปถึงห้องเสื้อแกแล้ว วัดขนาดตัวให้พี่ส่วนแกก็จัดการชุดตัวเองให้เรียบร้อย) "ทำไมดูรีบขนาดนั้นละคะ" (อีกสองอาทิตย์ ฉันจะจัดงานหมั้นให้แกกับหมอซาง) "อะไรนะคะ" ตื๊ดดดด ยังไม่ทันได้ตอบจางเอินก็ตัดสายลูกสาว ทำเอาจางลี่ถิงต้องลดมือถือลงมามองหน้าจอด้วยความฉงน หลังจากรับสายบิดาแล้วก็เดินกลับออกมาหาหมอซางที่ยืนรออยู่ ทว่าตอนนี้ใบหน้าของลี่ถิงบูดบึ้งเล็กน้อย เธอมองหน้าหมอซางแล้วพูดขึ้น "เชิญทางนี้ ฉันจะวัดตัวให้นาย" "เดี๋ยว เธออ่อนกว่าฉันจะมาใช้น้ำเสียงคำพูดตีตนแบบนี้ไม่ได้" "หมอซาง! " เขาเองก็รู้สึกว่าเมื่อก่อนคำพูดดูให้เกียรติลี่ถิงมาก และตอนนี้คงใช้คำพูดว่าเธอกับฉันน่าจะเหมาะกว่า ส่วนลี่ถิงสมควรเรียกแทนตัวเขามาหมอไม่ใช่นาย "ต่อไปก็เรียกฉันว่าหมอซางเหมือนคนอื่น ไม่ใช่นาย เพราะฉันกับเธอมันคนละรุ่น" พูดจบก็เดินสวนลี่ถิงไปทางห้องวัดตัว ปล่อยให้ลี่ถิงยืนจ้องมองตามไล่กว้างของเขาที่เดินลับตาไป หญิงสาวในชุดเดรสสีครีมเปิดไหล่เดินตามคุณหมอหนุ่มมาที่ห้องวัดตัว แต่ลี่ถิงไม่ใช่คนวัดขนาดตัวให้เขาหรอกนะ เธอสั่งเด็กในร้านถือสายวัดมาให้แล้วก็สั่งให้จัดการกับสัดส่วนของหมอ ทว่า "คุณลี่ถิงวัดเองได้ไหมคะ ปกติคุณก็เป็นคนวัดหนูกลัวว่ามันจะผิดพลาด" ลี่ถิงทำหน้าเจื่อนเพราะหมอดุร้ายหันมามองหน้าเธอ จริงอยู่ว่าเธอเป็นคนวัดมาตลอดแต่ที่ไม่ทำเพราะคนนี้เป็นคู่หมั้นที่เธอไม่อยากหมั้นต่างหาก "ก็ได้" เธอยอมดุร้ายอมมือรับสายวัด แล้วยื่นสมุดกับปากกาให้เด็กในร้านเป็นคนจด ระหว่างที่วัดรอบแขนทุกอย่างก็ปกติ แต่ช่วงที่วัดรอบอกนี่สิ ตึกตึกตึก เจ้ากรรมหัวใจไม่รักดีดันเต้นแรงจนแทบเสียอาการ เธอตัวเล็กกว่าหมอซางมากแค่ระดับหัวก็เท่าหน้าอกเขา ยิ่งไปกว่านั้นภายใต้เสื้อคอเต่ารัดรูปสีเข้มมันดูเหมือนว่าหน้าอกหมอจะกว้างมากบ่งบอกถึงสุขภาพที่แข็งแรงแถมมันยังรู้สึกแน่นไปด้วยมัดกล้าม "ทำไมหัวใจเธอเต้นแรงขนาดนั้น" ลี่ถิงชะงักแล้วดึงสายวัดออกทันที เธอถอยออกห่างจากตัวหมอซาง "หมอพูดเรื่องอะไร หัวใจฉันมันก็เต้นปกตินี่" "นั่นนะสินะ" ลี่ถิงยืนเม้มปากแน่นกลอกตาไปมองทางอื่น จนหมอซางเป็นคนพูดต่อ "วันนี้จะวัดเสร็จไหม ฉันมีธุระที่ต้องไป" "เสร็จสิ ก็แค่วัดตัวไม่มีอะไรมาก" "งั้นก็มาวัดเสียสิ เธอมัวยืนทำอะไร" ที่ต้องยืนเพราะมัวเก็บอาการอยู่ต่างหาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรกันอยู่ ๆ มือก็เย็นเฉียบขึ้นมาเสียดื้อ ๆ จริงอยู่ว่าหมอซางเองก็หน้าตาดี แต่เขาไม่ใช่สเปกเธอลี่ถิงเธอพูดมาตลอด เวลาผ่านไปสักพัก ลี่ถิงเธอก็ทำหน้าที่ของเธอจนเสร็จ วัดสัดส่วนเสื้อที่ต้องตัดพร้อมทั้งกางเกงไปด้วยเช่นกัน "หมอรู้หรือเปล่าว่างานหมั้นของเราจะเกิดขึ้นอีกสองอาทิตย์" "รู้" เป็นคำตอบที่แสนสั้น จากนั้นหมอก็เดินไปหยิบเสื้อโคชตัวใหญ่มาสวมทับเสื้อคอเต่าอีกครั้ง "หมอรู้ แต่ทำไมฉันไม่รู้" "ฉันก็พึ่งรู้วันนี้ คงไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม ฉันจะได้กลับ" "อ้อ ไม่มีแล้วเพราะหมอวัดตัวไปแล้ว" หมอซางหน้านิ่งได้ยินแบบนั้นก็รีบหันหลังออกจากร้าน ท่าทางของหมอไม่ได้ยินดีด้วยสักนิดแถมดูไม่สนใจเรื่องงานหมั้นด้วยซ้ำ "คุณลี่ถิง ผู้ชายคนนี้เป็นคู่หมั้นคุณหรือคะ เขาหล่อมากเลย" ลี่ถิงถอนหายใจรูปลักษณ์เธออาจจะดุร้ายเหมือนนางมารในละคร แต่มุมอ่อนไหวเธอก็ย่อมมี "คู่หมั้นงั้นเหรอ ดูท่าเขาไม่สนใจด้วยซ้ำมั้งจะหมั้นกันอยู่แล้วแต่ดูเขาตอนนี้สิ ไม่เห็นฉันอยู่ในสายตาสักนิด" เสียงถอนหายใจก่อนที่เธอจะยืนมือรับสัดส่วนที่พึ่งบอกเด็กในร้านจด ลี่ถิง กลับมาที่ห้องทำงานตัวเอง อีกสองอาทิตย์เธอจะหมั้นกับเขา ชุดที่ต้องใส่วันนั้นก็ต้องตัดด้วย อีกทั้งชุดราตรีแฟชั่นโชว์ก็ใกล้มาถึงคงเรียกว่าเป็นงานชนิดด่วนพิเศษก็ว่าได้ งานนี้ลี่ถิงคงปักหลักนอนเฝ้าร้านอีกนานริมฝีปากหว่านพรมไปทุกสัดส่วน อีกมือก็ลูบไล้ไปตามผิวเนื้อ จนลิ้นอุ่นเลียมาถึงยอดเชอรี่สีหวานก่อนจะดูดดึงหนัก ๆ "อ๊ะ" ร่างกายของเธอสะดุ้งตามเล็กน้อยยอดดอกชูชันขึ้นมาราวกับรอคอยการปลุกเร้า แค่เห็นอย่างนั้นก็เพิ่มอารมณ์ชายในร่างได้เป็นอย่างดีมือหนาเริ่มไล่ระดับต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนมาถึงเนินอวบอิ่ม เพียงแค่เขาสัมผัส เธอก็สะดุ้งตัวตามแล้ว"ฮึก อ๊า หมอซาง" เธอรู้สึกอายแต่วินาทีนี้ไม่อาจจะข่มใจได้ คงปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ใจปรารถนาแค่สัมผัสจุดอ่อนไหวก็รับรู้ได้ว่า ความต้องการของเธอมันถึงขีดสุด น้ำสีเหลวไหลออกมาจนชุ่มราวกับน้ำหล่อลื่นชั้นดี รู้ทั้งรู้ว่าเธอต้องการมันมากแค่ไหนแต่เขาก็เหมือนจะแกล้งเธออยู่ร่ำไป หมอซางไม่ได้สอดอวัยวะที่พองโตเต็มที่เข้าไปสัมผัส แต่กลับใช้เพียงนิ้วเรียวยาวสอดเข้าไปสำรวจ"อ๊ะ" ภายในอุ่นอย่างบอกไม่ถูกแถมมันยังหดเกร็งบีบรัดนิ้วมือเขาแน่น ทำเอาความรู้สึกชายตอนนี้มันวิ่งพล่าน จนต้องกัดฟันแน่น"อื้อ อืม ตรงนั้น มัน " เธออยากบอกว่าเสียวซ่านใจแทบขาดเพียงแค่นิ้วเรียวของเขาแทรกลึกลงไปพร้อมทั้งขยับเข้าออกเบิกทางให้รับท่อนเอ็นที่แข็งขืนตอนนี้เสียงเปียกลื่นของเหลวจากเรีย
หมอซางตามฉีเกอมาทางห้องน้ำ แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าคือเขากำลังพยุงร่างของจางลี่ถิงให้ลุกขึ้นเหมือนเตรียมท่าจะออกไปจากตรงนี้เห็นท่าว่าจะไม่ดี จริงอยู่ว่าหมอไม่ชอบเธอเท่าไรนักแต่ก็ไม่อาจจะทนเห็นเธอตกอยู่ในอันตรายได้ "ขอโทษนะครับ" ฉีเกอหันมามองตามเสียงเพียงแค่เห็นหมอซางใบหน้าเขาก็ซีดเผือดขึ้นทันที"หมอซางคุณก็มาที่นี่ด้วยเหรอ""ผมมารับเธอกลับบ้าน" ลี่ถิงในตอนนี้เธอดูหื่นหอบเริ่มเม้มริมฝีปากแน่น หมอซางเห็นอย่างนั้นก็ถอนหายใจจากนั้นก็รีบไปดึงตัวเธอมาซบที่อกตัวเอง"เอ่อ งั้นผมขอตัวกลับก่อนแล้วกัน" ฉีเกอคงรู้ชะตาตัวเอง หากฝืนอยู่นานมีหวังถูกจับได้ว่าตัวเองเป็นคนวางยาจางลี่ถิงหมอซางพาจางลี่ถิงมาที่รถระหว่างที่พยุงร่างของเธอแทรกเข้าไปในนั้น ลี่ถิงก็ดึงหมอมาจูบอย่างชนิดที่ว่าห้ามตัวเองไม่อยู่ฮึก"ทำบ้าอะไรของเธอ" หมอซางตั้งสติได้รีบผละใบหน้าออกมายืนตัวตรง ในขณะที่ร่างของลี่ถิงอ่อนปวกเปียกดวงตาฉ่ำปรืออยู่แบบนั้น"หมอช่วยฉันด้วย" เธอรู้ว่าไม่อาจควบคุมตัวเองได้ร่างกายมันร้อนผ่าวไปหมด ส่วนหมอซางก็รู้ว่าเธอโดนวางยาจริง ๆ เมื่อยืนมองอยู่สักพักก็รีบขึ้นไปที่ฝั่งคนขับเคลื่อนรถออกจากที่ วินาทีที่คิดอะไร
"หมอซางนั่นคู่หมั้นนายหรือเปล่า" หนึ่งในเพื่อนหมอทักขึ้นเมื่อเห็นร่างอรชรในชุดเกาะอกสีแดงกำลังนั่งดื่มกับเพื่อนของเธอ ทำเอาหมอซางต้องหันมามองจากนั้นก็หลบสายตาไป เหมือนกับว่าหมอไม่ได้เห็นความสำคัญเธออยู่แล้ว"นายจะไม่เข้าไปทักเธอหน่อยเหรอ""คงไม่จำเป็น อีกอย่างเธอก็มากับเพื่อน" ช่างเป็นคู่หมั้นที่ไม่เหมือนคู่อื่น ๆ สักนิดสิ่งที่หมอแสดงออกตอนนี้ทำให้เพื่อนร่วมงานต้องหันมามองหน้ากันด้วยความสงสัย ส่วนหมอหลันเธอไม่รู้หรอกว่าสาเหตุที่แท้จริงที่หมอซางยอมหมั้นเพราะอะไรกันแน่อย่าว่าแต่กลุ่มของหมอซางที่เห็นจางลี่ถิง หนิงเอ๋อก็ตาดีไม่ใช่หน่อยขนาดไฟสลัววิ๊บวั๊บก็ยังอุตส่าห์เห็นหมอซางหน้าหล่อนั่งอยู่"ถิงถิง นั่นคู่หมั้นเธอไม่ใช่หรือไง" หนิงเอ๋อโน้มตัวลงมากระซิบที่ข้างหูเพื่อน ทำให้จางลี่ถิงต้องหันไปมอง เมื่อเห็นว่าเป็นเขาจริง ๆ เธอก็หันกลับมาพร้อมกระซิบตอบเพื่อน"ช่างเขาเถอะ เขาเองก็คงไม่สนใจฉันหรอกเราต่างคนต่างมาอย่าไปสนใจเขาเลย" เมื่อพูดแบบนั้นก็ยกค็อกเทลขึ้นมาจิบ โดยไม่สนใจหมอซางที่นั่งอยู่อีกฟากฝั่งเวลาผ่านไปสักพักจางลี่ถิงดูท่าจะได้ที่แอลกอฮอล์ในร่างเริ่มทำงาน ดวงตาเริ่มพร่ามัวเล็กน้อยจนเธ
ไม่เสียแรงที่หมอซางได้พยายามทำงานวิจัยเกี่ยวกับอาการผู้ป่วยที่วินิจฉัยโรคไม่ได้จนได้รับคัดเลือกไปฝึกอบรมยังโรงพยาบาลต่างอำเภอต้องเรียกว่าแหล่งชนบทเป็นระยะเวลาหนึ่งอาทิตย์ แต่การไปครั้งนี้หมอไม่ได้ไปคนเดียวทางโรงพยาบาลยังส่งหมอมู่หลันไปกับหมอซางด้วย ทำให้เรื่องนี้ถึงหูลี่ถิงในฐานะคู่หมั้นในขณะที่ร่างอรชรกำลังยืนตรวจความเรียบร้อยของหุ่นภายในร้าน ที่พึ่งได้เสื้อผ้าตัวใหม่มาโชว์ เสียงฝีเท้าของใครสักคนก็เดินเข้ามา พร้อมเสียงที่โพล่งขึ้นชัดเจน"ถิงถิง""แม่ มาได้ยังไงคะ" เธอหันมาแล้วก็รีบถามด้วยความสงสัย ปกติแม่ของเธอจะไม่ค่อยมาหาที่ร้าน แต่วันนี้แม่ดันมาแสดงว่าต้องมีเรื่องแน่นอน"ก็พ่อของลูกนะสิ ได้ข่าวมาว่าหมอซางจะไปอบรมที่ชนบท อีกอย่างต้องไปกับหมอผู้หญิงด้วย พ่อคงไม่ไว้ใจ""อย่าบอกนะคะว่า ที่แม่มาเพราะอยากให้หนูไปกับเขา หนูไม่ว่างหรอกค่ะ อีกอย่างอาทิตย์นี้เขาจะมีงานแฟชั่นโชว์หนูต้องไปดูความเรียบร้อยของเสื้อผ้า""แต่""แม่คะ หมอซางเขาไม่สนใจหนูด้วยซ้ำหมั้นกันมาก็หลายวัน ตั้งแต่วันหมั้นเขาไม่เคยโผล่หัวมาเลย อีกอย่างนะหนูเองก็ไม่ได้ชอบอะไรหมอซางนั่น ที่ต้องทำเพราะหนูรู้สึกผิด แม่หากหนูกอบก
#งานหมั้นไม่คิดเลยว่าเวลาจะเดินทางมาเร็วขนาดนี้ เพียงสองอาทิตย์ที่ลี่ถิงได้ทำงานที่ตัวเองรักเกือบเสร็จและยังทำการตัดเสื้อผ้าตัวเองและเสื้อผ้าหมอซาง เพื่อที่ใช้ในพิธีหมั้นจนเสร็จบรรยากาศในงานเต็มไปด้วยผู้คนมากมาย ระดับสองตระกูลดังเกี่ยวดองทั้งที มีหรือจะไม่ใหญ่โตจางลี่ถิงสวมชุดกี่เผ่าสีแดงม้วนผมปักเครื่องประดับด้วยมุข แม้จะดูเรียบแต่เธอก็ยังสวยสง่าดั่งนางพญาก็ว่าได้ ปากที่แดงเข้ากับชุดบวกกับผิวที่ขาวดุจไข่มุกมันยิ่งส่งเสริมกันไม่น้อย ส่วนหมอซางเขาเองก็อยู่ในชุดกึ่งสมัยนิยมสวมเสื้อสูทสีอ่อนดูหล่อสง่าเช่นกันทั้งคู่ยกน้ำชาตามประเพณีมีสวมแหวนเพชรเม็ดงาม แต่เชื่อเถอะว่าคู่บ่าวสาวคู่นี้ไม่มีแม้รอยยิ้มใด ๆ หากจะบอกว่าเขาทั้งสองไม่เคยสร้างความหวานใด ๆ เหมือนคู่อื่นก็น่าจะถูก มีแต่รอเวลาที่จะหมั้นให้เสร็จ ๆ ไปก็เท่านั้นเอง"นี่ยายแจ๋น งานหมั้นพี่ชายทั้งทีทำไมไม่ยิ้มหน่อยละ" คนที่ถือแก้วไวน์เดินเข้ามาคุยกับซูซ่านก็คือตงฉิน แน่นอนว่าเขาได้รับเชิญในนามตระกูลกู้ ส่วนตงหยางคงไม่ต้องบอกแม้เชิญเขาก็ไม่มา อีกอย่างตระกูลซูก็รู้ดีว่าระหว่างตระกูลจางกับตงหยางมีปัญหากันอยู่"จะให้ฉันยิ้มได้ยังไง คนที่ย
ห้องเสื้อLEETHINGเย็นของวันนี้ขณะที่ลี่ถิงกำลังง่วนอยู่กับแบบร่างเสื้อผ้าที่เธอเองต้องรับผิดชอบ หญิงสาวขะมักเขม้นอย่างตั้งใจ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลงานชิ้นนี้จะช่วยกอบกู้ชื่อเสียงของเธอกลับมาได้เช่นกันระหว่างนั้นเองชิงชิงเด็กในร้านก็เดินเข้ามาพร้อมประโยครายงานที่ราบเรียบ"คุณลี่ถิงค่ะ มีคนมาขอพบค่ะ""ใคร""ไม่เคยเห็นมาก่อนค่ะ แต่ท่าทางดูดีหล่อด้วยค่ะ" ประโยครายงานของพนักงานในร้านทำเอาลี่ถิงย่นหัวคิ้วเข้าหากัน ปกติแล้วเธอไม่เคยมีแขกผู้ชายมาขอพบ หากจะมีก็มีแต่ผู้หญิงที่เป็นลูกค้าของทางร้านเมื่อวางทุกอย่างที่ถืออยู่ไว้แล้ว ก็ลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็วแล้วมุ่งหน้าออกไปจากห้องส่วนตัว แต่ชายร่างสูงที่ยืนเด่นเป็นสง่าหันหลังให้เธออยู่นั้น เธอรู้ได้ทันทีว่าเป็นเขา หมอซาง"คุณมาทำอะไรที่นี่" ประโยคแรกของลี่ถิงทำเอาหมอซางที่ยืนหันหลังอยู่ต้องหันหน้ามามอง"นี่เป็นประโยคเด็ดของทางร้านงั้นเหรอ ปกติเขามีแต่ยินดีที่ลูกค้าเข้าร้าน" คำพูดที่แสนเย็นชาบวกกับใบหน้านิ่งสนิท ทำเอาลี่ถิงต้องยกมือมากอดอกตนเองไว้แน่น มองเขาด้วยความสงสัย"พ่อฉันบอกว่าให้มาตัดชุดวันงานหมั้น""ตัดชุด?" ลี่ถิงถามย้ำอีกครั้ง เธอแปลกใ